เรื่องสั้น “ในวันที่เราไม่รักกัน”
ชายหนุ่มร่างโปร่งเดินไปตามหาดทรายที่ทอดยาวไปจนสุดลูกตา
ปล่อยให้ความคิดลอยไปไกลก่อนที่ความคิดนั้นจะวนกลับมาที่เดิมอย่างไม่รู้จักจบสิ้น แสงตะวันอ่อนลงและ
กำลังจะลาลับไป แสงสีนั้นแต่งแต้มท้องฟ้ายามเย็นให้ดูสวยสดงดงานราวกับภาพเขียน
ถ้าเป็นคนอื่นที่มีความสุขมันสวยมากทีเดียว แต่สำหรับชายหนุ่มแล้ว มันก็เป็นแค่อีกวันที่
มีแต่ความเศร้าและความเจ็บช้ำเท่านั้น
สามวันมาแล้วที่ ธีรดลเดินทางมาในที่ไม่มีใครจะหาเค้าเจอไม่มีใครรู้จัก
เพื่อหวังจะหลบมารักษาความเจ็บป่วยที่ไม่เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บหากแต่เกิดจากความรัก
ที่ทำเอาเจ้าตัวเจ็บปวดเจียนตาย ขนต้องหนีมาเพื่อตั้งตัวและสติก่อนจะกลับไปเจอความจริงที่รออยู่
ชายหนุ่มเดินมาจนสุดชายก็นั่งลงบนก่อนหินก้อนเดิม ปล่อยใจลอยไปอีกครั้ง
และเริ่มต้นทบทวนสิ่งต่างอีกครั้งอย่างเช่นที่ทำมาทุกวันตั้งแต่มาถึง ว่าอะไรที่เค้าทำผิดพลาด
อะไรที่ทำให้ความรักและความดีที่พยายามทำและมอบให้อีกคนมันไม่สามารถส่งผ่านไปถึงหัวใจของคนอีกคนได้
สามวันก่อนหน้านี้ธีรดลนัดเพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมมาเจอเพื่อสังสรรค์
ที่ร้านอาหารบนห้างสรรพสินค้าใกล้ๆที่ทำงานของเพื่อนสนิทคนหนึ่งในกลุ่มเพราะทุกคนเห็นตรงกันว่า
ห้างนี้ทุกคนเดินมาได้ทางสะดวกที่สุด หลังที่เพื่อนๆมากันครบตัวธีรดลเองนั้นมาเป็นอันดับแทบจะท้ายๆ
แต่ยังไม่ทันนั่ง สายตาก็มองเห็นคนรักนั่งอย฿กลับกลุ่มเพื่อนๆถัดไปแค่โต๊ะเดียว คนทั้งโต๊ะนั้นไม่มีใครสนใจผู้ที่มาใหม่อย่างเค้า
“อ้าวคุณธี มาแล้ว..นึกว่าจะเบี้ยวซะอีก”เพื่อนคนหนึ่งเดินมาหาพร้อมกับลากให้ธีรดลไปที่โต๊ะ
ก่อนที่จะดันให้เข้าไปนั้งด้านในสุดของโต๊ะ เพื่อเป็นการกักตัวไม่ให้กลับก่อนเพื่อนๆ
“เป็นไงบ้างคุณธี..สบายดีหรือเปล่า”เพื่อนๆมักจะเรียกธีรดลว่า
“คุณธี” เพราะตอนสมัยเรียนเจ้าชอบแอบอ้าวว่าเป็นคุณชายตกยากแบบในละครที่กำลังรอเจ้าคุณปู่มาตามตัวไปรับมรดกร้อยล้าน
ระหว่างการสนทนาต่างๆกับเพื่อนๆธีรดลกะว่าจะลุกไปทักทายคนรักและว่าจะนัดให้กลับพร้อมกัน
