งานเปิดบ้านวันสุดท้ายจบลงอย่างสวยงามด้วยจำนวนเงินมากโขที่พวกเราชาวคณะแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและหยดน้ำตา โดยเฉพาะไอ้โอริโอ้ เห็นมันทำท่าหวาดระแวงต่อสิ่งมีชีวิตรอบตัวที่ดูคล้ายเฮียสิทธิ์
ก็อดสงสารมันไม่ได้ 55
ส่วนไอ้น้องนกเอี้ยงก็ไม่รู้ว่ามันไปได้ข่าวล่ามาจากไหน ทำหน้าดีใจวิ่งเข้ามาหาอย่างกับได้ตำแหน่งนางงามช้างสุรินทร์
“พี่นิคๆ ตกลงว่าเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ย”
ดูมันถาม ไอ้น้องนกเอี้ยง แล้วนี่ไม่มีใครแปลกใจหรือตกใจกันเลยรึไง ผู้ชายกับผู้ชายนะเว้ย ผมล่ะปวดหัว อุตส่าห์บังคับไอ้เชนไม่ให้บอกใครเรื่องที่ผมกับมันเป็นแฟนกันเพราะกลัวความวุ่นวายที่จะตามมาเนี่ยแหละ
หรือว่ายิ่งปิดมันก็ยิ่งวุ่นไม่รู้
“มะเหงกสิ อย่ามาไร้สาระแถวนี้ ไปช่วยไอ้ปิ่นนู่น ไปๆ”
พี่นิคของน้องนกเอี้ยงตะโกนตอบลงมาจากนั่งร้านสำหรับปีนขึ้นไปเก็บผ้าสีที่ใช้ประดับอาคารน้ำเสียงโหดเถื่อน แต่ละคนแต่ละคำถามนี่สร้างสรรค์กันจริงๆ ผมล่ะหน่าย
“ไม่ตอบ แต่โมโหกลบเกลื่อนอย่างนี้แสดงว่าต้องติงนังตังนิงกันแล้วแหงๆ”
ตะโกนซะลั่นคณะ แกไม่อายแต่พี่อายนะว้อยไอ้นกเอี้ยง
“ติงนังบ้านแก ไอ้เอี้ยง เดี๋ยวเจอซ่อม”
ตั้งท่าจะสังหารโหดน้องรหัส แต่ก็ไม่ทัน ไอ้น้องเอี้ยงนกรู้มันวิ่งหนีไปโน่นแล้ว แถมยังตะโกนไปพลางวิ่งไปพลาง ทีนี้ได้รู้กันทั้งจังหวัดแน่ว่าผมกับไอ้เชนเป็นแฟนกัน เฮ้อ ปวดหัว ไมเกรนกินกบาลอีกแล้ว
กว่าพวกเราชาวคณะจะเก็บของเคลียร์พื้นที่จนเอี่ยมอ่องก็ปาเข้าไปตีหนึ่งกว่าๆ ทีนี้เลยมีฉลองกันเล็กน้อยตามธรรมเนียมเพื่อไม่ให้เสียชื่อบรรดากูรูน้ำเมาทั้งหลาย ยี่ห้อไหน ชนิดใด แบบไหน แอลกอฮอล์กี่เปอร์เซ็น เอ้า ขนมาให้ครบ โอริโอ้นั้นจิตเสื่อมถึงขั้นหนัก มันเล่นสูตรสามเซียนคือเหล้าขาวผสมสไปรท์กับน้ำแดงเฮลซ์บลูบอยใส่หลอดดูดแบบไม่ให้เสียจังหวะ สงสารตับมันจริงๆ แล้วสูตรนี้ก็ไม่เหมาะสำหรับคนคออ่อนนะครับ เพราะแค่อึกแรกก็ทำเอาตาลายแล้ว แถมตื่นมายังแฮงค์สุดๆอีก
“เป็นอะไร นั่งเงียบเชียว”
ผมแอบมานั่งคนเดียวเงียบๆ จนกระทั่งเสียงไอ้เชนดังขึ้นพร้อมกับกระป๋องเบียร์เย็นๆส่งมาให้ กรึ่มๆชิมเครื่องดื่มสูตรประชดชีวิตของโอริโอ้มันไปเล็กน้อยพอเป็นหัวเชื้อ พอมาเจอเบียร์ เลยลงไปตีกันอยู่ในท้อง เริ่มตึงๆ หน้าหนา ความอยากรู้ที่ว่าทำไมคนอย่างมัน หาสาวๆสวยๆได้ง่ายยิ่งกว่าหาซื้อก๋วยเตี๋ยวแถวปากซอยถึงมาชอบผู้ชายอย่างผมเลยเก็บไม่อยู่
“มรึงชอบกุตั้งแต่ตอนไหนวะ” ถามทั้งๆที่ไม่มองหน้ามัน
“กุก็ไม่รู้ แต่รู้ตัวอีกที สายตามันก็คอยแต่จะมองหามรึงแล้ว”
หยอดมาแล้วครับหนึ่งดอก กะให้กุฟังแล้วอายม้วนใช่มั้ยเนี่ย แต่เสียใจ กุเริ่มมีภูมิคุ้มกันแล้วว่ะ 55
“งั้นชอบกุเพราะอะไร”
“ก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน แต่รู้ตัวอีกทีก็ชอบทุกอย่างที่เป็นมรึงแล้ว”
เอาเข้าไป หยอดได้หยอดดีนะมรึง เมื่อก่อนที่บ้านหยอดดินสอพองขายรึเปล่าเนี่ย เอ้า ขออีกคำถามแล้วกัน
“แล้วอีกนานมั้ยมรึงถึงจะเลิกชอบกุ”
จบคำถามตัดสินตำแหน่งนางงาม ไอ้เชนที่ทำหวานๆอยู่ก็เงียบกริบหน้านิ่งไปเลยครับ ส่วนผมก็นั่งซดเบียร์ท่าทางสบายอุรา ตาก็เหม่อมองไปที่วงเหล้าขอพวกวิดวะเคมี สาขานี้เขาได้แชมป์เรื่องผู้หญิงเยอะที่สุดแล้วครับ แต่ถึงจะมากที่สุดแต่ก็มากแบบเน้นปริมาณ ไม่เน้นคุณภาพ พอเมาได้ที่เลยแยกไม่ค่อยจะออกแล้วว่าอันไหนผู้ชายอันไหนผู้หญิง มันเถื่อนได้ใจกันทั้งนั้น
“คิดยังไงถึงถามอย่างนี้” มันเปลี่ยนมาถามผมบ้าง
“กุไม่รู้”
ลอกคำตอบมัน เหมือนลอกการบ้านสมัยประถม สมัยนั้นยังด้อยประสบการณ์การลอก เลยก๊อปเพื่อนมาทุกกระเบียดนิ้ว ทุกตัวอักษร ผลก็คือโดนไปยืนคาบไม้บรรทัดหน้าห้องไปครึ่งวัน แต่คราวนี้ไม่มีบทลงโทษใ
ห้คาบไม้บรรทัด มีแต่สายตาโกรธๆและไม่เข้าใจส่งมาให้
“อย่าบอกนะว่าเบื่อกุแล้ว”
เดือนคณะถามแบบจะกินเลือดกินเนื้อ นี่คำถามกุมันสื่อความหมายอย่างนั้นตรงไหนวะ ไอ้นี่ท่าจะเพี้ยน
แต่ก็เพิ่งรู้ว่าหล่อๆอย่างมันก็จิตตกเรื่องกลัวถูกทิ้งเป็นเหมือนกัน ผมเลยหันไปยิ้มให้มันนิดๆ
“ตราบใดที่สายตาของมรึงยังมองแต่กุคนเดียว ยังชอบทุกอย่างที่เป็นกุ ยังไงกุก็ไม่เบื่อมรึงหรอก แต่อย่าให้รู้แล้วกันว่าแอบนอกลู่นอกทาง ถ้ารู้ กุเจี๋ยนมรึงแน่”
โอย เน่าจริงกุ พูดออกมาได้ สงสัยสามเซียนไอ้โอริโอ้ทำพิษ ไอ้เชนได้ฟังก็ยิ้มกลับมาให้ผม ยิ้มอย่างนี้อีกแล้วนะมรึง ยิ้มทั้งปากทั้งนัยน์ตา ทีนี้ภูมิคุ้มกันไอ้นิคเริ่มละลายแล้วครับ ตาพร่าเลยกุ ความหล่อมันเข้าตา 55
“หวงเหรอ” ถามแล้วขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ แถมยังคว้ามือผมไปกุมไว้อีก แหะๆ
“ไม่ให้หวงแฟนแล้วจะให้ไปหวงไส้เดือนที่ไหน โง่จริง แฟนใครวะ” ด่าแก้เขินครับ
“ก็เขาถึงได้บอกไงว่า ความรักมักจะทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโง่” ดูมุกมัน คิดนานมั้ยเนี่ย
“โหยมรึง เสี่ยวแดก”
“ถึงจะเสี่ยว แต่เชนก็รักนิคคนเดียวน่า”
ป๊าดดดดด เสี่ยวกำลังร้อยเลยนะมรึง แถมยังมีนิคมีเชนด้วย ปกติก็กุมรึง ผมหัวเราะทั้งขำทั้งเขิน ไอ้เชนเลยคว้ามือผมขึ้นไปจุ๊บเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอีก นี่กะให้หวานตายไปข้างหนึ่งเลยใช่มั้ยมรึง
“ฮิ้ววววววววววววววววววววววว” แล้วก้อมีพวกขัดจังหวะโผล่มาอีกจนได้ หน้าเดิมๆ ครบทีมเลยครับ โผล่ออกมากันทีละคนสองคน
“ว่าไงไอ้โก้ ทีนี้จะเลี้ยงเหล้ากุได้รึยัง หลักฐานพยานมัดตัวชัดๆอย่างนี้แล้ว”
ไอ้บูมหัวเราะก๊ากๆ ใส่ไอ้โก้ ไอ้นี่ก็งานคณะตัวเองไม่รู้จักช่วยรึไง ถึงได้ดอดมาแอบฟังคนอื่นเขาคุยกัน เดี๋ยวกลับบ้านไปต้องเปิดอบรมกันหน่อย ส่วนไอ้ปิ่นไอ้เจี้ยบก็กรี๊ดกร๊าดกันไป บอกว่าดีใจที่ได้เพื่อนเขยเป็นถึงเดือนคณะ ดูมันพูด ส่วนคนอื่นก็กิ้วก้าวแซวกันใหญ่แหละครับ
แล้วคืนนั้น พวกมันก็ลากผมกับไอ้เชนไปปาร์ตี้สละโสดโดยมีฝั่งบ้านผมแพ้พนันเป็นเจ้ามือ เมาจนหาทางกลับบ้านกันแทบไม่ถูก เฮ้อ....สรุปว่าผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าทำไมบุคคล(ปาก)หมาแห่งปีอย่างผม ถึงได้ไปถูกใจไอ้เชนเข้า แต่ก็ไม่เป็นไรครับ แค่มันแสดงออกว่าผมมีความสำคัญกับมันมากมายแค่ไหนไปเรื่อยๆ เท่านี้ก็พอใจแล้วครับ
-------------------------------------------
ไว้กลับมาแล้วจะต่อให้นะคะ ราตรีสวัสดิ์ เจอกันต่อหน้าค่า