Passion28
“อื้ม คุณภีมอย่าซนสิครับ”
วาเลนไทน์ประท้วงน้อยๆเมื่อปากเป็นอิสระ ผู้บริหารใหญ่บอกว่าจะช่วยก็จริงแต่ดูเหมือนจะป่วนมากกว่า สิงห์ใหญ่จ๋อยเล็กน้อยเมื่อถูกเมียดุ ช่วงนี้กวางน้อยดูเครียดจริงจังกับวิทยานิพนธ์จบจนแทบไม่มีเวลาให้
เอาจริงๆแค่วาเลนไทน์กลับห้องได้ก็นับว่าคิดถึงใจกันมากแล้ว แต่ถึงกลับก็ใช่จะมีเวลาจี๋จ๋าด้วย ถึงห้องปุ๊บก็เริ่มงานปั๊บแทบไม่ได้เงยหน้าเงยตามองกัน เรียกได้ว่ากลับมาให้เขาได้เห็นหน้าบ้างแค่นั้นแหละ ก็ยังดีที่คิดถึงกัน ภีมพริษฐ์จึงมีหน้าที่หาข้าวหาน้ำให้กิน หรือถ้าเขามีประชุมติดพันงานยุ่งมากๆต้องบินไปต่างประเทศก็แทบจะไม่ได้คุยกันเลยเป็นอาทิตย์ มาเจอทีหนวดขึ้น ผมยุ่ง มีกลิ่นตุๆเป็นกวางเน่าเล่นเอาไม่กล้าถามเลยว่าอาบน้ำครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ดีหน่อยที่เขากำชับลูกน้องเรื่องหาข้าวหาน้ำส่งให้วาเลนไทน์ตลอด ก่อนหน้าร่างโปร่งเครียดหนักเพราะหัวข้อนำเสนอไม่ผ่าน ร้อนถึงคนรักเมียต้องพากวางน้อยนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปหาแรงบันดาลใจของจริงกันถึงดูไบ กลับมาก็แทบจะอยู่คนละโลกเพราะคนรักแทบจะสิงรวมร่างกับคอมพิวเตอร์ ทั้งหาข้อมูลทั้งอะไรต่อมิอะไรมากมาย ภีมพริษฐ์ได้แต่วนเวียนดูอยู่ห่างๆไม่กล้ารบกวนสมาธิ อย่างน้อยวาเลนไทน์ก็กลับมานั่งทำงานในห้องให้เขาได้เห็นหน้าบ้างไม่ได้ไปสิงที่สตูกับเพื่อนๆอย่างทุกครั้ง แต่หลังจากที่เขาเอ่ยปากอนุญาตให้เดอะแก๊งยกงานมาทำกันที่เพ้นท์เฮ้าได้ ความครึกครื้นชุลมุนเล็กๆก็ก่อตัวขึ้น เพ้นท์เฮ้าส์กว้างขวางโอ่โถงแถมวิวดี อาหารการกินภีมพริษฐ์สั่งจากภัตตาคารชั้นดีมาบริการถึงที่ ชายหนุ่มได้มีโอกาสแทรกตัวเข้าไปช่วยก็ตอนตัดกระดาษทำโมเดลนั่นแหละ เขาแอบจับภาพตอนเผลอของเจ้าของใบหน้าใสมัดจุกน้ำพุน่ารักๆง่วนกับงาน โวยวายกับเพื่อนบ้างตามประสานับเป็นภาพที่น่าดู
วาเลนไทน์เหมือนท้องฟ้าสดใส มีอิสระ
ต่างจากเขาที่เหมือนท้องฟ้าดำมืดขมุกขมัวยามมีเมฆทะมึนเตรียมก่อพายุ
เจ้าของใบหน้าคมรู้สึกตัวตลอดเวลาถึงสายตาของภัทรศรัณย์ที่แอบเมียงมองมา ที่อนุญาตให้วาเลนไทน์พาเพื่อนมาช่วยกันเผางานที่นี่ได้ก็สาเหตุนี้ล่ะ เขาต้องการให้ภัทรศรัณย์เจอเขา และภีมพริษฐ์ก็นั่งให้เด็กนั่นมองให้เต็มตาจะได้จดจำให้เต็มหัวใจ
ความอำมหิตที่ซุกซ่อนได้อย่างแยบคายโดยที่ไม่มีใครล่วงรู้
เขาจะทำให้ภัทรศรัณย์โหยหาอย่างทรมานก่อนพันธนาการของชารอฟจะพันเกี่ยวอิสระของเด็กนั่นทันทีที่เรียนจบ
คิดจะหาคนช่วย หึ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าลึกๆแล้วภัทรศรัณย์อยากขอความช่วยเหลือจากเขา มาเฟียที่ร่ำรวยบนความละโมบของมนุษย์อย่างชารอฟต้องคนที่มีอำนาจเสมอกันเท่านั้นจึงจะคานอำนาจกันได้ หากจะต้องใช้ร่างกายเพื่อแลกกับเงิน ภัทรศรัณย์มอบให้เขาคงดีกว่า แต่มันติดตรงที่เขาเป็นคนรักของวาเลนไทน์นี่ล่ะที่น่าสนุกสำหรับภีมพริษฐ์ ซึ่งโจทก์อย่างเขาจะทรมานน้องชายต่างแม่ให้เจ็บปวดอย่างที่สุด อยากจะรู้เหมือนกันว่าเด็กคนนั้นจะหน้าด้านใช้ร่างกายเข้าแลกเพื่อแย่งของๆคนอื่นอย่างแม่หรือเปล่า ยิ่งเห็นภัทรศรัณย์พยายามหักห้ามใจ เขาก็ยิ่งอยากกระตุ้นให้ตบะแตก และรอดูคนทุรนทุรายยังแทบเท้าอย่างสะใจ
