回 " จ้ า ว ธ า ร า " 回 » » » » » » » » [ Sample ! ตอนพิเศษ! P.101 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 回 " จ้ า ว ธ า ร า " 回 » » » » » » » » [ Sample ! ตอนพิเศษ! P.101 ]  (อ่าน 901922 ครั้ง)

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
ที่พีวันโทรมาเกี่ยวกับแก้วไหม

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ให้สุดสุดไปเลย จะได้มีหวานมาบ้าง  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
อุแม่เจ้า  ลุ้นได้ทุกตอน  สนุกมากมากค่า

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
หญิงแก้วหายไปไหนคะ แล้วคุณพี่วันมีเอี่ยวด้วยไหมเนี่ย :ling3:

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
เรื่องราวยิ่งซับซ้อนไปอีก :katai1:

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
เกิดอะไรขึ้นกับแก้วอ่ะ

พี่วันโทรมาหาไกรแล้ว แต่สถานการณ์แบบนี้ไกรก็คงทุกผสมสุขไปด้วยกันสินะ

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
พี่วันทำไรอ่าาาาา  :ling1:

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
แก้วไปหาไอ้พี่วันหรือเปล่า
นี่คิดๆดูแล้วไอ้พี่วันมันไม่ค่อยได้สนใจน้องไกรเลยนะเนี่ย ดูเฉยชาจริง  :z2:

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
รักกันต้องฟันฝ่า จะจบแล้วหรือนี่...... พึ่งผ่านยอดเข้า เอลเวอเรส บุกป่าอเมซอน ยังไม่ได้สัมผัส ทุ่งหญ้าแอฟริกาเลยยน้าาาาาา

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ย๊ากกกกกกก...ว๊ากกกกกกกกก.......................
อยากจะบ้า.......บีบหัวใจอิพี่โป๊ยที่ซู๊ดดดดดดดดด......

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ poppyhigh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กรีดร้องเสียงดัง....อัพแล้วๆๆๆ แถมค้างคาสุดใจ มาต่อเร็วนะคะ คิดถึงพี่วันจริงๆๆเลยนะเนี่ย  :L2:

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
กร๊าสสสสสสส :m31:

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
โค้งสุดท้ายแล้วววว  ลุ้นๆๆ  เป็นกำลังใจให้คุณโอค่าาาา

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
แก้วหายไปไหนเนี่ย

ออฟไลน์ NaOYaII

  • มันดีจริง! คนรักกัน(งืมๆ)
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตื่นเต้น! ตื่นเต้น! ตื่นเต้น!

 : 222222: : 222222: : 222222:

รอ! รอ! รอ! (อยู่น่ะ)

 o17 o17 o17

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
แก้ว!!!! หายไปไหน? แล้วไมพี่วันโทรมาได้เวลางี้?
ทำไมๆๆๆๆ? เกิดไรขึ้นนะ โอ๊ยค้าง ค้างมากกกก
มาต่ออีกไวๆนะ นะๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ zilmp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao4:เพื่อนแนะให้มาอ่าน
หนุกจริง
ชอบมาลา อยากให้มีคู่  :z2:

ออฟไลน์ matame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
เคืองพี่วันไม่แคร์ไกรเลยนะ
สงสารไกร ไอ้เข้ใจร้ายทิ้งแม่งเลย
แต่พีวันอาจมีเหตุผลก็ได้ รอดู

ออฟไลน์ LittleLoad

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รีบมาต่อนะคะ รออยู่น้า :mew1:

ออฟไลน์ whitedudoom.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากอ่านต่อแล้ว...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bew_yunjae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ยังอ่านไม่จบค่ะ แต่ขอเม้นท์ก่อนจะกรี๊ด
สารภาพว่าอาจอ่านข้ามตอนบ้าง รู้เรื่องคร่าวยังไม่ลงรายละเอียดมากนัก
แต่สัญญาว่าจะไปอ่านใหม่ให้ครบทุกตอนค่ะ
อ่านตอนล่าสุดแล้วมันจี๊ดดดกับประโยคนี้

"เจ็บบ่อยๆค่อยๆชิน..”

   “..อยากจะทิ้งหรือจะกลับมา…ก็คง..ต้องแล้วแต่เธอ…”

พี่วันอ๊ะ จะงอนพี่วันแทนน้องไกรล่ะ

จริงๆเราสงสัยวรรณาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ เพราะดูนิ่งไป เงียบไป กลัวน่ะค่ะ
แต่อาพันวังตอนเด็กๆน่ารักมุ้งมิ้งน่ะ เราเข้าใจความเจ็บปวดที่อาได้รับน่ะ เหมือนสะสมจนเจ็บ จนแค้น แต่จะโทษไปทุกอย่างก็น่ะ
ส่วนตัวเราชอบมาลาจริงๆค่ะ น่าร๊ากกกกกกกกกกก อยากให้มาลามีคู่ตุนาหงัน
โอ๊ยคุณโอ ลุ้นมากหง่ะ ยิ่งกว่ารักร้ายอีกตนฉากตอนต่อสู้ระหว่างจระเข้

อัพๆต่อน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้น้าา

ปล. อย่าลืมอัพ นาย มั่งน้าาา

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog



ฝึกวิชาคาถาจนแกร่งกล้า
ให้ได้มาซึ่งพรสมประสงค์
เพียรใฝ่สุมขุมพลังอันมั่นคง



หลักอยู่ยงลึกลงไป..ใต้บาดาล










-๓๔-










   มันคงเป็นการขับรถที่อันตรายที่สุดเท่าที่ไอ้โป๊ยเคยขับแล้วครับ
   คือมันไม่ได้ซิ่งรถเร็วอะไรหรอกเพราะระยะทางไม่ได้ไกลขนาดนั้น  เพียงแค่การฝ่าไฟแดงการสี่แยก  เบรคกระชั้นจนหน้าขมำ…และการกระทำอีกหลายๆอย่างที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ามันกำลังร้อนรนและสับสนอยู่

   “พี่วันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้วะ?”
   “กู…ก็ไม่แน่ใจ”
   “แล้วเค้าจะช่วยเราได้ตรงไหน?  กับไอ้เรื่องที่แก้วหายไปเนี่ย?”
   “จริงๆแล้ว…มันเป็นแค่ลางสังหรณ์ของกูเท่านั้นแหละ”
   มันเลิกคิ้ว  หันมามองผมวูบนึงแล้วหันไปขับรถส่ายๆต่อ “ลางสังหรณ์เชรี่ยอะไร?”
   ผมเดาะลิ้น “เรื่องมันลึกซึ้ง…”
   “ไม่ตลกไอ้สัส  มึงต้องบอกกูมา..เดี๋ยวนี้!”
   “ไอ้ควาย  มึงก็ใจเย็นๆก่อนได้มั้ย  มึงขับรถซะกูแทบจะหัวใจวายตาย..ถึงที่โน่นแล้วกูจะเล่าให้มึงฟังเอง”

