เหนือมนุษย์ อวสาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เหนือมนุษย์ อวสาน  (อ่าน 19079 ครั้ง)

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 25
«ตอบ #60 เมื่อ10-09-2016 18:28:29 »

สรุปเฟอกัลรับกรรมกลานเป็นภรรยาของพี่ชายพิคจัง ?
อุ้ย!  o18 :laugh:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 25
«ตอบ #61 เมื่อ10-09-2016 18:46:56 »

คนธรรมดาจะมาสู้ยอดมนุษย์ได้ยังไง 555

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 25
«ตอบ #62 เมื่อ11-09-2016 15:45:43 »

ตอนที่ 26



            เรื่องราวทุกอย่างคลี่คลายไป ไม่มีเหตุการณ์ไหนทำให้เกิดปมปัญหาอีกแล้ว เสียดายก็แต่ผู้นำเบญจพิษที่เจ็บปวดจากการเล่นงานของไดนาดินจนหมดสติไป ไม่ทันได้รู้เรื่องราวความจริงจากปากของหวนอู ผู้นำแก๊งหงส์ดำ



           ส่วนหงส์ดำสองพ่อลูก โทษหนักมหันต์ต้องถูกจำคุกไปตลอดชีวิตที่ฮ่องกง ในตอนนี้ถึงคราวอวสานของแก๊งหงส์ดำโดยสมบูรณ์




            คาดอสเดินทางกลับมาที่เซี่ยงไฮ้พร้อมกับตัวประกันที่เขาทั้งรักและเป็นห่วงอย่างพิคเจอร์และด๊อกเตอร์บารอนผู้เคารพรักดั่งพ่ออีกคน  นอกจากนี้ยังมีเฟอกัลหมดสติติดสอยห้อยท้ายมาที่นี่ด้วย



            ทันทีที่มาถึงเซี่ยงไฮ้ เจ้าของคฤหาสน์รอคอยต้อนรับอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว หนุ่มตี๋เรือนร่างสูงลงทุนมายืนรออยู่ตรงหน้าประตูเข้าบ้าน พอได้เห็นน้องชายลงจากรถมาอย่างปลอดภัยเขาเองก็อดไมได้ที่จะยิ้มกลบใบหน้าดุดันและเครียดนั้นไป



“หยางอี้!!!”


“พี่หยางเฟย”



                สองร่างต่างขนาดวิ่งลิ่วเข้าโผกอดกันกลมเกลียว ถึงตอนนี้สถานะของทั้งสองเป็นแค่พี่น้อง แต่คาดอสพ่อหนุ่มลูกครึ่งกลับไม่คุ้นชินเท่าไหร่นัก มิหนำซ้ำแอบหวงหึงพิคเจอร์ในใจเสียด้วยซ้ำ



“แอะแฮ่มมมมม” คาดอสกระแอมด้วยเสียงที่ดังก้อง จนทำลายอ้อมกอดของสองหนุ่มพี่น้องในที่สุด


“มีปัญหาอะไรคาดอส?” ฟ่านหยางเฟยเปรยถามพร้อมสีหน้ากวนประสาท อย่างรู้ทัน


“เปล่า! ฉันต้องการทวงคำสัญญา เงื่อนไขที่บอกว่าจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้อินทรีทอง ตอนนี้ฉันก็ทำสำเร็จ
แล้ว...”



               ฟ่านหยางเฟยพยักหน้าตาม พลางนึกคำพูดตนขึ้นได้  แต่เอาจริงๆในใจของหยางเฟยนั้นพยายามเชื่ออยู่ไม่น้อยเลยว่าอินทรีทองนั้นไม่ใช่คนผิดอย่างแน่นอน  แต่ว่าเขาไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันได้ว่าอินทรีทองบริสุทธิ์จริง ในเวลาคับขันไร้หนทางแบบนั้น สิ่งเดียวที่เสือแดงต้องทำคือไม่ไว้ใจใครทั้งสิ้น




              แต่ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างแจ้งแล้ว มันถึงเวลาสมควร ที่เขาจะทำตามสัญญา แต่มันจะสมบูรณ์แบบไม่ได้  หากว่าไม่ถามความเห็นของน้องชายตนเสียก่อน


“ว่ายังไงล่ะเรา...รู้สึกยังไงกับคาดอส”



               พิคเจอร์มองหน้าพี่ชายตัวเองอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าคำถามนั้นจะถูกถามออกมาต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ แล้วร่างบางจะตอบว่าอะไรดีล่ะ? ตอนนี้มีแต่เพียงเสียงหัวใจดังตึกตักๆเท่านั้น


“พี่หยางเฟย จะถามกันตรงนี้เลยหรอ?”


“เป็นอะไรไป ถ้านายไม่เลิกอายตอนนี้ แล้วอีกหน่อยต้องเดินสอยห้อยท้ายไปกับคาดอสทุกที่ จะไม่ยิ่งอายกว่านี้หรอ พี่บอกเลย
นะไอ้หมอนี่มันหน้าหนามากด้วย ทำอะไรไม่มีอายหรอก”


“อ้าวเฮ้ยๆ อย่าเผากันแบบนี้สิไอ้เพื่อนยาก” คาดอสทำหน้าตกใจนิดๆแต่ก็ไม่คิดปฏิเสธอะไร


“เอาล่ะพี่จะถามอีกครั้ง นายรู้สึกยังไงกับคาดอส”

...


...


...


“ผม...ผมรักเขา” ร่างบางกลั้นตอบตามความรู้สึกตัวเองต่อหน้าทุกคน


“เฮ้!!!!”


            เสียงร้องโห่ของเหล่าลูกน้องทั้งหลายดังขึ้นทันทีเมื่อเจ้านายร่างเล็กเปรยบอกแบบนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นลุ้นกันตัวโก่งเชียว พอได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งอกไปหน่อย นับว่าเป็นเรื่องมงคลที่จะเกิดขึ้นตามมาเร็วๆนี้



“ฉันต้องฝากเสือแดงอีกชีวิตไว้กับนายแล้วไอ้เพื่อนรัก” ฟ่านหยางเฟยเดินจูงมือน้องชายมาหาคาดอส


“ด้วยศักดิ์ศรีของประมุขอินทรีทอง ฉันจะดูแลปกป้องฟ่านหยางอี้ด้วยชีวิต” คาดอสเอ่ยคำสัตย์ต่อหน้าฟ่านหยางเฟยผู้เป็นเพื่อน
อย่างจริงจัง



“แหม...ไม่จริงหรอกพี่หยางเฟย ตอนอยู่บนดาดฟ้าที่ฮ่องกงนะ ผมต่างหากที่ดูแลปกป้องคนแถวนี้!”


“ใครบอก...ถึงตอนนั้นนายไม่ช่วย  พี่ก็เล่นงานพวกนั้นได้อยู่แล้ว”


           คาดอสรีบเปรยปฏิเสธ ไม่อยากเสียฟอร์มต่อหน้าลูกน้อง ก็แหงล่ะปราบศัตรูครั้งนี้ในเหตุการณ์น่าสิ่วหน้าขวานก็มีเพียงคาดอสและพิคเจอร์เท่านั้น คนอื่นๆอยู่ด้านล่างหมดไม่มีใครเห็นภาพที่ร่างบางช่วยร่างสูงสักคน


“ทำฟอร์มเก๊กอยู่ได้ ยอมๆบ้างสักครั้งไม่เป็นไรหรอกน่า” พิคเจอร์เอาหมัดน้อยๆต่อยเข้าที่หน้าอกใหญ่นั่นครั้งนึง


“โอ้ยยยย เจ็บนะ!”



“แหมที่เป็นหยางอี้ทำนิดทำหน่อยนี่เจ็บปางตายเลยนะเพื่อน” หยางเฟยแกล้งแซวที่คาดอสแสดงเกินจริง


“ไม่เจ็บได้ไงวะ ที่รักของฉันต่อยเข้าหน้าอกซ้าย ตรงนี้มีหัวใจอยู่ด้วยนะเว้ย”


“ฮ่าๆๆๆๆ”  หลายคนในที่นั้นหัวเราะให้กับเหตุผลไร้แก่นสารนั้น  แต่พิคเจอร์กลับหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้วในตอนนี้



“บอสครับ! เฟอกัลฟื้นแล้วครับ!”



           ไดนาดินที่ยืนใกล้รถยนต์มากที่สุดเปรยบอกทำลายเสียงหัวเราะนั้น ทุกคนต่างหันไปดูแพะรับบาปผู้แสนโง่เขลาอย่างเป็นห่วงและเห็นใจ แต่สำหรับฟ่านหยางเฟยยังไม่รู้ว่าเฟอกัลถูกนำมาที่นี่ด้วย ภาพทั้งหมดทั้งมวลที่เบญจพิษกระทำต่อน้องชายเขาก่อนหน้านี้ยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำที่ผ่านมา มันยากเกินกว่าจะให้อภัยนัก  เขาต้องสำเร็จโทษตามกฎของเสือแดงอย่างจริงจังซักที



“มาที่นี่ด้วยหรอมึง!!!” หยางเฟยสบถคำพูดออกมาเบาๆ แล้วถลาตัวเข้าไปที่รถคาดอสทันที แต่มีหรอที่ร่างสูงใหญ่ไม่ต่างกันจะไม่ได้ยิน  คาดอสรีบวิ่งเข้าไปคว้ารั้งจับตัวเพื่อนเอาไว้เกือบไม่ทัน


“หยางเฟย!!! ใจเย็นๆ เฟอกัลเขาไม่ใช่คนผิดหรอกนะ และเขาก็น่าสงสารมากด้วย” คาดอสให้เหตุผล



“เรื่องอดีตก็คืออดีต ฉันให้อภัยได้ แต่เรื่องปัจจุบัน!!! สิ่งที่มันทำกับน้องชายฉัน ฉันไม่มีทางปล่อยมันแน่!”



         หนุ่มตี๋ตะหวาดดังลั่น  ใช้แรงดิ้นหลุดสุดชีวิต คาดอสทนต่อแรงเพื่อนหนุ่มไม่ไหว หากจะให้ใช้ไฟฟ้าช๊อตก็คงจะไม่ดีนัก เห็นทีต้องปล่อยฟ่านหยางเฟยเสียแล้ว



พรึบ!! พรวดดดดด


         ทันทีที่ประมุขเสือแดงหลุดออกจากวงแขนคาดอสได้ ก็เข้าไปเปิดประตูรถลากตัวอีกฝ่ายออกมาทันที เฟอกัลป์ยังไม่ทันได้ตั้งตัวและกำลังเวียนหัวพอสมควร จังหวะนั้นถึงกับทำให้ต้องตกจากเบาะรถด้วยแรงของฟ่านหยางเฟย กระทบพื้นเสียงดังอึกอีกด้วย!!!



“พี่หยางเฟย ใจเย็นๆครับ เฟอกัลเขาเจ็บตัวไปหมดแล้ว” ร่างบางตกใจกับท่าทีพี่ชายตรงหน้า


“ดี!!! ให้เจ็บเยอะๆนั่นแหละดี มานี่เลยมึง!”



               ตอนนี้คำพูดใครก็ไม่เป็นผลแล้ว  หยางเฟยจับสองแขนอีกฝ่ายลากเข้าไปในบ้าน ท่ามกลางการมองดูภาพนั้นอย่างเป็นห่วง  แต่คนของอินทรีทองและเสือแดงก็รู้ดีว่าจริงๆแล้วเฟอกัลสมควรโดนแบบนี้



              สุดท้ายหนุ่มตี๋ก็หลายลับขึ้นไปบนบ้านพร้อมกับผู้นำเบญจพิษที่ไร้เรี่ยวแรงต่อสู้ไป สีหน้าแต่ละคนกำลังครุ่นคิดสบตากันไปมาว่าจะเอายังไงต่อดี


“พี่เฉิง ทำอะไรซักอย่างสิ จะปล่อยให้พี่หยางเฟยทำแบบนั้นหรอ?”


“หยางเฟยเขาเป็นห่วงนายมากนะ และสิ่งที่เป็นกฎเหล็กของเสือแดงก็คือ ใครทำอะไรไว้ต้องได้รับโทษนั้น”


“แล้วถ้าโทษนั้นคือเฟอกัลต้องตายล่ะพี่เฉิง” พิคเจอร์ยังอดเป็นห่วงเฟอกัลไมได้


“ไม่ต้องกลัว...โทษของเฟอกัลไม่ถึงตาย เพราะเขาไม่ได้เป็นคนฆ่าพ่อแม่ของนายกับหยางเฟยแล้ว แต่ที่เฟอกัลต้องชำระคือ...”



              คาดอสละคำพูดไป ไม่อยากจะคิดว่าป่านนี้ในห้องนอนเฟอกัลจะมีสภาพยังไงบ้าง


“ต้องชำระอะไรพูดต่อสิครับ!” คาดอสได้แต่จ้องหน้าพิคเจอร์ไม่กล้าพูด  จนสุดท้ายถึงได้ยินเสียงของเจียนเหมิงเปรยบอกแทน


“สิ่งที่เฟอกัลต้องชำระให้แก๊งเรานั่นก็คือ...เรือนร่างครับ”


“หมายความว่าไง?”


“ในคลิปที่เฟอกัลส่งมาให้นายท่านดู เป็นภาพที่มันกำลังลวนลามนายน้อยยังไงล่ะครับ แต่เฟอกัลจะต้องได้ชดใช้มากกว่าสามเท่าของที่ทำไป”


“แต่เขาจะไม่ตายใช่ไหม?” หยางอี้ถามยืนยันอีกครั้งเพื่อความสบายใจ เขาเป็นห่วงผู้นำเบญจพิษเหลือเกิน


“ไม่หรอกครับนายท่านเป็นคนมีคุณธรรมและยุติธรรมมากพอ” เจียนเหมิงบอกด้วยความสุภาพ


“เลิกห่วงเฟอกัลได้แล้วน่าพิคเจอร์ ตอนนี้นายต้องไปเก็บข้าวของแล้วไปอยู่ปักกิ่งกับพี่เดี๋ยวนี้” คาดอสเอามือจับไหล่พลิกตัวอีกคนให้หันหน้ามาทางเขาแทน


“ไปปักปิ่ง ไปทำไมครับ?”


“นี่ไม่รั้หรือแกล้งไม่รู้กันนะ...นายก็ไปเป็นนายน้อยภรรยาอินทรีทองที่โน่นไงเล่า?”


“แต่ผม...”


“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้อเงป็นห่วงเฟอกัลป์หรอก เจียนเหมิงก็รับปากแล้วว่าเฟอกัลไม่ถึงตายหรอก”


“เปล่าครับ ผมจะบอกว่าผมอยากอยู่กับพี่ชายที่นี่”


“แต่นายยังทำงานให้พี่ไม่ครบหนึ่งเดือนเลยนะ”


       คาดอสอ้างไม้ตายออกมา เขาคิดไว้แล้วว่าร่างบางต้องพยศดื้อรั้นกับเขา ก็ช่วยไม่ได้เด็กน้อยลูกแหง่ติดพี่ชายแบบนี้ เขาไม่ใจอ่อนหรอก ยังไงก็ต้องพาร่างบางไปเป็นนายน้อยอินทรีทองที่ปักกิ่งให้ได้


“พี่เฉิงใจร้าย”


“ใครว่าล่ะ ถ้านายไม่ไปอยู่กับพี่ คนที่ใจร้ายที่สุดคือนายนายต่างหาก พี่ต้องอยู่เงียบๆเหงาคนเดียวมา 20 ปีโดยไม่มีนายแบบนี้
ไม่สงสารพี่บ้างหรือไง?” คาดอสเริ่มอ้อนด้วยเหตุผล


“ก็ได้ครับ แต่พี่เฉิงต้องพาผมกลับมาหาพี่หยางเฟยทุกเสาร์อาทิตย์ ได้ไหมครับ?”