ภีมพริษฐ์อดทนรอจนคนรักผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปได้ด้วยดีพร้อมๆกับภัทรศรัณย์ที่ถูกชารอฟก่อกวนไม่เลิก วาเลนไทน์สลบเหมือดหลับข้ามวันกันเลยทีเดียว ขนาดว่าแบ่งเวลาทำงานแล้วแต่ก็แทบไม่รอด แต่ผลงานที่ออกมาทำเอาเขาทึ่งไม่น้อยจนนึกอยากเนรมิตสิ่งที่วาเลนไทน์ออกแบบให้เกิดขึ้นจริงๆ
“เรียนจบจนได้นะลูกกวาง โบกมือลากิ๊กเอ็มร้อยกับกระทิงแดงได้แล้วนะ”
เขาจูบหน้าผากคนหลับปุ๋ยในอ้อมกอด วันนี้เนื้อตัววาเลนไทน์หอมสะอาดหลังจากเน่าไม่อาบน้ำเป็นอาทิตย์ ภีมพริษฐ์มองหน้าคนหลับได้อย่างไม่รู้เบื่อ ใบหน้าขาวไม่ต้องแต่งหน้าลงเมคอัพอะไรก็ใสสะอาด ปากแดงอย่างสุขภาพดี เขากระชับกอดคนรักอย่างหวงแหน
คนหนึ่งแสนรัก และอีกคนแสนชิงชัง!
โช้งเช้ง เคร้ง!
แค่กๆ
“เชี่ยภัทร มึงจะเผาบ้านหรือวะ”
วาเลนไทน์รีบถลันตามกลุ่มควันโขมงเข้าไปข้างในห้องครัวทันทีพร้อมร้องถามเพื่อนรักที่กำลังก่ออัคคีภัยในห้องครัวบ้านตัวเอง หลังจากบ้านประสบปัญหาเรื่องหนี้สิน ครอบครัวภัทรศรัณย์จึงเลิกจ้างแม่บ้านไปโดยปริยาย ร่างโปร่งที่เคยเป็นคุณหนูสะดวกสบายหยิบจับอะไรไม่เป็นถึงคราวที่ต้องเข้าครัวเอง ผลจึงเป็นอย่างที่เห็น
วาเลนไทน์รีบตรงไปปิดแก๊ส มือบางยกกระทะก้นไหม้ข้างในมีไข่เละๆดำปี๋ขึ้นจากพื้นตรงไปแช่ในอ่างล้างจานก่อนจะดึงแขนเพื่อนไปผ่านน้ำตรงที่โดนน้ำมันกระเด็นใส่
“กูเบื่อไข่ต้มกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี่หว่า ว่าจะลองทำไข่เจียวดู แม่ง...”
ภัทรศรัณย์บ่นพึมพำในสภาพดูไม่จืดก่อนจะนิ่งไปเมื่อหันไปสบตากับคนที่เดินตามวาเลนไทน์มา
“มึงนี่น้า ทำไม่เป็นซื้อเอาก็ได้ รถเข็นหน้าปากซอยถูกๆ ไม่ต้องทำแล้ว กูซื้อของกินมาให้ มีของสดสำหรับทำกับข้าวด้วย แต่สภาพนี้จะรอดไหมวะ”
วาเลนไทน์มองสภาพหนุ่มสำอางดีกรีระดับเดือนคณะที่วันนี้ดูไม่จืด วาเลนไทน์เกิดในครอบครัวฐานะปานกลาง เรื่องช่วยเหลือรับผิดชอบตัวเองถูกฝึกจนเป็นนิสัยมาตั้งแต่เด็ก เห็นทีว่าวาเลนไทน์คงต้องถ่ายทอดพฤติกรรมนี้ให้เพื่อนบ้างแล้ว
“เออ แล้วนี่พ่อมึงอยู่บ้านไหมวะ งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้าง”
“อยู่ข้างบน กำลังหาสมัครงานใหม่อยู่ บริษัทถูกเทคโอเวอร์ไปแล้ว พ่อกูเลยลอยเคว้ง กูเองจบแล้วก็ต้องไปทำงานใช้หนี้เขา”
ภัทรศรัณย์ก้มหน้าเม้มปาก เขาไม่อยากให้ใครอีกคนเห็นสภาพตกต่ำของตัวเองสักนิด
Tru Tru Tru
วาเลนไทน์ควักโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นดู คิ้วเลิกขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นเบอร์มารดาโทรมาผิดจากเวลาปกติ ชะรอยสังหรณ์ใจแปลกๆ
