ตอนที่ 9
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนที่ฟ้ามืดไปแล้ว ผมนี่ฝันอะไรเสียเป็นเรื่องเป็นราว ไปส่งงานกลับมาแล้วนอนกลางวันยังจะฝันกลางวันได้อีก ผมขยับตัวจะลุกไปล้างหน้าก็ต้องชะงักเพราะรู้สึกเจ็บช่องทางข้างหลังเหลือเกิน ความรู้สึกเจ็บนี้ทำให้ผมเริ่มมองรอบตัวใหม่ให้ชัดๆ
เตียงรูปทรงทันสมัยกว้างขวางที่ผมนอนอยู่ปูผ้าปูที่นอนสีน้ำเงินเข้ม มีหมอน หมอนข้างและผ้านวมที่ผมห่มอยู่เป็นลายเรียบๆ เข้าชุดกัน ข้างเตียงเป็นโต๊ะวางโคมไฟแก้วเจียระไนสีฟ้าอ่อน เครื่องเรือนในห้องมีแต่ของทันสมัยทำให้ผมแน่ใจว่าไม่ได้อยู่ห้องตัวเองอย่างแน่นอนแล้ว ผมลำดับความคิดใหม่แล้วก็พบว่าเรื่องนายยอร์ชนั้นเป็นความจริง ผมไม่ได้ฝันไป คิดได้ดังนั้นผมก็ซบหน้าลงกับฝ่ามือ ร้องไห้ให้กับตัวเองที่ต้องตกเป็นเหยื่ออารมณ์ที่ผมไม่รู้เหตุผลของเขา เสียงเปิดประตูทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
นายยอร์ชยืนอยู่ตรงกรอบประตูทำหน้าเหมือนจะสำนึกผิด แค่ผมเห็นเขาก็เกลียดเข้าไส้แล้ว ต้องสะบัดหน้าหนีมองไปให้ไกลๆ
“ภาม...พี่ขอโทษ”เขาบอกเสียงสำนึกผิด
“ออกไป”ผมบอก ไม่หันไปมองหน้าเขา
“ภามให้พี่อธิบายก่อนนะ”
“ออกไป”ผมยังยืนยันคำเดิม
“แต่ว่าพี่...”
“ก็ผมบอกให้คุณออกไปไง!”ผมหันมาตะโกนใส่หน้าเขา น้ำตารินไหลเป็นสาย เห็นเขาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่ก็ยอมออกไปจากห้องแต่โดยดี
ผมนั่งคิดหาทางจะออกไปจากที่นี่ ออกไปจากห้องของเขา ถ้าขอเขาดีๆ เขาคงยอม ตอนนี้น้ำตาผมหยุดไหลไปแล้ว ผมใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงก็ปรับจิตใจให้เป็นปกติเกือบจะเหมือนเดิมที่สุด ยังไงผมก็เป็นผู้ชาย คิดเสียว่าโดนคนโรคจิตข่มขืนก็เท่านั้น ผมต้องเข้มแข็ง
เสียงโทรศัพท์ข้างหัวเตียงดังขึ้นทำลายความเงียบในห้อง ผมปล่อยให้มันดังอยู่นานเจ้าของก็ไม่ยอมเข้ามารับเสียทีจนต้องรับเองในที่สุด
“ครับ”ผมกรอกเสียงลงไป
“คุณชายธราเทพหรือครับ?”เสียงปลายสายถามมาอย่างไม่แน่ใจ เป็นเสียงผู้ชายที่น่าจะเป็นวัยรุ่นหรือไม่ก็ไม่น่าจะอายุเกินสามสิบ
“ครับ? ใครนะครับ”ผมถาม
“ไม่ทราบว่าตอนนี้เรียนสายอยู่กับใครครับ?”ปลายสายยังคงถามมาอย่างสุภาพ
“เอ่อ ภามครับ”ผมตอบคำถามงงๆ บอกไปแล้วเขาจะรู้จักผมไหมเนี่ย
“อ้อ คุณหนูภามนั่นเอง ไม่ทราบว่าคุณชายธราเทพ เอ่อ...ผมหมายถึงคุณชายยอร์ชอยู่ใกล้ๆ คุณภามหรือเปล่าครับ?”เขารู้จักผมได้ยังไงกันเนี่ย แปลกเหลือเกิน
“เขาอยู่ข้างนอกครับ เดี๋ยวผมเรียกให้”ผมกำลังจะลุกลงจากเตียงแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอยู่สักชิ้นเลยต้องตะโกนออกไป
