เครียดกันมาหลายตอนแล้ว มาเบรคความเครียดด้วยการออกกำลังกันดีกว่าค่ะ
ถ้าพร้อมแล้วเราไปออกกำลังกันแบบเบาๆไปกับพี่หมอและไอ้ดำกันดีกว่าค่ะ
ถ้าพร้อมแล้ว...ไปกันเล้ย.......
+++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 47 ......แบบนี้..หนัก...หรือ..เบา....
เช้านี้เป็นวันแรกที่ผมขับรถไปทำงาน พอขับรถไปเอง ผมก้อไม่ต้องตื่นเช้ามากแล้วครับ เพราะระยะทางแค่ห้าสิบกิโล
ใช้เวลาขับประมาณครึ่งชั่วโมงก้อถึงครับ ก้อยังดีนะครับที่ไม่ต้องตื่นเช้า..เพราะถ้าต้องตื่นเวลาเดิม
ผมก้อไม่แน่ใจนะครับว่าเช้านี้ผมจะตื่นไหวมั๊ย
หลังจากที่เราตกลงกันเรียบร้อย เย็นวันนั้นคุณกรก้อได้ออกจากโรงพยาบาลไปพักที่บ้าน ส่วนคุณแม่กับพี่ตา
ก้อต้องรีบกลับบ้านกันครับ เพราะเป็นห่วงน้องเนตรที่อยู่กับแม่บ้านแค่สองคน
คืนนั้นผมนอนคุยกับคุณกร เราคุยกันหลายๆเรื่องที่เราไม่ได้คุยกันในช่วงนี้ จะถือว่าเมื่อวานเป็นวันที่เราได้อยู่มากที่สุดตั้งแต่ที่ผมเริ่มทำงานมาก้อได้ครับ เราพูดคุยกัน หยอกล้อกัน และมอบจูบหวานๆให้แก่กัน..
อันที่จริงผมก้ออยากจะทำอะไรๆมากกว่านี้นะครับ..แต่กลัวที่รักผมจะไม่ไหวเอาหนะสิ...
แต่เท่าที่ดูที่รักก้อดูแข้งแรงดีแล้วนะครับ แต่ผมกลัวว่าถ้าผมให้ที่รักทำอะไรที่ต้องใช้พลังงานมากไป
ที่รักอาจจะป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลอีกรอบก้อได้ครับ...
เอ...แล้วอย่างนี้ผมจะปรึกษาใครดีครับ
แต่ปัญหาสุขภาพ..เจ็บไข้ได้ป่วยแบบนี้..ถามหมอดีที่สุดครับ
ผมก้อเลยตัดสินใจปรึกษาปัญหาเรื่องนี้กับคุณหมอที่อยู่แถวๆนี้ครับ
“คุณหมอกรครับ.. ...”
“อือ..มีอะไรแทน...” คุณหมอที่กำลังเคลิ้มๆเริ่มจะหลับ พึมพำตอบผมเบาๆครับ
“เอ่อ..ผมมีเรื่องปรึกษาครับ... ...”
“เรื่องอะไรอะ..เรื่องด่วนต้องปรึกษาตอนนี้เลยเหรอ...”
“เอ่อ..ก้อด่วนครับ..ด่วนมาก...”
“งั้นว่ามา... ...”
“คือว่า...ผมสงสัยว่า คนที่ไม่สบาย..พึ่งออกจากโรงพยาบาลมาเนี่ย ออกกำลังกายได้มั๊ยครับ...”
“ออกกำลังกายแบบไหนหละ...”
“ก้อแบบออกกำลัง..ใช้พลังงานอะไรแบบเนี้ย...”
“ก้อต้องดูว่าที่เค้าเข้าโรงบาล ด้วยโรคอะไร อาการหนักแค่ไหน...เพราะแต่ละโรคก้อมีข้อห้ามไม่เหมือนกัน...”
“แล้วคนที่ว่าเนี่ยเค้าป่วยเป็นอะไร... ...”
ที่รักผมยังคงตั้งหน้าตั้งตาตอบปัญหาสุขภาพ โดยที่ยังไม่เอะใจอะไรเลยครับ
“เค้าก้อไม่ได้ป่วยเป็นอะไรครับ เค้าเข้าโรงพยาบาลก้อเพราะเครียดแล้วก้อร่างกายอ่อนเพลียแค่นั้นเองครับ...”
“อืมมม..งั้นก้อไม่น่ามีปัญหาอะไร... ดีซะอีก การออกกำลังกาย จะได้ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
ช่วยคลายเครียดด้วย...”
“แต่ช่วงแรกๆก้ออย่าพึ่งหักโหมออกกำลังหนักๆก้อแล้วกัน ให้เริ่มจากที่เบาๆไปก่อน...”
“แล้วการออกกำลังด้วยการ...เอ่อ...เอ่อ...การทำกิจกรรมบนเตียงนี่ถือว่าหนักหรือเบาครับ...”
พอผมจบประโยคนี้ ที่รักผมก้ออึ้งไปชั่วขณะ....ใบหน้าค่อยๆแดงขึ้นเรื่อยๆครับ...