“ฮัลโล...” วาเลนไทน์พูดไม่ทันจบเสียงมารดาก็แทรกขึ้นมาทันที
“วาเลนไทน์สารภาพความจริงกับแม่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ! ริสาโทรมาฟ้องว่าลูกมีสามีเป็นตัวเป็นตนแถมหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่กับผู้ชาย ไอ้ที่ซึมกะทือคราวนั้นคืออกหักจากผู้ชายใช่ไหม แล้วนี่รูปสามีของแกที่ริสาส่งมาให้ดู โอย แม่จะเป็นลม”
ฝ่ายมารดาพูดเร็วปรื๋อแต่เนื้อหาไม่มีตกหล่น วาเลนไทน์กลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อความลับปิดไม่อยู่ พี่สาวป้ามหาภัยเล่นเขาให้แล้ว หลังจากที่ไอริสาช็อกไปเมื่อรู้ว่าภีมพริษฐ์เป็นแฟนเขา ที่เห็นพี่สาวเงียบๆคือโทรแล่นไปแจ้งข่าวทางบ้านกันเรียบร้อย
งานเข้าเต็มๆ
“มะ แม่ใจเย็นๆ ระหว่างนี้หายาหอมยาลมมาดมแล้วฟังไทน์อธิบายก่อนนะ”
วาเลนไทน์ลดโทรศัพท์ลงทำสัญญาณมือว่าจะออกไปคุยข้างนอก ก่อนจะรีบผลุนผลันออกไป ภีมพริษฐ์มองแผ่นหลังบางเดินลิ่วๆออกไปจากห้องก่อนจะหันมาหาคนที่ยืนอยู่
“เกลืออยู่ตรงไหน”
ภีมพริษฐ์เอ่ยถามเสียงเรียบขณะสายตามองร่องรอยถูกน้ำมันกระเด็น
“อยู่ตรงนั้นครับ”
ภัทรศรัณย์ทำท่าจะเดินไปหยิบเกลือที่ตู้ติดผนังให้ หากร่างหนากลับขยับเข้ามายืนซ้อนข้างหลังพร้อมยื่นมือหยิบกระปุกเกลือซ้อนกับมือขาว ภัทรศรัณย์ใจเต้นแรงกับสัมผัสที่ได้รับ กลิ่นน้ำหอมแบรนด์หรูปนกับกลิ่นไอบุรุษเพศชวนหลงใหลทำให้ร่างโปร่งแทบกลั้นหายใจระงับอาการหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำของตัวเอง ลมหายใจอุ่นจัดที่รินรดบนใบหูเหมือนเชื้อเพลิงที่ปลุกให้ร่างกายตื่นตัวฉับพลัน ภัทรศรัณย์หลับตาปี๋รอให้เขาผละออก
ภีมพริษฐ์ฉกเกลือจากมือขาวก่อนเปิดกระปุกออก ภัทรศรัณย์สูดลมหายใจหันกลับมาก้มหน้าเม้มปากแน่นอย่างประหม่า มือร้อนโปะเกลือลงบนแขนขาวตรงที่โดนน้ำมันและวางมือทาบกำไว้หลวมๆอย่างนั้นพร้อมเอ่ย
“โปะเกลือไว้จะได้ไม่พอง” เขาบอกก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำเอาภัทรศรัณย์แทบหยุดหายใจ
“ฉันจำได้แล้วนะ...คืนนั้น...” ภัทรศรัณย์เงยหน้าควับทันทีที่เขาพูดจบ
“คุณ...จำได้...”
ภัทรศรัณย์สบตาสายตาคมด้วยความตกใจ ความรู้สึกมากมายประเดประดังเข้ามาจนดวงตาคู่สวยสั่นระริก ก่อนหน้าพยายามนักหนาให้เขาจำกันได้บ้าง แต่พอเขาจำได้จริงๆ กลับเป็นตอนที่สายเกินไป ไม่สิ มันสายเกินไปตั้งนานแล้วต่างหาก
“ไม่คิดว่านายจะเป็นเพื่อนกับวาเลนไทน์” เขาสบตากับคนตรงหน้า
“ผมเองก็ไม่คิดว่าคุณจะเป็นแฟนของเพื่อนรักของผมเหมือนกัน” ภัทรศรัณย์หลุบเปลือกตาลงด้วยความกล้ำกลืน
“ยังทำแบบนั้นอยู่อีกไหม” เขาโน้มลงกระซิบใกล้ๆ
“คุณจะรู้ไปทำไมหรือครับ” ภัทรศรัณย์เบือนหน้าหนีด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกมองเหมือนไร้ค่า
