23
“นอนไม่หลับหรอ…”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังของเขา ร่างบางถูกรวบตัวเจ้ามากอด ใบหน้าหล่อซุกไซร้อยู่ที่บ่าเขาอย่างขี้เล่น เบญจมืนทร์หัวเราะขึ้นเบาๆก่อนจะหันไปสบสายตากับอีกคน
ตรงที่ระเบียงที่ชั้นสอง ตรงนี้มองเห็นวิวรอบๆได้อย่างชัดเจน ที่รอบๆไร่ถูกตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองสบายตา เขาตั้งใจติดมันตอนรับวันคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง รามินทร์เป็นคริสเพียงคนเดียวในไร่นี้ ทุกคนตามใจเขา คุณชายคนเล็กขอบ้านยังถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจอย่างไรก็อย่างนั้น ไม่เปลี่ยนแปลง
เขาเองก็เป็นเศษส่วนของรามินทร์ เบญจมินทร์ไม่เคยเชื่อในพระเจ้าจนกระทั่งวันหนึ่งเขาเฝ้าภาวนาทุกวันให้ปาฏิหาริย์มีอยู่จริง เขาอยากเจอรามินทร์อีกครั้ง และเขารู้ว่าเจ้าชายของเขาก็โหยหารามินทร์เช่นกัน เขาเป็นแค่ตัวแทน…
ไม่ใช่ตัวจริง… มันน่าเศร้านะว่าไหม ตอนนี้เราเหมือนได้เป็นเจ้าของ ได้ครอบครองสิ่งที่ต้องการ แต่ใครจะรู้สิ่งที่เขาเป็นเจ้าของและมีอยู่ทุกวันนี้จะหายไปเมื่อไหร่ก็ได้
มันจะหายไปเมื่อรามินทร์กลับมา… หรือถ้าหากรามินทร์ไม่กลับมา น่าแปลก เขารู้สึกผิด เหมือนเขาแย่งของๆคนอื่นมา เขาไม่มั่นใจเลยสักนิดว่ามันจะเป็นของจริง
นักจิตวิทยาคนนั้น...จันทร์เจ้าบอกว่ามีอยู่สามทางให้เรียงลำดับความเป็นไปได้จากมากไปน้อยที่สุด หนึ่ง เขากลายเป็นบุคลิกหลัก เขาเป็นได้ถ้าเขาอยากเป็น สอง ให้เขาหลอมรวมกับรามินทร์ จากนั้นเราจะกลายเป็นคนใหม่ จะไม่มีเบญจมินทร์หรืออาจจะไม่มีรามินทร์อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป อะไรก็เกิดขึ้นได้ เขาไม่ชอบทางเลือกที่สองนี้เลย ให้เลือกซะดีกว่าว่าใครจะอยู่หรือใครจะไป เขาเลือกที่จะไปเอง
ก็เขาไม่ใช่รามินทร์หนิ… เขามันก็แค่ของปลอม
“หนาวเนอะ”
จมูกโด่งกดลงที่ข้างแก้มทั้งสองข้าง เขาออกจะเขินนิดหน่อยจึงใช้มือดันร่างสูงกว่าออก คนตัวสูงกว่าแรงเยอะกว่าเขาเลยไม่ปล่อยมือจากเอวคอดของเขาเลยสักนิด เบญจมินทร์เลยเลิกสู้แรงนั้น ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดใบหน้าซุกลงที่แผงอกของอีกคน
“ผมฝันร้าย…ผมนอนไม่หลับเลย”
เขาเลือกที่จะเล่าอาการของเขาให้อีกคนฟัง เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่จากร่างบาง อีกคนหัวเราะราวกับมันเป็นเรื่องตลกก่อนจะรวบตัวเขาขึ้นมานั่งบนระเบียงอีกคนโอบเอวเขาไว้ไม่ให้ตก
“ออกกำลังกายไหม เขาบอกว่าจะหลับง่ายขึ้น”
“ออกกำลังกายบนเตียงล่ะสิไม่ว่า”
“เริ่มกวนประสาทเหมือนรามินทร์แล้วนะ”
กฤตินหัวเราะขึ้นมาด้วยความเอ็นดูคนเด็กกว่า ก่อนที่เขาจะประกบจบเขาอย่างนุ่มนวล เราผละออกจากกัน เบญจมินทร์ไม่กล้าสู้หน้าเขาจนถึงขนาดว่าต้องเอาใบหน้าซุกเข้าที่บ่า
“เขินง่ายจัง”
“ผมไม่ใช่คุณหนิที่จะทำอะไรได้ไม่อายฟ้าดิน”
“จะอายทำไม มากกว่านั้นก็ทำมาแล้ว”
“วันนี้ผมเกลียดคุณ…”
“ใจร้ายจัง ฉันชอบนายทุกวันเลยรู้ไหม”
เขาไม่คิดที่จะถามออกไปให้ซ้ำใจว่ากฤตินชอบใคร รามินทร์หรือเขา… ถ้าเราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันจริงๆ เขาก็อยากให้ครึ่งนึงของความรักนั้นแบ่งปันมาให้เขาบ้าง
“ผมถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม…”
“ถามว่า”
“ถ้าผมหายไปบ้างคุณจะคิดถึงผมเหมือนที่คุณคิดถึงรามินทร์ไหม”
อีกคนใช้เวลาคิดหน่อยหน่อยก่อนจะกระชับกอดให้แน่นขึ้น
“คิดสิ...ต้องคิดถึงมากแน่ๆ”