“โอเค...แต่จริงๆพี่ชายนายเขาไม่เหงาอีกแล้วล่ะ เขามีคนอยู่ด้วยแล้ว”


“หมายความว่าไงครับ?”


“ก็หมายความว่านับจากนี้ไปเฟอกัลคือ...นายน้อยของเสือแดงยังไงล่ะ” คาดอสกระซิบอีกฝ่ายข้างหู


“ทั้งๆที่รู้จักกันด้วยความบาดหมางหรอครับ?”


“ก็ช่วยไม่ได้เฟอกัลอยากทำลวนลามกับนายก่อน ถึงหยางเฟยไม่ทำพี่ก็จะชำระโทษนี้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว มีคนทำ
แทนก็ดีไป” คาดอสยิ้มุมปาก


“หมายความว่าไง...ที่พี่จะชำระเฟอกัลเหมือนกัน? พี่คิดอะไรกับเฟอกัลบอกมานะ” มือบางฟาดลงที่หน้าอย่างแรง จนคาดอสเจ็บจริงเลยคราวนี้ สังเกตได้จากความตกใจจนกระแสไฟฟ้าไหลผ่านใบหน้า


“โอ้ย!!! หยางอี้พี่เจ็บจริงๆนะครับเนี่ย โมโหอะไรอีกล่ะ”


“สมน้ำหน้า เจ้าชู้ดีนัก”


“ปะ...เปล่าๆ เข้าใจผิดแล้ว พี่ไมได้คิดแบบนั้น...พี่หมายถึงเอาเรื่องกับเฟอกัลด้วยความรุนแรงต่างหาก”


         หยางอี้ฟาดมือลงหน้าร่างสูงอีกครั้ง


“โอ้ย!!! พี่เจ็บนะครับพิค เดี๋ยวจับจูบโชว์ซะเลย”


“อย่านะ!!! ก็เห็นแล้วว่าการทำร้ายคนอื่นด้วยความรุนแรงมันก็มีแต่ความเจ็บ พี่ยังจะไปคิดแค้นอะไรกับเขาอีกล่ะ”


“ครับๆ พี่รู้แล้ว อย่าตบพี่อีกเลยนะ ว่าแต่จะกลับปักกิ่งกันรึยัง? พี่ง่วงและก็เหนื่อยมากด้วย” คาดอสอ้อน


“อื้ม! ”



            ร่างบางขานรับก่อนจะเดินเข้าไปนั่งในรถรอ ไม่เก็บข้าวของอะไรซักชิ้นกะจะให้คาดอสพาไปซื้อใหม่ที่โน่นเลยจะง่ายกว่า  แต่ยังไม่ทันที่คาดอสจะวนไปเปิดประตูอีกฝั่ง ไดนาดินกลับเอ่ยรั้งขึ้นมาเสียก่อน


“บอสครับ ตอนนี้ภารกิจเสร็จหมดแล้ว ผมขออนุญาตบอส ไปทำธุระส่วนตัวของผมนะครับ”


“ธุระส่วนตัวของนายหรอไดนาดิน?” คาดอสทวนคำพูดคนสนิทอีกครั้ง


“ใช่ครับบอส ผมต้องไปที่ประเทศไทยครับ” คาดอสขมวดคิ้วฉงนใจ


      ไม่มีอะไรต้องปิดบังเจ้านายอีกต่อไป คาดอสสามารถอ่านใจคนสนิทของเขาได้หมดทุกอย่างในตอนนี้ โดยที่ไม่มีเงื่อนงำ
ใดๆให้แปลกใจอีก ส่วนอีกคนที่รู้ดีทุกเรื่องของไดนานดินนั่นคือแกริค

...

...


“ไปเถอะไดนาดิน ไปทำในสิ่งที่ถูกต้อง” ประมุขอินทรีทองเปรยบอกให้กำลังใจลูกน้องแล้วขึ้นรถไป


“โชคดีนะเว้ยขอให้นายน้อยเบญจพิษใจอ่อน ฉันจะรอพวกนายสองคนที่ปักกิ่ง” แกริคเดินมาตบไหล่ให้กำลังใจเพื่อน


“ขอบใจว่ะแกริค ” ไดนานดินตอบรับเพื่อน


“แกริค!!! จะขึ้นรถหรือจะเดินกลับฮะ!!!” เสียงหงุดหงิดไม่พอใจของเรนเดลตะโกนถามอย่างเอาเรื่อง


“จ้าๆๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละจ้า ดุจริงๆเลยว่าที่ภรรยาฉันเนี่ย”


“ว่าไงนะ!!!” เรนเดลได้ยินไม่ถนัดนัก


“ปะ..เปล่าๆๆ ไม่ได้พูดอะไรเลย ไปแล้วนะไดนาดินโชคดีๆ”  แกริคผายมือลาเพื่อนอีกครั้งก่อนจะวิ่งแจ้นไปอีกด้านของคนขับ 
คราวนี้เป็นหน้าที่ของเบลซเช่นเดิมที่เป็นคนขับ และมีเรนเดลนั่งคั่นแกริคเอาไว้



            แต่จากนี้ไปเรื่องราวจะเป็นยังไงไดนาดินชักไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่ากลับไปตอนนี้ ฟินกี้จะทำสีหน้ายังไงและรู้สึกยังไงกับเขา  แต่เขามีความรับผิดชอบพอ แม้กระทั่งมีพลังงานพิเศษลบเลือนความทรงจำฟินกี้ได้แต่ไม่เลือกที่จะทำ เขาขอชดเชยความผิดนี้ด้วยหัวใจของคนสุขุมเยือกเย็นอย่างเขาเต็มความสามารถจะดีกว่า




ส่วนบนห้องกว้างใหญ่ของฟ่านหยางเฟยนั้น...


ลีลารเซ็กส์ปนร้อนแรงเคียดแค้นรออยู่...



:L2:



 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:


ออฟไลน์ fcsunaree

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 26
«ตอบ #63 เมื่อ11-09-2016 19:39:40 »

คนแต่งนี่ แต่งมา จบได้สวยเลยค่า เลิศมาก ช๊อบชอบ ติดตามเลยเน้อ

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 26
«ตอบ #64 เมื่อ12-09-2016 11:27:53 »

ตอนที่ 27


ตุ๊บ อึก!!!



          เสียงอะไรบางอย่างที่ถูกโยนกระแทกใส่บนเตียงนอนอย่างแรง หากแต่สิ่งนั้นคือเรือนร่างสูงโปร่งที่ถูกกระทำอย่างหนักหน่วง  เขาดูไร้เรี่ยวแรงใดๆขัดขืน แม้ตอนนี้จะเห็นเต็มสองตาว่าร่างสูงหนาตรงหน้าคือประมุขเสือแดงที่กำลังเปลื้องผ้าตัวเองอยู่ก็ตาม



“จ..จะทำ อะไร?” เสียงแหบพร่าปนอิดโรยเอ่ยถาม แต่นั่นมันเป็นคำถามที่สิ้นคิดสำหรับฟ่านหยางเฟยที่สุด


“โง่ทุกเรื่อง!!! โง่ได้ตลอดเวลา มิน่า...ถึงได้ถูกหงส์ดำปั่นหัวเล่นมานานหลายปี” หนุ่มหน้าตี๋แสยะยิ้ม




                ตอนนี้ลายสักเสือแดงสวยงามปรากฏเด่นชัดบนแผงอกสีขาวน่ามองและเอามือลูบ ฟ่านหยางเฟยพุ่งถลาเข้าหาอีกฝ่ายอย่างเร่งรีบ เอามือฉีกเสื้อผ้าชิ้นแล้วชิ้นเล่าบนกายเฟอกัลป์อย่างดุเดือดไร้ความอ่อนโยนละเมียดละไม ในความคิดตอนนี้หยางเฟยต้องการเอาคืออย่างสาสมเท่านั้น



“อย่า...อย่าทำแบบนี้” ร่างบางกว่าได้แต่เอ่ยเปรยห้ามปราม เขาไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยตั้งแต่ถูกไดนาดินตรึงร่างจนทนความเจ็บปวดไม่ไหว สลบแน่นิ่งไปจนตื่นขึ้นมาก็พบว่าอยู่ในถ้ำเสือเรียบร้อยแล้ว



“ฮึฮึ ทีกับน้องชายฉัน ฉันห้ามแกแบบนี้แล้วแกฟังที่ไหน? ไอ้เฟอกัล!!!”



      ลิ้นสีชมพูอมแดงร้อนระอุละเลงลงบนยอดอกสีชมพูอีกฝ่ายสลับข้างซ้ายขวาอย่างเอาจริงเอาจัง พอเห็นอีกฝ่ายกำลังดิ้นก็ยิ่งดื่มด่ำกดปลายลิ้นตวัดไปมาแล้วดูดขึ้นแรงๆ จนอีกฝ่ายแทบอยากจะตายเอาดื้อๆ


“อะ...อึก อือออ  ...อย่า”


“ฮึฮึ”



            เสียงหัวเราะในลำคอนั้นแสดงถึงความสะใจและกำลังแสดงความต้องการปะปนกัน พอเบญจพิษผู้นี้อยู่ในสภาพเสมือนตาย แต่กลับไม่ตายแบบนี้นั้นมันช่างเป็นอะไรที่น่าสังเวทใจที่สุด...


“นับจากนี้ไป เบญจพิษจะอยู่ภายใต้การปกครองของเสือแดง ตลอดชีวิตทั้งร่างกายและจิตใจ!!!”


“อ่า.....”



       เสียงร้องครางปนกรีดกรายดังขึ้น เพราะฟ่านหยางเฟยกำลังเล่นอยู่กับจุดที่อ่อนไหวที่สุดของร่างกาย ด้วยอวัยวะยืดหดตัว
ได้นั้น ดันทะลุกำแพงกล้ามเนื้อหุบกั้นไว้ของเฟอกัลได้สำเร็จ ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินต่อไปไม่มีวันยับยั้งได้จนกว่า....


จนกว่าจะสำเร็จ...ความใคร่เสร็จสิ้น!!!





กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย



                ไดนาดินเดินทางมาถึงที่นี่ ในสภาพชุดเดิมที่ไม่แตกต่างอะไรจากวันบุกไปช่วยพิคเจอร์และด๊อกเตอร์ที่ฮ่องกง ด้วยสูทสีดำ และชุดดำทั้งตัว ไหนจะแว่นกรองแสงสีดำอีก ตอนนี้เขาพาตัวเองมาหยุดที่ตรงหน้าแมนชั่น ที่พักของใครบางคนโดยหัวใจของเขาเพรียกหาอยากพานพบสบตาใจจะขาด



          จากวันที่เกิดเรื่อง จนกระทั่งถึงวันนี้ผ่านไป สองวันแล้ว ไม่รู้ว่าฟินกี้จะเป็นยังไงบ้าง ยิ่งคิดยิ่งเป็นห่วงเพราะนั่นคือเซ็กส์ครั้งแรกของเขาเองและมั่นใจร้อยทั้งร้อยว่าก็เป็นสิ่งใหม่ของฟินกี้เช่นกัน ไดนาดินตัดสินใจเดินไปยังลิฟต์ตัวเดิมทันทีอย่างร้อนรนใจ   



“คุณ!!! คุณนั่นเอง มาหาฟินหรอคะ” เสียงเจ้าของแมนชั่นเปรยถาม ทำให้ร่างสูงหยุดชะงัก


“ใช่ครับ!”


“อ่อ สงสัยข้าวของจะเยอะเลยมาช่วยกันขนสินะ”


“!!?” คำพูดของหญิงวัยกลางคนผู้ทำให้เขาฉงนใจ


“หมายความว่าไงครับ?”


“เอ้า! ฟินไมได้บอกหรอจ้ะว่าจะย้ายของออกแมนชั่นวันนี้”  หญิงสาวเปรยถาม ร่างสูงตกใจมาก



                  แต่ไดนาดินไม่คิดรอตอบเธอหรอก ตอนนี้เรื่องฟินจะย้ายออกมันทำให้เขาตกใจมากกว่า ทำไมร่างบางต้องย้ายออกด้วย? หรือว่ากลัวเขาจะกลับมาหา? แล้วทำไมต้องหนี? แล้วนี่ถ้าหากเขามาช้าไปอีกนิดเดียวจะเป็นยังไง? มันอาจจะเท่ากับว่า เขาจะไม่ได้วันเจอกับฟินกี้อีกแล้วก็เป็นได้



                  ไดนานดินตัดสินใจวิ่งขึ้นบันไดด้วยความเร็วสูง ไม่สนใจแล้วว่าจะมีมนุษย์หน้าไหนเห็นพลังงานนี้ของเขา แต่ตอนนี้ใจเขาจดจ่ออยู่ที่ห้องพักชั้นแปดเพียงอย่างเดียว



                  ใช้เวลาไม่นานแถมไวกว่าลิฟต์ตัวนั้น ไดนานดินก็พาร่างของเขาเองมายืนหยุดที่หน้าประตูห้อง หมายเลขคุ้นตา แปลกแตกต่างออกไปตรงที่ประตูห้องถูกแง้มเปิดเอาไว้ เห็นสภาพห้องด้านในเป็นไปตามที่เจ้าของแมนชั่นบอกไว้ไม่มีผิด ข้างของทุกสิ่งอย่างถูกนำมาวางไว้กลางห้องเกือบหมด



                  ไดนาดินไม่รอช้าผลักประตูเข้าไปทันที เจ้าของห้องที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำกลับชะงักตกใจไม่น้อยเช่นกัน ที่เห็นว่าใครมาเยือนถึงที่นี่



“ใจร้ายจังเลยนะครับ ที่คิดจะหนีผม!” ไดนานดินไม่ว่ามากความกลับต่อว่าด้วยความน้อยใจ ปนเจ็บใจด้วยหากเขามาไม่ทันที่จะเห็นอีกฝ่าย



“...”




               ฟินกี้เลิกทำสีหน้าผงะตกใจอีกฝ่าย เพียงเพราะสติสามัญสำนึกในใจทำหน้าที่ได้อย่างดีและจดจำเขาได้แม่นยิ่งกว่าอะไรอีก ร่างบางไม่ขอตอบคำถาม แต่เดินกลับไปกลางห้องเพื่อเก็บของต่อ



           ไดนาดินรับรู้ได้ถึงความเย็นชาของอีกฝ่าย แต่มีหรอที่เขาจะยอมแพ้! เขาถือวิสาสะเดินตามไป



“เป็นยังไงบ้าง หายดีรึยัง?”