แต่จนแล้วจนรอดธีรดลก้ไม่สามารถปลีกตัวไปได้สักที่จนเสียงๆหนึ่งถามประโยคคำถามที่แถบทำเอาธีรดลอยากหยุดหายในไปเสียเดี๋ยวนั้น
“ไอ้คุณปรมินกูสงสัยเมื่อกี้มึงบอกว่ามึงไม่ได้รักแฟนมึง แล้วมึงไปอยู่กับเค้าทำซากอะไร”
“มึงเข้าใจไหมว่ากูเป็นคนแรกของเค้า...แล้วกูก็เหมือนติดแห็งอยู่กับเค้าไงมึงเข้าใจปะ
อีกอย่างถ้ากูจะเลิกกับเค้ากูก็ต้องหาเหตุผลให้ดีๆหน่อยๆ”พอได้ฟังประโยคตอบคำถามนี้
เข้าไปธรีดลเจ็บแปล๊บไปทั้งอกเหมือนมีใครเอามือมาบีบที่ใจ อาการที่ตามมาคือแน่น หายใจแทบไม่ออกต้องพยายามครองสติให้อยู่กลับตัว
“แต่จากที่พวกกูฟังมึกเล่านี่นะ..เค้าก็ดีกับมึมากนี่ทำให้ทุกอย่าง..กูว่าถ้ามึงจะหาเหตุผลมากับเค้านี่มีทางเดียวคือมึงต้องกลายเป็นคนเลววะ”
“มึงหมายความว่าไงวะ”คนทั้งกลุ่มหยุดเดินตรงโต๊ะของธีรดลพอดี
“มึกก็ต้องบอกเค้าว่า มึงไม่รักเค้าไง ที่ผ่านมามึงแค่สร้างภาพก็เท่านั้น”เพื่อนคนเดิมบอก
“แล้วที่นี้เค้าก็จะเกลียดมึงแล้วก็คิดว่ามึงเป็นคนเลวไง”เพื่อนอีกคนเสริม
ธีรดลลอบมองคนรักก็พบกับสีหน้าระบายยิ้ม นั้นยิ่งทำให้ธรีดลเจ็บจนชาไม่รู้ว่าหัวใจยังเต้นอยู่หรือป่าว
“คุณธีเป็นอะไรนั่งตัวสั่นเชียวหนาวหรือ...เอแต่แอร์ก็ไม่แรงนี่น่า”เพื่อนที่นั้งข้างๆธีรดลถาทเมื่อเห็นเจ้าตัวนั่งตัวสั่นอย่างกับลูกนกตกน้ำ
“ไม่เป็นไรแอร์มันแรง”ธรีดลตอบเสียงเบาพยายามบังคับตัวเองไม่ให้สั่นพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นจิบ
“เอาตกลงมึงจะเอาไงหรือจะให้พวกกูช่ายพูดให้ก็ได้นะเว้ย”บทสนทนาที่ทำร้ายธีรดลยังดำเนินต่อไป
“ไม่ต้องกูรู้ว่ากูควรทำยังไง..พรุ่งนี้ทุกอย่างจะเรียบร้อย”ปรมินบอกเพื่อนจบ
เสียงแก้วน้ำตกแตกพร้อมกับเสียงคนร้องด้วยความตกใจเรียกความสนใจกลุ่มของปรมินได้เป็นอย่างดี
“ดล”ปรมินครางเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ในกลุ่มที่ร้องเพราะแก้วแตกเมื่อครู่
“คุณธีเป็นอะไรหรือป่าว..ระวังแก้วบาดอย่าไปเก็บ เดี๋ยวให้แม่บ้านมาเก็บ”เพื่อนผู้หญิงร้องบอกเมื่อเห็นธีรดลกำลังจำจับแก้วที่ทำแตก
ธีรดลไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมอง ได้แต้ก้มหน้าซ่อนเอาไว้ในสมองตอนนี้คิดอยู่อย่างเดียวว่าอยากจะกลับบ้าน...
