บทที่ 20 ปรับความเข้าใจ
................
หลังจากลำไยได้เชยชมเมฆาจนสมใจแล้ว ก็ปล่อยให้เมฆาเป็นอิสระแต่ยังมิวายชำเลืองตามองเมฆาด้วยความอาลัย ทางด้านราตรีก็ได้นำเงินหนึ่งล้านขึ้นมาจ่ายให้กับลำไย ซึ่งอีกฝ่ายก็รับเงินมาก่อนจะให้ราตรีเซ็นใบสัญญาว่าเป็นผู้ซื้อเสื้อผ้าของลำไย
“ทีนี้ก็เรียบร้อย อีกห้าวันในเกมน้องก็เอาใบสัญญารับของนี้มารับเสื้อผ้าได้เลยนะฮ้า” พี่ลำไยบอกราตรีในขณะที่ยื่นใบสัญญามาให้
“ฮะพี่ลามยาย” ราตรีตอบพลางรับใบกลับมาก่อนจะเก็บมันใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วจากนั้นจึงหมุนตัวกลับไปมองเมฆา ซึ่งชายหนุ่มกำลังนั่งร้องไห้เช็ดน้ำตาโดยมีมาริโอยืนปลอบใจอยู่เคียงข้าง
โถ ไม่เหลือมาดที่เจอกันครั้งแรกเลย
เฮ้อ น่าสงสาร ปวีณาจะรับฟ้องไหมนี่ราตรีครุ่นคิดอย่างหนักใจก่อนจะเดินไปหาเมฆา
“ม่ายเป็งรายช่ายหมายฮะ” ราตรีถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบหากแต่ในมุมมองของเมฆานั้น เสียงนี้ช่างดูเหินห่างเสียยิ่งกระไรดี
“อะ…อืม พี่ไม่เป็นไรแล้วครับน้องราตรี” เมฆาตอบพลางใช้มือปาดน้ำตาออกก่อนจะกระแอมไอพูดต่อไปว่า “คือว่าพี่มีเรื่องจะคุยด้วย น้องราตรีอยู่คุยกับ…”
“ขอโทษด้วยนะ พอดีพวกข้าไม่อยากสนทนากับพวกที่ชอบทิ้งเพื่อน” มาริโอพูดแทรกกะทันหัน ซึ่งทำเอาเมฆาถึงกับหน้าซีดอ้าปากค้าง
“นี่ผ้าเย็งฮะ ป๋มหวางว่ามานจาช่วยทามห้ายพี่ชายดีขึ้น” ราตรีบอกพลางส่งผ้าเย็นที่ได้มาจากพี่ลำไยให้เมฆา ซึ่งชายหนุ่มมองผ้าเย็นสลับกับใบหน้าของราตรี “ราบปายฉิฮะพี่ชาย”
“น้องราตรีอย่าทำแบบนี้กับพี่ชายได้ไหมครับ” เมฆาพูดด้วยความรู้สึกเจ็บช้ำใจที่เห็นราตรีทำท่าเหินห่างตน ส่วนราตรีนั้นไม่ได้พูดตอบอะไรเมฆากลับไปเลยสักคำ ได้แต่วางผ้าเย็นบนมือของเมฆาก่อนจะเดินกลับไปยังมาริโอ
“ปายกานเถอะมะรีโอ้”
“อืม” มาริโอตอบพลางย่อตัวลงให้ราตรีได้ปีนขึ้นอย่างถนัด เมื่อราตรีปีนขึ้นไปอยู่บนหัวมาริโอแล้ว มาริโอก็พลันหมุนตัวกลับไปทางประตู
“เดี๋ยวก่อนสิครับน้องราตรี ตอนนั้นพี่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งน้องไปเลยนะครับ” คราวนี้มาริโอถึงกับหยุดชะงักเดินเมื่อได้ยินคำพูดของเมฆา
“คิดจะแก้ตัวตอนนี้มันไม่สายเกินไปแล้วรึไง” มาริโอหันมาพูดแทนราตรี เพราะมันคิดว่าเจ้านายของมันกำลังรู้สึกเจ็บปวดใจอยู่ “ไหนบอกว่าจะอยู่ข้างเจ้านายของข้า ฮึ มนุษย์อย่างแกมันไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด”
เมื่อมาริโอพูดจบก็หันตัวกลับก่อนจะก้าวเท้าพาราตรีเดินออกข้างนอกไป
“มัวยืนทำซากไรอยู่เล่า รีบตามพวกน้องเค้าไปสิยะตะเอง” ลำไยพูดพลางใช้มือดันไหล่เมฆา
“แต่พวกเขาเกลียดข้าแล้ว” เมฆาพูดอย่างลังเลใจ
“เกลียด? เขาบอกเกลียดตะเองหรือเปล่าล่ะย่ะ” ลำไยพูดย้อน “เดี๊ยนไม่เห็นน้องราตรีพูดอะไรเลยสักคำ มีแต่น้องเห็ดมาริโอพูดอยู่คนเดียว รีบๆไปเร็วเข้า เดี๋ยวก็เดินตามไม่ทันหรอก!”