“เป็นห่วงไม่ได้หรือ” เขามองใบหน้าขาวที่หันขวับมาแทบจะทันทีที่ได้ยิน ดวงตาคู่สวยสั่นระริกด้วยความสับสน
“คุณ...คุณมีแฟนแล้วนะครับ พูดแบบนี้กับคนอื่นได้ยังไง แล้วอีกอย่างผมไม่ได้ขายตัวนะ คืนนั้นเพราะเป็นคุณหรอกผมถึงยอมขึ้นรถไปด้วย”
“พูดเหมือนนายเคยรู้จักฉันมาก่อน”
“ผมไม่รู้จักคุณหรอก ถ้ารู้ผมคงตามหาคุณเจอตั้งนานแล้ว แต่ถึงได้เจอกันอีก...ผมก็ไม่มีสิทธิ์”
ภัทรศรัณย์ส่ายหน้าน้อยๆอย่างรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ น้ำเสียงตัดพ้อลึกๆ ภีมพริษฐ์ยื่นมือหนาเข้ากุมมือขาวนุ่ม ภัทรศรัณย์ตาโตเงยหน้าขึ้นสบสายตาคมที่จ้องมองกันของคนตรงหน้า
“น่ารักนะ ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งอยากกอด อยากจูบ...อยากดูแล ถ้าไม่ติดว่าเจอวาเลนไทน์ก่อน ฉันคงขอนายเป็นแฟน ไม่น่าเป็นเพื่อนกับวาเลนไทน์เลย”
“คะ คุณ...พูดเหมือนคุณชอบผม”
เสียงนุ่มสั่นไหว หัวใจเต้นเร่าอย่างรุนแรงกับสายตาคมกล้าที่ทอดมองอย่างไม่หลบสายตา เสียงทุ้มนุ่มนวลราวร่ายมนต์
“หลังอาบน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำคืนนั้นฉันก็คิดได้ แต่นายก็หายไปแล้ว ไม่รู้จะไปตามหาได้ที่ไหน พอมาเจอกันอีกก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว”
เสียงนั้นเศร้าสลดเจือความอาดูรเต็มปรี่ ภัทรศรัณย์ใจสั่นเสมือนหนึ่งเอื้อมมือยื่นไปหาดอกไม้งามทว่าต้องแลกกับการถูกหนามแหลมทิ่มตำ
“คุณกำลังทำให้ผมถลำลึกกว่าเก่า มันจะทำให้ผมตัดใจจากคุณไม่ได้นะครับ ได้โปรด อย่าทรมานผมด้วยการบอกว่าคุณเองก็รู้สึก”
ภัทรศรัณย์พยายามผลักร่างหนาออกห่างด้วยเรี่ยวแรงน้อยนิด หากแต่มืออุ่นหนาที่กุมมือเขาไว้กลับไม่ยอมปล่อยออกให้
“ฉันแค่อยากให้ภัทรรู้ ฉันหวงทุกคนที่เข้าใกล้ โดยเฉพาะไอ้บ้านั่น ฉันเคยขับรถตามมาเห็นภัทรอยู่กับมัน ถูกรังแกใช่ไหม...แมวน้อย ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว” เขาเอ่ยอย่างมาดหมาย
“อย่านะครับ เขาเป็นมาเฟีย คนโหดเหี้ยมแบบนั้นอาจทำอันตรายคุณได้”
ภัทรศรัณย์ละล่ำละลักห้ามด้วยห่วงเขาจะเป็นอันตราย
“ฉันเองก็มีเงิน มีอำนาจ ทำไมฉันจะต่อกรกับไอ้สถุลนั่นไม่ได้ แค่ช่วย “คนของฉัน” จากเงื้อมือมัน ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้ ฉันจะบอกความรู้สึกนี้กับภัทรทำไม”
“คุณภีม...คุณให้ความสำคัญกับผมขนาดนี้เชียวหรือครับ”
ภัทรศรัณย์ใจอ่อนยวบที่เขาคิดจะช่วยโดยไม่หวั่นเกรงอันตรายสักนิด
“บอกแล้วไง ถ้าไม่ติดที่มีวาเลนไทน์ ฉันขอภัทรแต่งงานด้วยแล้ว จากนั้นเราก็ไปฉลองฮันนีมูนเที่ยวรอบโลก ภัทรชอบแบบไหน ล่องเรือสำราญผ่านทีละประเทศหรือจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวของฉันไปเที่ยวทีละประเทศก็ได้ อยากได้อะไรฉันจะหามาให้ ฉันอยากปกป้องภัทร แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีกหรือ”
“คุณภีม...”