“คุณ คุณ โทรศัพท์”ไม่มีเสียงใดๆ ตอบรับมาจากข้างนอก
“คุณ”ผมตะโกนเรียกอีกครั้งแต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ยอร์ช!”ผมตะโกนอย่างเหลืออดและนั่นก็ทำให้ประตูห้องเปิดเข้ามาทันที
นายยอร์ชเดินมาที่โทรศัพท์แล้วยักคิ้วให้ผมก่อนจะยกหูขึ้นมาฟัง ผมนั่งเสหน้าไปทางอื่นเพราะยังรู้สึกโกรธเขาไม่หาย
“ฉันเอง อืม อือ ตามใจ”เสียงเขาพูดอยู่ข้างๆ
“อือ ฉันพาเขามาเอง” “อือ ก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ เออ” “ไม่ต้องๆ แค่นี้เคลียร์ได้น่า นายมีอะไรจะไปทำก็ไปไป”เขาว่าแล้ววางสายลงก่อนที่จะหันมาเล่นงานผม
“ภาม”เสียงเรียกของเขาทำให้ผมสะดุ้ง
“คุณ คุณพาผมไปส่งที่หอเถอะ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่ ไม่อยากอยู่กับคุณ บอกตรงๆ ...ผมกลัว”ผมหันหน้าไปบอกเขาอย่างไม่ไว้ใจ เขาเขยิบเข้ามานั่งข้างๆ ผมจนผมต้องกระเถิบหนีแต่เขาก็ตามมาจับแขนผมไว้
“ยังเรียกคุณอยู่อีกนะ หรืออยากโดนอีกที”เขาถามเสียงดุๆ
“คุณ...”
“ยังๆ ยังไม่ยอมเลิกนะ”เขาเลิกคิ้วถาม
“พี่...”ผมบอกเบาๆ ไม่คุ้นปาก
“อะไรนะ ไม่ได้ยิน”เขาคลายมือที่บีบแขนผมไว้เล็กน้อย
“พี่”ผมบอกเสียงดังขึ้น
“พี่อะไร?”
“พี่...พี่ยอร์ช”พูดออกไปจนได้ในที่สุดก็ได้ยินเขาทำเสียงในลำคออย่างพอใจ
“ว่ายังไง มีอะไรจะต่อรอง”
“คุณ...พี่ยอร์ชพาผมกลับเถอะนะ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”ผมกลัว ตอนนี้ผมกลัวเขาจริงๆ
“ภามจะกลับได้ก็ต่อเมื่อสัญญาว่าภามจะไม่เกลียด ไม่กลัวพี่แบบนี้ ถ้าเจอกันข้างนอกภามจะต้องคุยกับพี่ดีๆ”นายยอร์ชบอก ผมเงียบไม่มีคำตอบให้เขา มันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะไม่เกลียดหรือกลัวเขา ในเมื่อเขาทำกับผมแบบนี้
“งั้นก็ไม่ต้องกลับ อยู่กับพี่นี่แหละ”เขาบอกแล้วลุกขึ้นยืน
“ให้ผมกลับเถอะนะ”ผมขอร้องอย่างหมดท่า ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไป
“นอนก่อน ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยคุยกัน”เขาอ้อมมาที่เตียงอีกฝั่งแล้วแทรกตัวเข้ามาในผ้าห่ม ดึงผมเข้าไปไว้ในอ้อมกอด
“พี่เช็ดตัวให้แล้วตอนภามหลับ ไว้พรุ่งนี้ตื่นมาแล้วค่อยตกลงกันใหม่ คืนนี้นอนได้แล้ว”ผมตัวแข็งทื่อเมื่อถูกกอดใต้ผ้าห่มทั้งๆ ที่ร่างเปลือยเปล่า แม้เขาจะใส่เสื้อผ้าอยู่ครบก็ตามที แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมามันก็ทำให้ผมฝังใจจนหวาดระแวงในตัวเขาไปหมดทุกอย่าง ผมนอนลืมตาระวังภัยอยู่ได้ไม่นานความง่วงก็เข้าเล่นงาน บวกกับความอ่อนเพลีย ในไม่ใช้ผมก็หลับไปทั้งๆ ที่ถูกเขาโอบเอาไว้แบบนั้น...