“พูดให้ผมดีใจรึเปล่า”
“ฉันพูดจริงๆ”
“หรอ… คุณว่าถ้าเกิดผมหายไป ผมจะไปอยู่ที่ไหน”
…. เกิดความเงียบขึ้นระหว่างคนสองคน เบญจมินทร์กลัวคำตอบที่ได้จนแทบจะร้องให้ออกมาอยู่แล้ว เขาเหมือนเด็กขี้งอแงไม่รู้จักโต เขากลัวว่าถ้าเขาร้องอีกคนจะรำคาญเขาด้วยซ้ำไป
“ในใจของฉัน”
ไม่รู้ทำไม… น้ำตามันไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในอก เขาดีใจที่ได้มีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ ชีวิตนี้คุ้มค่าแล้ว คุ้มค่าที่เขาเกิดมา…
ถ้าหากพรุ่งนี้เขาต้องหายไป ถ้าหากมันเป็นในใจของอีกคนล่ะก็ เขายินดี
ในคืนนั้นเบญจมินทร์ฝัน
จะบอกว่าเป็นฝันดีได้รึเปล่านะ
เบญจมินทร์ฝันว่า… คืนนี้เขาไม้พบกับรามินทร์ที่นอนอยู่ในสวยของบ้านที่รอบๆเต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงสดที่เขาชอบเปรียบเทียบกับรามินทร์หนักหนา รามินทร์นอนอย่างไร้ชีวิตชีวา ผิวซีด ปากซีด มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตากลมที่แดงก่ำ เหมือนทุกอย่างถูกบรรยากาศรอบตัวของรามินทร์เป็นสีดำ มันมืดมน
เบญจมินทร์นั่งลงที่ข้างๆ ก่อนจะกุมมือบางของอีกคนไว้และจูบมันเบาๆ เขาไม่รู้จะทำยังไงดี เขานั่งอยู่ตรงนั้นนานมากพร้อมกับเล่าเรื่อง
เรื่องตลอดสามเดือนที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่นี้พร้อมกับกฤติน… ได้ไปหานักจิตวิทยา หาทางตามหารามินทร์ที่หายไป จนกระทั่งวันนี้เขาพบกับรามินทร์ในสภาพเหมือนคนป่วยเจียนตาย เขาค่อยๆบรรยายทุกอย่างอย่างละเอียดเพราะเรามีเวลาอีกมากกว่าที่ร่างกายนี้จะตื่นฟื้นคืนจากภวังค์ฝัน
“รู้ไหมทุกคนเป็นห่วงนายมากๆ”
เขาถามร่างบาง ไม่มีเสียงตอบกลับจากร่างทีนอนอยู่
“อยากกลับไปเจอครอบครัวไหม เขารอนายอยู่”
“ไม่...ผมไม่มีครอบครัว”
รามินทร์ร้องให้หนักกว่าเดิมอีก เขาทำได้เพียงแค่ปลอบร่างบางด้วยรอยยิ้ม พยุงตัวรามินทร์ขึ้นมานั่งข้างๆกัน ให้ยืมบ่าที่สูงเท่ากับเป็นที่พักพิง
“ถึงจะไม่มีครอบครัวแต่ก็ยังมีคนที่รักอยู่ใช่ไหมล่ะ ไม่อยากกลับไปหาเขาหรอ”
“แล้วนายจะอยู่ที่ไหน”
“คงจะอยู่ในใจของใครสักคน... มันก็ไม่เลวนะว่าไหม”
“ผมอยากตาย ทำไมตอนนั้นไม่ปล่อยให้ผมตาย”
“ขอตอบแบบเห็นแก่ตัวได้ไหมว่าไม่อยากให้ตัวเองตายตามไป”
รามินทร์หัวเราะขึ้นมา
“ระหว่างที่นายหลับไป รู้ไหม...มีคนมากมายที่เป็นห่วง เขาอยากให้นายกลับไป”
“...”
“ลองกลับไปใช้ชีวิตอีกวันดูไหม… ถ้าเกิดไม่ดียังไง ถ้าเกิดอยากหายไปอีกครั้ง ผมจะไม่รั้งไว้แล้ว”
รามินทร์พยักหน้าตอบตกลง ผมยิ้มอย่างยินดี ตอนนี้ถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนตัวกันแล้วสินะ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของอีดคนแล้วว่าจะกล่อมให้รามินทร์ มีชีวิตต่อไปได้ยังไง ตอนนี้หมดหน้าที่ของเขาแล้ว…
ลาก่อน กฤติน
และ
‘ยินดีต้อนรับกลับมาอีกครั้ง รามินทร์’
-END-
ถ้าหากคุณมีความรู้สึกที่เหมือนกับว่าเรื่องนี้ถูกตัดจบ อยากบอกว่าใช่แล้ว... คือมีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อยค่ะเรื่องปัญหาสุขภาพเลยมาอัพทุกวันเหมือนเดิมไม่ได้และไม่ได้ทำการบ้านเรื่องฮิสทีเรียมาดีพอด้วย555 ไม่กล้าเขียนค่ะ เลยคิดว่า โอเค...พอแค่นี้ดีกว่า
ต่อจากนี้จะเป็นตอนพิเศษแล้วนะคะ
ขอบคุณที่อ่านตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนจบ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ คราวหน้าจะทำการบ้านมาให้ดีกว่านี้แล้วเขียนค่ะ!!