   “ที่ไหน?  อุทยานเมืองเก่าที่ไปกันเมื่อวานอ่ะนะ?” มันร้อง  ท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก “กูไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่ะ  สรุปว่าอะไรยังไง?  ทำไมพี่วันของมึงถึงโผล่มาอยู่ที่พิจิตรได้วะ?  หรือจะเกี่ยวอะไรกับไอ้ที่มึงไปเดินเล่นเมื่อวาน”


   ผมไม่ได้ตอบคำถามนั้น  และปล่อยให้มันเลี้ยวรถผ่านกำแพงอิฐมอญตำแหน่งเดียวกับเมื่อวาน




   ไอ้โป๊ยไม่ได้โง่  ที่มันปล่อยข้อสันนิษฐานทั้งหมดทั้งมวลออกมาแบบนั้นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้…ในเมื่อผมทำตัวน่าสงสัยเอง  และที่ผมเงียบไม่ตอบอะไรแบบนี้เพราะผมกำลังเรียบเรียงอยู่  บางทีมันคงถึงจุดที่ต้องเล่าอะไรให้มันฟังสักอย่าง…ถึงแม้ว่าเรื่องที่พูดไปจะไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรต่ออีกฝ่ายสักเท่าไหร่ก็ตาม


   เมื่อยี่สิบนาทีก่อนที่ตอนที่รับสายจากพี่วัน  ผมรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้…แต่ก็รีบเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง  ทั้งเรื่องแก้ว  เรื่องอะไรอีกหลายๆเรื่องด้วย  เผลอๆอาจจะมากกว่าตอนที่ผมคุยกับเขาเป็นชั่วโมงๆเมื่อวานเสียอีก

   อีกคนเงียบไปครู่หนึ่ง  แล้วจึงบอกให้ผมมาหาเขาที่เดิมโดยไม่บอกเหตุผลใดๆทั้งสิ้น
   เรื่องมันฟังดูโง่มากครับ  แต่ผมกับโป๊ยก็บึ่งรถออกมาทันทีเพราะไม่มีเวลาให้ไตร่ตรองอะไรขนาดนั้น  แตงโมรออยู่ที่ที่พักทั้งที่ยังสับสนไม่แพ้กัน  แต่ด้วยถ้าแก้วกลับมาก่อนโดยไม่มีอะไรผิดปกติจะได้ติดต่อกันได้สะดวก




   ผมเคยยืนอยู่ในจุดเดียวกับโป๊ยครับ

   ..เวลาที่เราหงุดหงิด..เวลาที่เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย..


   มันเป็นความหงุดหงิดบนความเศร้าที่แม้แต่จะร้องไห้ก็ยังทำไม่ได้…แบบนั้นแหละ





   ซูซูกิสวิฟท์สีขาวของแตงโมวิ่งเทียบจอดที่ตำแหน่งเดียวกับที่เราจอดเมื่อวานเป๊ะๆ  เด็กชายตัวเล็กสองคนก็วิ่งเล่นอยู่ที่ลานหน้าศาลหลักเมืองเหมือนเป็นกิจวัตรที่ทำทุกวัน  คุณป้าคนเดิมก็กำลังจัดเตรียมดอกไม้ธูปเทียนเพราะมันยังเป็นช่วงเช้าอยู่
   ผมลงจากรถ  และเดินนำโป๊ยข้ามถนนลาดยางไปที่ทางเดินอิฐสีแดงเล็กๆที่ทอดยาวไปตามทาง  ตามพื้นยังมีใบไม้รอยอยู่เต็มเหมือนเช่นที่เป็นเมื่อวาน  คงไม่มีใครมากวาด..และเท่าที่ดู  คงไม่มีใครมาจัดการเรื่องอะไรแถวนี้เสียนานแล้ว
   จังหวะเท้าของผมกับมันแทบจะเร็วเท่าๆกัน  เสียงรองเท้าสองคู่ที่กระทบไล่เลี่ยกันนั้นทำให้ผมรู้สึกหวาดกลัวน้อยกว่าเมื่อวาน

   จวบจนถึงโบราณสถานวัดมหาธาตุ…ถึงได้หยุดเดิน




   เพราะไอ้พี่วันรออยู่ตรงนั้น



   เขาเลิกคิ้วเมื่อเห็นโป๊ย  แต่ไม่ได้ว่าอะไร  แล้วเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาผมเอง
   “ไม่เป็นไรนะ?”

   มันเป็นคำถามที่ทำให้ผมอยากจะถลาเข้าไปกอดเขาเหลือเกินครับ  แต่พลังงานทั้งหมดก็ใช้ไปกับการฝืนตัวไว้แบบนั้น  เพราะไอ้โป๊ยมันยืนอยู่ข้างหลัง  แม้ผมจะรู้ว่ามันคงไม่ได้อยู่ในอารมณ์จะแซวอะไรมากมายเท่าไหร่
   “อื้อ” ผมพยักหน้า  ตั้งใจจะตอบเขาเสียดิบดี “ไม่เป็น….”
   “เกิดเรื่องอะไรกันแน่?  พี่วันรู้เหรอครับว่าแก้วอยู่ที่ไหน?”

   แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือโป๊ยมันโพล่งขึ้นมาก่อนซะงั้น  ด้วยท่าทางร้อนรนไม่ต่างจากเดิม  และไม่มีท่าทีว่าจะยอมสงบง่ายๆด้วยจนผมต้องยกมือแตะแขนมันไว้ก่อน  แต่ไม่รู้จะห้ามด้วยวิธีไหนดี
   เพราะผมเองก็อยากรู้คำตอบของคำถามนั้นเหมือนกัน
   พอหันกลับไปมองพี่วัน  เขาก็ยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มที่เหมือนอยากจะบอกให้พวกผมใจเย็นเป็นนัยๆ

   “พี่ไม่รู้หรอกครับ” อีกฝ่ายตอบ “แต่พี่มีวิธี”

   “วิธีอะไร?”
   “มันเป็นวิธีที่…อาจจะต้องใช้อะไรบางอย่างนิดหน่อย” เขาโบกมือให้ผม  แล้วพยักเพยิดไปทางโป๊ย “แต่เรื่องนั้นอาจต้องการคำอธิบายก่อน”
   มันทำให้ผมเลิกคิ้ว “ด-ได้เหรอ?”
   พี่วันยักไหล่ “อุตส่าห์พามาถึงนี่…คงไม่ได้อยากจะปิดเพื่อนแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ?”
   “แล้วจะมีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
   “ยังจะมีปัญหาอะไรที่มากไปกว่าตอนนี้อีกล่ะ?”