            ไม่บอกก็รู้ว่าไดนาดินหมายถึงอะไร ฟินกี้นึกไปถึงเมื่อสองวันก่อนที่ต้องตื่นขึ้นมาแล้วมีสภาพร่างกายปางตาย มันเจ็บปวดทั้งใจทั้งกาย ต้องรักษาแผลตรงจุดลับด้านหลังนั้นอย่างโดดเดี่ยวคนเดียว แต่ก็ไม่ปฏิเสธนักที่จะตัดสินใจทานข้าวต้มรวมมิตรหม้อใหญ่ที่อีกฝ่ายทำไว้ให้



“คุณฟินกี้ คุณยังโกรธผม? ผมมาที่นี่เพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง” ไดนานดินอ้างเหตุผล แต่ดูเหมือนอีกคนจะชะงักมือเก็บของแล้วปราย
ตามองแทน



“ถ้าจะมารับผิดชอบ ผมว่าไม่ต้องหรอก คุณกลับไปเถอะ” ร่างบางตอบเสียงเรียบ


“ไม่ได้หรอก ผมต้องรับผิดชอบนี่คือสิ่งเดียวที่เป็นเครื่องเตือนใจผมทั้งชีวิต”


“แต่สำหรับศัตรูของอินทรีทอง คนอย่างคุณไม่ต้องรับผิดชอบก็ได้ จริงๆผมควรตายด้วยซ้ำไปในความคิดพวกคุณ”



               ฟินกี้ไม่ได้คิดประชดอย่างเดียว แต่เอาตรงๆนี่คือความจริงที่เขาควรได้รับ แต่เรื่องมันกลับตาลปัดไปแล้ว ตรงที่ว่าร่างบางยังไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตอนนี้เบญจพิษคือผู้บริสุทธิ์ หากแต่ถูกดึงมือไปเป็นเครื่องมือชำระแค้นของหงส์ดำต่างหาก



“ตอนนี้เบญจพิษไม่ได้เป็นศัตรูอินทรีทองแล้วนะครับ”


“อย่ามาเล่านิทานหลอกเด็กหน่อยเลย คุณกลับไปเถอะ ผมจะเก็บของ”


“แล้วคุณฟินกี้จะไปไหนครับ? ”


“ไปไหนก็ได้ที่ไม่ต้องเจอองค์กรเข่นฆ่ากันวันต่อวันแบบนี้ โดยเฉพาะคุณ! กลับไปซะ ”


“ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ ให้ผมอยู่เคียงข้างดูแลปกป้องคุณนะครับ”


“ผมดูแลตัวเองได้” ร่างบางยืนยันชัดเจน


“ผมรู้ว่าที่ทำไปนั้นคุณคงจะโกรธและรับไม่ได้ แต่ผมขอเยียวยาด้วยกาลเวลาจะได้ไหม?”


“ไม่ต้องรอคุณเยียวยาหรอก กาลเวลาของชีวิตผมจะเยียวยาตัวผมเอง คุณกลับไปเถอะนะไดนาดิน”


“ผมไม่กลับ!! ผมจะช่วยคุณฟินกี้เก็บของ ผมจะตามคุณไปทุกที่ ผมจะอยู่ทุกที่ที่มีคุณ” ร่างสูงดื้อรั้น


“พูดอะไรบ้าๆ คุณคือคนสนิทของประมุขอินทรีทอง คุณจะมาเสียเวลาเรื่องไร้สาระโดยทิ้งหน้าที่ดูแลคาดอสกับพิคเจอร์ไปได้ยัง
ไง?”



“ใครว่าเรื่องไร้สาระกันล่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตผม และบอสก็อนุญาตผมแล้วด้วย ต่อจากนี้ไม่มีเรื่องบาดหมางอะไรกันอีกแล้ว บางทีผมอาจจะไม่ต้องดูแลบอสอีกแล้วก็ได้ แต่ผมอยากจะดูแลคุณ!!!”



“ผมถามคุณคำเดียว ทำไมคุณไม่เชื่อคำพูดผมตั้งแต่ทีแรก ผมบอกว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรของการหายไปของพิคเจอร์ แต่คุณกลับเอาความโมโหยั้งคิดมาทำแบบนี้กับผม”



“ผมขอโทษ”


“เปลี่ยนจากคำขอโทษ แล้วกลับไปประเทศจีนซะ”


“ถ้าคุณคิดว่าผมยังมีพันธะอยู่กับอินทรีทองแล้วผลักไสไล่ส่งผมแบบนี้ ผมจะโทรไปบอกบอสแล้วขอลาออกจากอินทรีทองคุณ
จะว่ายังไง?”



“อย่าทำแบบนั้นนะ!” เสียงอุทานร้องห้ามอีกฝ่ายที่กำลังจะทำท่าจะเหมือนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา


“คุณไม่ไล่ผมแล้วใช่ไหม?”


“ผมเหนื่อยกับคุณมามากพอแล้ว จะทำอะไรก็ทำ”



                 ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ส่วนไดนาดินยิ้มร่าดีใจไม่บ่อยนักที่เขาจะเผยรอยยิ้มออกมา ฟินกี้มีนิสัยลูกผู้ชายพอ
อยู่แล้ว เพียงแค่จุดชีวิตเปลี่ยนผัน จากชื่นชอบพิคเจอร์ แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอีกคนไปได้ มันช่างเกินคาดฝันเสียจริงๆ แต่เอาตรงๆเขายังไม่พร้อมจะมีใครดูแลเขาเลย



                นายน้อยเบญจพิษยังอกหักเจ็บปวดไม่หายที่พิคเจอร์เลือกคาดอส ทั้งๆที่ก่อนนั้นตัวแสบก็ยืนกรานบอกปาวๆกับเขาว่าไม่มีทางชอบเด็ดขาด ก็อย่างว่าล่ะ  ความเกลียดหรือจะสู้ความใกล้ชิด ไม่นานเดี๋ยวมันก็ผันแปรไปเป็นอย่างอื่นแทน เช่นตอนนี้!



“คุณฟินกี้ครับ อันนี้เก็บใส่ไว้กล่องไหนดี?” ร่างสูงอุทานถาม


“เอาไว้กล่องสีฟ้าเลย”


“อ่อโอเคครับ แล้วกางเกงในนี่ล่ะครับ!”


“เฮ้ย!!! คุณ วางลงเดี๋ยวนี้นะ ห้ามยุ่งกับเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวของผม ไปเก็บอย่างอื่น!!”


“ขะ..ขอโทษครับ”


     ไดนาดินเอ่ยอย่างเกรงใจ ก่อนจะหันขวับกลับไปอีกทางเพื่อเก็บของที่เหลือ


“เดี๋ยวสิคุณไดนาดิน!”


“ครับ?” ร่างสูงหันกลับมาทำหน้างง


“ต่อไปนี้ห้ามคุณใช้คำพูดกับผม เหมือนกับเจ้านายและลูกน้องผมไม่ชอบ ”


“ได้ครับคุณฟินกี้”


“ก็บอกไปแล้วเมื่อกี้นี้ไง!!!”


“ครับฟิน”


“อืมดี...แล้วต่อไปนี้ ถ้าอยู่ใกล้ผม อย่าใส่ชุดสูทเด็ดขาดไม่ว่าจะสีไหนๆก็ตาม คุณต้องแต่งตัวเหมือนปุตุชนทั่วไปเท่านั้น”


“เข้าใจแล้ว”


“ดีมาก แล้วสุดท้าย ขอถามนายอีกครั้ง คิดดีแล้วหรอที่จะอยู่กับเรา” 


          ร่างบางเริ่มเปลี่ยนสรรพนามเป็นกันเองมากขึ้น เอาตรงๆลึกลงไปในใจของฟินกี้ เชื่อว่าไดนาดินเป็นคนดีไม่น้อยทีเดียว ทั้งที่จริงเขาเองเป็นผู้ชายโดยสอยก้นไปเพียงครั้งเดียวไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบก็ได้ แต่บุรุษชายคนนี้กลับคิดที่จะทำ เขาดูสุภาพบุรุษมากทีเดียว



“พี่คิดดีแล้วครับ เราจะอยู่ต่อไปแบบคนธรรมดา”


“พี่หรอ?” ร่างบางขมวดคิ้วเมื่ออีกฝ่ายแทนตัวเองว่าพี่


“อื้มใช่ พี่เกิดก่อนนายอีกนะฟินกี้ ทำไม? หน้าพี่เด็กหรอ”


“เปล่า! นึกว่ารุ่นเดียวกันซะอีก”


“ปีนี้อายุ 31 แล้ว”


“ฮะ? จริงหรอ” บ้าน่าเขาเองเพิ่งจะ 25 ไปหมาดๆ แสดงว่าห่างกันถึง 6 ปีเชียวหรือนี่


“จะโกหกทำไมกันล่ะ เอ่อนี่ฟิน พี่อยากแนะนำ ถ้าฟินไม่อยากให้พี่ละทิ้งการดูแลบอสกับพิคเจอร์แล้ว ทำไมฟินไม่ไปอยู่ที่ปักกิ่ง
ด้วยกันล่ะ บ้านบอสใหญ่มากเลยนะ มีห้องพอสมหรับเราแน่นอน แต่ถ้าไม่มีห้องว่างจริงๆฟินก็มาอยู่ห้องเดียวกับพี่ก็ได้”


“จะเป็นการรบกวนคาดอสรึเปล่า?”


“บอสดีใจซะอีกที่มีคนอยู่ด้วยเยอะๆ”


“ยังไงพี่ก็ลองโทรหาเจ้านายพี่ดูก่อนนะ ผมยังไงก็ได้”


    ไดนาดินยิ้มให้ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ไปขออนุญาตบอสที่อยู่ไกลถึงปักกิ่งทีเดียว






มหานครปักปิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน



            หน้าบ้านเป็นลานหญ้ากว้าง ถูกตัดโล่งเตียนเมื่อเช้านี้เอง ราวกับปูพรมเขียวเอาไว้ ถัดไปอีกหน่อยใต้ร่มไม้ใหญ่สี่ต้นมีบ่อปลารูปร่างขอบสระอิสระ ดูๆไปคล้ายใบบัวที่ถูกกัดขอบใบจนบิ่นเว้า ในสระน้ำมีปลาคาร์ฟตัวอ้วนใหญ่ 4 ตัวราคารวมกันเฉียดสามแสน


             ลายหนึ่งสีทองล้วน ลายหนึ่งมีหัวสีแดงลำตัวขาว ลายหนึ่งตัวสีส้มดำและขาว และตัวสุดท้ายที่เป็นนายแบบให้พิคเจอร์วาดภาพอยู่นี้ก็คือ เจ้าลายผสมสีที่กล่าวมาทั้งหมด มองดูเพลินๆนึกว่าไปเลอะมอมแมมที่ไหนมาก่อนหน้าเสียอีก



                 ถัดไปไม่ไกลจากตัวของนายน้อยแห่งอินทรีทองเท่าไหร่ ปรากฏเป็นลูกน้องของคาดอสมากกว่าสิบคน แต่แทนที่จะยืนสุภาพลายล้อม กลับถูกชักชวนให้เข้ามามุงดูภาพวาดสวยงามนั้นอย่างประชันชิด

                  คุณคงจะจำลูกน้องสองคนที่เคยเฝ้าหน้าประตูห้องพิคเจอร์ได้เมื่อครั้งอยู่ที่ลอสแอนเจลิส ตอนนี้คู่หูผู้แสนดีต่อพิคเจอร์เดินทางกลับมาอยู่ที่ปักกิ่งแล้ว ส่วนที่นั่นถูกปิดไปชั่วคราวคงไม่ได้ไปที่นั่นอีกจนกว่าจะถึงเวลาไปดูงานที่อเมริกาของคาดอสประจำปี



              จนถึงตอนนี้เขาค่อยรู้จักชื่อสองทั้งสองคน คนที่ผิวสีเข้มกว่าหน่อยชื่อ ต้าจิว

              ส่วนอีกคนหน้าตี๋มังกรจ๋าเลยผิวขาวหนังตาชั้นเดียว ชื่อ ชิงอ๋อง

              ชื่อหน้ารักมากจริงๆร่างบางพลางคิดว่าพวกเขาน่าจะทำความรู้จักกันตั้งแต่ตอนครั้งโน้นเสียอีก



“แอะแฮ่มมมม” เสียงกระแอมดังเข้ามาทำให้ลูกน้องที่กำลังเพลิดเพลินไปกับภาพวาดสะดุ้งตกใจ รีบกลับไปยืนกุมมืออย่างสุภาพดังเดิม



“พี่เฉิง!!! ทำไมมาป่วนคนของผมแบบนี้”


“พี่เปล่านะ พี่แค่กระแอม เพราะเจ็บคอ?” ร่างสูงเฉไฉ แต่สีหน้าเจ้าเล่ห์นั้นชักไม่อยากเชื่อเท่าไหร่เลย


“เชื่อตายแหละ ถึกอย่างกับวัวทิเบตไม่น่าเจ็บป่วยง่ายๆ”


“หืม? ว่าใครวัวทิเบต พี่เป็นอินทรีทองผู้น่าเกรงขามกำลังเล่นจับขังกระต่ายน้อยขนปุยพันธุ์หยางอี้อยู่ตากหาก”


          คาดอสไม่ว่าเปล่าพลางย่อตัวลงมานั่งคุกเข่าอยู่ข้าง พร้อมกับเอื้อมมือหนาไปเกลี่ยเล่นที่แก้มอีกฝ่ายเบาๆ


“พี่เฉิง พื้นมันสกปรก ไปหาเก้าอี้มานั่งดีๆ”


“ขนาดพี่ไม่มีเก้าอี้ พี่ยังสูงกว่าหยางอี้แล้วนะ”


“ตามใจ!!!”  พิคเจอร์ไม่สนใจอีกคนแล้ว แต่กำลังสนใจภาพวาดของตัวเองที่ใกล้แล้วเสร็จสมบูรณ์


“หยางอี้!!! พี่มีเรื่องจะบอก”


“อะไรหรอครับ”


“ไดนานดินโทรมาบอกว่า จะพาฟินกี้มาอยู่ที่นี่ด้วย นายว่าดีไหม?”


“ดีสิครับ อยากเจอหน้าเพื่อนใจจะขาดอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าจะเป็นไงมั่ง  ว่าแต่ทำไมฟินถึงจะมาที่นี่ล่ะครับ”


“ก็เพราะว่า...เป็นภรรยาไดนานดินไปเรียบร้อยแล้วนะสิ”


“ฮะ!!!! ว่าไงนะ?”