ผมตื่นขึ้นมาในตอนสายของอีกวันหนึ่งก็พบว่าตอนนี้ข้างตัวมีเพียงหมอนข้างวางไว้ ตอนนี้คนที่เคยอยู่ข้างๆ ผมเมื่อคืนไม่ได้อยู่บนเตียงนี้แล้ว ผมมองจนแน่ใจว่าในห้องนี้มีผมอยู่เพียงคนเดียวจึงรีบลุกแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ อาการเจ็บที่มีเมื่อคืนทุเลาลงแล้วแต่ก็ยังเหลืออาการที่แสดงให้รู้ว่าเมื่อวานนี้ผมต้องผ่านอะไรมา ผมเปิดฝักบัวปล่อยให้น้ำเย็นๆ ไหลผ่านตัวเองราวกับว่าจะให้มันชะล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่แปดเปื้อนตัวและจิตใจของผมออกไป แต่ไม่เลย...ตัวของผมสะอาดขึ้น แต่ใจผมกลับหม่นหมองจนแทบจะกลายเป็นสีดำ...
เมื่อผมอาบน้ำฟอกสบู่จนพอใจแล้วก็หยิบผ้าเช็ดตัวที่เห็นแขวนไว้ในห้องมาพันตัวก่อนที่จะเดินออกไป หาเสื้อผ้าของผมเท่าไหร่ก็หาไม่เจอจนต้องเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของเขาเลือกเสื้อยืดสีขาวที่ดูจะมีลายน้อยที่สุดออกมากับกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาลเข้ม เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องออกไปเผชิญหน้ากับเขา เขาที่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะเกลียด จะกลัว หรือจะเพียงแค่โมโหที่ทำกับผมแบบนี้ดี ผมสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกกำลังใจแล้วกดด้ามจับประตูเพื่อเปิดออก หันซ้ายหันขวาก็เห็นเขากำลังวุ่นวายอยู่กับการทำอะไรสักอย่างที่โต๊ะตัวหนึ่งอยู่ในมุมที่ดูท่าว่าจะเป็นครัว
“อ้าวภาม ตื่นแล้วหรือ? พี่ว่าจะเข้าไปปลุกพอดี”เขาเงยหน้าขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิดแล้วยิ้มทักทายผมเหมือนเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เกิดขึ้น
ผมเดินไปหาเขาเงียบๆ พยายามทำตัวให้เป็นปกติ ไม่อยากให้เขารู้ว่าที่จริงความรู้สึกตอนนี้ผมย่ำแย่แค่ไหน บางทีถ้าเขารู้ เขาอาจจะดีใจหรือสมน้ำหน้าผมก็ได้
“พี่ลงไปซื้อข้าวต้มปลามาให้ เห็นภามชอบกิน มาสิๆ นั่งๆ กินข้าวก่อน”เขาเดินอ้อมโต๊ะมาทางฝั่งผมแล้วจับไหล่ผมให้นั่งลงที่เก้าอี้แต่ผมปัดมือเขาออก ทำยังไงได้...ในเมื่อเรื่องเมื่อคืนมันยังตามหลอกหลอนผมอยู่จนถึงขณะนี้
“ภาม...”เขาเรียกชื่อผมน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจก่อนจะจับผมแน่นแล้วกดผมให้นั่งลงที่เก้าอี้
“นั่งลงแล้วกินข้าว มีอะไรค่อยคุยกัน พี่หิว”เขาบอกแล้วเดินกลับไปนั่งฝั่งตรงข้าม ความรู้สึกของผมตอนนี้ผมไม่คิดว่ายังจะกินอะไรลงหรอก ผมปล่อยช้อนและชามข้าวต้มให้วางอยู่ที่เดิม แต่เริ่มที่จะต่อรองกับเขาแทน