   พี่วันยิ้มให้ผม  และถึงแม้ว่าเขาจะยิ้มให้ผมจนเป็นปกติอยู่แล้วก็เถอะ  แต่ก็นึกแปลกใจมิใช่น้อยกับการแสดงท่าทีนั้น  เพราะปัญหาที่ว่าคือเรื่องของแก้ว?  นั่นหมายถึงการที่แก้วหายตัวไปจะเกี่ยวข้องอะไรกับจระเข้อย่างนั้นหรือ?

   ด้วยเพราะเขาเป็นจระเข้…มันสมควรแล้วรึเปล่าที่เขาจะออกตัวมาช่วยเหลือมนุษย์ด้วยตัวเองแบบนี้



   ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็ยังเดินนำพวกเราไปตามทางเดินอิฐ  ที่ผมแอบตกใจไม่น้อยว่าเขากำลังพาพวกเราไปยัง ‘ถ้ำจระเข้’ แห่งนั้น  ทั้งที่ผมคิดว่ามันเป็นความลับ…แต่ช่างเถอะ  ในเมื่อไอ้พี่วันตัดสินใจแล้วนั่นก็คงหมายถึงเขาคิดมาดีแล้วเช่นกัน

   ผม..ที่ตอนนั้นเองก็ยังไม่เข้าใจอะไรมากมาย..จึงได้หันมาหาโป๊ยตามหน้าที่

   “กูพร้อมจะอธิบายแล้วนะ”

    ..แน่ะ  คำพูดลองเชิงอีกกู..
   คนฟังทำท่าจะโบกผมสักตั้งกับคำพูดเหมือนผู้ที่อยู่เหนือกว่าแบบนั้น  แล้วว่า “เรื่อง?”
   “เรื่องพี่วัน”
   มันเดาะลิ้น “ว่ามา”


   “คือความจริงแล้ว…” ผมอึกอักนิดหน่อย  แล้วกระซิบบอกมัน “พี่วัน…ไม่ใช่มนุษย์”




   มันเงียบไปทันที

   ดวงตาของโป๊ยมีประกายความสับสนแบบทบทวี  ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หยุดเดินหรือออกอาการแอคติ้งเว่อร์ว่ามันคือเหี้ยอะไร  เขาดูไม่ได้ตกใจเหมือนตอนที่ผมรู้ครั้งแรก  หรือว่าผมบอกเขาไปชัดเจนไม่พอวะ?

   “เฮ้ย” เลยขอสะกิดมันสักหน่อย “ได้ยินที่กูพูดป่าววะ?”
   คนฟังพยักหน้า “ได้ยิน”
   “ว่า?”

   “…จริงๆกูก็คลางแคลงใจมาสักพักแล้ว  ว่าพี่วันเขาอาจจะ...เอ่อ…แตกต่างจากพวกเรา” โป๊ยพึมพำ  ดวงตายังจับจ้องอยู่ที่คนที่เดินนำตรงหน้า “หมายถึงพวกบรรยากาศที่แตกต่างออกไป…แต่ไม่คิดว่าจะจริง”

   “อ้อ” ผมพยักหน้า “มึงจะบอกว่าเป็นโป๊ยญานทิพย์ใช่มั้ย?”
   “แล้วผู้ชายหน้าตาดีที่มีความลับเยอะนี่เป็นสเปคมึงเหรอ?”
   “ไอ้เวร  ไม่วายยังจะแขวะ”
   “แล้วถ้าไม่ใช่มนุษย์แล้วพี่วันเค้าเป็นอะไร?”


   “จระเข้”




   ..มาอีกแล้วครับกับบรรยากาศเดธแอร์

   ผมกลืนน้ำลาย  คิดว่าไอ้ประโยคเมื่อครู่น่าจะชัดเจนและรวบรัดมากพอ  เหลือบมองคนข้างตัวอีกรอบ..แต่ก็ไม่สังเกตว่ามันจะเร่งฝีเท้าขึ้นหรือผ่อนความเร็วลงสักนิด  คล้ายกับมันกำลังเพ่งสมาธิในการย่ำมากกว่าสิ่งอื่นใด

   “อ้อ” ในที่สุด..มันก็รับ “อย่างงี้นี่เอง”

   ...แต่คำรับมันจะสั้นไปหน่อยมั้ยวะ!? “มึงไม่แสดงอาการตกใจอะไรมากกว่านี้หน่อยเรอะ!?”
   “กูก็ตกใจอยู่นี่ไง”
   “ตรงไหนมิทราบ…”
   “ก็บอกแล้วไงว่ากู ‘คลางแคลงใจ’ มาสักพักแล้ว” มันมุ่ยหน้า  ไม่ได้หันมามองผมด้วยซ้ำ “ถึงจะตกใจนิดหน่อยก็เถอะ…ระดับพี่วันทั้งทีก็คิดว่าจะเป็นอะไรที่เท่กว่านี้ซะอีก…
   “มึงต้องเห็นตอนที่เค้าแปลงกาย” ผมชิงพูด “เท่โคตร”
   “ไอ้สัสนี่ก็อวยสามีจ๊างง”
   “กูแค่พูดความจริงว้อย!!”
   “โอ้ย!  มึงนี่ก็เสียงดังจังเลย  ไอ้เรื่องแบบนี้มันควรจะเป็นความลับไม่ใช่เหรอ?”
   “…เออ…มึงสัญญาได้มั้ยว่าจะไม่บอกใคร?”
   อีกฝ่ายพยักหน้า “ก็ได้นะ”
   “…อย่าทำตัวเหมือนอยู่เหนือกว่าแบบนั้นสิวะ” ผมเบ๊ปากใส่มัน “มึงนี่ก็ประหลาด  นอกจากจะไม่ตกใจห่าอะไรแล้ว  ยังเสือกนิ่งได้ขนาดนี้อีก”


   พอสิ้นคำพูดผม..มันก็ยกมือเกาหัวเล็กน้อย  ก็จริงอยู่ที่โป๊ยนิ่งและตั้งสติได้ดี  ต่างจากตอนที่แก้วหายไปเมื่อครู่ลิบลับ  มันสิทำท่ายังกับจะเป็นจะตายเสียให้ได้แล้วก็สะบัดไอ้สิ่งที่เรียกว่าความสามารถในการควบคุมสถานการณ์ทิ้งไปหมด

