“ถ้ามึงไม่คิดอะไร กูขอเถอะ”แคปซูลพูด “แต่ถ้ามึงชอบมันก็บอกกูตรงๆ กูไม่อยากทับทางเพื่อน”
“...”โปรตอนวัยสิบห้าปีไม่เคยปวดกบาลขนาดนี้มาก่อนทำได้เพียงแค่นั่งนิ่งอมเหงือกอยู่ที่เดิม
“แต่ถ้าไม่ได้ชอบจริงๆ... กูจะจีบ”ตามใจมึงเถอะไอ้สัตว์
โปรตอนที่ทำบัตรประชาชนไปยังไม่ครบปีนั่งทื่ออยู่ในห้องเรียน พักเที่ยงก็ลงมากินข้าวตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ เขาส่งข้อความหาใครบางคน ใครบางที่เมื่อก่อนเขาแทบไม่อ่านข้อความที่ถูกส่งมาเลย
‘เลิกเรียนเดี๋ยวกูไปหา’อย่างอื่นค่อยว่ากันที่หลัง แต่ขั้นแรกคือกันให้ห่างไอ้แคปก่อน
‘โปรเมากาวเปล่า’ตอบมาอย่างไว
‘ถ้ากูเมา กูจะฆ่าปาดคอมึงตัวแรก’
‘ถ้าเราเป็นผี เราจะตามขี่คอโปร’
‘งั้นอย่าตายเลย เป็นคนกูก็หลอนฉิบหายแล้ว ถ้าเป็นผี กูคงสู้ไม่ไหว’ถึงพิมพ์ไปแบบนั้น แต่ตัวร้ายของเรื่องมันอมยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่นะ
‘ใจร้าย เราตามหลอกหลอนด้วยฟามร้ากกก โถ่ะ’
‘เอาที่สบายใจ กูเข้าเรียนล่ะ’พิมพ์ไปก่อนจะล็อกหน้าจอ
เลิกเรียน ปีศาจขาวที่ตัวสว่างราวกับฉายด้วยสปอร์ตไลท์สบามบอลมองซ้ายมองขวาอย่างมีพิรุธอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนตัวเอง อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าโปรตอนจะมาปล้นใครหรือดักต่อยใครนะเว้ย โปรตอนก็แค่มาสอดส่องดูให้ถี่ถ้วนว่าไอ้พวกที่บอกว่า’จะไปดูหนังสือที่สยาม’มันไม่ได้มาอยู่แถวนี้
โปรตอนนั่งวินเซาะแซะฝ่ารถติดไปที่หน้าโรงเรียนของคนแคระ แต่ยังไม่ทันจะเข้าไปหาไอ้ตัวเป้าหมายที่ยืนรอเขาอยู่หน้าป้ายโรงเรียน โปรตอนก็ต้องชะงักฝีเท้าแล้วเพ่งกระแสจิตออกไปอย่างอาฆาต... อะไรคือสยามของพวกมึง
ไอ้หัวเกรียนวัยเห่อหมออ้อยยังคงแอบซุ่มดูด้วยจิตอาฆาต แม้จะต้องยืนเกร็งข่มอารมณ์จนตะคริวจะแดกทั้งตัวแล้ว แต่ด้วยปานิทานและฟอร์มที่สูงทะลุจักรวาล เลยทำให้ไอ้หัวเกรียนตัวสว่างมันไม่ยอมเดินข้ามฝากไปหาเป้าหมายสักที
จนเมื่อเวลาผ่านไปกว่าสี่สิบนาที การรอคอยของเด็กยักษ์ก็บรรลุผล ไอ้สามตัวนรกนั่นไปแล้ว เหลือเพียงแค่ไอ้หัวทุยที่ยืนรอเขาตรงหน้าป้ายโรงเรียน
“โปรตอน!”เดอะฮอบบิทตะโกนเรียกเขาลั่น
“โทษที พอดีกูมีธุระนิดหน่อย”ธุระเหี้ยไรล่ะ ยืนตะคริวแดกรออยู่อีกฝั่งนู้น
“ไม่เป็นไร แคปซูลบอกแล้วว่าโปรจะมาช้า”คิ้วขวที่พาดตัวเรียงสวยรับกรอบหน้าของโปรตอนกระตุกยิกบ่งบอกถึงลางร้ายที่กำลังคืบคลาน
“แล้วไปเจอพวกมันที่ไหน”ถ้ามีการแข่งตอแหลในระดับเนาวชน โปรตอนมั่นใจว่าตัวเองต้องเป็นหนึ่งในตัวเก็งแน่นอน
“ที่นี่แหละ แคปซูล ฟิล์ม เต็มมาอยู่รอโปรเป็นเพื่อน”คิ้วขวากระตุกขึ้นแรงบ่งบอกลางร้ายที่ใกล้เข้ามาทุกที
“รีบไปเถอะ”โปรตอนขวาแขนไอ้เด็กหัวทุย แต่ไม่ทันจะโบกเรียกแท็กซี่ไอ้คนข้างๆก็พูดบางคำที่ทำให้เขาแทบฃงไปคุกเข่าแล้วเอาหัวโขกพื้นตาย
“เดี๋ยวก่อนได้เปล่า เพื่อนโปรไปซื้อน้ำให้เราอ่ะ”ไอ้เด็กหัวทุยบอกตาปริบๆ “นี่ไง มาแล้ว”ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ด้านหลังเขา
“ไงจ๊ะเพื่อนรัก”มือที่วางแหมะบนบ่าทำให้โปรตอนเหลือกตาขึ้นอย่างหมดหล่อ “แหม หายป่วยไว๊ไว”
“ซี ฟิล์มมีเรื่องตลกอะไรจะเล่าให้ฟังเว้ย ชื่อเรื่องคนแคระวัยใสกับควายปากแข็ง ตอนเพื่อนผู้ชาญฉลาด”ถ้าเปลี่ยนเป็น ‘ตอนเพื่อนผู้เนรคุณ’ โปรตอนว่าเหมาะกว่า
“ซีรี่ย์เกาหลีหรอ”ซีรีย์ชีวิตผัวมึงนี่แหละไอ้หัวทุย
“คืองี้ มีไอ้ขี้เก็กอยู่ตัวหนึ่ง...”
“พวกมึง... กูขอใช้สิทธิ์เจรจา”โปรตอนปล่อยมือเดอะฮอบบิท ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับเพื่อนอย่างจำยอม
“เอาสิ มึงจะเจรจาอะไร”ไอ้เต็มที่ประกบข้างผมอยู่พูดขึ้น
“ไปคุยกันตรงนู้น”ชี้ไปตรงป้ายรถเมล์ที่ไกลตรงนี้พอควร
“ก็ได้”ไอ้แคปยักไหล่
“ไปนั่งรอข้างในก่อน... ไม่เกินสิบนาที”ไอ้คนเหงื่อท่วมหันไปบอกไอ้เด็กแคระ
“โอเค”ซีอิ้วยิ้มกว้างไม่รู้ห่ารู้เหวอะไรกับเขาสักอย่าง
“ซีกินปังเย็นรอไปก่อนนะ”ไอ้ฟิล์มยื่นถ้วยไปให้เด็กเตี้ยที่ยิ้มแฉ่งโชว์ฟันเหล็กตรงหน้า
“ขอบคุณครับ”ไอ้คนให้นี่ยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน
เดินเลี่ยงออกมาออกมาในบริเวณที่มนุษย์เตี้ยไม่น่าจะได้ยิน ก่อนที่ทั้งสามคนจะยืมยิ้มกดดันไอ้ขี้เก็กที่เหงื่อกแตกพลั่กจนหลังเสื้อชุ่มจนนึกว่าโดนใครสาดน้ำมา
“มึงอย่าบอกมัน”เสียหน้ากับใครก็เสียได้ แต่โปรตอนเสียหน้ากับฮอบบิทไม่ได้! “ขอร้อง”โปรตอนใช้สกิลเบิกเนตรมารทำตาหวานใส่ แต่คิดว่าได้ผลไหม... ก็ม่ายยย
“ไม่บอกก็ไม่สนุกดิวะ”ไอ้เต็มยิ้มยั่วตีน
“งั้นมึงจะบอกก็บอกไป มันกับกูไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว”ทำเป็นไม่สนใจ เดี๋ยวพวกแม่งก็หมดสนุกกันไปเอง
“เออว่ะ บอกไปเพื่อนมึงก็ไม่สนหรอกฟิล์ม”ไอ้แคปส่ายหัวเบาๆ “ขนาดกูบอกจะจีบ มันยังเฉยๆเลย”ก็จะไม่เฉยได้ไง คนอย่างไอ้แคปถ้ามันชอบจริงๆมันไม่มีทางบอกเขาหรอก ขนาดตอนเด็กๆ มันก็ชอบดาวเหนือเหมือนเขา มันยังนิ่งๆแล้วเพิ่งมาบอกเขาเลย
“หรอวะ ถ้ามึงไม่ได้อะไรกับมันจริงๆ งั้นกูดันเพื่อนกูแทนก็ได้ใช่ปะวะ”ไอ้ฟิล์มมันทำหน้าจริงๆ “อันนี้กูไม่ไม่แผนนะมึง ไอ้พวกที่เตะบอลกับมึงมีคนชอบซี”
“หลายคนด้วย”ไอ้เต็มเสริม
“พวกมึงเป็นเหี้ยไรเนี่ย”ชักจะหงุดหงิดล่ะ
“ถ้ามึงไม่ได้จริงจังกับมัน มึงปล่อยมันไปไม่ดีกว่าหรอวะ”ไม่รู้ตอนไหนที่ไอ้สี่ตัวมันเข้าโหมดจริงจังกันได้ขนาดนี้
“ที่จริงพวกกูไม่เสือกก็ได้ แต่ซีมันก็เพื่อนพวกกู กูสงสารมันว่ะ”
“พอ”โปรตอนถอนหายใจ กวาดสายตามองเพื่อนตาเขม็ง “ไปบอกไอ้พวกเหี้ยนั่นด้วย ถ้าไม่อยากโดนส้นตีนก็อย่ายุ่งกับมัน”ไม่ใช่ว่าจะไม่เห็นว่าเวลาฮอบบิทไปหาเขานั้นมีใครแอบมองบ้าง แต่ก็พยายามไม่โมโหเพราะอย่างน้อยไอ้พวกนั้นก็ไม่ได้ล้ำเส้นอะไร แต่ได้ยินแบบนี้แม่งหัวร้อนโว้ย ทั้งที่ไม่รู้ด้วยว่านี่หัวร้อนตรงจุดไหน
“มันไหนวะ”ฟิล์มเกาหัวงงๆ
“เมียกูไงไอ้สัตว์!”ไอ้คนเดือดง่ายนั้นควบคุมอารมณ์ไม่ได้เสียแล้ว “กูไปแล้ว”โกมือลาเพื่อนแล้วเดินออกมาเลย โดยที่ไม่ได้เห็นว่าไอ้สามตัวนั่นมันแอบยิ้มร้ายกันอยู่
ซีอิ้ววัยสิบห้าขวบกวาดปังเย็นในถ้วยจนหยดสุดท้าย ก่อนจะโยนลงถังขยะ แล้ววิ่งไปที่หน้าโรงเรียน เมื่อเห็นคนตัวขาวเดินกลับมาแล้ว ทั้งคู่ยืนรอแท็กซี่ไม่นาน ในตอนแรกเป้าหมายวันนี้โปรตอนกะแค่พาไอ้เด็กหัวทุยไปเดินเล่นสักพักแล้วค่อยพามันไปส่งบ้าน แต่ตอนนี้อารมณ์ไม่ดีแล้วไง เลยพามันไปส่งบ้านนั่นแหละ
“ถึงบ้านแล้วบอกด้วยนะ”เดอะฮอบบิทโบกมือให้คนข้างตัวเมื่อรถใกล้ถึงหน้าบ้าน
“นี่ครับ”โปรตอนยื่นเงินให้ลุงคนขับ
“อ้าว โปรตอนไม่กลับบ้านหรอ”ไอ้หัวถุยยังคงงงงวยเมื่อคนตัวสว่างมันลงรถตามเขามา
“พ่อแม่มึงอยู่ไหม”
“แม่น่าจะกลับมาแล้ว แต่พ่อเราน่าจะถึงตอนหกโมง”ตอบไปแบบซื่อ
“งั้นเดี๋ยวกูรอ”
“รอทำไมหรอ”ซีอิ้วยิ้มแห้งๆ
“จะขอคบกับมึง”โปรตอนเบือนหน้าหนีซ่อนหน้าที่แดงก่ำตามคาแรคเตอร์พระเอกนิยายสไตล์ซึนเดเระ
“ห๊า”ไอ้จะคบก็ดีใจอยู่หรอก แต่จะคุยกับพ่อ น้องซีไม่โอเคอ่ะ
“ซีอิ้ว”เสียงหวานๆของคุณแม่ทำให้ซีอิ้วหน้าซีดเผือด “เข้าบ้านสิลูก”
“สวัสดีครับ”ยกมือไหว้อย่างเรียบร้อย
“มองใกล้ๆนี่หล่อจังเลยค่ะลูก เข้ามาก่อนสิคะ”
“ม่ายยย”ซีอิ้วรีบวิ่งไปดึงประตูไว้ไม่ให้แม่เปิดได้ “แม่อย่าเปิดนะ”
“น้องซี หลบไปสิลูก”คุณอ้อมชักจะปวดประสาทกับลูกชายแล้วสิ
“ไม่เอา โปรอย่าเข้ามานะ”ซีอิ้วบอกเมื่อเห็นไอ้คนมาเยือนมันมายืนประชิดข้างหลังแล้ว “กร๊ากกกกกก”ไอ้ตัวผอมหัวเราะลั่นเมื่อผู้มาเยือนจิ้มนิ้วไปที่ใต้รักแร้มัน
“ขอโทษที่มากะทันหันนะครับ แต่ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณน้าน่ะครับ”โปรตอนงัดเด็กแคระที่ขวางประตูได้ ก็เดินเข้าโดยไม่ไอ้คนที่ยืนหอบหน้าแดงก่ำสักนิด
“รีบหรือเปล่า ถ้าไม่รีบไปนั่งคุยในบ้านกันดีกว่าเนอะ”
“ไม่รีบครับ”โปรตอนยิ้มหวาน ก่อนจะเดินตามมนาย์แม่ของเดอะฮอบบิทไป
“น้องซีปิดประตูด้วยนะลูก”
“ครับ”รับคำทั้งที่น้ำตาตกใน
โปรตอนผู้ไม่กลัวอะไรในตอนนั้น บอกเล่าจุดประสงค์ของตัวเองแก่คุณอ้อมก่อน เธอเองที่พอจะรู้เรื่องอยู่แล้ว ยิ้มรับบางๆด้วยความดีใจแทนลูกชาย แต่ยังไงก็ตาม เรื่องนี้คงต้องรอคุยกับตาลุงที่กำลังจะกลับบ้านอีกที
อย่างที่พอรู้กัน โปรตอนต้องงัดคำพูดมาสู้กับคนมีวุฒิภาวะมากกว่าอย่างสุดกำลัง แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี สถานการณ์คบกันถูกยอมรับแล้วในสายตาผู้ใหญ่ทางบ้านไอ้หัวถุย ส่วนทางบ้านเขาหรอ ก็พอรู้อยู่แล้ว แต่เดี๋ยววันนี้จะไปคุยแบบจริงจังอีกที
ทานมื้อเย็นเสร็จโปรตอนก็โทรเรียกแท็กซี่ ซีอิ้วเด็กแคระที่ยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงอยู่มารอส่งเขาด้วยหน้าบานด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิดของมัน
“ใจเรายังเต้นตึกๆอยู่เลย”ตอนพ่อกลับมานี่น้องซียอมรับเลยว่าหัวใจแทบวาย
“กลัวหรือไง”
“อื้อ”พยักหน้ายอมรับ “เวลาพ่อเราดุน่ากลัวมาก”โปรตอนเผลอยิ้มออกมาอย่าเอ็นดูเมื่อเดอะฮอบบิทข้างตัวเขามันทำหน้ามุ่ย
“ทีนี้มึงก็ไม่ต้องกลัวแล้ว”วางมือลงบนหัวทุยๆ ก่อนลูบไปตามเส้นผมนิ่มเบาๆ
“อื้อ”ยิ้มร่าโชว์ลวดดัดฟัน
“กูไปล่ะ”โปรตอนดึงมือออกเมื่อรถที่เรียกมาแล้ว
“ถึงบ้านแล้วโทรบอกนะ”โปรตอนเปิดประตูหลัง “เราจะรอนะ”
“เออ”โปรตอนหันมายิ้ม
ซีอิ้ววัยสิบห้าปีใจเต้นระรัว ยิ้มของโปรตอนที่เขาเห็นนั้นไม่ใช่ยิ้มการค้าหรือยิ้มกวนส้นตีนแบบที่เห็นประจำ ยิ้มกว้างเต็มที่แบบที่โปรตอนชอบเรียกว่ายิ้มโง่ๆนั่นแหละ ยิ้มแบบนั้นนั่นแหละที่โปรตอนกำลังยิ้มให้เขา... ครั้งแรก
เช้าวันต่อมา ยังไม่ทันที่จะได้ทิ้งตูดลงบนเก้าอี้ ไอ้พวกเพื่อนห้องอื่นที่เตะบอลตอนเย็นด้วยกันก็วิ่งเข้ามาประชิดตัวเขากันเสียก่อน
“มึง!!”
“อะไร”ตอบหน้านิ่ง ก่อนจะทิ่งตัวลงนั่ง
“มึงบอกกูว่าซีกับมึงไม่ได้เป็นแฟนกันถูกไหม”โปรตอนนี่ตาขวางทันที
“เออ!”กระแทกเสียง จนเพื่อนไม่รู้ว่ามันไปโมโหใครมา “ไม่ใช่แฟน”เพื่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ทำไมไอ้เวรสามตัวนั่นมันยิ้มวะ “แต่กูเป็นผัวมัน มึงมีปัญหาอะไรวะไอ้เหี้ยโจ!”
“เฮ้ย! ไม่มี”โจรีบบอก
“มาเลยไอ้โจ ห้าร้อยของมึงน่ะ เอามาวางตรงนี้ซะดีๆ”แคปตบมือลงบนโต๊ะสองสามที
“อะไรวะ ปกติเหี้ยโปรมันจริงจังกับใครที่ไหน แถมบอกกูแบบนั้น ใครจะไปคิดว่ามันจริงจังวะ”โจบ่นเบาๆก่อนจะล้วงกระเป๋าสตางค์ออกมา
“อะไรของพวกมึง”โปรตอนยังคงงงๆ
“ขอบคุณมากเลยนะเพื่อน คือพวกเหี้ยโจแม่งปากดี บอกมึงไม่จริงจังกับไอ้ซีหรอก”เต็มเฉลย “แต่พวกกูจัดการให้ล่ะ”
“บอกเพื่อนมึงเตรียมตังค์ไว้เลย เดี๋ยวเที่ยงกูไปตามเก็บ”ฟิล์มบอก
“อย่าโกรธพวกกูนะสุดหล่อ เดี๋ยวเย็นนี้พาไปเลี้ยงหนม”ไอ้แคปเข้ามาออเซาะ เอาเถอะ เรื่องแค่นี้ โกรธไปก็ปวดหัวเปล่าๆ
“เออ”หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบข้อความมนุษย์แฟน “ไอ้ซีไปด้วยได้เปล่าวะ”ถ้ารู้จักโปรตอนดีจะรู้ว่านี่ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่มันคือประโยคคำสั่ง
“ติดเมียจังนะไอ้สัตว์ อยากทำอะไรก็ตามใจมึงเถอะ”โปรตอนไม่พูดอะไรทำเพียงแค่ยิ้มรับ
รักแรกช่างหอมหวาน แรกรักช่างสุขใจ ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตข้างหน้าความรักครั้งนี้มันจะเป็นอย่างไร แต่ขณะนี้ ที่ชีวิตเขากำลังเริ่มรัก มันสุขจนล้นใจจริงๆ
----------------
สิ้นสุดวัยกระเตาะ
คือช่วงนี้ชีวิตเขียดมีแต่ความทุกข์เนอะ
ไม่เล่า ขี้เกียจดราม่า
แต่อารมณ์คืออยากร้องไห้ก็ร้องไม่ออก
และวันนี้คือโดนมาหนักสุด
เข้ามาสู่ครึ่งตอนหลัง แหม อิตัวขาว ทำมาเกรี้ยวกราด
เขาก็จำไม่ได้แล้วอ่ะว่าสมัยนั้นคิดยังไง แต่การศึกษาเชิงพฤติกรรมมนุษย์(มีแหล่งอ้างอิงเว้ย)
มันก็น่าจะไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลังเท่าไหร่แบบนี้แหละเนอะ
รักทุกคนเด้อ