โทดทีครับที่ไม่ได้มาต่อนานเลย บังเอิญว่าคอมเสียเเล้วผมก็ไม่มีเวลาซ่อมเพราะต้องไปมหาลัยแทบทุกวันเรย
บทที่ 44
เมฆินกลับไปยังโรงแรมที่จองไว้ในตัวเมือง ห่างไกลจากบ้านของชนินทร์พอสมควร
ความจริง เขาออกตามหาชนินทร์อย่างไร้หนทางอยู่นานสามเดือน…
หากไม่ได้กวินกับฤดีมาช่วยในตอนหลัง…ป่านนี้เขาคงยังไม่เจอชนินทร์…ไม่มีวันเจอ และยังคงต้องตะเวนออกตามหาอย่างบ้าคลั่ง ไร้จุดหมาย
ทั้งเหนื่อยทั้งล้า…แต่ก็ไม่หมดหวัง เพราะเขาอยู่ไม่ได้หากขาดชนินทร์ ซึ่งก็คือดวงใจของเขา…
รุ่งขึ้น ชายหนุ่มแพ็คกระเป๋าทั้งหมด เดินทางไปยังสวนลิ้นจี่แห่งเดิม…
กวินบอกว่านี่คือบ้านเกิดของเขา และตอนที่ชนินทร์บอกเขาว่าต้องการไปพักที่ไกลๆ เขาก็ให้ชนินทร์มาที่นี่…คิดว่าคงไกลพอจากการตามหาของเมฆิน
ทว่าตอนหลังกวินกับฤดีเริ่มทนเห็นเมฆินตกอยู่ในความทุกข์ไม่ไหว แม้จะถูกบังคับให้สัญญาแล้ว แต่เพื่อชนินทร์เอง…กวินจึงบอกที่อยู่ของชนินทร์ให้รู้
มาถึง…บ้านหลังแรกนั้นเงียบเชียบ ชายหนุ่มแอบเดินเลาะเข้าไปยังบ้านท้ายสวน ได้ยินคนสนทนากันอยู่สองคน
“พี่นินครับ สรุป…ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นใคร?”
ชนินทร์ยังไม่ตอบ พยายามเดินเลี่ยง
“พี่นิน…”
“ทัต พี่บอกแล้วไง ว่าไม่รู้จัก”
คนที่แอบฟังอยู่เจ็บจิ๊ดตรงหัวใจ
“โธ่พี่ อย่าโกหกผมเลย ไม่รู้จักได้ไงก็เห็นพี่ร้องไห้อยู่ เขาทำอะไรพี่เหรอ?”
ท้ายเสียงเข้มขึ้นอย่างโกรธแค้น เมฆินเริ่มเอะใจ…
“ไม่มีอะไร ทัต…ขอร้อง อย่าทำให้พี่ลำบากใจเลย”
“แต่ไม่ได้หรอกพี่นิน ถ้ามันทำอะไรพี่ บอกผมมาเลย ผมจะไปจัดการมันเอง”
“ไม่ต้องนะทัต!...เขาไม่ได้ทำอะไรพี่หรอก แค่…รำคาญ ทีหลังถ้าเขามาก็ไล่เขาไปซะ นะทัต”
เมฆินจับถึงกระแสความรู้สึกในน้ำเสียงนั้นไม่ได้…แต่ที่แน่ๆ ทัตเทพยิ่งไม่ชอบหน้าผู้มาใหม่อย่างเขาเพิ่มเข้าไปอีก นอกจากที่หมั่นไส้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอรู้ว่าชนินทร์รำคาญ ยิ่งค่อนข้างโกรธที่วุ่นวายรังควาญชีวิตของชนินทร์
“แสดงว่า…พี่นินก็รู้จักเขาซิ ใช่มั้ยครับ?”
ชนินทร์ถอนหายใจ
“โอเค…ก็ได้ เขาเป็น…เอ่อ คนรู้จักพี่เอง พอใจหรือยัง?!”
“แค่คนรู้จักหรือ?...พี่นินเป็นอะไรอ่ะครับ? ดูหงุดหงิดจัง...”
เมฆินก้าวออกมา สายตาของคนทั้งสองคนหันกลับมามองทางเดียวกัน
“เมฆิน!”
ชนินทร์ร้องเสียงหลง ทัตเทพเห็นชนินทร์หน้าซีดเลยรีบวิ่งมายืนประจัญหน้าร่างสูงใหญ่
“ไหน นายน่ะเหรอคือเมฆิน?”
“ใช่”
คนอาวุโสกว่ากล่าวเรียบๆ
“นายมาทำไม ไม่ได้ยินเหรอว่าพี่นินรำคาญนาย”
“ฉันได้ยิน…แต่ทำไม่ได้”
“เพราะอะไร? พี่นินไปทำอะไรให้นายต้องตามตอแยเขา”
เมฆินยืนกอดอกยึดเต็มความสูง ก่อนจะยิ้มกริ่มแล้วสบตากับชนินทร์ ซึ่งบัดนี้สีหน้าซีดลงไปกว่าเดิม
ร่างสูงใหญ่หัวเราะ
“เพราะอะไร? ถามได้…ก็เพราะฉันเป็นแฟนเขาน่ะซิ ถ้าพูดให้ถูกกว่านี้ก็คือ…เขาคือเมียของฉัน”
เด็กหนุ่มยืนตะลึง อ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก…
ชนินทร์เบือนหน้าหนี
“ไง?! ชัดใช่มั้ย ทีนี้หลบไปได้หรือยัง”
“ไม่…มันไม่จริงใช่มั้ยพี่นิน!”
