ตอนที่ 12 ลังเล
..มัจฉาเหลือบมองนาฬิกาแล้วต้องถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นและเดินเข้าห้องเจ้าของบ้านไป เขายืนทำใจอยู่นาน ก่อนจะเข้าไปปลุกคนหลับบนเตียง
“คุณสงครามครับ ตื่นได้แล้วครับ “
หมั่บ!
“อ๊ะ!!!!...”ร่างเล็กถลาเข้าไปในอ้อมแขนของคนที่ออกแรงดึง
ฟอด .............จมูกโด่งกดฝังลงที่แก้มนิ่มทันที ทั้งยังสูดดมเอากลิ่นหอมๆเข้าเต็มปอด
“คุณสงคราม!”
“ทำโทษที่ปล่อยให้ฉันนอนคนเดียว “
เขาตื่นนานแล้วและพบว่าพี่เลี้ยงลูกคนเก่งไม่ได้นอนกับเขา แอบลุกหนีเขาไปตอนไหนไม่รู้ ต้องทำโทษซะหน่อยหึหึ
จะว่าไป อาการแฮ้งค์เหล้าเช้านี้กลับไม่มี เขาที่เคยเมาจนตื่นสายประจำนั้น กลับไม่ใช่วันนี้ เพียงเพราะเขางัวเงียลุก
แล้วควานหาคนข้างๆไม่เจอ เลยทำเอาตื่นเต็มตานอนรอพี่เลี้ยงคนสวยมาปลุกเขาตอนเช้า
“ปล่อยผมเถอะครับ “
เสียงเศร้าๆของมัจฉาทำให้สงครามนึกฉงนในใจเขาไม่ชอบแบบนี้เลยเขาชอบมัจฉาที่ร่าเริง ยิ้มเก่ง ช่างอ้อน ตอนนี้เขาไม่อยากให้คนในอ้อมกอดทำเสียงเศร้าแบบนี้
“เป็นอะไร หืม “
ถามไปจมูกโด่งก็ยังคลอเคลียแก้มนุ่มไม่ห่าง ชัดเจนในความรู้สึก เขาชอบแบบนี้ชอบมัจฉา ความรู้สึกแบบนี้มันไม่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว
เขาไม่อยากจะคิดมาก แค่คิดว่าไม่มีมัจฉาเขาก็ไม่อยากจะคิดต่อให้ปวดหัว เอาเป็นว่าทุกๆความรู้สึกที่เกิดขึ้น
เป็นเพราะเขาตกหลุมรักพี่เลี้ยงลูกชายเข้าให้แล้ว พอยอมรับกับตัวเองได้ ดูเหมือนอะไรๆมันก็สดใสไปหมดเลย
“เปล่าครับปล่อยผมเถอะ จะไปปลุกคุณหนู”
“ไม่เอาไม่อยากปล่อยขอกอดก่อนได้ไหม นะ ๆยังไม่สว่างเลย ปลุกเฟีย หกโมงก็ได้นะครับ “
เสียงออดอ้อนของคนตัวโตทำให้มัจฉาต้องถอนหายใจ อ้อมแขนที่รัดแน่นจมูกโด่งที่ยังซุกซน ทำให้มัจฉาอดไม่ได้ที่จะตีเข้าที่ต้นขาแกร่งนั่นอย่างปรามๆ
“เจ็บนะคนใจร้าย”
“คุณสงครามซนทำไมล่ะ “
“อยากกอดปลานี่นา อยากอยู่อย่างนี้ นะครับ “เสี้ยงออดอ้อนจากคนตัวโตทำให้มัจฉาโอนอ่อนโดยง่ายดาย
“แต่ว่า..อื้อ...”