จากนั้นก้อพึมพำด่าผมเบาๆด้วยความเขินอาย....
“.แทนบ้า....ไอ้บ้า.....ชั้นก้อนึกว่าถามเรื่องอะไร...”
“5555..............ก้อผมอยากรู้จริงๆนี่ครับ ว่ากิจกรรมแบบนี้มันถือว่าหนักหรือเบา...”
“ถ้าหนัก..ผมก้อจะได้ไม่ทำเพราะกลัวว่าคุณจะไม่สบายอีก...”
“แต่ถ้าเบา...ผมก้อจะได้เริ่มเลย..ไม่ต้องเสียเวลางัยครับ...”
ผมพูดพร้อมกับคว้าตัวของคุณกรเข้ามากอด มือหนาลูบเบาๆที่เส้นผม ใบหน้า และริมฝีปากของคุณกร
ส่วนคุณกรก้อซบใบหน้าลงที่บ่ากว้างของผมคงด้วยความหนะครับ
“ว่างัยครับ......หนัก..หรือ...เบา. ...”.ผมกระซิบถามด้วยน้ำเสียงกึ่งกระเซ้า
“ไม่หนักหรอก.... ...”.คุณกรกระซิบตอบเสียงอู้อี้โดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาเลยครับ
“อะไรนะครับ.....ไม่ได้ยินเลย..คุณตอบว่างัยนะครับ...”
“ถ้าทำเบาๆก้อไม่ถือว่าหนักหรอก... ...”
“อะไรนะครับ...ถือว่าหนักเหรอ...เฮ้อ..งั้นก้อทำไม่ได้สิ ไม่เป็นไรครับ ผมรอให้คุณหายดีก่อนก้อได้...”
ผมแกล้งทำเสียงเศร้าพร้อมกับมือที่กำลังลูบผมคุณกรอยู่ก้อหยุดลง
“งั้นคุณก้อรีบนอนเถอะครับ..ดึกมากแล้ว...”
คุณกรรีบเงยหน้าขึ้นมาแล้วด่าผมเสียงดังด้วยความลืมตัว..
“เอ๊ะ.!!! .ก้อชั้นบอกแล้วว่า..เบา...เบา....ไม่ได้ยินหรืองัย...”
5555.........ผมหัวเราะพร้อมกับคว้าตัวคุณกรเข้ามากอดพร้อมกับระดมจูบไปทั่วใบหน้าด้วยความหมั่นเขี้ยวครับ
“อะ..ไอ้บ้า..... ...”ที่รักคงรู้แล้วครับว่าถูกผมหลอก ..รีบก้มหน้าหลบริมฝีปากผมใหญ่ครับ
“ไม่เอาแล้ว...ชั้นเปลี่ยนใจวินิจฉัยใหม่แล้ว...”
“การทำกิจกรรมอย่างว่าถือว่าเป็นการออกกำลังที่หนักมาก ห้ามทำหลังจากออกจากโรงพยาบาล
ต้องเว้นไปอย่างน้อยหนึ่งเดือน...”
“เสียใจด้วยครับที่รัก..คุณเปลี่ยนใจไม่ทันแล้ว ผมเชื่อในการวินิจฉัยครั้งแรกของหมอ...”
“และตอนนี้ผมก้อพร้อมที่จะเริ่มทำกิจกรรมเบาๆแล้ว...”
“เริ่มเลยนะครับ.....” ผมยิ้มส่งสายตาอ้อนวอนพร้อมคำขออนุญาติ แต่สองมือของผมเริ่มลูบไล้ไปทั่วตัวคุณกรแล้วครับ
“เอ่อ........” คุณกรก้มหน้า.....
“นะครับ........”ผมขอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คุณกรเงียบไม่ตอบว่าอะไร แต่ผลักตัวผมออกเบาๆแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง
จากนั้นก้อใช้มือจับที่ชายเสื้อนอนค่อยๆลากไล้ออกจากตัว ผมเห็นแบบนั้นก้อไม่รอช้าครับเริ่มถอดของตัวเองออกไปบ้าง.ไม่ถึงเสี้ยววินาที เราสองคนก้อไม่มีเสื้อผ้าติดตัวกันแล้วครับ
ทันทีที่เสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากร่างกายผมก้อคว้าตัวคุณกรเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม
“อะ....อืม อืออออ อื้อ........” ทันทีที่โดนจูบ มือไม้ของคุณกรก้อเริ่มอ่อนแรงเพราะเผลอไผลไปกับรสจูบ
ส่วนมือผมก้อลูบไล้ไปตามผิวขาวเนียนนุ่ม ฝ่ามือหนาค่อยๆลากไล้ไปทั่วลำตัว ก่อนที่เริ่มลงไปที่จุดอ่อนไหว
ร่างคุณกรกระตุกน้อยๆ แต่ก็ยังจูบแลกลิ้นกันไม่ห่าง
ริมฝีปากเราทั้งคู่เหมือนมีแม่เหล็กที่ดูดเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ ผมจูบเหมือนโหยหารสจูบและริมฝีปากบางๆคู่นี้
คุณกรเองก้อจูบตอบอย่างร้อนแรงพอกัน ผมผละจากริมฝีปากแล้วก็ไซร้ต่ำลงมาจนถึงยอดอกสีหวานที่ตั้งชัน
เพราะแรงอารมณ์ จากนั้นริมฝีปากผมก้อไซร้ต่ำไปจนถึงแอ่งสะดือ
รู้สึกได้เลยว่าคุณกรสะดุ้ง และจิกไหล่ผมด้วยอาการลืมตัว....
“อะ....อ๊า~ อื้อ!! อื้ออออออ” เรียวขาสองข้างหนีบเข้าหากันตามสัญชาตญาณ ผมใช้เรียวลิ้นลากไล้ไปทั่วต้นขาเนียน
ฝ่ามือแกร่งดันเข่าทั้งสองข้างไว้ ปลายลิ้นลากไล้สู่จุดกึ่งกลางลำตัว ที่แข็งชันบ่งบอกถึงแรงอารมณ์
คุณกรบิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่าน ฝ่ามือสองข้างกำผ้าปูที่นอนยับย่นจนแน่น
“อะ....อ๊า…..”
ผมค่อยๆใช้ปลายนิ้วแทรกเข้าสู่เข้าสู่ช่องทางอ่อนนุ่มด้านหลัง คุณกรหอบจนตัวโยน เมื่อรับรู้ได้ถึงการสอดใส่
“ที่รัก ....ผ่อนลมหายใจหน่อย......” ผมค่อยๆเพิ่มจำนวนจากหนึ่งเป็นสอง...สองเป็นสาม........
“แทน....ทำเถอะ......ไม่ไหว.....อึก.....แล้ว.....อะ”
ผมยิ้มอย่างพอใจ และค่อยๆแทรกกายเข้าไปในช่องทางนั้นอย่างโหยหา เสียงครางอืออาข้างใต้ ยิ่งกระตุ้นอารมณ์จนต้องบังคับตัวเองให้ช้าลง ไม่อยากทำให้ที่รักต้องเจ็บตัว....
“แทน...จูบ....จูบหน่อย....” คุณกรเลื่อนริมฝีปากเข้าหาผม โดยไม่ต้องรอคำตอบ
ริมฝีปากของเราไม่ยอมผละออกจากกัน ส่วนร่างกายของเราทั้งคู่ก้อขยับตามจังหวะและแรงอารมณ์
เสียงครวญครางของเราทั้งคู่ดังระงมไปทั่วห้อง
..
...
....
....
“อะ.....ทะ..แทน......มัน....กะ ใกล้..แล้ว....” คุณกรเอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่น
“อืม.....งั้นไปพร้อมกันนะครับ..ที่รัก....” ไม่กี่นาทีถัดมา เสียงกรีดร้องด้วยความสุขก็ดังไปทั่วห้อง
คุณกรแทบจะหมดแรงทันทีที่ผมถอนกายออกจากตัวเค้า.....
..
…
…..
…..
“ชั้นว่า..มันไม่เบาแล้วนะแทน......”
“ผมก้อว่าผมทำเบาๆแล้วนะครับ...”
“บ้าสิ....ขนาดนี้ไม่เรียกเบาแล้ว......ทำเอาชั้นเหนื่อยแทบตายแหนะ..”
“แต่ผมว่า...หน้าตาคุณดูสดชื่นขึ้นนะ...สงสัยการออกกำลังแบบนี้จะได้ผลดีจริงๆ... ...”
“งั้นเราต้องออกกำลังแบบนี้กันบ่อยๆแล้ว... ร่างกายคุณจะได้แข็งแรง... ...”
“จริงมั๊ยครับ..คุณหมอที่รัก.. ...”
“บ้า...หาเหตุผลมาสนับสนุนความหื่นได้ตลอดเวลาเลยนะ...”
“ไหน...ใครหื่น..ไม่มี๊...แถวนี้ไม่มีใครหื่น.... ...”
“ถ้าแบบนี้ไม่เรียกหื่น..ก้อไม่รู้จะว่างัยแล้ว... ...”
“หื่น...แล้วรักมั๊ยครับ... ...”
“รัก...... ...”
“รัก....เหมือนกันครับ...”
หลังจากบอกรักกันหลังการออกกำลังยามดึก.....ผมก้อต้องอุ้มที่รักที่ทำท่าจะหลับมิหลับแหล่เข้าไปอาบน้ำ
ออกมาจากห้องน้ำก้อต้องสวมเสื้อผ้าสบายๆให้ ทำทุกอย่างให้เหมือนเด็กเลยครับ
ก้อที่รักผมหนะสิครับ หลับไปตั้งแต่ผมอุ้มออกมาจากห้องน้ำแล้ว....
สงสัยจะหมดแรงจริงๆ.............
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แน่ใจนะ....ว่านี่เรียกว่า..ออกกำลังแบบเบาๆ
แล้วถ้าหนักๆพี่หมอจะเป็นงัยเนี่ย........ไม่อยากคิด