“ภาพปลาคาร์ฟสวยดีนะ ว่าแต่ทำไมถึงเลือกเจ้ามอมแมมเป็นนายแบบล่ะ” คาดอสเปลี่ยนเรื่อง


“ใครว่าล่ะ ในทางของงานศิลปะ ที่ผมเลือกเจ้ามอมแมมนี่ใช่ว่ามันดูขี้เหร่ แต่ผมมองว่ามันเหมือนชีวิตผมไงพี่เฉิง ผ่านเรื่องราวมา
มากมายทั้งที่ดี ก็เหมือนสีแดงส้มสวยๆบนตัวมัน ส่วนเรื่องร้ายๆก็เหมือนสีดำแต้มอยู่เป็นจุดๆ แต่พอมองดูดีๆ มันมีเสน่ห์และบอกเรื่องราวของผมได้ครบสูตรเลยนะ”   



“คร้าบบบบ พี่ยอมแล้วทูนหัว ช่างมีความคิดซับซ้อนเหลือเกิน แต่เรื่องหัวใจอย่าไปมีใครซ้อนทับเด็ดขาด เข้าใจไหมครับ สุดดวงใจของพี่ ฟอดดดดดดดด” คาดอสเข้าหอมแก้มเนียนนั้นไม่เกรงใจลูกน้องนับสิบคน



      พิคเจอร์ไม่คิดหลบแต่เต็มใจให้ริมฝีปากกับจมูกโงชันนั้นแนบข้างแก้ม


“พี่คิดว่า ลวดลายของปลาคราฟตัวนี้ มันจะลบเลือนไหม?”


“ไม่อยู่แล้ว ถามทำไมหรอ?”


“ก็กำลังจะตอบคำถามพี่ไง...ลวดลายมันก็เหมือนความรักที่พี่เฉิงมอบให้ผมมาตลอดตั้งแต่เด็กนั่นแหละ ต่อให้จะเนิ่นนานแค่ไหน ลวดลายบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นก็ไม่ต่างไปจากลวดลายของปลาตัวนี้  มันจะติดตัวไปตลอดจนกระทั่งสิ้นลมหายใจของผม”


“หยางอี้ ขอบคุณนะ มันเป็นคำตอบที่วิเศษณ์ที่สุดในชีวิตพี่เลย”


“อย่าเพิ่งมาซึ้งสิครับ จะมาบิ้วอารมณ์ให้ยอมแต่งงานใช่ไหม ผมรู้ทันหรอก”


“โถ่ รู้ได้ไงอ่ะ แต่งเถอะนะ นี่พี่อ้อนรอบที่ สี่แล้วนะ ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้านเนี่ย”


“ผมต้องการแต่งงานพร้อมพี่ชายครับ พี่เฉิงก็ช่วยทำให้คู่นั้นรักกันแบบคนรักซักทีสิ”


“หยางเฟยมันมีน้ำยาของมันหรอกน่า”


“งั้นพี่เฉิงหรอได้ใช่ไหมครับ?”


“เรื่องแต่งงานรอได้ แต่เรื่องพรหมจันทร์ฟ่านหยางอี้ กระต่ายน้อยของพี่ พี่ชักไม่มั่นใจแล้วสิ คืนนี้ขอนะ!!!”


“พี่เฉิง!!!!”




:L2:


วู้วววววววววววววววววววว  มีความสุข เรื่องนี้ใกล้จบแล้วววววววววววววววว

ปล. ไม่ถนัดแต่งฉากสวิ้งกิ้งเท่าไหร่ ขอตัดไปแบบนั้นแล้วกันนะ อิอิ
   

:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 27
«ตอบ #65 เมื่อ12-09-2016 13:24:08 »

ตามมาอ่านรอ ๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 27
«ตอบ #66 เมื่อ13-09-2016 14:45:43 »

ตอนที่ 28



              สามวันผ่านไป...ที่คฤหาสน์หลังคาสีแดง ประมุขเสือแดงยังคงรักการตื่นแต่เช้าตรู่แล้วลงมาออกกำลังกายกลางแจ้ง เรือนร่างสีขาวเปลือยท่อนบน ท่อนล่างใส่กางเกงเล สีดำล้วน กำลังร่ายรำไปกับกระบี่คู่ใจคมกริบ เพียงแค่เขาฟาดคมนั้นไปบนอากาศ เสียงกระบี่ก็ยิ่งดังขึ้น  แต่แล้วต้องชะงักเมื่อมีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา


“ขอโทษครับนายท่าน คุณเฟอกัล ตัวร้อนมากเลยครับ”


“ยังไม่ดีอีกหรอ?”  หนุ่มตี๋ทำสีหน้าสงสัย



                 เท้าความกลับไป เมื่อวันที่ฟ่านหยางเฟยร่วมรักอย่างดุเดือดกับเฟอกัลบนเตียงนอน มันไม่ใช่แค่เพียงครั้งเดียว แต่วันนั้นนับรวมเบ็ดเสร็จจานวนสี่ครั้งจนถึงเช้าตรู่อีกวัน ราวกับกำลังโดนพิษยาปลุกเซ็กส์เล่นงานก็ไม่ปาน



                  และหลังจากนั้นมาสามวัน ก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเหนื่อยหอบอิดโรยมาตลอด จนกระทั่งถึงวันนี้เป็นหนักขึ้นคือเริ่มตัวร้อน!!! เขากำลังคิดว่าควรจะรับผิดชอบอะไรสักอย่าง อย่างน้อยๆก็เห็นแก่ความเป็นเพื่อนผูกมิตรไมตรีของสองแก๊งเมื่อครั้งคราวรุ่นพ่อ



                  ฟ่านหยางเฟยเดินไปหยิบเอาชุดคลุมสีเลือดหมูมาใส่ ก่อนจะกลับเข้าไปในบ้าน มุ่งไปยังห้องนอนของเฟอกัล  ทั้งที่หยาดเหงื่อจากการออกกำลังกายเมื่อครู่กำลังผุดขึ้นเป็นเม็ดๆเกาะบนผิวขาว แต่เขาไม่คิดจะเช็ดเหงื่อหรือรอให้มันแห้งก่อน


“เจียนเหมิงออกไปก่อน!”


“ครับนาย”



              ภายในห้องก็มีเพียงเขากับเฟอกัลสองคน หลังมือหนาแตะลงที่หน้าผากและลำคออีกฝ่ายทันที อาการเป็นเหมือนที่เจียนเหมิงคนสนิทบอกมาจริงๆด้วย ตัวร้อนจี๋แถมริมฝีปากก็ซีดจางกว่าเดิมเล็กน้อย เขาเองชักไม่มั่นใจว่ามันเกิดจากผลข้างเคียงระหว่างร่วมเพศรึเปล่า?



          ผู้นำเบญจพิษนอนหลับสูดพ่นลมหายใจเป็นปกติ ภายใต้ผ้าห่มที่คลุมถึงแผ่นอกบนเตียงกว้าง ถึงเฟอกัลจะตัวสูงพอๆกับฟ่านหยางเฟยแต่เรือนร่างกำยำนั้นเปรียบเทียบผู้นำเสือแดงไม่ได้เลย 



“ฮึก อืมมม” เสียงร้องครางในลำคอของคนป่วยดังขึ้น พร้อมกับค่อยๆลืมตา สิ่งแรกที่เขาเห็นคือฟ่านหยางเฟยกำลังนั่งอยู่ขอบเตียงจ้องมองเขาอยู่ เฟอกัลรีบทำท่าจะลุกหนีแต่กลับถูกมือหนาสองข้างผลักกดไหล่ให้ลงไปนอนเหมือนเดิม


“จะตายอยู่แล้วยังคิดหนีไปไหนอีก”


“ก็ฆ่าฉันให้ตายซะสิหยางเฟย ฆ่าฉันเลย!!!” น้ำเสียงอวดเก่งทั้งที่ร่างกายไม่พร้อมแบบนี้ หยางเฟยได้แต่ถอนหายใจไม่คิดใส่ใจเท่าไหร่นัก


“นายไม่มีโทษถึงตาย จะตายไปทำไมกัน?” เสียงเรียบถามขึ้น


“ฉันทำไม่ดีกับอินทรีทองไว้มาก แถมลักพาตัวน้องชายนายไปอีก ที่สำคัญครอบครัวฉันฆ่าพ่อแม่นาย”


“ฮึฮึ ฟินกี้น้องชายนายรู้เรื่องหมดแล้ว คนที่โง่ที่สุดก็เห็นจะมีแค่นายเท่านั้นในตอนนี้”


“หมายความว่าไง?”


“ก็หมายความว่า...”



              ฟ่านหยางเฟยเล่าเรื่องทั้งหมดที่ได้ฟังมาอีกทีกับคาดอส ให้เฟอกัลฟังหมดเปลือก และดูเหมือนอีกฝ่ายก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดีจนกระทั่งหนุ่มตี๋เล่าจบ


...


...


...


“ทีนี้เข้าใจแล้วรึยัง?” เฟอกัลพยักหน้าช้าๆ แอบเสียใจและรู้สึกผิดมากทีเดียว


“ฉันขอโทษนะหยางเฟย ฉัน...ฉันมันโง่เอง”


“เก็บคำขอโทษนั้นไปเถอะ นายไม่มีความผิดอะไรแล้ว”


“ถ้าอย่างนั้นนายปล่อยฉันไปนะ ฉันอยากไปหาน้อง”


“ปล่อยไปได้ยังไงกัน นายเป็นคนของฉันแล้วนะ ถ้าพูดให้ถูก นายคือภรรยาของฉันแล้วต่างหาก”



            เรื่องราวที่ยังพอจำความได้ในค่ำคืนนั้น แต่มันกลับเนิ่นนานเพียงเพราะโดนเสพกามารมณ์แบบไม่มีเหน็ดเหนื่อยของหยางเฟย เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆในความทรงจำ  เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะตกอยู่ในสถานะนี้ สถานะที่ถูกกระทำ ไม่ใช่คนกระทำเอง จากใจจริงเขายังรักพิคเจอร์อยู่ แต่ตอนนี้เขาคงไม่กล้าบากหน้าไปหาร่างบางนั้นอีกแล้ว ด้วยสิ่งที่กระทำลงไปมันยากเกินจะให้อภัยจริงๆ



“แต่ฉันไม่ได้รักนายนะฟ่านหยางเฟย”


“เรื่องนั้นฉันรู้เฟอกัล แต่ถ้าเราอยู่กันไปนานๆฉันเชื่อว่าสักวันทั้งนายและฉันคงจะรู้สึกไม่ต่างกัน”


“ถ้ามันต้องใช้เวลานานจนใครคนหนึ่งต้องตายไปก่อนล่ะ”


“นั่นมันก็ขึ้นกับว่าบุญกรรมส่งมาขนาดไหน แต่ฉันยอมรับได้ทุกอย่าง เพราะนี่ฉันก็มาไกลเกินคาดหมายแล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าจะ
ได้นายมาเป็นคู่ครองแบบนี้”



“ฉันเองก็เหมือนกันนั่นแหละน่า” อีกฝ่ายเริ่มหงุดหงิด เพราะอีกคนพูดราวกับจำใจที่เลือกเขา


“แต่ว่า...ลีลานายชัดใจฉันนะเฟอกัล ฉันรอคอยนายหายดี แล้วเราจะแต่งงานกันเลย มีลุกวักสองคนเป็นไง”


“ฉันเป็นผู้ชายจะมีลูกได้ไงเล่า! อีกอย่างเรื่องแต่งงานกับนาย ฟังเลยทะแม่งหูชะมัด แคร๊กๆๆๆ”


“นายยังป่วยไม่หายดี เดี๋ยววันนี้ฉันจะพาไปโรงพยาบาลแล้วกัน” ฟ่านหยางเฟยดูเป็นห่วงอีกคนมาก


“ฉันไม่ไปได้ไหม? ฉันคิดว่าก็แค่ไข้ขึ้นธรรมดา เดี๋ยวพักอีกหน่อยก็หาย”


“โอเค แต่ถ้าไม่ดีขึ้น นายจะอ้างแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วนะ ฉันจะให้นายพักผ่อนแล้วกัน”



            ฟ่านหยางเฟยพูดพร้อมกับลุกเหยียดกายสูง แต่ยังไม่ทันได้หันหลังเดินออกไป กลับถูกมือใครบางคนคว้าจับเอาไว้ทัน


“เดี๋ยว!”


“มีอะไรอีกรึเปล่า? หิวข้าว หิวน้ำ รึว่าต้องการเช็ดตัว” หยางเฟยเปรยถามคาดเดาไปส่งๆ


“ทั้งหมดนั่นแหละ หลายวันแล้วที่ไม่ได้อาบน้ำเลย ฉันเหม็นตัวเองจะแย่อยู่แล้ว”


“ฮึฮึ ถอดเสื้อผ้ารอ เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมน้ำเตรียมผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้”


“ไม่ต้องๆ แค่นายเตรียมให้ก็พอ ฉันเช็ดตัวเองได้”


“อย่าดื้อนักจะได้ไหม อายอะไร ก็เห็นกันหมดแล้วในคืนนั้นน่ะ”


“เอ่อ...”




              หนุ่มเบญจพิษพูดไม่ออกบอกไม่ถูก จริงๆเรื่องแบบนี้ผู้ชายด้วยกันไม่สมควรอายหรอกนะ แต่ว่า...ทำไมพอเป็นฟ่านหยางเฟย เขากลับรู้สึกอายขึ้นมาเสียดื้อ ไม่ชินเสียที



              เฟอกัลนอนรอบนเตียงสักพักหยางเฟยก็เดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องมากมาย คนหนึ่งถืออาหาร คนหนึ่งถือน้ำและนมอุ่น คนหนึ่งถือผลไม้ คนหนึ่งถือกะละมังเล็กใส่น้ำและผ้าขนหนู ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นแล้วปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกรงใจแค่ไหน 
ทั้งชีวิตไม่มีใครเอาใจใส่และดูแลเขาดีขนาดนี้มาก่อนเลย



“เอาวางไว้ แล้วออกไปได้แล้ว!” เจ้าของบ้านหันไปบอกลูกน้อง ไม่นานก็เหลือเพียงพวกเขาสองคนเช่นเดิม

...

...


“ดื้ออีกแล้วนะ ฉันบอกว่ายังไง? ให้นายถอดเสื้อผ้ารอฉันไม่ใช่หรอ”


“ก็ฉันอายนี่นา นายให้ฉันเช็ดเองเถอะนะ”


“ไม่ได้!!! ถึงอายก็ต้องทำ ยังไงก็ต้องเคยชินเข้าไว้ ถ้านายดื้ออีกฉันจะให้คนมาลากไปส่งโรงพยาบาล”


“ไม่ไปๆๆๆ ฉันไม่ชอบโรงพยาบาล!!!”


“ถ้าอย่างนั้นก็ถอด!!!”


                 ฟ่านหยางเฟยทำเสียงดุเข้ม ทั้งที่ในใจกำลังแอบขำกับความรู้ใหม่อีกฝ่ายที่ว่า ไม่ชอบโรงพยาบาล เหมือนเด็กอะไรขนาดนี้นะ โตจนอายุสามสิบแล้ว แถมเป็นผู้นำเบญจพิษอีก กลัวกับแค่เรื่องแบบนี้มันสมเหตุสมผลที่ไหนกันล่ะ?