บ้านไหนกันเสียงเยาะเยยในหัวถามธรีดล
“เอ่อเราขอกลับก่อนนะวันนี้ไม่ค่อยดีเลยแล้วคราวหน้าเจอกันใหม่นะ...ขอโทษที”
ธีรดลรวบรวมกำลังลาเพื่อนๆก่อนที่ใครจะเอ่ยอะไรธีรดลก็เบียดแทรกทุกคน
รวมทั้งกลุ่มเพื่อนของคนรักออกไปนอกร้านแล้วออกแรงวิ่งสุดชีวิตไปให้ไกลจากตรงนั้นให้มากที่สุด
ธีรดลวิ่งมานานเท่าไหร่ไม่รู้แต่ที่ชายโครงเริ่มเจ็บร้าวจนเจ้าตัวต้องหยุดวิ่งก่อนที่จะทรุดลงนั่งเพราะขายืนไม่ไหวอีกแล้ว
“เจ็บ...เจ็บทำไมมันเจ็บ”ธรีดลถามตัวเอง มีเพียงเสียงเยาะเย้ยที่ดังตอบกลับมา “เจ็บเพราะโง่ยังไงเล่า”
หลังจากที่นั่งอยู่ที่ข้างถนนจนผู้คนที่เดินผ่านไปมาเริ่มมองเค้าเป็นตัวประหลาด
ธีรดลค่อยๆลุกขึ้นก่อนที่มองหารถโดยสารเพื่อกลับไปบ้านที่ความจริงอันโหดร้ายกำลังรอเค้าอยู่
เมื่อกลับมาแล้วธรีดลก็พบปรมินยืนรอเค้าอยู่ที่หน้าบ้านด้วยอาการกระวนกระวาย
จนเมื่อได้ยินเสียรถมาจอดที่หน้าบ้านเรียกความสนใจ ปรมินเห็นสภาพคนรักแล้วก็สะท้อนใจ
“ดล...ไปไหนมารู้ไหมว่าผมเป็นห่วง”ปรมินถาม
“ขอโทษที่ทำให้ลำบากเป็นห่วง...ขอโทษที่ผมไม่เคยรู้เลยว่าที่ผ่านมาคุณต้องมาติดอยู่กับผม..
ขอโทษที่ผมเห็นแก่ตัวรักคุณโดยไม่ได้รู้เลยว่าคุณไม่ได้รักผม..คุณไม่ต้องรอ
ถึงพรุ่งนี้...ไม่ต้องรอผมขอเข้าไปเก็บของแป็บเดียว...แล้วผมจะหายไปจากชีวิตคุณตลอดไป”
“ดลพูดอะไร..วันนี้พรุ่งนี้อะไร”
ปรมินใจหายไม่นึกว่าพอเอาจริงแล้วเค้าไม่สามารถปล่อยให้ธีรดลเดินออกไปจากชีวิตเค้าได้ อย่างที่ตั้งใจ
“ผมไม่ได้เป็นควายที่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องนะ....คุณควรจะดีใจที่ผมไปได้อย่างคุณต้องการ
เพราะงั้นเลิกสร้างภาพแบบที่เพื่อนคุณบอกได้แล้ว”ธีรดลตะคอก ก่อนที่จะเดินนี้เข้าไปในบ้าน
“.......”ปรมินนิ่งอึ่งนึกไม่ถึงว่าธรีดลผู้เคยยอมเค้าทุกอย่างธรีดลผู้อ่อนหวานจนบ้างครั้งเค้านึกอายแทนผู้หญิงบ้างคนเสียอีก
ธีรดลกลั้นน้ำตาเอาใว้ไม่ให้ไหลออกมาเพื่อแสดงความอ่อนแอให้อีกฝ่ายเห็น
ก่อนจะลงมือเก็บเอาเสื้อผ้าสองสามชุดที่มีคุณค่าทางใจใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็กอย่างรวกๆเพื่อจะได้รีบไปจากที่นี่ก่อนที่น้ำตาไหลลงมา
“ผมต้องทำอย่างไง ดล..เพื่อที่ดลจะอยู่กับผมต่อไป”เสียงปรมินดังขึ้นข้างหลัง
“....”ธีรดลเงียบก่อนจะหันมาเผชิญหน้าด้วยแววตาปวดร้าว
ก่อนที่จะคว้ากระเป๋าใบเล็กเดินออกมาอย่างรีบเร่งเพราะกลัวว่าน้ำตาที่อดกลั้นไว้จะไหลลงมา
“ดล..คุณไม่ได้รักผมแล้วใช่ไหมคุณถึงได้จะทิ้งผมไปแบบนี้”ปรมินถามก่อนที่รดลจะก้าวขาออกไป
“คำถามนี้ผมควรถามคุณมากกว่าไม่ใช่หรือไง...ถ้าอยากได้คำตอบผมก็มีคำตอบให้..
ผมรักคุณมากจนไม่อยากจะทิ้งคุณไปไหน...แต่คุณตั้งหากที่บอกกับใครๆว่าคุรไม่ได้รัก
ผมเลยถึงผมจะทิ้งคุณแล้วมันต่างอะไรกับที่คุณจะทิ้งผม...
มันต่างกันตรงไหน..ในเมื่อทั้งสองอย่างก็มีแต่ผมคนเดียวที่เจ็บปวดตาในขณะที่คุณมีความสุข”
...
อีครึ่งมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ :z10:แต่จะรีบเขียนแล้วนำมาลงให้นะครับ