“คุณ...”เขาเงยหน้าวางช้อนดังเคร้งทันทีที่ผมเรียกเขา
“พี่ยอร์ช ไม่ใช่คุณ”คิ้วเขาขมวดอย่างที่ทำบ่อยๆ เวลาไม่พอใจ
“...ยอร์ช”ผมเปลี่ยนคำเรียกเขาใหม่ ในตอนนี้ผมให้เขาได้แค่นี้จริงๆ
“ภาม!”เขาทำเสียงเข้ม ดูไม่พอใจอย่างมาก
“ผมให้คุณได้แค่นี้แหละในตอนนี้ ถ้าหากคุณคาดคั้นอะไรผมมากกว่านี้ผมคงให้คุณไม่ได้แล้ว”ผมชักทนไม่ไหวบ้างเหมือนกันเลยบอกกลับไปอย่างโมโหๆ เห็นเขาถอนหายใจก่อนจะหันมามองผมใหม่
“ก็ได้...ตอนนี้แค่นี้ก่อนก็ได้”เขาเสียงอ่อนลง ดูพยายามไม่โมโหผม
“ให้ผมกลับเถอะ ผมคงกินอะไรไม่ลง ส่วนเรื่องเมื่อคืน...ผม... ผมจะคิดว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น และหวังว่าผม...จะไม่ต้องเจอคุณอีก”
“ไม่มีทางหรอกภาม!”เขาตะคอกผมอีกครั้งซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมคาดไว้แล้วล่วงหน้า
“ภามอย่าลืมสิว่าตอนนี้ภามเป็นของพี่แล้ว พี่ไม่มีทางที่จะไม่ไปให้ภามเห็นหน้าได้หรอก แล้วที่สำคัญ ภามต้องอยู่กับพี่ ห้ามไปไหนทั้งนั้น!”นายยอร์ชโกรธจนตาแดง
“ผมอยู่กับคุณไม่ได้ และผมก็ไม่ได้เป็นของใคร เราไม่ควรที่จะเจอกันอีก นี่คือสิ่งที่เราควรทำ”ผมที่ตอนนี้เริ่มทำใจได้แล้วกล่าวเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“ภามเลิกคิดไปได้เลยว่าพี่จะปล่อยภามไป! ถ้าอยากกลับหอก็กินข้าวซะแล้วพี่จะไปส่ง แต่อย่าหวังว่าพี่จะเลิกยุ่งกับภาม!”เขาพูดเสียงดังแล้วจ้องหน้าผมส่งสายตาคมๆ มาให้ ผมเห็นว่าคงคุยกันไม่รู้เรื่องจึงก้มหน้ากินข้าวทั้งๆ ที่ไม่หิว ทำตามที่เขาสั่งแล้วเขาคงพอใจแล้วไปส่งผมกลับตามสัญญา ถึงเขาจะพูดอย่างนั้น แต่ผมคงหาทางหลีกเลี่ยงที่จะไม่เจอเขาได้ ยังไงก็อยู่คนละคณะกัน เขาจะคิดยังไงก็เชิญตามสบาย....
To be continued
____________________________________________
อิตา่ยอร์ชนี่แย่เน้อะ
ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น
ตอนหน้าจะเป็น Special Part ของอิตายอร์ชนะจ้ะ บางทีหลายๆคนอ่านอาจจะเข้าใจนายโหดมากขึ้น(มั้ง??)
ตอบ εїз_PmïÄÑyK - เรียกเรานัทก็ได้จ้า เราเองก็ใช้ยูสเซอนี้หลายบอร์ดอยู่บางที่ก็เรียกเราฮินะ(คล้ายๆคุณฮิบาริเลย อิอิ) ส่วนคนแต่งให้มันมาบอกเองละกัน
Pumpkin- เสียงน่ารักล่ะสิ เจ้าตัวเองก็ไม่ได้บอกเหมือนกันค้าว่าเป็นใคร แต่ยังไงก็ต้องขอขอบคุณที่มาร้องเพลงเพราะๆให้ฟังกันนะ
พบกันใหม่ตอนหน้าจ้า