ภัทรศรัณย์ครางแผ่วเบาอย่างตื้นตัน หัวใจคลอนแคลนอุ่นวาบอย่างประหลาดหลังจากถูกชารอฟกดดันบีบคั้นมาตลอด เครียดทั้งโปรเจ็คต์จบ เครียดทั้งอนาคตตัวเองที่จะต้องถูกคนๆนั้นย่ำยีไร้อิสรภาพเมื่อเรียนจบแล้ว แต่แค่คำพูดไม่กี่ประโยคของคนที่รักหมดใจแถมยังได้รู้ว่าเขาเองก็รู้สึกต่อกัน หัวใจที่เคยโดดเดี่ยวอ้างว้างก็คลายความเหน็บหนาวลงราวกับได้รับอ้อมกอดแสนอบอุ่นให้พักพิงจากความเหนื่อยล้าจากการที่ต้องต่อสู้กับปีศาจอย่างชารอฟอย่างแสนสาหัส
ร่างโปร่งกำลังเคลิ้มกับเสน่หาคำลวงจนลืมความผิดชอบชั่วดีหมดสิ้น ดวงตาคู่สวยมองเห็นหนทางหลุดพ้นจากกรงเล็บมารอย่างชารอฟรำไร ทว่าเสียงๆหนึ่งก็ชะงักทุกอย่างลง
“ภัทรเผาครัวไปยังลูก ทำไมพ่อได้กลิ่นเหมือนมีอะไรไหม้”
ผู้มาใหม่ส่งเสียงถามลูกชาย สายตาผู้มากวัยกว่าสะดุดกับร่างสูงใหญ่ที่กำลังหันหลังให้ ภีมพริษฐ์ชะงักไปกับน้ำเสียงนั้น เปิดโอกาสให้ภัทรศรัณย์เบี่ยงตัวออกมาหาผู้เป็นบิดา
“เกือบแย่ไปครับพ่อ ยังดีที่คุณภีมเอาเกลือประคบรอยถูกน้ำมันกระเด็นให้ ไม่งั้นพองแย่”
ภัทรยิ้มแห้งๆโชว์ร่องรอยความไม่ได้เรื่องของตัวเองให้บิดาดู
“คุณภีม?”
ชื่อนี้ทำให้ภคพงษ์สะดุดหูไม่น้อย แวบหนึ่งเขาคิดถึงลูกชายที่เขาตั้งชื่อให้อย่างภาคภูมิใจก่อนจะกลายเป็นความละอายในเวลาต่อมา มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนี้ สายตาสงสัยเบนไปยังร่างสูงใหญ่ที่ยืนหันหลังให้ก่อนที่เจ้าของร่างนั้นจะหันหน้ามาให้เห็น
!!!!
ภคพงษ์ชะงักค้างไปทันทีที่เจ้าของร่างสูงใหญ่หันมาให้เห็นใบหน้าชัดๆ สายตาสองคู่ต่างมองสบตากันและกันด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง
ภีมพริษฐ์มองผู้ให้กำเนิดด้วยสายตาเย็นชาว่างเปล่าราวอากาศธาตุ ในขณะที่ภคพงษ์ตกตะลึงงันจนทำอะไรไม่ถูกด้วยความคาดไม่ถึง หัวใจเต้นรัวถี่กระชั้นจนอึดอัด
“นี่คุณภีมพริษฐ์ครับพ่อ คุณภีมมากับไทน์น่ะครับ”
ภัทรศรัณย์แนะนำชื่อเต็มของภีมพริษฐ์ให้บิดาได้รับรู้ นั่นยิ่งตอกความจริงบางอย่างย้ำลงกระแทกหน้าภคพงษ์อย่างจังจนชาดิกพูดไม่ออก ในโลกนี้จะมีสักกี่คนที่ชื่อภีมพริษฐ์ และจะมีสักกี่คนที่ชื่อภีมพริษฐ์แล้วเป็นลูกครึ่งถอดแบบแม่และตัวเขามาแบบนี้ ภคพงษ์มือสั่นเย็นเฉียบอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้เผชิญหน้ากันอย่างไม่คาดหมาย
“ภีมพริษฐ์ เคลฟเวอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก”
ภีมพริษฐ์เอ่ยเสียงเรียบขณะยื่นมือออกมาทักทายตามมารยาทสากล ภคพงษ์หลุบสายตามองมือหนาใหญ่ของลูกชายที่บัดนี้เติบโตจนมือน้อยๆที่เคยจับจูงกับเขาในวันนั้นหนากว่ามือของเขาในวันนี้เสียอีก อุ้งมือใหญ่บอกความแข็งแกร่งแบบผู้นำที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาโชกโชนจนผงาดขึ้นสู่ความสำเร็จสูงสุด ต่างจากเขาที่จนตรอกไร้สิ้นซึ่งศักดิ์ศรีที่เคยมีเหมือนหนูสกปรกที่ซ่อนตัวตามท่อน้ำครำคอยคุ้ยหาเศษขยะโสมม แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
มือสั่นๆยื่นออกไปสัมผัสกับมือที่ยื่นมารอตรงหน้า ครั้งนั้นลูกชายเคยยื่นมือร้องเรียกหาเพื่อให้เขาปกป้องแต่มาคราวนี้กลับเป็นเขาที่ไม่คู่ควรแม้แต่จะจับมือกับลูกชาย มืออุ่นจัดที่สัมผัสได้ยิ่งทำให้เขารู้สึกตัวว่าเล็กจ้อย สายตาที่จ้องมองมาเย็นเยียบเด็ดขาดอย่างราชสีห์แสนองอาจบนที่สูงเหลือบมองลูกหนูตัวจ้อยสกปรกด้วยสายตาหยามเหยียด ต่อให้เป็นราชานักล่าผู้คร่าชีวิตสัตว์มีเลือดมีเนื้อเป็นอาหารแต่เจ้าป่าผู้เกรียงไกรก็ไม่คิดแตะหนูสกปรกให้หลู่เกียรติ
“ยะ ยินดีที่...ได้รู้จัก...ครับ”
ภคพงษ์แค่นเสียงลำบากยากเย็น ลำคอเหนียวฝืดคล้ายราดกาว เมื่อนึกทบทวนชื่อและนามสกุลที่ภีมพริษฐ์บอกเมื่อครู่จึงได้รู้ว่า ลูกชายตัดขาดจากเขาโดยสิ้นเชิง สิ้นเยื่อขาดใยเมื่อลูกชายเปลี่ยนไปใช้นามสกุลมารดา บ่งบอกว่าไม่ต้องการมักจี่กับคนเช่นเขา
มันก็สาสมกันแล้ว!
สาสมกันอย่างที่สุดกับสิ่งเลวบัดซบที่เขาได้ทำลงไป ไม่ว่าจะด้วยความลุ่มหลง มัวเมาจนเห็นผิดเป็นชอบหรืออะไร กว่าจะรู้ตัวว่าสาย กงจักรก็บากคอแทบขาดให้แจ้งประจักษ์แก่ใจว่าคว้าเอากรวดหลอกตาปล่อยเพชรเม็ดงามจมหายไป ทำตัวเองทั้งนั้น ภัทรศรัณย์จึงเป็นเหมือนการชดเชยความผิดบาปที่ปล่อยทิ้งลูกน้อยทั้งสองด้วยการเลี้ยงดูลูกชายคนนี้อย่างดีที่สุดจนกลายเป็นทำอะไรเองไม่เป็นอย่างที่เห็น
“ภัทรว่าเราออกไปข้างนอกกันดีกว่านะครับ ครัวเละๆแบบนี้ไม่เหมาะที่จะต้อนรับแขกเสียเท่าไหร่”
เสียงของภัทรศรัณย์ดึงความสับสนวุ่นวายในใจภคพงษ์มาสู่ปัจจุบัน เขารีบปล่อยมือภีมพริษฐ์ราวต้องของร้อน ไม่สิ สถานะนี้ต้องเป็นคุณภีมพริษฐ์ต่างหาก ไหล่ลู่ไร้เกียรติมองอีกฝ่ายได้ไม่เต็มตาก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปก่อน ความรู้สึกหิวถูกแทนที่ด้วยความตื้อ
“พ่อทานข้าวด้วยกันนะครับ คุณภีม เอ่อ...กับไทน์ซื้อของกินมาฝากเราเพียบเลย”
ภัทรศรัณย์แสร้งทำร่าเริงหอบหิ้วถุงของกินมากมายที่เพื่อนรักมีน้ำใจซื้อหามาฝากออกไปข้างนอกพร้อมจานชามด้วยความรู้สึกปวดหน่วงในใจ ร่างโปร่งมองเพื่อนรักที่กำลังคุยโทรศัพท์หน้ายุ่ง วาเลนไทน์รู้ว่าช่วงนี้เขาและพ่อขัดสน ที่วางไว้ให้บนโต๊ะข้างนอกมีทั้งของสดของแห้งเก็บตุนไว้ได้เป็นเดือน เห็นแบบนี้แล้วภัทรศรัณย์แทบอยากร้องไห้ให้กับความเลวของตัวเอง กับวูบหนึ่ง...ที่คิดอยากจะครอบครองคนรักของเพื่อน
“นรกในใจ” มันเป็นแบบนี้นี่เอง
บนโต๊ะในสวนเงียบกริบเมื่อภคพงษ์เดินไปหยิบยาทาให้ลูกชาย ภัทรศรัณย์เอาแต่ก้มหน้าแกะถุงอาหารเทใส่จานไม่มองหน้าใคร มือบางชนกับมือใหญ่ที่ยื่นมาหยิบอาหารถุงเดียวกัน ภัทรศรัณย์เงยหน้ามองเขาโดยมีวาเลนไทน์เป็นฉากหลังก่อนจะรีบผละออกทันทีที่วาเลนไทน์เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงพร้อมเดินเข้ามาหา ใบหน้าขาวเบือนหลบสายตาทั้งจากเขาและเพื่อนรักด้วยความละอาย
“ปวดแผลหรือภัทร หน้าตาดูไม่ดีเลย”
วาเลนไทน์ปรี่เข้ามาหา ภัทรศรัณย์เงยหน้ามองผ่านเขามาทางเพื่อนรักก่อนส่ายหน้าบอกว่าไม่เห็นไร
“พ่อกำลังไปหยิบยาทาให้ ไม่เป็นไรหรอกมึง ตัดโมโดนคัตเตอร์บาด เจ็บกว่านี้เยอะ”
ภัทรศรัณย์ยิ้มน้อยๆ วาเลนไทน์ฉกกระเป๋าสตางค์เพื่อนรักจากกระเป๋าหลังเปิดออกก่อนจะหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ตัวเองทำท่ายัดใส่ลงไปให้แต่ถูกมือของภัทรศรัณย์คว้าเอาไว้เสียก่อน
“พอเถอะไทน์ อย่าดีกับกูมากกว่านี้เลย ให้กูได้ล้มบ้างเถอะเผื่อความเจ็บจะทำให้กูเข้มแข็งได้อย่างมึงบ้าง ฮึก!”...อย่าให้กูรู้สึกว่าตัวเองเลวจนไม่คู่ควรกับเพื่อนดีๆอย่างมึงเลย
“ภัทร!”
วาเลนไทน์โผกอดเพื่อนรักพร้อมลูบหลังปลอบประโลม ภัทรศรัณย์สะอื้นฮักใช้ดวงตาพร่าหยาดน้ำมองร่างสูงใหญ่ด้วยความทรมาน ระหว่างเขากับภีมพริษฐ์ไม่มีทางเป็นไปได้เลย ทางขนานที่มีวาเลนไทน์เป็นเกาะกลางคั่นเอาไว้ตลอดด้วยคำว่าเพื่อน
ฮึก...
“ใจเย็นๆนะ” วาเลนไทน์ปลอบเพื่อนรักก่อนจะหันมาทางคนรัก
“คุณภีมช่วยหน่อยไม่ได้หรือครับ”
“อย่า ไม่เป็นไร นี่เป็นปัญหาของครอบครัวผม พวกเราต้องแก้กันเอง” ภัทรศรัณย์เช็ดน้ำหูน้ำตาก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อเห็นบิดาใกล้เข้ามา
“ภัทรเป็นไรลูก”
“พริกกระเด็นใส่น่ะครับ แกะถุงรุนแรงไปหน่อย”
ภัทรศรัณย์แจกยิ้มให้บิดาและเพื่อน ทั้งหมดพร้อมหน้าบนโต๊ะอาหารด้วยความรู้สึกหลากหลายในใจของแต่ละคนที่ซ่อนงำเอาไว้
“คุณภคพงษ์ลองทานนี่นะครับ พ่อของผมชอบมาก เมนูโปรดที่อ้อนให้แม่ทำให้ทานบ่อยๆเมื่อก่อน”
ภีมพริษฐ์ตักอาหารวางลงในจานของภคพงษ์ ผู้เป็นบิดารู้สึกตื้อขึ้นมาดื้อๆเสียอย่างนั้นเมื่อได้ยิน ภคพงษ์มองอาหารในจานก่อนจะเงยหน้าสบตากันพร้อมเอ่ยแผ่วเบา เจ็บแปลบดั่งถูกหนามยอก
“ขอบคุณ...”
ฟอด
“อื้อ คุณภีม ยังเช็ดผมไม่แห้งเลยนะครับ”
วาเลนไทน์ประท้วงเล็กๆเหนือร่างหนา กำลังยืนเช็ดผมอยู่ดีๆ คนเจ้าเล่ห์ก็ฉกหอมแก้มฟอดใหญ่พร้อมรั้งร่างโปร่งล้มลงบนเตียงด้วยกัน ภีมพริษฐ์ยื่นจมูกโด่งชนจมูกปลายหยดน้ำหยอกเย้า
“รอไม่ไหวแล้ว อดทนรอกวางน้อยทำทีสิสจนภีมน้อยหงอยเหงาแล้ว ขอหอมตอนแก้มเหม็นน้ำไม่อาบก็ยังไม่ยอม ตัวแค่นี้ใจร้ายชะมัด”
คนตัวใหญ่ทำเสียงกระเง้ากระงอดออกอาการให้เมียง้อ วาเลนไทน์ส่ายหน้าก่อนจะแตะริมฝีปากที่จมูกโด่งอย่างเอาใจ
“มีแฟนเรียนสถาปัตย์นี่นา งานเยอะจนยุ่งไม่มีเวลาให้แบบนี้แหละ เพื่อนผมถูกแฟนทิ้งหันมากอดขวดกระทิงแดงหลายคนแล้ว บางคนก็บ่นแฟนแอบมีกิ๊กบ้างล่ะ” วาเลนไทน์ย่นจมูกใส่
“เอ๊ะ!ระหว่างนั้นแอบไปมีใครหรือเปล่าเนี่ย”
จู่ๆวาเลนไทน์ก็แกล้งหยอกด้วยการโพล่งขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย วัวสันหลังหวะใจหายวาบก่อนจะรีบปรับสายตาฉับพลัน
“รักเมียหลงเมียขนาดนี้จะมีใครกันอีกล่ะครับ หืม”
“ฮั่นแน่ แบบนี้ใช่แน่ๆ”
วาเลนไทน์ยังเล่นไม่เลิก ภีมพริษฐ์แอบโล่งอกที่คนรักหยอกเล่น ก่อนจะแปลกใจที่วาเลนไทน์เลื่อนตัวลงเกยปลายคางบนอกหนาอย่างคนมีอะไรในใจ
“ผมขออะไรสักอย่างได้ไหม ถ้าวันไหนที่คุณภีมเบื่อผมแล้วอยากมีคนใหม่ บอกผมนะครับ ผมขอร้อง ผมสัญญาว่าจะไม่ยื้อให้คุณต้องลำบากใจเลย ขออย่างเดียว อย่าหลอกกันว่ายังรัก”
วาเลนไทน์เว้าวอนด้วยสายตา ช่วงที่ทำวิทยานิพนธ์มีเพื่อนของเขาคนหนึ่งทะเลาะกับแฟน ความรักพังลงแถมงานยังเกือบพังตามไปด้วย เห็นแบบนั้นแล้วอดคิดถึงเรื่องตัวเองไม่ได้ ภีมพริษฐ์ทั้งหล่อเหลาและร่ำรวยขนาดนั้นจนวาเลนไทน์เองก็ยังแทบไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายธรรมดาจะพบความรักกับผู้ชายเพียบพร้อมขนาดนี้ ยิ่งวันนี้เขาคุยกับมารดาที่เตือนสติมาหลายอย่างถึงความรักระหว่างผู้ชายกับผู้ชายและความเป็นไปได้
...
มันจะยาวนานแค่ไหนกันล่ะไทน์ หลังจากที่ความลุ่มหลงหมดลง หลังจากนั้นลูกพร้อมจะทำใจที่อาจจะต้องสูญเสียเขาไปทุกเมื่อได้ไหม แม่ไม่เถียงว่าคู่รักปกติเองก็มีอัตราการเลิกราเพิ่มขึ้นไม่น้อยทั้งที่มีลูกด้วยกันแล้วก็เถอะ แล้วผู้ชายกับผู้ชายล่ะไทน์ มันไม่มีอะไรเป็นตัวยึดคนทั้งคู่ไว้ได้เลยนอกจากคำว่ารัก ที่อาจจะหมดลงในสักวัน...ภีมพริษฐ์รู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจของคนรัก ตั้งแต่กลับมาถึงห้องเขาเองก็ยังไม่ได้ถามเรื่องที่วาเลนไทน์คุยโทรศัพท์กับมารดาเป็นนานสองนาน สิ่งที่วาเลนไทน์เอ่ยสะกิดใจเขาไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นความแค้นที่สะสมมาเนิ่นนานก็แล่นมาจุกอกยามนึกถึงใบหน้าของบิดาและน้องชายร่วมสายเลือด
ยังไม่พอหรอก เขาจะต้องได้เห็นสายตาเจ็บปวดของพวกนั้นมากกว่านั้น แค่นี้ยังเทียบไม่ได้กับสายตาของแม่ก่อนจะร่วงลงหน้าผาไปสักนิด
ไม่พอ!
แม่จะต้องได้รับการชดใช้ที่มากกว่านี้!
ทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้โดยที่วาเลนไทน์จะต้องไม่ระแคะระคาย เขามั่นใจว่าคุมอยู่
“แม่พูดอะไรให้ไม่สบายใจหรือไง” มือหนาลูบศีรษะเด็กน้อยที่กำลังต้องการที่พึ่งพิง
“นิดหน่อยครับ แม่อยากเจอคุณด้วย” วาเลนไทน์ถอนหายใจอย่างหนักใจ
“ก็ได้นี่ ฉันเตรียมของขวัญไว้ให้แม่ยายแล้ว เสร็จทันพอดี”
เขาขยับไปเปิดลิ้นชักหยิบกล่องกำมะหยี่ออกมา ชุดสร้อยคอทับทิมพม่าสีเลือดนกพิราบถูกเปิดออกอวดโฉม วาเลนไทน์ตกใจไม่คิดว่าเขาจะเตรียมการไว้ก่อนเหมือนกับว่าเขาคิดไว้อยู่แล้วว่าจะไปพบครอบครัวของวาเลนไทน์
“คุณภีม เท่าไหร่ครับนี่ มัน...”
“สำหรับผู้หญิงที่ให้กำเนิดคนรักแสนดีแก่ฉัน คำขอบคุณแค่นี้ไม่มากไปหรอก” เขาจูบปากบางขี้เกรงใจที่ดูจะตั้งท่าปฏิเสธของขวัญจากเขาตลอดด้วยความรักใคร่
“แต่ก่อนจะไปเจอแม่ยาย กวางน้อยต้องออกกำลังให้ภีมน้อยก่อนนะครับ”
สายตาเจ้าเล่ห์มาพร้อมมือหนาที่จับมือบางลงไปสะกิดส่วนหลับใหลเบื้องล่าง วาเลนไทน์หน้าแดงซ่าน ริมฝีปากเผยอน้อยๆอย่างรู้ในความต้องการ ต่างฝ่ายต่างร้างช่วงนั้นมาพอสมควรช่วงที่วาเลนไทน์ยุ่งและเขาเองก็เดินทาง ภีมพริษฐ์ไม่รอให้เสียเวลา ร่างใหญ่พลิกกายบางลงใต้ร่าง จากนั้นเสียงครวญครางหวานหูก็ดังเรื่อยต่อไปอีกหลายชั่วโมง
แกร็ก
เสียงเปิดประตูห้องน้ำตามด้วยเสียงงับประตูลงหลังจากร่างสูงใหญ่ผ่านเข้าไป ดวงตากวางคู่สวยของคนทำทีว่าหลับลืมขึ้นทันทีที่เขาลุกไปเข้าห้องน้ำ ความรู้สึกบางอย่างสลัดยังไงก็ไม่หลุด ทั้งที่บอกตัวเองว่าคิดมากไป แต่สายตาของเขาเพียงวูบเดียวตอนที่ถูกยิงคำถามจู่โจม
มัน...
อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก แต่มันทำให้วาเลนไทน์ใจหาย
“วู้ คิดมาก แม่นะแม่ ไซโคลจนระแวงไปหมด นอนๆ”