เสียงต่อมาถูกกลืนหายไปเมื่อสงครามกดจูบแนบริมฝีปากบางๆที่เผยอจะพูด สงครามดูดแรงๆที่ริมฝีปากก่อนจะแทรกลิ้นเข้าไปข้างใน
จังหวะที่มัจฉาเผลออ้าปาก เขาฉกเอาลิ้นเล็กๆนั่นไว้ก่อนจะดูดดึงอย่างเอาแต่ใจ
“อือ...”ร่างบางหมดเรี่ยวแรงต่อต้านเมื่อคนชำนาญการรุกไล่ มือหนาลากวนไปมาที่เอาบางและสีข้าง
สงครามล้วงเข้าไปในเสื้อมือหนาสัมผัสกับเนื้อเนียนลื่นมือ สงครามพลิกเอาร่างบางที่ก่ายเกยเขาอยู่ให้ลงข้างล่าง
เขาถอนริมฝีปากออกมาให้อีกคนได้หายใจ จมูกโด่งซุกไซ้ตามซอกคอหอมกรุ่น ไล่ลงมาที่ไหปลาร้า
คนใต้ร่างได้แต่ใช้มือที่อ่อนแรงยันร่างหนาเอาไว้ทั้งเอ่ยห้ามเสียงแผ่ว
“คุณสงคราม อื้อ...อย่า “ บางอย่างที่ดุนดันอยู่หน้าขาของเขาทำให้มัจฉาตกใจ
“อ่าห์...ปลา.....” เสียงสั่นพร่าอย่างพยายามข่มอารมณ์ตัวเอง สงครามไม่อยากปล่อยร่างหอมๆนี่เลย ยิ่งได้กอดยิ่งอยากกอด มากขึ้น
ยิ่งได้จูบยิ่งอยากทำมากกว่าจูบ แต่ดูเหมือนคนตัวบางจะยังตื่นๆ จากที่เขาปล้นจูบจากมัจฉาทำให้เขารู้ว่า
เด็กคนนี้ยังอ่อนต่อโลกมากนัก เขายังไม่อยากเอาเปรียบ แต่ มันก็อดใจไม่ไหว จริงๆ
“ ปลา...โกรธเหรอ “สงครามถามเมื่อเห็นมัจฉางียบไป
“ปละ เปล่าครับ แค่..ไม่เข้าใจ”แวตาที่ยังสับสน แต่ก็มีเงาของเขาอยู่ในนั้น เขาส่งยิ้มอ่อนโยนให้คนในอ้อมแขน
“เคยบอกแล้วไงว่าจะจีบน่ะ ฮึ”
“ที่ทำนี่จีบหรือไง อย่างนี้เขาเรียกลวนลามครับ”
คนในอ้อมกอดเถียงขาดใจ เพราะถึงแม้ว่ามัจฉาจะไม่รู้ว่าจีบต้องทำยังไง แต่ที่คุณสงครามกำลังทำอยู่นี่ มันหลอกแต๊ะอั๋งและลวนลามเขาชัดๆ
สงครามยิ้มกว้างอย่างถูกใจกับคนช่างเถียง แค่มัจฉาบอกว่าไม่โกรธเขาก็คิดว่าอีกฝ่ายคงมีใจให้เขาอยู่เหมือนกันล่ะน่า
ค่อยเป็นค่อยไป เพราะเขายังไม่อยากทำให้มัจฉากลัวเขานี่นา แค่รู้ใจว่าตัวเองหลงรักผู้ชายเข้าให้แล้ว และยังเป็นพี่เลี้ยงลูกชายเขาอีก
มันก็ทำให้เขาตกใจได้พอควร แต่เมื่อรู้และยอมรับกับตัวเองได้ เขาก็ตั้งใจเดินหน้าจีบพี่เลี้ยงลูกชายเต็มที่ หึหึ
เขาไม่ปล่อยให้ปลาตัวนี้หลุดมือเขาแน่ๆ ไอ้ธรมันชอบบอกให้เขาหาแม่เลี้ยงให้มาเฟีย เห็นทีต้องหาโอกาสเหมาะๆคุยกับลูกชายซะแล้วสิ
“.. เดี๋ยวปลุกลูกก่อนแล้วค่อยคุยกันนะครับ วันนี้ราจะอยู่ด้วยกันทั้งวันนี่นะ “
“อื้อ..”
มัจฉาได้แต่ก้มหน้า ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวจะระเบิด อยู่ร่อมร่อ มันเขินอายไปหมดทุกอย่าง ที่เขายอมให้นายจ้างตัวโตจูบเอาๆแบบนี้
ยิ่งทำเขาเขินจนไม่กล้าสบตาคุณสงคราม มัจฉารีบลุกออกจากอ้อมแขนของสงครามทันทีที่เป็นอิสระ
ก่อนจะเดินไปที่ห้องของคุณหนูในใจก็ครุ่นคิด ไม่ต่างจากคนที่เขาพึ่งจะจากมา เขาควรจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์แบบนี้
มัจฉาเฝ้าครุ่นคิดหาคำตอบให้ตัวเขาเอง ยิ่งเขาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับคุณสงครามเท่าไหร่เขาก็รู้สึกผิดกับคุณหนูมากขึ้นเท่านั้น
เขาต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะห้ามใจตัวเองไม่ได้ ประเด็นสำคัญคือเขาจะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนกันล่ะ แค่คิดหน้าก็พานจะร้อนขึ้นมาอีกรอบ
.................................
“พ่อฮะ วันนี้เฟียอยากไป เที่ยว สวนสนุก อยากไปเล่นน้ำ พ่อจะพาไปใช่ไหมฮะ พี่ปลาบอก “
“ครับผม วันนี้พ่อว่าง ไปเล่นน้ำเหรอ อืมก็ดีนะ ที่ไหนดีล่ะ”ท้ายเสียงที่คุยกับลูกชายกลับหันมาถามคนเป็นพี่เลี้ยง
“ผมไม่รู้หรอกนะครับว่ามีที่ไหนบ้าง เลยให้น้องรอถามคุณสงครามอีกที คุณหนูอย่าเขี่ยผักทิ้งครับพี่ปลาเห็นนะ “
“บุ่ย...ไม่กินไมได้เหรอฮะ นะๆ พี่ปลาคนสวย “
“ชมแบบนี้ใครเขาจะดีใจกันครับคุณหนู ไม่กินไม่ได้ครับ กินผักเยอะๆ คุณหนูจะแข็งแรงไม่ป่วย เพราะถ้าป่วยจะไม่ได้ไปเล่นน้ำนะ “
“ก็ได้ๆ “เด็กชายไม่เถียงพี่เลี้ยงอีกยอมจำนนเมื่อเสียงพี่เลี้ยงเริ่มดุ มาเฟียเลยต้องตักผักเข้าปากอย่างเสียไม่ได้
สงครามมองภาพที่เกิดขึ้นด้วยความสุขใจ เขาชอบเวลาที่มัจฉาอยู่กับลูกชายเขา มันดูเป็นธรรมชาติ มันดูออกได้ว่ามัจฉารักลูกชายเขา
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เขาก็รู้สึกดีและอยากขอบคุณพี่ก้อย ที่พามัจฉามาให้เขา
“อืม...งั้นไปชะอำกันนะ ขับรถแป๊บเดียว “
“ไกลหรือเปล่าครับ “
“ไม่ไกลหรอก สวนน้ำที่นั่นน่าจะเหมาะกับเจ้าเฟียนะ ฉันเองก็ไม่ได้พาลูกไปเที่ยวไหนนานแล้ว “
“งั้นเดี๋ยวผมไปเตรียมแซนวิชนะครับ เอาไว้รองท้องตอนเดินทางเนอะ “
พูดกับเขาแต่หันไปเนอะกับลูกชาย รอยยิ้มที่เหมือนว่าเรื่องเมื่อคืนกับเมื่อเช้ามืด ไม่ได้มากวนใจพี่เลี้ยงคนเก่งเลยสักนิด
ทำให้สงครามเบาใจได้บ้างเห็นทีเขาต้องระวังตัวเองให้มากที่จะไม่ทำรุ่มร่ามกับมัจฉา
ดูท่าแล้ว พี่เลี้ยงคนเก่งคงกังวลกับลูกชายเขามากกว่า แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นสงครามคิดไว้แล้ว เขาจะไม่ปล่อยมัจฉาไปไหนแน่ๆ
ไม่ต้องให้ใครมาบอก แต่เขาเองนี่แหละรู้ดีที่สุดว่าเขารู้สึกอย่างไร แรกๆก็ตกใจเมื่อความรู้สึกแบบนี้มันเกิดกับผู้ชาย
เขาพยายามปฏิเสธความรู้สึกนั้นมาตลอด จนสุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ เมื่อรู้ว่า มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกแบบห่างหายเรื่องอย่างว่า
หรือความรู้สึกแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเผลอไผลอะไรทำนองนั้น แต่มันเป็นความรู้สึกจริงจังมากกว่าครั้งไหนๆ
ตอนนี้เขาไม่คิดอย่างอื่นให้รกสมองอีกแล้ว คิดอย่างเดียว มัจฉาจะคิดเหมือนเขาหรือเปล่า
มัจฉาจะยังอยู่ทำงานกับเขาไหมจะยังรักลูกชายเขาอยู่หรือเปล่าถ้ารู้ว่าคนเป็นพ่ออย่างเขามันคิดไม่ซื่อเอาซะแล้ว