คราวนี้ลำไยไม่ได้ใช้มือดันหลังเมฆาแต่กลับใช้เท้ายันหลังเมฆาอย่างแรง จึงทำให้ชายหนุ่มกระเด็นกระดอนออกนอกร้านไป
“ขอให้โชคดีนะฮ้าสุดหล่อ” ลำไยตะโกนเชียร์เมฆาที่กำลังตัวลอยออกนอกร้านด้วยลำไยไรเดอร์คิกก่อนจะปิดประตูดังปัง
.........................
“รัตติ เมฆาเดินตามพวกเรามาด้วยล่ะ”
มาริโอบอกราตรีในขณะที่มันพาเธอเดินไปยังตึกผู้เล่นใหม่ตามคำสั่ง หากแต่ราตรีหาได้หันกลับไปดูชายหนุ่มไม่
เขาผิดสัญญาเขาทอดทิ้งเราราตรีครุ่นคิดในใจ ซึ่งเธอตั้งใจไว้ว่าจะไม่สนใจเมฆาอีก
“ช่างเขา เดี๋ยวก้อเบื่อแย้วเลิกเดินตามเองแหละ ม่ายต้องปายฉนหยอกมะรีโอ้”
“อืม เข้าใจแล้วล่ะ” เมื่อมาริโอพาราตรีเดินเข้าไปยังตึกผู้เล่นใหม่แล้ว เธอก็ให้มาริโอพาเธอไปยังเคาน์เตอร์ที่เขียนไว้ว่า ‘จุดรับภารกิจ’
“ว่ายังไงพ่อหนุ่มน้อย มากับคุณเห็ดมาริโอรึคะ” พนักงานหญิงกล่าวทักทายทันทีที่เห็นราตรีกับมาริโอมายืนตรงหน้าเคาน์เตอร์
“เอ่อ...ฮะ” ราตรีตอบเสียงเลิ่กลั่ก “เอ่อ...ป๋มมารับพาละกิดฮะพี่ฉ๋าว”
พอราตรีพูดจบ พนักงานสาวถึงกับขมวดคิ้วมองราตรีตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะทำปากร้องอ้อ
“กรุณารอสักครู่นะคะน้อง เดี๋ยวพี่มา” พนักงานสาวบอกก่อนจะผละหายเข้าไปในห้องชั่วครู่ ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีก็โผล่หน้ากลับมาอีกครั้ง “ต้องขออภัยที่ให้คอยนานค่ะ”
“ม่ายเป็งรายฮะ” หญิงสาวยิ้มรับก่อนจะคีย์ข้อมูลลงบนแป้นพิมพ์ใสสีเขียว
“กรุณาระบุชื่อของน้องด้วยค่ะ”
“อ่า...ราตีพิฉุดฮะ” แล้วหญิงสาวก็เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าพูดกับเธอว่า
“ภารกิจแรกที่น้องจะได้ทำก็คือขุดแร่ค่ะ”
“ขุดแร่?”
“ท่านได้รับภารกิจระดับ C คือขุดแร่เงินกับแร่ดีบุกให้ได้อย่างล่ะ 50 ก้อน”ระบบประกาศดังในหัวราตรี ซึ่งทำเอาเธอถึงกับขมวดคิ้ว
“ขุดแร่นี่มานต้องทามกานยางงายหยอฮะพี่ฉ๋าว ป๋มม่ายค่อยเข้าจายเยยฉักนิด” พนักงานสาวได้ยินที่ราตรีถามก็ฉีกยิ้มหวานก่อนจะตอบคำถามว่า
“ไม่ยากเลยค่ะน้องชาย แร่ในเกมของเราเป็นแร่ที่ขุดง่ายมาก ง่ายกว่าขุดกระทู้ในบอร์ดประมูลเสียอีกค่ะ ถึงน้องจะเป็นผู้เล่นที่มีเลเวลน้อยหรือเด็กก็สามารถขุดได้ค่ะ”
“แย้วใช้อารายนายกานขุดแร่ล่ะฮะพี่ฉ๋าว” ราตรีถามต่ออย่างสงสัย ซึ่งเธอเดาว่าน่าจะเป็นพวกจอบหรือไม่ก็เสียม
“อีเตอร์ค่ะน้อง” พนักงานสาวตอบยิ้มๆ “ถ้าน้องยังไม่มีอีเตอร์แล้วล่ะก็ ทางพี่มีอีเตอร์ให้น้องไว้ใช้ฟรีค่ะ”
“อีเตอร์?”
“ท่านได้รับอีเตอร์จำนวน 1 อัน”เสียงระบบประกาศดังก้องในหัวราตรี
“น้องลองเรียกอีเตอร์ออกมาดูสิคะ แล้วจะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง” พนักงานสาวบอกซึ่งราตรีพยักหน้าก่อนจะเดินลงจากหัวมาริโอ
“อีเตอร์จงออกมา”
แวบ!แสงสีทองส่องประกายไปทั่วบริเวณก่อนจะหายวับไป เผยให้เห็นอีเตอร์เด็กเล่นขนาดพอเหมาะ
บ๊ะ! ต่อจากค้อนพลาสติกเปลี่ยนมาเป็นอีเตอร์สำหรับเด็กเล่นรึนี่ราตรีขมวดคิ้วคิด
“เฮ้ย ทำไมมันเล็กขนาดนี้ล่ะ จะขุดไหวแน่รึ” มาริโอร้องทักท้วงเมื่อเห็นอีเตอร์ในมือของราตรี ซึ่งทำเอาพนักงานสาวรีบแย้งกลับไปว่า
“หรือคุณเห็ดมาริโออยากจะใช้ศีรษะของตัวเองแทนสว่านเจาะหินหรือคะ”
“ขอโทษคร้าบ หนูผิดเองคร้าบ!” มาริโอร้องพลางก้มหัวขอโทษ ทำเอาราตรีนึกขำกับท่าทางของมัน
“ว่าแต่พาระกิดนี้ต้องฉ่งเมื่อหร่ายฮะ” ราตรีหันไปถามหญิงสาวต่อ
“อ้อ ภารกิจนี้ทางเราไม่จำกัดเวลาค่ะ น้องจะส่งเมื่อไหร่ก็ย่อมได้” พนักงานสาวตอบ แล้วหลังจากนั้นราตรีก็บอกลาพนักงานสาวก่อนจะปีนขึ้นหัวมาริโอต่อ
“ปายกานเถอะมะรีโอ้ ปายทามพาระกิดกาน”
“อืม” เมื่อมาริโอพาราตรีเดินออกไปข้างนอกตึกแล้ว กลับหยุดชะงักเดินเนื่องจากเห็นเมฆายืนรออยู่ด้านหน้าประตูแล้ว “คนบางคนทิ้งเพื่อนแล้วยังหน้าด้านได้อีก”
มาริโอพูดแขวะ หากแต่ราตรีพรายกระซิบบอกมันให้เดินต่อ ซึ่งมาริโอก็ทำตามคำสั่ง พอมาริโอออกเดินไปสี่ห้าก้าวแล้ว เมฆาก็รีบเดินตามทันที ทว่าเส้นทางที่พวกราตรีจะไปเหมืองแร่นั้นมันอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับป่าหุบเขาวงกต แถมมีระยะไกลพอสมควรด้วย จึงทำให้พวกราตรีต้องคอยหยุดแวะพักเหนื่อยเอาแรงตามข้างทางทุกหนึ่งชั่วโมง
“รัตติ จะแวะหาลุงมานาด้วยไหม” มาริโอเอ่ยปากถามในขณะนั่งบิดขี้เกียจ
“ม่ายล่ะ” ราตรีตอบพลางเขย่าขวดนมของตัวเอง “เพาะถ้าแวะหาลุงมานาด้วยมีหวางถึงเหมืองแร่ตอนเช้าแน่”
แล้วความเงียบก็เข้าครอบงำ ราตรีนั่งดูดขวดนมของตัวเองไป ส่วนมาริโอก็นั่งดูดน้ำจากขวดแก้วสลับกับมองเมฆาที่ซึ่งนั่งอยู่ห่างจากพวกตนไปหนึ่งร้อยเมตรไปพลางด้วย
“รัตติ”
“หืม?”
“จะเอายังไงกับเจ้านั่นดีล่ะ” มาริโอพูดเสียงเบาเพราะกลัวชายหนุ่มจะได้ยิน “มันตามเจ้ามาตลอดตั้งแต่ร้านนางกระทิงแล้วนะ”
ราตรีอ้าปากออกจากจุกหัวนมก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
“ช่างเค้าฉิ จาตามก้อป่อยห้ายตามปาย” แล้วราตรีก็ดูดนมต่ออย่างไม่ใส่ใจ ส่วนมาริโอนั้นเมื่อเห็นว่าเจ้านายไม่ได้สนใจไยดีกับเมฆาแล้ว มันก็เองก็เลิกที่จะสนใจแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งผิดกับทางด้านเมฆาที่นั่งคิดหาหนทางจะเข้าหาราตรีเพื่อพูดคุยด้วย ทว่าพอชายหนุ่มนึกถึงคำพูดของมาริโอแล้ว ก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกอย่างแรง
ถูกของมัน ถึงเขาพูดแก้ตัวไปก็เปล่าประโยชน์เมฆาครุ่นคิดอย่างหนักใจ ชายหนุ่มคิดว่าถ้าได้ออฟไลน์เกมแล้วล่ะก็ เขาจะออกไปเอาเรื่องกับเจ้าหน้าที่ของเกมให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายเอ็นพีซีที่เขาตั้งใจว่าจะต้องเผชิญกับการลงทัณฑ์ที่ยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น พอเมฆาหันไปมองพวกราตรีอีกครั้ง ก็พบว่าทั้งสองได้ลุกขึ้นเดินแล้ว ซึ่งทำเอาเมฆาต้องรีบเก็บสัมภาระก่อนจะลุกขึ้นเดินตามอย่างไว ซึ่งเมฆาเดินตามพวกราตรีได้อยู่เกือบชั่วโมง เขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าราตรีกับมาริโอกำลังเผชิญหน้ากับพวกกลุ่มผู้เล่นที่มีแต่ผู้ชายร่างยักษ์อยู่ถึงสี่คน
เกิดอะไรขึ้นนะ?เมฆาได้แต่คิดอย่างสงสัยเพราะตนไม่กล้าเข้าไปใกล้ แถมตรงจุดที่เขายืนนี้ก็ไกลเกินกว่าจะได้ยินเสียงพูดสนทนาของราตรีได้ ทว่าเมฆามองไปได้สักพัก หนึ่งในสี่ผู้เล่นที่เป็นชายร่างยักษ์ก็ได้เดินเข้ามาจับแขนขาวอ้วนป้อมของราตรีก่อนจะกระชากร่างเล็กให้ลอยขึ้นตามแรง ซึ่งทำเอาร่างเล็กอันบอบบางถึงกับร้องเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บปวด
“แอ้!”
ไม่ได้การล่ะ ต้องรีบเข้าไปช่วยแล้ว!เมฆาคิดได้ดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย หยุด!” เมฆาตะโกนร้องพลางชักอาวุธขึ้นมาอย่างลืมตัว ซึ่งทำเอาทั้งสี่ร่างหันมามองชายหนุ่มพร้อมกัน “เป็นผู้ใหญ่เสียเปล่า คิดจะรุมรังแกเด็กทารกที่ไม่มีทางสู้ ไม่น่ามีจมูกไว้สูดออกซิเจนเลย”
“ฮ่าๆ คิดว่ากล้าได้ก็เชิญเข้ามาได้เลย แต่ไอ้เด็กนี่จะโดนลูกหลงไปด้วยนะ” ชายร่างยักษ์ผมเกรียนสีทองแดงพูดพลางชูราตรีให้เมฆาดู ซึ่งทำเอาเมฆาชะงัก
“ปล่อยเจ้านายของข้าเดี๋ยวนี้นะไอ้พวกสารเลว!” มาริโอตะโกนร้องด้วยความเดือดดาล แม้นมันจะพยายามเตะอีกฝ่ายให้กระเด็น แต่ทว่ามันก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากระดับของมันแตกต่างกว่าชายร่างยักษ์อยู่มาก “บอกให้ปล่อยไงเล่าไอ้บ้า! ปล่อยเดี๋ยวนี้!!”
“เฮ้ย! หนวกหูเฟ้ย!!” ชายร่างยักษ์อีกคนตวาดอย่างรำคาญก่อนจะใช้เท้าเตะท้องมาริโอทันที
บึก!
1000“อ็อก!” มาริโอกระอักเลือดก่อนจะกระเด็นหงายท้องนอนกับพื้นไป
“มะรีโอ้!” ราตรีร้องน้ำตาคลอเบ้าเมื่อเห็นมาริโอโดนทำร้าย
“กร็อด!” เมฆากัดฟันด้วยความโกรธ นี่ถ้าไม่ติดว่ามีราตรีเป็นตัวประกันอยู่แล้วล่ะก็ ชายหนุ่มคงจะฆ่าพวกนี้ไปนานแล้ว
“ลูกพี่ระวังหน่อย นั่นมันเมฆาราชาแห่งสมาคมเงาเชียวนะ” ชายร่างยักษ์ผมสีน้ำตาลที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบเดินมาพรายกระซิบบอกเพราะจำหน้าเมฆาได้ ซึ่งคนที่เป็นลูกพี่ได้ยินที่ลูกน้องบอกถึงกับอึ้ง
“เฮ้ย จริงดิ เรือหายแล้วไงพี่น้อง”
“ก็จริงสิลูกพี่ นี่ถ้าเมื่อกี้มันไม่เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วล่ะก็ ข้าก็คงจำมันไม่ได้หรอก” เมื่อชายร่างยักษ์ที่เป็นลูกพี่ได้รับรู้แล้ว ก็รีบหันหน้ามาทางเมฆาต่อ
“เฮ้ยไอ้รูปหล่อครับ ถ้าไม่อยากให้ไอ้เด็กนี่ตายล่ะก็ ส่งเงินกับของเทพๆ มาให้พวกผมเร็วๆ ครับ พวกผมไม่มีเงินไม่มีของเก็บเลเวลครับพี่”
“ได้ แต่ปล่อยเด็กคนนั้นก่อน” เมฆาตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา ทว่าพวกชายร่างยักษ์กลับหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินคำตอบของเมฆา
“เรื่องอะไร ปล่อยก่อนก็กลัวดิ กดรับเดลจิครับ” ชายร่างยักษ์ผมเกรียนสีทองแดงพูดเสียงเหี้ยม ก่อนจะใช้มืออีกข้างที่ว่างจับเข้าลำคอขาวเล็กของราตรี โดยไม่แม้แต่จะคิดว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่ไหนใช้คำว่าเดลในการแลกเปลี่ยน ในขณะที่หน้าต่างขอแลกเปลี่ยนปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเมฆา “กดๆสิวะ เฮ้ย กดสิ ให้ไวๆ กดๆ ส่งของมา ถ้าไม่อยากให้ไอ้เด็กนี่ตายคามือ!”
“อึ่ก!” ราตรีร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อมืออันกร้านใหญ่บีบลำคอของเธอแรงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งส่งผลให้เธอเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก นัยน์ตามืดมัว หูสองข้างเริ่มแทบไม่ได้ยินเสียงจากภายนอก แถมนอกจากนี้เรี่ยวแรงที่มีก็เริ่มถดถอยลงทีละนิดๆ
นี่หรือความตาย...
ช่างน่ากลัวเหลือเกิน...ในขณะที่ราตรีกำลังอยู่ในช่วงภาวะความเป็นความตายนั้น มาริโอเกิดผุดลุกขึ้นมาก่อนจะใช้ลูกฮึดกระโดดถีบชายร่างยักษ์โดยเล็งที่มือของอีกฝ่ายกะหมายจะให้ราตรีได้หลุดจากการจับกุม ทว่าชายร่างยักษ์ที่อยู่ด้านข้างเกิดรู้ตัวทันเสียก่อน จึงวาดเท้าเตะเข้าสีข้างมาริโออย่างแรง
พลั่ก!
1200“อั่ก!” มาริโอกระอักเลือดก่อนที่จะกระเด็นกลิ้งกับพื้นอยู่เสียหลายรอบ แล้วร่างจึงค่อยหยุดนิ่ง
“มาริโอ!” เมฆาร้องอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นมาริโอถูกโจมตีจนแน่นิ่งไป แม้ว่าชายหนุ่มกับมาริโอไม่ค่อยจะถูกกัน แต่เมฆายอมรับนับถือมันจากใจจริงเพราะได้เห็นความพยายามของมาริโอที่จะป้องกันเจ้านายของตัวเองอย่างไม่ยอมแพ้จนในวินาทีสุดท้าย
“อั่ก!” เสียงของร่างเล็กร้องดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เมฆารีบหันหน้ากลับมาก่อนจะตกใจเมื่อเห็นสีหน้าอันเขียวคล้ำเนื่องจากร่างเล็กเจียนจะหมดลมหายใจ
“ตกลง! อยากได้ก็มาเก็บเอาเอง!” เมฆาบอกเพราะเป็นห่วงราตรีสุดขีด ก่อนจะรีบโยนของที่มีในตัวทั้งหมดลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจว่าของชิ้นนั้นจะมีราคามหาศาลต่อเขามากเพียงใดก็ตาม “เอ้า ปล่อยเด็กสิ!”
ส่วนฝ่ายพวกชายร่างยักษ์เมื่อเห็นว่าเมฆาทำตามคำสั่งแล้ว ผู้เป็นลูกพี่ก็เชิดหน้าให้ลูกน้องเดินเข้าไปเก็บของที่ตกอยู่กับพื้นให้หมด เมื่อพวกมันเก็บเสร็จแล้ว ชายร่างยักษ์ผมเกรียนสีทองแดงก็โยนร่างเล็กขึ้นกลางอากาศ ในช่วงเวลาพริบตานั้นเอง ร่างของเมฆาก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วประดุจเงา เข้าประชิดกลุ่มชายร่างยักษ์ ก่อนจะตวัดดาบฟันเข้าที่ลำคอของพวกมันทั้งสี่อย่างรวดเร็ว
“เดมอนเบลดแดนซ์” (ระบำกระบี่มาร)
ฉัวะๆๆ
9999
9999
9999
9999“เนื่องจากผู้เล่นเมฆาโจมตีผู้เล่นด้วยกันเอง จึงทำให้ไม่ได้รับค่าประสบการณ์”วูบเดียวเท่านั้น พวกมันก็ล้มลงกลายเป็นศพอยู่เบื้องหน้าของเมฆาก่อนที่จะเลือนหายไป ทิ้งไว้เพียงกองไอเทมและเงิน ทั้งของพวกมันเองกับที่เมฆาโยนทิ้งไว้เพื่อหลอกล่อให้พวกมันตายใจเท่านั้น ส่วนเมฆาก็โจนขึ้นกลางอากาศรับเอาร่างเล็กไว้ในอ้อมอก แล้วจึงค่อยลงกับพื้นอย่างนุ่มนวล
“น้องราตรีครับ น้องราตรี ลืมตาสิครับน้องราตรี!” เมฆาพยายามร้องเรียกให้ร่างเล็กในอ้อมกอดตื่น แต่ทว่าราตรีหาได้ตอบขานเสียงเรียกของเมฆาไม่ “ขอร้องล่ะน้องราตรี ลืมตาขึ้นมามองพี่ชายคนนี้เถอะ พี่ชายคนนี้ไม่หวังอะไรอีกแล้ว นอกเสียจากขอให้น้องลืมตาขึ้น แค่ลืมตาขึ้นเท่านั้นเอง ขอร้องล่ะ”
เมื่อเมฆาพูดจบ ก็พลันกอดร่างเล็กสะอื้นไห้อย่างไม่อายฟ้าอายดิน แต่ทว่าเมฆาร้องไห้ไปได้ไม่นานเท่าไหร่นัก มือขาวอ้วนป้อมเกิดขยับขึ้นมาเสียเอาดื้อๆ ทำเอาคนร้องถึงกับหยุดร้องทันควันก่อนจะคลายกอดเพื่อดูสภาพของน้องราตรีด้วยความสงสัย
“แอ้” เสียงราตรีร้องไม่เป็นภาษาผนวกกับนัยน์ตาที่ยังคงปรืออยู่ ทำให้เมฆาทราบได้ว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในสภาวะเบลอไม่ได้สติ
“รอเดี๋ยวนะน้องราตรี พี่ชายคนนี้จะรีบรักษาให้แล้วนะครับ” เมฆาบอกพลางหยิบขวดยาเพิ่มเลือดออกมา ก่อนจะเปิดฝาจุกออกแล้วยกขวดขึ้นกระดกโดยอมน้ำไว้ที่กระพุงแก้ม แล้วจากนั้นจึงค่อยยื่นหน้ามาใกล้ชิดกับราตรีก่อนจะแนบริมฝีปากกับริมฝีปากอันน้อยนิดของราตรีอย่างแผ่วเบา
“อึ่กๆ” เสียงกลืนน้ำยาดังมาจากลำคอของราตรี ซึ่งบ่งบอกให้เมฆาได้รู้ว่าอีกฝ่ายได้กลืนยาลงคอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเมฆาจึงค่อยถอนริมฝีปากออกก่อนจะมองร่างเล็กด้วยความเป็นห่วง
“น้องราตรีครับ น้องราตรี” เมฆาเรียกพลางเขย่าร่างเล็กอย่างเบามือ
“อือ” ราตรีร้องครางเสียงเบาก่อนจะลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำเงินที่ส่องประกายสดใสประดุจห้วงท้องทะเลลึก ซึ่งทำเอาชายหนุ่มเผลอมองอย่างลืมตัว หากแต่คนถูกมองยังไม่ค่อยรู้สึกตัวดี ได้แต่สอดส่ายตามองไปมาก่อนจะวกกลับมามองคนอุ้มอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ทั้งสองได้ต่างจ้องตาประสานกัน ทำเอาร่างเล็กรู้สึกตัวได้ว่าตนกำลังอยู่ในอ้อมอกของชายหนุ่ม “อ้า! ป่อยนะพี่ชาย ป่อย!”
ราตรีร้องพลางใช้มือน้อยๆทั้งสองข้างผลักเมฆาออก ซึ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวจึงรีบวางราตรีนั่งลงกับพื้นอย่างเร็วเพราะกลัวว่าราตรีจะไม่พอใจตนเอาได้ ส่วนราตรีนั้นเมื่อเมฆาได้วางเธอนั่งลงกับพื้นแล้ว เธอก็เงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างสงสัย
“ท่านพี่ช่วยข้าไว้ง้านหยอ” ราตรีถามเพราะเธอได้ยินเสียงจากระบบของเกม ซึ่งบอกไว้ว่าเมฆาเป็นคนช่วยเติมพลังให้เธอ
“ครับน้องราตรี” เมฆาตอบยิ้มๆ “ว่าแต่น้องรู้สึกดีขึ้นหรือยังครับ”
“ก้อ…ดีแย้วฮะ” ราตรีตอบเมฆา แต่แล้วก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“จริงสิมะรีโอ้ล่ะ! มะรีโอ้อยู่ที่หนายฮะท่านพี่” ราตรีถามพลางหันซ้ายหันขวามองหามาริโอ ก่อนจะเห็นร่างของมาริโอนอนแผ่หลาอยู่ห่างเกือบร้อยเมตรได้ “มะรีโอ้!”
ราตรีผุดลุกขึ้นยืนก่อนจะวิ่งปราดเข้าไปหามาริโออย่างเร็ว ซึ่งทำเอาเมฆาต้องรีบวิ่งตามไป
“มะรีโอ้!” เมื่อราตรีวิ่งมาถึงแล้วเธอก็เขย่าเรียกอีกฝ่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย “มะรีโอ้ฟื้นสิ! ข้ามาช่วยเจ้าแย้วนะ”
แล้วราตรีก็หยิบขวดยาเพิ่มเลือดออกมาจากในกระเป๋าก่อนจะเปิดฝาจุกออก แล้วจึงจับกรอกเข้าปากมาริโออย่างรวดเร็ว
“เนื่องจากเห็ดมาริโอได้รับน้ำยาเพิ่มเลือด ทำให้พลังฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ” เสียงระบบประกาศดังก้องหัวราตรี ก่อนที่มาริโอจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
“เอ๋? นี่ข้ายังไม่ตายอีกรึเนี่ย” มาริโอพูดกับตัวเองอย่างมึนงง ก่อนจะหันมาเห็นราตรีกับเมฆานั่งอยู่ข้างกายมัน “รัตติ…เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม!”
มันว่าพลางผุดลุกขึ้นนั่งถามเจ้านายอย่างเป็นห่วง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มันเกือบตายแล้วด้วยซ้ำ
“ข้าม่ายเป็งรายแย้วมะรีโอ้” ราตรีตอบพลางส่งยิ้มให้มาริโอ “เพาะท่านพี่เมฆาเป็งคงช่วยข้าไว้ ม่ายง้านข้าคงตายปายนานแย้ว”
มาริโอได้ยินดังนั้นก็หันมามองเมฆาอย่างไม่เชื่อสายตา
“ชิ ตบหัวแล้วลูบหลังสิไม่ว่า”
“มะรีโอ้!” ราตรีร้องอุทานตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของมาริโอ “อย่าเฉียมาระยาดฉิ เขาอุตส่าห์ช่วยพวกเราอาวไว้นะ”
“ขอบคุงท่านพี่ นี่ถ้าท่านพี่ม่ายช่วยไว้แย้วล่ะก้อ พวกข้าคงต้องถูกพวกน้านฆ่าตายแน่ๆ” ราตรีพูดขอโทษพลางก้มหัวลง ส่วนเมฆาเมื่อเห็นราตรีก้มหัวขอบคุณตนแล้ว ถึงกับหน้าแดง
“ไม่เป็นไรครับน้องราตรี ไม่ต้องขอบคุณพี่ชายคนนี้หรอก พี่ชายก็แค่ทนเห็นพวกน้องถูกทำร้ายไม่ได้ก็เท่านั้นเอง”
“แหม พูดถ่อมตัวดีจังเลยนะ” มาริโอพูดแขวะ ซึ่งทำให้ราตรีต้องหันมาทุบหัวมาริโอเนื่องด้วยข้อหากวนประสาทไม่เลือกเวลา
“เอ่อน้องราตรีครับ” ราตรีได้ยินที่อีกฝ่ายเรียก จึงหันหน้ากลับมามองเมฆา “พี่ชายมีเรื่องอยากจะสารภาพ ถ้าน้องราตรีไม่ว่าอะไร ช่วยรับฟังพี่สักหน่อยได้ไหมครับ แค่สักสิบนาทีก็ยังดี”
ราตรีได้ยินที่อีกฝ่ายพูดถึงกับขมวดคิ้ว
นี่เขาตั้งใจจะขอโทษเราเมื่อตอนนั้นงั้นรึ ราตรีคิดในใจพลางมองเมฆาอย่างสงสัย
แต่ก็เอาเถอะ ในเมื่อเขาอุตส่าห์ยอมช่วยเหลือเราแล้ว จะรับฟังคำแก้ตัวแล้วกันนะราตรีคิดได้ดังนั้นก็ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“เชิญพูดมาด้ายเยยฮะท่านพี่เมฆา”
.............................