มองไปยังคนกลาง ที่หน้าเสียปริ่มจะร้องไห้รอมร่อ
ชนินทร์ไม่ปฏิเสธ…นั่นยิ่งตอกย้ำทำให้ทัตเทพสั่นไปทั่วสรรพภางค์กาย…
“ทัต…พี่ขอร้อง กลับไปก่อนได้มั้ย?”
ทัตเทพจ้องมองชนินทร์อย่างคนไม่เชื่อสายตา ก่อนจะเดินถอยหลัง วิ่งออกไปโดยไม่หันกลับมามองอีก
เหลือเพียงคนสองคน…ภาพของทัตเทพที่ผิดหวัง ตกตื่นใจ ยังคงติดตาชนินทร์อยู่
ถึงแม้เด็กหนุ่มจะอยู่ในวัยรุ่นมุทะลุ…แต่เขาไม่ควรมารับรู้เรื่องต่ำทรามที่ชนินทร์ต้องเคยเผชิญมา
ร่างบางเดินลิ่วเข้าหาร่างสูง พลางกระโจนเข้าทุบแผงอกกำยำทั้งน้ำตา เจ้าของร่างสูงไม่ตอบโต้ เพียงแต่กอดไว้หลวมๆ
“ทำไม? ทำไมคุณต้องมาประกาศว่าผมเป็นอะไรกับคุณ คุณทำให้ผมอับอาย! ทำไมคุณปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวเฉยๆไม่ได้หรือไง ทำไมคุณต้องทำให้ผมเจ็บอยู่ตลอดเวลาด้วย!”
“แต่เราเป็นอะไรกัน…คุณก็รู้”
“ไม่! ผมไม่เคยเต็มใจ ไม่เคยเลย!”
ชนินทร์ปาดน้ำตา สูดลมหายใจ จนอาการสะอื้นกลับสู่ปกติแล้ว เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“อ๊ะ! ปล่อยผมนะ”
“ชนินทร์…ผมขอร้อง ช่วยอยู่เฉยๆสักพัก...ผม ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน…”
ชนินทร์ยอมรับ…ใจสั่น เมื่อเจอเขาพูดออดอ้อนอ่อนหวานแบบนี้
เพราะตลอดมา เขาไม่เคยได้ยินออกจากปากผู้ชายคนนี้
ยิ่งแววตาลึกซึ้งที่มองทอดมา ยิ่งอันตราย…
“ปล่อยผม...ผม...ขยะแขยง!”
พยายามดิ้นรน แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย
“นี่คุณ ทำไมไม่ไปทำงานทำการของคุณ รีบๆกลับไปซะเถอะ ผมไม่อยากยุ่งกับคุณอีกต่อไปแล้ว คุณเองก็ไม่อยากเห็นหน้าผมอยู่แล้วนี่”
เมฆินรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่
“เปล่าเลย…ผมอยากเห็นหน้าคุณทุกวัน คิดถึงคุณทุกวัน…สิ่งที่ผมทำลงไปมันโง่ ผมอาจจะทำผิดหลายอย่าง…ทั้งบ้า ทั้งโง่เง่า แต่ที่ผมทำลงไป เพราะผมไม่เคยรู้ใจตัวเองว่าต้องการคุณมากแค่ไหน…ว่ารักคุณมากแค่ไหน…”
ชนินทร์เงยหน้าสบตานิ่ง พูดไม่ออก…
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมหลอกตัวเอง ผมหลอกคุณ ผมเข้าใจคุณผิดแล้วก็เป็นไอ้งั่งที่ปล่อยให้เรื่องต่างๆเลยเถิดไปไกล…ได้โปรด ยกโทษให้ผมเถอะนะ ผมไม่อยากคิดถึงคุณจนนอนไม่หลับทุกคืน กินอะไรก็ไม่ได้ คิดอะไรก็ไม่ออก มัวแต่หวนคิดถึงแต่เรื่องคุณ”
เมฆินก้มหน้าลงมา ใกล้ๆเข้าทุกที…ชนินทร์เคลิ้มจนปรื้อตาหลับลง มือใหญ่ของเขาประคอง ลมหายใจอุ่นร้อนและสัมผัสคุ้นเคยเดิมๆเกือบทำให้เขาหลงกลได้
รู้สึกตัว ชนินทร์รีบผละตัวเองออก
“คุณจะไปไหนก็ไป แต่ขอบอก…ว่าผมไม่ต้อนรับคุณ!”
ร่างบางวิ่งหนีขึ้นบ้านไป ปิดประตูปัง…เมฆินยืนเคว้งคว้าง รู้สึกหมุนติ้วในหัว…สัมผัสที่เย้ายวนทำเอาเขายืนไม่ติด ใบหน้าร้อนผ่าว เหงื่อออก เหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง…
ชนินทร์ทำให้เขาเป็นบ้า…เรื่องทุกอย่างของชนินทร์ช่าง…ทำให้เขาปวดใจเหลือเกิน!
โปรดติดตามตอนต่อไป