ผมกับอ้อคบกันมาเรื่อยๆ น้องเขาก็น่ารักดี แม้จะเป็นเด็กที่เที่ยวเก่ง...และค่อนข้างแรง แต่ก็ยังเอาใจใส่ผมดีทุกครั้ง และเข้าใจผม...วันที่เกิดเรื่องผมกับอ้อ กำลังติดภารกิจสำคัญ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นผมหยิบขึ้นมาดู แต่ยังไม่ทันได้รับสาย อ้อที่อยู่ใต้ร่างผม ก็ถาม
"ใครคะ"
"ชะนีน่ะ" พอฟังอ้อก็โน้มคอผมไปจูบ
"ไม่รับได้ไม๊คะ" เสียงออดอ้อนและกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ทำให้ผมเลือกที่จะตัดสายตัวเล็ก เพราะคิดว่าเขาคงเหงาแล้วชวนไปเที่ยวตามปกติ เพราะเวลาพี่นัทออกต่างจังหวัด ตัวเล็กมักจะเป็นแบบนั้นเสมอ แล้วอีกอย่างผมอยากจะตัดใอยากลองไม่ให้ความสำคัญกับเขาบ้าง เผื่อผมจะรักอ้อได้มากกว่านี้ ถ้าผมรู้ว่า เขาต้องไปเจอกับเรื่องอะไร ผมคงไม่ตัดสายเขาเด็ดขาด ผมอยู่กับอ้อจนดึก เสียงโทรศัพท์ก็ยังไม่มีมา ผมเลยแน่ใจว่า เขาคงไม่มีอะไร พอไปส่งอ้อที่หอเสร็จ ผมก็อาบน้ำนอน
ผมนอนหลับยาวจนถึงเย็นของอีกวัน และตื่นขึ้นมาด้วยเสียงโทรศัพท์ ตัวเล้กโทรมาอีกครั้ง ผมชั่งใจอยู่ว่าจะรับหรือไม่รับ กลัวว่าจะโดนด่าเรื่องที่เมื่อวานตัดสายมันไป แต่แล้วผมก็ตัดสินใจรับ เมื่อเสีงโทรศัพท์มันดังไม่หยุด ทั้งๆ ที่ปกติแล้วตัวเล็กมันไม่รอนานขนาดนี้หรอก แค่เสียงดังไม่กี่รอบแล้วไม่รับ มันก็ตัดสายแล้ว
"ว่าไงมึง" ตัวเล็กเงียบ
"...บ่าง... พี่นัทเสียแล้วนะ ...ตอนนี้อยู่ที่วัด...มึงโทรไปบอกหลวงพี่ให้ที เดี๋ยวกูจะโทรบอกไอ้เก้ง"
"เดี๋ยวนะ...มึงว่าไงนะ"
"กูบอกว่าพี่นะเสียแล้ว...โทรบอกหลวงพี่ให้หน่อย" เสียงตัวเล็กไม่สั่นผมได้แต่ถาม
"มึงเป็นบยังไงบ้าง...ไหวนะ"
"....กูไม่เป็นไร รีบโทรหาหลวงพี่เหอะ" ผมรีบทำตามที่เขาบอก แต่งตัวแล้วโทรไปบอกหลวงพี่ทั้งสององค์ ระหว่างที่ผมกำลังแต่งตัวอาบน้ำอยู่นั้น ้อ้ก็โทรมา ผมเลยบอกอ้อเรื่องที่เกิดขึ้น อ้อบอกว่าจะมาด้วย ผมเลยต้องวนรถไปรับอ้อ และวนไปรับหลวงพี่ที่วัด
มาถึงงาน ตัวเล็กนั่งส่งน้ำอบเพื่อให้คนไปรดน้ำให้พี่นัทอยู่ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีน้ำตาแต่ผมรู้ว่ามันคงทรมานกว่าที่เขาจะปล่อยโฮออกมา คนที่แค่ดูหนังซึ้งๆ ก็ร้องไห้..คนที่แค่ง่วงก็งอแง แต่วันนี้วันที่เสียใจที่สุดกลับไม่มีน้ำตา ผมว่ามันคงทรมานมากกว่าแน่ๆ ผมรู้จักเขาดี ผมพยายามอยู่ข้างๆ เขาตลอดเวลา จนลืมคนที่พามาด้วย งานสวดวันแรกเป็นไปอย่างเรียบร้อย ตัวเล็กนั่งนิ่งอย่างเดิม ไม่พูดกับผมหรือใคร เพียงแค่ยิ้มกับส่ายหน้า น้ำสักหยดผมก็ไม่เห็นเขากิน จนผมต้องไปบังคับให้กิน จนสวดเสร็จ และแขกเหรื่อแยกย้ายกันกลับ ผมเลยจะพาตัวเล็กกลับ ส่วนหลวงพี่ทั้งสอง ผมสั่งคนที่โรงแรมให้ไปส่ง
ตอนที่ผมกำลังจะกลับ ผมหันไปพาตัวเล็กออกมา เพราะเขายังนั่งนิ่งมองภาพพี่นัทอยู่ที่เดิม อ้อเดินมาควงแขนผมทันที ผมไม่ชอบใจนิดๆ ตัวเล้ก มองนิดๆ ก่อนจะแกะแขนผมออก แล้วเดินนำออกไปที่รถผม พอผมเปิดรถได้ ตัวเล็กก็ก้าวไปนั่งข้างคนขับ ตัดหน้าอ้อที่ยืนอยู่ ผมได้แต่ขำในใจ ขนาดเวลานี้มันก็ไม่ยอม มันไม่ค่อยชอบอ้อน่ะครับ ไม่รู้ทำไม แต่ก็ไม่ได้วีนขนาดที่ไม่ยอมให้คบกัน แค่แกล้งเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่ทำได้แค่นั้น ผมวนไปส่งอ้อที่หอก่อน อ้อถามผม
"แล้วพี่บ่างจะนอนไหนคะ"
"คงบ้านชะนีแหละ..ไม่อยากให้อยู่คนเดียว"
"แล้วพี่ไม่ชวนพี่อาร์มมาด้วยหรอ" ผมได้แต่ตงิดกับคำถาม
"ทำไมต้องชวน"
"ก็มันจะดีหรอคะ อยู่กันสองต่อสอง ..แล้วแม่.."
"อ้อ..พี่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ อ้อไปนอนเหอะ ก่อนที่พี่จะโมโห" อ้อ มองผมนิดนึง แล้วเดินขึ้นไปนอน ผมรู้ว่าเขาไม่พอใจ แต่ผมไม่ชอบให้ใครมาว่าตัวเล็กให้ได้ยินเหมือนกัน
พอส่งตัวเล็กที่บ้าน เขาก็ไม่นอน ให้ผมไปซื้ออุปกรณฺ์ทำบอร์ดมาให้ ผมนั่งตอกไม้อยู่ตอน จะเที่ยงคื่น โดยที่ตัวเล็กนั่งระบายสีขาวทับบนบอร์ดนั้น ผมอยากจะห้ามให้ทมำวันหลัง แต่ความตั้งใจที่ตัวเล็กมี และสายตามุ่งมั่นก็ทำให้ผมต้องลงมาช่วยทำให้มันเสร็จเร็วขึ้น แต่ก็ได้แค่นั่งตอกตะปู หรือทาสีเล็กๆ น้อย ที่เหลือ ตัวเล็กก็จัดก็ทำด้วยตัวเอง จนเกือบหกโมงเช้า บอร์ดก็เสร็จ ยังไม่ทันได้นอนเขาก็ให้ผมมไปหาแม่พี่นัท เพราะแม่พี่นัทจะใส่บาตรเช้าทุกวัน ไปขอใบประกาศเกียติคุณของพี่นัท แล้วก็วนไปขยายรูปพี่นัท...จนบ่ายบอร์ดก็ได้เอามาตั้งที่หน้างาน แม้จะไม่ได้นอนแต่ตัวเล็กก็ยังคงนั่งฟังพระอย่างสงบในคืนนั้น ตลอดเจ็ดคืน ผมอยู่เป็นเพื่อนตัวเล็กตลอด ทุกคืนหลังจากฟังสวดเขาจะนอนร้องไห้ ผมได้แต่กอดไว้ ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น