   วินาทีนั้นเองที่ผมสังเกตว่าคนข้างหน้าแอบเหลือบมองมา  คล้ายกับว่าเขาก็ฟังบทสนทนานี้อยู่ด้วยเช่นกัน



   “ไม่รู้ดิ…กูไม่สนมาแต่แรกแล้วว่าว่าพี่วันเค้าเป็นใคร  หรือเป็นอะไร  มันเรื่องของพวกมึง”
   นั่นเป็นคำที่เพื่อนรักตอบผม

   “ตอนนี้กูสนแค่ว่า..แก้วอยู่ที่ไหน  ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้ทีหลัง”



   คำพูดนั้นไอ้พี่วันก็ได้ยินเช่นกัน  เขาขยับยิ้ม  แล้วก็หันกลับไปเดินต่อโดยไม่คัดค้านสิ่งใดต่อ
   และให้ตาย  ผมอยากกอดไอ้โป๊ยเหลือเกินครับวินาทีนี้
   …ใจมึงหล่อมากไอ้สัส


   ยังไม่ทันที่ผมกับโป๊ยจะได้สนทนาอะไรต่อ  เราก็เดินมาถึงสะพานที่เต็มไปด้วย..เอ่อ..กลิ่นขี้นก  โป๊ยยกมือปิดจมูกทันทีแล้วเหลือบมองผม  สายตานั่นกำลังตั้งคำถามว่า ‘นี่เรากำลังจะไปที่ไหนกันเหรอ?’ กับคำว่า ‘เอาจริงดิ’ ส่วนผมก็ไม่รู้จะส่งสัญญาณตอบมันยังไงด้วยสายตาดี  เลยชิงเดินตามไอ้พี่วันไปก่อน  ปีนลอดใต้สะพาน  แล้วไปหยุดยืนที่หน้าถ้ำแห่งเดิมที่เดียวกับที่ผมมาเมื่อวาน


   เมื่อหันไปมอง  แม้ว่าไอ้โป๊ยมันจะยังดูงงๆ  แต่ก็ตามพวกผมมาติดๆ
   “นี่อย่าบอกนะว่าเราต้องเข้าไปอ่ะ?”


   ..ดูคำถามมันดิ  แม่งเป็นคำถามเดียวกับที่ผมถามตัวเองเมื่อวานเลยครับให้ตาย!
   ผมพยักหน้าตอบมัน  ก่อนไอ้พี่วันจะเดินนำเข้าไปก่อนเป็นคนแรก

   ก็มีคิดบ้างนะครับว่ามนุษย์สองคนบุกรังจระเข้แบบนี้คงไม่ดีไม่งามนัก  แต่มากับจ้าวน้อยทั้งที…คงไม่มีอะไรอันตรายเกิดขึ้นหรอก
   ..มั้งนะมั้ง  แค่คิดไปเองเท่านั้นแหละ
   …ก็มีบ้างเหมือนกันที่ไอ้พี่วันมันเอาแต่ใจซะจน…ไม่คิดหน้าคิดหลัง



   เหมือนเดิมครับ  ข้างในของโพรงแห่งนี้มันมืดสิ้นดี  แต่เพราะพี่วันยื่นมือมาให้ผมเกาะก็เลยไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องหยิบไฟฉายมาส่องทางเหมือนเมื่อวาน  ส่วนโป๊ยก็จับไหล่ผมไว้อีกทีต่อกันเป็นทอดๆ  แต่เพราะมองไม่เห็นนั่นแหละเลยท่าจะสะดุดล้มอยู่หลายรอบเหมือนกัน



   “พี่คิดว่าเรื่องนี้มันแปลกไปหน่อย..”
   ในที่สุด..ไอ้พี่วันก็เอ่ยขึ้น  หลังจากที่เขาไม่ได้พูดอะไรเลยมาตลอดทาง

   “ถ้าแก้วเป็นลูกของหมออาคมจริงอย่างที่ไกรเล่า  พี่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี่คง…ไม่ชอบมาพากลเท่าไหร่”



   ผมเลิกคิ้ว..แม้ตัวเองจะเอะใจกับเรื่องดังกล่าวอยู่บ้างแต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป
   “ไม่ชอบมาพากลยังไง?”
   “แก้วหายไปหลังจากที่ไกรมาเจอพี่  พี่ไม่คิดว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องบังเอิญหรอกนะ”

   มือที่จับไหล่ผมบีบขึ้นนิดหน่อย  มันเป็นสัญญาณแซวของไอ้โป๊ยโดยไม่ต้องพูดว่า ‘อ้อ  ที่มึงหายไปเมื่อวานนี่แว่บมาหาสามีนี่เองสินะ  แล้วก็ปล่อยให้พวกกูยืนตากแดดรอ  บลาๆๆ’


   “จำเรื่องที่พี่เล่าให้ฟังเมื่อวานได้มั้ย?” เขาพูดต่อ  นั่นเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่คนขี้เกียจอธิบายอย่างเขาเอ่ยปากออกมาก่อนโดยที่ผมไม่ต้องถาม  โอ้ว  นี่สินะที่เขาเรียกกันว่าพัฒนาการ “พี่คิดว่าเรื่องนี้คงเกี่ยวข้องกัน…กับวรรณนา”

   …สาบานได้ครับ  จุดนั้นผมไม่รู้เลยว่าไอ้เรื่องโน้นกับเรื่องนั้นมันไปโยงกันได้ยังไง!?