“เที่ยวให้สนุกนะคะ”
ยายกิ่งยืนโบกมือให้คุณพ่อคุณลูก และพี่เลี้ยงที่กำลังจะไปเที่ยวสวนน้ำกัน น่าจะเป็นทริปแรกในรอบ ห้าปีเลย
นับตั้งแต่วันเกิดเรื่องคราวนั้น คุณหนูตัวน้อยก็ซึมกระทือ และไม่มีความร่าเริงสดใสให้เห็นอีกเลย แต่พอมีคุณปลาเข้ามา
คุณหนูของเธอก็เหมือนจะกลับมาเป็นคุณหนูน่ารักคนเดิม แล้วยิ่งคุณสงครามมีเวลาให้ด้วยแล้ว เธอก็ยิ่งดีใจ
กับภาพความสุขที่เธอเห็น ได้แต่ภาวนา อย่าให้มีอะไรเข้ามาทำลายบรรยากาศแบบนี้เลย
“เอ้า นี่ของปลานะ”สงครามยื่นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆให้กับมัจฉาเมื่อทุกคนขึ้นรถหมดแล้ว
“อะไรเหรอครับ”
“เปิดดูสิ “มัจฉานิ่วหน้าเมื่อคนยื่นของมาให้ไม่บอกว่ามันคืออะไร
“อะไรอ่ะ พ่อซื้อให้พี่ปลาแล้วของเฟียล่ะฮะ”
“ของผู้ใหญ่เขา ของลูกน่ะต้องโตกว่านี้ก่อนนะเดี๋ยวพ่อจะซื้อให้ เอ สัก 15 ขวบดีไหม “
สงครามว่าพลางแกล้งลูกชายที่ทำหน้างอนๆ เพราะตัวเองไม่ได้ของเหมือนพี่เลี้ยง
“อ่า...คือ อะไรครับเนี่ย คุณสงครามซื้อมาทำไม “
“ก็ปลาไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้นี่นา เวลาติดต่อก็ลำบาก พี่เลยซื้อมาให้ จะได้ติดต่อง่ายๆ”
“จะติดต่ออะไรกันครับ โทรศัพท์ที่บ้านก็มี ของอย่างนี้แพงสิ้นเปลือง”
มัจฉาแสร้งทำเป็นไม่สนใจที่คนตัวโตแทนตัวเองว่าพี่ แม้จะรู้สึกว่าหน้าร้อนๆแถวๆใบหูก็เถอะ มันเขิน แต่ ใครจะยอมรับกันล่ะ ขอบ่นหน่อยเถอะแก้เขินได้ดีด้วย
“อย่าบ่นเลยนะ เวลาที่มีเรื่องอะไรจะได้โทรหาพี่ง่ายๆไง ใช่ไหมลูก “เสียงอ่อนอ่อยกับคนหน้างอก่อนจะหันไปหาแนวร่วมกับลูกชาย
“ช่าย..เฟียก็จะได้โทรหาพ่อเวลาพ่อไม่กลับบ้าน ใช่ไหมฮะ “
“ใช่เลยลูกชาย แต่ให้พี่ปลาโทรเนอะๆ “
“ฮะๆ พี่ปลาต้องโทรหาพ่อบ่อยๆนะฮะพ่อจะได้กลับบ้านทุกวัน”
เสียงพ่อลูกประสานเสียงหัวเราะถูกอกถูกใจไม่สนคนกลางที่นั่งหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกอยู่ข้างคนขับ ก็..ดูคำพูดของสองพ่อลูกสิ เข้าใจไปทางไหนกันนั่น
สงครามยิ้มเต็มหน้าตลอดเส้นทางที่ขับรถไปหัวหิน เขาเชื่อว่าอีกไม่นานหรอก มัจฉาต้องใจอ่อนแน่ๆ
และคนที่จะทำให้มัจฉาใจอ่อนคือลูกชายเขาเอง หึหึ นี่เขาจะจีบพี่เลี้ยงลูกชายคงต้องเข้าทางลูกชายสินะ ไม่ใช่ปัญหาเลย
เพราะเขารู้ว่ามาเฟียรักมัจฉาแค่ไหน และการทำให้ลูกชายเขาเข้าใจไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลย
.................
สงครามในชุดกางเกงขาสั้นสีน้ำทะเล กับเสื้อยืด ตัวโคร่งสีเดียวกัน ใบหน้าหล่อเหลามีแว่นกันแดดอันโตสวมทับยิ่งส่งให้ใบหน้านั้นดูโดดเด่น
ชายหนุ่มนั่งอยู่ขอบสระ พร้อมกล้องถ่ายรูปที่ยกขึ้นถ่ายมัจฉากับมาเฟียที่กำลังเล่นน้ำอยู่เป็นระยะ
ลูกชายเขาดูจะยังมีพลังงานเหลือเฟือแม้ว่าจะเล่นเครื่องเล่นหลายอย่างแล้ว แต่เด็กชายก็ยังสนุกกับห่วงยางอันโตสีฟ้าสดใส
ที่มีพี่เลี้ยงคอยเกาะอยู่ข้างๆ เด็กชายอยู่ในชุดว่ายน้ำสำหรับเด็กสีน้ำเงินเข้มตัวเสื้อเป็นแบบแขนยาวเพราะมัจฉาเลือกให้
ไม่อยากให้คุณหนูผิวไหม้ ส่วน มัจฉาใส่กางเกงขาสั้นสีเขียวสดลายใบไม้ และเสื้อยืดสีขาว พอดีตัวที่สงครามขัดใจเป็นที่สุด
เพราะเวลามันเปียกน้ำมันยิ่งเน้นรูปร่างเน้นบางอย่างที่ชูชันทะลุเสื้อออกมา เขาเข้าใจว่ามัจฉาไม่ซีเรียสเพราะผู้ชายหลายคนถอดเสื้อเล่นน้ำด้วยซ้ำ
แต่สำหรับมัจฉาแล้ว มันกลับทำให้เขาหวงจนหน้ามืด แค่เพียงมีคนมองไปที่ร่างโปร่งบางที่ยิ้มกว้างจนตาปิดอยู่กับลูกชายเขา
เขาก็ยิ่งหงุดหงิด เพราะสายตาคนมองส่วนมากจะเป็นผู้ชายซะส่วนใหญ่แล้วมองไปที่จุดๆเดียวกันกับที่เขามองซะด้วย
และมีผู้ชายหลายคนที่ลงไปเล่นน้ำใกล้ๆกับมัจฉาและมาเฟีย เฮ้อ ยังไม่ทันไรเขาก็หวงจนไม่อยากจะให้มัจฉาออกจากบ้าน
คงมีแค่เขานี่ล่ะมั้งที่นั่งถ่ายรูปไปหงุดหงิดไปแบบนี้ เจ้าตัวคงไม่รู้สึกอะไร ยังคงเล่นน้ำสนุกสนานไปกับลูกชายเขา ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเขาสักนิดทั้งลูกทั้งพี่เลี้ยงลูกนั่นแหละ
“เป็นอะไรไปครับ ?“
มัจฉาอดที่จะถามไม่ได้เมื่อเห็นหน้าตึงๆของคุณสงคราม ตั้งแต่ออกมาจากสวนน้ำ ดูคุณพ่ออารมณ์ไม่ค่อยดีเอาซะเลย
ขนาดมานั่งอยู่ในร้านอาหารบรรยากาศริมทะเลสวยๆอาหารอร่อยๆแบบนี้คุณสงครามก็ยังทำหน้าบึ้งตึงอยู่ หรือจะเหนื่อยนะ
“พ่อไม่สบายเหรอฮะ “เด็กชายตัวน้อยเริ่มจะเห็นด้วยกับพี่เลี้ยง เมื่อดูคุณพ่อไ/ม่สนุก หรือว่าคุณพ่อ ต้องกลับไปทำงานอีกนะ
สงครามมองหน้าลูกและพี่เลี้ยงก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาจะทำบรรยากาศกร่อยไม่ได้
“พ่อไม่ได้เป็นอะไรครับ แค่ไม่มีคนสนใจ เล่นน้ำสนุกกันสองคนนี่”มัจฉาอยากจะหัวเราะเมื่อรู้สาเหตุของคนตัวโต
“ อะไรกันแค่นี้เอง อยากเล่นน้ำด้วยไม่เห็นต้องหน้างอเลยนี่ครับ ไม่ลงไปเล่นด้วยกันล่ะผมไม่ได้ห้ามสักหน่อย “
“ก็เสื้อปลาน่ะ ...มัน...”..ใครจะไปอยู่ใกล้ได้วะ ขนาดนั่งมองไกลๆยังใจสั่นขืนไปเล่นน้ำด้วยใกล้ๆมีหวังตะบะแตก กันพอดี
“...เสื้อผม? “มัจฉายังไม่เข้าใจว่าเสื้อเขามันเป็นอะไรทำไมคุณสงครามไม่ลงเล่นน้ำเพราะเสื้อของเขา
“ช่างเถอะ ๆกินข้าวกัน เฟียกินปลาหมึกย่างไหมลูก ตัวโตๆที่เฟียชอบเลยนะ”
สงครามรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อมัจฉาเริ่มสงสัยคำพูดที่เขาหลุดไป ใครจะไปบอกว่าคิดจับกดคนตัวบางนี่ตลอดเวลากันเล่า
“พ่อฮะ เฟียมีเรื่องจะบอก “
“ว่ามาลูกชาย “
“มีคนมาขอจีบพี่ปลาด้วยล่ะ “
“อะไรนะ !”
“พ่อเสียงดังอ่า “
“เอ่อ...ขอโทษครับลูก ..แต่บอกพ่อมาใครมาจีบพี่ปลา”
สงครามลดเสียงคุยเบาๆกับลูกชายแต่ในใจนี่ร้อนลนจนจะนั่งไม่ติด ไม่ใช่เขาคนเดียวสินะที่มองเห็นความน่ารักสดใสของมัจฉาจนอยากจีบมาเป็นแฟน
“..นี่ๆ กินข้าวกันครับ “มัจฉาเห็นสองพ่อลูกมัวแต่คุยกันไม่สนใจจะกินข้าว และไอ้เรื่องที่คุยนี่ มีแววว่าเขาจะโดนคนพ่อเคืองแน่ๆ
“ เฟียบอกมาลูกใครจีบพี่ปลา “
“ก็มีคุณอาคนนึงฮะ เข้าไปเล่นกับเฟียแล้วบอกว่าพี่ปลาน่ารัก ขอจีบได้ไหม ..แล้วจีบคืออะไรฮะ “
”เอ่อ...คือ เขาแค่มาคุยเฉยๆครับ แหะๆ”
“ไม่เฉยๆฮะ บอกว่าจะขอจีบพี่ปลาด้วยฮะเฟียได้ยิน..ถามพี่ปลาก็ไม่บอกเฟียขอจีบมั่งได้ไหมฮะ “
เอ่อ.คุณหนูครับดูหน้าคุณพ่อของคุณหนูด้วยครับพี่ปลาจะแย่เอานะ มัจฉาได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆเมื่อเห็นหน้าที่เครียดๆของสงคราม
เขาเปล่าทำอะไรนะ และไม่ได้ตอบอะไรผู้ชายคนนั้นด้วย มัจฉาเองก็เริ่มจะไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่มีผู้หญิงมาจีบเขาล่ะ
ตั้งแต่คุณสงครามแล้วก็พี่คนแปลกหน้าในสระนั่น เขาก็เป็นผู้ชายนะ
“ขอจีบคือขอเป็นแฟนน่ะลูก .....ต่อไปเวลามีคนมาจีบพี่ปลาเฟียอย่ายอมนะครับ”
“ทำไมฮะ ?”
“ก็ถ้ามีคนจีบพี่ปลาแล้วพี่ปลาไปเป็นแฟนคนอื่นพี่ปลาก็ไม่ได้อยู่กับเราสิ ต้องไปอยู่กับแฟน “
“อ๊า..อย่างงั้นไม่ได้ๆพี่ปลามีแฟนไม่ได้นะฮะ นะๆ”
“คุณหนูครับพี่ปลาไม่มีแฟนหรอกพี่ปลาจะอยู่กับคุณหนูนะ “มัจฉาส่งยิ้มอ่นโยนให้กับคุรหนูตัวน้อยด้วยความเอ็นดู
“งั้น..พี่ปลาเป็นแฟนเฟียได้ไหมฮะจะได้อยู่กับเฟียตลอดไปเลย “
“เฮ้ย!! ไม่ได้ๆ นี่แฟนพ่อนะ “
“คุณสงคราม!”
“...พ่ออ่า พี่ปลาน่ะแฟนเฟียฮะ ..พี่ปลานอนกับเฟียทุกคืนเลย ต้องเป็นแฟนเฟียสิฮะ” เด็กชายไม่ยอมแม้จะไม่เข้าใจคำว่าแฟนก็เถอะ
“ไมได้ๆ ต่อไปพี่ปลาต้องไปนอนกับพ่อนะ “
“ไม่ให้ฮะ ..พี่ปลา พ่อแกล้งเฟีย “
เด็กน้อยหันมาทำหน้าอ้อนๆใส่คนเป็นพี่ที่นั่งกุมขมับมองสองพ่อลูกที่เถียงกันราวกับเด็กสามขวบ คุณหนูเฟียเป็นเด็กเขาก็พอจะเข้าใจ
แต่คุณสงครามนี่สิ มัจฉาได้แต่นั่งกรอกตาไปมาอย่างไม่รู้จะห้ามปรามสองคนพ่อลูกที่เถียงกันอยู่บนโต๊ะอาหาร อย่างไรดี
“คุณสงครามครับ ทานข้าวครับ คุณหนู ไม่เถียงคุณพ่อแล้วครับ เลิกเล่นแล้วทานข้าวครับ ไม่งั้น ทั้งคู่ไปนอนด้วยกันเลย “
“เห็นไหมเพราะพ่อเลยพี่ปลางอนเลยอ่ะ พ่อง้อดิ “
“ง้อยังไงล่ะ “
“ก็....”เด็กชายทำหน้าครุ่นคิด เขาไม่เข้าใจว่าจะง้อยังไง เวลาเขางอน พ่อชอบกอดบ้างหอมแก้มบ้าง อืมๆพี่ปลาก็คงจะหายงอนเหมือน
“หอมแก้มไง “
“เฮ้ย!! คุณหนู.!!.”ปลาร้องเสียงหลงเมื่อคุณหนูบอกวิธีง้อให้คุณพ่อ
“ทำไมล่ะ เวลาเฟียงอนพ่อยังหอมแก้มเฟียเลย”
มัจฉาให้นึกเคืองคนเป็นพ่อที่ไม่ช่วยเขาอธิบายกับคุณหนูแถมยังทำหน้าชื่นตาบานยิ้มกริ่มราวกับถูกใจนักหนา
“พ่อว่าพี่ปลาไม่งอนหรอกเนอะ ใช่ไหม ...ถ้างอนพี่จะง้อล่ะนะ หึหึ “
สงครามเองก็อยากจะตามเกมลูกชายแต่เขาก็กลัวว่ามัจฉาจะโกรธไปกันใหญ่
“มะ..ไม่งอนๆ ครับไม่งอน “มัจฉารีบ ปฏิเสธแทบจะทันที ขืนยังงอนอยู่มีหวัง โดนคนฉวยโอกาสอีกแหงๆ
“ชาร้อนที่สั่งได้แล้วค่ะ.....?”
พนักงานเสิร์ฟหยุดชะงักมองหน้าลูกค้าที่นั่งอยู่ข้างๆเด็กชาย เธอรู้สึกคุ้นหน้า แต่นึกไม่ออก แต่พอเห็นดวงตาคู่นั้นเธอจำได้แทบจะทันทีที่ได้สบตากัน
“พี่กุ้ง!”
“ปลาเหรอ ?”
มัจฉาตกใจที่เห็นหน้าพนักงานเสิร์ฟชัดๆ มัจฉาจำใบหน้านั้นได้ชัดเจน ใบหน้าที่เขาไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต
“ปลา เป็นอะไร ?” สงครามยื่นมือไปแตะไหล่ของมัจฉาเมื่อเห็นพี่เลี้ยงลูกนั่งเงียบไปทั้งที่ยังจ้องหน้าพนักงานเสิร์ฟคนนั้น
“ดีใจจัง ไม่เจอปลาตั้งหลายปี ทำไมไม่กลับบ้านล่ะ “เสียงแจ้วๆนั่นยังพูดไม่หยุดแต่มัจฉาไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว
“.คุณคะฉันขอคุยกับน้องสักครู่ได้ไหมคะ “พนักงานเสิร์ฟคนนั้นหันมาขออนุญาตจากสงครามที่นั่งมองเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่เงียบๆ
“ปลารู้จักเหรอ”อดที่จะถามไม่ได้เพราะสีหน้าของมัจฉาดูไม่ดีเลยสักนิด
“อ่าครับ.....ดะได้ครับ คุณหนูเดี๋ยวพี่ปลากลับมานะครับ “
มัจฉาตั้งสติ แล้วลุกเดินตามพี่สาวออกมาจากโต๊ะ มาหยุดอยู่มุมสวนที่เป็นทางแยกไปห้องน้ำ
“ไงไอ้ตัวดี ...ไอ้เราก็นึกว่าหายหน้าไปไหน ดูท่าทางอยู่ดีกินดีนี่ ฉันเพิ่งรู้นะว่าแกเป็นตุ๊ด ทีตอนที่แม่ให้ทำไม่ทำ ทีตอนนี้ทำได้ไม่เห็นอาย มีผัวดีแล้วสิ เอาเงินมาแบ่งฉันใช้มั่งสิ “
“พี่กุ้งครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่พี่ว่าและ คุณคนนั้นเขาเป็นนายจ้างผม ผมรับจ้างเลี้ยงลูกให้เขา ผมไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นหรอก”
“อย่ามาโกหกนะปลา แกนี่มันเนรคุณ เลี้ยงเสียข้าวสุก จริงๆ “
“พี่จะเอาอะไรกับผมอีก “
“ชดใช้สิ่งที่แม่แกทำไว้กับครอบครัวฉันปลา แกต้องชดใช้”
“ไม่!”
“ต่อให้แกหนีไปไกลแค่ไหนฉันจะตามแกจนเจอปลาฉันจะจองเวรแกจนนาทีสุดท้ายในชีวิตฉันเลยอย่าคิดว่าแกจะมีความสุขได้จำเอาไว้“
หญิงสาวคว้าแขนของมัจฉาเอาไว้แล้วบีบแน่นเล็บยาวๆจิกลงไปบนผิวบางจนเลือดเริ่มซึม
“ผมไม่ใช่ไอ้ปลาเด็ก ห้าขวบคนนั้นแล้วพี่กุ้ง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้านหลังนั้นผมจะถือว่ามันผ่านไปแล้ว และผมได้ชดใช้ตลอดเวลา ห้าปีที่ผมอยู่ที่นั่น มันพอแล้วสำหรับผม พี่จะทำอะไรพี่ทำได้เลย แต่ผมบอกไว้ก่อนว่า ผมไม่มีอะไรติดค้างพวกพี่แล้ว ผมขอตัวนะ ผมมีงานต้องทำ”
มัจฉาบอกออกไปอย่างใจคิดพลางแกะมือของหญิงสาวที่เขาเคยเรียกว่าพี่สาว เมื่อครั้งยังเด็ก ตอนนี้ เขาโตแล้วเขาจะไม่กลัวคนพวกนี้อีกต่อไป เขาจะต้องเข้มแข็ง และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีก เขาจะไม่หนีอีกแล้ว
“ปลา ...”สงครามเห็นสีหน้าซีดๆของมัจฉาเขารู้ได้ทันทีว่าพี่เลี้ยงลูกชายของเขากำลังมีปัญหา
“ผมไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวกลับบ้านไปผมจะเล่าให้ฟังนะครับ ตอนนี้ กินข้าวกันเถอะนะ “
“พี่ปลาฮะกินไอติมไหม พี่ปลาชอบกินนี่นาเฟียก็ชอบ”
เด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมผู้ใหญ่สองคนเงียบเสียงลงไม่แกล้งเขาอีกเด็กน้อยคิดแค่ว่าพี่ปลาคงหิว
มัจฉาหันไปยิ้มให้คุณหนูพลางลูบผมนุ่มนิ้มนั่นเบาๆ ใจกำลังคิดถึงคำพูดของพี่สาว ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องคนนั้น
สงครามเองก็รู้สึกถึงความผิดปรกติ มัจฉาเงียบไป สีหน้าท่าทางที่เครียดจนเห็นได้ชัด เขาไม่ชอบเลยสักนิด สงสัยคงต้องคุยกันยาวๆ ซะแล้ว.....
TBC .......
พร้อมกันหรือยังค๊าาาาาา
เอ้าตั้งเตาต้มน้ำได้....5555555
ตัวละครเพิ่มนิดหน่อยแต่บทบาทไม่เยอะค่ะ ครอบครัวนี้คือตัวแปล ที่ทำให้มัจฉาต้องมาเจอคุณสงครามไม่พูดถึงไม่ได้เนอะ ส่วนใครคิดถึงน้องแจง เดี๋ยวก็เจอกันละ 5555
มาม่าไม่เยอะๆ จริงๆนะ 55555
วันนี้ฝนตกหนักทั้งวันเน็ตก็ติดๆดับๆ ลงไปสามรอบ แล้วแต่เน็ตมันไม่ไปไหนเลย คิดว่าลงรอบนี้ถ้าไม่ได้คงต้องพักไว้ก่อนลงใหม่อีกทีตอนเย็นๆนะ
รักคนอ่านรักคนเม้นท์ทุกคนเลยค่า ขอบคุณที่ยังรอด่านกันน๊า....