                ตอนนี้เฟอกัลเปลือยเปล่าแล้ว ภาพสุดเซ็กซี่ในสายตาของหยางเฟย กำลังปรากฏตรงหน้า แล้วแบบนี้จิตใจเสือหนุ่มจะไม่ถูกปลุกได้ยังไง



“หยางเฟย นายจ้องมองฉันนานไปแล้วนะ รีบๆเช็ดเถอะ ฉันหนาวมากเลย” เสียงร้องท้วงนั้นทำให้อีกฝ่ายได้สติกลับมา แต่แววตาหยาดเยิ้มไม่ได้ลดน้อยลงแม้แต่นิดเดียว



“โอเคๆ จะรีบเช็ดเดี๋ยวนี้แหละ”



          มือหนาเอื้อมไปหยิบผ้าขนหนูจุ่มลงน้ำในกะละมัง บิดให้น้ำออกพอหมาดได้ที่ หยางเฟยเริ่มเช็ดบนใบหน้าก่อน สัมผัสเย็นที่อ่อนโยนจากผืนผ้านั้นซึมไปทั่วเรือนร่างของคนที่นอนอยู่เฉยๆ หนุ่มตี๋คนนี้ทำละมุนมือเกินไปแล้ว


“หยะ...หยางเฟย” น้ำเสียงไม่สู้ดีเปรยออกมา


“หืม ว่าไง กำลังคิดเรื่องนั้นอยู่ใช่ไหม?” อีกคนยิ้มอ่อน


“ฉัน...ฉันไม่ไหวแล้ว” อีกคนบอกความต้องการด้วยสีหน้าแดงฉาน


“ฉันต้องการคำนี้ที่สุด ภรรยาของฉัน!”



             หยางเฟยวางผ้าขนหนูพาดกับขอบกะละมังแล้วยกลงไปด้านล่างพื้น ส่วนแก่นกายกำยำและหนักกว่าเฟอกัลกำลังขึ้นคร่อมอีกฝ่าย


             คราวนี้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความละมุน เสื้อคลุมและกางเกงเลสีดำของหยางเฟยค่อยๆหลุดออกจากลำตัว จนตอนนี้ทั้งสองร่างกำลังเปลือยเปล่าถูแนบเรือนร่างกันไปมา ราวกับเหย้าหยอกปลุกอารมณ์ความเป็นชายให้ผงาดออกมา ก่อนที่จะนำพาทั้งสองหลุดล่องลอยไปในความต้องการของตนเอง...








ผ่านไปหนึ่งเดือน


มหานครปักกิ่ง ประเทศจีน



             สระว่ายน้ำสีฟ้าอ่อนในตัวบ้าน ถูกสร้างขึ้นเพราะความต้องการของคาดอส เขาชอบการว่ายน้ำมาก จึงมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กนี้กลางคฤหาสน์ แหงนหน้ามองขึ้นบนท้องฟ้ากลับถูกปิดบังด้วยแผ่นใสกรองแสง  สองเรือนร่างเปลือยท่อนบนทั้งคู่กำลังว่ายน้ำกันอย่างสบายใจไปมาในสระ แต่ดูเหมือนอีกคนที่ตัวเล็กกว่าจะทับแนบร่างใหญ่อยู่ด้านบนโผล่พ้นผิวน้ำ


“บอสครับ คุณฟ่านหยางเฟยโทรมาบอกว่างานแต่งงานครั้งนี้ขอเลือกจัดที่บ้านของบอสครับ”


“ดีเลยไดนาดิน แล้วนี่สรุปว่าพวกนายจะแต่งพร้อมกับฉันเลยไหม? ”


“ผมว่าไม่เหมาะหรอกครับ งานนี้เป็นงานมงคล อยากให้บอสกับคุณฟ่านหยางเฟยมีความสุขกับงานนี้มากกว่า ของผมเดี๋ยวจัดทีหลังก็ได้ครับ”


“พูดอะไรอย่างนั้นล่ะไดนาดิน พี่เฉิงจะมีความสุขมากกว่าถ้าคู่ของนายร่วมพิธีกับพวกเรานะ ยังมีคู่ของเจียนเหมิงกับอินจือด้วย
สองคนนั้นก็ยังไม่แต่งงาน คิดว่าพี่หยางเฟยคงชวนแล้ว”


“นั่นสิไดนาดิน หยางอี้พูดถูก ยังไงนายลองถามฟินกี้ดูนะ”


“ครับบอส!” ไดนาดินยิ้มเล็กน้อย


“อ่อจริงสิ เดี๋ยวบ่ายวันนี้เราจะไปดูชุดแต่งงานกัน นายกับฟินกี้ก็ต้องไปด้วยนะ” คาดอสหันมาบอก


“ครับบอส!”


             และแล้ววันเวลาก็ผ่านไป จนกระทั่งถึงวันแต่งงาน แขกในงานที่สำคัญอย่างอินทรีทอง เสือแดงและเบญจพิษมาร่วมงานปะปนกันภายในอาณาเขตอินทรีทอง ทุกคนมีความสุข สนุกสนานเฮฮามาก ไม่มีเรื่องบาดหมางกันอีกแล้วนับจากนี้ เพราะการันตีการสงบศึกสงครามของผู้นำทั้งสามแก๊ง กินดองสู่ขออยุ่กันเป็นคู่จนหมดแล้ว



            งานดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งราวตีสอง ทั้งสี่คู่ขอแยกย้ายเข้าไปพักผ่อน ด้านนอกงานผู้ร่วมสังสรรค์ยังคงไม่หยุดสนุก  มีเบลซ แกริค และเรนเดล กำกับและดูแลความปลอดภัยของงานเป็นอย่างดี


“คนอื่นเขามีคู่กันหมดแล้ว เมื่อไหร่นายจะให้โอกาสฉันบ้างเรนเดล” หนุ่มผมบอร์นเดินเข้ามาหา


“พูดอะไรของนาย? ฝันไปเถอะ ” หนุ่มจอมน้ำแข็งเดินหนีอีกคนไปทันที


“นี่!!! ฉันพูดจริงนะ ฉันชอบนายมานานแล้วเรนเดล นายดูไม่ออกหรือไง”


“ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับนายเลยแกริค แค่อยู่ใกล้ๆฉันก็หงุดหงิดแล้วเข้าใจไหม ไปดูความเรียบร้อยงานทางนั้นเลยไป”  เรนเดลผายมือไล่อีกคนไป


“เดี๋ยวฉันไปดูแทนแกริคแล้วกัน” เบลซ หนุ่มหล่อเพื่อนรักแกริคเสียสละไปแทน หวังเพียงจะให้เวลานี้แกริคอยู่กับเรนเดลมากขึ้น


“เรน!  ให้โอกาสฉันหน่อยเถอะ ถ้าฉันทำสุดความสามารถแต่นายยังไม่รักฉัน ฉันสัญญาว่าจะเลิกยุ่งกับนายโอเคไหม?”


“เสียเวลาเปล่าๆน่า ไปทำงานได้แล้วแกริค”


“ให้โอกาสแกริคมันหน่อยจะเป็นอะไรไปเรนเดล”  ชายร่างท้วมวัยกลางคนเดินเข้ามาหา


“แต่ผมไม่อยากให้เขาเสียเวลากับผมนี่ครับด๊อกเตอร์”


“ความรักมันมีเสียเวลา เสียกำไรรึไง ความรักขอแค่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำให้คนที่เรารักมีความสุข แค่นี้ก็เพียงพอต่อจิตใจคนคนนั้นแล้วไม่ใช่หรอ?”


     เรนเดลหันมามองแกริคที่ยืนก้มหน้าก้มตายืนอยู่ไม่ไกลนัก จะว่าไปหมอนี่ก็น่าสงสารนะ หล่อแต่ขี้กลัวขี้ขลาดนี่สิที่เขาหงุดหงิดหมอนี่ แต่เอาเถอะบางทีลองดูก็ไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยๆแกริคก็เป็นเพื่อนเขา


“โอเค ฉันตกลงให้นายจีบ”


“เยส!!! ขอบคุณครับด๊อกเตอร์” หนุ่มผมบอร์นทองวิ่งถลาเข้าไปกอดชายร่างท้วมด้วยความดีใจ


“เบาหน่อยๆไอ้หลานชาย ฉันอายุมากแล้วนะ”


              ในตอนนี้จะมีก็เพียงแต่ เบลซ เท่านั้นที่ยังไม่มีใครเลย... ช่วงนี้เห็นเขาเงียบๆไป สงสัยคงกำลังคิดมากเรื่องนี้อยู่แน่ๆ แต่เอาจริงๆหมอนั่นเป็นจอมพลัง คงไม่คิดใส่ใจเรื่องความรักเท่าไหร่หรอกมั้ง

...

...



“เบลซ! ดูนายไม่สู้ดีเลยนะ” เรนเดลเดินตรงเข้าไปหา นานแค่ไหนแล้วที่เขาไมได้เข้ามาทักทายเป็นกันเองแบบนี้กับหนุ่มหล่อ
ร่างสูง


“ฉันก็ปกติดี ว่าแต่นายมีอะไร?”


“เปล่า...แค่คิดขึ้นได้ว่าเราไม่ได้มานั่งคุยกันลำพังนานมากแล้ว   ทำไมนายไม่คิดจะมองหาใครมาเป็นเจ้าของหัวใจบ้างล่ะเบลซ”  เรนเดลเดินมานั่งลงเก้าอี้อีกตัวข้างๆเบลซ


“ฉันไม่สมควรมีความรักหรอก แม้แต่ตัวเองฉันยังดูแลไม่ดีเลย”


“ใครว่ากันล่ะ ถึงนายจะชอบสร้างเรื่องให้ไดนาดินแก้อยู่เรื่อย แต่นายคือจอมพลังมือหนึ่งทุกครั้งที่บอสต้องการไม่ใช่หรอ? เพราะนายทำงานดี ฉันเองยังชื่นชมนายเลย”


“นายคิดอย่างนั้นหรอเรน?”


“ก็ใช่นะสิ อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ ฉันต้องสร้างภาพโกหกนายรึไง?”


“ขอบใจนะ”


“อื้ม!!! ตอนนี้ถ้านายมีใครอยู่ในใจก็ไปทำให้สำเร็จเถอะ อย่างน้อยคนคนนั้นก็ไม่เลวร้ายเท่ากับที่ฉันปฏิเสธไอ้แกริคหรอก”


“ฮ่าๆๆ แต่สุดท้ายนายก็ยอมไอ้เพื่อนรักของฉันไม่ใช่หรอ?”


“ก็ตื้ออยู่ไม่เลิก ฉันรำคาญ คบๆกันไปก็จบ ลงเอยกันไม่ได้ก็ค่อยเลิกไม่เห็นยาก”


“ตลกแล้วเรน ความรักไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ”


“ฉันรู้ ฉันก็พูดเล่นไปอย่างนั้นแหละ อยากให้นายอารมณ์ดี”


“โอเค พอได้ยินนายพูดแบบนี้ฉันก็มั่นใจตัวเองขึ้นมากแล้ว เอาเป็นว่าสามวันนี้ฉันลาแล้วกัน ฝากบอกบอสด้วยนะ”


“นายจะไปไหน?”


“ก็อย่างที่นายบอกนั่นแหละ ไปตามหาหัวใจ”


“เฮ้ย!!! มันหาง่ายขนาดที่ต้องใช้เวลาแค่สามวันเลยหรอ?”


“ก็ไม่แน่ เพราะใครคนนั้นฉันมีอยู่แล้วในหัวใจ”


“เออๆ โชคดีแล้วกัน อย่าลืมพามาแนะนำด้วยนะ!” เรนเดลโบกมือลาเพื่อนให้กำลังใจ เบลซเดินหายลับขึ้นรถมอเตอร์ไซน์
บิ๊กไบร์สีดำคันโปรดบิดออกจากรั้วบ้านไป แล้วใครคนนั้นของเบลซคือใครกัน!!


   แต่หนุ่มร่างสูงรู้ดีว่าใครคนนั้นในหัวใจของเขา ไม่มีวันได้นำมารู้จักกับทุกคนหรอก เพราะตอนนี้ไม่ต่างอะไรไปกับอยู่คนละโลก ทุกอย่างมันจบแล้ว! แต่ที่เขาต้องไปทำ อย่างน้อยก็เพื่อบอกความในใจที่ตัวเองมีให้กับเขาคนนั้น เท่านั้นเอง


:L2:


การันตีได้ อีกสองตอนจบแน่ๆ   :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ fcsunaree

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 28
«ตอบ #67 เมื่อ13-09-2016 23:17:31 »

มาต่อเร็วๆนะ

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 28
«ตอบ #68 เมื่อ14-09-2016 15:38:54 »

ตอนที่ 29


ฮ่องกง เขตปกครองพิเศษภายใต้สาธารณรัฐประชาชนจีน


           ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำทั้งตัว กำลังเฝ้ารอใครบางคนปรากฏหลังกรงเหล็กขวางกั้นอยู่ เพราะคำพูดของเรนเดลเพื่อนรักทำให้เขาต้องการมาที่นี่


           บางทีคำพูดนี้อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่จะหลุดออกไปจากความรู้สึกของเขาเสียที ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ดีกว่าเก็บมันเอาไปกับตัวเองไปตลอดชีวิต



“นักโทษมาแล้ว มีเวลาแค่สิบนาทีเท่านั้น” เสียงของผู้คุมขังเปรยบอก



            หนุ่มร่างสูงมองจ้องคนตรงหน้า ไม่เจอกันเพียงสัปดาห์กว่าๆ ร่างเล็กกว่าเขานั้นช่างดูอิดโรยเหลือเกิน ผิวพรรณจากที่เคยมีสีขาวเหลือง ตอนนี้ดูหม่นหมองกว่าเดิมไม่น้อย ในขณะที่เขากำลังใช้สายตามองสำรวจอีกฝ่ายอย่างถี่ถ้วน คนตรงหน้ากับรีบพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน



“แกมาที่นี่ทำไม? รึว่าไอ้คาดอสเปลี่ยนใจ คิดอยากฆ่าฉันแล้วส่งแกมาอย่างนั้นใช่ไหม?”

           ประโยคไร้เยื่อใยเอ่ยออกมา มันทำให้เบลซกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่ใช่เพราะเขากลัว แต่ตอนนี้เขากำลังขลาด ไม่มั่นใจในตัวเองนัก


“เปล่าหรอก ฉันไม่ได้มาฆ่านาย แล้วนี่นายโอเคใช่ไหม?”


“ฮึ  ก่อนจะถามดูสภาพกูด้วย ไม่ตายก็เหมือนตาย ไม่เห็นรึไง?”



                ภายในห้องลำลองที่มีกรงเหล็กกั้นกำลังตกอยู่ในความเงียบสงัดอีกครั้ง เบลซกำลังพยายามรวบรวมความกล้านี้อยู่ แต่ดูเหมือนอารมณ์ของอีกคนจะไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก


“หางเซียง! ที่ฉันมาวันนี้ ฉันแค่อยากจะบอกอะไรกับนายเท่านั้น”


“อะไร?”


...


... 


...  ร่างสูงหล่อสูดอากาศเข้าเต็มปอด พร้อมกับหลับตาลง


“ฉันรักนาย”

     เบลซเปรยบอกไป แต่แล้วทุกอย่างยิ่งเงียบสงัดลงกว่าเดิม ได้ยินเพียงเสียงหัวใจของตัวเองเต้นดังแทบทะลุออกจากอกซ้าย

...


...