   “อะไรนะ?  วรรณนาเหรอ?”
   “ใช่”
   “มันจะบังเอิญไปรึเปล่า?”
   “เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นพร้อมกันสองครั้งน่ะ  ไม่ได้เรียกว่าเรื่องบังเอิญเท่าไหร่หรอกนะ”

   เรื่องแรก…คือการที่ผมมุ่งหน้ามาพิจิตร  แล้วไอ้เจอกับไอ้พี่วันที่เหมือนกับพรหมลิขิตบันดาลชักพา(หยุดเอาฮาสักที!)
   เรื่องที่สอง…คือเรื่องที่จู่ๆแก้วก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

   “แล้ววรรณนาทำไม?”
   “เท่าที่พี่รู้มา…” เขาลดเสียงลง “วรรณนาไม่ใช่ลูกของท่านอาพันวัง”
   ผมอ้าปากค้างอยู่แปปนึง “แล้ว…วรรณนาเป็นลูกของใครล่ะ?”
   อีกคนส่ายหน้า “ไม่รู้เหมือนกัน”
   “อ้าว”
   “เพราะว่าไม่รู้น่ะสิ  เลยคิดว่ามันน่าสงสัย…” อีกฝ่ายยกมือเสยผมแล้วถอนหายใจ “วรรณนามาจากไหนไม่รู้  ตั้งแต่ที่พี่รู้จักก็คือ…เขาบอกกันมาว่าเป็นลูกของท่านอา  แล้วก็แค่นั้น  ไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันด้วยซ้ำ”
   “แล้ว…แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าไม่ใช่?”
   “เพราะปู่พี่บอกว่าไม่ใช่”
   “แล้วปู่พี่รู้รึเปล่า?”
   “พี่ยังไม่ทันได้ถามถึงขนาดนั้น  แต่ตอนที่พี่เล่าเรื่องของวรรณนาให้ท่านฟัง..อยากให้ท่านช่วยตามหาให้  ปรากฏท่านไม่รู้จัก  ไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่าท่านอาพันวังมีลูก”

   พี่วันพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก
   ซึ่งผมไม่เข้าใจเลยจนกระทั่งประโยคถัดไป

   “เพราะท่านบอกว่า…ท่านอาพันวังมีลูกไม่ได้”

   ผมพยายามใช้สมองน้อยๆที่ตัวเองมีอยู่คิดตามคำอธิบายนั้น  พยายามนึกภาพตามอย่างช้าๆที่สุด  ไอ้โป๊ยที่เดินตามข้างหลังผมมาสิแย่หนัก  มันคงงุนงงจนไม่รู้ว่าจะเริ่มถามตรงไหนดีด้วยซ้ำ
   ถึงกระนั้น..คนที่รู้เยอะที่สุดอย่างไอ้พี่วันก็ดูท่าทางหนักใจไม่น้อย


   “…และไม่ว่าวรรณนาจะเป็นใครมาจากไหน  พี่ไม่คิดว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ดีแน่”










+++++++++++++++++++










   ผลึกแก้วสีทองขนาดมหึมาตั้งตระหง่านกลางห้องราวน้ำแข็งสีอำพันย้อยหยดจากเพดานสูงใหญ่  ผิวประกายเพียงกระทบคบไฟไหววูบก็สะท้อนแสงเรืองรองไปทั่วกำแพงสีแดงอิฐรอบบริเวณ  ส่องระยิบระยับงดงามจับตาจนคนมองต้องอ้าปากค้าง

   ที่ฟากหนึ่งด้านหลังเป็นธารน้ำตกใส  ทอดยาวออกไปเป็นทางคูคลองเล็กๆ  ยามประจันหน้าในชุดไปรเวทเหมือนมนุษย์ทุกองค์ประกอบยืนอยู่ที่จุดต้นของผลึกแก้วอำพัน  จ้องมองพวกผมด้วยนัยน์ตาสีเดียวกันคล้ายงุนงงสงสัย  แต่ไม่ได้ซักถามอะไร


   ถ้าทำได้ผมคงอยากหันไปกอดไอ้โป๊ยจนตัวกลม  อีกคนก็ทำท่าทำทางอยากจะเข้ามาเหมือนกัน  แต่เพราะทำไม่ได้..พวกเราเลยแค่ขยับเข้ามาใกล้กันอีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง
   ไอ้พี่วันยังคงเดินนำไปข้างหน้า  ด้วยท่าทางไม่ยี่หระอะไรกับบรรดาสายตาที่มองมาสักนิด




   จนกระทั่งเราเดินยาวข้ามจากช่องประตูหนึ่งมายังช่องประตูฝั่งตรงข้ามด้วยระยะเวลาที่นานกว่าทศวรรษ(เว่อร์ไป..)  ยามหน้าประตูหนึ่งถึงได้ก้าวเท้าออกมาปริปากออกเป็นครั้งแรก

   “จ้าวน้อยขอรับ…นั่น….”
   ท้ายเสียงนั้นพยักเพยิดมาทางพวกผมด้วยสายตาประหลาดนัก

   …ทำไมครับ?  ไม่เคยเห็นมนุษย์ตัวเป็นๆงั้นเหรอครับพี่?
   ก็อยากจะเล่นมุขเกรียนประสาทตามประสาอยู่บ้างครับ  แต่ดูจะไม่ใช่เวลาที่ถูกที่ควรนัก  และเท่าที่ผมเรียนรู้มา..เราอย่าคาดเดาอายุจากใบหน้าของจระเข้  ดังนั้นผมเลยสันนิษฐานว่าเขาอาจจะอายุมากกว่าพวกผมสักเจ็ดสิบปีได้
   มีตัวอย่างกรณีของท่านอาพันวัง  เป็นบทเรียนที่สอนไว้ว่าอย่าคิดจะล้อเล่นกับใครที่มีอายุมากกว่าเรามากกว่าสามเท่าเด็ดขาด

   “แล้วจ้าวปู่ล่ะครับ?” และพี่วันไม่ได้ตอบคำถามนั้น…ทำดีมากพี่ชาย “ขอผมพบได้รึเปล่า?”
   คนฟังมีท่าทีลังเลไม่น้อย  แต่ก็พยักหน้า  แล้วถอยเท้าออกไป “แน่นอนขอรับ”
   “ขอบคุณครับ”

   พวกเราเดินเกาะกระแสตามหลังผ่านธรณีประตูไป  โดยไม่ลืมที่จะส่งยิ้มทักทายตามประสาแขกที่ดีทั้งที่ตัวสั่นงกๆ  โป๊ยมีอาการดีกว่าผมนิดหน่อย  อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ดูกลัวเกร็งอะไรอย่างที่ผมเป็นอยู่
   …นั่นเพราะมันยังไม่เข้าใจถึงความหมายของสิ่งมีชีวิตพวกนี้ดีน่ะสิ…

   คิด..แล้วก็อิจฉามันชะมัด  อย่างน้อยๆมันก็ไม่ได้ถูกขู่ว่าจะกินๆตลอดอย่างผมไง  เฮ้อ  ทำไมผมต้องพูดให้ตัวเองดูเป็นมนุษย์หนึ่งเดียวที่โชคร้ายขนาดนั้นด้วยเนี่ย




   แต่เดี๋ยวก่อนนะ

   …พวกเรามาทำอะไรที่นี่วะ..?



