หัวใจขายแพงๆ 6 โดย mam“คุณยะ….”
“หือ?”
“คุณเอามือออกจากเอวผมเดี๋ยวนี้นะ”
“ถ้าปล่อยคุณก็ตกน่ะสิ”
“จะตกได้ยังไงเตียงออกจะเบ้อเร่อเบ้อร่า”
ใช่ครับ!~ วันนี้ผมมานอนห้องหมอนี่เพราะคุณลุงมาค้างที่บ้านนี้และนอนอยู่ห้องตรงข้ามกันนี่เอง ผมเลยต้องเนรเทศตัวเองออกจากห้องแล้วมานอนห้องหมอนี่
“ใหญ่ที่ไหนกัน นี่มันเตียงเดี่ยวนะคุณผมนอนคนเดียวก็เต็มเตียงแล้ว ขืนไม่กอดคุณไว้มีหวังกลิ้งลงไปนอนกับพื้นแน่ ๆ”
“งั้นก็ปล่อย ผมลงไปนอนที่พื้นก็ได้”
“ก็จะต้องไปนอนกับพื้นทำไม เตียงออกจะกว้างนอนบนนี้น่ะดีแล้ว”
“เอ๊ะ!!~คุณนี่ยังไงนะ เมื่อกี้คุณยังบอกอยู่หยก ๆ ว่าเตียงแคบ นี่มาบอกเตียงกว้างอีกแล้ว”
หมอนั่นทำหน้าเหรอ “เหรอ? ผมพูดอย่างนั้นเหรอ?”
โธ่~ กวนประสาทอย่างนี้มันน่า….
“คุณยะ ปล่อย…”
“อยู่แบบนี้ดีแล้วน่า”
“ปล่อย!~”
หมอนั่นรีบเอามือปิดปากผม “ชู่ว~ อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวพ่อก็ได้ยินหรอก”
ทีอย่างนี้ล่ะกลัว ทีปกติล่ะเถียงพ่อตัวเองได้ฉอด ๆ
“ถ้าคุณยังไม่ปล่อยผมจะร้องเรียกท่าน”
“ถ้าคุณร้องเรียกท่านผมจะปล้ำคุณตรงนี้ล่ะ ดูซิว่าท่านจะเชื่อใครมากกว่ากันระหว่างคุณกับผม”
คำขู่ของหมอนั่นทำให้ผมต้องหุบปาก
“….ต้องอย่างนี้ซิที่รัก โอ้ยยยย!!~”
ไม่มีอะไร ผมไม่ได้พูดนะ ไม่ได้ร้องเรียกด้วยผมแค่หยิกท้องหมอนั่นเอง
“ชู่ว~ อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวพ่อก็ได้ยินหรอก”
“หนอย~ ฤทธิ์มากนักต้องทำโทษ!~”
เฮ้ย!!! หมอนั่นจับผมนอนหงาย!! ยังมาหอมแก้มผมอีก หยุดนะ!!!
“นี่จะบ้าเหรอ!!! หยุดนะ!!!” ไอ้ทุเรศนี่!!! มาจูบซอกคอทำเอาขนลุกหมด
“หายฤทธิ์มากรึยัง?”
“ผมฤทธิ์มากคุณก็บ้าแล้ว ไอ้โรคจิต!!”
“ปากจัดแบบนี้แสดงว่ายังไม่หาย”
เฮ้ย!!!
“หายแล้ว!! ๆ ปล่อยได้แล้ว!!”
“หายแน่นะ?”
“เออ”
“ดี… ถ้าอย่างนั้นก็นอนซะ ผมหอบงานมาทำที่บ้านด้วยพรุ่งนี้ต้องตื่นมาทำแต่เช้า” หมอนั่นพลิกตัวนอนตะแคงดึงผมให้นอนเต็มเตียงแล้วตัวเองก็หลับตา
“นี่คุณยะ….”
“อะไรอีก?”
“ผมขยับไปอีกหน่อยก็ได้คุณจะได้นอนสบาย ๆ "
“ไม่เป็นไร คุณนอนไปเถอะ ผมนอนแบบนี้ได้”
.........กว่าผมจะกล้าหลับก็ต้องรอให้หมอนี่หลับไปแล้วนั่นแหล่ะ เฮ่อ….
เป็นวันที่ผมตื่นสายอีกวัน เพราะหมอนั่นแท้ ๆ เลย ตื่นมาก็ไม่เห็นแล้วคงลุกไปแล้วมั้ง ผมรีบอาบน้ำแล้วเดินมานั่งที่ยกพื้นกลางเรือน ซักพักคุณลุงก็เดินขึ้นมาบนเรือนแล้วก็มานั่งตรงข้าม
“นึกว่าจะไปเอาเอกสารเพิ่มที่บริษัทกับเจ้ายะซะอีก” อยู่ ๆ คุณลุงมองหน้าผมแปลก ๆ
“เปลี่ยนเป็นเสื้อปิดคอซะหน่อยไม่ดีกว่ารึ?”
เปลี่ยนเสื้อ? เปลี่ยนทำไม?
ผมลุกเดินเข้าห้องไปดูกระจก เฮ้ย!!! รอยจูบ!!! ไอ้ทุเรศนั่น!! เมื่อเช้าอาบน้ำก็ไม่ได้มอง คุณลุงจะคิดยังไงล่ะเนี่ย โธ่~ หมดกันภาพพจน์ดี ๆ ของผม…
ผมรีบเปลี่ยนใส่เสื้อเชิ้ตแล้วก็เดินกลับมานั่งที่เดิม ใกล้ ๆ คุณลุงที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
“ขอโทษคุณลุงด้วยครับ”
คุณลุงเหลือบมองหน้าผมแล้วก็หันไปมองหนังสือพิมพ์ต่อ “ถึงจะเคยอยู่ในวังได้รับการสั่งสอนมารยาทอย่างดีก็เถอะ แต่เวลาแบบนี้เขาต้องเรียกว่าพ่อไม่ใช่รึไง?”
……อ่า……
“…ครับคุณพ่อ…” แล้วคุณลุงก็พับหนังสือพิมพ์วางไว้บนโต๊ะ
“แล้วนี่จะแต่งงานกันเมื่อไหร่? หรือว่าจะไม่แต่งอยู่ด้วยกันเฉย ๆ “
โธ่~ ถามอย่างนี้แล้วผมจะตอบยังไงล่ะคุณลุง ใจจริงผมอยากจะตะโกนตอบไปว่าถึงผมจะไม่รังเกียจเกย์เพราะผมมีเพื่อนเป็นเกย์เยอะก็เถอะแต่ถ้าจะให้ผมแต่งกับลูกคุณลุงละก็ผมคงต้องใช้เวลาคิดอีก 10 ปีแน่ ๆ
“..เอ่อ…แล้วแต่คุณยะครับ…”
“…แล้วแต่เจ้ายะ ถ้าเจ้ายะมันไม่คิดจะแต่งก็ไม่แต่งอย่างนั้นเรอะ หัดมีสิทธิ์มีเสียงซะบ้างนะเราน่ะ มารยาทในรั้วในวังน่ะเก็บ ๆ ไว้บ้าง”
โฮ~~ จะมีใครเข้าใจผมบ้างมั้ยที่ต้องมานั่งฟังคุณลุงสอนเรื่องการอยู่กับลูกชายท่านน่ะ
“อ้าวพ่อ!!~ เรื่องอะไรมาสอนให้ลูกสะใภ้พ่อดื้อกับผมล่ะ” หมอนั่นถือแฟ้มเอกสารเดินเข้ามา
“ก็แกมันตัดสินใจไม่เด็ดขาด ถ้าพ่อธรทิ้งแกเมื่อไหร่ฉันจะจีบเอง”
….เฮ่อ~… ใครช่วยผมทีสิ ผมอยากไปจากที่นี่….
“พ่อ!!~ นี่ลูกสะใภ้พ่อนะ!!~”
“เออ!!~”
“…ผมขอตัวไปดูป๋องในครัวนะครับ” ผมต้องรีบลุกมาก่อน ไม่ไหว… นอกจากจะปวดหัวกับคนลูกแล้วยังต้องมาปวดหัวกับคนพ่ออีก
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จคุณลุงก็เข้าไปอ่านหนังสือในห้อง ก็ดี วันนี้ผมปวดหัวกับสองพ่อลูกนี่พอแล้ว แยก ๆ กันบ้างผมจะได้ปวดหัวน้อยลง
ทานอาหารเสร็จแล้วผมจะลุกไปไหนก็ไม่ได้ต้องนั่งอยู่นี่กันคุณลุงสงสัย การนั่งเฝ้าหมอนี่ทำงานเป็นสิ่งที่น่าเบื่อที่สุดตั้งแต่ผมมาอยู่บ้านนี้ ทำไมหมอนี่ถึงชอบชวนคนอื่นคุยนักนะ คุยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ฝนจะตกบ้างล่ะ น้ำจะท่วมบ้างล่ะ ดีนะไม่ลามไปเรื่องโลกจะแตก ผมก็ไม่ได้คุยตอบหรอกนั่งเออ ๆ อือ ๆ ไปตามเรื่องตามราว อยู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของหมอนั่นก็ดัง
“ฮัลโหลไอ้สัน จะโทรมาทำไมวะ….?” ไม่มีธุระแล้วเค้าจะโทรมามั้ยล่ะ
“อ้าว~ มึงเมานี่ว่า ไอ้เวร เป็นหมอดันเสือกกินเหล้าซะเมาแอ๋” เป็นหมอแล้วกินเหล้าไม่ได้รึไงต้องเป็นพ่อค้าเพชรเหรอถึงจะกินได้
“อย่าเพิ่งเพ้อเจ้อ มึงอยู่ไหนบอกมาเดี๋ยวกูจะไปรับ….” แล้วหมอนั่นก็วางหูโทรศัพท์
“ไอ้สันมันไปเมาอยู่ที่ร้านอาหาร เห็นว่าอกหักหรือยังไงนี่แหล่ะ ผมจะไปรับมันไปส่งที่คอนโด คุณนอนก่อนก็ได้เผื่อผมต้องอยู่ดูมัน” หมอนั่นรีบลุกดูร้อนรนยังไงไม่รู้ สงสัยจะอาการหนัก
“ผมไปด้วย” ผมรีบลุกวิ่งตาม
“คุณจะไปทำไม อยู่ที่นี่แหล่ะดีแล้ว”
“นี่คุณยะ คนเมาน่ะไม่มีสตินะเดี๋ยวถ้าเกิดโวยวายขึ้นมาตอนขับรถละก็มีหวังแหกโค้งข้างทางแน่ ๆ “
หมอนั่นนิ่งไปยอมรับเหตุผลของผม “ก็ได้”
เรารีบขึ้นรถและขับออกมาอย่างรวดเร็ว
“ไหนว่าคุณสันคบอยู่กับพยาบาลฝึกหัดไง?”
“ก็เป็นอย่างนั้น ผมไปหามันที่โรงพยาบาลบ่อย ๆ ก็เห็นว่าหวานกันดี แต่ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ ๆ ถึงเป็นแบบนี้ไปได้”
หมอนั่นขับมาไม่นานก็เจอร้านที่คุณคมสันไปเมาเละเทะอยู่ เห็นนอนฟุบอยู่กับโต๊ะสงสัยคงจะโวยวายจนหมดฤทธิ์แล้วมั้ง
“ไอ้สัน…ไอ้สันตื่น…” เขาตบแก้มเพื่อนเรียกสติ
“ครายยยย…อ้อ…ไอ้ยะ….ไอ้ยะเพื่อนกูนี่เอง….” ยังเมาแอ๋อยู่เลย
“มาเมาอะไรที่นี่วะ จะกินเหล้าไม่เสือกไปกินที่บ้าน น้องโต๊ะนี้เช็คบิลรึยัง?” หันไปถามบ๋อยที่ยืนเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ข้างหลัง พอเห็นว่ายังก็รีบจ่ายเงิน+ทิปให้กับพนักงานแล้วลากตัวออกมาทันที
“มืงงจาพากูปายหนายยวะ?….”
“ก็พามึงกลับบ้านน่ะสิ ไอ้เวร เสือกมาเมาให้เดือดร้อนกูอีก”
คุณคมสันหันมามองผมที่ช่วยพยุงปีกแกอยู่ “แล้วนี่ครายยยย อ้อ!~ คุณธรเมียกูนี่เอง…”
“เมียกู!!~”
ผมว่าผมควรทิ้งไอ้สองคนบ้าไว้ที่นี่แล้วกลับบ้านใช่มั้ย?
“อ้าว~ เมียมึงเหรอ? กูนึกว่าเมียกู เออ~ กูเพิ่งโดนเมียทิ้งวันนี้นี่หว่า…” คนเมายังอ้อแอ้แต่ไป
ผมกับหมอนั่นรีบจับยัดใส่เข้าไปในรถกว่าจะคาดเข็มขัดนิรภัยได้เรียบร้อยก็เล่นเอาเหนื่อย ระหว่างทางที่รถขับไปก็ต้องคอยระวังไว้เผื่อจะบ้าลุกขึ้นมายืน ยิ่งเป็นรถเปิดประทุนอยู่ด้วย
“เกิดอะไรขึ้นวะ?”
“อาราย? ไม่มี๊ ไม่มีอาราย ก็แค่คุณพยาบาลคนสวยของกูเขาเบื่ออายุรแพทย์คนเก่า ศัลยแพทย์หนุ่ม ๆ หล่อ ๆ น่าสนใจกว่าเยอะ”
อย่างนี้นี่เอง…. หมอนั่นถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป
กว่าจะมาถึงคอนโดได้คนเมาก็หลับปุ๋ยไปแล้ว ผมกับนายยะลากคุณคมสันออกมาจากรถ อยู่ ๆ หมอนั่นก็หันไปมองคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินหน้าคอนโด
“นพ!!”
“พี่ยะ!! พี่คม!!!!” อยู่ ๆ คนที่นั่งก็ลุกขึ้นมา ดูเหมือนเขาจะรู้จักกัน อายุก็คงไม่มากกว่าผมไปซักเท่าไหร่ แต่สีหน้าแสดงความเป็นห่วงคนที่เมาอยู่จนเห็นได้ชัด
“นพช่วยพี่ลากไอ้สันขึ้นข้างบนก่อน เรื่องเป็นยังไงเดี๋ยวค่อยว่ากัน”
เราสามคนช่วยกันลากคุณคมสันขึ้นมาบนห้อง กว่าที่จะลากมานอนบนเตียงได้ก็เล่นเอาเหงื่อแฉะกันไปทั้งสามคน คนที่ชื่อนพรีบเอาผ้าขนหนูไปชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้คุณคมสัน คลายเสื้อผ้าให้หลวมพอจะนอนสบายแล้วถึงจะลุกมานั่งคุยกับผมและหมอนั่น
“เกิดอะไรขึ้นนพ?”
“…คือ…อ้อยน่ะครับ…เธอไปคบกับหมอศัลยฯ ที่ย้ายมาใหม่ เห็นว่าทางโน้นเขาก็อนาคตสดใสอยู่ไม่น้อย เธอก็เลยมาบอกเลิกกับพี่คม…ที่หน้าโรงพยาบาล…”
“หน้าโรงพยาบาล!!~” โธ่เอ้ย~ ดันมาบอกประจานหน้าโรงพยาบาลซะด้วย
“ครับ… พี่คมก็เลยเสียใจมาก ออกเวรปุ๊บก็รีบขับรถออกมาเลย ผมเป็นห่วงแต่ก็ทิ้งเวรไม่ได้ พอออกเวรก็รีบมาที่นี่เพราะคิดว่าพี่คมจะกลับบ้าน…”
หมอนั่นนั่งกุมขมับ “แบบนี้เราก็ไปว่าอะไรฝ่ายโน้นเขาไม่ได้หรอก เขามีทางเลือกที่ดีกว่าเขาก็เลือก… เดี๋ยวพี่กลับก่อนแล้วกันพรุ่งนี้จะมาใหม่ ยังไงพี่ฝากนพดูมันด้วย”
“ครับพี่ยะ…”
“เอ้อ!! นพ นี่แฟนพี่ พี่ธร”
นพโค้งให้ผมผมก็โค้งตอบ ดูอายุใกล้เคียงกันจะไหว้กันกระไรอยู่
“พี่กลับก่อนนะ” นายยะลากผมออกมา
“คงไม่เป็นไรนะ….”
“ไม่เป็นไรหรอก นพมันไม่ปล่อยให้คนที่มันรักตายไปหรอก”
ห๋า!!!?~