“กลับไปซะเบลซ แล้วนายไม่ต้องมาที่นี่อีก” นักโทษมองหน้าคนมาเยี่ยม ด้วยความเย็นชา


               เบลซลืมตาขึ้น แล้วพยักหน้าช้าๆพร้อมกับสูดลมหายใจแล้วปล่อยออกมาอีกครั้ง 


“ฉันก็กำลังคิดเหมือนกันว่าฉันไม่ควรมาที่นี่อีก ครั้งนี้ฉันเพียงแค่ตั้งใจมาบอกนายเท่านั้น”


“ไอ้คนแปรเปลี่ยนพรรคอย่างแก ฉันไม่คิดอยากจะเสวนาให้มันมากความนักหรอก”


“ฉันรู้ว่านายค้างคาใจเรื่องนี้ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่มาหานายอีก ดูแลตัวเองดีดีด้วยนะ ฝากความคิดถึงไปหาหานจูพ่อของนายด้วย”



            เบลซหันหลังกลับ และกำลังทำใจมากที่เดียวกับการที่ต้องเดินพ้นจากห้องลำลองไป เพราะนั่นมันหมายถึงเขาจะไม่มีวันได้กลับมาอีกแล้ว  ในที่สุดก็ก้าวพ้นจากห้องนั้นไปจนได้ พร้อมกับน้ำตาของใครบางคนที่ยังคงอยู่ด้านหลังกรงเหล็กกั้นนั้นคนเดียว ร่ำไห้ให้กับความเป็นจริงที่ต้องยอมรับ

...


...


“มันจบแล้วเบลซ! อย่าเสียเวลากับคนอย่างฉันเลย”


“นักโทษหานเซียง กลับเข้าไปได้แล้ว!” เสียงผู้คุมขังตะโกนลั่นบอก หานเซียงค่อยๆเช็ดน้ำตาตัวเองออกแล้วเดินหายลับเข้าไปในห้องคุมขังดังเดิม


              ไม่ใช่เพราะรังเกียจเบลซ ที่แปรเปลี่ยนไปอยู่กับอินทรีทอง เรื่องราวบาดหมางเขายอมรับผิดแต่เพียงแก๊งเดียว แต่มันอดไม่ได้ที่จะต้องพูดจาแบบนั้นเมื่อเห็นหน้ากัน มันทำใจลำบากที่จะหวนกลับมาพูดกันดีๆอีกครั้ง เบลซคือเพื่อนเล่นคนสนิทที่สุดของหานเซียงตั้งแต่ยังเด็ก



             มาถึงทุกวันนี้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรเหมือนเดิม ถึงแม้การมาหาของเบลซในวันนี้จะมาด้วยความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกันนัก แต่หานเซียงขอละตัดใจไปดีกว่า เบลซเป็นคนดี เขาควรจะได้เจอคนดีๆ ไม่ใช่คนสารเลวอย่างเขา



              ต้องใช้ความกล้าในจิตใจแค่ไหนถึงต้องพูดตัดพ้อร่างใหญ่ไปแบบนั้น แต่ช่างเถอะตอนนี้เขาก็ผ่านจุดนั้นมาได้แล้ว ต่อจากนี้ไปเราสองคนเหมือนอยู่คนละโลก ไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว หานเซียงยอมรับชะตากรรมของตัวเองไว้แต่เพียงผู้เดียว และพร้อมให้อีกคนได้เจออนาคตที่สดใสรออยู่ภายนอก ส่วนเขาคงจะได้อยู่เพียงโลกแคบ ที่มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืดมนในชีวิตตลอดกาล... 






ผ่านไปหนึ่งปี


มหานครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน



          ในคฤหาสน์หลังคาสีแดง  ดูท่าทีทุกคนจะเห่อทายาทคนใหม่ของเสือแดงมากทีเดียว ทั้งเจ้านายและลูกน้องไม่มีใครดีใจน้อยไปกว่ากันเลย เฟอกัลคลอดลูกชายเมื่อสามวันก่อน เพิ่งอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาอยู่กับฟ่านหยางเฟยที่บ้านพร้อมด้วยลูกชายตัวเล็กน่ารัก คนเป็นพ่อตั้งชื่อให้เรียบน้อยแล้ว ชื่อ  ฟ่านเยี่ย


          ส่วนทางด้านน้องชายสุดที่รักอย่างพิคเจอร์ก็รีบเดินทางมาดูหน้าหลานถึงที่ พร้อมกับคาดอสทันที


“ไหนๆ หลานของอาอยู่ไหน” พิคเจอร์มาถึงก็เอ่ยถามหาหลานทันที



          กวาดสายตามองได้ไม่นาน ก็เจอตัวเข้าให้ กำลังถูกคุณแม่ผู้ให้กำเนิดอุ้มอยู่บนโซฟาไม้ลายเสือ โดยมีพี่ชายนั่งประกบไม่ห่าง


“มาเร็วดีนะหยางอี้”


“อยากมาเห็นหน้าหลานไวๆนี่ครับ แล้วนี้ตั้งชื่อรึยัง?”


“ตั้งแล้วชื่อ...ฟ่านเยี่ย”


“ชื่อน่ารักจัง หลานโตขึ้นห้ามสักลายเสือแดงบนอกเด็ดขาดนะพี่หยางเฟย” พิคเจอร์ส่งสายตาขู่


“ไม่แล้วล่ะ สามแก๊งตอนนี้ก็เหมือนครอบครัวเดียวกันหมดแล้วจะแบ่งแยกไปทำไม” ร่างบางยิ้มเมื่อได้คำตอบที่น่าพอใจ


“พี่เฟอกัล ของผมอุ้มหลานได้ไหมครับ?” พิคเจอร์ทำหน้าระรื่นตื่นเต้นเกินตัว


“ได้ๆ แต่ระวังหน่อยนะพี่หวงลูกรู้ไหม” เฟอกัลอนุญาตพร้อมกับส่งลูกชายไปให้


“น่ารักจังเลยหลานอา รีบๆโตนะเดี๋ยวจะพาไปเล่นกับ เซร่า  ที่ปักกิ่ง อาจะพาไปเที่ยวไปกินขนมให้อิ่มไปเลย”



          ดูเหมือนเจ้าตัวน้อยฟ่านเยี่ยจะรับรู้ถึงการสื่อสารคำพูดของพิคเจอร์ เอาแต่ยิ้มให้และดิ้นเล็กน้อย ช่องปากไร้ฟันนั้น มองแล้วน่าเอ็นดูเป็นที่สุด



          ส่วนทางมหานครปักกิ่ง ไดนาดินกำลังดูแล เซร่า ลูกสาวคนสวยอายุสองเดือนช่วยฟินกี้ที่คลอดก่อนหน้าเฟอกัลผู้เป็นพี่ รายนั้นโดนพิคเจอร์อุ้มเล่นแย่งคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองตลอด


“นี่เมื่อไหร่จะมีลูกสักทีพิค จะได้ไม่ต้องมาขออุ้มลูกชาวบ้านเขาแบบนี้”


“ยังไม่พร้อมหรอกครับพี่หยางเฟย ผมกลัว!”


“ฮ่าๆๆ นี่หยางอี้ไม่เห็นต้องกลัวเลย พี่คลอดก็ปลอดภัย อินจือคลอดก็เปลอดภัย ไหนจะฟินกี้อีก ไม่มีใครเป็นอะไรเลย” เฟอกัลพยายามพูดให้อีกฝ่ายลดความหวาดกลัว


“เปล่าหรอกเฟอกัล ที่พิคเจอร์เขาพูดหมายถึงกลัว น้องชายของฉันเอง โอ้ย!” คาดอสร้องลั่นทันทีที่ฝ่ามือฟาดลงแก้มซ้าย



“พูดจาลามกต่อหน้าหลานได้ไง เดี๋ยวฟ่านเยี่ยก็ซึมซับเอาหรอก ไปตรงโน้นกันดีกว่าเนอะฟ่านเยี่ย สงบดีไร้คนหยาบคายด้วย”



               ร่างบางหันมาค้อนใส่ก่อนจะเดินพาหลานไปที่สวนหินร่มรื่นหน้าบ้าน ฟ่านหยางเฟยกังวลใจ กลัวน้องชายซุ่มซ่ามทำลูกตก เลยให้เฟอกัลตามออกไปดู

...

...


“ฉันขอเขาแล้วนะหยางเฟย แต่น้องชายนายมีอุดมการณ์แน่วแน่มาก ที่นอนด้วยกันมาเป็นปีไม่มีอะไรเกินเลยนอกจาก จูบ ลูบไล่ ซักไซ้แค่นั้น”



“ฮ่าๆๆ สงสัยน้องฉันไม่อยากจะมีลูกมั้ง”


“ไม่จริงหรอกเว้ยบ่นทุกวัน ว่าอยากอุ้มลูกแต่ไม่ยอมให้ฉันทำแบบนั้น”


“ให้ฉันคุยให้ไหม?”


“ถ้าได้ผลก็อยากให้ช่วยเหมือนกัน แล้วนี่เจียนเหมิงกับอินจือล่ะ”


“สองคนนั้นฉันให้พวกเขาลาออกจากงานแล้ว และเห็นว่าอยากกลับไปอยู่บ้านเกิด เลี้ยงลูกที่นั่น ฉันเลยไม่ได้ห้ามอะไร และให้เงินไปหนึ่งล้านหยวน ทีแรกปฏิเสธไม่เอา แต่ฉันบอกว่านี่เป็นคำสั่งถึงรับไป อีกนานกว่าจะได้เจอกัน แล้วทางฝั่งนายล่ะ ลูกน้องอยู่ครบไหม?”


“ครบสิ พวกนั้นเติบโตมากับองค์กรฉัน พวกเขาคงไม่อยากไปไหนหรอกฉันว่า อีกอย่างพ่อฉันก็เลี้ยงดูพวกเขามาแต่ยังเด็ก...ที่ปักกิ่งก็เปรียบเสมือนบ้านหลังเดียวในชีวิตพวกเขาเหมือนกันนั่นแหละ”


“รอฟ่านเยี่ยโตกว่านี้ ฉันว่าจะพาครอบครัวไปเที่ยวฮาวาย นายอยากไปด้วยกันไหม?”


“เฮ้ย จะไปทำไม พวกนายไปฮันนีมูนกันตามประสาครอบครัวเถอะ”

...

...

“นั่นพิคเจอร์มาแล้ว”


“พี่เฉิง คนอื่นเขามีลูกกันหมดแล้วอ่ะ ผมอยากมีมั่ง”


“อยากมีก็ให้พี่ทำสิครับ”


“ก็คนมันกลัวอ่ะ”


“หยางอี้น้องพี่ อะไรที่เป็นความสุขก็ยอมๆไปเถอะ เจ็บครั้งเดียวแต่ต่อไปคือความสุขทั้งชีวิตจะเลือกอะไร ”

...


...

       ร่างบางนิ่งคิดชั่วครู่ประกอบกับมองหน้าหลานชายที่ถูกเฟอกัลอุ้มอยู่

“ก็ได้ๆ ลองดูแล้วกัน” ร่างบางตอบรับไปแบบส่งๆ แต่นั่นทำให้คาดอสเผยรอยยิ้มเสน่ห์นั่นออกมาทันที



            สุดท้ายทั้งสองก็ต้องขอลากลับปักกิ่งไปตามระเบียบเพื่อไปปั๊มลูก ระหว่างนั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงกลับปักกิ่ง พิคเจอร์เอาแต่นั่งหัวพิงไหล่ใหญ่เนื้อแน่นของคาดอสอย่างเดียว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็คงจะถึงบ้านของพวกเขาแล้ว



“พิคเจอร์ อยากได้ลูกสาวรึว่าลูกชาย?” คนตัวใหญ่กว่าเปรยถาม


“อยากได้ลูกแฝด คนหนึ่งลูกสาวคนหนึ่งลูกชาย พี่เฉิงว่าดีไหมครับ?”


“ลูกของเราก็ดีหมดแหละ พี่พร้อมทุกอย่าง”


“พี่เฉิงแล้วมันจะเจ็บไหมอ่ะ!” ร่างบางยังไม่วายหวั่นกลัว


“พี่สัญญาจะทำให้นายเจ็บน้อยที่สุด” ฟ่านหยางอี้พยักหน้าช้าๆ หากแต่เขามั่นใจในตัวของคาดอสมากที่สุด และรู้สึกผ่อนคลาย
ที่อีกคนอยู่ใกล้ และแล้วทุกอย่างมันก็ไปได้สวยงามตามที่คาดอสบอกจริงๆ



           เวลาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนพวกเขามาถึงที่หมาย ค่ำคืนนั้นเองบนเตียงนอนของรังอินทรีทองกำลังโยกสั่นตามจังหวะแรงขย่มของร่างใหญ่ มันไม่มีอะไรน่ากลัว ถึงตอนนี้พิคเจอร์รู้แล้วว่ามันมีแต่ความรู้สึกดีๆให้กันและกัน ความรู้สึกเหล่านั้นมันกลบความเจ็บปวดทางกายไปได้หมด



“อ่า.....ซี๊ดดดดด”



              เสียงร้องครวญครางอย่างมีความสุข แยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร รุ้แต่ว่ามันเป็นเสียงของคู่รักอย่างพวกเขาที่ทำให้กันครั้งแรกและมันออกมาดีที่สุด



“พิค! ...ใกล้แล้ว”


           คาดอสเปรยบอก อีกทั้งยังเร่งจังหวะอยู่เรื่อยๆ แต่ร่างบางแทบรู้สึกอยากจะขาดใจตาย   จนท้ายที่สุดคาดอสกลบเสียงครางความสุขของตัวเองด้วยการประกบกับริมฝีปากเล็กๆนั้น


            ฟ่านหยางอี้ กอดรัดร่างใหญ่ไว้แน่น เพราะรู้สึกถึงของเหลวมากมายมหาศาลกำลังไหลแล่นอยู่ด้านในช่องหลังของเขา



“อึก อ่า...” คาดอสส่งเสียงครั้งสุดท้ายก่อนจะล้มฟุบลงไปทับอีกร่างอย่างหมดแรง


“พี่เฉิงครับ ผมหนัก”


“อุ้ย...โทษทีครับพิค พี่แค่รู้สึกหมดแรง”


           ว่าแล้วคาดอสก็ค่อยๆถอนเจ้ามังกรใหญ่นั่นออกไป พิคเจอร์รู้สึกวาบโล่งเบาตัวไปในพริบตา คาดอสค่อยๆพลิกตัวเองตะแคงข้าง แขนซ้ายค้ำยันศีรษะตัวเอง สายตามองดูเรือนร่างขาวสะอาดนั้น มือก็ลูบไล่ไปทั่วท้องพิคเจอร์ตลอดเวลา


“อย่าให้ลูกของพี่ไหลออกมานะ”


“รู้แล้ว ทำตามที่ด๊อกเตอร์บารอนบอกทุกอย่างเลย”


“เก่งมากครับสุดดวงใจของพี่ ฟอดดดดด” คาดอสก้มลงจูบหน้าผากหยางอี้ ก่อนจะโอบกอดอีกคนให้หลับไปในค่ำคืนนี้ ด้วย
ความเหนื่อยล้าทั้งคู่





.

..

...

ผ่านไป สามสัปดาห์


                   ด๊อกเตอร์บารอนกำลังตรวจภาวะการตั้งครรภ์ โดยมีคาดอส ไดนาดิน ฟินกี้ เรนเดล แกริคและเบลซมายืนลุ้นเอาใจช่วย พร้อมกับทีมแพทย์คนของด๊อกเตอร์โดยเฉพาะอยู่ด้วย จนกระทั่งผลจากการตรวจในใบกระดาษสีขาวนั้นออกมา และด๊อกเตอร์บารอนกำลังถืออาไว้พร้อมกับก้มอ่านผลนั้น


                 เหตุที่ทุกคนต้องลุ้นเพราะความต้องการของพิคเจอร์ล้วนๆ รายนี้คาดหวังไม่เหมือนเพื่อน เพราะอยากได้ลูกแฝดหญิงแฝดชาย มันลำบากและยากมากเลยนะสำหรับวงการเทคโนโลยีของชายร่างท้วมอย่างบารอน


“ว่าไงด๊อกเตอร์” สุดท้ายก็เป็นคาดอสที่อดทนรอฟังไม่ไหวแล้ว


“อืม ลูกแฝดจริงๆ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าชายหรือหญิงรอให้ผ่านไปหลายๆเดือนกว่านี้หน่อยนึงนะ”


“เยส!!!!”


“เฮ้!!!!”


            เสียงร้องตะโกนดีใจ เพราะลุ้นจนตัวโก่ง สุดท้ายคำตอบนั้นก็ทำให้ดีใจไม่น้อยทีเดียว


“ดีใจด้วยนะพิค ”ฟินกี้เดินมากุมมืออดีตคนเคยแอบรักเอาไว้


“ขอบใจฟินกี้ ”



“แล้วพี่ล่ะ!” ร่างสูงเดินเข้ามาหาคุณแม่มือใหม่บ้าง จนฟินกี้ต้องรีบผละตัวออกไป


“ก็ขอบคุณมากๆครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลย ผมสัญญาจะดูแลลูกของเราให้ดีที่สุด”


“นายเป็นแม่คนแล้วนะ ไม่มีอะไรต้องกลัว พี่จะอยู่ใกล้นายตลอดเวลา”


“ครับ”


              รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของผู้ที่กลัวการร่วมเพศและกลัวการคลอดบุตรเป็นที่สุด ถึงกับผ่อนคลายลดน้อยลงไปเพียงเพราะมีใครบางคนให้กำลังใจและเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี นับว่าเป็นความโชคดีของพิคเจอร์ที่สุดแล้ว



:L2:


พรุ่งนี้อวสานแล้ววววววนะ ติดตามกันต่อน้า อีกวันเดียวเอง 


 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 29
«ตอบ #69 เมื่อ14-09-2016 19:46:54 »

ลูกแฝด ดีใจด้วยน้าาาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 29
« ตอบ #69 เมื่อ: 14-09-2016 19:46:54 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: เหนือมนุษย์ ตอนที่ 29
«ตอบ #70 เมื่อ15-09-2016 11:12:46 »

ตอนที่ 30


           กาลเวลาผันเปลี่ยนหมุนเวียนไป เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นกับหนุ่มศิลปะร่างเล็กนี้ จากคนที่ไม่เคยรู้จักความเป็นมาของ
ชีวิตตัวเอง จนบัดนี้เขาได้คำตอบที่โหยหาทั้งชีวิตแล้ว นั่นคือ ครอบครัว ที่เกินคาดฝันของเขาเอง



            เจ็ดปีผ่านไป พิคเจอร์หรือฟ่านหยางอี้ในวัยสามสิบสองปี แต่อายุขัยไม่ได้ทำให้รูปลักษณ์ของเขาแก่ไปตามกาลเวลา ยังคงมีความน่ารัก สดใส ในสายตาของคาดอส ชายหนุ่มร่างสูงผู้เป็นทั้งสามี และเป็นพ่อของลูก และที่สำคัญคือเป็นประมุขอินทรีทอง กับวัยเกือบสี่สิบปี แต่ความหล่อ เท่ห์ดูดี เหมือนราวกับว่าหยุดค้างคงที่เอาไว้ตั้งแต่หลายปีก่อนไม่มีเปลี่ยนแปลงเช่นกัน



           หยางเฉิง แฝดชายกับ หลินเฉิงแฝดหญิง สองพี่น้องเติบโตมาด้วยความรักและอ่อนโยนจากผู้เป็นพ่อแม่  เด็กสองคนเป็นเด็กฉลาด เขารู้ว่าพ่อแม่ของเขาไม่เหมือนคนอื่น แต่ไม่คิดอยากโหยหาให้เหมือนครอบครัวคนอื่น  พวกเขากลับรักและพึงพอใจครอบครัวขนาดใหญ่ของตัวเองเป็นอย่างมาก



          ส่วนทางด้านฟ่านหยางเฟยผู้มีศักดิ์เป็นลุง ยังคงใช้ชีวิตแบบราบเรียบและมีความสุขกว่าแต่ก่อนมากกับคู่รักและลูกชาย ตอนนี้หยางเฟยประกาศให้สังคมรับรู้แล้วว่าเสือแดงขอสิ้นสุดไป แต่ก็ยังมีลูกน้องอีกหลายชีวิตที่ไม่คิดไปไหน อดีตประมุขเสือแดงก็ไมได้คิดทอดทิ้งลูกน้อง ยังคงให้อาศัยอยู่ในอาณาเขตขนาดใหญ่นี้ต่อไป ในฐานะคนจีนธรรมดาที่ไม่ขอมีอิทธิพลอะไรแล้ว 



            ปิดเทอมฤดูร้อนปีนี้ คาดอสพาครอบครัวและคนสนิทตัดสินใจเลือกและเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศไทย แถบทะเลอันดามันเป็นเวลาสองสัปดาห์  บรรยากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ได้พาลูกหลานมาชมทะเลและสัมผัสกับเมืองไทยครั้งแรกนั้นมันดีต่อจิตใจไม่น้อย จากสีหน้าเด็กๆสองคนดูร่าเริงสนุกสนานกว่าทุกที่ที่พวกเขาจะพาไปเสียอีก



            เรนเดล แกริคและเบลซ สามหนุ่มผู้มีอายุมากขึ้นไปตามๆกัน แต่ยังคงซื่อสัตย์และอยู่เคียงข้างอินทรีทองต่อไป ส่วนไดนาดินเป็นพ่อคนแล้ว เขาพาลูกสาวกับฟินกี้มาเที่ยวครั้งนี้ด้วย เซร่าอายุ แปดขวบ วัยกำลังซนและดูเป็นแกนนำให้น้องแฝดชายหญิงอย่างอาหยางกับอาหลินเป็นอย่างดี



“เซร่า อย่าพาน้องซนลูก” ฟินกี้ตะโกนบอกลูกสาว เมื่อเห็นสามแสบวิ่งไล่นำหน้ากันออกไปชายหาด


“ปล่อยเด็กๆบ้างเถอะฟิน เรานั่งดูอยู่ตรงนี้คงไม่เป็นอะไรหรอก” พิคเจอร์พูดให้อีกคนคลายความกังวล แต่คนเป็นพ่อแม่มีหรอจะอดเป็นห่วงไม่ได้กลัวว่าจะไปชนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่กำลังนอนอาบแดดอยู่



“แกริค เมื่อไหร่จะมีลูกซักทีละ?” คาดอสหันไปถามลูกน้องผมบอร์นทอง



“ขอปฏิเสธดีกว่าครับบอส อีกอย่างเรนเดลเขาไม่ยอมอยู่ท่าเดียวครับ ผมเองก็คิดว่าไม่มีก็ดีเหมือนกัน ไม่อยากให้เป็นภาระด๊อกเตอร์บารอนเท่าไหร่ ตอนนี้ได้ข่าวว่าไปทัวร์รอบโลกอยู่ ไม่อยากขัดจังหวะความสุขแกนัก”



“ใช่ครับบอส แกริคพูดถูก  อยู่อย่างนี้รอดูหลานๆเติบโตจะดีกว่า อีกอย่างอยู่เป็นเพื่อนเบลซด้วย หมอนั่นอกหักมาจะสิบปีแล้วด้วยซ้ำ”




                  เรนให้เหตุผล พลางมองไปที่อีกคนนั่งแยกห่างออกไปไม่ไกลนัก มองดูคลื่นทะเลซัดเข้าฝั่ง จากมุมนี้เขาเห็นคนตัวใหญ่กำลังเหงาแววตาดูเศร้าสร้อยอยู่ไม่น้อยทีเดียว ไม่ว่าจะนานแค่ไหนร่างใหญ่ก็ไม่มีวันลืมหานเซียงได้เลย

...

...


...

“ป่าป๊า ดูนี่สิ ผมเก็บเปลือกหอยได้ด้วย” ลูกชายตะโกนร้องวิ่งลิ่วเข้ามาหาผู้เป็นพ่อ คาดอสอ้าแขนรออุ้มรับตัวเล็กจอมซนขึ้นมานั่งบนตัก


“ไหนครับ ป่าป๊าขอดูหน่อยซิ”


“นี่ครับ สวยแปลกดี ”



     เด็กน้อยชูเปลือกหอยที่มีเส้นขาวๆชี้ออกมารอบๆเปลือกหอยจนหมด สีขาวนวลนั้นมันก็น่าทึ่งดี ไหนจะรูปลักษณ์ที่เห็นนี้อีก



“ป่าป๊าว่ามันคือหอยหวีครับหยางเฉิง คนไทยเขาเรียกกันแบบนี้”


“หอยหวีหรอครับ! สวยดีจัง ผมเอากลับบ้านเราได้ไหม?” ตัวเล็กถาม


“ได้สิลูก”


“เย้ๆ แต่...ป่าป๊าครับ ผมหิวแล้ว” เด็กชายเริ่มออดอ้อนอู้อี้ผู้เป็นพ่อ พร้อมกับเอาหัวหมุนชนกับกล้ามท้องแข็งแกร่งนั่นไปมา


“คร้าบๆ เดี๋ยวจะพาไปกินเดี๋ยวนี้แหละ ไปชวนม่าม๊าเร็วเข้า” คาดอสชี้นิ้วไปหาสุดดวงใจที่กำลังเล่นก่อทรายกับลูกสาวและหลานสาวที่ชายหาด



“ไม่เอาหรอก คุณแม่ชอบดุ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลากินข้าว”


“ฮ่าๆๆๆ งั้นเดี๋ยวอาเรนพาไปหาอะไรอร่อยๆกินดีกว่าเนาะ” เรนเดลเดินเข้ามาหาอาสาพาไป แต่มีหรอที่ตัวเล็กจะปฏิเสธ


“ไปครับ!”



             หยางเฉิงกระโดดลงจากตักพ่อแล้วเดินไปกับเรนเดลทันที มีแกริคเดินตามไปด้วยอีกคนคงจะหายห่วงได้   แต่เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาย้ำเตือนตัวเองตลอดว่า จะไม่มีทางให้ลูกชายรู้เรื่องเหนือมนุษย์เด็ดขาดไม่ว่าจะยังไงทั้งสิ้น จนกว่าเด็กๆเหล่านั้นจะโตพอที่จะได้รู้เรื่องแบบนี้





            ค่ำคืนแรกกับการเดินทางมาพักผ่อนที่เมืองไทยบริเวณที่พักมีการจัดปาร์ตี้บริการลูกค้า แต่มีหรือที่เด็กๆสามแซบจะไม่อยากไปร่วมงาน สุดท้ายก็ต้องพาลงไปร่วมชิมอาหารทะเลไทย และอาหารทั่วไปของเมืองไทยที่เข้าจัดไว้เป็นโซนให้ ดูสีหน้าของเด็กเมื่อได้ชิมอาหาร ถึงแม้มันจะเผ็ดอยู่บ้าง แต่กลับไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการรับประทานของหมูน้อยทั้งสามคนเลย เล่นเดินไปตักกินไม่หยุดหย่อน


“ป่าป๊า ผมอยากกินส้มตำ” ท้ายที่สุดเจ้าจอมซนลุกชายของเขาก็เปรยอ้อนอยากกินสิ่งที่คาดอสเองก็ไม่ชอบเท่าไหร่นัก


“ส้มตำหรอ? อาหยาง ป๊าว่าอย่ากินเลยลูก เดี๋ยวท้องเสียนะ”


“เดี๋ยวม๊าตำให้กิน รับรองไม่ท้องเสียแน่นอน ไปอ้อนป่าป๊าไม่มีทางได้กินหรอก”



              ฟ่านหยางอี้ได้ยินเข้า เลยอยากจะขอแสดงฝีมือของตัวเองบ้าง ให้สมกับอยู่เมืองไทยและเติบโตในเมืองไทยมาเนิ่นนาน  เขาจูงมือลูกชายกับลูกสาวไปยังโซนส้มตำทันที



             หยางเฉิงและหลินเฉิงมองดูผู้เป็นแม่ ลงมือปรุงหยิบโน่นนั่นนี่ใส่ครกตาไม่กระพริบ ไม่นานสิ่งที่เรียกว่าส้มตำก็ออกมาน่าตาน่าทาน พร้อมกับหมึกลวกและกุ้งแดงตัวขนาดไม่ใหญ่นักสามตัวแกะเปลือกเรียบร้อยประดับบนจาน   เขารู้ว่าลูกแฝดนั้นทานเผ็ดไม่ได้ เลยใส่พริกไปเพียงสองเม็ดเท่านั้น



“ได้แล้วครับลูก ส่วนกุ้งแบ่งกันกินนะ คนละหนึ่งตัวเท่านั้น  ไปนั่งทานกันที่โต๊ะนะครับ เดี๋ยวม๊าขอล้างครกให้เขาก่อน แล้วจะตามไป”


“ครับ/ค่ะ” สองหนุ่มสาวพี่น้องช่วยกันเดินถือจานส้มตำไปที่โต๊ะ ดูแล้วเป็นภาพที่ตลกชะมัดยาด จานมันไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย แต่สองพี่น้องก็ช่วยกันถือช่วยกันยกราวกับมันหนักเสียอย่างนั้น


...


... 

“ขอโทษนะครับ อยากทานส้มตำพอดี แต่ตำไม่เป็น ช่วยทำให้หน่อยได้ไหมครับ?”


            เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นใกล้ๆพิคเจอร์ ร่างบางหันไปมอง ปรากฏชายหนุ่มร่างสูงดูท่าน่าจะเป็นลูกครึ่ง (แต่คาดอสหล่อกว่า) ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเขาเท่าไหร่นัก


“ได้สิครับ คุณจะเอาตำปูปลาร้าหรือว่าตำไทยครับ?” พิคเจอร์อาสารับด้วยความยินดี


“ตำไหนก็ได้ครับที่คุณจะตำให้ผม”


          มาแนวยิ้มแย้มแถมคำพูดหวานเยิ้ม มีหรือที่พิคเจอร์จะไม่รู้ทัน แต่ไม่เป็นไร ตำให้ซะก็สิ้นเรื่อง


...

...