   ผมที่เพิ่งฉุกใจคิดได้ก็ต้องหันศีรษะกลับมาก่อน  หลังช่องประตูนั้นมีม่านสีขาวคล้องเกี่ยวเอาไว้ ให้พวกเราต้องเบี่ยงตัวหลบยกมือแหวกม่านไปตลอดทาง  แต่ไอ้พี่วันนั้นกลับเดินได้สบายมาก  เพียงแค่เดินตรงไปเรื่อยๆไม่เห็นต้องลนลานแบบที่ผมเป็น
   กลิ่นหอมของกำยานเก่าลอยมาแตะที่จมูกทำให้รู้สึกแปลกนิดหน่อย  ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย…ผิดกับบรรยากาศภายนอกลิบลับ


   ผมสูดลมหายใจติดๆขัดๆของตัวเอง  ยื่นมือไปเกาะแขนไอ้พี่วันอีกครั้งหนึ่ง

   มันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เราเดินมาจนสุดทางพอดี




   สิ้นสุดของหมู่ม่านที่แหวกออก…จึงจะพบห้องหับขนาดกว้างใหญ่อีกห้องหนึ่ง  ผนังห้องยังคงเป็นก้อนหินสีแดงอิฐที่เรียงรายต่อกัน  เพียงประดับด้วยพลอยไพลินเม็ดเล็กวาดลวดลายเต็มผนัง  โต๊ะเก้าอี้หินอ่อนคู่หนึ่งตั้งเด่นอยู่กึ่งกลาง  ตรงสุดของสายตาจึงจะเป็นตั่งเตียงหินสลักลายสีเข้ม  ปูฟูกบางๆกางคลุมด้วยม่านโปร่งเดียวกับทางที่เดินเข้ามา

   ถ้าจะให้ผมอธิบายให้เห็นภาพมากขึ้น  ก็จะบอกว่าในบรรดาตลอดทางที่เดินผ่านมา  ห้องแห่งนี้แหละที่ผมสามารถเรียกได้ว่า ‘ที่อยู่อาศัย’ จริงๆ


   และแม้ว่ากลิ่นกำยานที่เมื่อครู่ยังทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายจะยังคงลอยคลุ้งไปหมดก็ตาม  บัดนี้มันกลายเป็นบรรยากาศกดดันอย่างบอกไม่ถูก

   ผมขยับตัวเข้าไปใกล้ไอ้พี่วันอีกนิดนึง  เขาจึงหันมาหาผม..และยิ้มอ่อนๆให้
   “ไม่เป็นไร” เขาบอก “จ้าวปู่พี่ใจดีนะ”
   ..วินาทีนั้นผมไม่อาจให้คำนิยามจำกัดความของคำว่า ‘ใจดี’ ในความหมายของไอ้พี่วันเลยจริงๆครับ..
   แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น  พอเขาหันมามองผมด้วยสายตาชวนให้เชื่อมั่นเช่นนั้นก็ทำให้ผมโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก  ตอนนั้นดวงตาของไอ้พี่วันเปลี่ยนเป็นสีทองอีกแล้ว  และมันคงทำให้โป๊ยชะงักไม่น้อยทีเดียว  แต่เพื่อนผมก็ไม่ได้ทักอะไรกับการเปลี่ยนแปลงนั้น  ทั้งที่มันทำสีหน้าพร้อมจะถามได้อยู่ตลอดเวลาแท้ๆ...เพียงแค่สะกดกลั้นไว้

   เพราะอย่างน้อยๆมันก็จงใจกระซิบมาละว่า “…จากนี้มีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยว่ะไกร”


   ผมพยักหน้าไปกับมันหนึ่งครั้ง  อยากจะบอกมันว่า ‘ถ้าจะให้เล่าสามวันก็ไม่จบหรอก’  แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรออกมา  เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากช่องประตูอีกบานในห้อง  แถมยังกระชั้นเข้ามาเรื่อยๆจนใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ




   ยามที่ ‘เจ้าบ้าน’ ย่างกรายเข้ามาปรากฏตัวเป็นครั้งแรก  ผมถึงกับอ้าปากค้าง


   เสียงฝีเท้าที่บรรจงย่ำลงมาเมื่อครู่ทำให้ผมนึกถึงชายวัยกลางรูปร่างใหญ่โตที่ก้าวเดินมาด้านหน้าอย่างมั่นคง  มโนภาพ ‘ท่านจ้าวปู่’ คนนั้นไว้หนวดเครายาวระต้นขา  มีสายตาอ่อนโยนเหมือนไอ้พี่วันทอดมองมาหา  และบารมีแกร่งกล้าจนต้องคุกเข่าลงกับพื้น

   ….แต่…..แม่งไม่ใช่อย่างที่ผมคิดเลยครับ


   เพราะท่านจ้าวปู่นั่นเป็นแค่…..







   “เด็ก…ไม่ใช่เหรอวะนั่นน่ะ?”





   ..ไอ้โป๊ยพูดก่อนครับ!  มันหลุดปากก่อน!  มันผิด!

   จระเข้สองตัวในห้องถึงกับหันมามองโดยพร้อมเพรียงกัน  ทั้งไอ้พี่วันที่ยืนอยู่ในระยะเอื้อมแขนก็ด้วย  ทั้งคนตัวเล็กที่สูงแค่เอวหน้าตาแอ๊บแบ้วนี่ก็ด้วย  ส่วนผมซึ่งได้ยินประโยคนั้นเต็มสองรูหูไม่ต้องหันไปมองเลยครับ  ผมรู้ว่าใครพูด  รู้ด้วยว่ามันกำลังทำหน้าไม่ต่างจากผมอยู่
   ผมทำหน้าที่เพื่อนที่ดีครับ  คือการปิดตาชี้ไอ้คนพูด  บอกเป็นนัยๆว่า ‘ผมไม่ผิดนะ!’


   ส่วนไอ้โป๊ยน่ะเหรอทำได้แค่อ้าปากพะงาบๆ  จะแก้ต่างอาการปากไวเฉียบพลันนั่นก็ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว  มันเลยรีบว่า
   “ขอโทษครับ…ผมไม่ตั้งใจจะเสียมารยาท”
   ..เฮ้ย  ประโยคแม่งหล่ออีกแล้วว่ะ  ทำไมกูไม่ได้พูดประโยคหล่อๆแบบนั้นบ้างเลยวะ..!?
   “ไม่เป็นไร” เสียงของเด็กชายที่ดูท่าจะยังไม่แตกหนุ่มดีนั้นเอ่ยขึ้น  พร้อมไหวไหล่ “มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้  ตกใจเรื่องไม่เข้าเรื่องกันไปเสียหมด”
   “จ้าวปู่ครับ  นี่ไกร..ที่เคยเล่าให้ฟังวันก่อน” พี่วันแนะนำ “ส่วนนั่นโป๊ยครับ  เพื่อนไกร”
   “โห่  นี่เจ้าไปอยู่บนนั้นท่าทางจะสนุกไม่ใช่น้อย  ได้เพื่อนกลับมาเยอะแยะ”
   “เรียนมหา’ลัยเดียวกัน  คณะเดียวกันน่ะครับ  เป็นพวกรุ่นน้อง”
   “อ๋อ  สมัยนี้มันก็มีแบบนั้นเนอะ”
   พี่วันยิ้ม “ครับ  คงอย่างนั้น”
   “สมัยนี้โลกบนนั้นเปลี่ยนไปเยอะนัก” เด็กชายตัวเล็กเดินเตาะแตะปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้หินอ่อน “ข้าสิชักตามไม่ทัน  อย่างกับช่วงเวลาที่โลกบาดาลนี้ได้หยุดลงตั้งแต่หลายร้อยปีที่แล้ว”
   “ว่างๆจ้าวปู่ก็ออกไปข้างนอกบ้างสิครับ  ผมพาไปเอง”
   “เรื่องสิ  ร่างเด็กแบบนี้ออกไปจะสนุกอะไรได้ที่ไหน”


   ครับ  ใช่  ผมเห็นด้วยกับประเด็นนั้นสุดๆ

   แม้คำพูดคำจาจะชัดถ้อยชัดคำและดูสูงวัยมากแค่ไหน  แต่ตราบเท่าที่ผมยังเห็นคนตรงหน้าเป็น ‘เด็ก’ อยู่…ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะอินไปกับบทสนทนาดังกล่าว


   โป๊ยเองก็เช่นกันครับ  มันยังคงกระพริบตาปริบๆจ้องท่านจ้าวปู่อย่างเสียมารยาทเป็นที่สุด  ช่างน่าขันนักที่มันทำแบบเดียวกับผมทุกประการ




   ไอ้พี่วันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังคร่าวๆระหว่างที่ผมกำลังเรียกสติตัวเองกลับมา  พยายามที่จะไม่เอ่ยถามไปอย่างหยาบคายว่าท่านใช้ครีมบำรุงหน้าอะไรถึงได้ดูเด็กขนาดนั้น  และกำลังทบทวนว่าไอ้ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันคือโลกแห่งความเป็นจริงแน่ใช่มั้ย
   …รู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่ส่วนประกอบเล็กจ้อยของโลกอันแสนกว้างใหญ่นี้ยังไงชอบกล

   ไม่ต้องห่วง  โป๊ยกำลังทำแบบเดียวกับผมอยู่ครับ

   จังหวะนี้เราทำอะไรก็เหมือนฝาแฝดกันไปหมดละ  เมื่อพลิกโลกลงมาร้อยแปดสิบองศาแบบนี้นี่หว่า  กลายเป็นไอ้การ์ตูนเอนิเมชั่นที่เราดูตอนเด็กๆเป็นเรื่องเบบี๋ไปเลย



   “มาทางนี้สิ”
   คำเรียกนั้นทำให้ผมสะดุ้งตื่นจากภวังค์  และลนลานที่จะก้าวไปข้างหน้า

   “ไม่ใช่เรา” ท่านจ้าวปู่โบกไม้โบกมือ “อีกคนน่ะ”



   ..ท่านหมายถึงโป๊ย..
   และมันทำให้คนถูกเรียกก้าวเท้าเข้าไปหาโดยไม่ขัดคำสั่งแม้แต่น้อย


   ท่านจ้าวปู่ผายมือให้โป๊ยนั่งลงบนเก้าอี้หินอ่อนตัวหน้า  แล้วพี่วันก็ก้าวเท้าถอยหลังมายืนข้างๆผม  เขามองผมยิ้มๆด้วยความหมายที่ผมไม่เข้าใจ
   เลยขมวดคิ้วใส่ “อะไร?”
   “ไม่ต้องกลัวหรอก” พี่วันกระซิบบอก “จ้าวปู่ใจดีออก  เห็นมั้ย?”


   ผมพยักหน้าน้อยๆ  ก่อนจะสะดุ้งหวือเมื่อมือใหญ่สอดเข้ามากุมมือผมแบบไม่เนียนอย่างที่สุด  เล่นเอาไม่กล้าหันไปด่ามันเลยครับจุดนี้  ไม่รู้จะประกาศให้โจ่งแจ้งไปถึงไหน…ไอ้ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกแบบนี้เนี่ย!  กูเขินหมด!!

   ตัดฉากกลับไปที่บนโต๊ะหินอ่อนครับ  จ้าวปู่แบมือลงตรงหน้า  เป็นมือเล็กๆทั้งสองข้างให้โป๊ยเอื้อมไปจับ



   “ท่านจ้าวปู่จะทำอะไรน่ะ?” ผมกระซิบถาม
   “พิธีกรรม”
   อีกฝ่ายตอบสั้นๆง่ายๆตามเดิมครับ!  ไอ้พัฒนาการเมื่อกี้มันหายไปไหนแล้ว!?
   ผมมุ่ยหน้า “พิธีกรรมอะไรเล่า”
   “อ้อ  ก็..เอ่อ..เป็นการสวดคาถาให้เรารู้ที่อยู่ของคนที่เราผูกพันด้วยน่ะ…อย่างเช่น  เราอาจจะต้องใช้สมาธิเพ่งหาเขามากเป็นพิเศษ  ส่วนใหญ่ก็จะให้คนที่รู้สึกพิเศษๆทำเนี่ยแหละ” ไอ้พี่วันพยายามอธิบาย “..ตอนที่ไกรหายไป…พี่ก็ทำแบบนี้เหมือนกัน”
   “พี่วันทำได้ด้วยเหรอ?”
   “เปล่าหรอก” เขาตอบ..ลดเสียงลงเล็กน้อย “…ท่านอาหาให้”

   ผมคิดว่าเขาคงเจ็บปวดไม่น้อยที่ต้องนึกถึงเรื่องนั้น  เลยตัดสินใจเงียบไม่ถาม  แล้วบีบมือเขาปลอบแทน





   ‘…เขาเลี้ยงดูพี่มา..ตั้งแต่พี่ยังเล็กๆ…’

   สุรเสียงสั่นสะท้านเช่นนั้นยังติดอยู่ในความทรงจำ



   ‘…และพี่ฆ่าเขา…ด้วยน้ำมือของพี่เอง…’




   ผมไม่กล้าพูดหรอกว่าสิ่งที่ไอ้พี่วันทำไปนั้นมันผิดหรือถูก  แต่พูดได้เลยว่าเขาทำดีแล้วที่สำนึกผิดและเสียใจเช่นนั้น  เพราะบางทีคนเราก็เสียใจที่ทำสิ่งที่ถูกเหมือนกัน 
   ..แล้วมาตรวัดความถูกต้องพวกนั้นคืออะไรกันล่ะ?



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2014 14:49:09 โดย ozaka »

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog




   “แก้ว..!!”






   และเสียงอุทานของโป๊ยที่ดังขึ้นมาก่อนนั้นก็ฉุดสติผมขึ้นจากภวังค์
   ผมหันมองไป  ไอ้โป๊ยถึงได้หันมามองผมด้วยสายตาตื่นตระหนกจนผิดสังเกต  ก่อนจะหันกลับไปหาจ้าวปู่ที่ยิ้มอ่อนๆให้บนเก้าอี้อีกฟากหนึ่งของโต๊ะ

   “เห็นรึไม่?”
   นั่นเป็นคำถามที่ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก  แต่เขาถามโป๊ย
   ซึ่งมันพยักหน้า “ครับ…ผมเห็น…”

   “บอกไว้ก่อนนะว่าเจ้าเป็นคนที่เห็นเพียงคนเดียว  ข้าเป็นเพียงผู้ทำพิธีเท่านั้น” ท่านจ้าวปู่ขยับยิ้ม  ลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้แล้วกระชับเสื้อคลุมตัวเอง “ถ้าเจ้ารู้ว่าสถานที่ที่แม่หญิงผู้นั้นอยู่คือที่ไหนก็ดีไป  แต่ถ้าไม่รู้คงต้องงมหาเอาหน่อยล่ะ”


   แม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอธิบายมากมายเท่าไหร่  แต่สิ่งที่โป๊ยทำมีเพียงดวงตาที่สั่นระริกเหมือนพูดไม่ออก  หน้าตาซีดเซียวผิดปกติ  มันทำให้ผมขมวดคิ้ว  แล้วเดินเข้าไปหา


   “ไม่ต้องห่วงมึง” ตบบ่าปลอบมันสักที “สมัยนี้เค้ามีกูเกิลสตรีทวิวแล้ว  เราต้องหาแก้วเจอแน่  ดูอย่างนักสืบพันทิพสิ”
   “ไม่ต้องห่วงนะโป๊ย” พี่วันพูดขึ้นบ้าง “พี่เองก็จะช่วยหาเหมือนกัน”


   “….ไม่ใช่…แบบนั้น……”
   เสียงที่พูดออกมาเหมือนไม่ใช่โป๊ยคนเดิม  มันเงยหน้ามองพวกผม


   “….กูรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนน่ะสิ….”



   ผมเลิกคิ้ว  ไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมมันต้องดูกลัวอะไรขนาดนั้นด้วย  มันดูประหลาดจนผมสังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไหร่  แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากพูดสนับสนุนออกไป

   “งั้นก็ดีสิ  อยู่ที่ไหนล่ะ?”




   ครั้งนี้โป๊ยมองไปทางไอ้พี่วัน
   …ด้วยสายตาที่จริงจังกว่าเดิมนัก






   “…ปากทางเข้าถ้ำนี่เอง”














TBC



===============



บู่วววๆๆๆๆ เดาผิดดดดกันนนโหมะะะเลอออออ แอร๊
#เล่นอะไร


ขออภัยที่อัพช้าาาาามากกกกกนะคะ ;_;)
ก่อนหน้านี้เผชิญวิกฤติโดจิน ตามตบด้วยลงสุสานจนโงหัวไม่ขึ้น
กว่าจะรู้ตัวเวลาก็ล่วงเลยมาหลายอาทิตย์แย้ววว //พรากกกกกกกกกกกก

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ



ozakaoxygenz*







 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ Money11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :o12: ช่างตัดฉับได้ทรมานความอยากรู้มากค่ะคุณโอ
ตอนต่อไปมาไวๆนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
เจ้ยยยยยยยยยยย อย่าบอกนะว่าแก้ววางแผนชั่ว  :a5:

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
อั้ยยะ ทำไมแม่นางมาโผล่เอาที่หน้าถ้ำหละ
อ๊าก จะเกิดศึกอะไรไหมเนี่ย

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
โอวววว แก้วกัลยา //ผิดเรื่อง!!!

นางช่างล้ำลึกนัก ทำทีเป็นหายไป เพื่อให้นำทางนางมาหาถ้ำจรเข้นี่เอง เงง เงง

จักมีเหตุร้ายอันใดเกิดขึ้นรึไม่ แล้วนางนำทางผู้ใดมาด้วยรึเปล่า

โปรดติดตามตอนต่อไป น้องนางวรรณาเกิดแต่ผู้ใด ท่านอาพันวังเก็บมาจากไหน (คือนางก็ยังเด็กอยู่ แค่ใช่หรือไม่ใช่ลูกใคร ทำไหมไม่รู้วะ...) ปริศนาคลี่คลายแบ้วววววววววววววว

รอจนเพ้อ และข้าสิรอต่อปายยยย

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
วรรณนานี่ จะเป็นพี่หรือน้องของแก้วที่นอนแบ๊บอยู่ปะน้า(ขอโทษค่ะ อิฉันจำได้แต่พี่วัน  :beat: //โดนตบ)
รอออออออ ตอนหน้าบู๊ป่ะพี่โอ!!!! :ruready

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
 :z3: ค้างอีกแล้วนะคะ คุณโอขา
ตื่นเต้นๆๆๆจัง แก้วจะพาพวกมาถล่มถ้ำหรือเปล่า
เฝ้ารอตอนใหม่ต่อไป  :z3:

+1  :กอด1:

ปล.อยากรู้ประวัติจ้าวปู่ซะแล้วสิ ว่าทำไมจ้าวปู่ถึงอยู่ในร่างเด็กแอ๊บแบ๊ว (เรียกตามไกร)

ออฟไลน์ bew_yunjae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 :ling1: โอยยยย ลุ้นมากๆค่ะคุณโอ
วรรณา ไม่ใช่สุวรรณาใช่มั้ยค่ะ
ลุ้นๆอ่า ถ้ำจะถล่มมั้ยเนี่ยยย :ling3:
อัพๆต่อน้าา คิดถึงน้องมาลาจังเลยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด