บทที่ 9
เพียงดินกับเมฆาเดินมารวมกลุ่มกันที่ทางเข้าตลาด เขาเห็นหมอชัยและพยาบาลทั้งสองได้ของมาไม่น้อยเหมือนกัน มีก็แต่เขากับเพียงดินที่ได้ของติดไม้ติดมือมาแค่มะหลอดถุงเดียวเท่านั้น ยิ่งพูดยิ่งคิดถึงเรื่องมะหลอดของเพียงดินเขายิ่งโมโห ทำไมนะ ทำไมไอ้พ่อเลี้ยงนี้ชอบกวนโมโหเขาอยู่เรื่อย
พอคนครบก็พากันเดินกลับหมู่บ้านผาตะวัน คราวนี้ต้องเดินขึ้นเขาบ้างแล้วหลังจากขามาเดินลงเขา ทางมันค่อนข้างจะชันเพราะฉะนั้นการเดินขึ้นเขามันจึงลำบากกว่าการเดินปกติ
ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว แสงของมันก็ยังคงสาดมายังทุ่งกะหล่ำด้านล่าง เป็นภาพที่หายาก แม้แต่ในตัวอำเภอหรือไร่เพียงระพีเองก็ยังไม่มีให้เห็น ต้องเป็นเขาที่สูงจริงๆถึงจะเจอธรรมชาติที่สวยแบบนี้
“ไหวกันมั้ยครับ” เสียงของลุงกือเลาะถามขึ้นด้วยสำเนียงที่ไม่ค่อยชัดนั้น คนในพื้นที่การเดินเพียงเท่านี้ถือว่าไม่ลำบาก แต่กลับคนในเมืองอย่างพวกคุณะเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแล้วนั้นแน่นอนว่าต้องลำบากอยู่แล้ว
“พักก่อนได้มั้ยคะ เริ่มจะเหนื่อยแล้ว” พยาบาลสาวพูดขึ้น หลังจากพากันเดินมาเลยครึ่งทางแล้ว
“ก็ดีเหมือนกันนะ” หมอชัยเอ่ย
และทั้งหมดก็หยุดพักกลางทางเพื่อให้หายเหนื่อย เพียงดินเดินไปหาเมฆาที่นั่งไกลออกไปจากกลุ่มแล้วทำเนียนไปนั่งข้างๆ เมฆาหันมามองอย่างไม่เข้าใจ
“อะไรของนาย” คุณหมอตัวเล็กถาม
“เอานี่มาให้ ของนาย กินให้หมดด้วย” เพียงดินยื่นถุงมะหลอดให้
มันยังอยู่ครบถ้าไม่นับลูกที่เพียงดินเอาให้เมฆากิน เขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แต่ที่ซื้อเพราะเห็นคนกรุงอย่างเมฆาอยากจะลองก็เท่านั้น และเมฆาก็ต้องรับผิดชอบเจ้ามะหลอดนี่ให้หมด
“เรื่องอะไรล่ะ นายเป็นคนเอามา ก็จัดการเองสิ และก็เอากระเป๋าฉันคืนมาได้แล้ว” เมฆาพูด เรื่องอะไรเขาจะกินไอ้ผลไม้เปรี้ยวนี่อีกรอบล่ะ เขาอยากลองก็จริงแต่เพียงดินเป็นคนซื้อมาเอง เพราะฉะนั้นมันไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของเขา
“แต่ฉันซื้อมาให้นาย” เพียงดินยื่นไปอีกรอบ
“แต่ฉันไม่ได้ขอให้นายซื้อให้ เอากระเป๋าคืนมาได้แล้ว” เมฆาย้ำอีกรอบ เพียงดินเองก็ยังคงดื้อดึงไม่ยอมเอากระเป๋าคืนให้
“ฉันจะไม่คืนกระเป๋าจนกว่านายจะรับไอ้นี่ไป หรืออยากจะให้ฉันป้อนอีกรอบ ก็ได้นะ” เพียงดินจับมะหลอดออกมาจากถุงพร้อมกับจะยื่นไปให้เมฆาอีกรอบทำให้เมฆาต้องเอี้ยวตัวหนี
“ก็ได้ๆ แค่รับมาก็จบใช่มั้ย” เมฆาหมดความอดทนจึงยอมรับมะหลอดมาดีๆ รู้สึกเซ็งเพียงดินไม่น้อยที่ปัดความรับผิดชอบมาให้เขาเสียดื้อๆ
“แค่นี้ก็จบ” เพียงดินยกยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปหากลุ่มของหมอชัย
“แล้วกระเป๋าฉันล่ะ” เมฆาเดินตามทวงของของตัวเองคืน
“ฉันถือน่ะดีแล้ว ขืนนายถือไอ้กระเป๋าหนักๆนี่มีหวังกลิ้งตกเขาตาย” เพียงดินว่าแล้วยิ้มกวนประสาท
เมฆาได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเพราะทำอะไรไม่ได้ จะต่อล้อต่อเถียงก็เหมือนจะแพ้เพียงดินอยู่ตลอดอย่างนั้น จะไปคว้าเอากระเป๋าตัวเองมาก็พอจะรู้ตัวว่าสู้แรงของพ่อเลี้ยงคอกวัวนี่ไม่ได้
ไอ้บ้านี่มันจะอะไรกับเขานักหนากัน
หลังจากเถียงกันพอหอมปากหอมคอทั้งหมดก็ได้เวลาเดินทางต่อ เมฆาจำใจต้องเอากระเป๋าตัวเองให้เพียงดินถืออยู่อย่างนั้น แล้วไอ้ถุงมะหลอดบ้านี่เขาก็ต้องเป็นคนถือเอง มันน่าหงุดหงิดใจไม่ใช่น้อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี รู้แค่ว่าถ้าเขาแอบถีบเพียงดินตกเขาตอนนี้คงไม่ดีแน่ พยานเยอะแบบนี้
กลับมาถึงหมู่บ้านผาตะวันก็เกือบจะพระอาทิตย์ตกดิน ทุกคนแยกย้ายกันไปเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำและทำภารกิจอย่างอื่นหลังจากเหนื่อยมาหลายวัน เพียงดินยอมคืนกระเป๋าให้เมฆาแต่โดยดีก็ตอนมาถึงนี่แหละ คุณหมอตัวเล็กรับมาอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
“พี่หมอเมฆ!”
แล้วเมฆาก็ต้องได้กรอกตาอีกครั้งเมื่อมีเด็กทีร่างโตวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับสภาพเปื้อนสีทั้งตัว ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไปทาสีห้องสมุดมา อนามัยขนาดเล็กที่ไร่เพียงระพีจะทำให้คนงานก็ขึ้นโครงแล้ว พรุ่งนี้คงจะเริ่มอย่างเต็มที่ กว่าจะเสร็จก็น่าจะเป็นอาทิตย์
เพียงดินมองไอ้เด็กหน้าตากวนเบื้องล่างที่วิ่งมาหาเมฆาด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนัก เขาแค่รู้สึกไม่ถูกชะตากับเด็กนี้พิลึก ท่าทางดูก็รู้ว่าคิดจะตามจีบไอ้หมอเตี้ยนี่ ไปหว่านเสน่ห์ให้เด็กอีกล่ะสิท่า อ่อยรัชพลไม่ได้ผลถึงขั้นต้องมาหาแก้ขัดจากเด็กมหาลัย คิดอย่างนั้นเพียงดินก็ยกมุมปากอย่างดูแคลน
“พี่พยาบาลคนสวยบอกว่าพี่หมอไปอีกหมู่บ้านหนึ่งมา ทำไมไม่ชวนผมละครับ” ทีทำหน้างอนซึ่งมันยิ่งไปกระตุกเบื้องล่างของเพียงดิน แต่เมฆานี่สิ ถึงขั้นปวดขมับ วันนี้ทั้งวันเขาต้องรับมือคนพวกนี้ มันเป็นกงกรรมกงเกวียนอะไรของเขากันแน่
“น้องก็ทำงานอยู่ช่วยเพื่อนนี่แหละ จะไปทำไม” พยายามพูด อย่างน้อยเด็กทีนี่ก็น่าจะพูดง่ายกว่าเพียงดินที่ดื้อดึงอย่างเดียว
“แต่ผมอยากไปอารักขาพี่หมอนี่ครับ” ทียังคงทำหน้ายุ่ง แต่เพียงดินและเมฆามองว่ามันไม่น่ารักเลยสักนิด ออกจะน่ารำคาญและไม่น่าดูเสียมากกว่า
“พี่โตแล้วนะ อ่ะนี เอานี่ไปกินแล้วกัน” เมฆายื่นถุงมะหลอดให้ ถือเป็นการตัดรำคาญและจะได้ไม่ต้องทิ้งมะหลอดให้เสียของอีก
แต่เจ้าของมะหลอดตัวจริงอย่างเพียงดินถึงกับคิ้วกระตุกเป็นว่าเล่น นั่นเขาซื้อให้เมฆาทำไมไอ้หมอนี่เอาไปให้เด็กเวรนั่น ต่อหน้าเขาด้วย แบบนี้มันเหมือนหยามกันชัดๆ
“ขอบคุณครับ” ทียิ้มแก้มแทบจะปริพร้อมกับรับของฝากจากพี่หมอมาแนบกับอก ดีใจอย่างออกนอกหน้า ของขวัญชิ้นแรกของพี่หมอที่เอาให้ ไม่ได้แล้ว อย่างนี้ทีต้องหาอะไรมาตอบแทน เขาจะถือซะว่ามะหลอดนี่เป็นก้าวแรกของความสัมพันธ์ของเขาและพี่หมอ
“ได้แล้วก็ไปไหนก็ไปนะ พี่เหนื่อยมาก ขอตัวไปพักก่อน” เมฆาพูด เด็กทีพยักหน้าหงึกๆอย่างรับคำพร้อมกับกอดถุงมะหลอดแน่นไม่ยอมปล่อย ก่อนจะวิ่งกลับไปหากลุ่มเพื่อนอย่างดีอกดีใจ
เมฆาถอนหายใจน้อยๆที่กำจัดตัวปัญหาทิ้งได้ไปหนึ่งคน เจ้าตัวหมุนร่างกลับเพื่อที่จะเดินไปที่พักอย่างที่ตั้งใจแต่ก็ต้องเจอร่างใหญ่ๆของเพียงดินเดินมาตัดหน้าซะก่อน
“อะไรของนายอีกห๊ะ” วันนี้ทั้งวันเขาเหนื่อยกับเพียงดินมามากแค่ไหนแล้ว เมฆาชักจะเริ่มโมโหจริงๆแล้วนะ
“นั่นฉันเอาให้นาย นายไปให้เด็กนั่นทำไม” เพียงดินว่า อย่างนี้มันหยามน้ำใจกันชัดๆ
“ฉันจะให้ใครมันก็เรื่องของฉัน นายให้ฉันมาแล้ว หลีก!” เมฆาผลักอกเพียงดินอย่างแรงก่อนจะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงกลับเข้าที่พัก ทิ้งให้พ่อเลี้ยงเพียงดินยืนทำหน้ายุ่งอยู่คนเดียว
มันน่าหงุดหงิดมั้ยล่ะ สนใจเด็กนั่นก็พูดมาเถอะ
หลังจากอาบน้ำทานข้าวเสร็จเมฆาก็มานั่งเล่นอยู่ข้างนอกซึ่งเป็นศาลาที่เอาไว้ใช้ตรวจชาวบ้าน มองเห็นกองไฟของเด็กๆอยู่ไม่ไกล คนในศาลานั้นก็จะเป็นพวกหมอกับพยาบาลที่มานั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยเพราะยังไม่ดึกมากนัก ส่วนใหญ่แล้วก็คุยเรื่องงานที่ต้องออกตรวจ เมฆาร่วมวงสนทนาบ้าง
เมื่อมองหาเพียงดินกับเด็กทีที่วันนี้มาวุ่นวายกับเขาทั้งวันก็ไม่เจอ ซึ่งมันดีแล้วเพราะเมฆาไม่อยากจะเหนื่อยที่จะคุยด้วย เด็กทีนั่นก็คงอยู่ที่กองไฟ ส่วนเพียงดินจะไปตายที่ไหนก็เรื่องของเขา
“พี่หมอครับ” แต่ความสงบของเมฆาก็ต้องจบลงเมื่อเสียงเดิมนั้นดังมาแต่ไกลพร้อมกับร่างของทีที่วิ่งมาหา เขาไม่เข้าใจเด็กนี่เลยจริงๆ ไม่มีเพื่อนคุยหรือยังไง ถึงต้องมาวุ่นวายกับเขาอย่างนี้
“มีอะไร” เมฆาถามเมื่อทีมายืนอยู่ตรงหน้า พื้นศาลาเป็นพื้นยกสูง เพราะฉะนั้นการที่เขานั่งมันทำให้ระดับส่วนสูงนั่นเท่ากับทีที่ยืนอยู่
“ผมอยากชวนพี่ไปดูดาวน่ะครับ ตอบแทนเรื่องผลไม้นั่นไง” เด็กทียิ้มตาหยี
เมฆายิ้มเจื่อน รู้สึกแปลกชะมัดที่มีผู้ชายด้วยกันมาชวนให้ไปทำอะไรแบบนี้ แล้วไอ้เรื่องมะหลอดนั่นเขาแค่อยากจะตัดรำคาญ ไม่คิดว่าทีจะเอาไปเป็นข้ออ้างในการชวนเขาไปทำอะไรพิลึกแบบนี้
“ว้าย น่ารักจังเลย คึคึ” พี่แพรพยาบาลสาวหันไปกระซิบกระซาบกับพยาบาลอีกคนแล้วมองมาที่เมฆากับทีสลับกันด้วยสายตาที่กรุ้มกริ่ม นั่นทำให้เมฆาเริ่มคิดว่ามันแปลกๆ
“นะครับ นะพี่หมอ ไปกับผมนะครับ” ทียังคงตื้อไม่เลิก เขาเนียนเข้าไปจับแขนเมฆาไว้
“ไปเถอะน้องเมฆ สงสารเด็กน้อยตาดำๆน่ะ คิๆ” แล้วพี่แพรก็หัวเราะอย่างมีเลศนัยอีกรอบ เมฆาเลยหันมามองแววตาละห้อยของทีอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วถอนหายใจเฮือกอย่างเซ็งๆ
“ไปก็ไป จะพาไปไหนล่ะ” เมฆาลงมาจากศาลาแล้วมายืนข้างๆเด็กที
“ที่ผาตะวันครับ สวยมากเลย เมื่อวานผมไปกับเพื่อนๆมา เห็นดาวโคตรจะชัดเลย” ทีพูดเจื้อยแจ้วแล้วลากเมฆาให้เดินตามไปที่ผาตะวัน
ผาตะวันเป็นหน้าผาที่ยื่นออกไปข้างนอก เมื่อมองจากมุมนั้นจะเห็นไร่น้ำรินทั้งไร่ เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของที่นี่ ทีไปกับเพื่อนๆมาแล้วเมื่อวานนี้ เขาทั้งไปดูพระอาทิตย์ตกดินและอยู่ยาวเพื่อดูดาว ทางไปค่อนข้างจะมืดทำให้ทีต้องพกไฟฉายไปด้วย ตอนแรกเมฆาก็ชั่งใจอยู่ว่าจะไปดีมั้ย แต่ท่าทางดูแล้วไม่น่าจะเป็นอันตรายอะไรจึงเดินตามเด็กหนุ่มรุ่นน้องไป
เมื่อมาถึงผาตะวันทั้งสองคนก็ยินอยู่ที่ลานกว้าง ไม่ลงเดินเดินหรือไปนั่งใกล้ริมผาเพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุพลัดตกได้ ที่ตรงนั้นมีขอนไม้ขนาดใหญ่อยู่ ทีพาเมฆาไปนั่งพร้อมกับขยับเข้าไปใกล้ เมฆาขยับนี้ทีก็ขยับขาม เป็นอยู่อย่างนั้นจนเมฆาแทบจะตกขอนไม้ สุดท้ายเลยจำใจนั่งๆไปอย่างนั้น
“พี่หมอดูดาวสิครับ ผมชอบดาวมากเลย” ทีพูดพร้อมกับยิ้มแฉ่ง เมฆาเลยเงยหน้ามองดูตาม มันสวยอย่างที่ทีว่านั่นแหละ
เมื่อมองผ่านผาตะวันไปข้างล่างนั้นจะทำให้เห็นเส้นตัดของขอบฟ้าชัดเจน ซึ่งจะมีดาวหลายดวงเรียงกระจายอยู่เต็มผืนฟ้า มีคำกล่าวที่ว่าการจะเห็นดวงดาวชัดเจนที่สุดก็คงต้องอยู่ที่มืด และตอนนี้มันเป็นเรื่องจริง
แสงไฟในเมืองใหญ่ทำให้เมฆาไม่ค่อยจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอย่างนี้บ่อยนัก แม้แต่บ้านของตะวันในตัวอำเภอก็ยังยากที่จะเห็นดาวชัดๆ จะมีก็แต่ตอนที่ไปนอนที่ไร่น้ำรินเท่านั้นที่ทำให้เขาได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้ แต่ที่ผาตะวันมันดีและชัดกว่ามาก นั่นทำให้คุณหมอเมฆายิ้มออกมาอย่างลืมตัว
“พี่ชอบใช่มั้ยล่ะ ผมก็ชอบนะ ...ผมชอบพี่หมอเมฆ” คำสารภาพจากปากของเด็กรุ่นน้องที่อายุห่างหันเกือบจะห้าปีนั้นทำให้เมฆาต้องละสายตาจากท้องฟ้าแล้วหันมามองหน้าทีแทน
“อะ... อะไรนะ” เขาภาวนาว่าให้หูของตัวเองฝาดไปเสียยังจะดีกว่าที่จะได้ยินคำที่ทีพูด
“ผมชอบพี่หมอเมฆ ผมรู้ว่าเราเพิ่งเจอกัน แต่ผมชอบพี่จริงๆนะครับ พี่ยังไม่ต้องเป็นแฟนผมตอนนี้ก็ได้ แค่เปิดโอกาสให้ผมจีบพี่ก็พอ” ทีทำหน้าจริงจัง แต่เมฆานี่ถึงกลับทำหน้างงเต๊ก ครั้งแรกที่ถูกผู้ชายด้วยกันพูดว่าชอบอะไรแบบนี้ เด็กนี่เป็นเกย์รึไง บ้าไปแล้ว อยู่ๆมาถูกผู้ชายด้วยกันจีบ แล้วยังจะเป็นเด็กที่อายุห่างกันเกือบห้าปีอีก
“คือ... คือว่าพี่....” เมฆาไม่รู้จะพูดอะไรนั่นทำให้ทีเริ่มจะหน้าเสีย ใบหน้าหล่อเหลานั้นเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เป็นไรครับ แต่ผมอยากให้พี่รู้ไว้นะ ว่าผมไม่ยอมแพ้หรอก” ทียิ้มอีกครั้งแต่มันเป็นยิ้มที่ดูเศร้า เมฆาดูออก แต่ทำยังไงได้ จะให้เขาตอบทีไปยังไงล่ะ ในเมื่อเขามองเด็กทีเป็นแค่น้องคนนึงเท่านั้น
ไม่ทันที่เมฆาจะได้ตอบอะไรแสงไฟก็สาดเขามาตรงกลางระหว่างเมฆากับทีจนทำให้ทั้งสองคนต้องหรี่ตา เมื่อปรับแสงได้ก็หันไปมอง เจอร่างสูงๆของใครบางคนกำลังแกว่งไฟฉายไปมาอย่างน่ารำคาญ
“โอ๊ะ! โทษทีๆ พอดีก็อยากดูดาวเหมือนกันน่ะ” นั่นเป็นเสียงของเพียงดินเมฆาจำได้ดี เขาถอนหายใจเป็นรอบที่สิบของวัน เมื่อไหร่ที่เพียงดินมาอยู่กับเด็กทีนี่มันจะเป็นอะไรที่บัดซบคูณสองสำหรับเมฆาเชียวล่ะ
“พี่เป็นใคร แล้วมาที่นี่ได้ยังไง” ทีหันไปว่าเพียงดินที่เดินดุ่มๆมานั่งแทรกกลางระหว่างเมฆากับทีจนทำให้ทีต้องขยับถอยห่าง
“เป็นใครก็ชั่ง กูมาดูดาว มึงรู้จักที่นี่คนเดียวรึไง” เพียงดินหันไปตอบทีที่ทำหน้ายุ่งเพราะถูกทำลายบรรยากาศ
เขาแอบตามมาตั้งแต่เห็นไอ้เด็กนรกนี่วิ่งเรียกหาเมฆามาแต่ไกลแล้ว และก็เห็นว่าเด็กนี่เนียนจับแขนเมฆาด้วย พอมาถึงผาตะวันก็ทำเป็นกระหนุงกระหนิงจนเพียงดินอยากจะถีบตกเขาให้รู้แล้วรู้รอดทั้งคู่
จริงๆที่มาขัดจังหวะเนี่ย เขาแค่หมั่นไส้เด็กทีกับเมฆาก็แค่นั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงเลยสักนิด
************************************************************************************
มาต่อแล้วค่ะ ตอนนี้มาดึกมากเลย เนตเราไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ตอนนี้น้องทีทำคะแนนแซงพี่ดินแล้วมั้งค่ะเนี่ย ทำไมเราชอบน้องทีมากกว่า เปลี่ยนพระเอกตอนนี้ทันมั้ย น่าอ็นดูจริงๆเลยลูก พี่ดินก็เลิกเก๊กวักทีเถอะค่ะก่อนจะอดสอยน้องเมฆ
เรื่องนี้จะอัพวันเว้นวันนะคะ สัลบกับอีกเรื่องที่เราเพิ่งเปิดใหม่ เรื่องนี้เลยค่ะ ฝากเรื่องใหม่เราด้วยนะคะ แต่อาจจะอัพทั้งสองเรื่องวันเดียวก็ได้ ตามแต่อารมณ์
(GO! หมากล้อมพร้อมรบ ถ้าอยากจะคบก็พร้อมที่จะรัก) >>
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54057.0ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