“อาหยาง อาหลิน ม๊าล่ะลูก?” คาดอสถามหาทันทีหลังจากเห็นเด็กสองคนยกจานขนาบคู่กันเพียงลำพัง


“ม๊าบอกว่า ขอล้างโค้กก่อนค่ะป่าป๊า” หลินเฉิงเป็นคนตอบ


“โค้ก? อ่อ ครก!!! หรอลูก”


“ค่า” หลินเฉิงยิ้มให้ผู้เป็นพ่อ


            แต่ตอนนี้เขาห่วงคนเป็นแม่ของเด็กสองคนนี้มากกว่า ร่างสูงลูกเหยียดกายจากเก้าอี้เริ่มกวาดสายตามองหาเป้าหมาย และแล้วก็เจอ แต่เจอใครอีกคนที่ไม่คุ้นหน้ายืนขนาบข้างอยู่ด้วย ไม่ได้การแล้ว ไอ้หมอนั่นจะงาบเมียเขาไปแล้ว!!!!


“เรน!! ฝากดูลูกฉันด้วย”


“ครับบอส”


            เรนถูกเลื่อนหน้าที่มาทำงานแทนไดนาดิน เพราะหมอนั่นต้องไปทำหน้าที่คุณพ่อที่ดีให้กับครอบครัวตัวเอง คนมีคู่แต่ไร้ภาระหน้าที่อย่างเรนเดล แกริค และคนโสดอย่างเบลซจึงต้องสานต่อตรงนี้


“อาเรน ทำไมป่าป๊าดูดุจังเลยคะ ป่าป๊าเป็นอะไร?” หลิงเฉิงเปรยถามพร้อมกับสีหน้าหวาดหวั่นนิดๆ ปกติคาดอสไม่เคยโมโหให้ลูกเห็นเท่าไหร่


“ไม่มีอะไรหรอกค่ะอาหลิง ป่าป๊าแค่รักม่าม๊ามากไปหน่อยเท่านั้นเอง”


           เรนเดลพยายามอธิบายให้เด็กๆเข้าใจง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากบอกว่าหึง เดี๋ยวเด็กจะงงอีกว่าหึงคืออะไร


           ตอนนี้คาดอสเดินแผ่รัศมีความหึงหวงเต็มพลังไปหาอีกคน สองขายาวก้าวฉับๆมุ่งไปที่โซนส้มตำ ไม่นานก็ไปถึง  แต่การไปเยือนของเขาไม่ได้ทำให้สองคนสนใจแม้แต่น้อย


“ขอโทษนะครับ ช่วยห่างจากภรรยาผมด้วย” น้ำเสียงเปรยดัง จนคนที่จ้องมองพิคเจอร์หวานเยิ้มขมวดคิ้ว


“ใครหรอครับคุณพิคเจอร์?”


“อ่อ สามีผมเองครับ” ร่างบางหันไปตอบอีกฝ่าย แต่คำว่าสามีนั้น ทำให้อีกคนยิ้มร่าราวกับอยู่เหนือชั้นกว่า


“ได้ยินแล้วใช่ไหม ถอยออกไปสิครับ” คาดอสเดินเข้าไปแทรกกึ่งกลางระหว่างสองคน แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ลดละ เดินอ้อม
ไปขนาบชิดพิคเจอร์อีกฝั่ง คาดอสเห็นแล้วแทบอยากจะเอากระไฟฟ้าช๊อตมันให้ตายไปต่อหน้าต่อตาเอามากๆ



“เฮ้ย จะเอาไงวะ?” คาดอสเริ่มหาเรื่องแล้ว


“พี่เฉิงใจเย็นๆ เขาแค่รอเอาส้มตำเท่านั้นเอง” ร่างบางเกลี่ยกล่อม


“อ่อ เพิ่งรู้ว่าไอ้หมอนี่เป็นหง่อยทำเองไม่เป็น” คาดอสสวนขึ้นทันที


“ก็ผมทำไม่เป็น เห็นคุณพิคเจอร์กำลังตำพอดี นึกอยากกินขึ้นมาก็เท่านั้น” อีกคนอธิบายลวกๆ

“หรอ? อยากกินมากใช่ไหม? ได้!!!”



   คาดอสไม่ว่าเปล่า หยิบพริกสดสีแดงฉานในตะกร้าพลาสติกกำมือหนึ่งลงไปในครกที่ภรรยากำลังโขกตำอยู่


“พี่เฉิงใส่พริกเยอะแบบนี้เขาจะทานได้ไงครับ” พิคเจอร์อุทานออกมาด้วยความตกใจ


“ช่างมันสิ ไปสนใจมันทำไม?”


“พี่เฉิง ไปกันใหญ่แล้ว กลับไปนั่งกับลูกไป”


“หยางอี้ นี่ไล่พี่หรอ ทำไมไม่ไล่มันอ่า” คาดอสเริ่มเปลี่ยนโทนเสียงทันทีที่เจอหวานใจพูดใส่แบบนี้


“ก็พี่เฉิงป่วนอาหารการกินแบบนี้ ใครจะไปทนไหว นี่ก็คงจะกินไม่ได้แล้ว เดี๋ยวผมตำให้ใหม่นะครับ” ท้ายประโยคร่างบางหันไปบอกอีกคน



           พอเห็นว่าพิคเจอร์ไม่สนใจตัวเองแล้ว คาดอสก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะวู่วามทำอะไรลงไป แล้วสุดท้ายเขาก็ต้องเป็นฝ่ายเดินหนีไปเอง แต่ก่อนที่จะไป เขาเดินอ้อมไปด้านหลังชายแปลกหน้าคนนั้นแล้วใช้ฝ่ามือของเขาแตะลงบนไหล่ ปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆพอให้เกิดสปาร์คไปทั้งตัวก็พอ



เจี๊ยดดดดดดดด


“โอ้ย!” เสียงอุทานของคนโดนช๊อตดังขึ้น เขาไม่มั่นใจนักว่าเมื่อครู่โดนกระแสไฟฟ้าเล่นงาน หรือว่าไอ้ร่างสูงหน้าหล่อนั่นมือหนักไปหน่อยเลยรู้สึกชาเหมือนไฟฟ้าช๊อต

... 

...


“ได้แล้วครับคุณ เดี๋ยวผมขอตัวไปง้อสามีก่อนนะครับ” พิคเจอร์ตักส้มตำใส่ในจานแล้วยื่นให้


“ขอบคุณมากๆนะครับ คุณใจดีจังเลย ทำไมผมไม่มาเจอคุณให้เร็วกว่านี้”



            ร่างบางยิ้มให้กับคำพูดนั้น ไม่รู้จะตอบอะไรไปเหมือนกัน เพราะยังไงซะเขาก็คงรักคาดอสได้แค่คนเดียว สุดท้ายก็ถึงเวลาต้องจากกันระหว่างเขากับชายแปลกหน้า


“ดีใจที่ได้เจอคุณนะ”


“เช่นกันครับ” พิคเจอร์ยิ้มให้ก่อนจะเดินเลี่ยงตัวออกไป



            ร่างบางกลับไปที่โต๊ะ เห็นแค่ลูกหลานและคนสนิท แต่ไม่เห็นร่างสูง  พอถามหาคาดอสก็ไม่มีใครเห็นเลย แต่ลูกชายแอบไปกระซิบบอกที่หู ว่าเห็นคาดอสเดินหน้าบึ้งไปที่ชายหาดทางโน้น ตอนนี้ระดับน้ำทะเลกำลังสูงขึ้น



             พิคเจอร์เดินไปตามที่อาหยางลูกชายจอมซนบอก ไม่นานก็เจอใครบางคนกำลังทำหน้าหล่อในความมืดบนหาดทรายอยู่จริงๆ  ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆอีกฝ่ายก่อนจะเอาหัวไปพิงสบไหล่แกร่งนั้น


“นึกว่าจะไม่ตามมาง้อพี่ซะแล้ว” อีกคนประชดทันทีพร้อมกับน้ำเสียงหงอยๆ


“ใครว่าล่ะครับ สามีผมทั้งคนนะ”


“รู้ทั้งรู้ว่ามีสามีแต่ไปตีสนิทผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ หยางอี้ลูกเราโตจนอายุเจ็ดขวบแล้วนะทำอะไรก็เกรงใจบ้างสิ”


“ไปกันใหญ่แล้วพี่เฉิง ผมรู้ว่าผมทำอะไรอยู่ ก็แค่ทำส้มตำให้เขากินแค่นั้นเอง ดูท่าทางเขาตำไม่เป็นหรอก หน้าตาออกลูกครึ่งขนาดนั้น เหมือนพี่ไงก็ทำไม่เป็น กินก็ยังไม่เป็นอีก”


“จริงๆนะ ไม่ใช่เพราะเห็นมันหล่อหรอกนะ”


“ใครจะไปหล่อเท่าพี่เฉิงอีกเล่า ”


“ให้จริงเถอะ”


“มาๆๆๆๆ  เกี่ยวก้อยคืนดีกันนะ” ร่างบางชี้นิ้วก้อยข้างขวาไปตรงใบหน้าอีกฝ่าย ไม่นานก็มีนิ้วก้อยใหญ่ของอีกคนคว้าเกี่ยวไว้ทันที


“พี่เห็นภาพเมื่อกี้ พี่ใจไม่ดีเลย กลัวพิคจะชอบมันแล้วทิ้งพี่”


“พี่เฉิง!!! เป็นคนคิดมากตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ”


“ก็ตั้งแต่ได้แม่ที่ดีของลูกชายลูกสาวอย่างหยางอี้มาเป็นภรรยาแล้วไง พี่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะ”


“เชื่อใจผมสิ ผมเคยบอกพี่ว่ายังไง ความรักของผมก็เหมือนลวดลายบนตัวปลาคาร์ฟมอมแมมตัวนั้นไม่ใช่หรอ ลวดลายศิลปะที่
ไม่มีทางลบหายไปได้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะทำให้ความรักของผมสิ้นสุด”


“จำได้สิ พี่ไม่ลืมหรอก”


“ไม่ลืม? แต่ยังหึงหวงแบบนี้นะหรอครับ ไม่ดีเลยนะรู้ไหม นี่ก็อายุจะสี่สิบแล้วยังทำตัวเหมือนวัยรุ่นอีก”


“จะนานแค่ไหนพี่ก็หวงนายอยู่แล้วล่ะน่า” และแล้วทุกอย่างก็เงียบไปมีเพียงสายลมเย็นที่พัดผ่านร่างพวกเขา

...


...


...


“ดวงจันทร์สวยจัง” พิคเจอร์เพิ่งมองเห็นมัน หลังจากกลุ่มเมฆที่บดบังก้อนกลมสีเหลืองเคลื่อนตัวออกไป


“สวยไม่สู้นายหรอก” คาดอสมองดูพระจันทร์พร้อมตอบกลับไป พลางจูบลงที่เส้นผมอีกฝ่ายเบาๆ


“ป่านนี้พี่หยางเฟยกับ พี่เฟอกัลจะเป็นยังไงบ้างนะ เราไม่ได้ไปเยี่ยมหลานนานแล้วนะพี่เฉิง”


“กลับไป เราก็แวะเอาของฝากไปให้แล้วกัน” คาดอสแนะนำ


“ดีเลยครับ”






“ฟ่านหยางอี้ พี่รักนายนะ” จู่ๆคนร่างสูงก็เปรยขึ้น


“ผมก็รักพี่เฉิงเหมือนกัน จะให้บอกอีกกี่สิบปีข้างหน้า หัวใจผมก็ยังเหมือนเดิม”


“เราจะอยู่ด้วยกันดูความสำเร็จในชีวิตของลูกเราไปแบบนี้ สัญญานะ”


“สัญญาครับ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”



              ท่ามกลางเกลียวคลื่นซัดกระทบหาดทรายพร้อมกับระดับน้ำทะเลกำลังหนุนตัวสูงขึ้น ดวงจันทราสีเหลืองนวลเต็มดวงสาดแสงสีทองลอยเด่นบนท้องฟ้า ราวกับรับฟังคำสัญญาของสองหนุ่มคู่รัก ไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหน พวกเขาก็มีจะดวงจันทร์ดวงนี้คอยเตือนใจและเป็นพยานว่าเคยเปรยเอ่ยสัญญาอะไรไว้ให้แก่กัน 



             และอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ สมบัติล้ำค่าของชีวิตคู่อย่างพวกเขา ทั้งหยางเฉิงและหลินเฉิง คือคำตอบที่แน่นอนและปรากฏให้เห็น คอยย้ำเตือนว่าพวกเขาจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อดูความสำเร็จของสองดวงใจที่เกิดขึ้นด้วยความรักและมีลมหายใจอยู่เคียงคู่กันไปตราบเท่าอายุไขที่สวรรค์บันดาลให้มาตลอดกาล...




อวสาน



           จบแล้วๆๆๆๆๆๆ  ขอบคุณจริงๆน้า  ขอบคุณทุกคอมเม้นเลย คุณคือพลังผลักดันที่สำคัญที่สุดให้กับ

ผู้แต่ง  เราไม่มีอะไรจะมอบให้ นอกจากนิยายที่มีอยู่ในความคิดของเราให้ทุกท่านอ่าน   ขอบคุณจริงๆน้า[/color
]

 
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #71 เมื่อ15-09-2016 14:02:15 »

 o13 o13 o13 o13 o13

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #72 เมื่อ15-09-2016 17:06:08 »


ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

ฟินเลย



ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #73 เมื่อ16-09-2016 07:34:10 »

จบลงอย่างสวยงาม

ออฟไลน์ Rainfozia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #74 เมื่อ17-09-2016 17:20:42 »

ขอบคุณคับ สำหรับเรื่องดีๆที่ได้อ่าน.  ฟินนนน

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #75 เมื่อ17-09-2016 23:29:45 »

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆจ้าาาา
สนุกมากๆ


 :pig4:

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #76 เมื่อ20-09-2016 23:57:17 »

ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #77 เมื่อ22-09-2016 15:48:58 »

สนุกมากค่ะ
สั้นๆ กระชับดี
แต่มีฉาก18+น้อยไปหน่อย อิอิ
ชอบคู่เฟอกัล-หยางเฟย ดูง่ายๆดี

ออฟไลน์ Nbear

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #78 เมื่อ25-09-2016 22:49:23 »

สนุกมากกก ขอบคุณค่าาา

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #79 เมื่อ26-09-2016 00:40:04 »

 :pig4: สนุกมากๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
« ตอบ #79 เมื่อ: 26-09-2016 00:40:04 »





ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #80 เมื่อ26-09-2016 22:58:33 »

สนุกมาก พิคน่ารักดี ชอบๆ

ออฟไลน์ Mynun

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #81 เมื่อ26-09-2016 23:30:26 »

อ่านเพลินดีคะ พล็อตเรีองแปลกดี
ชอบคะ

ออฟไลน์ MIwEMInE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #82 เมื่อ27-09-2016 17:57:08 »

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ pogpax

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #83 เมื่อ02-10-2016 06:26:37 »

 :z13:

ออฟไลน์ Pawana

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #84 เมื่อ06-10-2016 08:02:59 »

อ่านจบแล้วคร่าาาา. ขอบคุณ. สนุกดี. ชอบค่ะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: เหนือมนุษย์ อวสาน
«ตอบ #85 เมื่อ14-11-2016 14:23:53 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด