มาคุยก่อนเปิดเรื่องใหม่และแนะนำนิยายเรื่องใหม่ ของพันวาค่ะ หลังจากที่ซี่รี่ส์ **เพราะหัวใจไม่ไร้รัก ** จบลงไปสามเรื่องรวด
นักอ่านหลายคนถามถึงน้องไม้กับพี่โอ๊ตมาเยอะมาก พันวาขอติดไว้ก่อนนะคะ อยู่ในขั้นตอนการปั่น แหะๆ ไม่รู้อะไรเข้าสิงปั่นนิยายทีเดียวพร้อมกัน 4 เรื่อง ฮ่าๆๆๆๆ
ป่วยด้วย ทำงานด้วย แถมตอนนี้เป็นติ่งฝึกหัดด้วยชีวิตช่วงนี้เลยวุ่นวายน่าดู
เรื่องใหม่นี่ สบายๆค่ะ ไม่เน้นดราม่ามากนัก เพราะจะไปเน้นในเรื่องต่อไปเอาให้นำตาท่วมตายกันไปข้างเลยเนอะ 555ก็ว่าไปนั่น
จริงๆพันวาเป็นคนอารมณ์ดี แต่เขียนนิยายคอมเมดี้ไม่ได้ จะลากเข้าดราม่าตลอดๆ แต่ด้วยหัวใจไม่ค่อยแข็งแรงเลยดราม่ามากไม่ได้555
นิยายของพันวาเลยจะออกแนวหน่วงๆนิดหน่อยพอได้น้ำตาซึมเนอะ
ฝากติดตามเรื่องใหม่ของพันวาด้วยนะคะ อันนี้เป็นลิ้งค์นิยายของพันวาค่ะ หากใครยังไม่ได้อ่านก็ ลองแวะเข้าไปดูนะคะ
ฝากเรื่องที่จบไปแล้วของพันวาด้วยนะคะ
**ไร้ใจ**..จบแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51441.msg3286976#msg3286976)
**เชื่อใจ**..จบแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53192.msg3358798#msg3358798)
**ตามใจ**..จบแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55693.msg3473660#msg3473660)
ซ่อนใจไม่ให้รัก (ธรxรัน )On air (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63929.msg3741232#msg3741232)
**ตกหลุมหัวใจ** (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64918.msg3764219#msg3764219) On air
ใครจะตามทวงนิยายหรือไปบ่นเป็นเพื่อนพันวาได้ที่เพจนี้เลยค่า .....จิ้ม......**Phanwa** (https://www.facebook.com/Phanwa-135045410317276/)
****** แจ้งข่าวค่าาาา***
เปิดจอง** ความรักที่หายไป by Phanwa
ของแถมในเล่ม : ที่คั่น โปสการ์ด
จำนวน : 374 หน้า
ตอนพิเศษ 6 ตอน
ราคา 350 บาท ( ราคาปกติ 370 บาท)
*ของแถมรอบจอง : การ์ดใสและปฏิทินพก
........................
เปิดจองตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2561 – 17 มกราคม 2562
กำหนดส่งปลายเดือนมกราคม (จัดส่งตามลำดับการแจ้งชำระเงิน)
**รายละเอียดการรับหนังสือในงาน BL Market
- สั่งจองผ่านเว็บ
- เลือกช่องทางการจัดส่งเป็น “รับงาน BL Market ”
- ชำระและแจ้งโอนเงิน
- จดเลขที่ใบสั่งซื้อ (Order ID) ชื่อผู้สั่งซื้อ และแคปภาพอีเมลยืนยันการชำระเงิน เพื่อติดต่อรับหนังสือ ที่บูธ D6 - D7
สั่งซื้อได้ที่ : https://bit.ly/2Bk5YVi
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณมากๆที่เม้นท์ แม้จะเป็นเพียงข้อความสั้นๆ หรือการ์ตูนดุ๊กดิ๊ก ที่แสดงความรู้สึกของคนอ่าน พันวาก็ฟินได้นะ :o8: :o8: :o8:
ไปหาน้องปลากับพี่เดียวกันเลยค่ะ Let's go....... :oni1: :oni1:
สารบัญ
บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3617608#msg3617608)
ตอนที่ 1 มัจฉา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3618534#msg3618534)
ตอนที่2 เด็กชายมาเฟีย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3620263#msg3620263)
ตอนที่ 3 ของเล่น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3622755#msg3622755)
ตอนที่ 4 คุณสงคราม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3624751#msg3624751)
ตอนที่ 5 เจ็บตัว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3626663#msg3626663)
ตอนที่ 6 ไถ่โทษ (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3628108#msg3628108)
ตอนที่ 6 ไถ่โทษ (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3628772#msg3628772)
ตอนที่ 7 พี่เลี้ยง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3630406#msg3630406)
ตอนที่ 8 นาฬิกาปลุก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3632384#msg3632384)
ตอนที่ 9 เผลอ....เป็นห่วง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3634771#msg3634771)
ตอนที่ 10แขกที่ไม่ได้เชิญ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3637514#msg3637514)
ตอนที่ 11 เมา ?. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3641223#msg3641223)
ตอนที่ 12 ลังเล (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3644288#msg3644288)
ตอนที่ 13 เมื่อพายุพัดมา. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3646514#msg3646514)
ตอนที่ 14 เมื่อฝนกระหน่ำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3648429#msg3648429)
ตอนที่ 15 คลื่นใต้น้ำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3653469#msg3653469)
ตอนที่ 16 ตัวประกัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3655610#msg3655610)
ตอนที่ 17 ความรักที่หายไป (1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3657508#msg3657508)
ตอนที่ 18 ความรักที่หายไป (2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3664291#msg3664291)
ตอนที่ 19 ..ครอบครัวเดียวกัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3668865#msg3668865)
ตอนที่ 20 ...ไวน์...แดง... (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3674293#msg3674293)
ตอนที่ 21 ลงอ่าง..สร่างเมา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3677530#msg3677530)
ตอนที่ 22 แผลเก่า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3684086#msg3684086)
ตอนที่ 23 วันว่าง.. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3687636#msg3687636)
ตอนที่ 24 ลูกชาย. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3690685#msg3690685)
ตอนที่ 25 เมื่อรักกลับมา (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3695243#msg3695243)
ตอนพิเศษ ..จับ...หัวใจ 1 (ปราน+ปู) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59464.msg3700960#msg3700960)
....
ตอนที่ 6 ไถ่โทษ....(ครึ่งหลัง)
..............................................................................
(เดียวอยู่ไหนคะ)
“มีอะไรหรือเปล่าครับ “ สงครามเลี่ยงคำตอบของจันจิรา เป็นการถามกลับไปแทน
(วันนี้แจงมาหาเดียวที่บริษัท มาชวนเดียวไปทานมื้อกลางวัน เดียวไม่เขาอ๊อฟฟิศเหรอคะ )
“เปล่าครับวันนี้คงไปไม่ได้เพราะต้องไปรับเจ้าเฟียครับ”
(แต่เดียวคะให้พี่เลี้ยงไปรับสิคะ จ้างมาแล้วให้เขาทำหน้าที่เขาสิ เดียวมาทานมื้อกลางวันกับแจงได้ไหมคะ นะคะ )
ชายหนุ่มทำสีหน้าลำบากใจ แจง หรือเจนจิรา ผู้หญิงที่เข้าหาเขาอีกคน ที่จริงเขาไม่เคยตกลงคบกับใครอีกเลยนับตั้งแต่หย่ากับมายา
แต่กับแจงก็ถือว่าเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็ก และที่สำคัญเป็นลูกสาวของลุงทดเพื่อนสนิทของพ่อที่เป็นหนึ่งในคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขา
ตอนลำบาก มันเลยทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้มากนักทั้งๆที่เขาไม่ชอบใจเลยที่จันจิราเกาะติดเขาเกินไป
“วันนี้ไม่ได้หรอกนะแจง เอาเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะ “
(เดียวสัญญาแล้วนะ ห้ามเบี้ยวแจงด้วย)
“ครับ”
(งั้นตอนเย็นแจงไปหาที่บ้านได้ไหมคะ)
“อย่าเลยแจง ผมไม่สะดวก “
(ก็ได้ค่ะ งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะคะเดียว)
“ครับ”
เขากดวางสายพลางถอนหายใจ ดูเหมือนแจงจะรุกเขามากเกินไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าจันจิราคิดยังไงกับเขา
กันธรเคยบอกให้เขาหาแม่ใหม่ให้มาเฟีย เพื่อที่จะได้มีคนดูแลลูก และคอยกันท่าจันจิราออกจากเขาด้วย
กันธรไม่ชอบจันจิรา เพราะกันธรเคยบอกเขาว่าเจอจันจิราตอนที่ไปเรียนต่อที่ออสเตเรีย แต่ไม่บอกว่าทำไมกันธรถึงไม่ชอบจันจิรา
แต่เขากลับไม่มีความคิดแบบนั้นเพราะไม่ว่าจะกับใครเขาก็ไม่ต้องการ จันจิรายังคงเป็นเพื่อนหากจันจิราต้องการมากกว่าเพื่อนเขาคงให้ไม่ได้ เพราะหัวใจของเขามันปิดตายมานานแล้ว
“อ้าว..เสร็จแล้ว?”เมื่อกลับมาก็เห็นพี่เลี้ยงลูกชายนั่งถือถุงยารอเขาอยู่ที่เก้าอี้
“ครับ “
“หิวไหม “
“กลับไปทานที่บ้านก็ได้ครับ”
“แสดงว่าหิว ไปทานร้านแถวนี้ดีกว่าใกล้ๆนี่เอง อร่อยนะ “
ไม่รู้เพราะอะไรสงครามถึงอยากจะให้คนตัวผอมนี่กินข้าวบ้างอาจจะเป็นเพราะดูผอมเกินไปมั้ง เมื่อเทียบกับเขาแล้ว เหมือนอีกคนจะดูเล็กไปถนัดตา
“แต่ว่า...”
สงครามไม่ฟังเสียงค้าน เขาขับรถมุ่งหน้าไปร้านอาหารที่เขามากินกับกันธรและรันบ่อยๆเป็นร้านริมน้ำ ที่บรรยากาศดี และอาหารสดอร่อย
มัจฉาได้แต่นั่งเงียบๆเมื่อรู้ว่าค้านไปก็เท่านั้น ยกข้อมือดูเวลาอีกนานกว่าคุณหนูจะเลิกเรียน คงไม่เป็นไรหรอก
“สั่งสิ”
สงครามยื่นเมนูมาให้มัจฉารับมาเปิดดูก่อนจะตาโตกับราคาอาหารทำให้เขาไม่กล้าสั่งอะไรมากนัก
สงครามลอบสังเกตดูพี่เลี้ยงลูกชายที่มีสีหน้าลำบากใจเมื่อเห็นราคาอาหาร เขาแอบอมยิ้มนิดๆดูซิว่าพี่เลี้ยงคนเก่งจะทำยังไงต่อไป
มัจฉาสั่งแกงคั่วหอยขม มาแค่อย่างเดียว ทำให้สงครามแปลกใจ
“สั่งแค่นี้อิ่มหรือไง “
“อิ่มครับ ที่เหลือแล้วแต่คุณสงครามเลยครับ ผมกินอะไรก็ได้ “
สงครามส่ายหัวอย่างระอา คิดแล้วเชียวท่าทางแบบนี้ ขี้เกรงใจเกินเหตุ เขาเลยสั่งพวกเมนูปลาทอด ทั้งพวกต้มยำ ผัดผัก และแกงกะทิอีกหลายเมนูจนมัจฉาอดที่จะตกใจไม่ได้
“นี่คุณสั่งอะไรเยอะขนาดนั้นครับ จะกินหมดหรือไง”
“กินไม่หมดก็ห่อกลับบ้านด้วยสิ เอาไปฝากยายกิ่งกับมะตูมด้วยก็ได้ “
“แต่นี่มันเยอะไปนะครับ ทำไมไม่สั่งแต่พอกินล่ะ กินแบบนี้จนกันพอดี”
อดที่จะบ่นตามนิสัยไม่ได้ เขาเคยอยู่อย่างประหยัดมาทั้งชีวิตพอมาเจอคนที่จ่ายเกินพอดีมันก็อดที่จะบ่นไม่ได้
รู้อยู่หรอกว่าอาหารแค่ไม่กี่อย่างบนโต๊ะคุณสงครามจ่ายได้สบายมากแต่เขชาก็ไม่ชอบใจอยู่ดี
“เอาน่านานๆครั้ง ขี้บ่นจริงๆถือว่าเลี้ยงปลอบใจเธอไง อีกอย่างเพราะฉันผิดสัญญาเธอเลยต้องเจ็บตัวแบบนี้“
“ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
ยังคงเถียงเขาไม่ลดละ สงครามมองหน้าใสๆที่ติดจะงอของเจ้าตัวอย่างนึกขำ เหมือนมาเฟียเวลางอนเขาไมมีผิด
คนที่ทำท่าทางกลัวเขาเมื่อตอนเจอกันครั้งแรกนั่นหายไปไหนแล้วนะ มัจฉาในตอนนี้พูดเก่งขึ้น กล้าเถียงเขาด้วย สงครามคิดพลางยิ้มในหน้าอย่างคนอารมณ์ดี ไม่รู้เพราะอะไร
เป็นไปตามที่คาดกับข้าวหลายอย่างถูกบรรจุลงกล่องใส่กลับบ้าน มัจฉาบ่นพึมพำไปตามเรื่องเมื่อเห็นกับข้าวเหลือเยอะแยะอย่างที่คิด
สงครามยังส่ายหน้าระอากับคนขี้บ่น เขาไม่รู้ว่าไปถูกคออิท่าไหนกับลูกชายเขา ขี้บ่นออกปานนี้
สงครามคิดถึงแต่เปรียบเทียบลูกชาย แต่ตัวเขากลับลืมไปเลยด้วยซ้ำว่าเขาเองก็ไม่ชอบคนขี้บ่นจุกจิก เพราะดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะมองผ่านข้อนี้ของมัจฉาไปเลยด้วยซ้ำ
กลับถึงบ้านก็บ่ายแล้ว สงครามให้มะตูมมาถือเอากับข้าวเข้าบ้านส่วนเขาก็ช่วยประคองพี่เลี้ยง เข้าบ้านแม้จะถูกปฏิเสธแต่เขาก็ไม่คิดจะฟัง ไม่อุ้มเข้าบ้านก็ดีเท่าไหร่แล้ว เพราะรูปร่างอย่างนี้เขาอุ้มได้สบายมาก
“เอาล่ะ มานั่งคุยกันหน่อยสิ เราไม่ได้คุยกันเลยนี่นะ จากวันนั้นน่ะ “สงครามเอ่ยขึ้นหลังจากที่เข้ามานั่งใน ห้องรับรองแขกของบ้าน กันเรียบร้อยแล้ว
“ครับ”
“จะว่าไปฉันยังไม่รู้จักเธอเท่าไหร่เลย ลองเล่าเรื่องของเธอคร่าวๆให้ฉันฟังทีสิ”
“เรื่องอะไรล่ะครับ ผมไม่มีเรื่องที่ต้องเล่าเลย”มัจฉาทำหน้างงๆ เมื่อคิดว่าต้องเล่าเรื่องตัวเองให้ใครฟัง เขาเองก็นึกไม่ออกว่าจะเล่าแบบไหนยังไง
“ก็อย่างเช่น บ้านอยู่ไหน ลูกเต้าเหล่าใคร เรียนอะไรมาหรืออยากเรียนอะไร ทำไมมาเป็นพี่เลี้ยง อะไรประมาณนี้”
สงครามบอกคร่าวๆจริงๆเขาอยากทำความรู้จักคนตรงหน้าให้มากกว่านี้เผื่อได้ทำงานร่วมกันนานหน่อยเพราะเท่าที่ดูเจ้าลูกชายจะติดพี่เลี้ยงคนนี้เข้าเสียแล้ว และมัจฉาเองก็ทำให้เขาประทับใจได้หลายเรื่องเลย
“ผมเหรอ ครับ..ผมไม่มีบ้าน....ไม่มีครอบครัวหรอก ผมตัวคนเดียวไม่มีพี่น้อง ไม่มีพ่อแม่ ผมอยู่กับเจ๊นิด
เจ้าของร้านขายของชำตรงซอยหน้า ม .Y จบแค่ ม.สามผมก็ไม่มีปัญญาเรียนหนังสือต่อ เพราะไม่มีเงิน
แค่หาเลี้ยงชีวิตให้รอดไปวันๆก็ดีมากแล้ว ผมอยากเรียนให้จบปริญญาตรี เพื่อที่ในอนาคตจะได้ไม่ลำบากมากนักแต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้
เพราะค่าเล่าเรียนมันแพงเกินไปสำหรับผม พอดีว่าร้านของเจ๊นิดต้องปิดน่ะครับ ผมเลยตกงาน คุณก้อยเองก็เป็นลูกค้า ของเจ๊นิด
ผมไปส่งของให้คุณก้อยๆบ่อยๆ แกคงสงสารเลยพาผมไปหาคุณสงครามวันนั้นแหละครับ แต่เอาจริงๆ สามหมื่นที่คุณสงครามให้ ผมว่ามันเยอะไปอยู่ดี เทียบกับความรู้ของผมนะ “
มัจฉาพูดไปเรื่อยๆ ตามที่คิดออก เขาไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องพึ่งพาตัวเอง เขาเลยรู้สึกเฉยๆเมื่อต้องบอกใครสักคนว่าเขาตัวคนเดียว
ผิดกับสงครามที่ได้ฟังเขาเองอึ้งไปสักพัก เด็กตัวแค่นี้ อยู่เพียงลำพัง ใช้ชีวิตคนเดียว แถมโตมาได้โดยไม่เสียคนไปซะก่อน
หรือเดินทางผิดไปเข้าแหล่งอบายมุข มันทำให้เขานึกทึ่งคนตรงหน้ามากกว่าเดิม
“อยากเรียนต่อไหมล่ะ”
“ก็..อยากเรียนครับ แต่กว่าผมจะเก็บเงินได้คงอีกหลายปี ถึงตอนนั้น คงจะแก่เกินไปที่จะเรียนครับ ฮะ ๆ”
มัจฉาเอ่ยอย่างขำๆเมื่อนึกว่าตอนเขาอายุสักสามสิบแล้วพึ่งจะไปเรียนมัธยมปลาย
“เดี๋ยวนี้เขามีเรียนแบบโฮมสคูลไม่รู้เหรอ”สงครามพูดอย่างคนตัดสินใจแล้ว
“หือ..?”
“แบบเรียนที่บ้านน่ะ แล้วพอผ่านหลักสูตร ก็ไปสอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยได้”
“ถึงจะมีอย่างนั้น ผมก็ยังเรียนตอนนี้ไม่ได้อยู่ดี เพราะต้องทำงานก่อน”
“ถ้าฉันอนุญาตล่ะ ส่งเฟียไปโรงเรียนแล้วเธอก็ว่างนี่ จ้างครูมาสอนที่บ้านสักวันละ สามชั่วโมงน่าจะพอ”สงครามพูดไปเรื่อยๆตามที่คิด
“เอ๋...เดี๋ยวๆครับ ผมไม่เข้าใจ”
“จะเข้าใจยากอะไรนักหนาล่ะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจ้างครูมาสอนเธอที่บ้านละกัน “
“เฮ้ยๆ ไม่ได้ๆ ผมต้องทำงานนะคุณ จะเอาเวลาไหนไปเรียนล่ะและอีกอย่างจ้างครูมาสอนที่บ้านมันแพงนะครับ ”
“ไหนบอกว่าอยากเรียนหนังสือไง”
“ก็อยากเรียนครับ แต่....”
“ไม่เถียงฉันสักเรื่องจะได้ไหม นี่เป็นคำสั่ง”
มัจฉานั่งนึกถึงสิ่งที่คุณสงครามบอกเขา แน่นอนมันเป็นความหวังดีและเป็นโอกาสที่เขาควรจะคว้าเอาไว้ แต่เขาก็ยังไม่เห็นด้วยทั้งหมดที่คุณสงครามพูดมา
“คุณสงครามครับ ..ผมขอบคุณในความมีน้ำใจของคุณครามนะครับ แต่ว่าผมพึ่งจะเริ่มงานไม่อยากเอาเปรียบคุณสงคราม
หรือเอาเวลาที่ต้องดูแลคุณหนูมาทำเรื่องส่วนตัว ผมอยากเรียน แต่ตอนนี้คงไม่เหมาะ ผมขอทำงานตรงนี้ให้ดีก่อนดีไหมครับ ถ้าเกิดผมไม่ผ่านงาน ตกงานอีกผมคงเสียดายที่เรียนแบบขาดๆเกินๆ “
สงครามนั่งนิ่งฟังเด็กที่วุฒิภาวะน้อยกว่าเขาแต่ความคิดความอ่านทำให้เขาแปลกใจได้ตลอดเวลา โดนเด็กสอนเข้าให้
นั่นสินะ ถ้าเด็กนี่ทำงานกับเขาไม่ได้ หรือถ้าเด็กนี่เอาแต่เรียนโดยไม่สนใจลูกเขาตามหน้าที่ เขาคงคิดน้อยไปหน่อย
ตามนิสัยที่พอเจอคนดีๆเขาก็อยากจะช่วยเหลือ เขาอยากให้โอกาสมัจฉาเหมือนที่กันธรและลุงทดให้โอกาสเขา
“ถ้างั้น เอาอย่างนี้ดีไหม เธอยังไม่ต้องเรียนช่วงนี้ก็ได้ แต่แค่หาหนังสือมาอ่านไปเรื่อยๆในเวลาว่างดีไหมล่ะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”มัจฉาฉีกยิ้มกว้างให้นายจ้างที่นั่งหน้าเครียดราวกับว่าเป็นเรื่องซีเรียสนักหนาที่เขาจะต้องเรียนหนังสือ
“คุณสงครามครับ”มัจฉาอึกอักเมื่อมีคิดว่าเรื่องที่จะพูดกับนายจ้างตรงหน้านี่เขาควรจะพูดหรือไม่
“ว่าไง ...มีอะไรก็พูดมา วันนี้ฉันว่างฟัง หึหึ”สงครามเอ่ยเย้าอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นท่าทางอึดอัดใจของมัจฉา
“ถ้าผมจะขอบอกอะไรคุณสงครามสักอย่างคุณสงครามอย่าโกรธผมนะครับ”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“คุณสงครามสัญญาก่อนสิว่าไม่โกรธอ่ะ”มัจฉานึกอะไรไม่ออกนอกจากขอสัญญาป้องกันตัวเองไว้ก่อน
สงครามมองหน้ามุ่ยๆของพี่เลี้ยงพลางนึกขัน คนอะไรยังไม่ทันเล่ามาขอสัญญาแล้วเอาเปรียบชัดๆ
“ก็ได้ สัญญาจะไม่โกรธมากละกัน หึหึ”
“เอ่อ...คือเรื่องคุณหนูน่ะครับ”
พอมัจฉาเอ่ยปากสงครามเริ่มจะถอนหายใจ อุตส่าห์คิดว่าไม่เหมือนคนอื่นแล้วเชียว ก็ไม่เห็นต่างกัน ก็ลองฟังดู ว่าจะฟ้องอะไรเกี่ยวกับวีรกรรมลูกชายเขา
ท่าทางและสีหน้ามึนตึง แบบทันทีของคุณสงครามทำเอามัจฉาเกือบถอดใจ แต่ก็ไหนๆก็ตัดสินใจแล้ว ก็ลองพยายามดูสักครั้ง
“คือ เป็นไปได้ไหมที่คุณสงครามจะกลับบ้านเร็วกว่านี้อีกหน่อย หรือตื่นตอนเช้าๆก็ได้ หรือไม่ก็ถ้ามีวันหยุดสักวันต่ออาทิตย์ก็ยังดี ครับ”
สงครามเลิกคิ้วแปลกใจ ไม่ใช่เรื่องฟ้องเขาแต่เป็นเรื่องของเขาเองเลยยิ่งต้องแปลกใจ
“ทำไม”
“ก็ คุณหนูน่ะยังเด็กมากเลยนะครับ แม้จะดูว่าเข็มแข็งเข้าใจอะไรง่ายๆดูเหมือนโตก่อนวัยด้วยซ้ำ แต่คุณหนูต้องการคุณพ่อนะครับ
คุณสงครามน่าจะสังเกตเห็นวันนี้คุณหนูมีความสุขมากเลยนะครับ ผมอยากเห็นคุณหนูร่าเริงแบบนี้ทุกวัน
ไม่ใช่ชะเง้อคอมองแต่ประตูบ้านทุกวันแล้วทำหน้าหงอยๆ”
สิ่งที่พรั่งพรูออกจากปากของมัจฉาทำให้สงครามนั่งคิด ว่าที่ผ่านมาเขาเป็นพ่อที่แย่มากแค่ไหน
“แค่มีเวลาให้คุณหนูนิดหน่อยคุณหนูก็ดีใจมากแล้วครับ “
“ตกลงว่ามาเฟียนี่ ลูกฉันหรือลูกเธอ”
พอฟังพี่เลี้ยงพูดจบ ซึ่งมันต่างจากที่เขาคิดเอาไว้ก็ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาอีกจนได้ หึหึ ขอแซวหน่อยละกัน
“ปละ..เปล่านะครับ คุณสงครามคงไม่โกรธที่ผมบอกแบบนี้นะครับ ผมไม่ได้ว่าคุณสงครามนะ แค่คิดว่าถ้าคุณสงครามทำได้คุณหนูคงดีใจกว่าใครๆ”
“ปลุกฉันสิ”
“ห๊ะ!”หน้าตื่นๆนั่นสงครามว่ามันน่าเอ็นดูดีไม่น้อย
“ตอนเช้าน่ะ เธอก็เข้าไปปลุกฉันสิ ปลุกก่อนเฟียตื่นก็ได้ เป็นหน้าที่เธอนะ ต่อไปเข้าไปปลุกฉันทุกเช้าด้วยฉันจะได้ตื่นมาทันกินข้าวเช้ากับลูกและส่งลูกขึ้นรถไปโรงเรียน”
“หา!!!”
“ก็นี่ไง ทางออก ที่เธอพูดมามันก็ถูก ที่ผ่านมาฉันยอมรับว่าเป็นพ่อที่แย่มาก แต่เพราะหลายๆอย่างมันทำให้ฉันต้องทำงานหนัก
แต่อีกไม่กี่วันนี้ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ใช่ว่าฉันจะทิ้งอะไรได้ เพราะงั้น ปลา เธอต้องเป็นคนปลุกฉันทุกเช้าก่อนเฟียตื่นเข้าใจไหม “
เขารู้สึกสนุกเมื่อเห็นท่าทางทำอะไรไม่ถูกของพี่เลี้ยงลูกชาย เขาไม่บอกหรอกว่าต่อไปเขาจะมีเวลามากขึ้นแค่กลับบ้านเร็วขึ้นและตื่นเช้า
เขาทำได้อยู่แล้ว ก็ท่าทางของมัจฉามันน่าแกล้งจะตายไป เป็นการคลายเครียดจากงานหนักได้บันเทิงดีจัง หึหึ
“แหะๆ มันจะดีเหรอครับ ก็..”
“ก็อะไร..มะตูมเป็นผู้หญิง ยายกิ่งก็ยุ่งตอนเช้าอยู่แล้ว เพราะงั้นหน้าที่เธอ ถูกต้องที่สุด “
“ตั้งนาฬิกาปลุกสิครับจะยากอะไร “เขาไม่เข้าใจนายจ้างคนนี้จริงๆ ในชีวิตไม่เคยใช้นาฬิกาปลุกหรือไง
“ฉันไม่ชอบเสียงนาฬิกาปลุก “เหตุผลที่ฟังดูแปลกๆ แต่ก็เอาเหอะ
“ก็ได้ครับ ถ้าผมปลุกห้ามงอแงด้วยล่ะ”มัจฉาเอ่ยขึ้นอย่างลืมไปว่าคนที่เขาคุยด้วยน่ะ อายุจะสามสิบแล้ว
“นี่ฉันไม่ใช่มาเฟียนะใช้คำว่างอแงได้ไง “
“ก็..นั่นแหละครับเช้าๆ คนง่วงๆจะอารมณ์เสียห้ามพาลผมนะ”
มัจฉาพูดปกป้องตัวเองไว้ก่อน ถ้าไม่คิดว่าทำเพื่อคุณหนูล่ะก็จ้างให้เขาก็ไม่เสี่ยงไปปลุกคนหลับที่หน้าโหดอย่างนายจ้างเขาคนนี้หรอก
“หึหึ “เสียงหัวเราะเบาๆอย่างพอใจของคนเป็นนายทำให้มัจฉาอดเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ สรุปเพิ่มงานให้ตัวเองซะงั้น
“เรื่องเรียนเอาเป็นว่าเอาไว้ทุกอย่างเข้าที่เราค่อยมาคุยกันอีกทีละกัน เดี๋ยวฉันหาหนังสือมาให้อ่านเตรียมตัวไปก่อนนะ “
“ครับ ...ขอบคุณมากครับ “
มัจฉาเอ่ยขอบคุณพร้อมทั้งยกมือไหว้ เขารู้สึกซาบซึ้งกับน้ำใจที่คุณสงครามมีให้ อย่างน้อยเขาก็ถือว่าโชคดีมากๆได้งานดีๆ ค่าจ้างดีๆ นายจ้างใจดี แค่นี้มัจฉาก็ไม่ขออะไรอีกแล้ว
สงครามมองดูรอยยิ้มที่ส่งมามันทำให้เขารู้สึกดีแปลกๆ ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงให้มัจฉาทำหน้าที่เข้าไปปลุกเขาทุกเช้า
ทั้งๆที่เขาเองเป็นคนที่หวงพื้นที่ส่วนตัวมาก ถ้าไม่ใช่แม่บ้านซึ่งก็มีแค่ยายกิ่งเท่านั้นที่ทำความสะอาดห้องเขา
คนอื่นไม่ได้รับสิทธิ์ให้เข้าห้องเขา ตัวเขาเองยังแปลกใจที่โพล่งไปแบบนั้น อาจจะเพราะเขาอยากแกล้งมัจฉาก็เป็นได้
สีหน้าหลากอารมณ์ของเด็กคนนี้มันน่าสนใจ อืม คงเป็นเพราะแบบนั้นนั่นแหละน่า..
“เย็นนี้ผมขอไปรับคุณหนูด้วยได้ไหมครับ”
“เจ็บตัวก็อยู่บ้าน ไปด้วยลำบากเปล่าๆ”
“ไม่เจ็บแล้วผมเดินได้แค่เขย่งนิดเดียวเอง นะครับ ผมไปด้วยนะ “
ทั้งเสียงทั้งสายตาที่อ้อนโดยไม่รู้ตัวของมัจฉาทำเอาสงครามนั่งมองตาปริบๆ ท่าทางแบบนั้น ไม่รู้หรือไงนะว่ามัน.น่า....เฮ้อ.....สงครามรู้สึกร้อนวูบๆที่หน้า อะไรกันเขาเขินเด็กนี่หรือไง ...คนอย่างเขาเนี่ยนะ!
“อือๆ จะไปก็ไป”
และสิ่งที่ได้ตอบกลับมาคือยิ้มกว้างสดใสของพี่เลี้ยงลูกชาย สงครามรู้สึกแปลกๆ กับรอยยิ้มนั้น ก่อนจะเสไปหยับรีโมททีวีเปิดดูรายการเรื่อยเปื่อยเหมือนคนที่ทำอะไรไม่ถูก นับวันตัวเขาก็เริ่มแปลกไปทุกที
“เดี๋ยวผมไปช่วยยายกิ่งเตรียมข้าวเย็นดีกว่า “
“จะลุกไปลุกมาทำไมเดี๋ยวก็เจ็บแผลหรอกไม่หายกันพอดี ไปนอนไป เดี๋ยวเย็นๆไปรับลูกฉันจะปลุก”
“งั้น ผมขออ่านหนังสือรอละกันครับไม่อยากนอนตอนนี้ เดี๋ยวกลางคืนจะไม่หลับ”
“ตามใจ ฉันของีบก่อนละกันใกล้เวลาปลุกด้วย”
สงครามลุกขึ้นไปหยิบเอาหมอนอิง มาวางแทนหมอน ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆพี่เลี้ยงลูกชาย
“..ไม่ไปนอนที่ห้องดีๆล่ะครับเดี๋ยวก็ปวดหลังหรอก “
มัจฉาอดที่จะทักท้วงไม่ได้ก็ตัวออกจะโต มานอนที่แคบๆ บนโซฟานี่ แถมพอเขานั่งตรงนี้ขาคุณสงครามก็เลยโซฟาไปอีก แต่กลับกันสงครามที่ได้ยินแบบนั้นเขากลับรู้สึกดีจนอยากอยู่ใกล้ๆกับเด็กคนนี้
“สงสัยต้องซื้อโซฟาใหม่ ตัวนี้สั้นไป “สงครามพูดไปตามเรื่อง จริงๆโซฟาก็ยาวอยู่หรอกแต่เพราะมีมัจฉานั่งอยู่ด้วย เลยสั้นลงมานิดหน่อย
“เดี๋ยวผมไปนั่งอ่านตรงนุ้นก็ได้ครับ “ มัจฉาว่าพลางเตรียมตัวลุกไปนั่งอีกที่ แต่
“ไม่ต้องหรอก นั่งลงๆ “
มัจฉานั่งลง อย่างไม่เข้าใจ เมื่อคุณสงครามดึงเอาหมอนอิงนั่นมากอดเอาไว้ แต่ยกตัวเองขึ้นเอาหัวมาวางแหมะลงที่ตักเขา นอนกอดหมอนสบายใจเฉิบ
“อ๊ะ คุณสงคราม !”มัจฉาร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำอะไร แต่สงครามกำลังคิดว่าเขาแค่อยากจะรู้อะไรนิดหน่อยแค่นั้นเอง
“อยู่นิ่งๆ ฉันของีบแป๊บเดียว”
สงครามแอบลอบยิ้มในหน้าจะว่าเขาตั้งใจก็ใช่ เขาแค่อยากอยู่ใกล้ๆมัจฉาอีกสักนิด เผื่ออะไรๆมันจะชัดเจนขึ้นกว่านี้
เขาอยากเห็นรอยยิ้มอยากมองหน้า อยากสัมผัส ...แกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆไอ้เดียวเอ๊ย ได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจ และแกล้งหลับตาลง
เพราะจะถอยตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว นี่ก็แปลกชักจะงงกับการกระทำของตัวเองซะแล้วสิ ช่างมันเหอะอย่าคิดเยอะนักเลย แค่เรื่องงานก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว
สงครามไม่สนใจเสียงโวยวายของมัจฉาสักนิด เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ที่ได้อยู่ใกล้ๆมัจฉาบรรยากาศที่อุ่นสบาย
รู้สึกผ่อนคลายความตึงเครียด เมื่ออยู่ใกล้เด็กคนนี้มันทำให้เขาไม่อยากจะห่างเลย
มัจฉาเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยปล่อยให้เจ้านายตัวโตนั่นหนุนตักหลับไปทั้งอย่างนั้น แม้ในใจจะขัดแย้งว่า คุณสงครามไม่ควรทำแบบนี้
แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะดุนายจ้างตัวโตจอมเอาแต่ใจคนนี้ เขากลัวตกงานหรอกเลยไม่กล้าขัดใจ ถ้าตระคิวกินนะ จะบ่นให้หูชาเลยคอยดู
มานอนทับขาคนเจ็บได้ไงเนี่ย ฮึ่ย!!!
ในขณะที่มัจฉากำลังคิดหงุดหงิดที่ต้องมาเจอผู้ใหญ่จอมดื้อเอาแต่ใจไม่ต่างจากลูกชายตัวน้อยนั่น
สงครามกำลังคิดวุ่นวายขัดแย้งอย่างหนักกับการกระทำและความรู้สึกของตัวเขาเอง เขาเคยคิดไว้ว่า เขาจะไม่รักใครอีกแล้ว
ตั้งแต่มายาจากไป เขากลัวว่าเขาจะเจ็บแบบนั้นอีก คำว่าเจ็บปางตายนั้นไม่ไกลเกินจริงเลย
และเขาก็ไม่สนใจใครไม่จีบใครไม่คิดจะหาใครเข้ามาเป็นหุ้นส่วนชีวิตนับแต่นั้น
แต่ว่าตอนนี้ เขากำลังสับสน ถ้าความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นกับผู้หญิงเขาจะไม่คิดมากเลย แต่นี่มันกำลังเกิดขึ้นกับผู้ชาย!!
เขายอมรับว่าเขากำลังกลัวจริงๆถ้ามันใช่เขาจะทำยังไงดี....
.
.
.
..
TBC....
วันนี้ว่างเล็กน้อยเลยมาต่อได้อีกครึ่งยาวๆที่เหลือ
จริงๆพันวาคิดจะตัดเป็นสองตอนนะเพราะยาวมาก แต่คิดอีกทีขี้เกียจตั้งชื่อตอนใหม่ 555555
มันเลยกลายมาเป็นตอนไถ่โทษที่ยาวมากๆ
มีเรื่องเม้าท์ คุณพ่อข้างบ้านเอาลูกชายมาฝากเลี้ยง1คืน เพราะคุณพ่อไปประชุมต่างจังหวัดคุณพี่เลี้ยงป่วย กรรมจริงเราไม่เคยเลี้ยงเด็กน๊าาาาาา ไม่รู้ว่าคืนนี้จะรอดไหม พันวาติดสามแอ๊พของคุณหลวงผลิตอยู่นะ ต้องรอไลฟ์ตอนดึกอีก แล้วถ้าน้องมานอนด้วย ไม่อยากจะเหลา อ๊าาาาาาาาาา :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
ทีแรกว่าจะไม่ช่วยแล้วแต่ดูท่าทางคงจำเป็นจริงๆไม่งั้นคงไม่กล้าเอาลูกมาฝากคนแปลกหน้าอย่างเราหรอกเนอะ เฮ้อ เป็นพี่เลี้ยงจำเป็นสักคืนเนอะ ไปซื้อทาโร่มาไว้เยอะๆดีกว่าแบ่งน้องกิน เผื่อน้องไม่งอแงจะได้ดูผลิตด้วยกันซะเลย555555
เม้าท์เพลินมาเรื่องพ่อสงครามดีกว่าเนอะ เดียวเคยผิดหวังครั้งใหญ่ ความเจ็บปวดมันเป็นแผลขนาดใหญ่
พอมารู้สึกแปลกๆกับเด็กผู้ชายที่เจอกันแค่ไม่นาน มันก็ต้องกลัวกันบ้าง แม้ว่าสงครามจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว
แต่การซ่อนบาดแผลเอาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ บางทีแผลสดที่กลายเป็นแผลเป็นมันยังดีกว่ากลายเป็นหนองข้างใน
สงครามต้องหาคนมากลัดหนองออก น้องปลาของเราจะทำได้หรือไม่ มาลุ้นไปพร้อมๆกันเนอะ
วันนี้ทอล์คยาว แหะๆ เหมือนเดิมนะคะ พบคำผิดสะกิดบอกพันวาด้วยค่า... :katai4:
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเม้นท์เป็นกำลังใจคนเขียนมากๆ ขอบคุณค่าาาาา :กอด1: :กอด1:
ตอนที่ 10 แขกที่ไม่ได้เชิญ..
“เดียวคะ เดี๋ยวนี้ยุ่งเหรอคะ คุณไม่มีเวลาให้แจงเลยนะ “
“แจง..ผมต้องทำงานนะ “
“แต่ตอนนี้เที่ยงแล้วและวันนี้ก็เป็นวันเสาร์ พักบ้างก็ได้ค่ะ เดียวเป็นเจ้าของบริษัทนะ ไปทานข้าวกันดีกว่านะคะ “
สาวสวยไม่วายดื้อดึง สงครามเป็นที่ต้องตาต้องใจสาวๆไม่ว่าจะสาวน้อยสาวใหญ่ไฮโซแม้กระทั่งพนักงานในอ๊อฟฟิศ
ต่างให้ความสนใจในตัวพ่อหม้ายเนื้อหอมคนนี้ แต่สงครามกลับปิดกั้นทุกคน หัวใจเขาปิดสนิทไม่เปิดรับใครเลยแม้แต่คนเดียว
จันจิราจึงใช้ความเป็นเพื่อนเข้าหาชายหนุ่มเขาเป็นเพื่อนในวัยเด็กของเธอ แม้จะไม่ได้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันสมัยเรียน เพราะจันจิราไปโตที่ต่างประเทศ แต่ก็นับว่าสนิทกันพอควรในวัยเด็ก
แจงเองชอบสงครามมาตั้งแต่ก่อนที่สงครามจะแต่งงานแล้ว อีกทั้งยังพ่อของเธอและเขาเป็นเพื่อนรักกัน สงครามเลยปฏิเสธเธอได้ไม่เต็มที่นัก
“จะไปไหนกันเหรอ “เสียงห้าวทุ้มดังขึ้นที่ประตูห้องทำงาน กันธรเดินเข้ามาพร้อมยิ้มร่าเริง ส่งให้เพื่อนรักและหญิงสาวในห้อง
“หวัดดีคุณแจงคนสวย ไม่ทำงานทำการหรือไงกัน”
กันธรเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจ แม้แจงจะเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กของสงครามเป็นลูกสาวเพื่อนรักพ่อของสงคราม
แต่กับเขา จันจิราไม่ได้เกี่ยวข้องรู้จักกันทางไหน ช่วงที่เขาไปต่อปริญญาโท ที่ออสเตเรีย เขาเจอจันจิราที่นั่น
และได้เห็นความเหลวแหลกของผู้หญิงคนนี้ แต่จันจิราไม่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทของสงคราม
และเพราะแบบนั้นมันทำให้เขาได้ รู้ว่าจันจิราเป็นคนยังไง หลังจากที่มายาแม่ของมาเฟีย ทิ้งไอ้เดียวไป
เธอคนนี้ก็เข้ามาตีสนิททำไมเขาจะไม่รู้ว่าแจงคิดอะไรกับสงคราม ถ้าเป็นคนอื่น เขาจะไม่ห้ามเลยสักนิด
แต่ผู้หญิงคนนี้ ไม่เหมาะที่จะมาเป็นแม่ของเจ้าหนูมาเฟียหลานเขาแน่ๆ
“ เจ้าของบริษัทอย่างฉันน่ะ ไม่ต้องทำก็มีกินนะ ไม่เหมือนลูกจ้างอย่างนาย เดียวควรปรามลูกน้องบ้างนะลามปามเจ้านายได้ยังไง ”
จันจิราว่าเหน็บกันธรอย่างไม่คิดจะถนอมน้ำใจเธอรู้สึกไม่ชอบหน้านายคนนี้อย่างแรง แม้ว่าจะคุ้นๆหน้าแต่เธอก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันธรที่ไหน
แต่เพราะดูเหมือนกันธรจะรู้ทันเธอไปทุกอย่าง เธอเลยไม่ชอบหน้านายคนนี้เอาเสียเลย
อีกอย่าง เพราะนายคนนี้เป็นแค่ลูกจ้างในบริษัทของสงคราม เธอจึงไม่จำเป็นที่จะต้องรักษามารยาท ไม่รู้สงครามลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับคนพวกนี้ทำไม
“แจง ธรมัน..”สงครามชะงักไปเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนที่บอกว่าไม่ต้องพูดอะไร
“ทำไมคะเดียวไม่เห็นต้องเกรงใจเลยพวกลูกจ้างแบบนี้ ..แล้วนี่....เดียวมีนัดทานข้าวกับแจง ...คนเดียว ”หญิงสาวเน้นคำว่าคนเดียวใส่หน้าอีกคน
“อ้าว ท่านประธาน จะมีนัดกับคุณแจงได้ยังไง วันนี้วันเสาร์ เจ้านายผมนัดลูกชายไว้แล้วนี่ ผมเลยต้องมาขับรถให้ท่านประธานของผม เชิญคุณแจงมาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยครับ”
อย่าได้มีคำว่าให้เกียรติผู้หญิงในคำพูด เพราะถ้าเป็นคนอื่นกันธรจะไม่พูดหรือทำแบบนี้แน่ๆ แต่กับจันจิราเขารู้ดี ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนดีพอที่จะมาเป็นคู่ชีวิตเพื่อนเขาหรือมาเป็นแม่เลี้ยงหลานเขา
“ต้องขอโทษแจงด้วยนะครับ พอดีนัดลูกเอาไว้แล้วน่ะ “
สงครามรีบเอ่ยทันทีแม้ว่าตอนบ่ายเขาจะมีงานไม่ได้นัดลูกแต่ก็ขอไปหาลูก ดีกว่าไปกับจันจิรา เขารู้สึกขอบคุณเพื่อนที่มาได้จังหวะมาก
กันธรรู้ดีว่าเขาไม่ได้ชอบพอกับจันจิราแต่ทุกวันนี้ที่ยังไปไหนมาไหนด้วยเพราะเกรงใจลุงทด
แต่การที่เขาทำแบบนั้นกลับกลายเป็นว่าจันจิราตีความเข้าข้างตัวเอง
“งั้นแจงไปด้วยนะคะ แจงยังไม่ได้เจอน้องเฟียเลย นะคะเดียว แจงไปด้วยนะ”
“นี่คุณ เดียวมันอยากอยู่กับครอบครัวนะคนนอกไม่เกี่ยว”
“แล้วนายเป็นอะไรก็แค่ลูกจ้าง ยังไปได้ ทำไมฉันจะไปไม่ได้......นะคะเดียว” สงครามถอนใจเฮือกรู้ว่าถ้าปฏิเสธจันจิราเรื่องคงไม่จบแน่ๆ
“ก็ได้ครับ งั้นแจงออกไปรอที่ห้องรับรองก่อนนะครับ ผมขอเคลียร์งานกับธรแป้บนึง“
“ได้ค่ะ เร็วๆนะคะ”
พอคล้อยหลังหญิงสาว สงครามก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ทั้งยังทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ตัวโตอย่างหมดแรง
“มึงไม่บอกไปเลยล่ะวะว่าไม่ชอบ”
“กูเคยพูดแล้วเถอะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่แจงคนเดียวมึงก็รู้นะธร “
“ก็..เออ...กูเข้าใจมึง แต่กูว่าลุงทดแกรู้จักลูกสาวแกดีนะ วงในฉาวโฉ่จะตายมีหรือจะไม่รู้”
“ธร ไม่เอาน่า อย่าลามผู้ใหญ่ ลุงทดกับแจงคนละคนกัน อย่างน้อยงานศพพ่อกูถ้าไม่มีลุงทดกูคงไม่รู้จะทำไง“
“เกรงใจก็ส่วนเกรงใจสิวะ พ่อเป็นคนดีใช่ว่าลูกจะดีเหมือนพ่อซะเมื่อไหร่กัน เฮอะ..”
“เอาน่า ..เอาเป็นว่าเดี๋ยวกูโทรหาลูกก่อน “
สงครามกดเบอร์โทรฯเข้าที่บ้านเสียงรอสายดังอยุ่นานกว่าจะมีคนมารับ
(สวัสดีครับ )
“ปลาเหรอ”
( ครับ ? )
“อีกสักครึ่งชั่วโมงฉันจะกลับไปกินข้าวกับลูกนะ ช่วยบอกยายกิ่งเตรียมกับข้าวให้ด้วย อ้อ เผื่อเพื่อนฉันด้วยนะ สองคน”
(ครับ..ได้ครับ)เสียงร่าเริงดังมาตามสายทำไห้สงครามอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ นี่คงจะลืมเรื่องนั้นไปแล้วมั้งหึหึ
สงสัยเขาจะต้องหาโทรศัพท์ไว้ให้ปลาสักเครื่องแล้ว เผื่อเกิดมีอะไรจะได้ติดต่อได้ง่ายกว่านี้
“แน่ะ ๆ ยิ้มๆ ถ้าปลายสายเป็นผู้หญิงนะเดียวกูนี่คิดว่ามึงตกหลุมรักชัวร์เลยเพื่อน”
“ไร้สาระน่า นั่นผู้ชาย และอีกอย่างเด็กมันเป็นเด็กดีไม่แปลกที่กูจะเอ็นดูนะ “
สงครามยังไม่อยากจะพูดอะไรมากตอนนี้ เอาไว้เขาจีบมัจฉาติดเมื่อไหร่ ค่อยบอกเพื่อนอีกที
แม้ว่ากันธรจะบอกว่าไม่ได้รังเกียจถ้าเขาจะคบใคร แต่เขาก็ไม่อยากจะให้เรื่องของมัจฉาทำให้เพื่อนต้องคิดมาก
“กูก็ว่ามันยังแปลกอยู่ดี มึงน่ะเสือยิ้มยากจะตายห่า นี่อะไรแค่คุยโทรศัพท์...”กันธรหรี่ตามองเพื่อนอย่างสงสัย
“พูดมากน่า มาช่วยกูเคลียร์เอกสารดิ๊ จะได้ไปสักทีเดี๋ยวลูกรอ “
“หึหึ ลูกรอ หรือใครรอ วะ เดี๋ยวนี้หายใจเข้าออกเป็นลูกตั้งแต่เมื่อไหร่วะ “
“มึงพูดซะกูดูเป็นพ่อที่แย่เลยว่ะ “
เสียงหัวเราะของเพื่อนรักทำให้สงครามอดที่จะหมั่นใส้ไม่ได้ มันคงจริงอย่างหนึ่งที่กันธรพูด เขาเป็นคนยิ้มยากมาแต่ไหนแต่ไร
แต่เท่าที่จำได้ตั้งแต่รู้จักเด็กปลาคนนั้น เขายิ้มบ่อยมาก แค่วันเดียวที่อยู่กับเด็กนั่นเขายังยิ้มมากกว่าทั้งปีรวมกันเสียอีก
บางทีเขาอาจจะไม่ต้องคิดมาก เพราะความรู้สึกมันบอกเขาชัดเจนอยู่แล้ว สงครามคิดพลางยิ้มในหน้าอย่างอารมณ์ดีขึ้น
เมื่อคิดถึงหน้าเนียนๆของอีกคน ผิดกับกันธรที่ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจในตัวเพื่อน
......................................
“สงสัยฝนจะตกเดือนเมษาคุณเดียวกลับมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน”มะตูมเอ่ยขึ้นอย่างติดตลก พลอยทำให้ยายกิ่งหัวเราะไปด้วย
“ขนาดนั้นเลยหรือตูม”
“ใช่ค่ะคุณปลา คุณเดียวน่ะ ไม่ได้กินข้าวกลางวันหรือข้าวเย็น ที่บ้านนานมากแล้ว หลายปีเลยมั้งตั้งแต่คุณมายา...”
“....ตูม!..”
ยายกิ่งรีบปรามก่อนที่หลานสาวจะพูดอะไรไปมากกว่านั้น มันยังไม่ถึงเวลาที่คุณปลาจะรู้อะไรตอนนี้ เอาไว้ดูกันไปสักพัก
หากคุณปลาของเธออยู่ที่นี่ได้เรื่องที่จำเป็นต้องรู้ก็จะต้องบอกกล่าวกันไป แต่บางเรื่องยายกิ่งคิดว่าให้เป็นเรื่องส่วนตัวของนายจะดีกว่าเอามาพูดกันไปทั่ว
มัจฉาไม่ถามอะไรต่อ ท่าทางของยายกิ่งทำให้เข้าใจได้ไม่ยากว่าเป็น เรื่องที่ไม่ควรรู้ เขาเองพึ่งจะได้รู้มาไม่นานว่าคุณสงครามเป็นพ่อหม้าย
แต่ไม่รู้ถึงสาเหตุการหย่า เพราะงั้นเขาเลยเลือกที่จะเงียบเรื่องนี้ ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไร นอกจากเรื่องคุณหนูมาเฟีย ไม่รู้เป็นเพราะทั้งชีวิตเขาอยู่คนเดียวมาตลอด
พอได้มาดูแลคุณหนูมันเลยทำให้เขารู้สึกอยากปกป้องอยากดูแล คุณหนูน่าสงสาร มัจฉาคิดว่าเพื่อนคนแรกของเขาคือคุณหนูด้วยซ้ำ
เด็กๆมักจะใสซื่อคิดอะไรพูดและแสดงออกไปตามนั้น ที่ผ่านๆมา มัจฉาเจอแต่คนไม่จริงใจ ขนาดพ่อกับแม่ปากบอกว่ารักเขา
ที่จริงแล้วกลับไม่มีใครสักคนที่ต้องการเขา มัจฉาถือว่าตัวเองยังโชคดีที่เจอนายจ้างดีๆแบบคุณสงคราม ถึงแม้พักหลังมานี่คุณสงครามจะชอบทำตัวแปลกๆกับเขาก็ตามที
......................................
“พ่อ..! ลุงธร”เสียงร่าเริงของลูกชายที่วิ่งออกมารับเขาที่หน้าบ้านทันทีที่จอดรถ
“เดียวกูบอกให้มึงสอนลูกว่าไง ไอ้นี่ ......น้องเฟียครับ อาธรครับไม่ใช่ลุงธร “
“พ่อบอกว่าเรียกลุงธร เพราะลุงธรเป็นลุง เพราะงั้นต้องเรียกลุงธรฮะ”
อธิบายเสียงแจ้ว พร้อมทั้งชูแขนให้คนเป็นพ่ออุ้มถึงแม้ว่าจะมีคนบอกว่าเขาโตแล้วแต่มาเฟียก็ชอบให้พ่ออุ้ม
“สอนลูกแปลกๆนะมึงนี่ “
“ฮึบ..อ้วนขึ้นหรือเปล่าเนี่ยลูกพ่อ หืม “
“พี่ปลาทำกับข้าวอร่อย เฟียกินเยอะ เลยอ้วน “
“ฮ่าๆๆเข้าใจโบ้ยนะตัวแสบ “
กันธรขำไปกับคำพูดของเด็กชายมาเฟีย ทั้งยังนึกถึงเรื่องที่สงครามเคยโทรไปปรึกษาไหนจะหน้ายิ้มๆของมันตอนคุยโทรศัพท์กับพี่เลี้ยงน้องเฟีย
กันธรชักอยากจะเห็นหน้าพี่เลี้ยงคนนั้นซะแล้วสิ จะว่าไปเขาก็ไม่ได้เจอหลานนานแล้วเหมือนกันเพราะยุ่งแต่กับคนเป็นพ่อ
“นี่น้องเฟียใช่ไหมคะ น่ารักจังเลยจำพี่แจงได้ไหมคะ “
ทันทีที่จอดรถเสร็จ จันจิราก็รีบเดินมายืนเคียงข้างสงครามก่อนจะเอ่ยทักทายเด็กน้อย ที่เธอเคยเจอเมื่อนานมากแล้ว
“หน้าอย่างนี้ให้หลานเรียกพี่ ต้องเรียกป้าเลยดีกว่าเถอะ” กันธรอดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมเช่นเคย
“ไอ้บ้านี่ไม่พูดใครเขาก็ไม่ว่าหรอกนะ หุบปากเน่าๆของแกซะมั่ง ”
“ป้าพูดไม่เพราะฮะ พี่ปลาบอกว่าคนพูดไม่เพราะจะไม่มีใครรักนะ “
เด็กน้อยจำคำพี่เลี้ยงสอนได้ขึ้นใจเขาหวังดีนะเลยบอกป้าคนนั้น ก็ลุงธรบอกว่าต้องเรียกป้านี่ เขาเชื่อฟังผู้ใหญ่
“อ๊าย !! ไม่ได้นะคะต้องเรียกพี่แจงค่ะ เดียวคะ..“เสียงแหลมจนแสบแก้วหู ทั้งยังรี่เข้ามาเกาะแขนของสงครามเอาไว้
“อย่ามาจับพ่อเรานะ! “
มาเฟียตวาดแว้ดขึ้นด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นว่าจันจิรายังเกาะแขนของพ่อเอาไว้ไม่ปล่อย เด็กน้อยรีบแกะมือของหญิงสาวออกจากแขนพ่อ
แต่เจนจิรามีหรือที่จะปล่อย
“เอ๊ะ น้องเฟีย ทำไมนิสัยไม่ดีแบบนี้คะ พี่เลี้ยงดูแลกันยังไงเนี่ย เดียวดูสิคะ น้องเฟียก้าวร้าวแบบนี้ไม่ดีเลยนะต้องเรียกพี่เลี้ยงมาสั่งสอนซะหน่อย ”
หันไปฟ้องสงครามกันพวกพี่เลี้ยงเอาไว้ก่อน ยิ่งเธอได้ยินข่าวว่าพี่เลี้ยงลูกของสงครามแต่ละคน จบสูงๆมานั้งนั้นแถมมีแต่คนสวยๆซะด้วยสิ เธอต้องรีบกันยัยพวกริ้นไรนั่นให้ห่างจากสงคราม
“แจง !”สงครามเริ่มจะไม่พอใจ ที่จันจิรายังทำท่าทางเหมือนจะทะเลาะกับลูกเขา
“ก็มันจริงนี่คะ “
“ปล่อยแขนผม”เสียงนิ่งๆของสงครามเริ่มบอกให้จันจิรารู้ว่าไม่ใช่เวลาที่จะมาเอาชนะคะคานกับใครตอนนี้
เธอปล่อยมือจากแขนของครามอย่างขัดใจ หนอยไอ้เด็กเวรฝากไว้ก่อนเถอะ
“คุณนี่โง่กว่าที่คิดนะแจง”
กันธรว่าแค่นั้นก็เดินตามเพื่อนรักเข้าบ้านไป ปล่อยให้หญิงสาวที่โดนด่าอย่างไม่รู้ตัวกระทืบเท้าด้วยความขัดใจก่อนจะรีบเดินตามเข้าบ้านมา
“แล้วพี่ปลาอยู่ไหนล่ะ “สงครามถามลูกพลางหันไปมองรอบบ้าน เมื่อเดินเข้าบ้านมาแต่ไร้วี่แววพี่เลี้ยงคนเก่งจะเข้ามาทักทาย
“พี่ปลาอยู่ในครัวกับยายกิ่งฮะ”
“คุณเดียวจะตั้งโต๊ะเลยไหมคะ จะบ่ายแล้ว เดี๋ยวคุณๆจะหิวกันแย่เลย”
ยายกิ่งเดินออกมาจากครัว เมิ่อเห็นว่าคุณสงครามเข้าบ้านมาพร้อมเพื่อนอีกสองคน
“ตั้งเลย..แล้วนี่ ....”
“อ้อ คุณปลาเธอทำมันม่วงแกงบวดอยู่ค่ะ เป็นของหวาน วันนี้ค่ะ “
“อร่อยมากเลยฮะพ่อ พี่ปลาเคยทำให้กิน “
เด็กน้อยรีบอวยพี่เลี้ยงคนเก่ง ยิ่งทำให้จันจิราหน้าบึ้งตึงเมื่อเห็นว่าสงครามยิ้มน้อยๆเมื่อเอ่ยถึงพี่เลี้ยง ทีเวลาอยู่กับเธอสงครามไม่เคยยิ้มแบบนี้เลยสักครั้ง
“เสร็จแล้วยายกิ่งตามปลามากินข้าวด้วยกันนะ “
“ค่ะคุณเดียว “ยายกิ่งบอกให้มะตูมจัดโต๊ะ และช่วยปลายกสำรับเข้ามาที่ห้องทานข้าว
จันจิรารู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นว่าพี่เลี้ยงของมาเฟียเป็นผู้ชายแต่โครงหน้าสวยหุ่นเพรียวบางแบบนั้นมันทำให้เธอคิดไปไกล ไม่จริงหรอกน่า ..
จะสวยยังไงนั่นก็ผู้ชาย สงครามไม่มีทางที่จะเป็นแบบนั้น แล้วถ้าไอ้ผู้ชายคนนี้มันยั่วสงครามของเธอล่ะ เพราะอยู่บ้านหลังเดียวกัน
เธอจะต้องจัดกการเขี่ยไอ้คนนี้ให้พ้นทาง สาวสวยเพียงหนึ่งเดียวได้แต่คิดแค้นเคืองในใจ
“สวัสดีครับ “มัจฉายกมือไหว้ทั้งสงคราม อาธรและจันจิรา ก่อนจะขอตัวกลับเข้าข้างใน
“ปลา..จะไปไหน” สงครามเรียกมัจฉาที่กำลังหันหลังเดินกลับเข้าครัวไปเมื่อจัดโต๊ะเสร็จ
“ไปทานกับยายกิ่งกับมะตูมในครัวครับ “
“มานั่งนี่”
“แต่...”
“มานั่ง “สงครามเอ่ยเสียงดุ อย่างที่เขาคิดว่ามัจฉาจะไม่ขัดคำสั่งเขา
“จะไปบังคับเขาทำไมคะเดียว เขาอยากไปกินที่ไหนก็ให้เขาไปสิคะ “
“พี่ปลามานั่งกับเฟียนะ ไหนพี่ปลาบอกจะกินข้าวกับเฟียทุกวันไง “
เด็กน้อยเมื่อเห็นว่าพี่เลี้ยงจะเดินหนีไปก็เอ่ยปากทันที ยิ่งทำให้จันจิรารู้สึกหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนจะให้ความสำคัญกับพี่เลี้ยงคนนี้เหลือเกิน
คงมีแต่กันธร ที่กำลังสนุก เขาเฝ้าสังเกตุอาการของเพื่อนรักและพี่เลี้ยงของลูกชาย กันธรยอมรับว่าเห็นครั้งแรกเขาก็ตกใจ
เพราะพี่เลี้ยงเจ้าหนูมาเฟียที่เขารู้มาว่าเป็นผู้ชาย แต่เขาไม่คิดว่า ผู้ชายจะสวยได้ขนาดนี้ ยิ่งรอยยิ้มสวยๆที่ส่งมานั่นทำให้ใจแกว่งได้ง่ายๆ
ความเป็นธรรมชาติ ทั้งการกระทำและคำพูด อีกทั้งยังมัดใจน้องเฟียอยู่หมัด หึหึ ไม่แปลกที่ไอ้เดียวมันจะหวั่นไหว
“ครับๆคุณหนู”
มัจฉายิ้มให้นายจ้างตัวน้อย พลางส่ายหัวอย่างระอา แต่ก็อดที่จะเอ็นดูคุณหนูไม่ได้ วันนี้เขามีความสุข คุณหนูยิ้มทั้งวัน
ยิ่งพ่อกลับมากินข้าวกลางวันที่บ้านแบบนี้เด็กชายยิ้มแก้มปริกว่าที่เคย
“ไม่คิดจะแนะนำให้กูรู้จักเหรอวะเดียว”เสียงเพื่อนดังขึ้นเมื่อมัจฉานั่งลงข้างๆมาเฟีย
“ปลา..นี่กันธร กับแจงเพื่อนฉันเอง แล้วก็นี่ปลาพี่เลี้ยงคนใหม่ของเจ้าเฟียน่ะ “
จันจิราเบ้ปากอย่างไม่สบอารมณ์เรื่องที่สงครามชอบทำตัวสนิทกับลูกจ้าง ทั้งนายกันธรคนนี้และนายการันต์เลขาหน้านิ่งคนนั้นอีก
เอาไว้เธอกับสงครามแต่งงานกันเมื่อไหร่คนไหนที่เธอไม่ชอบใจจะเขี่ยให้หลุดวงจรชีวิตเลยคอยดู
“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ “ มัจฉายกมือไหว้ทั้งสองคนอีกครั้ง
กันธรรับไหว้อีกครั้งแต่จันจิรากลับนั่งเฉยทำเป็นมองไม่เห็นซะอย่างงั้น มัจฉาตักกับข้าวใส่จานให้คุณหนูก่อนจะลงมือกินไปมองดูคุณหนูไป
เวลาที่คุณหนูกินเลอะ มัจฉาจะคอยเอาผ้าที่พาดอยู่บนไหล่เช็ดให้ มัจฉาคอยมองแขกทั้งโต๊ะที่นั่งกินข้าวเงียบ ๆ
จะมีก็แต่คุณจันจิรา ที่คอยตักกับข้าวใส่ลงในจานของคุณสงคราม เห็นคุณกันธรนั่งอยู่ห่างจากทอดมันกุ้งที่วางอยู่ตรงหน้าเขา
คุณจันจิราก็ตักให้แต่คุณสงครามเขาเลยตักเอาทอดมันกุ้งส่งลงไปที่จานข้าวของคุณกันธร
“ขอบคุณครับ “กันธรเอ่ยปากขอบคุณทั้งยังมองดูพี่เลี้ยงใจดีคนนั้นไม่วางตา สงครามรู้สึกหงุดหงิดกับภาพที่เห็น
“ตักให้ฉันมั่งสิ”เขาโพล่งขึ้นมาด้วยความลืมตัว
“เอ๋...ในจานคุณสงครามก็มีนี่ครับ “
“ก็อยากได้อีกนี่ “
กันธรแทบจะลงไปขำกลิ้งที่พื้นกับความเอาแต่ใจของเพื่อน มันกำลังอิจฉาเขาแบบเด็กๆ อาการงอแงที่เขาไม่เคยได้เห็นมานานมากแล้ว
สนุกจริงโว้ย หึหึ หึ กันธรกลั้นขำจนไหล่สั่น ผิดกับจันจิรา ที่เริ่มจะไม่พอใจพี่เลี้ยงหน้าสวยคนนั้น
“เดียวคะ เดี๋ยวแจงตักให้ค่ะ “
จันจิรารีบตักอีกชิ้นไปวางในจานข้าวของสงคราม แต่หน้าตาที่บูดบึ้งบ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์อย่างแรง ทำให้กันธรกลั้นขำอย่างสุดความสามารถ
ดูเหมือนพี่เลี้ยงคนสวยนั่นจะยังไม่รู้อะไรกับใครเขาเลย ยิ่งไอ้เพื่อนรักของเขานี่มันรู้ตัวเองบ้างหรือเปล่าเหอะว่ามันแสดงออกโคตรชัด หึหึ
น่าจะมีเรื่องอะไรดีๆให้เขาได้เสือกเล่น วันหลังชวนคุณเลขานั่นมาด้วยดีกว่า ท่าทางน่าสนุก
ตอนแรกสงครามเองก็บอกไม่ถูกว่าทำไมเขาถึงหงุดหงิด ที่เห็นมัจฉาตักกับข้าวใส่จานให้กันธร เวลาตักให้ลูกเขาไม่เห็นว่าเขาจะรู้สึกอะไร
ยิ่งจันจิราคอยดูแลคอยตักนุ่นนี่นั่นให้เขาไม่ขาดเขายิ่งหงุดหงิด แต่พอเห็นมัจฉาคุยกับกันธรอย่างถูกคอ
รอยยิ้มสว่างไสวนั่นถูกส่งไปให้กันธรบ่อยๆเขาก็รู้สึกขัดใจอยากเตะเพื่อนรักสักที
หมดเวลาอาหารเที่ยงทุกคนย้ายที่นั่งมาที่ห้องนั่งเล่น มัจฉาเสิร์ฟแกงบวดมันม่วงให้ทุกคนได้ชิม เพราะเป็นเมนูโปรดของเขาและคุณหนู ด้วย
คุณกันธรชมไม่ขาดปากเขาที่เป็นคนทำก็อดที่จะยิ้มแก้มปริไม่ได้ มันภูมิใจเวลาที่เห็นคนกินอร่อยไปกับสิ่งที่เขาตั้งใจทำ
แต่นายจ้างตัวโตทำไมทำหน้าบึ้งตึงตลอดเวลาก็ไม่รู้ ทั้งๆที่คุณผู้หญิงก็ออกจะเอาอกเอาใจขนาดนั้น
สงครามบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรกับการที่มัจฉายิ้มแย้มพูดคุยราวกับถูกคอกันนักหนากับกันธร เขารู้สึกหวงรอยยิ้มนั่นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ อา...หรือว่า..เขากำลังหึง..!!
จันจิรารู้สึกว่าเธอกำลังเป็นส่วนเกิน สงครามไม่เคยมีท่าทีจะชอบเธอเกินเพื่อนแต่ก็ไม่เคยมีท่าทางแบบนี้กับใคร
การแสดงออกชัดเจนว่าหวงไอ้พี่เลี้ยงคนนั้น หน้าตาที่บึ้งตึงเมื่อไอ้ลูกจ้างธรนั่นหันไปเอาใจกับไอ้เด็กปลา
ไหนจะยังยิ้มแก้มแทบแตกเมื่อไอ้เด็กนั่นหันมายิ้มให้และคอยพูดคุยด้วย สงครามไม่เคยเป็นแบบนี้
มันทำให้เธอกลัวว่าสิ่งที่เธอพยายามเต็มที่มาตลอดกำลังจะสูญเปล่า เธอไม่ยอมหรอก ไม่มีทางยอม
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่มีทางปล่อยสงครามให้คนอื่น แค่ยัยมายาคนเดียวเธอก็แทบจะขาดใจตายแล้ว ตอนนี้สงครามไม่มีใคร
เธอต้องทำให้สงครามเป็นของเธอให้ได้ ไม่ว่าจะทางใด.
กว่าจะกลับมาที่บริษัทได้เขาก็แทบจะลากไอ้เพื่อนตัวดีที่ยังไม่อยากกลับเพราะเขาไม่อยากกลับกับแจง
ไม่รู้มันเกิดติดใจอะไรกับแกงบวดมันม่วง จนเขาบอกว่าวันนี้ ต้องรีบจบงานนะ ตอนเย็นมีงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้ากับผู้ถือหุ้นด้วย
“งั้นวันนี้คุณสงครามก็ไม่ได้มากินข้าวเย็นที่บ้านสิครับ”
เขายังจำน้ำเสียงจ๋อยๆกับหน้าหงอยๆของพี่เลี้ยงลูกได้ดี ทำเอาเขาไม่อยากกลับมาทำงานเลยล่ะไม่รู้ทำไม
“แค่วันเดียวเอง พรุ่งนี้ฉันพักทั้งวันไปคิดโปรแกรมกับมาเฟียละกันว่าอยากไปไหน “
พรุ่งนี้เขาจะใช้เวลาอยู่กับลูกและมัจฉาทั้งวันโดยไม่มีก้างอย่างไอ้เพื่อนตัวดีนี่
“จริงเหรอครับ “ท่าทางตื่นเต้นดีใจ เหมือนเด็กๆทำให้เขาต้องยิ้มอีกจนได้ ว่าแล้วงานเลี้ยงคืนนี้ไม่อยากไปเลยจริงๆ
แค่คิดว่าจะต้องไปเจออะไรที่งานเลี้ยง สงครามก็ต้องถอนใจ เขาไม่เคยเหนื่อยกับงานหรือการออกงานกลางคืนแบบนี้
แต่วันนี้เขากลับรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องไปออกงานแบบนี้ เอาไว้ให้เข้าที่เข้าทางกว่านี้เขาจะส่งไอ้ธรกับไอ้รันไปแทน
มันทะเลาะกันดีนักก็ไปด้วยกันบ่อยๆมันคงดีกันสักวัน สงครามคิดพลางต่อสายหาการันต์และกันธรสำหรับงานคืนนีร้ ไม่พ้นเมาอีกตามเคยสินะ
หนุ่มนักธุรกิจเนื้อหอมได้แต่คิดทอดถอนใจอยู่อย่างนั้นก่อนจะเตรียมตัวเพื่องานคืนนี้
แม้งานจะเหนื่อยแต่ในใจกลับกระชุมกระชวยอย่างน่าประหลาด รีบๆไปรีบๆจบงานรีบๆกลับบ้านดีกว่า หึหึ
TBC.......
กลับมาล้าววววววววว เหนื่อยโฮกเลยค่า งานก็คืองานเนอะ ต้องทำเนอะไม่งั้นไม่มีเงิน555555
น้องแจงแค่หมากตัวเวล็กๆเนอะไม่ค่อยจะหนักหนาเท่าไหร่แค่มาเป็นตัวแปลให้กับทุกๆคนแค่นั้นเอ๊ง เนอะ55555
บางคราวเราก็ไม่เข้าใจเหมือนคุณสงครามนะ การที่พูดตรงๆไปแล้วแต่คนไม่ยอมรับฟังหรือตื๊อจนน่าเกลียดนี่ไม่กลัวคนอื่นเขาเกลียดเอาหรือไร
แต่ก็นั่นแหละนะ คนเราคิดไม่เหมือนกัน แจงเป็นคนคิดน้อย พูดง่ายๆก็ติดเอาแต่ใจนั่นแหละค่ะ
น้องปลายังมึนต่อไปแต่อิพี่มันนี่เริ่มหวงก้างเกินงาม น่าหมั่นไส้
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามแม้คนเขียนจะหายไปบ้างแต่จะมาอัพจนจบแน่นอนนะคะ
รักคนอ่านจุ๊บคนเม้นท์กอดรวบตึงทุกคนเลยค่า :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ตอนที่ 13 เมื่อพายุพัดมา......
“ ปลาอย่าดื้อกับป้าไก่นะลูก รอพ่ออยู่ที่นี่ ไม่นานหรอกพ่อจะกลับมารับปลานะ “
“ฮะ “ เด็กน้อยได้แต่พยักหน้าเข้าใจ แม้ในใจจะยังงงว่า ทำไมพ่อกับแม่ต้องทิ้งเขาไว้ที่นี่ ที่ๆเขาไม่รู้จัก
“พี่ไก่ผมฝากลูกด้วยนะ แล้วเรื่องค่าใช้จ่าย ผมจะส่งมาให้ทุกเดือน ถ้าผมเคลียร์เรื่องทั้งหมดได้แล้วผมจะมารับลูกกลับ”
“ขอให้มันจริงเถอะ แค่นี้ฉันก็ไม่รู้จะหาอะไรลงท้องกันละ มีตัวภาระเพิ่มมาอีกแบบนี้ มันเหนื่อยนะ “
ปูสะอึกกับคำพูดของพี่สาวคนโต เขารู้ดีว่าที่พี่ไก่รับมัจฉาไว้เป็นเพราะหวังจะได้เงินทุกเดือนที่เขาสัญญาว่าจะส่งมาให้
ถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องที่ทำงาน และย้ายบ้านใหม่ เขาคงพาลูกไปด้วย เขาอยากจะตามไปอาละวาดเมียที่อยู่กันมาจนลูกโตขนาดนี้
ยังมาทิ้งกันไปง่ายๆ เพียงเพราะเขามันจน แม้จะไม่มีทางเลือกมากนัก แต่ปูเชื่อว่าสักวันที่เขาอยู่ตัวแล้วเขาจะมารับลูกกลับไป
ตอนนี้เขาเองก็ลำบากเกินกว่าที่จะพาลูกไปด้วยแม้จะไม่เห็นทางว่าเขาจะได้มารับลูกกลับไปอยู่ด้วยกันตอนไหน
แต่เขาก็ยังหวังว่าเงินก้อนสุดท้ายที่ให้พี่สาวไว้คงช่วยให้พี่สาวดูแลลูกชายคนเดียวของเขาได้อีกเป็นปี
..............................................
“พ่อแกมันขี้โม้ มันไม่เคยส่งเงินมาให้ แล้วแกกล้าที่จะมาแบมือขอเงินฉันเหรอไอ้เด็กเวร “
“เอะอะอะไรกันห้ะ! รำคาญ “
เสียงชายวัยกลางคน ที่เดินโซเซเข้าบ้านมา กลิ่นคละคลุ้งไปด้วยแอลกอฮอ ทำให้เด็กชายต้องเบือนหน้าหนี
วันนี้ที่โรงเรียนครูให้ทำดินน้ำมันไปส่ง แต่เขาไม่มีอุปกรณ์ต้องขอเงินป้าไก่เพิ่ม ผลก็เป็นอย่างที่เห็น ตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่
งานบ้านทุกอย่างเขาต้องทำทั้งหลังเลิกเรียนและก่อนไปเรียน เงินไปโรงเรียนไม่เคยได้สักบาท
อย่าหวังว่าจะได้เงินไปซื้อขนมกินเหมือนเพื่อนๆ ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรเสียงแหลมแสบแก้วหูก็ดังออกมาจากอีกห้องของบ้าน
“นี่ไอ้ปลา แกรีดเสื้อฉันยังไงเนี่ยห้ะ!! วันนี้ฉันต้องไปปาร์ตี้ กับเพื่อนแกไปรีดมาใหม่เดี๋ยวนี้เลย “
“มันรีดยากนะพี่กุ้ง ผมรีดดีที่สุดแล้ว”มัจฉาเอ่ยเสียงเบาทุกครั้งที่พี่กุ้งโกรธเขาจะเจ็บตัวเสมอ
“โอ๊ย!!”หญิงสาวตรงเข้าไปดึงแขนเล็กๆนั่นมาบีบสุดแรงและใช้เล็บหยิกเข้าไปในเนื้ออ่อนของเด็กน้อยสุดแรง
“แกอย่ามาอ้าง ไม่ต้องมาเถียงมาอาศัยบ้านเขาต้องทำงานแลกที่อยู่ไม่ใช่ทำงานลวกๆแบบนี้ แม่คะ กุ้งยืมตัวไอ้ปลาก่อนนะแม่ “
“เออๆ อย่าไปตีมันนักล่ะ เดี๋ยวป่วยมาต้องพาไปหาหมออีกเปลือง”
มัจฉาถูกญาติผู้พี่ลากตัวเข้าไปอีกห้องแม้จะเจ็บแสนเจ็บแต่เด็กน้อยก็ไม่ร้องสักแอะเดียว เขาร้องมาพอแล้ว
กี่ปีแล้วที่เขาถูกปฏิบัติราวกับเป็นคนใช้ของบ้าน เป็นที่รองรับอารมณ์เวลาป้าไก่เสียไพ่ เป็นกระสอบทรายเวลาลุงต๋อยเมา
และเป็นลูกไล่ให้พี่กุ้งลูกสาวของป้าแล้วแต่อารมณ์เธอจะจิกหัวใช้ พ่อไม่เคยกลับมา ไม่ได้รับการติดต่ออะไรเลยวันนี้
ป้าไก่คงเสียไพ่ตามเคย นอกจากจะไม่ได้เงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนแล้วมัจฉายังโดนพี่กุ้งลากออกจากบ้าน มาช่วยถือของ
แต่เรียกว่าช่วยคงไม่ถูกนัก เพราะมีแต่มัจฉาที่หอบหิ้วของพะรุงพะรังเพียงคนเดียว
ทุกครั้งที่พี่กุ้งมีปาร์ตี้ เด็กชายเสมือนว่าเป็นคนรับใช้ ที่แล้วแต่ญาติผู้พี่จะใช้ ทั้งต้องทำกับข้าว ช่วยดูแลเพื่อนๆของเธอ
และเก็บกวาดเวลาเธอและเพื่อนๆทำเลอะเทอะ หากทำไม่ถูกใจ ผลที่ตามมาคือเจ็บตัว เขายังเด็กเกินที่จะสู้กับคนพวกนี้
ที่สำคัญเขาเด็กเกินไปที่จะออกไปเผชิญโลกภายนอกตามลำพังอย่างที่เคยคิด เขาเฝ้ารอพ่อ ที่เคยสัญญาว่าจะกลับมารับเขา
แม้ว่าความหวังแทบจะเป็นศูนย์ก็ตาม
คล้อยหลังเด็กชายที่ออกจากบ้านไปเพียงไม่นาน หญิงสาวร่างเล็กก็ปรากฏตัวที่หน้าบ้านพร้อมกับชายรูปร่างล่ำสัน ท่าทางน่ากลัวสองคน เธอเดินเข้าบ้านราวกับคุ้นเคยมานาน
“พี่ไก่หวัดดีค่ะ “นิ้วเรียวกรีดกรายยกมือไหว้คนสูงอายุกว่าอย่างไม่เต็มใจนัก
“อ้อ ..กูก็นึกว่าใคร มาก็ดีเลยเอาเงินมาให้กูเหรอ นึกว่าหายสาปสูญไปแล้วซะอีก”
หญิงวัยกลางคนว่าพลางทำเสียงเยาะหยันเมื่อเห็นว่าแขกผู้มาเยือนเป็นใคร
“เงินอะไรล่ะพี่ไก่ พี่คงจะเข้าใจผิด พี่ต่างหากที่ต้องเอาเงินมาให้ฉัน เมื่อวานหนีออกมาจากบ่อนเสี่ยชัยโดยไม่จ่ายนี่ถือว่าพี่กล้ามากนะ “
หญิงวัยกลางคนชะงักพลางมองไปที่ ผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง และรู้ได้ทันทีว่าอดีตน้องสะใภ้ไม่ได้มาดีแน่ๆ
“แกจะทำแบบนี้ไม่ได้นะฟาง ตอนนี้ไอ้ปลามันอยู่กับฉันๆเลี้ยงลูกให้แกนะ ! “
“ลูกอะไร ไม่เกี่ยวกับฟาง พี่ปูเขาดูของเขาเองพี่ไก่ก็ไปทวงเอากับพี่ปูโน่น แต่ถ้าพี่ไก่ไม่เอาเงินมาให้ฟางวันนี้
อย่าหาว่าฟางไม่เตือนนะพี่ นี่เสี่ยชัยเขาปราณีพี่นะเห็นว่าเราคนเคยรู้จักกันมาก่อน ฟางเลยมาทวงดีๆ อย่าให้ต้องลงไม้ลงมือนะพี่ไก่”
“ฉันไม่มีเงินหรอกนะฟาง ไหนจะค่าเทอมไอ้กุ้ง ค่าเลี้ยงไอ้ปลา ค่าใช้จ่ายเยอะแยะ ขอเวลาฉันหน่อยนะ “
หญิงวัยกลางคนเริ่มใช้เสียงอ่อน เพราะคงต่อกรไม่ไหวเมื่อเห็นว่าอดีตน้องสะใภ้ทำงานให้ใคร
“อย่ามัวลีลาเลยพี่ไก่ฟางรู้ว่าพี่มี ..นี่แกสองคนจับตัวไว้เดี๋ยวฉันจัดการเองเสียเวลาคุย”
ฟางหันไปสั่งผู้ชายสองคนให้จับ ร่างของอดีตพี่สามีไว้ เธอเดินเข้าบ้านตรงไปยังห้องนอนของเจ้าของบ้านที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ผู้ชายร่างยักษ์สองคนช่วยกันลากร่างของเจ้าของบ้านตามขึ้นมาติดๆ
“อย่านะ อีฟาง มึงจะทำแบบนั้นไม่ได้ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ อีเนรคุณ! “
ถ้อยคำด่าทอไม่ได้ทำให้หญิงสาวผู้มาเยือนสะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเธอเข้าไปรื้อค้นกล่องเก็บทรัพย์สินของอดีตพี่สามี
อย่างรู้ดีว่ามีอะไรซ่อนอยู่ตรงไหน สร้อยทองแหวนทอง เงินสดอีกจำนวนหนึ่งถูกกวาดออกมาจากลิ้นชักหัวเตียง ลงถุงที่เธอเตรียมมา
ชายวัยกลางคนที่สลืมสะลือเพราะน้ำเมารู้สึกตัวตื่นมาเห็นผู้บุกรุกจึงกระโจนเข้าใส่หมายจะทำร้ายคนบุกรุกแต่ด้วยสภาพร่างกาย
และความเมา ทำให้โดดผิดจุดพุ่งตัวเองไปปะทะเข้ากับโคมไฟหัวเตียง
โครม!!!
เพล้ง!!!!
"ว้าย..พี่ต๋อย!!"เสียงหญิงเจ้าของบ้านร้องเสียงดังตามร่างที่ทรุดลงกองอยู่ข้างเตียง
ร่างนั้นแน่นิ่งไป ฟางไม่ได้สนใจ ชายขี้เมาคนนั้นอีก ตั้งใจกวาดเอาเครื่องประดับและเงินสดลงถุงก่อนจะเดินออกมาหาชายสองคนที่ยังหิ้วปีกเจ้าของบ้านอยู่หน้าประตู ห้อง
“พี่ต๋อย!! “
ป้าไก่ร้องเสียงดังเมื่อเห็นสามีแน่นิ่งไปและไม่ลุกขึ้นมาสักที ทันทีที่แขกผู้มาเยือนออกจากบ้านไป
เธอถลาเข้าหาร่างที่นอนนิ่งทับโคมไฟหัวเตียงอยู่ก่อนจะจับร่างของสามีพลิกออกมาจากตรงนั้น และเธอแทบสิ้นสติ
เมื่อเห็นของเหลวสีเข้มไหลอาบไปทั่วบริเวณ เศษโคมไฟแหลมคมที่แตกจากการล้มทับลงไปของชายขี้เมา
เสียบแทงเข้าที่ลูกกระเดือกด้านหน้าลึกลงไปจนบาดเอาหลอดลมของสามีเธอ ความตื่นตระหนกทำให้เธอสิ้นสติอยู่ตรงนั้น
กว่าที่ลูกสาวและมัจฉาจะกลับมาบ้าน สามีของเธอก็หมดลมหายใจแล้ว
……………………………………
งานศพถูกจัดขึ้นอย่างง่ายๆตามมีตามเกิด ญาติพี่น้อง ที่มาร่วมงานไม่ได้ มีมากมายนัก หญิงวัยกลางคนที่เหม่อลอยนั่งนิ่งหน้าโลงศพ
พร้อมกับเด็กสาวหน้าตาสะสวยนั่งอยู่ข้างๆ ส่วนคนที่ดูแลแขกที่มางานศพกลับเป็นเด็กชายอายุแค่ เก้าขวบ ท่าทางคล่องแคล่ว
ที่เสิร์ฟน้ำจัดหาเก้าอี้ให้คนที่มาฟังพระสวดฟัง มันดูน่าเอ็นดูในสายตาคนนอก ที่เด็กแค่นี้กลับทำหน้าที่แทนผู้ใหญ่ที่นั่งไม่ได้สติอยู่หน้าโลงศพ แต่เด็กน้อยกลับเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ
“สวัสดีค่ะพี่ไก่”เสียงใสๆดังขึ้นข้างๆก่อนที่หญิงวัยกลางคนจะหันไปมอง
“แก ...”
“ฉันจะมาเตือนพี่ไก่ว่า อย่าได้เอาเรื่องฉันหรือไปแจ้งความ ไม่งั้นนังกุ้งมันไม่อยู่ดีแน่ ฉันจะเอามันไปขัดดอกกับเสี่ยชัยหรือเอาไปปล่อยไว้ซ่องของเสี่ยชัยดีล่ะ คิดดูดีๆนะพี่ไก่”
เสียงกระซิบเบาๆข้างหูให้ได้รู้กันแค่สองคน ทำให้ป้าไก่หน้าซีดเผือด
“เอ้า วันนี้ฟางเป็นเจ้าภาพสวดให้นะ แล้วนี่ก็พวงหรีดจากเสี่ยชัย เห็นว่าพี่เป็นลูกค้าประจำนะเนี่ยเสี่ยเขาเลยทำบุญด้วยน่ะ “
หญิงสาวพูดพพลางยิ้มเหยียดให้กับอดีตพี่สามีก่อนจะลุกขึ้นยืนตรียมตัวออกจากงาน แต่ขณะที่ กำลังจะเดินออกมาเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งก็เดินเข้ามายืนขวางเธอเอาไว้
“แม่ฟาง !”
“ปลา.เหรอ? ...ทำไมลูกมาอยู่ที่นี่พ่อแกไปไหน”หญิงสาวเอ่ยถามเสียงเบาพลางเหลียวมองรอบกายอย่างลุกลี้ลุกลน
“พ่อไปทำงาน แต่ไม่กลับมานานแล้ว แม่ฟางปลาไปกับแม่ฟางได้ไหม ฮึก ..ฮือ ปลาคิดถึงแม่ฟาง “
“อย่าเดินเข้ามานะ หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้ ฉันไม่ใช่แม่แก “
หญิงสาวรีบปฏิเสธเสียงหลง เพราะคนของเสี่ยอยู่ข้างๆเธอ คู่หมั้นคู่หมายที่พ่อของเธอหาไว้ให้ ถ้าเขารู้ว่าเธอมีลูก หลายๆอย่างที่ทำอยู่คงพังไม่มีชิ้นดี
“แม่ฮะ นี่ปลาไงฮะ ปลาลูกแม่ฟางไง ฮือ..”
“ไอ้เด็กนี่ พูดไม่รู้เรื่อง “
หญิงสาวสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเด็กน้อยก่อนจะเดินลิ่วไปที่รถพร้อมกับคนของเธอ
ปล่อยให้เด็กน้อย นั่งร้องไห้อย่างที่คิดไม่ออกว่าทำไมแม่ไม่ต้องการ ทำไมพ่อทิ้ง ทำไมไม่มีใครรักเขาเลยสักคน
.....................................
สงครามนั่งนิ่งไปนานเมื่อฟังจากมัจฉาเล่ามาคร่าวๆ เด็กชายอายุแค่ 5 ขวบ ที่ต้องทนทำอะไรแบบนั้น จนอายุถึง10 ขวบ เป็นความอดทนที่ถ้าเป็นเขาคงไม่สามารถที่จะทนได้ขนาดนั้น
“พี่กุ้งบอกว่าเขาคนนั้นเป็นแม่ผม ลุงต๋อยตายเพราะแม่ เงินของป้าไก่แม่ก็เอาไปหมดทำให้ป้าไก่กับพี่กุ้งต้องลำบาก
เพราะฉะนั้น คนที่ต้องชดใช้คือผมที่เป็นลูก ในตอนนั้นผมคิดแค่ว่าผมจะชดใช้ให้เขาได้แบบไหนบ้าง
ผมเลยยอมเขาทุกอย่างไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับผม ผมโดนตีทุกวัน ทั้งจากป้าไก่และพี่กุ้ง ผมต้องไปทำงานที่ตลาดเข็นผักบ้าง
ล้างรถหรืออะไรก็ตามที่มีคนจ้างเด็กแบบผมๆไปหมด ค่าจ้างพี่กุ้งจะเป็นคนเก็บ”
“แล้วพ่อล่ะปลา..พ่อล่ะ “สงครามถามเสียงเครือเขาสงสาร เด็กคนนี้ ตอนนั้นจะเจ็บปวดแค่ไหนกัน
“พ่อหายไป จนมีเรื่องที่พี่กุ้งเอาผมไปขายให้ผู้ชายคนหนึ่ง เขาซื้อผมไป เพื่อ...”
ถึงตอนนี้มัจฉากลืนน้ำลายและมองหน้าสงครามแววตาตื่นกลัวยังเต้นไหวระริก
“ผมถูกขังไว้ในบ้านหลังนั้นหลายวัน ผมเกือบถูกข่มขืนแต่มีคนช่วยผมออกมาจากที่นั่น เขาปล่อยให้ผมหนีออกมา ..ผมมีเงินแค่100 บาทกับที่อยู่ของพ่อที่พี่ชายคนนั้นช่วยผมเอาไว้ ผมไม่รู้หรอกว่า พี่เขารู้จักพ่อได้ยังไง แต่ผมก็ตามหาพ่อตามที่อยู่ที่เขาให้มาจนเจอ “
สงครามรั้งเอาร่างบางมากอดเอาไว้แนบอก เขารับรู้ว่ามัจฉากำลังสั่น มัจฉาเจอเรื่องแบบนั้นมา เขากลับเอาแต่ฉวยโอกาสเอาแต่ใจ โดยไม่ได้นึกถึงจิตใจของอีกคนเลย
“พี่ขอโทษปลาพี่ขอโทษนะ “
“ขอโทษผมทำไมครับ คุณสงครามไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยนี่นา”
มัจฉาเงยหน้าออกมาจากอ้อมอกแกร่งนั่นพลางมองหน้าคนตัวโตด้วยแววตาฉงน เขาไม่เข้าใจว่าคุณสงครามจะขอโทษเขาทำไม
“แล้วทำไมตอนนี้ปลาถึงอยู่คนเดียวล่ะ “
สงครามไม่ตอบแต่เขากลับสงสัยว่าในเมื่อมัจฉาเจอพ่อแล้ว ทำไมตอนนี้พ่อของมัจฉาไปอยู่ที่ไหนกันถึงได้ทิ้งให้เด็กน้อยคนนี้ต้องเผชิญโลกตามลำพัง
มัจฉาเล่าเรื่องพ่อกับคุณมุก พร้อมทั้งเรื่องที่ต้องตัดสินใจมาอยู่คนเดียว ให้สงครามฟังเพราะเขาไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตในบ้านหลังนั้นอีก ที่สำคัญ พี่กุ้งกับป้าไก่คงเอาเขาไปขายที่เดิมและคราวนี้เขาคงไม่โชคดีเหมือนครั้งนั้นอีก
“ผมไม่เป็นไรหรอก ผมชินแล้ว พ่อก็มีเหตุผลของพ่อ สักวันผมคงจะได้รู้ว่าเหตุผลของพ่อคืออะไร แต่ตอนนี้ผมโตแล้ว
เรื่องที่ผ่านมาผมถือว่าผมชดใช้คืนหมดแล้วกับเรื่องที่ผมไม่ได้ก่อ ผมไม่ได้บอกใคร ไม่ได้บอกพ่อ.เพราะผมอยากให้มันจบ
ผมแค่กลัวว่า พี่กุ้งจะมาทำเรื่องวุ่นวายกับครอบครัวคุณ แค่ผมน่ะไม่เป็นไรเลย ผมเป็นห่วงคุณหนู...เป็นห่วง..คุณ”
คำสุดท้ายแม้จะแผ่วๆ แต่สงครามกลับได้ยินชัดเจน และเสี้ยวหน้าที่ขึ้นสีเรื่อๆทำให้เขาดีใจจนอดที่จะรัดอ้อมกอดเข้าแน่นๆอีก เขาแน่ใจแล้วว่าเขารักถูกคนแล้ว
“ต่อไปมีอะไรบอกพี่เลยนะ ปลาไม่ได้ตัวคนเดียวเมหือนก่อนแล้วนะ อย่ากลัวอีกเลยนะ พี่ไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรปลาอีกแล้ว เชื่อใจพี่ไหม..ปลา”
“ขอบคุณครับ ผมไม่กลัวแล้วผมโตแล้ว คงไม่ยอมให้ใครมารังแกง่ายๆอีก แต่ผมกลัวว่าเขาจะเล่นไม่ซื่อ ผมรู้จักพี่กุ้งดี ผมเป็นห่วงว่า..”
“ไม่เอาสิ อย่าคิดมาก แค่ปลาสัญญาว่าจะไม่ไปไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อยู่กับพี่กับลูกได้ไหม นะ..”
สายตาอ้อนวอน ราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปจริงๆ ทำให้มัจฉาอดที่จะหัวใจพองโตไม่ได้ มันรู้สึกดีเมื่อมีคนเห็นค่า
“ไม่สัญญาหรอก เอาเป็นว่าถ้าคุณสงครามไม่ไล่ผมออกผมก็จะไม่ไปไหนดีกว่าไหมครับ...ปล่อยผมได้แล้วครับ จะไปช่วยยายกิ่งเก็บของพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า “
“หึหึ..ไม่มีวันนั้นหรอก...อ้อต่อไปปลาไม่ต้องมาปลุกพี่ก็ได้นะ “
“ทำใมล่ะครับ?”
“ก็ปลาเหนื่อยนี่ พี่ไม่อยากเอาเปรียบปลา”
“ไม่เป็นไรครับ ผมทำได้นะ คุณสงครามนอนเถอะ ผมจะลงไปตรวจความเรียบร้อยสักหน่อยก่อนนอน “
“พึ่งจะหนึ่งทุ่มเองจะรีบนอนไปไหน งั้นพี่เข้าไปดูลูกก่อน เดี๋ยวตามลงไป ฝากชงกาแฟให้พี่หน่อย เดี๋ยวธรกับรันจะมา มีงานนิดหน่อยนะ “
“อ้าว ถ้างั้นทำของว่างสักหน่อยก็ดีนะครับเผื่อหิวเดี๋ยวผมทำให้ “
“ตามใจปลาเลย พี่ไปดูลูกละ...ฟอดดด ”
“อ๊ะ.!!.. “มัจฉาได้แต่อ้าปากค้างเมื่อคนตัวโตขโมยหอมแก้มแล้วเดินตัวปลิวเข้าห้องลูกไป คนอะไรเผลอไม่ได้เลยสิน่า
ออดดดดดดดดดดด!
ก่อนที่มัจฉาจะทันได้บ่นพ่อคนฉวยโอกาส เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้นจนต้องละจากทิศทางที่กำลังจะเดินเข้าครัวต้องเดินไปที่หน้าบ้านแทน
“มากันเร็วจัง"
มัจฉาพูดกับตัวเองเบาๆเพราะยังไม่ทันได้เตรียมทำอะไรไว้ให้กินเลย แต่ก็ดีถามเจ้าตัวไปเลยว่าอยากกินอะไรกันจะได้ทำถูกใจด้วย
มัจฉาเดินออกมาที่ประตูบ้านพร้อมรีโมทฯ เพื่อเปิดประตูพร้อมทักทายแขกผู้เป็นเพื่อนของเจ้าของบ้าน
แต่มัจฉาก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านกลับเป็นหญิงสาวหน้าตาดีแต่งกายเซ็กส์ซี่ราวกับจะขึ้นปกนิตยสารแทนที่จะเป็นคุณธรกับคุณรัน
“เธอเป็นใคร เดียวอยู่บ้านไหม “
เสียงหวานใสเอ่ยถามพลางมองมาที่มัจฉาด้วยหางตาใบหน้าเชิดขึ้นเหมือนจะไม่อยากจะมองหน้ากัน แต่ก็ถามถึงเจ้าของบ้าน
“คุณสงครามอยู่ครับ จะให้บอกว่าใครมาหาครับ”
มัจฉาคิดว่าคงเป็นแขกที่จะมาพร้อมกับพวกคุณธรหรือเปล่านะ แต่คุณสงครามไม่ได้บอกไว้นี่นา บอกว่าแค่คุณรันกับคุณธร
“เปิดประตูสิฉันจะเข้าบ้าน “เสียงแหลมตวาดใส่คนที่กำรีโมทฯยืนอยู่ข้างใน
“ผมต้องเรียนคุณสงครามก่อนนะครับ รบกวนคุณบอกชื่อมาด้วย ผมจะได้บอกถูกถ้าไม่บอกชื่อผมคงเปิดประตูให้ไม่ได้ครับ”
มัจฉาพยายามใจเย็นกับแขกยามค่ำเช่นนี้
“หึ.. ฉันชื่อมายา เป็นแม่ของมาเฟีย ทีนี้จะเปิดประตูให้ฉันได้หรือยัง "
.
.
.
.
TBC..........................
อ่า....กลิ่นมาม่าโชยมาแต่ไกลๆ ชอบแบบแห้งหรือหม้อไฟ แจ้งมาได้เลย 555555
เวลามีเรื่องมันมักจะมาพร้อมๆกันเนาะ เป็นสิ่งที่จะพิสูจน์ว่า คนเราจะมีความอดทนและแข็งแกร่งแค่ไหน
เรื่องนี้พันวาตั้งไว้ไม่ยาวมากนะคะ จะราวๆเรื่องไร้ใจ คือ 25 ตอน ประมาณนั้น แต่นี่ก็ครึ่งทางแล้วสินะ
อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่แรก เรื่องนี้ไม่มาม่า นา เนอะ อิอิ มีแค่พอเป็นกระสัยให้หายเลี่ยน :hao6: :hao6:
ขอบคุณคนอ่านที่ยังติดตามกันอยู่ ขอบคุณคนเม้นท์ที่เข้ามาเม้นท์ให้กำลังใจ อันนี้เวลาเห็นคนเม้นท์มามันฮึดมากเลยนะ
จากเจ็บๆแขนอยู่พันวานี่ลุกขึ้นมาพิมพ์ๆๆๆๆๆๆ เสร็จแล้วไปแปะพลาสเตอร์บรรเทาปวดทีหลังได้ :sad11: :sad11:
ตอนนี้จะเป็นมัมมี่ละ 55555ทั้งตัวมีแต่พลาสเตอร์แก้ปวดโดยเฉพาะที่แขน
ขอบคุณทุกคนที่ยังอ่านนิยายของพันวาอยู่น้า.. :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ตอนที่ 14.... เมื่อฝนกระหน่ำ....
สงครามยืนมองหน้าอดีตภรรยาที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วยความไม่เข้าใจ เขาลงจากห้องของลูกชายมาก็เจอแขกที่เขาคาดไม่ถึง
นั่งอยู่ในห้องรับแขกโดยมีกันธรกับการันต์นั่งอยู่ด้วย เขามองหาอีกคนไม่เจอคงจะอยู่ในห้องครัว
“เดียวคะ มายาคิดถึงเดียวมากนะคะ เดียวคิดถึงมายาไหม”
ร่างเพรียวบางลุกขึ้นยืนเยื้องย่างกรายเข้าหาเจ้าของบ้านพลางกอดแขนสงครามเอาไว้แล้วซบหน้าลงกับต้นแขนแกร่งของเขา
ราวกับคิดถึงนักหนา ส่งเสียงหวานใสทักทายทั้งยังชะม้ายชายตาส่งให้อดีตสามี ที่เธอคิดว่าชาตินี้ทั้งชาติสงครามก็ยังรักเธอไม่เปลี่ยนแปลง
เพราะถ้าไม่รักเธอแล้ว ผ่านมาตั้งหลายปี ทำไมสงครามไม่มีใครข้างกายเลย นั่นคงเพราะรอเธออยู่แน่นอน การกลับมาคราวนี้มายา มั่นใจว่าสงครามต้องให้อภัยเธอ
“หน้าด้านจริงๆ “
เสียงที่ไม่ได้ออกจากปากของคนอย่างสงครามแน่นอน มายาหันขวับไปหาร่างบางที่นั่งกอดอกหน้าเชิดอยู่ข้างๆกันธร คู่กัดตลอดกาลของเธอ
“ใครหน้าด้าน แกเหรอ เป็นผู้ชายน่ะดีอยู่แล้ว ยังคิดเป็นตุ๊ดเป็นกระเทย หึหึคิดจะเอาสามีฉันทำผัวเธอเหรอ หน้าด้านจริงๆ”
“มายา!!”
สงครามเริ่มจะหงุดหงิดเขาไม่เข้าใจการกระทำของอดีตภรรยาตอนนี้เอาซะเลย ภาพในวันนั้นมันยังชัดเจน และแน่นอนคนอย่างเขา ไม่เคยลืมว่าแม่ของลูกคนนี้ทำอะไรเอาไว้
“ก็เดียวดูสิคะ มันด่ามายาก่อนนะ “
เสียงกระเง้ากระงอดทำปากยื่นหน่อยๆที่แต่ก่อนสงครามคิดว่ามันน่ารักนักหนา แต่นอนนี้เขากลับนึกแขยงสิ่งที่อดีตภรรยากำลังทำ
ตั้งแต่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมา เขาไม่เคยเห็นความหยาบของผู้หญิงคนนี้ชัดเท่าวันนี้เลยสักครั้ง
สงครามแกะมือเล็กๆออกจากแขนเขาแล้วหันไปหาเพื่อนสองคนที่นั่งอยู่ข้างๆกัน
“ปลาล่ะ”
“เข้าครัว บอกจะทำของว่างให้”
กันธรตอบก่อนจะปลายตาไปหาเพื่อนสาวคนสนิทของเขาอีกคนอย่าว่าแต่สงครามเลย เขาเองก็นึกไม่ถึงว่ามายาจะเป็นคนแบบนี้
เขารู้จักมายาที่สวยหวานน่ารัก แต่มายาวันนี้ทำให้เขาต้องหันกลับมามองเพื่อนอีกคน ที่เคยบอกเขาตลอดเวลาว่า
มายา ไม่ได้รักสงครามเลยและมายาไม่ได้น่ารักอย่างที่ใครๆรู้จัก การันต์ที่นั่งพิงพนักโซฟามือกอดอกยกขาขึ้นไขว่ห้างหน้ามองตรงไป
ไม่สบตาใคร แต่สันกรามที่นูนขึ้นข้างแก้มทำให้กันธรรู้ว่า การันต์กำลังอดทนอย่างมาก
“กูขอคุยกับมายาสองคนได้ไหม พวกมึงไปรอกูที่ห้องทำงานไป “
“แต่เดียวกูไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้”
การันต์ไม่คิดจะปล่อยทั้งคู่ให้อยู่ด้วยกัน มายาทำอะไรได้มากกว่าที่สงครามและกันธรคิด เขาที่เคยเจอมากับตัวเองแล้วรู้ดีว่า
ผู้หญิงคนนี้งูพิษชัดๆ และที่สำคัญ เพื่อนเขารักผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหนเขารู้ดี เขากลัวเพื่อนใจอ่อน
“เชื่อใจกูรัน”สงครามบอกเพื่อนเสียงเครียดเขาไม่อยากให้การันต์อารมณ์เสียเพราะเวลาที่การันต์โกรธใครก็ห้ามไม่อยู่
“หึ โดนไล่แล้วยังไม่สำนึกพวกผิดเพศก็งี้แหละ เฮอะ”
“มายา! ขอโทษรันเดี๋ยวนี้”
“เดียวคะ !”
“ผมบอกให้คุณขอโทษเพื่อนผม ถ้าไม่ก็ออกจากบ้านผมไป !“เสียงตวาดแข็งกระด้างจนคนฟังรู้สึก
“เดียว....”
หญิงสาวครางในลำคออย่างไม่เชื่อหู ก่อนจะตวัดสายตาไปมองคนที่จ้องกัดเธอมาตลอด เธอจะคิดว่ายอมนิดหน่อยเพื่อสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่
เป้าหมายไม่ได้มาทะเลาะกับอดีตเพื่อน แต่มาเพื่อทวงตำแหน่งภรรยาคืน
“ขอโทษ”
เสียงห้วนสั้น แม้ไม่เต็มใจ แต่ก็ทำให้การันต์ยิ้มออก แค่นี้เขาก็พอจะเบาใจได้ว่า สงครามไม่คิดกลับไปกินของเน่าต่ำตมแบบนั้นอีกแน่นอน
เขาปรายตามองเหยียดให้กับผู้หญิงที่เขาบอกได้เต็มปากว่าเกลียดเข้าไส้ก่อนจะเดินออกจากห้องรับแขกตามกันธรออกไป
“เอาล่ะ ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน “
“แหม..อย่าพูดซะดูห่างเหินขนาดนั้นสิคะเดียว มายายังรักเดียวอยู่นะคะ “
“หึหึ ผมชักจะเห็นด้วยกับรันนะ “
หญิงสาวหน้าตึงแทบจะทันที ที่สงครามพูดจบ แต่เธอจะแสดงออกไม่ได้ไม่อย่างนั้นเธอจะพลาด
แม้จะขัดใจที่จะกลับมาง้อขอคืนดีกับสงครามมเพราะเอาตามจริงแล้วเธอไม่เคยรักผู้ชายคนนี้เลย
ตอนที่แต่งงานด้วยเพราะพลาดท่ามีลูกและตอนนั้นสงครามจัดว่าเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมคนหนึ่งทั้งหน้าตาและฐานะทางการเงินและทางสังคม
ใครจะไปรู้ว่าเพียงไม่กี่ปีผู้ชายเพอร์เฟคคนนี้จะเหลือแต่ตัว และที่เลวร้ายที่สุดตอนนี้ครอบครัวเธอกำลังแย่
และสามีคนปัจจุบันก็ไม่ได้ช่วยอะไรครอบครัวเธอเลย เธอกำลังโดนฟ้องหย่า ซึ่งตอนนี้กำลังปิดข่าวให้เงียบที่สุด
หากเธอสามารถขอคืนดีกับสงครามได้ ทุกอย่างก็จะราบรื่น เธอมีมาเฟียต่อรองอยู่แล้วแน่นอนคนรักลูกอย่างสงครามต้องใจอ่อนแน่นอน
“มายาขอโทษนะคะเดียวมายาผิดไปแล้ว แต่มายาทำตามพ่อกับแม่นะคะ มายาโดนบังคับที่ต้องทำแบบนั้น
มายาคิดถึงเดียวนะคิดถึงลูกด้วย นะคะเดียวให้โอกาสมายานะคะ “
มายาโผเข้ากอดร่างสูงของอดีตสามีเอาไว้ พลางซบหน้าลงกับอกแกร่งที่ยังยืนนิ่งไม่หือไม่อือใดๆกับเธอ
“คิดถึงลูกเหรอ..หึ ผมไม่อยากเชื่อว่าคำนี้คุณยังจะกล้าพูดนะมายา แล้วสามีคุณล่ะ “สงครามพยายามไม่เสียงดังไม่ชวนทะเลาะ เพราะเขากลัวลูกตื่นเขายังไม่อยากให้ลูกเจอกับแม่ตอนนี้
“มายาขอหย่ากับเขาแล้วค่ะ เขาไม่ยอมหย่าแต่เขานอกใจมายา คงไม่นานหรอกค่ะ นะคะเดียว อย่าห่วงเรื่องนั้นเลย มายาจัดการได้”
“มายาฟังนะ ผมไม่ได้กีดกันถ้าคุณจะมาหาลูก เพราะยังไง มาเฟียก็เป็นลูกของคุณ”
“จริงเหรอคะ เดียวให้โอกาสมายานะคะ ดีใจจังเลย มายารักเดียวที่สุดเลยค่ะ”
หญิงสาวแทบจะกระโดดโลดเต้นเมื่อสงครามพูดจบ เธอเขย่งตัวขึ้นจุ๊บแรงๆที่มุมปากของคนตัวโต สงครามถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะ
ใช้สองมือดันตัวอดีตภรรยาให้ออกห่าง
“ผมยังพูดไม่จบ คุณจะมาหาลูกได้ ตลอดเวลาที่คุณอยากมา ย้ำนะมายา มาหาลูก แต่เรื่องระหว่างเรามันจบลงไปตั้งแต่
ห้าปีที่แล้ว มันจบตั้งแต่วันที่คุณออกจากบ้านหลังนี้ไปวันนั้น และไม่มีวันที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก “
“ทำไมคะเดียว หรือว่าเดียวเอาไอ้รันทำเมียจริงๆ มายาไม่ยอมนะ แล้วลูกล่ะ ลูกจะอับอายคนแค่ไหนที่มีพ่อเป็นเกย์เอากระเทยทำเมีย เดียวบ้าไปแล้วเหรอ”
เสียงแหลมแทบจะกรีดร้องเมื่อโดนอดีตสามีปฏิเสธ ทำไมกัน เธอก็ยังสาวยังสวยและเป็นคนที่สงครามรักมากที่สุด เธอจะแพ้เกย์อย่างการันต์ได้ยังไง
“อย่าพาลคนอื่นมายา ต่อให้ผมมีเมียเป็นผู้ชายแล้วยังไง นั่นยิ่งตอกย้ำว่าผมกับคุณมันเป็นไปไม่ได้แล้ว ส่วนเรื่องลูก อย่าลืมสิ คุณเซ็นมอบมาเฟียเป็นสิทธิ์ขาดให้ผมแต่เพียงผู้เดียว อย่าหาว่าผมใจร้ายถ้าคุณยังพูดไม่รู้เรื่องผมจะใช้อำนาจศาลบังคับคุณนะมายา “
“แต่เดียวคะ มายาไม่ได้ตั้งใจนะ พ่อกับแม่บังคับมายา เรารักกันนี่คะเดียวจะไม่ให้โอกาวสเมียเลยเหรอคะ”ว่างพลางกอดร่างสูงเอาไว้แน่น เธอจะไม่ยอมแพ้หรอก
“ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะมายา กลับไปซะ ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนกับผมอยู่ และถ้าคุณรักลูกจริง วันนั้นคุณจะไม่ทิ้งเราสองคนไป
สิ่งที่คุณทำเด็กอมมือยังรู้เลยว่าหมายความว่ายังไง คุณมันเห็นแก่ตัวมายา “
เสียงราบเรียบไม่บอกอารมณ์ใดๆของคนพูดแต่มายารู้จักอดีตสามีของเธอดี เวลาแบบนี้เธอจะดื้อดึงไม่ได้ ถอยไปตั้งหลักก่อน
แล้วค่อยคิดวางแผนใหม่ สิ่งที่เธอกังวลคือการันต์ หรือไม่ก็ไอ้เด็กคนที่เปิดประตูให้เธอ สายตาของสงครามที่มองตามร่างเพรียวนั่น
ยกถาดของว่างเข้าไปที่ห้องรับแขกมันทำให้เธออดที่จะระแวงไม่ได้เลย เพราะสงครามไม่เคยมองการันต์ด้วยสายตาแบบนั้น
หรือที่ผ่านมาเธอพลาดอะไรไป วันนี้กลับไปก่อนท่าจะดี ไปหาข้อมูลให้ชัดๆว่าสงครามกับการันต์และไอ้เด็กคนนั้น เกี่ยวพันกันแบบไหน
อย่าได้คิดว่าคนอย่างเธอจะยอมแพ้
“ก็ได้ค่ะ มายากลับไปก่อนก็ได้ แต่พรุ่งนี้มายาจะมาใหม่นะคะ จะมาหาลูก มายาคิดถึงลูกหวังว่าเดียวคงไม่ใจร้ายแยกเราแม่ลูกนะคะ “
“ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณทำเลยมายา แต่ผมบอกได้อย่างเดียวว่า เรื่องของเรามันจะไม่มีวันหวนคืน”
“อย่าคิดว่ามายาจะยอมแพ้นะคะเดียว มายาทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด “
มายาได้แต่กัดฟันอยู่ข้างใน เรื่องแค่นี้ทำอะไรเธอไม่ได้หรอก พรุ่งนี้เธอจะเริ่มแผนใหม่ ไม่ว่าจะยังไง เธอจะต้องได้กลับมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของสงครามเหมือนเดิม
“อย่ามาล้ำเส้นก็แล้วกันมายา แล้วคุณจะได้รู้จักผมดีขึ้นไปอีกหากคุณทำอะไรลูกล่ะก็”
มายารู้สึกชาวาบไปทั่วแผ่นหลังกับสายตาน่ากลัวของสงครามที่เธอไม่เคยเห็นตอลดเวลาที่อยู่ด้วยกัน สงครามเป็นผู้ชายโรแมนติก
เป็นคนเรียบง่าย และช่างอ้อน เธอไม่เคยเจอสงครามในโหมดแบบนี้มาก่อน นั่นเลยทำให้เธอตัดสินใจกลับไปตั้งหลักใหม่อีกครั้ง
เธอไม่มีวันยอมแพ้ไอ้ตุ๊ดการันต์และไอ้เด็กคนใหม่นั่น อย่างน้อยสิ่งที่เธอมั่นใจได้ว่าเธอมีโอกาสได้กลับมา
เพราะว่าสงครามไม่ใช่เกย์ แน่นอนว่ามาเฟียเป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างดี
// หึหึ ฝากไว้ก่อนเถอะ ยังไงคนอย่างฉันไม่มีวันยอมเสียง่ายๆ เวลาที่คนจนตรอกมามันสามารถทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ//
สาวสวยจำต้องกลับออกมาจากบ้านหลังนั้นแม้จะยังไม่อยากกลับ แต่เธอมีแผนที่ดีกว่านั้นคอยดูให้ดีก็แล้วกัน
..........................................................
“ปลานั่งกินด้วยกันก่อนก็ได้ อีกนานกว่าไอ้เดียวมันจะเคลียร์เสร็จ ไม่รู้วันนี้จะได้งานหรือเปล่าเนี่ย น่าเบื่อจริงๆ “
กันธรบ่นออกมาอย่างที่คิด วันนี้เป็นอะไรที่คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอมายาที่บ้านหลังนี้ เลยทำให้อารมณ์ดีๆเซ็งไปหมด โดยเฉพาะคนตัวเล็กที่นั่งหน้าบูดไม่พูดไม่จาอยู่อีกมุมของห้อง
“ไม่เป็นไรครับผมจะขึ้นไปดูคุณหนู ตามสบายเลยนะครับ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มก็บอกได้ครับ เดี๋ยวผมจะไปทำให้ “
มัจฉาพูดเสียงเบาก่อนจะฝืนยิ้มให้แขกของนายจ้างตัวโตที่ยังอยู่ในห้องรับแขก ภาพของคนสองคนที่ยืนกอดกันอยู่ในห้องนั้น
ภาพผู้หญิงคนนั้นเขย่งตัวขึ้นจูบที่ริมฝีปากที่เคยจูบเขา ท่าทางดีใจของผู้หญิงคนนั้น มันทำให้มัจฉารู้สึกวูบโหวงในใจกับภาพที่เห็น
นั่นสินะ ตัวจริงกลับมาแล้ว ที่สำคัญ เธอคนนั้นเป็นแม่ของคุณหนู ผู้หญิงที่สวยมากดูเหมาะสมกับคุณสงครามมากขนาดเขาเองยังอดที่จะมองไม่ได้
สุดท้ายแล้วเขาก็คงเป็นได้แค่พี่เลี้ยงลูกเหมือนเดิม มัจฉาให้นึกดีใจ ที่เขายังไม่ได้ถลำลึกไปมากกว่าที่เป็น
อย่างน้อย ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากมายกับภาพที่เห็นมันอาจจะแค่หน่วงๆอยู่บ้างแต่เขาคิดว่าไม่นานหรอกเขาจะทำใจได้
มัจฉาสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มของคุณหนูที่ยังหลับสนิทอยู่บนเตียง เขาไม่ได้นอนกับคุณหนูหลายวัน
วันนี้หัวใจรู้สึกแกว่งไปมาจนต้องหาที่ยึดเหนี่ยว ทันทีที่มัจฉาล้มตัวลงนอนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน
เด็กชายก็พลิกตัวเขามากอดเขาเอาไว้ราวกับความเคยชิน มัจฉากระชับอ้อมกอดกลับคืนไปเบาๆ เขาไม่อยากให้คุณหนูตื่นมาหรอก
ไม่อยากให้คุณหนูเห็นว่าดวงตาของเขามันแดงและมีน้ำใสๆคลออยู่เต็มหน่วยตา เขาไม่อยากโกหกคุณหนูว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร
เขาก็แค่ ...เสียใจ...ที่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่เหลือใครเหมือนเดิม ตอนนี้เขาขอนอนกอดคุณหนูขอกำลังใจเงียบๆเพื่อที่ตื่นขึ้นมาเขาจะเป็นปลาคนเดิม
....................................
“เดียว”การันต์เอ่ยขึ้นทันทีที่สงครามเดินกลับเข้ามาในห้องทำงาน
“เธอกลับไปแล้ว”สงครามตอบก่อนที่เพื่อนจะถาม เขารู้ดีว่าการันต์คิดอะไรอยู่
“มึงไม่ต้องมองหน้ากูแบบนั้นเดียว วันนี้จะได้ทำงานไหมล่ะ เอ่อ..แต่กูมีอะไรจะบอกมึงนะ “กันธรบอกเพื่อนทันทีที่สงครามหันมาทางที่เขานั่งอยู่
“อะไร”
“เมื่อกี๊กูคิดว่าน้องปลาของมึงอ่ะ ตาแดงๆว่ะ มึงไปดูน้องก่อนก็ได้เดี๋ยวกูกับรันตรวจโปรเจคฯรอ “
สงครามไม่คิดที่จะแย้งเพื่อนแม้ในใจเขาจะคิดว่ากันธรพูดเหมือนรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับมัจฉา แต่เวลานี้พอได้ยินว่าอีกคนจะรู้สึกไม่ดีใจเขามันก็ร้อนรน
“งั้นกูฝากพวกมึงก่อนนะกูไปดูปลาแป๊บนึงเดี๋ยวกูมา”
“เออๆ “
“ผมรอคำอธิบายจากคุณอยู่นะคุณสงคราม “
“ไม่ต้องห่วงหรอกรันกูรู้ว่ากูทำอะไรอยู่”สงครามรีบบอกก่อนที่การันต์จะพูดอะไรมากกว่านั้นเขารู้ดีว่าการันต์รู้ตั้งแต่ข้าวกล่องที่บริษัทฯแล้ว
คนอย่างการันต์ไม่มีอะไรมากไปกว่าห่วงเขาและเด็กอีกคน เขารู้จักเพื่อนคนนี้ดี จึงได้แต่รับปากไว้ว่าเขาจะบอกทุกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย
สงครามเดินออกจากห้องทำงานไปกันธรยังนั่งมองคนตัวเล็กที่ตั้งใจเปิดแฟ้มเอกสารอยู่บนโต๊ะ เขารู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของการันต์
//ต้องการคำอธิบายจากสงครามเรื่องอะไร // เขาอยากรู้
“คุณจะจ้องผมอีกนานไหม ถ้าไม่ทำงานก็กลับบ้านไปซะผมทำคนเดียวได้”
“รัน..กูถามมึงจริงๆเถอะ มึงกับไอ้เดียว ..”
“ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่ตอบ ไม่อธิบายกับคนที่ผมไม่ได้สนิทชิดเชื้อ คุณจะคิดยังไงก็ตามแต่ใจคุณเลยผมห้ามความคิดคุณไม่ได้ และผมจะพูดครั้งสุดท้ายคุณกันธร ผมมาทำงาน ถ้าคุณไม่อยากทำงานก็กลับไป”
“รัน”
กันธรครางเสียงแผ่วในลำคอ บางครั้งเขาก็รู้สึกท้อกับสิ่งที่ทำอยู่ ไม่มีคำพูดดีๆจากคนตัวเล็กแม้แต่ครั้งเดียวเจอหน้ากันมีแต่ไล่ให้ไปไกลๆ
และคำพูดที่ห่างเหินจนเขาคิดว่าเขาไม่ชินกับการันต์ที่เป็นแบบนี้ แต่หลายครั้งที่จะถอดใจเขาก็นึกถึงสิ่งที่เขาเคยทำเอาไว้
แล้วมองย้อนกลับมา สิ่งที่เขาเจออยู่ตอนนี้ไม่ได้ครึ่งของสิ่งที่การันต์ได้รับจากเขาในอดีตเลยด้วยซ้ำ
เขาอยากได้การันต์คนเดิมกลับมา คนที่มีรอยยิ้มสดใส และช่างเอาใจคนนั้น
“กูขอโทษนะ “
เสียงขอโทษแผ่วๆพร้อมทั้งสีหน้าที่ดูจะหม่นลงทำให้ใจอีกดวงกระตุกสั่นไหว
//ไม่ได้สิการันต์ มึงจะกลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้//
เขาได้แต่เตือนตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้แต่สะกดหัวใจเอาไว้ไม่ให้สั่นคลอน การันต์พุ่งความสนใจทั้งหมดที่มีไปที่งานตรงหน้า
เขาสัญญากับตัวเองไว้ว่า เขาจะไม่กลับไปเจ็บแบบเดิมอีกแล้ว มันทรมานเกินไป
ในขณะที่คนสองคนที่นั่งทำงานไม่พูดไม่จากันอีกคนกำลังเดินเข้าห้องลูกชายเมื่อพบว่าที่ห้องของมัจฉาไร้เงาเจ้าของห้อง
สงครามเปิดประตูเข้าไป มองดูลูกชายตัวน้อยของเขาในอ้อมกอดของมัจฉา แสงไฟสลัวจากหัวเตียง ส่องกระทบกับหยดน้ำใสๆที่หางตา
ทำให้สงครามที่นั่งลงข้างๆคนหลับยื่นมือไปเช็ดออกให้แผ่วเบา มัจฉาขยับกายเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงแรงสัมผัส
เขาปรือตาขึ้นมองก็เห็นคนตัวโตนั่งอยู่ข้างๆสายตาอ่อนโยนนั่นทำให้เขาอยากจะร้องไห้อีกรอบเขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมมันถึงได้อ่อนแอแบบนี้
“พี่ขอคุยด้วยได้ไหม..นะครับ”
สงครามเอ่ยเบาๆคนตัวบางพยักหน้ารับก่อนจะค่อยๆเลื่อนตัวออกจาผ้าห่ม เพราะไม่อยากให้เด็กน้อยต้องตื่นขึ้นมาตอนนี้ สงครามเดินจูงมือพี่เลี้ยงลูกชายตรงไปที่ประตูห้องนอนของเขา
“ไปคุยข้างล่างก็ได้นี่ครับ “มัจฉาแย้งทันทีที่เห็นว่าคุณสงครามจะพาเขาไปไหน ตอนนี้เขาอยากทำใจนะ เข้าห้องนี้ทีไรไม่เคยทำใจได้สักที
“ไอ้รันกับไอ้ธรอยู่ข้างล่าง ห้องพี่ดีแล้วนะ สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเกินเลยนะครับ เชื่อพี่นะ “
เสียงที่บอกให้เชื่อใจแต่มือไม่ยอมปล่อยจากมือเขานี่มัจฉาก็ได้แต่ถอนหายใจ เอาเถอะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดล่ะ
หวังว่า คุณสงครามจะไม่ไล่เขาออกหรอกนะ เพราะแม่คุณหนูกลับมาแล้วเขาก็คงไม่จำเป็น
“เอาล่ะ ...คิดอะไรอยู่บอกพี่ได้ไหม”สงครามทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงก่อนจะรวบเอาคนตัวบางมากอดเอาไว้ มัจฉาที่ยืนอยู่ระหว่างขาของคนตัวโตทำหน้าหม่นลงทันทีที่ได้ยินคำถาม จะบอกได้ยังไงว่าเขาคิดอะไร
“งั้น... พี่จะบอกปลาสักอย่างนะ ฟังเฉยๆก็ได้ มายาน่ะ เป็นอดีตภรรยาของพี่นะ พี่เคยรักเขามากเลย “
มัจฉาได้ยินแบบนั้นยิ่งใจแกว่ง คนเคยรักมากมันจะลืมกันได้ยังไง
“แม่พี่กับน้องชายเสียชีวิตตั้งแต่พี่ยังอยู่มัธยม และห้าปีก่อน พ่อพี่ถูกฟ้องล้มละลายพ่อพยายามประคองทุกสิ่ง แต่มันไม่ไหว พ่อรับความกดดันไม่ไหวจนฆ่าตัวตาย
งานศพพ่อยังไม่เสร็จเลย มายาก็ทิ้งเราสองคนพ่อลูกไปแต่งงานใหม่ กับคนรักเก่าของเธอในตอนที่พี่ไม่เหลืออะไรเลย ไม่เหลือแม้แต่กำลังใจที่จะมีชิวิตอยู่
เธอบอกว่าไม่เคยรักพี่เลย..... ทุกอย่างมันรุมเร้าเข้ามาจนพี่ตั้งตัวไม่ทัน แม้แต่มาเฟียที่เป็นลูกมายายังไม่ใยดี
คนที่เคยรักกันกลับกลายเป็นคนที่ฆ่ากันทั้งเป็น พี่เคยคิดว่าพี่คงรักใครไม่ได้อีกแล้ว บาดแผลคราวนั้นมันเหวะหวะเป็นหนองติดเชื้อ
เกือบเอาชีวิตไม่รอด”
เสียงเศร้าๆของคนตัวโตที่ซุกหน้าลงกับอกของเขาทำให้มัจฉาอดที่จะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกอย่างช่วยไม่ได้
เขาสงสารทั้งคุณหนูและคุณสงครามตอนนั้นผู้ชายคนนี้จะเจ็บปวดเพียงไหนกัน เวลาที่เคว้งคว้างเหลือตัวคนเดียวมันเจ็บปวดแค่ไหนมัจฉารู้ดี
“แต่ตอนนี้คุณเขากลับมา...”เสียงที่เอ่ยมาเหมือนคนที่กำลังขาดความมั่นใจ
“ชูว์......”เสียงกระซิบเบาๆพร้อมกับนิ้วมือใหญ่ที่ยกขึ้นมาทาบทับบนริมฝีปากของคนในอ้อมแขน
“ตลอดเวลาห้าปีที่มายาทิ้งเราสองคนพ่อลูกไ ป เธอไม่ได้ไปตัวเปล่าเธอฝากรอยแผลเอาไว้ให้เราสองคนพ่อลูก “
ภาพความทรงจำในคืนนั้นกลับมาแจ่มชัดอีกครั้ง มายาที่ไม่ฟังคำร้องขออ้อนวอนจากเขา มายาที่ดึงดันที่จะไปและกล่าววาจาโหดร้ายว่าไม่เคยรักกัน
มายา ที่เหวี่ยงเด็กชายตัวน้อยที่เข้ามากอดขาเธอเพื่อช่วยคนเป็นพ่อยื้อยุดแม่เอาไว้ จนตัวเล็กๆปลิวไปติดกับเก้าอี้ตัวใหญ่
โดยไม่แยแสสักนิดว่าลูกชายตัวน้อยจะเจ็บหรือจะเป็นอันตราย มายาไม่สนใจใครแม้แต่เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยที่เป็นลูกเพียงคนเดียวของเธอเอง
“พี่ไม่อยากให้อภัยผู้หญิงคนนั้นแม้แต่วินาทีเดียว พี่ไม่เคยคิดจะรักใครอีกเพราะมายาทำกับพี่และลูกไว้สาหัสเกินไป จนพี่ได้เจอปลา .....
พี่ไม่รู้ว่าจะบอกปลายังไง ไม่รู้ว่าพี่จะจีบปลาติดไหม ไม่รู้ว่าปลาคิดยังไงกับพี่ แต่พี่อยากจะบอกว่า พี่รักปลานะ รักจริงๆ ขอร้องนะอย่าทิ้งกัน
อย่าจากพี่และลูกไปไหน อยู่กับเรานะ อย่าไป พี่ขอร้อง “
เสียงสั่นๆจากคนตัวโตทำให้น้ำตาที่เอ่อคลอในหน่วยตาของมัจฉาร่วงหล่นลงมาอย่างช่วยไม่ได้ รัก..งั้นเหรอ คุณสงครามรักเขาเหรอ
“แล้ว..”
“ไม่ว่ามายาจะพยายามทำอะไรพี่อยากให้ปลาเชื่อใจพี่นะ ได้ไหม พี่ไม่ได้รักเขาแล้ว ไม่เหลือแม้แต่ความปราถนาดี กับผู้หญิงคนนั้น แต่สำหรับมาเฟีย มายาคือแม่ แม้ว่าจะไม่เคยทำหน้าที่นั้นก็ตาม พี่ไม่อยากให้ลูกรู้สึกแย่”
“ผมรู้ๆผมเข้าใจ แต่..ผมเป็นผู้ชาย คุณหนูจะเสียใจ “
“ไม่มีวัน พี่รู้จักลูกชายของพี่ดี มาเฟียไม่มีวันที่จะรังเกียจปลา เขารักปลานะพี่รู้ ที่เหลือก็อยู่ที่เราสองคนว่าจะทำยังไงให้ลูกยอมรับเราได้ ปลาล่ะจะพยายามไปกับพี่ไหม “
สงครามเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตัวบางที่ยืนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของเขา รอยยิ้มบางๆทั้งสายตาอ่อนโยนที่มองมาทำให้เขากระชับอ้อมแขนให้แน่น
ขึ้นเขาอยากกอดมัจฉาเอาไว้แน่นๆนานๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหนทางข้างหน้าเขามั่นใจแล้วว่า มัจฉาคือคนที่จะอยู่ตรงนี้ข้างๆเขาและลูก
“ว่ายังไง “คนตัวโตทวงคำตอบเมื่ออีกคนนิ่งไป
“ครับ ?“มัจฉาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี หรือว่าเขากำลังมึนงงกับคำบอกรักนั่นกัน สมองตอนนี้เริ่มเบลอไปหมดไม่สามารถที่จะโฟกัสอะไรได้เลย
“เป็นแฟนกันนะ เป็นแฟนพี่ ได้ไหมปลา”
“เอ่อ....”เสียงที่ถูกกลืนหายไปจากลำคอ หน้าที่เห่อร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ สองมือเรียวดันหน้าอกแกร่งเอาไว้เพื่อยืดตัวให้ออกห่างจากคนตัวโตที่ทำหน้าอ้อนวอนเขา
“คือ...”
“หรือว่าปลาไม่รักพี่เหรอ ไม่สงสารพี่เหรอ พี่รักปลาจริงๆนะ “คำหวานที่พูดมาประกอบหน้าตาที่อ้อนคนในอ้อมแขนเต็มที่ มันทำให้มัจฉาแทบจะละลายลงไปตรงนั้น
“เอ่อ.ค. ครับ “
“ครับอะไร หืมบอกพี่หน่อยได้ไหม “
“ก็...เป็นแฟนครับ ...โอ๊ยไม่เอาคุณสงครามอย่าแกล้ง จะตายแล้วเนี่ย”
ด้วยความขัดเขินกับน้ำเสียงและสายตาคมคู่นั้น มัจฉาจึงได้แต่โวยวายกลบความเขินอายที่พุ่งสูงขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วน
“เป็นแฟนแล้วเรียกพี่เดียวสิ ไม่เอาคุณๆนั่นน่ะ นะครับ ปลาครับ...”
“พอเลย ....ไปทำงานครับ ปลาจะไปนอนกับคุณหนูแล้ว “
มัจฉาไม่เอ่ยเรียกตามที่คนตัวโตขอ เพราะแค่นี้เขาก็ลืมภาพบาดตาที่เห็นในห้องรับแขกไปหมดแล้วเหลือแค่สายตาและคำพูดออดอ้อนของคนตัวโตนี่จนเขาแทบจะระเบิดตัวเองอยู่แล้ว
“หึหึ....ตกลงแล้วนะ คราวนี้เวลามีคนอื่นๆมาวุ่นวายกับพี่ปลาหึงได้เต็มที่เลย”
“ใครจะไปหึงกันเล่า..คุณก็จัดการเองสิ เหอะ ไปทำงานเลย”
เสียงใสเอ่ยกระท่อนกระแท่น อย่างหมดทางสู้ ไม่ไหวจริงๆ เขาแพ้คนแบบนี้คนตัวโตเป็นหมีแต่อ้อนได้น่ารักราวกับลูกแมว
ตอนนี้ขอไปหลบภัยในห้องคุณหนูก่อนนะ เรื่องอื่นพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน สิงที่เขาตัดสินใจไปแล้วนั่น มันจะดีใช่ไหมนะ มัจฉาก็ได้แต่ครุ่นคิดว่า มันคงจะดี
เขาจะลองรักดูสักครั้ง ลองวางหัวใจให้กับผู้ชายคนนี้ดูมันจะเจ็บปวดหรือสมหวังเขาจะยอมรับมันและพร้อมจะก้าวเดินไปข้างหน้า
เขาได้แต่หวังว่าความรักที่หายไปตลอดชีวิตเขามันจะกลับมา คุณสงครามและคุณหนูคือความรักครั้งใหม่ ที่มาเติมเต็มให้กับชีวิตที่แห้งแล้งมานาน
เขาก็ได้แต่หวังว่า มันจะดีแล้วสำหรับเขา
.
.
.
.
TBC .......
หวัดดีค่าาาาาาา..โฮ้ยยยยฝ่าพายุฝนทุกวันเลยช่วงนี้ งานรัดตัวทั้งงานราษฏ์และงานหลวง ไม่มีเวลาปั่นพี่เดียวกับน้องปลาเลย เค้าขอโทษน๊าาาา
จากวันนี้ยื่นใบลา 6 วันรวดค่ะไปเวียดนามค่า งานด่วนงานเร่ง ฮือ...เค้าร่างจิแหลก กลับมาเจอกันอีกที วันอังคารหน้าเลยนะคะ
ยังไงช่วงนี้อย่าลืมแวะมาอ่านมาเม้นท์เป็นกำลังใจให้พันวาตวยเน้อ...จะแอบเข้ามาอ่านเม้นท์บ่อยๆน๊า. :กอด1:
ขอบคุณทุกคนมากๆนะค๊าที่ยังติดตามกันอยู่ ขอไปแพ็คกระเป๋าก่อนนะตะเอง จุ๊บๆ :mew1: :mew1: :mew1:
ตอนที่ 17 ..ความรักที่หายไป ...(1).
“มึงใจเย็นก่อนเดียว”
“ใจเย็นเหรอ กูยังไม่รู้เลยว่าปลากับลูกหายไปไหนมึงจะให้กูใจเย็นได้ยังไงวะรัน”
สงครามนั่งไม่ติดเมื่อคนขับรถโทรฯมาบอกว่ามัจฉากับมาเฟียหายไประหว่างที่ไปซื้อของที่ตลาด เขาไม่เคยมีศัตรูที่เล่นกันแรงแบบนี้ คู่แข่งทางธุรกิจก็ไม่น่าจะใช่
“มึงสงสัยใครมึงลองค่อยคิดซิ”กันธรเองก็พยายามที่จะให้สงครามใจเย็นเขาเข้าใจว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่มีใครใจเย็นได้แต่สติก็สำคัญ
“กูไม่รู้แต่กูเจอนี่ในกระเป๋าบนหัวเตียงตอนที่เข้าไปค้นหาในห้องของปลา อาจจะเป็นเบาะแสได้เพราะเขาเคยเล่าเรื่องครอบครัวนี้ให้กูฟัง “
สงครามยื่นกระดาษแผ่นเล็กที่พับเรียบร้อยราวกับไม่เคยแกะออกอ่าน ลายมือหวัดบนกระดาษแผ่นน้อยยังพอที่จะบอกได้ว่า
จุดแรกเขาควรตามหาที่ตรงนี้ตอนที่เขาได้รับรายงานจากป๋องว่า ทั้งลูกและคนรักหายไป
เขาคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจไปค้นห้องมัจฉาเพื่อหาข้อมูลที่พอจะตามตัวได้เพราะเขาแน่ใจว่าไม่ใช่คู่แข่งทางธุรกิจของเขาแน่นอน
เรื่องราวที่มัจฉาเคยเล่ามันทำให้เขาคิด ว่าน่าจะเป็นต้นเหตุในการหายตัวไปครั้งนี้ของมัจฉา
// ปลาอันนี้เป็นเบอร์โทรศัพท์เบอร์ใหม่ของป้าไก่นะลูก แล้วก็ที่อยู่บ้านใหม่ป้าไก่ด้วย เมื่อวานพ่อลืมบอกไปว่าป้าไก่ย้ายบ้านแล้ว พ่ออยากจะให้ปลาเข้าใจ ที่พ่อแต่งงานใหม่ไม่ได้จะทิ้งลูกนะ พ่อต้องไปทำงานที่ไกลๆน้ามุกคนนี้เขาช่วยพ่อได้ พ่อจะส่งเงินมาให้ลูกนะ น้ามุกเขาสัญญาว่าจะช่วยส่งต่อมาให้ปลาจะได้เรียนหนังสืออย่างที่ปลาอยากเรียน พ่อขอโทษที่ไม่เคยได้ทำหน้าที่พ่อเลยสักครั้ง ถ้าพ่อเก็บเงินได้สักก้อนพ่อจะกลับมาหาลูกนะ ถึงวันนั้นพ่อจะต้องทำให้ลูกภูมิใจในตัวพ่ออย่างแน่นอน รักลูกนะ ..พ่อปู//
สงครามพยายามติดต่อเบอร์โทรศัพท์ในกระดาษแผ่นนั้นแต่ก็ไม่มีคนรับสาย ในใจเขาตอนนี้แทบจะไม่อยากจะคิดอะไร
เรื่องราวที่มัจฉาเคยเล่า มันผุดขึ้นมาในหัวของเขาตลอดเวลา ขอเถอะอย่าเป็นอย่างที่เขาคิดเลย
บรื๊น! เอี๊ยดด!!
เสียงเครื่องยนต์พร้อมกับเสียงเบรคดังลั่นมาจากหน้าบ้าน สงครามกันธรและรันรีบวิ่งออกมาจากตัวบ้าน
สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขายิ้มทั้งน้ำตา
“พ่อฮะ!”เด็กชายถลาลงจากรถวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของพ่อ ที่อ้าแขนรอรับอยู่แล้ว
“เฟียไปไหนมาลูก ทำไมมากับ....”สงครามเว้นคำต่อไป เพราะตอนนี้เขาไม่เห็นมัจฉามีแต่ลูกชายเขากับอดีตภรรยา
“พ่อฮะ ช่วยๆพี่ปลาฮือ..พี่ปลาเจ็บฮือ ฮึก”เด็กน้อยเรียบเรียงคำพูดไม่ถูกจนมายาที่ยืนอยู่จำเป็นต้องบอกเรื่องที่เกิดขึ้น
“พี่ปลาอยู่ไหนลูกบอกพ่อสิ !”สงครามเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำที่ลูกชายบอก ความเป็นห่วงแล่นริ้วเข้าสูภายในแทบจะทันทีที่รู้ว่ามัจฉากำลังเป็นอันตราย
....................
สงครามแทบอยากจะจับอดีตภรรยามาบีบคอให้ตายคามือ เมื่อทราบเรื่องทั้งหมด มัจฉาถูกจับกลับไปที่เดิม
ที่ๆมัจฉาพยายามออกมาและตอนนี้ สงครามไม่รู้ได้ว่ามัจฉาจะเป็นอย่างไร ฟังจากลูกชายที่เล่ากระท่อนกระแท่น
เขายิ่งเครียด ความเป็นห่วงแล่นลิ่วเข้าสู่หัวใจ เขาจะช้าไม่ได้นิ่งเฉยไม่ได้
“รัน”สงครามหันมาทางการันต์ คนที่เขารู้ดีว่าตอนนี้สิ่งที่การันต์มีในมือมันกำลังจะได้ใช้ให้เป็นประโยชน์แล้ว
“คุณจำทางไปบ้านหลังนั้นได้ไหมคุณมายา”รันหันไปถามหญิงสาวที่ยังยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆสงคราม
“จำได้สิ จำได้”
มายาระล่ำระลักบอกภายในใจยังสั่นและหวาดกลัว ตั้งแต่พาลูกขึ้นรถและออกมาได้
วินาทีที่เธอเห็นมัจฉาพุ่งตัวเข้าใส่คนที่ถือปืนนั่นเธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมสงครามและลูกชายเธอถึงได้รักเด็กผู้ชายคนนั้นนักหนา
“ธรมึงติดต่อตำรวจท้องที่ ไว้ก่อนเลยกูจะโทรฯหาอาโป้งให้ช่วยน่าจะทันก่อนที่พวกมันจะพาปลาข้ามแดน”
สงครามฟังจากที่มายาเล่าแสดงว่าคืนนี้มันต้องพามัจฉาและคนอื่นๆข้ามแดนแน่นอน
เพราะการเดินทางข้ามแดนตอนกลางวันพร้อมสินค้าที่มีชีวิตอาจจะเป็นเป้ามากไปกลางคืนจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสุดและแน่นอนเขาจะพลาดไม่ได้
//รอพี่ก่อนนะปลา //
สงครามได้แต่คร่ำครวญในใจ เขาเป็นห่วงคนตัวบางคนนั้นคนที่เป็นคนดีไม่เคยทำใครเดือดเนื้อร้อนใจแต่กำลังตกเป็นเหยื่อของคนชั่วเหล่านั้น
“เดียวคะ คือ “
“อย่าพูดอะไรตอนนี้มายา อย่าเข้าใกล้ผมมากกว่านี้เพราะผมอาจจะพลั้งมือทำร้ายคุณได้ ถอยไปมายา “
สงครามกัดกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์ที่พุ่งออกมาไม่หยุด ถ้ามัจฉาเป็นอะไรไปเขาจะไม่ให้อภัยผู้หญิงคนนี้เลย
“ยายกิ่งครับฝากมาเฟียด้วยนะครับ เดี๋ยวผมให้คนมาเฝ้าบ้านยายกิ่งไม่ต้องห่วงนะ”
สงครามหันไปคุยกับหญิงชราที่ยังคงกอดคุณหนูเอาไว้ ร่างเล็กๆหลับไปแล้วคงเพราะเรื่องที่เจอมาทั้งวันบวกกับร่างกายอ่อนเพลีย
เลยทำให้เด็กน้อยหลับไปทั้งน้ำตา
"คุณเดียวระวังตัวนะคะ "หญิงชราลูบเบาๆที่ต้นแขนของผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง
“เดียวคนฝั่งกูพร้อมแล้ว ไปกันเลยดีกว่า ...มายาคุณนำทางสิ”การันต์เอ่ยขึ้นทันทีที่เขาติดต่อคนให้เข้ามาช่วยในการตามหามัจฉาครั้งนี้
“ทำไมฉันต้องไปด้วยล่ะไม่เอานะฉันกลัวฉันจะอยู่กับลูกได้ไหม”สาวสวยร้องขอด้วยความกลัวเธอไม่อยากกลับไปที่นั่น
“ถ้าคุณอยากชดใช้เรื่องที่คุณทำนะมายา คุณไปกับเรา ผมจะไม่ให้คุณอยู่กับลูกตามลำพังเด็ดขาด”
สงครามยังคงเอ่ยเสียงราบเรียบกับอดีตภรรยา มายาได้แต่ก้มหน้ารับผิด หลายเรื่องในวันนี้ทำให้เธอเห็นอะไรหลายอย่าง
ที่เธอรอดมาได้ส่วนหนึ่งมาจากเด็กคนนั้นและเธอก็ไม่รู้ว่าจะรอดไปนานแค่ไหนถ้าลองเธอได้รู้เห็นอะไรเยอะขนาดนี้
เธอเริ่มไม่แน่ใจว่าเสี่ยชัยจะยังปล่อยเธอไปใช้ชีวิตปรกติได้
สงครามติดต่อกับเพื่อนสนิทของพ่ออีกคนที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
ให้ช่วยประสานกองกำลังจับเครือข่ายพวกค้ามนุษย์ ตลอดการเดินทางไปที่บ้านหลังนั้น สงครามกระวนกระวายในใจ
ความรุ่มร้อนแทบจะเผาใจเขาให้มอดไหม้ไม่เหลือซาก
บ้านหลังใหญ่ดูเงียบเชียบราวกับร้างผู้คนมานาน ไม่มีแม้แต่สัตว์เลี้ยงหรือสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นภายในรั้วบ้าน ทุกอย่างรอบบ้านราวกับไม่เคยมีคนอาศัยมาก่อน
“รันกูคิดว่าไปตามที่อยู่บ้านหลังนี้ดีกว่าไหม เพราะถ้าสองแม่ลูกนั่นเกี่ยวข้องกับเสี่ยชัยอย่างที่มายาว่า กูว่ามันคงย้ายคนไปที่นั่น เพราะมายารู้จักที่นี่พวกมันคงไม่เสี่ยงอยู่ที่นี่หรอก “
สงครามคิดถึงที่อยู่ในกระดาษแผ่นเล็กที่เจอในห้องของมัจฉา
“ธร มึงไปส่งมายาและช่วยดูลูกให้กูทีนะ “
สงครามหันมาหาเพื่อนรัก ที่ยืนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมองดูการันกับผู้ชายร่างสูงใหญ่อีกคนที่ยืนคุยกันอยู่ท่าทางเหมือนจะสนิทกันมาก
“กูไปด้วยดิวะ “
กันธรไม่อยากปล่อยให้การันต์ไปโดยไม่มีเขา อย่างแรกคือเป็นห่วงอย่างหลังนี่หวงล้วนๆไอ้ผู้ชายตัวใหญ่ที่ประกบรันไม่ห่างนั่นมันทำเขาหงุดหงิด
“ธร กูเป็นห่วงเฟีย ช่วยกูหน่อย”
“แต่ว่า..”กันธรเอ่ยขัดพลางหันไปหาการันต์ ที่หันมาพอดี
คนร่างเล็กถอนหายใจเฮือกใหญ่เขารู้ว่ากันธรคิดอะไร แต่เขาไม่มีเวลามาอธิบายมากนัก เขาเดินมาหากันธรพลางมองนิ่งๆลงไปในดวงตาคู่นั้น
แววตาสั่นไหวไม่มีความมั่นใจอะไรเลยส่งมาตัดพ้อเขา แม้การันต์จะเข้าใจแม้จะไม่อยากถลำตัวกลับไปในหลุมนั่นอีก แต่เขาก็จำเป็นต้องทำเพื่อมัจฉาที่รออยู่
“ธร...มึงเชื่อใจกูไหม.ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจกูง่ายๆหรอก”
คนตัวเล็กพูดจบก็หันหลังกลับเดินไปที่รถโดยไม่รอฟังอะไรจากอีกคนไม่รอว่าคนตัวโตนั่นจะยิ้มกว้างสักแค่ไหน
แม้มันจะเป็นคำพูดที่ไม่บ่งบอกอะไรมากมาย แต่อย่างแรกที่กันธรมีแรงฮึดขึ้นมาได้คือสรรพนามที่ใช้เรียกกัน
การันต์กำลังให้ความหวังเขาใช่ไหม เหมือนมีน้ำมาหล่อเลี้ยงหัวใจที่กำลังจะเฉาตายให้กลับมาเต้นได้อีกครั้ง
เขามองตามแผ่นหลังเล็กๆนั่นจนลับตา เอาเถอะตอนนี้เรื่องของสงครามต้องมาก่อน เอาไว้เสร็จเรื่องเมื่อไหร่พ่อจะรุกไม่ให้ตั้งตัวได้เลยคอยดู
............................................................
ตำรวจนำกำลังเข้าล้อมบ้านหลังหนึ่งในเขตปริมณฑล ที่ตั้งห่างจากชุมชนพอสมควร รอบๆบริเวณเงียบเชียบไม่มีผู้คนสัญจร
ผู้พันหมิงเพื่อนสนิทของการันต์ที่นำกำลังมาช่วยเหลือในครั้งนี้ ส่งสัญญาณให้ทุกคนกระจายตัวให้รอบบ้าน
เมื่อเห็นรรถตู้สองคันจอดอยู่ตรงข้างบ้านมีผู้ชายสองคนนั่งอยู่ตรงม้านั่งหินอ่อนหน้าบ้าน การันต์ประกบข้างตัวสงครามไว้ตลอด
เขากลัวใจเพื่อนที่สุดหากมัจฉาไม่ปลอดภัยสงครามก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน เพราะความใจร้อนและเป็นห่วงคนที่รักมักจะทำสงครามขาดสติเสมอ
เมื่อทุกคนประจำที่แล้ว ได้สัญญษณจากผู้พันหมิงก็เริ่มรุกคืบเข้าล้อมจับกลุ่มคนในบ้านทันที ความรวดเร็วและด้วยจำนวนเจ้าหน้าที่
ใช้เวลาไม่นาน ในการจับกุม สามารถช่วยเหลือเหยื่อครั้งนี้ถึง15 คน แต่..
“ไม่มีน้องปลาว่ะเดียว กูคิดว่ามันคงส่งไปก่อนแล้ว มึงติดต่ออาโป้งหรือยัง “
การันต์รีบบอกสงครามเสียงเครียดเมื่อเขาและผู้พันหมิงตรวจสอบคนที่จับได้ทั้งหมดแล้วแต่ไม่มีปลาและพี่สาวรวมอยู่ในนั้น ที่สำคัญเสี่ยชัยก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย
สงครามขบกรามแน่นจนขึ้นสันนูนข้างแก้ม ทำไมต้องเป็นมัจฉาทำไมกันคนดีๆแบบนั้นต้องมาเจอพวกคนสารเลวนี่ด้วย
“กูจะไปสมทบกับอาโป้งที่ชายแดน “
“แต่กูว่าให้เป็นเรื่องของตำรวจเขาดีกว่าไหมวะ”
“ไม่รัน มึงจะให้กูนั่งรอเฉยกูทำไม่ได้ “
สงครามว่าพลางรีบเดินไปที่รถ เขาต่อสายหาเพื่อนสนิทของพ่อที่ฝากเรื่องไว้ สงครามได้แต่ภาวนาว่า
อย่าพึ่งให้พวกมันพาตัวมัจฉาออกนอกประเทศเลย เพราะไม่อย่างนั้น การตามตัวกลับจะยากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า
“อาครับ ได้เรื่องอะไรบ้างครับ “
// ตอนนี้คนของอากำลังตรวจค้นอยู่ทุกจุดที่สามารถนำคนผ่านแดนได้เดียวอย่าห่วงเลย อารับรองว่าแม้แต่แมลงวันก็ไม่สามารถผ่านตาคนของอาได้หรอกไอ้หลานชายสบายใจได้//
“ผมฝากด้วยนะครับลอาถ้าปลาเป็นอะไรไปผมคง...”
//เอาน่า ไม่เชื่อมืออาหรือไงฮึ//
“ขอบคุณครับอา”
//ยินดีเสมอหลานรัก//
รถเก๋งคันหรูพุ่งทะยานออกจากพื้นที่มุ่งหน้าสู่ชายแดนเพื่อนบ้าน ความเงียบเข้าครอบคลุมในหห้องโดยสารทั้งคัน
ไม่มีการพูดกันแม้แต่คำเดียว การันต์พยายามที่จะให้สงครามได้ลดความโกรธลง
เขาจำได้เมื่อตอนที่สงครามโกรธสุดๆเมื่อครั้งที่พวกเขายังเด็ก เขาโดนทำร้ายจากคนประเภทเดียวกันกับที่กำลังทำกับมัจฉาตอนนี้
คนที่ปกป้องเขาจากคนสาระเลวพวกนั้นคือสงครามความโกรธของสงครามทำพวกมันแทบจะกราบเท้าร้องขอชีวิตกับเด็กอายุยังไม่ถึงสิบห้า
และตอนนี้สงครามวัยนี้กับความโกรธที่การันต์คิดว่ามันมากมายกว่าตอนนั้นแบบเทียบไม่ติด
...........................................
“เพราะมึงคนเดียวไอ้ปลาเพราะมึง ฮือๆ “
เสียงพึมพำจากหญิงสาวตัวบางที่นั่งคุดคู้อยู่ในกระบะหลังรถที่ดัดแปลงทำเป็นชั้นวางของ ภายในมีพื้นที่แค่นั่งเบียดกันสามคน
พอให้หายใจ ภายนอกโอบล้อมด้วยสับปะรดเพื่อพลางตา มัจฉานั่งเงียบไม่โต้ตอบใดๆ เขากำลังช็อคจิตใจกำลังสั่นไหว
เพราะในรถคันนี้ไม่ได้มีแค่เขากับพี่กุ้งแต่ผู้หญิงอีกคน ที่ดูแล้วคงไม่มีสติ รองรอยการทารุณมีให้เห็นในทุกส่วนของร่างกาย
เธอเหม่อลอยไม่มีสติใดๆไม่รุบรู้อะไรนอกจากนั่งร้องไห้เหมือนโลกทั้งใบมีเธอคนเดียว
“แม่ฟาง”มัจฉาครางในลำคอเมื่อเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นชัดๆ
แม้ว่าจะจากกันตั้งแต่ยังเล็กแต่แม่ไม่เคยหายไปจากความทรงจำของมัจฉา ความรักที่เขาโหยหามาตลอดจากผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่
ร่างกายผ่ายผอมซูบซีด แทบจะไม่มีเค้าแม่ฟางคนสวย แต่เขาจำแม่ได้ ฟังจากคำพูดของคนขับรถและเสี่ยชัย
แม่ฟางของเขารู้เรื่องค้ามนุษย์มากเกินไป หากทิ้งไว้ที่บ้านหลังนั้นไม่แคล้วจะสาวเรื่องไปถึงหัวเรือใหญ่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน
เลยต้องรับเอาข้ามแดนก่อน ตำรวจยังคงคิดว่าคนของเสี่ยชัยจะข้ามแดนตอนกลางคืน แต่เสี่ยชัยกลับทำสองแผนให้ตำรวจคิดตามนั้น
และรีบนำตัวมัจฉาและฟางกับกุ้งออกมาก่อน รถกระบะคันโตแล่นไปตามทางลูกรัง มุ่งสู่ทิศทางที่จะข้ามฝั่งชายแดนด้วยเรือ อีกนิดเดียวเท่านั้น ก็จะผ่านได้แล้ว
“บ้าจริง!!”
ภาพเจ้าหน้าที่ไทยในชุดสีดำพร้อมอาวุธครบมือยืนรายล้อมที่สองข้างทาง มีถึงน้ำมันขนาดใหญ่และท่อนเหล็กแข็งแรง
กางกั้นเส้นทางสัญจรเอาไว้ รถกระบะคันโตค่อยชะลอจนจอดสนิท เสี่ยชัย พลางใบหน้าด้วยผ้าขาวม้าและผงฝุ่นเปรอะเปื้อนเหมือนคนงาน
ในไร่เขากำลังเหงื่อกาฬไหลทะลักทั่วแผ่นหลัง เมื่อต้องเลื่อกระจกรถลงให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจ
“สวัสดีครับจะไปไหนกัน”ตำรวจนายหนึ่งเอ่ยถามคนขับรถกับเสี่ยชัยที่หน้าตามอมแมมจนแยกไม่ออกว่าหน้าตาจริงๆเป็นอย่างไร
“เอาสับปะรดไปส่งครับ “คนขับรถตอบเสียงนิ่งที่พยายามไม่ให้มีพิรุธ
“ไหนขอใบอนุญาตซิ”
เจ้าหน้าที่แบมือมาตรงหน้าเสี่ยชัย นาทีนั้นเสี่ยชัยคิดแค่ว่าทำยังไงให้ตัวเขาเองข้ามไปอยู่ในรั้วอีกฝั่งได้
เพราะมีคนของนายใหญ่รออยู่ฝั่งโน้นแล้วถัดไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรเขาก็ลงเรือข้ามฟากได้สบายแต่จะทำยังไง
หากเจ้าหน้าที่ไทยตรวจของในรถล่ะ ความคิดเริ่มสับสนเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของเจ้าหน้าที่ไทยอีกคนที่เดินไปหลังรถ
เสี่ยชัยค่อยๆปลดล็อคประตูเสี่ยงวิ่งลงไปน่าจะทัน “ถ้าตำรวจคนนั้นแตะประตูกระบะหลังมึงพุ่งรถไปทางซ้ายเลยนะ
ตรงนั้นมันเป็นไม้รถน่าจะไม่ปะทะแรงคงผ่านไปได้”เขากระซิบบอกคนขับรถ ที่พยักหน้ารับคำ หากพ้นประตูกันได้ก็ไม่ยากที่จะพุ่งรถเข้าเขตแดนอีกประเทศ
มัจฉาชะงักเมื่อรถจอดสนิทนานเกินไป เสียงพูดคุยภายนอกแว่วมา ทำให้เขาเข้าใจสถานการณ์ได้ดีว่าพวกเขากำลังจะออกนอกประเทศ และคงอยู่ด่านที่ไหนสักแห่ง
“พี่กุ้ง “
“อะไรอย่ามายุ่งกับกู!”
“ก็ไม่ได้อยากยุ่งแต่พี่กุ้งอยากกลับบ้านไหมล่ะ”
“มึงจะทำอะไร “
หญิงสาวให้แปลกใจกับคำถามของญาติผู้น้อง เธอเกลียดมัจฉาเพราะเธอคิดว่าเป็นต้นของความซวยในชีวิตเธอ
ยิ่งได้มาเห็นแม่ของมันอยู่ในสภาพที่แทบจะไม่เป็นคนเธอยิ่งสะใจ แต่ลึกๆเธอก็กำลังกลัว เพราะไม่รู้ว่าเสี่ยชัยจะพาเธอไปไหน
หลายปีที่อยู่กับเสี่ยชัย คำว่าเขต 4 เป็นเขตที่น่ากลัวมากสำหรับเธอเพราะมันเป็นซ่องดีๆนี่เองและไม่ได้อยู่ในประเทศไทย
ตอนนี้มัจฉามาถามเธอว่าอยากกลับบ้านไหม มันก็ต้องแน่อยู่แล้วเธออยากกลับ แต่ฤทธิ์ยาที่ไอ้พวกนั้นมันมอมเธอไว้ทำให้เรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับยังไม่มี น้องชายเธอก็ไม่ต่างกัน
"ถ้าพี่อยากกลับบ้านพี่ทำตามผมนะ “
“ทำไง?”
มัจฉาดึงเอาสับปะรดที่ตั้งเป็นแถวรอบๆออก เขาค่อยๆดึงแม้จะแน่นขนัดแต่ก็ยังมีช่องว่างที่มีลมเข้ามา หากเปิดช่องได้อีกนิดเสียงจะต้องลอดออกไปได้
“ดึงพี่กุ้งดึงแรงๆ”
มัจฉาดึงเอาสับปะรดหลายลูกให้ลงมากองอยู่ตรงที่เขานั่งข้างๆแม่ฟาง กุ้งเริ่มเข้าใจสิ่งที่มัจฉาบอก
สองพี่น้องช่วยกันดึงเอาลูกสับปะรดลูกโตๆหลายลูกให้พังลงมากแม้มือจะโดนบาดเป็นแผลเหวอะหวะแต่สองคนก็ไม่ได้สนใจ
เมื่อมองเห็นรูกว้างเท่ากับขนาดศรีษะของคนที่มุดออกไปได้ มัจฉาก็เริ่มตะโกนพร้อมๆกันกับกุ้ง
“ช่วยด้วยๆ เราอยู่ในนี้ช่วยด้วยๆๆ!!!”
สองเสียงประสานดังลั่นเป็นเหตุให้ฟางที่ยังเมายาเกิดอาการผวากรีดร้องดังผสมขึ้นไปอีก ปืนหลายกระบอกถูกตั้งขึ้นจ่อไปที่คนขับ
และตัวรถเตรียมพร้อมยิง เมื่อได้ยินเสียงคนขอความช่วยเหลือดังมาจากด้านใน
ความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อรถกระบะพุ่งเข้าใส่เหล็กกั้นพร้อมๆกับประตูฝั่งผู้โดยสารเปิดออกเสี่ยชัยพุ่งตัวเองออกจากรถ
แล้ววิ่งเข้าป่าทึบด้านข้า โดยมีเจ้าหน้าที่ตามติดไปสองคน รถกระบะที่จอดนิ่งสนิทเพราะโดนท่อนเหล็กแข็งแรงกั้นไว้ไม่สามารถพุ่งข้ามเขตไปได้
“อย่ายิง!”เสียงผู้บัญชาการสั่งเสียงดังเพราะเห็นว่ามีคนในรถและคงเป็นเหยื่อคนที่เขาควานหาตัวอยู่
“หมวดตามไอ้คนนั้นไป อย่าให้ไปถึงท่าเรือ จับเป็นไม่ได้ยิงทิ้งได้เลย”
คำสั่งเฉียบขาดทำเอาคนขับรถขนลูกชันนี่เขาเจอกับใครอยู่ไม่ใช่นายตำรวจธรรมดาแน่ๆที่สั่งยิงทิ้งในฝั่งเพื่อนบ้านได้แบบนี้
เขาได้แต่นั่งคุกเข่าเอามือประสานท้ายทอยยอมจำนน ดีกว่าไม่เหลือชีวิต
“เดียวเหรอตอนนี้อาจับรถคันนั้นได้แล้วนะ ในรถมีสามคนเป็นผู้หญิงสองคนเดียวลองมาดูก่อนละกันตอนนี้อาอยู่ที่ชายแดนเขตสี่ รีบมาล่ะ อ้อตัวประกันปลอดภัยดีแต่ตอนนี้น่าจะหมดสติกันอยู่เพราะสับปะรดทับขนาดนั่น แต่ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอกเดียวอย่ากังวลเลยนะ “
หนุ่มใหญ่ในตำแหน่งผู้บัญชาการเอ่ยยิ้มๆกับคนปลายสายเขารู้จักนิสัยลูกชายของเพื่อนรักที่จากไปแล้วดีว่าเป็นยังไง
เพราะต้องดึงสติให้สงครามใจเย็นลงไม่งั้นได้ฆ่าผู้ต้องหาเขาตายด้วยมือเปล่าแน่ๆ
ผู้บัญชาการภาค 4หันไปมองกลุ่มคนที่เข้ามาช่วยนำร่างของเหยื่อสามคนที่หมดสติอยู่ไปปฐมพยาบาล
เขาติดต่อขอเฮลิคอปเตอร์เพื่อลำเลียงคนเจ็บไปส่งพยาบาลอย่างเร่งด่วนและสงครามคงไปเจอกันที่นั่น
ร่างไร้ลมหายใจของเสี่ยชัยถูกลากอกมาจากป่า แต่ก็ยังมีคนขับรถและพยานอีกสามคนในรถพอที่จะสาวถึงต้นตอ
และจับพวกค้ามนุษย์ข้ามชาติได้ เขาเกลียดคนพวกนี้ที่เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา เขาจะกวาดล้างให้สิ้นซากไปจากสังคมไทย
เขาสาบานว่าจะเป็นศัตรูกับคนพวกนี้จนลมหายใจสุดท้าย ตราบใดที่เขายังอยู่ตรงนี้จะไม่มีไอ้หน้าไหนพาคนไทยไปขายที่ต่างแดนได้แน่นอน
.
.
..
..
TBC.......
ทุลักทุเลพอสมควรกับการขับรถขึ้นลงสามสี่จังหวัดในวันเดียวหมดแรงมากเลยแวะมาลงน้องปลาไว้ก่อนแล้วจะขอไปนอนยาวๆนะคะ ฮ่าๆ
สาหัสสากรรณ์มากน้องปลา พันวาเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ตอนไปประเทศเพื่อนบ้านช่วงรอยต่อชายแดน
ตำรวจตรวจจับคนเข้าเมือง เจอคนที่อัดแน่นในรถกระบะทั้งๆที่ภายนอกเป็นพวกใบยาสูบปิดทับอีกรอบ
คนเป็นสอบที่อัดแน่นข้างในโปะด้วยใบยากลิ่นฉุนมันทำให้พันวานึกสงสารว่าทำไมคนที่ทำแบบนั้นไม่คิดเลยหรือว่าคนที่อยู่อัดๆข้างในจะหายใจยังไง
ไม่แปลกที่มีข่าวคนลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหายแล้วเสียชีวิตขณะเดินทาง เฮ้อ....เวิ่นมาซะน่ากลัวเนอะ
ได้แต่หวังว่าธุระกิจแบบนี้จะหายไปจากโลกนี้ จริงๆสักที อะๆ เลิกเครียดๆ :hao5: :hao5:
แม่น้องปลาโผล่แล้ว หลายคนกำลังคิดถึงคุณพ่อล่ะสิ อิอิ เดี๋ยวจะค่อยๆโผล่มาทีละคน เรื่องร้ายๆผ่านไป เรื่องดีๆจะมีเข้ามา
พันวาบอกแล้วเรื่องนี้มาม่าไม่เยอะนะคะ เอาไปไว้หน่วงกับเรื่องของการันต์และกันธรดีกว่าเนอะ อิอิ
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตาม ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเม้นท์เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะค๊าาาา ดรั๊กก็จัง :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ตอนที่ 18 ความรักที่หายไป (2)
ร่างบอบบางที่เต็มไปด้วยบาดแผลหลับสนิทอยู่บนเตียงในห้องพักผู้ป่วย สงครามนั่งลงข้างๆเตียง กวาดตามองไปทั่วร่างด้วยความสะท้อนใจ
ใบหน้าหวานใสนั่นมีร่องรอยฟกช้ำ บวมเป่งไปทั้งแก้ม ปากที่แตกและบวมเจ่อถูกทำความสะอาดจนไม่มีคราบเลือดเกรอะกรังอย่างที่เห็นครั้งแรก
สงครามยอมรับว่าวินาทีแรกที่เขาเห็นร่างสิ้นสติของมัจฉาถูกหามลงมาจากเฮเลิคอปเตอร์เขาอยากจะจับไอ้คนที่ทำหรือทุกคนที่มีส่วนร่วม
ครั้งนี้มาทรมานให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันทำ ยิ่งคิดยิ่งเจ็บปวดไปทั้งใจ พลันสิ่งที่แว่บเข้ามาในความคิดทำให้เขาต่อสายถึงเลขาคนสนิททันที
“รันกูมีเรื่องให้มึงทำ”
//เรื่องไรวะ //
“ติดต่อทรงพลให้กูที “
//มึงคิดจะทำอะไรเดียว//
“เรื่องนี้มันต้องมีคนรับผิดชอบ”
//เดียวมึงอย่าใจร้อน//
“กูไมได้ใจร้อนรันกูคิดดีแล้วและกูคิดว่าคนพวกนั้นมันต้องได้รับโทษบ้าง”
//...กูขอทำเองได้ไหมวะเดียว//
การันต์เข้าใจความหมายที่สงครามพูด หลายครั้งที่มีปัญหาสงครามจะจัดการได้ทุกเรื่อง แต่ครั้งนี้เขาไม่อยากให้เพื่อนลงมาคลุกกับไอ้คนพวกนั้น
“มันไม่เกี่ยวกับมึงรัน”
//เดียวมึงมีลูกมีน้องปลากูตัวคนเดียวและเรื่องขี้หมาแบบนี้มึงไม่ต้องลงมาเล่นหรอก กูจัดการได้สมใจมึงแน่นอนเชื่อมือกูสิ เวลานี้มึงต้องดูแลน้องปลาดูแลลูกนะเดียว //
สงครามชะงักคิดตามที่เพื่อนบอก เขารู้ว่ารันจัดการได้แต่เขาก็ยังยืนยันว่ามันไม่เกี่ยวกับการันต์อยู่ดี
//มึงฟังกูนะเดียว ถ้าไม่มีมึงกับพ่อ กูคงเป็นเศษเดนเหมือนพวกนั้นหรือไม่ก็ตายไปแล้ว ชีวิตกูมีแค่มึงกับพ่อ กูขอสักครั้งเดียวขอให้กูได้ทำอะไรเพื่อมึงบ้างนะเพื่อน//
เสียงหนักแน่นของเพื่อนสนิทคนที่เขาเคยช่วยฉุดมาจากนรกนั่นมันทำให้เขาคิดว่าการันต์เองคงคิดมาพอสมควร
“ก็ได้รัน อย่าเล่นถึงตายล่ะ”
//รับทราบครับท่าน!!//
สงครามวางสายจากการันต์หันมามองคนที่ยังหลับสนิทอยู่ ค่ำๆป๋องคงพามาเฟียตามมา แม้ว่าเขาไม่อยากให้ลูกมาเห็นสภาพของพี่เลี้ยงตอนนี้
แต่ก็คงขัดใจไม่ได้เพราะเจ้าตัวเอาแต่ร้องไห้หาพี่ปลาไม่ยอมกินข้าวไม่ยอมนอน ทุกครั้งที่หลับคือร้องไห้จนหลับเขาสงสารลูก
เขารู้และเข้าใจว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนกับการเห็นคนที่รักต้องโดนทำร้ายต่อหน้าต่อตากับเด็กอายุแค่นี้ และยิ่งคิดถึงตรงนี้สันกรามก็บดเข้าหากันอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้
................................................
“พอฮะเมื่อไหร่พี่ปลาจะตื่นล่ะฮะ”
“พี่ปลาต้องพักผ่อนนะครับลูกจะได้หายไวๆ”
“วันนี้เฟียนอนที่นี่กับพี่ปลาได้ไหมฮะ”
เด็กน้อยยังต่อรองกับคุณพ่อ เขาอยากแน่ใจว่าพี่ปลาไม่เจ็บแล้ว คนพวกนั้นใจร้าย ทำพี่ปลาของเขาเจ็บ แม่ก็ใจร้าย
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนั้น ภาพความทรงจำที่โดนแม่ทำร้ายมันยังฝังหัวไม่หายยิ่งภาพที่พี่ปลาโดนทำร้าย
เด็กน้อยที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเจ็บใจและร้องไห้เพราะช่วยอะไรไม่ได้เลยหนำซ้ำยังเป็นต้นเหตุให้พี่ปลาเจ็บตัว
“ไม่ได้หรอกครับ เฟียต้องกลับบ้านเป็นเด็กดีนะครับได้ไหมลูก”
“ก็ได้ฮะ..แต่พรุ่งนี้เฟียมาหาพี่ปลาได้อีกใช่ไหมฮะพ่อ”
“ได้สิลูกพรุ่งนี้พี่ปลาตื่นมาคงดีใจนะ”
“ฮะ....พ่อฮะพี่ปลาน่ะเจ็บเพราะกอดเฟียไว้ พวกนั้นเตะพี่ปลาดึงแขนเฟียแต่พี่ปลาไม่ปล่อย เขาเลยเตะพี่ปลา”
เด็กน้อยเสียงเริ่มสั่นเมื่อพยายามจะเล่าให้พ่อฟัง สงครามได้แต่ขบกกรามแน่นก่อนจะยื่นมือมาลูบหัวลูกชายเบาๆ
“ตอนนี้พี่ปลาปลอดภัยแล้วนะ จะไม่มีใครมาทำร้ายพี่ปลาได้อีกเชื่อพ่อนะครับเด็กดี”
“ฮะ...”
เด็กน้อยพยักหน้าเข้าใจก่อนจะซบหน้าลงข้างๆมัจฉาที่ยังหลับสนิทอยู่บนเตียง มือเล็กลูบเบาๆไปที่แขนของพี่เลี้ยงที่มีแต่รอยช้ำและรอยแผล
สองพ่อลูกได้แต่นั่งมองร่างบางที่หลับไหลด้วยหัวใจที่เจ็บปวดไปกับคนที่รัก สงครามได้แต่สัญญาในใจว่าจากนี้ไป
เขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำแบบนี้อีกไม่ว่าจะลูกเขาหรือมัจฉา หากครั้งนี้การันต์ช่วยจัดการให้แล้วก็ดีไปสำหรับพวกมัน
แต่ถ้าหากว่ามีอีกสักครั้งเขาสาบานเลยว่าพวกมันจะไม่ตายหรอกเขาจะไม่ยอมให้มันตาย พวกมันจะต้องลิ้มลองรสชาติความเจ็บปวดให้ถึงที่สุด
Rrrrrr
“ครับอา”
//ไงหลานชาย ทุกอย่างเรียบร้อยไหม//
“ขอบคุณอาโป้งมากเลยครับตอนนี้ก็เหลือแค่จัดการเหลือบไรรอบๆเดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นครับ ยังไงก็ต้องขอบคุณอาโป้งมากเลยครับนี่ถ้าไม่ได้อาผมคงไม่รู้ว่าจะช่วยคนของผมได้ยังไง”
//อย่าห่วงเลยเรื่องนั้นมันเป็นหน้าที่อาอยู่แล้ว แต่ถ้าเดียวอยากจะตัดแข้งตัดขามันสักหน่อยก็บอกอานะ ฮ่าๆๆ//
“ไม่หรอกครับ คราวนี้พวกมันได้รับโทษอย่างที่ควรได้รับแล้ว แต่ถ้าหากยังวอแวกับคนของผมอีกล่ะก็ผมอาจจะต้องให้อาช่วยอีกครั้งครับ”
//ได้เสมอเลยหลานชายมีอะไรก็บอกนะเดียว อย่าลืมว่าอาอยู่ตรงนี้เสมอไม่เคยทิ้งไปไหน แค่เดียวบอก //
“ขอบคุณครับอาพ่อคงดีใจที่มีเพื่อนดีๆแบบอาผมรักอาโป้งนะครับ “
//เอาไว้ว่างเมื่อไหร่มาบ้านอามั่งนะ อาผู้หญิงเขาคิดถึง //
“ครับ ไว้ผมจะพาเฟียและปลาไปเยี่ยมนะครับ”
สงครามวางสายจากเพื่อนสนิทของพ่ออีกคน พลางคิดเรื่อยเปื่อยเขาไม่เข้าใจพ่อที่คิดสั้น ทั้งๆที่เพื่อนๆรอบข้างมีแต่คนเข้มแข็ง
และพร้อมที่จะยื่นมือเข้าช่วยหากเพียงแค่พ่อเอ่ยปาก ด้วยความที่พ่อชอบเก็บปัญหาไว้คนเดียวเมื่อหาทางออกไม่ได้
ก็จบลงที่ชีวิตของตัวเอง นั่นทำให้สงครามได้เรียนรู้ว่า เขาจะไม่มีวันตัดช่องน้อยแต่พอตัวแบบที่พ่อทำ
เขาจะไม่มีวันทิ้งลูกและคนรักให้เผชิญปัญหาเพียงลำพังไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่มีวันปล่อยมือ
.................................................
“คุณมีอะไรว่ามาเลยดีกว่าคุณการันต์ ผมมีเวลาไม่มากนัก”
การันหรี่ตามองนักธุรกิจหนุ่มที่เคยเป็นเพื่อนร่วมสถาบันกัน แม้จะไม่ได้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวแต่ก็รู้จักกันบ้าง
เพราะทรงพลก็ฮ็อตไม่ใช่น้อยในตอนนั้น และที่สำคัญเป็นคนที่มายาควบสองไว้พร้อมๆกับสงคราม
“ผมได้ข่าวว่าคุณกำลังจะฟ้องหย่าภรรยา “
“หึ ที่มาถามนี่อยากช่วยนังนั่นเหรอ เดียวมันก็แปลกนะ อยากกินของเหลือจากผมหรือไง ถ้าจะช่วยมายาก็เอาเงินมา สามสิบล้าน ผมยอมจบเรื่องให้”
ทรงพลนึกเย้ยหยัน ไปถึงสงครามเขารู้ว่าสงครามรักมายาแค่ไหน ตอนที่เขาแต่งงานกับมายาเพราะคิดว่าครอบครัวฝ่ายหญิงจะช่วยเขาเรื่องตั้งบริษัทได้
แต่นานวันเข้าเขากลับถูกมายายักยอกเงินและพ่อแม่ของยัยนั่นก็ติดการพนันงอมแงม มีแต่ล้างผลาญเขา
จริงๆเขาไม่คิดจะฟ้องตั้งแต่แรกอยู่แล้วแค่ขู่เพื่อให้มายาหาเงินมาให้เขาแค่นั้นเองเพราะถ้าฟ้องไปชื่อเสียงเขาก็มีส่วนเสียหายไปด้วย
คนโง่ๆอย่างมายา ยังไงก็ตามเกมส์เขาไม่ทันอยู่แล้ว แค่ขู่นิดหน่อยให้มายาหาเงินมาคืนเขา นี่คงวิ่งกลับไปซุกอกผัวเก่าล่ะมั้ง หึดีจริงๆเขาจะเรียกให้หนำใจเลย
“อย่าได้เข้าใจเป็นแบบนั้นคุณทรงพล ท่านประธานของผมไม่นิยมยุ่งกับคนของคนอื่น แต่ตอนนี้ท่านประธานอยากช่วยคุณมากกว่า
เพราะรอคุณฟ้องคงจะนานหน่อย ผมมีหลักฐานการโกงเงินบริษัททั้งหลักฐานการคบชู้ของมายามาให้คุณแบบละเอียด “
การันต์วางเอกสารและแผ่นVCDหลายแผ่นลงบนโต๊ะ ท่ามกลางความงุนงงของทรงพล
“ทำไม?”
“ก็ผมบอกแล้วไง ท่านประธานของผมท่านใจดี ผมมีหลักฐานให้แล้ว และสิ่งที่คุณต้องทำคือเอาภรรยาของคุณเข้าไปนอนในคุกให้นานที่สุด เพราะไม่งั้น คนที่จะนอนคุกนั่นคือคุณเองคุณทรงพล ”
การันต์พูดพลางวางหลักฐานอีกชุด ที่พอทรงพลได้เห็นแล้วเขาถึงกับเบิกตากว้าง บริษัทของเขาเป็นเครือข่ายของสงครามเขารู้ดี
แต่สิ่งที่เขาทำนั้นเขาไม่คิดว่าคนอย่างสงครามจะรู้เรื่อง แต่หลักฐานมัดตัวขนาดนี้แล้ว เรื่องขู่ฟ้องเพื่อเอาเงินจากพ่อแม่มายาคงต้องได้ฟ้องจริงๆซะแล้ว
ทรงพลกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หลายคนเคยเตือนเขาเรื่องยักยอกเงินของสงครามหรือยุ่งกับมายา
แต่ที่ผ่านมาเขาได้มายามาอย่างง่ายดาย เขาเคยคิดว่าสงครามก็แค่ไอ้หน้าโง่ที่หลงผู้หญิงมากไปก็เท่านั้น
แต่วันนี้สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ามันทำให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาเคยดูถูกผู้ชายคนนั้นเอาไว้คงต้องคิดใหม่และนาทีนี้เขานึกกลัวคนอย่างสงครามขึ้นมาทันที
“อ้อ..ผมจะบอกอะไรให้นะคุณทรงพล ถ้าคนของท่านประธานของผมเป็นอะไรไปล่ะก็ ผมคงช่วยชีวิตคุณและมายาไว้ไม่ได้แต่จะไปแบบไหนผมไม่รู้ๆแค่ว่าคุณภาวนาไว้เถอะให้คนที่ภรรยาคุณทำร้ายรอดชีวิตและมีอาการครบสามสิบสอง ไม่งั้นล่ะก็คุณเตรียมตัวไว้ได้เลยว่าหายนะที่แท้จริงมันเกิดขึ้นกับคุณแน่คุณทรงพล หึหึ”
การันต์กลับไปแล้ว ทรงพลทบทวนเรื่องที่ได้ฟังจากการันต์ก่อนจะต่อสายหาคนสนิทที่คอยติดตามมายาอยู่ และเรื่องราวคร่าวๆที่เขาได้ฟังมันทำให้เขาอยู่ไม่ติด เขาต้องไป..
Rrrrrrrrrr
“มายา...”เบอร์แปลกๆที่ไม่เคยได้รู้จักทำให้ทรงพลนึกถึงมายา ทำให้เขารีบรับด้วยความร้อนใจ...แต่..
//อย่าได้คิดหนีเลยพล ทางที่ดีมึงรีบจัดการเรื่องของมายาให้เร็วที่สุดที่เหลือกูจะลองมองผ่านมึงสักครั้ง //
“....................”
สายถูกตัดไปแล้ว เสียงเพื่อนเก่าที่ไม่ได้ยินมานาน เพื่อนที่แม้จะไม่ได้สนิทกันแต่นาทีนี้เขารู้ดีว่าเสียงของสงครามนั้น
มันแฝงความน่ากลัวไว้ให้เขารู้สึกยิ่งกว่า เหมือนความเป็นความตายคืบคลานเข้ามาอยู่ข้างๆเขา สงครามรู้ทันเขาทุกอย่างรู้แม้กระทั่ง
ว่าเขาคิดจะหนี แล้วเขาจะทำอะไรได้ ตอนนี้ต้องรักษาชีวิตของตัวเองไว้ก่อน ขอโทษนะมายามันช่วยไม่ได้จริงๆ
………………………………….
แสงสว่างวาบเข้ามาในม่านตาทำให้ต้องหลับตาลงอีกครั้งแล้วค่อยๆลืมตาปรับให้ชินกับแสงสว่างรอบกาย มัจฉาขยับตัวเบาๆแต่ก็เจ็บร้าวไปทั่วร่างจนต้องเผลอร้องออกมาเบาๆ
“อูย...เจ็บ..”
“ปลา!”สงครามผุดลุกแทบจะถลาเข้าหาเตียงผู้ป่วยเมื่อคนตัวบางขยับตัวบนเตียง เขากดปุ่มเรียกพยาบาลทันทีที่เห็นว่ามัจฉาตื่นแล้ว
“เป็นไงบ้างเจ็บมากไหม”น้ำเสียงอ่อนโยนและสายตาที่เป็นห่วงจนปิดไม่มิดทำให้มัจฉาต้องยิ้มน้อยๆก่อนจะบอกคนขี้เป็นห่วงให้ใจเย็นลง
“ไม่เป็นไรครับแค่เคล็ดขัดยอก “
“ดีแล้ว...หายไวๆนะพี่ใจไม่ดีเลยรู้ไหมเราน่ะหลับไปนานเกิน เฟียกลับบ้านไปแล้วพรุ่งนี้คงมาหาพี่ปลาแต่เช้าพร้อมยายกิ่ง “
“คุณหนูเป็นไงบ้างครับเจ็บตรงไหนไหม “
ความห่วงใยถูกถ่ายทอดผ่านน้ำเสียงและแววตา ยิ่งทำให้สงครามอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจุมพิตเบาๆที่หน้าผากมนของคนเจ็บ
“ลูกปลอดภัยดีไม่มีรอยขีดข่วนเลย ขอบคุณนะปลาขอบคุณมาก”
“ผู้หญิงคนนั้น...”
“ชู่ว์....อย่าห่วงเลยพี่จัดการเอง นะ แล้วก็ผู้หญิง อีกคน พี่ส่งตัวให้กับทางตำรวจแล้วเขามีคดีพ่วงยาวทั้งค้ามนุษย์และยาเสพติด ถ้าปลาอยากพบ...”
“ผมอยากเจอแม่เพื่อจะบอกแม่ว่าผมไม่ได้โกรธแม่นะ ..แต่ผมไม่ได้อยากช่วยเธอเรื่องคดีพวกนั้น ผมผิดไหมคุณสงคราม “
“ไม่หรอกเธอสมควรได้รับโทษนั้น ปลาทำถูกแล้วนะ”
สงครามเข้าใจดีถึงความรู้สึกของมัจฉา การที่ลูกอย่างมัจฉาไม่วิ่งเต้นช่วยแม่เรื่องคดีนั้นเพราะมัจฉารู้อยู่แล้วว่าแม่ทำผิดจริง
ความผิดของแม่ทำหลายคนต้องตกนรกทั้งเป็นต้องทุกทรมาณสาหัสแค่ไหน มัจฉารู้ดีที่สุด ตามกฏหมายแม่ของมัจฉาควรได้รับโทษ
ไม่ว่าโทษนั้นจะหนักเบาแค่ไหนเขาเชื่อว่ามัจฉาจะยอมรับและเข้าใจได้ เด็กคนนี้เข้มแข็งจิตใจแข็งแกร่งกว่าใครอีกหลายคน
การที่เติบโตมาได้ด้วยตัวเอง ท่ามกลางความโสมมของสังคมและคนรอบตัวและเป็นคนที่มีจิตใจดีแบบนี้ได้
สงครามคิดว่าคนอย่างมัจฉาไม่ใช่คนโง่.และสิ้นคิด ไม่ใช่คนที่จะทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักโดยไม่มีเหตุผล
คนแบบมัจฉาจะมีมุมของตัวเอง มีเซฟโซนเป็นของตัวเองเวลาที่บาดเจ็บ คนแบบมัจฉาจะอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว
เพราะแบบนี้เขาจึงตกหลุมรักผู้ชายคนนี้โดยไม่มีข้อแม้ใดๆเลยสักนิด จิตใจที่ดีของมัจฉาช่วยรักษาเขาและลูก
ส่วนเขามีหน้าที่ดูแลจิตใจที่แข็งแกร่งนี้ให้อยู่กับเขาและลูกไปนานๆ
พยาบาลและหมอเจ้าของไข้เข้ามาเช็คและตรวจสภาพร่างกายก่อนจะแจ้งข่าวดีถึงร่างกายของมัจฉาที่ไม่มีจุดไหนต้องแตกหักเสียหาย
เพียงแต่มีร่องรอยของความบอบช้ำทั้งภายนอกและภายในที่ยังต้องระวังเป็นพิเศษ ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าปลอดภัย แต่ยังต้องพักที่โรงพยาบาลอีกหลายวันจนกว่าความบอบช้ำภายในจะหายดี
คล้อยหลังคุณหมอกับคุณพยาบาล มัจฉาเลื่อนมือไปจับมือใหญ่นั่นไว้แล้วบีบเบาๆให้แน่ใจว่าเขายังอยู่ตรงนี้
พลางนึกถึงช่วงเวลาที่เขากลัวจับใจ ตอนที่อยู่ในรถคันนั้นเขาคิดว่าคงไม่มีโอกาสจะได้เห็นหน้าผู้ช่ายคนนี้อีกแล้ว
ความรู้สึกเสียใจ ที่เขาไม่เคยตอบรับความรู้สึกของตัวเองและเอาแต่ผลักสงครามออกห่างเพราะความเป็นห่วง
นาทีที่คิดว่าคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วมันทำให้เขาเสียใจและอยากจะย้อนเวลากลับไปซึ่งเขาทำไม่ได้
ตอนนี้เขากลับมาแล้วโอกาสนั้นมีให้เขาอีกครั้ง เขาจะไม่ลังเลอีกต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขอให้เขาได้พูดไปสักครั้ง ปัญหาที่ตามมาค่อยๆคิดและแก้ไขกันต่อไป
“พี่เดียว...”
“หือ?”สงครามหันขวับแทบจะทันที่ที่ได้ยินสรรพนามของตัวเองจากปากคนเจ็บที่ยังนอนนิ่งๆอยู่บนเตียง
เขาคว้าเอามือเรียวที่จับมือเขาอยู่มากุมเอาไว้ทั้งสองมือรอฟังคนที่เรียกเขาว่าพี่ด้วยความตื่นเต้น....
“ผม....”
เสียงที่ขาดหายไปเหมือนกำลังชั่งใจและคิดก่อนคัดกรองคำพูดมาทำให้สงครามแทบจะหยุดหายใจเพื่อรอฟัง
“ผม...คิดถึงพี่คิดถึงคุณหนู ผมไม่เคยกลัวตายตั้งแต่เกิดมา นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมกลัว ผมยังไม่อยากตายผมยังไม่ได้บอกพี่เดียวเลย ว่าผมเองก็รักพี่เดียวรักคุณหนู ผมขออยู่ตรงนี้ ในนี้ ได้ไหมครับ “
มัจฉาค่อยๆพูดช้าๆพลางยื่นมืออีกข้างไปวางทาบตรงหน้าอกข้างซ้ายของคนตัวโตแรงสั่นสะเทือนภายใต้ฝ่ามือบางนั่นทำให้มัจฉายิ้ม
และไม่ยอมละมืออกจากตรงนั้นแรงสะเทือนที่แทบจะนับจังหวะการเต้นของหัวใจได้ด้วยมือเปล่ามันทำให้เขายิ้มกว้างโดยอัตโนมัติแม้จะยังไม่ได้รับคำตอบจากคุณพ่อ
“ปลาอยู่ตรงนี้เสมอ อยู่มานานแล้ว อาจจะครั้งแรกที่เราเจอกันด้วยซ้ำ จากวันนี้ แม้ว่าปลาอยากจะไป พี่ก็ไม่ให้ไปแล้วนะ พี่จะถือว่าคำพูดของปลาวันนี้ช่วยยืนยันว่าวันที่ปลาตกลงเป็นแฟนพี่ไม่ใช่พี่บังคับหรือเหมาเอาเอง ขอบคุณครับขอบคุณที่รักกันนะ พี่รักปลานะ รักจริงๆ “
สงครามกดริมฝีปากประทับลงหลังมือเรียวที่เขากุมเอาไว้แผ่วเบา พร้อมทั้งย้ำแล้วย้ำอีก ด้วยความตื่นเต้นดีใจ
วันที่มัจฉาตกลงรับปากเป็นแฟนเขาวันนั้นเขายังไม่ดีใจเท่าวันนี้เลย วันที่เขาได้ยินคำบอกรักออกจากปากคนเข้มแข็งคนนี้
“ขอบคุณครับขอบคุณ”
มัจฉาไม่รู้จะพูดอะไรได้มากไปกว่าคำขอบคุณหัวใจมันเต็มตื้นไปด้วยความรู้สึกดีๆเอ่อล้นอยู่ภายใน ไม่ว่าจะด้วยโชคชะตาหรือฟ้าลิขิต
ให้เขาได้มาเจอผู้ชายคนนี้ มัจฉาคิดว่าสงครามกับมาเฟีย เป็นสิ่งล้ำค่าในชีวิตเขาที่สุดแล้วตอนนี้ เขาจะรักษาทั้งคู่เอาไว้อย่างสุดกำลัง
จะไม่ลังเลอีกแล้ว ความรักที่เขาตามหา ความรักที่หายไป มันกำลังจะกลับมาหาเขามาเติมเต็มให้ชีวิตที่โดดเดี่ยวอ้างว้างของเขา
ให้มีสีสันและเติมความสุขเข้ามาในจุดที่มันเคยว่างเปล่า มัจฉาหลับตาลงไปอีกด้วยความอ่อนเพลียแต่รอยยิ้มบนใบหน้าไม่จางหายไปเลย
มือเรียวบางยังคงบีบมือใหญ่ของอีกคนเอาไว้แม้ยามหลับไหล สงครามซบหน้าลงกับท่อนแขนเรียวพลางหลับตาลงไปพร้อมกัน
เรื่องร้ายๆกำลังจะผ่านไป เขาจะทำทุกวันให้ดีที่สุดเพื่อคนที่รัก....ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สงครามเชื่อแน่ว่ารักครั้งนี้ของเขามันจะต้องดีที่สุด
.
.
.
.
TBC.....................
สวัสดีทุกคนตอนสายๆวันอาทิตย์ค่าาาาาา พันวากราบขออภัยที่หายไปนานมาก เมื่อเช้าคุณหมอนัก 9 โมง เพื่อเอาเฝือกอ่อน ที่ข้อศอกออก
ตอนนี้แขนขยับได้แล้ว ใช้คอมพ์ได้แต่ต้องไม่มากไป คุณหมองดเล่นโทรศัพท์มือถือ เพราะการก้มหน้านานๆและสองแขนที่ต้องประคิงมือถือไว้นานมันส่งผลต่อเอ็นหัวไหล่ที่ฉีกจะอักเสบขึ้นมาอีก
แต่โดยรวมถือว่าดีขึ้นเยอะค่ะแค่พักการเล่นกีฬาของพันวาไปสักพักค่ะ กลับมาปั่นน้องปลาต่อได้ 55555555
เอาล่ะไม่ทอล์คมาก แค่บอกว่ากลับมาแว้วววววววววววว ขอบคุณทุกคนที่ยังรอพันวาอยู่นะค๊า จุ๊บๆๆๆๆๆๆ
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :3123: :3123: :3123: :L1: :L1: :L1: :L1:
ตอนที่ 19 ..ครอบครัวเดียวกัน
“คุณปลาคะ เย็นนี้คุณปลาอยากกินอะไรพิเศษไหมยายจะทำให้ “
“ทำไมถามแต่ปลาล่ะครับยายกิ่งแล้วผมล่ะ “
เจ้าของบ้านร่างสูงที่เดินเข้ามาสมทบแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงคุยกันในห้องครัว
“คุณเดียวน่ะไม่ค่อยกลับมากินข้าวที่บ้านนี่คะ ยายเลยต้องถามเฉพาะคนที่เค้าอยู่กินฝีมือยาย “
เสียงหญิงชราออกจะติดงอนเจ้าของบ้าน สงครามอดที่จะขำท่าทางคนแก่ขี้ใจน้อยไม่ได้ ช่วงนี้เขามีงานเยอะ
ไหนจะตามเรื่องของทรงพลและมายา ทั้งเรื่องฟ้องร้องกุ้งและฟาง บางวันเขาก็นัดเพื่อนๆมากินข้าวคุยงานกันที่บ้าน
แต่บางครั้งงานที่บริษัทเองก็เยอะ เขาเลยต้องกลับไปวุ่นเหมือนเดิม ถึงจะแค่พักเล็กๆ เท่านั้นแต่คนที่บ้านก็งอนกันขนาดนี้
“อ่า...ขอน้อมรับผิดครับยายกิ่ง แต่ว่า วันนี้ผมว่างนะกลับบ้านเร็วด้วยเห็นไหม”
“กลับมาแล้วหรือครับ นั่งก่อนไหมเดี๋ยวผมเอาน้ำมาให้ อ้อ..ยายกิ่งครับของผมอะไรก็ได้ครับ ตามเมนูของคุณหนูเลย เดี๋ยวผมจะออกไปรับคุณหนูก่อนพี่ป๋องกับพี่เน มารอนานแล้ว”
มัจฉาบอกยายกิ่งพลางเก็บของลุกจากที่นั่ง ไปเอาน้ำมาให้ คุณสงคราม และเลี่ยงเดินออกมาหน้าบ้าน เพื่อไปรับคุณหนูที่โรงเรียน
หลังจากที่เขาออกจากโรงพยาบาลและอาการก็หายดีแล้วสามารถกลับมาทำหน้าที่ได้เหมือนเดิม
แต่คุณสงครามจ้าง เนติ หรือพี่เน มาเป็นการ์ดให้เขาทุกครั้งที่เขาไปข้างนอก แรกๆเขาก็แย้งว่าคงไม่จำเป็น
แต่ก็ขัดคนตัวโตไม่ได้ ชีวิตทุกวันนี้เลยต้องมีพี่เนติดสอยห้อยตามทุกย่างก้าว แรกๆมัจฉาก็อึดอัดเพราะไม่ชิน
แต่เดี๋ยวนี้เขาทำใจได้แล้ว และพี่เนเองก็นิสัยดีน่ารักพออยู่ด้วยกันไปสักพักความเป็นคนอารมณ์ดีของพี่เนก็ทำเขาสนิทด้วยไม่ยาก
“พี่ไปด้วย”
สงครามรีบยื่นกระเป๋ากับแก้วน้ำให้มะตูมก่อนที่จะเดินกึ่งวิ่งตามหลังคนตัวบางไป
ยายกิ่งได้แต่ยิ้มด้วยความเอ็นดู เห็นแบบนี้แล้ว เธอคงจะไม่ขัดแล้วกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่
คงอยู่ที่คุณหนูตัวน้อยของบ้านแล้วว่าจะตัดสินใจยังไง แต่เท่าที่เห็นคุณหนูมาเฟียเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของพ่อกับพี่เลี้ยง
แต่ก็อาจจะยังไม่ทั้งหมด คงต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่ดูท่าทางนายจ้างของเธอจะไม่คิดเหมือนเธอเลย
เพราะท่าทางคุณสงครามแทบจะไม่ปล่อยให้คุณมัจฉาห่างตัวเลยทีเดียวทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน จะมีคุณเนติ บอดี้การ์ดคนใหม่
เฝ้าทั้งคุณหนูและคุณปลา เรียกว่าไม่ให้คลาดสายตาเลยสักครั้ง คุณปลาเองชอบว่าคุณสงครามคิดมากเกินเหตุ
แต่เธอเห็นด้วยกับคุณสงครามเพราะจากเหตุการณ์นั้นเธอเองก็ไม่สบายใจทุกครั้งที่คุณปลาออกไปรับคุณหนูลำพัง ตั้งแต่มีคุณเนติเข้ามาทุกคนในบ้านก็สบายใจมากขึ้น
“พี่เน..เดี๋ยวแวะซื้อขนมตรงตลาดหน่อยนะครับ คุณหนูอยากกินไข่นกกระทา “มัจฉารับบอกทันทีที่เข้าไปในรถ
“ครับผม “เนติทำท่าล้อเลียนรับคำสั่งเสมือนหนึ่งว่ามัจฉาเป็นนายพล ท่าทางที่ทำประจำจนมัจฉาอดที่จะขำไม่ได้
“พี่เนทำท่าอะไรเพี้ยนๆก็น่ารักนะ คิกคิก “
“อะแฮ่ม...”
สงครามชักจะต้องคิดใหม่เรื่องวันหยุด เมื่อได้มาเห็นว่าช่วงเวลาที่เขายุ่งปลากับเน สนิทกันมากแค่ไหน
เห็นทีจะต้องเพิ่มงานให้ไอ้ธรกับไอ้รัน เขาจะได้มีเวลามาอยู่กับครอบครัวบ้าง แม้จะจีบติดเป็นแฟนแล้ว เขายังไม่ได้มากกว่ากอดกับจูบเลยเถอะ เฮอะ...
“อ่า...คุณปลาครับ คือว่า”เนติพึ่งจะเห็นว่าเจ้านายตัวโตตามมาด้วย ก็รีบสะกิดคนร่าเริงนั่นให้รู้สึกถึงสายตาขี้หวงของคุณพ่อ
“อะไรเมื่อวานยังเรียกน้องปลาอยู่เลยจะมาคุณปลาอะไรไม่เอาสิพี่เนอ่ะ “
มัจฉาอมลมจนแก้มป่องคล้ายจะพองลมจนปริ ขัดใจที่พี่ชายคนใหม่เรียกห่างเหินเกินไป แรกๆเขาไม่รู้ว่าพี่เนเป็นใคร
คิดว่าเป็นแค่การ์ดทั่วไป แต่มารู้ทีหลังว่าเป็นลูกชายคุณก้อย ที่ตอนนี้ย้ายตัวเองไปอยู่ต่างประเทศกับครอบครัวใหม่แล้ว
มัจฉาคิดถึงคุณก้อยคิดถึงเจ๊นิด ยิ่งพอได้รู้จักกับพี่เนที่ดูแลเอาใจใส่เขากับคุณหนูอย่างดี ยิ่งคิดว่าอยากมีพี่ชายแบบนี้สักคน
แต่มัจฉาลืมไปว่าสถานะของมัจฉาตอนนี้ เหมือนเป็นนายจ้างของพี่เนด้วย สายตาของสงครามที่มองมาทำให้เนติต้องขนลุก
แม้เขาจะเป็นบอดี้การ์ดผ่านงานอันตรายมาร้อยแปด แต่สายตาขี้หวงของคนตัวโตทำเอาเขารู้สึกหนาวๆแถวๆต้นคอขึ้นมาทันที เขาอยากจะบอกว่า
///คุณปลาครับวันนี้ขอห่างเหินสักวันจะดีต่อชีวิตบอดี้การ์ดอย่างผมมากครับ ///
มัจฉามัวแต่คุยกับเนติจนลืมไปว่าวันนี้คุณแฟนตัวโตมาด้วย เสียงกระแอมนั่นทำให้ปลาต้องหันไปมอง และต้องอมยิ้มน้อยๆ
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาแต่บึ้งตึง สงครามทำเมินหน้าออกนอกหน้าต่าง เขารู้ว่าทั้งคู่สนิทกัน
อาจจะเพราะเนติเองก็เป็นเสมือนญาติเขาที่พี่ก้อยฝากดูแล เพราะเนติไม่อยากไปเมืองนอก แต่เขาก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้เพราะดูเหมือนมัจฉาจะคุยเพลินจนลืมเขา
“พี่เดียวเป็นอะไรครับ เหนื่อยเหรอ”
แค่เสียงติดจะอ้อนนิดๆแววตาเป็นห่วงแต่ก็ปนขำที่ส่งมาให้ทำให้สงครามยิ้มออก ปรกติเขาไม่ใช่คนขี้หึง
แม้แต่กับมายาเขาก็ไม่เคยออกอาการหึงหวงน้อยใจ แต่กับมัจฉาเขาก็ไม่รู้ทำไมถึงอยากจะเป็นที่หนึ่งอยากเป็นคนที่มัจฉาให้ความสำคัญอารมณ์งอแง ที่มัจฉาเคยเย้าเขาเอาไว้มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
“เปล่าครับไม่เหนื่อยหรอกแค่แฟนไม่สนใจ”
คำตอบที่ทำเอาบอดี้การ์ดหน้าหล่อแทบจะสำลักน้ำที่กำลังดื่มอยู่ เขารู้จักสงครามเพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่เขา แม้จะไม่สนิทแต่ภาพของสงครามที่ทุกคนรู้จักไม่ใช่แบบนี้แน่นอน
“ฮ่าๆๆ ขี้น้อยใจนะครับ ตัวก็ออกจะโต พี่เนน่ะพี่ชายผมนะ “
เนติพอได้ยินแบบนั้นเขาแทบจะพ่นลมหายใจด้วยความโล่งอก เพราะทันทีที่คุณปลาบอกไปแบบนั้นสีหน้านายจ้างตัวโตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จริงๆวันนี้เขาว่าจะปล่อยให้เจ้านายทั้งคู่ได้มีเวลาครอบครัว แต่คุณสงครามกลับบอกว่าทุกครั้งที่มัจฉาและมาเฟียออกนอกบ้าน
คือหน้าที่ของเขาไม่ว่าคนที่ไปกับมัจฉาและมาเฟียจะเป็นใครเขาก็ต้องตามไปทุกที่ เห็นได้ชัดว่าคุณสงครามทั้งรักทั้งหวงมากแค่ไหน
คนที่คิดจะทำอะไรร้ายๆแบบที่ผ่านๆมาคงต้องคิดหนักหรือไม่ก็ไม่ต้องคิดเลย เพราะคำว่าอยู่ดีคงไม่มีสำหรับคนพวกนั้น
..............................
“พี่ปลา!!!! คิดถึงจังฮะ...งึมๆ หอมจัง”
เด็กชายตัวน้อยวิ่งรี่เข้ามากอดเอาพี่ปลาเต็มรัก รอยยิ้มกว้างของพี่เลี้ยงยิ่งทำให้เด็กน้อยมุดซุกลงกับอกทั้งส่ายหน้าส่งเสียงงึมงำๆจนคนเป็นพ่อแทบจะดึงลูกชายออกห่าง
“พอเลยเจ้าตัวเล็ก นี่แฟนพ่อนะกอดนาน ห้ามหอมด้วย ..พ่อหึง”
“หึงคืออะไรฮะ??..แล้วพี่ปลาเป็นแฟนพ่อเหรอะฮะ?”
“ใช่ มีปัญหาเหรอเจ้าตัวแสบ”สงครามเถียงกับลูกชายประจำเรื่องแฟนพ่อตั้งแต่บอกลูกว่าพี่ปลาเป็นแฟนพ่อ รู้สึกว่าเขาจะโดนลูกแกล้งบ่อยมาก
“ถ้าเป็นแฟนพ่อก็เป็นแม่เฟียอ่ะ พ่อหวงไม่ได้รู้ไหมฮะ วันนี้เฟียถามคุณครูแล้วคุณครูบอกพ่อหวงไม่ได้ฮะ “
“คุณหนูครับ เอาใหม่ครับ พี่ปลาไม่ใช่แม่ครับ พี่ปลาน่ะเป็นผู้ชายนะ เป็นแม่ไม่ได้ครับ”
“ทำไมล่ะฮะ ก็คุณครูบอกว่าแฟนพ่อก็แม่เรานี่ฮะ พี่ปลาไม่อยากเป็นแม่เฟียเหรอฮะ”เด็กน้อยเริ่มงอแงเมื่อพี่ปลาบอกว่าเป็นแม่ไม่ได้
“ฮ่าๆไม่เอาไม่งอแงสิครับ นี่ดีกว่าพี่ปลาซื้อขนมมาให้คุณหนูด้วยนะ กินก่อนๆยังร้อนอยู่เลย เดี๋ยวกลับบ้านไปค่อยคุยกันเนอะ เด็กน่ารักต้องไม่งอแง นะ คืนนี้พี่ปลาจะเล่านิทานให้ฟังสามเรื่องเลยดีไหม”
“ พี่ปลาต้องนอนกับเฟียด้วยฮะห้ามกลับห้องด้วย”
“แต่ลูกครับ พ่อล่ะครับ ...”
“พ่อก็ไปทำงานสิฮะ เฟียอยู่กับพี่ปลาได้ฮะ เนอะพี่ปลาเนอะ “
มัจฉากับเนติแทบจะหัวเราะออกมาดังๆเมื่อเจอลูกชายประชดพ่อเรื่องงงาน เด็กชายฉลาดเข้าใจแต่บางครั้งเวลากับพ่อก็สำคัญ
เขาอยากให้พ่อกลับบ้านบ่อยๆกินข้าวพร้อมกัน ดูทีวีด้วยกันใช้เวลาด้วยกันในวันหยุด แต่พี่ปลาบอกพ่อต้องทำงาน
บางครั้งก็ไม่สามารถยกเลิกงานสำคัญได้ ถึงแม้ว่าพ่อจะมีเวลาให้ทุกวันอาทิตย์ แต่ยังไงมาเฟียก็อยากให้พ่อกลับมาทานข้าวที่บ้าน
ทุกวันอยู่ดี จะว่าไปวันนี้เด็กน้อยยังแปลกใจที่เห็นพ่อมาด้วย เพราะวันนี้ไม่ใช่วันอาทิตย์
“เอาเชียวนะเจ้าแสบ เอ๊..ไหนใครบอกอยากได้กันพลาตัวใหม่น๊า....”
“เฟียๆ”
เด็กน้อยแทบจะยกมือสุดแขนเมื่อได้ยินที่พ่อพูด ลืมไปเลยว่ากำลังแกล้งงอนพ่ออยู่ เขาชอบต่อกันพลากับพี่ปลา
มีบางครั้งที่พ่อมานั่งดูด้วย พ่อต่อไม่เป็นแต่พี่ปลากับอาเนเก่งที่สุด
“พี่ว่าเย็นนี้คงมีเรื่องตกลงกับเจ้าแสบนี่ ซะแล้ว “
สงครามว่าพลางกอดลูกชายตัวน้อยที่ดิ้นๆจะไปหาพี่ปลาเอาไว้อย่างจะแกล้งขัดใจลูกชาย ทั้งหมดเดินออกจากบริเวณที่ยืนคุยกันตรงไปที่รถ
เนติมองไปรอบๆอย่างความเคยชิน ก่อนจะสะดุดเข้ากับร่างเล็กๆของใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามทางเข้าโรงเรียน
เขาเพ่งมองไปเพื่อให้แน่ใจว่าชายคนนั้นไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไรต่อครอบครัวนี้ เนติมองเลยผ่านไปเมื่อเห็นว่าชายคนนั้นเดินตรงเข้าไปในร้านขายของชำใกล้ๆ
ไม่ได้สนใจกลุ่มเขาแต่อย่างใด เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรที่น่าสงสัย เนติก็ให้ป๋องออกรถ จากลานจอดทันที
คล้อยหลังรถตู้คันใหญ่ ชายร่างเล็กหน้าตาซูบซีด ราวกับอดนอนมาทั้งคืนก็เดินกลับออกมาจากร้านขายของชำโดยที่ไม่มีอะไรติดมือมาสักอย่างเขามองตามรถตู้คันหรูไปจนลับสายตา
“ปู...ไปเถอะ..เห็นแล้วนี่”ผู้ชายอีกคนเดินออกมาจากมุมกำแพงข้างทาง
“อืม..”
“เดี๋ยวเรื่องเงินก้อนนั้น ผมจะให้เลขาโอนเข้าบัญชีลูกชายคุณละกัน”
“อย่าให้ปลารู้ล่ะว่าเงินมาจากไหน คุณสัญญาแล้ว”
“ไว้ใจผมน่า ทั้งเงินทั้งจดหมายจะถึงมือลูกชายคุณพรุ่งนี้แน่นอน..แต่ตอนนี้เราต้องไปกันแล้ว”
// พ่อขอโทษนะลูกแค่รู้ว่าลูกสบายดี พ่อก็ไม่มีธุระอะไรที่จะไปเจอหน้า แค่ได้เห็นว่าลูกอยู่สุขสบายดีกับคนดีๆ พ่อก็ดีใจแล้ว //
เขาคิดพึมพำในใจ ก่อนจะหยิบเอากระเป๋าผ้าใบใหญ่ที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมาสะพาย และเดินตามหลังชายอีกคนไปอย่างไม่หันกลับมาอีกเลย
.............................................
“พี่ตูมฮะ พ่อจะซื้อกันพลาตัวใหม่ให้เฟียล่ะ มาต่อด้วยกันไหมฮะ“
“โห..คุณหนูคะ น่ารักมากอุตส่าห์นึกถึงพี่ตูม “
หญิงสาวตรงรี่เข้ามากอดเอาคุณหนูตัวน้อยไว้ พร้อมกับหอมแก้มซ้ายขวาอย่างหมั่นเขี้ยว คุณหนูของเธอน่ารักขึ้นเยอะมาก การพูดการจาและการแสดงออก เป็นไปในทางที่ดี ยายกิ่งชมไม่ขาดปากเลย
“พี่ปลาบอกว่าถ้าเรามีต้องแบ่งปันฮะ นี่เฟียยังเอาขนมที่พี่ปลาทำไปฝากเพื่อนกับคุณครูเลย ทุกคนชอบกิน เฟียก็ดีใจฮะ เพื่อนๆมาเล่นกับเฟียเต็มเลย”
เด็กชายยิ้มตาหยีเมื่อเล่าถึงเพื่อนที่โรงเรียนแต่ก่อนไม่ค่อยมีใครอยากจะเล่นกับเขานักคงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยอยากจะเล่นกับใครด้วย
แม้จะเหงาแต่ท่าทางและอารมณ์บางครั้งที่เด็กชายมักแสดงออกไปโดยไม่รู้ตัวมันทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าใกล้
และไม่ชอบท่าทางที่เงียบขรึมไม่ยิ้มแย้มไม่เล่นสนุกเหมือนเด็กคนอื่น ๆ วันนี้แม้ว่าเด็กชายจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องอยู่คนเดียว
ทำไมเพื่อนไม่สนใจไม่มีใครสนใจเขาเลย จนกระทั่ง พี่เลี้ยงอย่างพี่ปลาก้าวเข้ามา ทุกอย่างในชีวิตเหมือนง่ายขึ้น ดีขึ้น
พฤติกรรมดีๆของเด็กชายที่พื้นฐานเป็นเด็กดีอยู่แล้ว ก็เริ่มแสดงออกมาให้หลายคนได้เห็นความเหงาที่เคยมีหายไป
มีแต่ความสุขที่เริ่มเข้ามาแทนที่ เด็กชายคิดว่า พี่ปลาคนนี้คือของขวัญที่แสนวิเศษ
ที่เขาไม่มีวันยกให้ใคร ...อ้อ ..คงต้องยอมพ่อคนหนึ่งละ ก็พี่ปลาเป็นแฟนพ่อนี่นา แล้วเขาล่ะ จะมีแฟนดีๆอย่างพี่ปลาหรือเปล่านะ
“พ่อฮะ เฟียจะแบ่งกันพลาให้พี่ตูมเล่นด้วยได้ไหมฮะพ่อ”
“ได้สิ แต่พี่ตูมต้องว่างก่อนนะ อย่าชวนพี่ตูมเสียงานล่ะรู้ไหมเจ้าเด็กแสบ”
“ฮะ ไม่เสียฮะ พี่ตูมบอกว่าทำงานเสร็จแล้วจะมาเล่นด้วยฮะ”
”ดีมากลูกชาย ...ปลาครับ พี่ฝากเก็บอันนี้ได้ไหม”
สงครามยื่นกระเป๋าเอกสารใบเล็กให้มัจฉาก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ร่างกายที่ต้องการพักผ่อนเริ่มประท้วงเขาเหนื่อยแต่ก็ยังอยากอยู่กับลูกและมัจฉา
เนติขอตัวไปทำธุระ คงกลับมาอีกทีตอนเช้าเลย สงครามเองก็ให้อิสระแก่เนติเต็มที่ แม้จะมาทำงานให้แต่เนติก็ถือว่าเป็นญาติคนหนึ่งเหมือนกัน
“พ่อฮะ เฟียอยากมีแฟนบ้าง ขอพี่ปลาเป็นแฟนด้วยคนได้ไหมฮะ”
คำถามที่ไม่คิดอะไรเพราไม่รู้ความหมายของคำว่าแฟนเท่าไหร่ เข้าใจว่าแฟนของพ่อคือแม่ แต่พี่ปลาบอกเป็นแม่ไม่ได้เพราะเป็นผู้ชาย ถ้าอย่างนั้นพี่ปลาก็เป็นแฟนเขาได้สิ
มัจฉามองหน้าคุณสงครามพลางพยักหน้าให้ ก่อนจะขอตัวไปทำอาหารเย็นช่วยยายกิ่ง ปล่อยให้พ่อลูกได้คุยกัน
เขาเองไม่รีบเพราะมาเฟียยังเด็ก แต่การปล่อยให้เด็กเข้าใจได้เองบางทีก็เสี่ยงเกินไป เขาจึงตกลงกับคุณสงครามว่า
จะค่อยๆทำความเข้าใจไปเรื่อยๆตามวัยของคุณหนูจะไม่ปล่อยผ่านทุกคำถามของเด็ก
เพราะเขาอยากให้คุณหนูเติบโตมาบนพื้นฐานความเข้าใจในสถานะของพ่อกับพี่เลี้ยง
แม้เขาเองจะไม่แน่ใจนักว่าจะทำได้ดีแค่ไหน แต่เขาได้รับปากคุณสงครามไปแล้วว่าเรื่องนี้ พวกเขาทั้งคู่ต้องพยายาม ทำให้ได้
“มาให้พ่อกอดหน่อยมา “สงครามอ้าแขนออกกว้างให้เด็กชายตัวกลมเข้ามาซุกอกก่อนจะกอดลูกชายเอาไว้ในห้อมแขนแล้วโยกไปมาเบาๆ
“เฟียครับ เฟียจะไปเยี่ยมแม่มายาหรือเปล่าลูก “
สงครามพึ่งได้รายงานจากรันว่าทรงพลทำตามข้อเสนอของเขาโดยการฟ้องร้อง มายาทั้งเรื่องฉ้อโกงและเรื่องที่มายาร่วมมือกับเสี่ยชัย
ทำการค้ามนุษย์ข้ามชาติ โทษที่ได้รับคงเพียงพอที่จะสั่งสอนมายาให้เข้าใจ ในเรื่องความผิดที่ทำลงไป
แต่ในส่วนของความเป็นแม่เขาอยากให้เฟียกับมายาได้อยู่ด้วยกันสักครั้ง เขาไม่อยากให้ลูกกลัวแม่จนตลอดชีวิตเขา
อย่างน้อยเรื่องลูกมายาก็ไม่ได้ตั้งใจ แม้จะเคยทำร้ายกันแต่จากที่เจอกันครั้งสุดท้ายเขาคิดว่ามายาคงคิดได้เรื่องของลูก
“แม่ไปไหนฮะ”
“แม่ทำผิดแม่ต้องรับโทษ อีกนานกว่าที่ลูกจะได้เจอแม่อีก พ่อเลยอยากให้ลูกได้ลาแม่เขาสักหน่อย “
“แล้ว...แม่จะตีเฟียอีกไหมฮะ”
“ไม่หรอกลูกแม่ไม่ตีเฟียแล้ว แม่อยากจะขอโทษเฟีย ลูกจะให้โอกาสแม่เขาไหมขอให้แม่เขาได้ขอโทษมาเฟียสักครั้งได้ไหมลูก “
แม้สงครามจะโกรธมายาเพียงไหนแต่ความเป็นแม่ลูกเขาไม่อยากปิดกั้น และที่สำคัญมายาสำนึกในความผิดที่ได้ก่อ
และที่กระทำกับตัวเขามาตลอด คำสารภาพ ที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าตลอดเวลา มายาไม่เคยรักเขา มายาไม่เคยรักใครแม้แต่ทรงพล
มายารักตัวเอง ชอบความฟุ้งเฟ้อหรูหรามีหน้าตาในวงสังคม กว่าจะรู้ว่าสิ่งที่ทำมาตลอดมันผิด เธอก็คิดได้เมื่อสายไป
แต่สิ่งที่เธอร้องขอสงครามแค่สักครั้งในชีวิตที่เธอคิดไว้คือการพบหน้าลูกชายคนเดียวของเธอ มัจฉาเองก็บอกเขาหลายอย่าง
เรื่องการใช้ชีวิตที่ถูกตัดขาดมันเจ็บปวดแค่ไหน อย่างน้อยขอแค่ให้ได้รู้ว่าแม่เป็นใครอยู่ที่ไหน แค่นั้นก็พอใจมากแล้วและมัจฉาคิดว่า มาเฟียก็ไม่ต่างอะไรกับเขานัก
“ถ้าเฟียไปหาแม่พอจะไปด้วยใช่ไหมฮะ”
“ใช่ลูกพ่อจะไปด้วย พี่ปลาก็จะไปด้วยนะ “
“ได้ฮะ เฟียจะไปหาแม่แต่ว่า...พ่อฮะพ่อยังใม่ได้บอกเฟียเลยฮะว่า พี่ปลาเป็นแฟนเฟียด้วยได้ไหมฮะ “
“อืม....แฟนน่ะมีได้คนเดียวครับคุณลูกชาย พี่ปลาเป็นแฟนพ่อ แต่พี่ปลาจะอยู่กับพ่อกับเฟียไปตลอดเลย สักวันเฟียจะมีแฟนแต่เฟียต้องโตกว่านี้ก่อน ตอนนี้เฟียยังเด็กเกินไปที่จะมีแฟนนะ เข้าใจไหมตัวยุ่ง”
“เป็นผู้ใหญ่แล้วถึงจะมีแฟนได้ใช่ไหมฮะ”
“ใช่ครับ...เฟียอยากให้พี่ปลาอยู่กับเราไปนานๆไหม ฮึ”
“อยากฮะ”
“งั้นเฟียต้องทำตามที่พ่อบอกนะ”
“ทำไงฮะ”
“คืนนี้ลูกต้องรีบนอนนิทานเรื่องเดียวต้องรีบหลับ ที่เหลือพ่อทำเอง หึหึ”
“พ่อจะไม่แกล้งพี่ปลาใช่ไหมฮะ “
“ไม่หรอก พ่อรักพี่ปลานะ เฟียเข้าใจใช่ไหมลูก “
“เข้าใจฮะ แต่พ่อก็รักฟียด้วยใช่ไหมฮะ”
“แน่นอนสิ ลูกชายคนเดียวของพ่อนะ จำไว้นะลูก เฟียคือชีวิตของพ่อ พ่อรักลูกมากนะ แต่พี่ปลาก็สำคัญกับพ่อเช่นกัน เฟียรักพี่ปลาไหมลูก”
“รักฮะพี่ปลาใจดี พี่ปลาเก่ง พี่ปลาสวยด้วย ตัวหอม น่ารัก อือ..”
“เดี๋ยวๆเจ้าแสบอันหลังๆนี่ไม่ใช่แล้วนะมาให้ฟัดซะดีๆ “
เสียงหัวเราะดังลั่นมาจากห้องรับแขกมัจฉาหันมายิ้มให้กับหญิงชราที่ยืนทำกับข้าวไปพร้อมกับรอยยิ้มเต็มหน้า
ยายกิ่งเองก็รู้สึกดีที่วันนี้เธอยังอยู่ได้เห็น แต่ก่อนเธอคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้แต่ความหวังริบหรี่เกินจะหวัง
แต่มาวันนี้เธอต้องขอบใจหนุ่มน้อยคนนี้ คนที่เข้ามาเติมต็มครอบครัว ของคุณสงคราม เข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกัน
สิ่งที่เธอเคยคิดว่าคุณมัจฉาคนนี้ไม่ควรรู้เรื่องราวครอบครัวที่แตกร้าวของคุณสงครามเธอไม่ต้องกังวลแล้ว
เพราะคุณสงครามได้บอกไปหมดแล้ว เธอก็ได้แต่หวังว่า คุณมัจฉาจะไม่ทำซ้ำรอยเดิมคุณมายา ที่เดินหลงทางไป
ถึงแม้เธอจะแอบกังวลเรื่องความรักของคุณสงครามและคุณมัจฉา ว่าในอนาคตคุณหนูโตขึ้น
คุณหนูจะยังรักคุณปลาของเธอเหมือนเดิมหรือเปล่า นี่ต่างหากล่ะที่เธอกังวล และยายกิ่งก็คิดว่า
คุณปลาของเธอก็คงคิดเหมือนกัน ได้แต่ภาวนาว่า ขอให้ความรักที่คุณปลาที่มีต่อคุณหนูทำให้คุณหนูยอมรับความรักนี้ได้ด้วยเถอะ.....
.
.
.
.
.
TBC .................
หวัดดีวันอาทิตย์ค่า แหะๆ คงมาได่แค่อาทิตย์ละ 1 วัน ดูจากสภาพร่างกายแล้วนะคะ5555555
เรื่องหมดสต็อคด้วย5555 ตอนหน้าปั่น NC สดๆ จิไหวม้ายยยยยยยยยยพันวาาาาาาา :hao6: :hao6: :hao6:
บางทีคิดตอนเรื่องหลักไม่ออก ดันคิดพล็อต พี่ธรกับพี่รันออกซะงั้นแอบปั่นไว้ได้หลายตอนละ แต่ยังไม่กล้าลง เพราะกลัวสต็อคหมดแล้วปั่นไม่ทันเกรงใจคนรออ่าน
เอาเรื่องนี้ให้จบก่อนเนาะ พี่รันกับพี่ธรค่อยว่าอีกที :katai4: :katai4:
มีนักอ่านบางท่านบอกพันวาว่า นิยายเรื่องนี้พันวาเรียบเรียงผิดตอนทำให้งงในการอ่าน
แหะๆเอาจริงๆ พันวาไม่รู้ว่าตรงไหนที่อ่านแล้วงงๆ ช่วยบอกด้วยนะคะ ถ้าเป็นลำดับตอน
พันวาคิดว่า ไทม์ไลน์เนื้อเรื่องก็เป็นไปตามนั้นเนอะ หากใครคิดว่าตรงไหนที่ งง ๆก็บอกพันวาได้นะคะ
เพราะบางตอนมีสลับพาสกับอดีตด้วย พันวาอาจจะบรรยายไม่เข้าใจ จะได้ไปแก้ไขเนอะ ....
ตอนนี้ขอไปพักก่อนนะคะ เจอกันอาทิตย์หน้าเลย อาจจะได้มาทุกวันอาทิตย์ เพระาพี่หมอไม่อยู่ 5555แอบมาลงได้
ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านและแนะนำเข้ามานะคะ ดรั๊กก็จัง :mew1: :mew1: :mew1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ตอนที่ 20 ...ไวน์...แดง...
“พี่ปลาฮะ ทำไมพี่ปลาถึงเป็นแม่ให้เฟียไม่ได้ฮะ”
มัจฉานั่งมองเด็กชายที่ตั้งคำถามตาแป๋วไม่มีท่าทีว่าจะนอนทั้งๆที่ตาปรือจนจะปิดอยู่แล้ว ให้นึกเอ็นดูในความช่างสงสัย เขาคิดมาทั้งวัน
ว่าจะอธิบายให้คุณหนูตัวน้อยเข้าใจยังไงดี เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เขาไม่อยากกระทบความรู้สึกของเด็ก
“คุณหนูครับฟังพี่ปลาแล้วค่อยๆคิดตามที่พี่ปลาพูดนะครับ “เด็กชายพยักหน้าหงึกหงักตั้งใจฟังเต็มที่
“คนที่เป็นแม่น่ะ เป็นผู้หญิงครับ อย่างภาพนี้ไง “มัจฉาเอาหนังสือการดูแลครรภ์ที่ซื้อมาเปิดกางให้เด็กชายดูด้วยกัน
“แม่มายาของเฟียน่ะเคยท้องโตแบบนี้เพราะมีเฟียอยู่ในนั้น ตั้ง 9 เดือน และคนที่จะมีน้องอยู่ในนั้นได้ต้องเป็นผู้หญิงครับ ผู้ชายเป็นไม่ได้ “
“ทำไมเฟียไปอยู่ในท้องแม่ล่ะฮะ”
เด็กน้อยถามประสาซื่อ แต่ผู้ใหญ่อย่างมัจฉากลับรู้สึกหน้าร้อนๆกับคำถามนั่น นี่เขาจะสอนเพศศึกษาให้เด็กแปดขวบหรือไงนะ โอยแค่คิดก็จะบ้าตาย
“ก็คุณพ่อไงครับ ..คือ เอางี้ การที่มาเฟียจะเกิดมาได้ต้องมีคุณพ่อกับคุณแม่นะครับ คุณแม่จะเป็นผู้หญิง คุณพ่อก็เป็นผู้ชายไง “
มัจฉาเริ่มจะงงตัวเองที่ต้องมาอธิบายถ้าเป็นวัยที่โตกว่านี้หน่อยเขาจะไม่คิดเยอะขนาดนี้เลย
“งั้นพี่ปลาก็เป็นแม่ไม่ได้ใช่ไหมฮะเพราะพี่ปลาเป็นผู้ชาย.....”
“ครับ พี่ปลาเป็นแม่ไม่ได้หรอกนะครับ “
มัจฉาตอบพลางยกมือขึ้นลูบหัวเด็กน้อยเบาๆมาเฟียขยับเข้ามากอดพี่ปลาของเขาเอาไว้ พลางซบหน้าลงกับอก ก่อนจะบ่นอูอี้ ตามความเข้าใจของเด็กน้อย
“แล้วแบบนี้พี่ปลาเป็นอะไรล่ะ เป็นพ่อไม่ได้พ่อมีแล้ว งืมๆพี่ชายเหรอ ไม่เอา ....”
มัจฉาอมยิ้มกับความช่างคิดของเด็กน้อย สงครามที่ยืนพิงประตูมองสองคนคุยกันอยู่นานต้องเดินเข้ามาสมทบ
เขานั่งลงข้างๆพี่เลี้ยงที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงของลูกชาย เจ้าตัวแสบก็กอดพี่เลี้ยงไว้ไม่ยอมปล่อย
“พี่ปลาก็เป็นพี่ปลาของเฟียเหมือนเดิมนั่นแหละลูก ไม่ได้เป็นพี่เลี้ยงแล้วแต่เป็นแฟนพ่อแทนนะ หึหึ”
“ย้ำจังนะครับ ผมยิ่งอธิบายยากอยู่”มัจฉาทำหน้ามุ่ยขัดใจเมื่อคนตัวโตชอบจะพูดกับลูกให้ลูกสงสัยแต่ทิ้งให้เขาตอบคำถาม
“ไม่เอาน่า อย่าทำหน้างอสิ เดี๋ยวลูกไม่รักนะ “
สงครามเย้าแหย่คนหน้างอบนเตียงอย่างอารมณ์ดี เด็กชายเงยหน้าขึ้นมาเหมือนจะนึกอะไรได้
“ลูกเหรอ..งั้น เฟียมีพ่อสองคนดีกว่ามีเยอะกว่าเพื่อนด้วย พ่อปลาพ่อเดียว งึมๆ”
พูดจบก็มุดหน้าลงกับอกบางๆของคุณพ่อคนใหม่ มัจฉามองหน้าเด็กง่วงที่ทำตาปรือๆพยายามฝืนตัวเองไม่นอน แล้วก็อดที่จะขำไม่ได้ มีพ่อเยอะดีกว่างั้นเหรอ หึหึ เด็กน้อยจริงๆ
"พี่เดียวไปทำงานก็ได้นะครับเดี๋ยวผมจัดการเองนะ "มัจฉาเอ่ยบอกเพราะเห็นว่าคนตัวโตยังมีงานค้างอยู่
สงครามเดินออกมายืนมองคนสองคนที่เขารักมากอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี มันอิ่มอยู่ในใจภาพมัจฉากำลังจัดแจง
ให้ลูกชายตัวน้อยของเขาให้นอนด้วยท่าสบาย ห่มผ้าให้ทั้งยังจุ๊บแก้มเล็กเบาๆทั้งกล่าวฝันดีกับเด็กชาย
นานแค่ไหนกันนะที่เขาไม่ได้เห็นภาพแบบนี้ เขาคิดว่าเมื่อมาเฟียโตขึ้นลูกชายเขาจะเข้าใจความรักระหว่างเขากับพี่ปลา
ตอนนี้ลูกยังเด็กการอธิบายอะไรที่ยากเกินความเข้าใจของเด็กก็ทำความลำบากให้พวกเขาทั้งคู่ แต่ไม่ว่าจะยังไง
เขาจะต้องพยายามให้ลูกเข้าใจไม่ว่าจะนานแค่ไหนเขาจะไม่ปล่อยมือ
.......................
“อ้าวคุณรัน มีอะไรหรือเปล่าครับ “
มัจฉาเดินออกจากห้องหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วด้วยความหิวจึงคิดจะเข้าครัวไปหาอะไรกินสักหน่อย นาฬิกาบอกเวลา เกือบห้าทุ่ม
คงกินได้แค่น้ำผลไม้หรือนม ยังไม่ทันจะได้เดินไปถึงครัวเขาก็ชะงักเมื่อเจอการันต์ที่เดินออกมาจากห้องทำงานของคุณสงคราม
เลยแปลกใจเพราะวันนี้เจ้าของบ้านไม่ได้คุยถึงเรื่องงานกับเพื่อนเลย
“เปล่าครับคุณปลา แค่เอาของมาให้คุณสงคราม”
มัจฉาถอนหายใจยาวกับคำเรียกขานของเพื่อนสนิทคุณสงคราม เขาเองก็พึ่งจะมาทราบทีหลังว่า คุณการันต์เป็นเพื่อนสนิทคุณสงครามก็เพราะคำเรียกขานแบบนี้ไง เขาเลยไม่รู้
“คุณรันครับ เรียกปลาเฉยๆก็พอครับ ผมไหว้ล่ะ “
การันต์ยิ้มขำกับท่าทางของเพื่อนสะใภ้คนใหม่ เขาชอบแกล้งมัจฉาก็สีหน้าท่าทางมันน่าแกล้งจะตายไป
“หึหึ ครับคุณปลา”
“คุณรัน!!..ฮึ่ยขี้แกล้งพอกันเลยนะเพื่อนกันนี่ เฮอะ...ว่าแต่คุณรันจะกินอะไรไหมครับเดี๋ยวผมทำให้”
มัจฉาทำหน้างอๆ แต่ก็อดเป็นห่วงการันต์ไม่ได้ เพราะดูท่าทางจะเพลียมาก
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมจะกลับแล้ว ปลาไปดูไอ้เดียวมันเหอะ อย่าให้มันกินเยอะนักล่ะ “การันต์พูดแค่นั้นก็โบกมือลาแล้วเดินออกนอกบ้านไป
“กินเยอะ..? กินอะไร? “
มัจฉาสงสัยจึงเดินเข้าไปที่ห้องทำงาน แต่ภาพที่เห็นทำเอาเขายิ้มอย่างเอ็นดูคนตัวโตที่ฟุบหลับอยู่บนโต๊ะทำงาน
แต่ ข้างๆมีแก้วไวน์ใบใหญ่วางอยู่ ยังมีไวน์สีสวยอยู่เกือบเต็มแก้ว มัจฉาถอนหายใจเฮือกเมื่อเห็นว่าคุณสงครามหลับไปเพราะอะไร
บอกว่าอย่ากินๆเฮ้อ...แม้จะหลับได้แต่มันก็ไม่ดีต่อสุขภาพเลยนะ เขาหยิบเอาแก้วใบนั้นเพื่อจะเก็บเข้าที่
ความเย็นของไวน์ยังอยู่แสดงว่าคนที่ฟุบอยู่ไม่ได้หลับคงแค่มึน
“เหนื่อยๆก็ไปนอนสิครับจะมากินทำไมกันฮึ ...”
“นิดหน่อยเองครับ พี่แค่จิบๆนะ”เสียงพึมพำจากคนฟุบอยู่บนโต๊ะทำให้มัจฉาส่ายหน้าเบาๆ
มันอร่อยตรงไหนกันนะ ของพวกนี้ คิดพลางพิจารณาแก้วไวน์ในมือ กลิ่นไวน์จากแก้วลอยเข้ามาปะทะกับจมูก มันต่างกับกลิ่นเหล้าที่พ่อเคยกิน ด้วยความอยากรู้ มัจฉายกไวน์แก้วนั้นขึ้นดื่มพรวดเดียว...
.”อึก..!” รสชาติฝาดเฝื่อนแต่นุ่มลิ้นอย่างบอกไม่ถูก ความร้อนกระจายไปทั่วกระพุ้งแก้มทั้งลำคอ
“แหวะ..แค่กๆ”
สงครามเงยหน้าขึ้นมาดูเมื่อได้ยินเสียง ภาพมัจฉายืนถือแก้วไวน์ที่ไม่เหลือไวน์ให้เห็น หน้าแดงก่ำไปทั่วทั้งหน้าและลำคอ เขารีบยื่นมือไปรับเอาแก้วเปล่าใบนั้นที่ทำท่าจะร่วงจากมือ
“เด็กซน..ไงล่ะแอบกินไม่ดีเลยน๊า ฮึ”
“ปละ..เปล่าสักหน่อย แค่กๆ แค่ปลาอยากรู้ว่ามันอร่อยเหรอ ..พี่ชอบดื่มจัง”เสียงสั่นๆทั้งยังไอไม่หายเพราะสำลักไวน์เข้าไปเต็มๆ
“ใครเขาให้กระดกซะหมดแก้วแบบนั้นครับที่รัก ไวน์นะ ไม่ใช่เหล้า เฮ้อ...พี่แค่จิบๆหลังอาหารนิดหน่อยเอง ไม่ได้เป็นขี้เมาสักหน่อย “
สงครามบ่นพึมพำเบาๆเมื่อเห็นคนดื้อยังไอแค่กๆไม่หยุด
“รันมันเอามาให้ลองชิมจะใช้รับแขกผู้ใหญ่พรุ่งนี้ เลยจิบๆแค่ชิมเอง”
สงครามพูดไปเรื่อยๆให้คนตัวบางฟังเขาเข้าใจเจตนาของมัจฉาว่าไม่อยากให้เขาดื่มของมึนเมามากนัก แต่แค่ชิมเพื่อเทสรสเท่านั้น
สงครามหันกลับไปมองคนร่างบางที่นั่งลงบนโซฟา จากทีแรกที่ยืนอยู่ เขาเห็นมัจฉาเงียบผิดปรกติเลยเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ
“ปลาครับ ไหวไหม สำลักขนาดนั้นดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้ “
“อือ..พี่เดียวมันไม่อร่อยเลยอ่า.อือ...หัวหมุนๆ พื้นเอียง อือ...”
เสียงเหมือนจะบ่นงึมงำคนเดียวทำให้สงครามที่กำลังจะลุกต้องนั่งลงและมองหน้าคนแอบกินไวน์ชัดๆท่าทางแบบนี้เมาแน่ๆ
ทำให้นึกถึงการันต์ที่แพ้ไวน์แดงเหมือนกันกินนิดเดียวแต่เมาเร็ว ทุกครั้งที่เทสไวน์แดงจะเป็นเขากับกันธร
เพราะการันต์ไม่ดื่มไวน์แดงอีกเลย หลังจากเทสครั้งแรก วันรับปริญญาของพวกเขาการันต์เมาเละเทะ แค่ไวน์สองแก้ว
ตอนนี้เขาเห็นมัจฉาอาการคล้ายการันต์สมัยนั้นเลยอดที่จะหัวเราะขำไม่ได้ สงครามนั่งคร่อมคนตัวบางที่นั่งเอนเหยียดยาวไปกับโซฟา
มัจฉาเอนหลังพิงพนักโซฟาตัวใหญ่เขารู้สึกมึนหัว หน้าร้อนตัวร้อน ลุกยืนไม่ได้พื้นมันเอียงเลยต้องเอนหลังพิงพนักเอาไว้
ใบหน้าหล่อเหลาของคนตัวโตยื่นมาใกล้ๆแววตาเป็นห่วงที่ส่งมาทำให้มัจฉาอมยิ้มแล้วยื่นมือเข้าไปลูบแก้มสากเบาๆ
เขามองดูหน้าคุณสงครามใกล้ๆเหมือนกับว่าไม่เคยเห็น มัจฉายื่นอีกมือไปจับแก้มอีกข้างเอาไว้พร้อมทั้งสบตาคู่นั้นที่มองมา
เขาเห็นเงาตัวเองในนั้น เห็นชัดเจนจนไม่อาจละสายตา สงครามโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆดวงหน้าเนียนใสเห่อแดงไปทั่วหน้าและลำคอ
แววตาซุกซนสั่นไหว มือนุ่มนิ่มลูบไล้ไปทั่วหน้าของเขา จนต้องจับเอาไว้พลางสบตาสื่อความหมายไปให้
“ปลาครับ “
เสียงเรียกแผ่วเบาข้างหูทำให้มัจฉาต้องขยับเข้าหาดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของคุณสงครามก่อนจะวาดแขนทั้งสองขึ้นโอบรอบคอคนตัวโตเอาไว้ เขาแค่ไม่อยากลุกไปไหน แค่อยากนั่งตรงนี้อยู่ใกล้ๆกัน
“เด็กดื้อ...อย่ามายั่วกันสิ “
สงครามครางประท้วงเบาๆเมื่อมัจฉายกเข่าขึ้นจนไปโดนจุดหวงห้ามการขยับขาไปมาเบาๆของมัจฉาที่ทำไปโดยไม่รู้ตัวนั่น
เท่ากับปลุกเดียวน้อยที่กำลังหลับไหลให้ตื่น โดยที่เจ้าตัวไม่รู้สักนิดว่าที่ทำอยู่เป็นการยั่วแบบที่คุณสงครามกล่าวหาเขานั่น
มัจฉาอยากเถียงแต่ไม่มีแรงพอที่จะพูดเขาไม่ได้ยั่วสักหน่อยแค่อยากอยู่ใกล้ๆ
“อือ..พี่เดียวพาไปนอนหน่อย ปลาอยากนอน “
เสียงเบาอู้อี้ดังขึ้นแถมคำแทนตัวที่ไม่เคยได้ยินแบบนั้น แทบจะตัดสติของสงครามให้ขาด หน้าตาท่าทางเชิญชวนออกปานนั้นแถมให้พาไปนอนอีก ไอ้เดียวเอ๊ย..จะทนไหวไหม
ก่อนที่จะได้ทำอะไร ขาเรียวสวยของอีกคนก็เสียดสีไปมากับการขยับตัว ทำให้ให้สงครามหมดความคิดที่จะพาคนสวยเข้านอน
แต่เขากลับทิ้งร่างลงมาทาบทับเอนลู่ไปด้วยกันบนโซฟาตัวใหญ่ ริมฝีปากหนาเคลื่อนเข้าหาใบหน้านวลเนียนพลางประกบลงกับริมฝีปากสวยได้รูปของอีกคน
บดเบียดเคล้าคลึงเบาๆสงครามใช้ปลายลิ้นเลียปากอิ่มของอีกคนก่อนจะค่อยๆแทรกริมฝีปากนุ่มนิ่มนั่นเบาๆ
จนเจอไรฟันที่เรียงตัวอยู่ข้างในเขาดูดและขบกัดเบาๆที่ริมฝีปาก ของมัจฉา ลมหายใจร้อนๆเริ่มสั่นกระชั้น
ร่างกายบดเบียดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ สองมือเรียวเลื่อนลงมาขยุ้มเสื้อเชิ๊ตที่ปลดกระดุมเม็ดบนไว้
“อือ..พี่เดียวอ่า....”เสียงครางเครือของคนใต้ร่างยิ่งโหมกระพืออารมณ์ของสงครามให้คุกรุ่น
“ปลา ...ที่รัก ไปนอนนะคนดีนะครับ “ สงครามผละออกจากปากอิ่มนั่นอย่างเสียดายพลางเอ่ยชักนำให้คนตัวบางไปนอน มัจฉากำลังเมาเขาไม่อยากเอาเปรียบ
“ไม่เอาจะนอนตรงนี้พี่เดียวนอนด้วยนะ”
สองมือไขว่คว้ากอดรัดรอบลำตัวหนาของอีกคนเอาไว้ สองขาเรียวอ้ากว้างออกให้คนตัวโตแทรกร่างลงมา
มัจฉาหยัดกายเบียดเข้าไปในอ้อมกอดของสงครามยื่นหน้าขึ้นมาหาพร้อมกับจูบเบาๆที่ริมฝีปากของสงคราม
สองขาเรียวเหนี่ยวรั่งก่ายกอดคนตัวโตเอาไว้ เพียงแค่นั้น ความอดทนที่มีก็หลุดลอยไป
“เด็กช่างยั่ว”
สงครามโน้มหน้าเข้าหาคนช่างยั่วอีกครั้งเขาประกบปากแนบแน่น ลิ้นร้อนซอกซอนไปทั่วโพลงปากดูดดุนริมฝีปากของอีกคนกัดเบาๆย้ำๆกระตุ้นอารมณ์ภายในลุกฮือ
จนยากที่จะต่อต้าน ริมฝีปากทั้งลิ้นร้อนไล่เลียทั้งกดจูบไปทั่วลำคอระหง ไล่ลงมาซอกคอหอมกรุ่นทั้งไหปลาร้าเซ็กซี่สะดุดตา
สงครามถอดเสื้อยืดตัวโคร่งออกจากร่างของคนเมา มัจฉามีผิวละเอียดขาวสะอาดตา แต่ตอนนี้มันแดงไปทั้งตัว
ยอดอกชูชันท้าทายสายตาสงครามไม่คิดว่าร่างกายผู้ชายจะสวยได้ขนาดนี้ มือหนาลูบไล้เบาๆไปทั่วสีข้างแและท้องน้อย
ไล่ต่ำลงไปในขอบกางเกงยืดขาสั้นที่มัจฉาใส่อยู่ สงครามดึงกางเกงตัวนั้นลงพร้อมทั้งชั้นในสีขาวอีกตัว
ก่อนจะลุกขึ้นถอดเสื้อเชิ้ตของเขาออกพร้อมทั้งกางเกงก่อนจะทาบทับร่างเปลือยเปล่าเข้าเสียดสีกับผิวเนื้ออุ่นร้อนของอีกคน
แค่เพียงร่างกายสัมผัสกัน สงครามก็แทบจะทนไม่ไหว เมื่อมัจฉาเบียดกายเข้าหา
“อ่าพี่เดียว อือ..”
มัจฉาครางเครือส่ายหน้าไปมาเมื่อปากอุ่นๆครอบลงบนยอดอกลิ้นร้อนๆตวัดไปมาเบาๆเขารู้สึกขนลูกซู่ไปทั่วทั้งร่าง
เหมือนจะหนาวแต่ร่างกายมันร้อน มือน้อยๆปัดป่ายสะเปะสะปะ เขารู้ตัวดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่เขาเต็มใจ
เขาไม่ได้ขาดสติเพียงแค่ควบคุมใจตัวเองไม่ได้ก็เท่านั้น แค่เป็นคุณสงครามเขายอม
สองมือเรียวลูบไไล้ไปทั่วศรีษะขอองงคนตัโตที่ซุกซบอยู่ สอดแทรกนิ้วเรียวเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มสวยก่อนจะขยุ้มเบาๆเมื่อคนตัวโตขบกัดที่เม็ดทับทิมสีสวย
มัจฉาแอ่นอกเชิดหน้าส่งเสียงครางเครือไม่หยุด สัมผัสแปลกใหม่ มันวาบหวิวชวนเคลิ้มร่างกายล่องลอยไป
ความเสียวซ่านแผ่ไปทุกอณูของผิวกาย เขาได้แต่ตามทางที่คนตัวโตชักนำ สงครามเลื่อนมือหนาไปกอบกุมเอาแก่นกายของมัจฉา
ที่กำลังขยายตัวตามอารมณ์ของเจ้าของแล้วรูดรั้งเบาๆ มัจฉาเลื่อนมือไปจับมือใหญ่นั่นเอาไว้อย่่าางตื่นๆในอารมณ์สงครามปล่อยมือออก
ก่อนจะรวบเอาแท่งร้อนของเขาเองและแก่นกายของมัจฉาเข้าด้วยกันและรูดรั้งไปพร้อมกันและเพิ่มความแรงขึ้นเรื่อยๆ
“อ่า...ปลา “
เสียงทุ้มสั่นกระเส่าอยู่ใกล้ๆสงครามขยับตัวขึ้นลงจงใจให้ร่างกายเสียดสีเพื่อปลุกเร้าคนใต้ร่างมัจฉาขยับตามดวงตาปรือปรอย
เมื่อมือใหญ่ลูบไล้ก่อนจะบีบเค้นหนักที่สะโพกมน ก่อนจะวกกลับมารูดรั้งแก่นกายที่กำลังขยายตัวของคนใต้ร่างพร้อมทั้งขยับขึ้นไป
บดจูบหนักหน่วงเร่าร้อนมือหนาก็ชักพารูดรั้งดึงให้คนตัวบางนำทางไปสู่จุดหมาย เสียงลมหายใจที่ขาดห้วง
บ่งบอกอารมณ์ของมัจฉาได้เป็นอย่างดี มือบางคว้าเอาแก่นกายของคนตัวโตไว้พลางขยับรูดรั้งอย่างที่อีกคนทำให้
“อื้อ...พี่เดียว อ่า..มันจะ.. อะ..อา...”เสียงครางเครือของคนตัวบางยิ่งพาให้มือหนาเร่งเร้า พาคนตัวบางไปสู่จุดหมาย
“อาห์ ปลา.....น่ารักมาก ปลาครับ พี่จะไม่ไหวแล้วนะ “
“อีก อ๊ะ.อ๊า...พี่เดียวมันเสียว อย่า...อื๊อออออ!!..”
มัจฉาต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อสงคราวเลื่อนตัวลงไป พร้อมทั้งครอบปากลงกลางลำตัว ลิ้นร้อนตวัดไปมาที่ส่วนยอดและแยงลิ้นเข้าไปที่รูเล็กๆส่วนปลาย
ทำให้มัจฉาดิ้นพล่านแทบจะหายใจไม่ออกความเสียวแล่นพร่านจนแทบขาดใจ เมื่อสงครามใช้ปากรูดรั้งตั้งแต่โคนจนสุดปลาย
รูดรั้งขึ้นลงรัวๆ เสียงครางลั่นแทบขาดใจของปลายิ่งทำให้แก่นกายของสงครามขยายตัวพองจนปวดหนึบ
เขาอยากปลดปล่อยใจจะขาดแต่เขาจะต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปเพราะมัจฉายังไม่เคยผ่านเรื่องเซ็กมาเลยสักครั้ง
และเขาเองก็เป็นครั้งแรกที่ทำรักกับผู้ชาย แต่เขาก็ปล่อยให้อารมณ์พาไป ด้วยหัวใจที่รักเท่านั้นอย่างอื่นเขาไม่สนใจว่าจะยังไง
เพราะไม่ว่าชายหรือหญิงความรู้สึกก็ไม่ต่างกัน
“อ๊า!!พี่..ฮื้อ...”เสียงหอบหายใจเมื่อมัจฉาปลดปล่อยออกมาอย่างห้ามไม่ได้
สงครามไม่ปล่อยให้อารมณ์คนตัวบางขาดห้วง ลิ้นร้อนยังคงทำหน้าที่ ไล้เลียไปทั่วขาหนีบด้านใน ฝากรอยจูบไว้ทั่ว
มือหนาก็เขี่ยยอดอกสีสวยไปมากระตุ้นให้มัจฉาเริ่มปล่อยเสียงครางจากลำคอ อารมณ์ถูกปลุกขึ้นอีกอย่างง่ายดาย
สงครามใช้นิ้วกวาดเอาน้ำรักของมัจฉาที่กระจายอยู่บนหน้าท้องเนียนสวยชะโลมนิ้วแกร่งก่อนจะค่อยๆกดนิ้วแทรกผ่านช่องทางด้านหลัง
ที่ไม่เคยมีใครรุกล้ำมันปิดแน่นจนแทบจะเข้าไม่ได้ สงครามค่อยๆกดแทรกเข้าไปจนมิดก่อนจะกดย้ำๆแล้วควานด้านในเพื่อเปิดทาง
ช่องทางรักตอดรัดนิ้วเอาไว้แน่น เมื่อสงครามสะกิดโดนจุดด้านในพร้อมทั้งกระทุ้งนิ้วยาวไปถี่ๆยิ่งโดนจุดมากเท่าไหร่มัจฉายิ่งตอดรัดเอานิ้วของเขาไว้ไม่ปล่อย
“อ่า..พี่เดียว เสียว อือ....อย่าแกล้งปลา อ้ะ..“
“ปลาครับ อย่าเกร็งนะ อ่าห์ “สงครามกัดฟันอดทนเอาไว้เมื่อมือซุกซนคว้าหมับเข้าที่กลางกายก่อนจะรูดรั้งขึ้นลงให้เขาเกร็งหน้าท้องอดทนไว้
“อย่าซนสิ เดี๋ยวเจ็บตัวนะ จะยั่วพี่ไปถึงไหนครับ “
“ไม่ได้ยั่วสักหน่อย..พี่เดียว...ปลาอยากได้ของพี่เดียวแล้วไม่เอานิ้วแล้วได้ไหม...อ่า...”
ทั้งสีหน้าทั้งคำพูด ที่สงครามไม่คิดว่าจะได้ยินมันเร่งความต้องการเขาโดยอัตโนมัติ เขาถอนนิ้วออกพร้อมทั้งขยับช่วงล่างเข้าชิดกับมัจฉาให้แก่นกายที่กำลังแข็งตัวเสียดสีช่องทางที่เปิดรออยู่แล้ว
สัมผัสแผ่วๆแต่ร้อนไปทั้งตัว เมื่อส่วนปลายแตะเข้ากับช่องทาง สงครามจับขาเรียวทั้งสองข้างให้แยกออกก่อนจะลุกขึ้นคุกเข้าอยู่หว่างขาของคนสวยที่นอนตาปรือเชิญชวนเขาอยู่ข้างล่าง
“อย่าเกร็งนะที่รัก พี่จะเข้าไปแล้วนะ อ่า....แน่นจัง..ซี๊ด..”
เสียงสูดลมหายใจเมื่อเขาสอดแก่นกายเข้าไปในช่องทางสีสวย มันตอดรัดแน่นจนเขาแทบจะปล่อยตรงนั้น
“อ่า..ปลาครับอย่ารัดพี่แน่นนักสิ “สงครามค่อยๆกดสะโพกแนบลงไปก่อนจะถอนกายกลับมาอีกนิดและกระแทกลงไปจนสุด
“อ๊า..พี่ อึก เจ็บ..อ่า.....อาซี๊ด...พี่เดียว มัน...อื้อ...”มัจฉาไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกที่มีเมื่อแท่งร้อนนั้นกระแทกเข้าจุดเสียวภายใน
จนเขาอดไม่ได้ที่จะส่ายสะโพกตอบรับไปพร้อมกับการชักนำของคนตัวโต เมื่อความเจ็บผ่อนคลายกลายเป็นความเสียวกระสันมาแทนที่
เสียงครางกระเส่าของมัจฉายิ่งกระตุ้นให้สงครามเร่งกายขยับเข้าหาคนตัวบางถี่รัว เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั้งห้อง แต่ทั้งคู่ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากความสุขตรงหน้า
“อ่า..ปลาครับ สวยมากปลา “สงครามจับร่างของดมัจฉาพลิกลงให้คุกเข้าโดยกลางกายยังเชื่อมต่อกัน
สะโพกมนลอยเด่นอยู่ตรงหน้า สงครามมองแท่งร้อนของตัวเองผลุ่บเข้าออกแรงๆที่ช่องทางสีสวย
ตามแรงกระแทกสองมือหนาบีบเค้นสะโพกสวยไปตามแรงอารมณ์ สะโพกแกร่งก็กระแทกกระทั้นรุนแรงไม่หยุด
ไปตามอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ เสียงครางสุขสมของทั้งคู่สลับกับเสียงขยับกายกระแทกเข้าหากัน ไม่หยุด
“อ๊า..พี่เดียว ฮึก ..จะไม่ไหวแล้ว อ๊า...แรงอีก อึก นะ อ้ะ...ฮื่อ.”
เสียงร้องขอทั้งสะโพกมนส่ายตอบรับแรงกระแทกไม่หยุดทำให้สงครามกัดฟันอย่างอดทนแต่พอได้ยินเสียงขอของคนสวยเขาก็หมดความอดทน
เขากระแทกสะโพกแรงๆย้ำๆหลายทีถอนกายออกมาจนสุดและกระแทกกลับเข้าใหม่จนมิด ทั้งรัวแรงและเร็ว
“อ่า..ซี๊ดดดด ปลา .อืม อ้า...ปลา “ เสียงเรียกชื่อไม่ขาด สองมือจับสะโพกมนไว้แน่นกระแทกอัดเต็มแน่นทุกครั้ง
มัจฉาตอดรัดเอาความรู้สึกแปลกใหม่ราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆด้วยความสุขเอ่อล้น
“อ๊าไม่ไหวแล้วจะ อ๊าๆๆๆๆ !!!”
น้ำรักขุ่นขาวพุ่งออกมาเป็นสายโดยที่คนตัวโตยังไม่ได้แตะต้องส่วนหน้าเลยด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นมัจฉาถึงปลายทางสงครามก็เร่งสะโพกเร็วขึ้นอีก พร้อมทั้งกระแทกแรงๆสองสามทีก่อนจะปลดปล่อยเข้าไปในตัวของมัจฉา
น้ำรักเอ่อล้นออกมาข้างนอกไหลตามเรียวขาสวย แต่สงครามไม่ถอนแก่นกายออก ตรงข้ามเขากลับขยับตัวไปมาเบาๆขยับเข้าออก
และแช่ท่อนเนื้อนั่นไว้ข้างในมัจฉาที่ยังตอดรัดแก่นกายของเขาเอาไว้ แรงกระตุกภายในยังจุดอารมณ์ของสงครามไว้ไม่หยุด
สองร่างก่ายกอดกันไม่ห่าง สงครามจูบซับริมฝีปากคนตัวบางก่อนจะใช้ลิ้นลุกล้ำเข้าข้างในบดจูบเร่าร้อนแบบไม่ให้คนสวยตั้งตัว แก่นกายที่ยังแช่คาอยู่เริ่มขยายตัวอีกครั้ง
“อา..พี่เดียว มัน...อือ...”
“ไปห้องพี่นะคนดีไปที่ห้องนะ “
สงครามไม่รอให้มัจฉาพูดหรือปฏิเสธอะไร เขาถอนแก่นกายออกพร้อมลุกขึ้นช้อนเอาคนตัวบางมาอุ้มเอาไว้ในอ้อมกอด
และเดินไปที่ประตูเชื่อมระหว่างห้องนอนกับห้องทำงาน ตรงไปที่เตียงหลังใหญ่ ไม่ได้รออะไร บทรักก็เริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้ง .......
.
.
.
.
TBC..............
:o8: :o8: :o8:
บางคนเมาไม่ได้ขาดสติ แต่ทำให้มีความกล้ามากขึ้น หึหึ
พันวามีเพื่อนคนนึงที่เมาไวน์แดง ถ้าเป็นเบียร์หรือเหล้านางกินก็เฉยๆ กว่าจะเมาก็หมดไปหลายอยู่แต่กับไวน์แดง นางจะไม่แตะเลย แค่แก้วเดียวได้เรื่อง
เลยคิดว่ามัจฉาน่าจะเป็นแบบเดียวกัน แต่อย่างน้องปลานี่ไม่แตะแอลฯเลยสักครั้ง แค่อยากลองกิน ดู ไม่คิดว่าจะได้เรื่อง
คราวหน้าสงสัยบพี่เดียวต้องซื้อไวน์แดงมาตุนไว้เต็มบ้านแน่ๆ หึหึ
อีกไม่กี่ตอนก็จบล้าวววววววว หลังมาม่า จะมีแค่ความมุ้งมิ้งและ ..หื่น นะคะ 5555555
สงสารพ่อเดียวเก็บกดมานาน แต่ตอนหน้า คนเมาจะทำตัวยังไงน๊า เมื่อสร่างเมา อิอิ
ขอบคุณคนอ่านที่ยังรอกันนะ แม้ร่างกายไม่เต็มร้อยแต่ก็จะมาต่อจนจบสัญญาเลย :katai4: :katai4:
ถ้าช่วงไหนหายไปนานก็ตามทวงกันได้ที่เพจของPhanwa (https://www.facebook.com/Phanwa-135045410317276/?ref=bookmarks)พันวานะคะ เข้าไปอ่านบ่อยแต่ก็ไม่ค่อยอัพเดต 55555
ขอบคุณคนอ่านรักคนเม้นท์ ทุกเม้นท์คือกำลังใจที่ดีมากเลยน๊า :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ตอนที่ 21 ลงอ่าง..สร่าง.....เมา
เสียงฝีเท้าแม้จะเบาแต่เขาก็ได้ยินชัดเจน มัจฉานอนหลับตาแต่ภายในใจกลับเต้นตึกตัก เขาตื่นนานแล้ว
ความรู้สึกแรกที่ตื่นมาภายในอ้อมแขนแข็งแรงนั่นมันทำให้เขาอุ่นใจ รู้สึกดีจนอยากจะตื่นมาทักทายคนรักในตอนเช้า
แต่ความรู้สึกหลังๆที่ตามมามันทำให้เขาอยากหลับต่อไปนานๆเลย ยิ่งนึกถึงคำพูดร้องขอของตัวเอง
ยิ่งทำให้มัจฉาไม่อยากจะเจอหน้าคุณสงครามเลยโอ๊ยยย ทำไปได้ยังไงกันนะไอ้ปลาเอ๊ย...จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะทีนี้.......
ในขณะที่คนขี้อายยังแกล้งหลับ สงครามกลับออกมาจากห้องน้ำมานั่งมองคนหลับที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น เขาลุกมาอาบน้ำตั้งแต่เช้า
แต่ไม่กล้าจะปลุกคนขี้เมาเมื่อคืน เพราะเขาเองก็ร้องขอคนสวยไปหลายรอบน่าดู ไม่แปลกใจที่ป่านนี้ยังหลับสนิทอยู่แบบนี้
ยิ่งนึกถึงเมื่อคืนเขายิ่งยิ้มไม่หุบ //เซ๊กส์ซี่..สวย..// เป็นคำที่ผุดขึ้นในหัวแล้วทำให้เขาอารมณ์ดีแต่เช้า จะว่าไปนี่ก็ไม่เช้าแล้วสิ
ยังดีที่เป็นวันเสาร์ป่านนี้เจ้าตัวแสบไม่ร้องหาพี่เลี้ยงแล้วหรือไงนะ สงครามคิดพลางค่อยๆลุกจากเตียงและเดินออกจากห้อง
เพื่อให้คนสวยได้พักผ่อน วันนี้คงไม่เข้าบริษัทสักวันเพราะการันต์บอกไว้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่เดี๋ยวคงกลับเข้ามาเอาไวน์
จะได้ฝากเอางานจากคุณยุ้ยเพราะไม่อยากปล่อยคนขี้เมาเอาไว้คนเดียวเผื่อเจ้าแสบไปกวนอีก
“แหน่ะ..เดินยิ้มแปลกๆนะครับท่านประธาน”
สงครามถึงกับสะดุ้งเมื่อเสียงทักดังขึ้นใกล้ๆ หันกลับมาเจอการันต์ยืนยิ้มแฉ่งอยู่กับเนติ นี่เขาเหม่อจนไม่เห็นผู้ชายสองคนยืนอยู่ในห้องรับแขกได้ยังไง
“เหมือนว่าจะอารมณ์ดีครับคุณรัน แสดงว่าวันนี้ผมโดดงานได้คุณรันจะไปไหนครับ ผมอาสาขับรถให้”
เสียงเอ่ยเรียบๆแต่ติดสำเนียงเอ่ยแซวญาติผู้พี่พลางยิ้มกริ่มอย่างรู้ทันก็แหม ห้องทำงานน่ะมันไม่เก็บเสียงนะเขากลับมาดึกๆ
กับความเงียบในบ้านน่ะ... หึหึ เขานี่ยังหน้าร้อนไม่หายเลยเมื่อคืน เนติทั้งแซวทั้งยังหน้าแดงเองเมื่อนึกถึงเสียงที่เขาได้ยินเมื่อคืน ....
“อ้าวพี่เนทำไมหน้าแดงล่ะครับ ร้อนเหรอ “การันต์ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เอ่ยถามอีกคนทั้งที่สายตายังมองเพื่อนตัวดีที่ยืนเกาท้ายทอยแก้เก้อ
“พอเลยพวกมึงน่ะ จะไปไหนก็ไปเลยไป วันนี้กูไม่เข้าบริษัทนะฝากงานกับยุ้ยด้วยละกันเดี๋ยวไอ้ธรไปดูแทน “
“แหมๆ บอสครับไม่ทันไรอู้งานเลยนะครับ หึหึ เอ น้องปลาไปไหนน๊ายังไม่ตื่นเหรอ พี่รันจะชวนไปเที่ยว “
“พอเลยมึงอ่ะ ไปหาไอ้ธรนุ่น “
สงครามรีบดึงแขนเพื่อนที่ทำท่าจะเดินขึ้นชั้นบน พลางเอ่ยชื่ออีกคนที่ทำเอาการันต์ชะงัก สงครามพอจะรู้เรื่องของเพื่อนรักทั้งสองคนนี้มานิดหน่อย
แม้จะยังไม่แน่ใจแต่ท่าทางของกันธรมันชัดเจนมากในวันที่มัจฉาโดนจับไปเขาไม่รู้หรอกว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง
แต่สีหน้าท่าทางสายตาทุกอย่างที่กันธรแสดงออก เขามั่นใจว่าเพื่อนรักเขาทั้งคู่ต้องมีอะไรที่เกินเลยแน่นอน
จะเกี่ยวกับการหายตัวไปสามปีของการันต์หรือเปล่านะ แต่ไม่ว่าจะยังไงสงครามก็ยังคงรอเพื่อนทั้งคู่บอกออกมาจากปากเอง
“ผมว่าวันนี้ผมว่างครับท่านประธาน ไปเที่ยวกับพี่เนดีกว่า ป่ะพี่เนปล่อยคนอินเลิฟไว้ที่นี่แหละเราไปเที่ยวกันดีกว่า “
การันต์ฉุดเอาแขนของเนติลากออกจากห้องรับแขกอย่างเร่งรีบ เขาไม่พร้อมที่จะตอบคำถามไอ้เดียวมันตอนนี้ ยิ่งคนอย่างกันธรน่ะ
ตอนนี้แม่งเป็นอะไรไม่รู้หน้าด้านไล่ไม่ไปไหนเลย ตื๊อเป็นที่หนึ่ง คงมีเนติที่เป็นไม้กันหมาได้อยู่ ขอเขาทบทวนตัวเองสักพักเถอะน่า ตอนนี้ยังไม่พร้อมจริงๆ
สงครามส่ายหัวให้กับเพื่อนรักอย่างหน่ายๆเพราะดูเหมือนจะเล่นอะไรกันอยู่เป็นเด็กๆ เขาไม่เข้าใจ ถ้ารักก็บอกว่ารักไปเลยจะเก็บงำมาคิดมากกันทำไม
“พ่อฮะพี่ปลาไม่อยู่ในห้องพี่ปลาไปไหนฮะ”
เด็กชายเดินมาพร้อมกับพี่มะตูมที่พาไปหายายกิ่งที่บ้านเล็ก เมื่อเช้าคุณหนูตื่นเช้ามากไปหาพี่ปลาในห้องไม่เจอเธอเลยต้องพาไปหายายกิ่ง เพราะพอจะรู้ว่าพี่ปลาอยู่ไหนใครจะกล้าไปปลุกกันเล่า
“ไงตัวยุ่งไปกวนอะไรพี่ตูมเขาแต่เช้าครับ”
“ไม่ได้กวนฮะ เฟียหาพี่ปลาไม่เจอ ฮะ”
“พี่ปลาไม่ค่อยสบายน่ะ ยังหลับอยู่ที่ห้องพ่อให้พี่ปลานอนพักก่อนเนอะ “
“อ้าว...พี่ปลาไม่สบายเหรอฮะ ..งั้นเฟียไปหาพี่ปลานะฮะ”
“พี่ปลายังไม่ตื่นครับคุณลูก ไปช่วยยายกิ่งทำกับข้าวกันดีกว่ารอพี่ปลาตื่นเนอะ “
“ก็ได้ฮะ ...”
เด็กชายตัวน้อยที่ลังเลว่าจะตามพ่อไปเข้าครัวหรือจะเดินขึ้นไปหาพี่ปลาดีก็จำต้องเดินตามพ่อเมื่อพ่อบอกว่าพี่ปลายังหลับอยู่
“คุณเดียวครับ มีคนมาหาคุณเดียวครับ”ป๋องเดินเข้ามาหาเจ้าของบ้านพร้อมทั้งแจ้งเรื่องมีคนแปลกหน้ามาหาตั้งแต่เช้า
สงครามขมวดคิดเมื่อคิดไม่ออกว่าใครกันที่มาหาเขาตอนนี้
“ไปพาเข้ามาเดี๋ยวฉันจะไปหายายกิ่งก่อน”สงครามบอกไปก่อนจะเดินพาลูกชายเข้าครัวไป
“เฟียอยู่กับยายกิ่งก่อนนะครับพ่อมีแขกนะ เดี๋ยวกับข้าวเสร็จเราค่อยขึ้นไปปลุกพี่ปลาพร้อมกันเนอะ”
“ได้ฮะ “เด็กชายรับคำอย่างว่าง่าย
“เดี๋ยวตูมเอาน้ำไปให้แขกก่อนนะคะ”
สงครามพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องครัวตรงไปที่ห้องรับแขกของบ้าน ชายวัยกลางคนร่างเล็กแกร็นในชุดสูทสีครีม
นั่งหลังตรงบนโซฟาที่ห้องรับแขก หันมามองเจ้าของบ้านที่เดินเข้ามาก่อนจะยืนขึ้นทักทาย
“สวัสดีครับผมชรินทร์ครับ “
“มีธุระอะไรกับผมครับ ไม่แน่ใจว่าเราเคยเจอกัน”
“ผมได้รับงานจากนายหัวมาครับ”
แขกของบ้านดึงเอกสารออกจากกระเป๋าคลี่ลงบนโต๊ะพร้อมทั้งสมัดบัญชีเล่มเล็กอีกเล่มที่วางอยู่ สงครามหยิบบัญชีเล่มนั้นขึ้นมาเปิดดู
อย่างงงๆ และยิ่งต้องแปลกใจเมื่อชื่อบัญชีเป็นของมัจฉา และจำนวนเงินในนั้นมันมากจนเขาตกใจ
“คุณเป็นใคร และต้องการอะไรเงินนี่มาจากไหน”
เขาถามเสียงแข็งเมื่อเห็นเอกสารและชื่อเจ้าของบัญชี เขาสงสัยคนแปลกหน้าที่มาขอพบเขาแต่เอาบัญชีพร้อมยอดเงินมากมายนั่นที่เป็นชื่อของมัจฉามาให้
“ใจเย็นๆครับ ผมเป็นตัวแทนของคุณกรกฎ พ่อของคุณมัจฉาครับ พอดีเขาให้ผมมาเป็นธุระให้แต่ไม่อยากให้คุณมัจฉารู้เรื่อง
ที่คุณกรกฏกลับมาแต่ไม่สามารถมาหาได้น่ะครับเพราะติดภาระกิจสำคัญ เลยให้ผมนำบัญชีนี้ที่คุณกรกฏตั้งใจเอามาให้คุณมัจฉา มาให้กับคุณสงครามครับ”
ชายแปลกหน้ารีบอธิบายเมื่อเห็นท่าทางข่มขู่ชัดเจนจากเจ้าของบ้าน
“ทำไมเป็นผมล่ะเงินเยอะขนาดนี้ไว้ใจผมได้ยังไง แล้วอีกอย่างผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าเงินจำนวนนี้มันไม่ผิดกฏหมาย”
“อันนี้เป็นจดหมายให้คุณสงครามครับ อ่านดูก่อน”ชายร่างเล็กรีบยื่นกระดาษแผ่นเล็กให้กับเจ้าของบ้าน สงครามรับมาคลี่ออกอ่านอย่างไม่เข้าใจ
// เดียว..หลานไม่ต้องแปลกใจนะถ้าเห็นจดหมายฉบับนี้ อาแค่จะบอกว่าเงินจำนวนนั้นเป็นเงินถูกกฏหมายเพราะมันเป็นเงินของอาเอง
เดียวไม่ต้องสงสัยว่าทำไม เอาเป็นว่า พ่อของมัจฉาเขาทำงานให้อาอยู่ เรามีข้อแลกเปลี่ยนกันนิดหน่อย
เพราะฉะนั้นอย่าสงสัยในเงินจำนวนนั้น อ้อ เดียวรู้จักอาดีว่าอาไม่แตะต้องของผิดกฏหมายแม้ว่าสายงานที่อาทำมันจะสุ่มเสี่ยง
ยังไงก็เดียวช่วยรับเงินนั่นไว้ให้หลานสะใภ้ของอาด้วยละกันนะ ถือเป็นของรับขวัญหลานสะใภ้ละกัน แต่ไม่ต้องบอกว่าเงินจากพ่อเขานะพ่อเขาไม่อยากให้ลูกรู้
รักหลานนะ สักวันคงได้เจอกันฝากสวัสดีพี่โป้งด้วยนะ //
แม้จะแปลกใจกับเนื้อหาในจดหมายแต่สงครามรู้ดีว่าคนอย่างอาปราการไม่ได้ทำอะไรเล่นๆ ด้วยนิสัยมุทะลุ แต่จริงจังกับงานและหน้าที่ๆทำ
จนหลายคนขนานนามว่าเจ้าป่าแห่งลุ่มแม่น้ำสาละวิน สงครามไม่รู้ว่าอาของเขากับพ่อของมัจฉาไปรู้จักกันได้อย่างไร
แต่ถ้าอาปราการว่ามาแบบนี้เขาคิดว่าคงมีเหตุผลที่ยังไม่สามารถบอกอะไรได้ แต่เขาล่ะจะบอกมัจฉาว่ายังไง
เฮ้อ..อานะอา หางานให้ตลอดเลยให้ตายสิเพื่อนพ่อแต่ละคนทำเขาปวดหัวจริงๆ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ขอบคุณมากผมลาล่ะครับ สวัสดีครับ”
ชายแปลกหน้าไม่รอให้เจ้าของบ้านเอ่ยทักท้วงแต่อย่างใด เมื่อร่ำลาจบก็เดินออกจากบ้านแทบจะทันที ภาระกิจถือว่าสำเร็จแล้ว
//ถ้าทำไม่ได้ผมจะถือว่าคุณจบในหน้าที่ //
คำบอกเล่าที่คล้ายคำขู่ของผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นที่มาขอพบเขาและนำเงินจำนวนมากนี้เปิดบัญชีและมอบงานนี้ให้เขา
ดูเหมือนงานง่ายๆแต่เขาพอจะรู้ว่าสงครามไม่ไว้ใจใครง่ายๆ เพราะงั้นถือว่าจดหมายนั่นช่วยเขาได้เยอะ
แม้จะไม่รู้ว่าข้างในเขียนว่ายังไง แต่การที่สงครามรู้จัก ผู้มีอิทธิพลคนนั้นถือได้ว่าความปลอดภัยของเขาที่เป็นแค่ผู้ส่งสารริบหรี่มาก
หากคุณสงครามไม่เข้าใจ หรือไม่ยอมรับเงินจำนวนนั้น เขาผู้ส่งสารคงไมได้กลับบ้านไปเจอครอบครัวแน่ๆ ตอนนี้ได้แต่ถอนหายใจโล่งอก ที่คุณสงครามเข้าใจง่ายกว่าที่คิด
................................................
“อูย...บ้าจริง”มัจฉาสบถเล็กๆเมื่อขยับตัวลุกเพราะเห็นทีจะนอนนิ่งๆอย่างนี้ทั้งวันไม่ได้ แต่ทันทีที่ขยับตัว ความเจ็บแปลบก็แล่นจี๊ดเข้าสู่จุดปวดทันที
“พี่ปลา..”เสียงเด็กชายที่เดินเข้ามาทางประตูทำให้มัจฉาชะงัก
“ไม่สบายเหรอฮะ เป็นไร “
เด็กน้อยถลาเข้าหาพี่เลี้ยงที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงมัจฉาพยายามจะลุกทำให้ผ้าห่มร่นลงมากองที่ตักและนั่นทำให้เด็กชายที่กำลังปีนขึ้นเตียงมาต้องชะงัก
“โห!! ห้องพ่อมียุงเยอะแน่ๆเลย พี่ปลาถึงไม่สบาย คุณครูบอกว่ายุงกัดต้องไปฉีดวัคซีนไม่งั้นจะเป็นไข้เลือดออก “
“หือ...?? ยุงที่ไหนครับพี่ปลาไม่เห็นเลย”มัจฉาสงสัยกับคำพูดของเด็กชายตัวน้อย
“นี่ไง เฟียเคยโดนยุงกัดและเฟียเกาๆเลยช้ำๆแบบนี้เลยฮะ”
เด็กชายชี้นิ้วไปที่ตัวของพี่เลี้ยงที่นั่งทำหน้างงๆบนเตียง ก่อนจะได้สติหันมามองตัวเองที่เปลือยท่อนบนมีเพียงผ้าห่มที่ปิดช่วงล่างเอาไว้
รอยจ้ำๆที่แดงๆช้ำๆเต็มตัวจนลายพร้อยทำให้มัจฉาหน้าร้อนวาบจนขึ้นสีเรื่อไปทั่วทั้งหน้า รีบรวบผ้าห่มมาปิดตัวเอาไว้
“เอ่อ..เอ่อ..คุณหนูครับ คือ แหะๆ..”
ไม่รู้จะพูดอธิบายยังไงพานนึกโกรธคนตัวโตที่ทำร่องรอยไว้เยอะแยะจนเขาตัวลายแบบนี้
“อ้าว..เฟียลูกขึ้นมากวนพี่ปลาทำไมครับ หืม อ้าว.??”
สงครามหันไปถามลูกชายที่นั่งอยู่บนเตียงข้างๆพี่เลี้ยงที่คว้าเอาผ้าห่มมาคลุมไว้ทั้งตัว แต่สายตาที่มองเขามีแววขุ่นเคืองเหมือนกำลังงอนเขาอยู่ นี่เขาทำผิดอะไรไว้หรือเปล่านะ
“ปลาครับเป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ เจ็บเหรอ เจ็บตรงไหน พี่เดียวพาไปอาบน้ำไหมครับ”
“ไม่ต้องมาพูดเพราะเลยนะ ฮึ่ย..โอ๊ยยยพี่เดียวบ้าจริงๆเลย”
ไม่รู้จะพูดอะไรยิ่งคนตัวโตพูดจาเสียงนุ่มเพราะหูทั้งสายตาอ่อนโยนที่มองมาความห่วงใยที่ส่งมาให้ไหนจะภาพเมื่อคืนที่ผุดขึ้นมาในหัวทันทีมันทำเขาเขินจนทำอะไรไม่ถูก
“พี่ปลาเป็นไรฮะ..ไม่สบายเหรอฮะหน้าแดงมากๆเลยฮะ “
“อ่า..คือว่า..พี่เปล่า..คือ”สงครามมองคนที่อึกอักตอบคำถามลูกไม่ถูกก็ให้นึกสงสาร ใจก็อยากจะแกล้งอีกใจก็กลัวโดนคนสวยโกรธเอาซะก่อน
“เฟียครับเดี๋ยวเฟียลงไปอยู่กับยายกิ่งก่อนนะ พี่ปลาจะได้พักผ่อนเดี๋ยวพ่อมีธุระจะคุยกับพี่ปลาด้วยนะครับ เดี๋ยวพี่ปลาอาบน้ำเสร็จแล้วจะลงไปกินข้าวด้วยกันนะครับ”
“ได้ฮะ.แต่พ่ออย่าแกล้งพี่ปลานะฮะพี่ปลาไม่สบาย .อย่าอาบนานนะฮะ..เอ...แต่พ่อฮะ..ไม่อยากเรียกพี่ปลาอ่ะ เรียกอะไรดีฮะ แม่ไม่ได้..งึมๆ“
“หึหึ...ลงไปก่อนเจ้าแสบยุ่งจริงๆเรานี่ ไม่เกิน15 นาทีนะไปบอกยายกิ่งตั้งโต๊ะรอเลย”
สงครามอดที่จะขำความคิดลูกไม่ได้เพราะตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่มาเฟียพยายามที่จะเรียกพ่อทั้งคู่แต่เจ้าตัวแสบก็สับสนเองเลยเรียกพี่ปลาเหมือนเดิม แล้วนี่ก็คงไปคิดอะไรมาอีกถึงได้มีท่าทีแบบนี้
“ลุกไหวไหม”
สงครามหันมาหาคนที่นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มเมื่อลูกลงไปข้างล่างแล้ว มัจฉาพยายามยันกายลุกนั่งเมื่อเห็นว่าสายมากแล้วคงจะนอนทั้งวันไม่ได้แน่ๆ
“ไม่.ต้องมาใกล้เค้าเลยนะ ดูสิลูกเห็นหมดเลย งือ..”
ทั้งน้ำเสียงทั้งสีหน้าที่บ่งบอกว่างอนเต็มที่ ทำให้สงครามหัวเราะเบาๆในลำคอ และโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆหูคนงอแง
“ก็ใครยั่วก่อนล่ะครับ หืม”...
ฉ่า...>/////<
มัจฉารู้สึกว่าหน้าร้อนจวนจะไหม้ ยิ่งสงครามเป่าลมเบาๆใส่ข้างหูเขายิ่งรู้สึกขนลุกไปทั่วร่าง
“งื้ออออ ไม่เอาอย่าแกล้ง พี่เดียวขี้แกล้งง”
เสียงงอแง ของคนขี้อายที่เอามือปิดหน้าซบลงหัวเข่าตัวเองโดยลืมไปว่าผ้าห่มมันล่นลงกองข้างล่างหมดแล้วเมื่อลุกขึ้นนั่ง
สงครามกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อร่างเปลือยของคนรักโผล่พ้นผ้าห่มผิวขาวนวลเนียนที่เต็มไปด้วยรอยฝากรักที่เขาทำเมื่อคืน มันสะท้อนกับแสงแดดที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามา
“โอย..ที่รักจะฆ่ากันหรือไงฮึ...ฮึ่มมมม “
สงครามรวบเอาร่างบางๆของมัจฉามากอดเอาไว้เพื่อหลบให้พ้นสายตาของเขาเอง ถ้ามัวมานั่งมองภาพแบบนี้เห็นทีมัจฉาจะไม่ได้ลุกจากเตียงทั้งวัน
“ปล่อยเลยนะ ผมจะไปอาบน้ำ”
“เอ...ไหนเมื่อคืนใครแทนตัวว่า ปลา กันน๊า พี่เดียวอยากได้ยินแบบนั้นอีกได้ไหม “
“ไม่เอา..”เสียงอู้อี้ขีดเขินเมื่อมีคนทวงความจำ เขายิ่งอายตัวเอง สัญญากับตัวเองหนักแน่นมากว่าจะไม่แตะเครื่องดื่มพวกนั้นอีกเด็ดขาด
“ถ้าไม่แทนตัวว่าปลาล่ะก็ ....วันนี้..”
สงครามละคำพูดไว้พลางดันคนขี้อายออกจากอก พร้อมทั้งจ้องเข้าไปในดวงตาสีสวย ที่เสหลบตาเขาพัลวัน
มัจฉาเองแทบจะละลายลงไปกองบนเตียงกับสายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มที่มองมา ใจที่สั่นอยู่แล้วสั่นหนักกว่าเดิม
“พอๆ...พี่เดียวครับปลาอยากอาบน้ำแล้วอย่าแกล้งปลานะครับนะ”
เสียงอ่อนอ่อย ทั้งสายตาที่ช้อนขึ้นมามองหน้าระเรื่อกับพวงแก้มสีเลือดฝาดทั้งท่าทางอ้อนเต็มที่โดยที่เจ้าตัวเองก็คงไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
สงครามนิ่งอึ้งไปกับภาพตรงหน้า ความรู้สึกร้อนแล่นวูบไปทั่วข้างแก้มทั้งสองข้าง..อ่าเขากำลังเขินปลางั้นเหรอ ..
“พี่เดียวเป็นอะไรครับ ร้อนเหรอ”
มัจฉาเอียงคอเล็กน้อยเพื่อที่จะมองหน้าของคนตัวโตที่อยู่ๆหน้าก็แดงจนน่าตกใจ พี่เดียวเป็นอะไรไม่เห็นร้อนสักหน่อย ทำไมพี่เดียวหน้าแดงจัง
“เฮ้อ....จะรู้ไหมไอ้ท่าทางแบบนี้เขาเรียกว่ากำลังยั่วนะ เดี๋ยวก็ไม่ได้ลุกจากเตียงหรอก”สงครามกระซิบบอกเบาๆกับตัวเองก่อนจะพยายามข่มบางอย่างที่กำลังตื่น
“พี่ไม่ได้เป็นอะไร..ก็แค่ร้อนนิดหน่อย ไปอาบน้ำกันป่ะ “สงครามไม่พูดอะไรอีกรีบช้อนเอาตัวมัจฉาเดินลิ่วเข้าห้องน้ำไป
“ปลาอาบเองๆ!!! “มัจฉาร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆก็โดนอุ้มออกจากที่นอนยังดีที่ยังมีบ็อกเซอร์อีกตัวที่สวมไว้
ไม่งั้นเขาไม่รู้จะมองหน้าคุณสงครามยังไง สงครามค่อยๆวางร่างบางของมัฉจาลงในอ่าง ก่อนจะไปเปิดน้ำใส่อ่าง กระแสน้ำอุ่นๆ
ที่โอบล้อมทำให้มัจฉาเริ่มรู้สึกดี ก่อนจะผ่อนคลายหลับตาลงแช่น้ำอยู่โดยลืมไปว่ายังมีอีกคนในห้องน้ำ
“อ๊ะ..!!”
มัจฉาลืมตาขึ้นมองเมื่อรู้สึกว่าน้ำกระเพื่อมหนักแล้วต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของอีกคนที่กำลังหย่อนตัวลงมา
ในอ่างเดียวกับเขา สงครามเคลื่อนตัวเข้าหาคนสวยที่ยังเอนตัวพิงขอบอ่างมองหน้าเขาอยู่ สายตาของมัจฉาที่ไล่มองไปทั่วร่างของเขา
มันทำให้เขาตื่นโดยไม่ต้องปลุกเร้าอะไรเลย แค่สายตานั้นมองมาเหมือนกวาดสายตามองไปทั่วร่างกายที่ไร้อาภรห่อหุ้มของเขามันยิ่งทำเขาตื่นแต้น
“คนช่างยั่ว”
“ปลาเปล่านะ”
เสียงสั่นๆติดจะอ้อนส่งกลับมาเบาๆ สงครามจับมือเรียวบางของมัจฉาให้เลื่อนลงต่ำภายใต้ผืนน้ำที่เคลื่อนไหว มัจฉาสัมผัสความตื่นตัวของอีกคนอย่างผ่าวเบา
“อ่า....ที่รัก...”
เสียงคำรามในลำคอปลุกอารมณ์ภายในของมัจฉาให้คุกรุ่นตามกันไป ร่างบางเบียดกายเข้าหามวลน้ำไหลวนเล้าโลมคนทั้งคู่
ราวกับมีแระแสไฟฟ้าแล่นไปมาในอ่างน้ำวน สองร่างนัวเนียเคล้าคลอ เสียงครางกระเส่าบอกถึงอารมณ์ปรารถนาของทั้งคู่ที่กำลังพุ่งทะยานไปอย่างห้ามไม่อยู่
"อะ..พี่เดียว เบาๆปลาเจ็บ..อือ..ฮื่อ...”
มัจฉาสะบัดหน้าส่ายไปมาเมื่อนิ้วแกร่งเริ่มบุกรุกช่องทางด้านหลัง สองขาเรียวเกี่ยวกระหวัดรอบเอวหนาที่กำลังขยับให้ส่วนกลางลำตัวได้แนบชิดกันและกัน
ความอุ่นร้อนของร่างกายบกกับความอุ่นของน้ำยิ่งพาให้อารมณ์ลุกโหมกระหน่ำ เสียงครวญครางเคล้าคลอดังเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำ
ความสุขสมในอารมณ์พัดพาให้ทั้งคู่ล่องลอยไปในห้วงรักและกามารมณ์ ผ่านไปนานเกือบชั่วโมง.. โดยลืมไปว่าได้บอกอะไรกับเด็กน้อยไปก่อนหน้านี้ ..
..
.
.
.
“เอ..?? ทำไม พี่ปลากับพ่ออาบน้ำนานจัง .......”
.
.
.
TBC...........................
พาคนสร่างเมามาส่ง หึหึ
ช่วงนี้คนเขียนมาไม่เป็นเวลาอีกแล้วค่ะ เพราะต้องเดินทางด้วย ป่วยด้วยเลยหาจังหวะที่ร่างกายไหวและมีเวลาด้วยค่ะ
หากอัพช้าไปก็ขออภัยด้วยนะคะ วันนี้งดทอล์ค 1 วัน 555555 หิวข้าวละรอพี่ปลากับพ่อเดียวไม่ไหว พันวาไปกินข้าวก่อนเน้อ.....
พบเห็นคำผิดสะกิดพันวาด้วยนะคะ
ขอบคุณคนอ่านรักคนเม้นท์กอดแน่นสักที ขอบคุณที่ยังรออ่านและมาเม้นท์ให้นะค๊าาาาาา
ตอนที่ 25 เมื่อรักกลับมา The End
“พี่ปลาฮะตื่นๆเร็วๆฮะ “มัจฉาสะดุ้งตื่นแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงของเด็กน้อยทั้งยังถูกกระตุกผ้าห่มแบบไม่ตั้งตัว
“อะไรกันครับเฟีย “
“พ่อให้มาปลุกพี่ปลาล่ะ นี่เลยๆ”
เด็กชายตัวน้อยวิ่งไปดึงม่านข้างๆเตียงอย่างทุลักทุเลมัจฉาขำในความพยายามของเด็กน้อยตัวเล็กๆที่พยายามปล้ำดึงผ้าม่านผืนใหญ่ให้เปิดออก
จนเขาอดไม่ได้ที่จะลุกไปช่วยดึง ทันทีที่ผ้าม่านผืนใหญ่เลื่อนออกจากการบดบังทางสายตาภาพท้องฟ้ายามเช้าที่มีแสงอาทิตย์สาดมารางๆ
แม้ฟ้าจะยังไม่สว่างเต็มที่แต่แสงสีแดงอมส้มที่มีก้อนเมฆสีเทาดำบดบังอยู่เป็นช่วงๆมันก็สวยจนมัจฉายืนมองเพลิน
“พ่อบอกว่าพี่ปลาชอบมองฟ้า..ทำไมชอบฟ้าล่ะฮะฟียไม่เห็นจะชอบเลย “
มัจฉาละสายตาจากท้องฟ้าที่กำลังทอแสงอยู่หันมามองเด็กน้อยที่พูดจาฉาดฉานขึ้นทุกวัน
“เพราะฟ้าสวยไงครับ..อย่างตอนนี้เฟียมาปลุกพี่ปลาให้ดูฟ้าใช่ไหมล่ะ ..เฟียดูสิ..สวยไหม”
มัจฉาชี้ชวนให้เด็กน้อยดูดวงอาทิตย์ที่ยังไม่เปล่งแสงมากนักบางส่วนยังเล้นหลบอยู่ในเงาเมฆสาดแสงสีแดงอมส้มพาดผ่านไปทั่วท้องฟ้า
“ก็สวยฮะ”เด็กชายพยักหน้าเห็นด้วยว่าฟ้าตอนนี้สวย แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีที่พี่ปลาชอบท้องฟ้า ทำไมไม่ชอบแค่เขากับพ่อล่ะ
“แล้วพี่ปลาชอบเฟียด้วยไหมฮะ”
มัจฉาอดที่จะขำไม่ได้เมื่อได้ยินคำถาม บ่อยครั้งที่เด็กน้อยถามเขามันบ่อยจนเหมือนว่ามาเฟียไม่มั่นใจ ว่าเขารักเด็กน้อยคนนี้มากพอที่จะอยู่ดูแลกันไปตลอด
“เฟียครับ ความชอบกับความรักไม่เหมือนกันนะ..และความชอบแบบยังไงล่ะ ชอบคนกับสิ่งของมันก็ไม่เหมือนกันอีก “
“ยังไงฮะ”
“เฟียชอบพี่ยุ้ยไหมครับ”
“ชอบฮะพี่ยุ้ยใจดี “
“แล้วเจ้าโฮ่งของพี่ยุ้ยล่ะครับ”
“เฟียกลัวเจ้าโฮ่งฮะ ไม่ชอบ มันชอบกระโดดเข้าใส่เฟียอ่ะ”เด็กน้อยทำหน้ายู่เมื่อนึกถึงหมาตัวใหญ่ที่บ้านพี่ยุ้ยคราวที่ไปเยี่ยมพี่ยุ้ยคลอดน้องนาย
“แล้วถ้าพี่ยุ้ยกับน้องนาย เฟียชอบใครมากกว่ากันครับ”
“ก็....”
เด็กน้อยเริ่มตอบไม่ได้ก็เขาชอบทั้งคู่นี่นาพี่ยุ้ยใจดี ทั้งยังมีน้องนายให้เขาด้วยเขาชอบน้องนายเพราะน้องน่ารักตัวแดงๆน่ากอด
“หึหึ...บางอย่างเมื่อโตขึ้นเฟียจะเข้าใจนะครับ พี่ปลาจะบอกเฟียว่าพี่ปลารักน้องเฟียมากนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต พี่ปลาก็ยังรักน้องเฟียคนนี้เหมือนเดิมนะครับ”
มัจฉารวบเอาร่างเล็กๆนั่นมากอดเอาไว้พร้อมโยกไปมาเบาๆเหมือนปลอบประโลมเด็กน้อยขี้ระแวง สงครามมองคนที่เขารักสองคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่าง
เสียงคุยกันเบาๆทำให้เขายิ้ม เขารักมัจฉาตรงนี้มัจฉาใจเย็นและพร้อมที่จะคุยอธิบายให้ลูกเขาฟังทุกเรื่องโดยไม่เบื่อไม่คิดรำคาญว่าเป็นคำถามไร้สาระ
หรืออะไรแต่มัจฉาพร้อมที่จะพูดคุยและใส่ใจลูกชายของเขา ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งเขาและมัจฉาได้ทำตามที่คุณหมอแนะนำ มาเฟียดีขึ้นเรื่อยๆ
ความสุขฉายชัดในแววตา มันทำให้เขาตกหลุมรักมัจฉามากขึ้นทุกวัน
“คนขี้เซาไปอาบน้ำได้แล้วไป...เฟียมาหาพ่อมา”
มัจฉาหันมายิ้มให้คนที่เข้ามาใหม่ เขามองผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่ชีวิตอย่างเต็มตา สงครามที่มีความอ่อนโยนใจดีเมื่ออยู่กับเขาและลูก
เป็นผู้ชายขี้อ้อนแต่ระแวงตลอดว่าเขาจะไม่รักพอๆกับลูกชาย มัจฉาส่ายหน้าทั้งอมยิ้มด้วยความเอ็นดูทั้งพ่อทั้งลูกที่ชอบกลัวว่าเขาจะไม่รัก
เขาอยากจะถามทั้งพ่อทั้งลูกว่ามันควรเป็นเขามากกว่าไหมที่กลัวแบบนั้น
“เดี๋ยวปลาตามลงไปนะครับขออาบน้ำก่อน”
“พี่อาบให้ไหม”
ทั้งน้ำเสียงทั้งสายตาที่ส่งมามันทำให้มัจฉาเขินจนทำอะไรไม่ถูก จนลูกชายตัวน้อยต้องลากแขนพ่อ ออกจากห้อง
มัจฉาพ่นลมหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเขาหันไปมองวิวนอกหน้าต่างที่แสงแดดเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเป็นแต่ก่อนที่เขามองท้องฟ้าแบบนี้เขาคงจมอยู่กับความเหงาและเฝ้าร้องหาความรักที่หายไป
แต่ตอนนี้เขากลับยิ้มให้กับแสงตะวันที่ทอเข้ามาในห้อง เหมือนจะบอกเขากลายๆว่าเขามีครบแล้ว สิ่งที่เขาเรียกหามันกลับมาแล้ว
บนเก้าอี้ผ้าใบริมหาดส่วนตัวที่เงียบสงบ ลมเย็นๆพัดเอากลิ่นทะเลมาให้ครอบครัวเล็กที่หอบกันมาพักผ่อนวันหยุดยาวได้สูดดมกลิ่นไอของธรรมชาติ
บ้านพักหลังนี้เป็นของกันธร มันเป็นส่วนตัวมากแม้ว่าข้างๆจะมีโรงแรมชื่อดังอยู่รอบๆแต่กันธรก็เก็บบ้านหลังนี้เอาไว้ได้อย่างดี
ริมหาดทรายสวยที่ทอดยาว มีคนที่เขารักนั่งพูดคุยหยอกล้อยิ้มแย้มกันไปท่าทางสดใสของคนร่างบางกับเสียงหัวเราะของคนเป็นลูก
มันทำให้เขาต้องนึกย้อนไปหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นบทเรียนสำหรับเขาเป็นอย่างดี สงครามเดินเข้าไปร่วมวงที่กำลังสนุกสนาน
มะตูมที่ยังคงเด๋อด๋าแต่ก็เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา วันนี้เขาพาครอบครัวมาเที่ยวทะเล ที่ๆลูกชายเขาอยากมา
มัจฉาจะตามใจลูกชายเขาเรื่องการพักผ่อนและการเล่นอะไรไปเรื่อยตามวัยของเด็ก แม้ว่าบางครั้งลูกชายเขาจะโตกว่าวัยที่เป็น
นั่นเป็นเพราะผลกระทบจากอดีต ล่าสุดคุณหมอถึงกับชมว่ามัจฉาเก่งที่ทำให้มาเฟียดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเวลาอันสั้น
วันนี้เลยเหมือนให้รางวัลทั้งเมียทั้งลูก ที่ชอบทะเลทั้งคู่ ป๋องและมะตูม ก็ตามมาช่วยดูแลยายกิ่งที่ไม่เคยได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย
ครั้งนี้ก็ตามมาเพราะทนความคะยั้นคะยอของมัจฉาไม่ไหว รายนั้นอ้อนจนยายกิ่งที่ไม่ชอบไปไหนต้องเก็บกระเป๋าเสื้อผ้ามาเที่ยวทะเลด้วยครั้งแรกในชีวิต
รอยยิ้มจากหญิงชราคนที่ดูแลเขามาตั้งแต่เด็กๆมันก็ทำให้เขาสุขใจได้มากเหมือนกัน
“มายืนยิ้มอะไรคนเดียวคะ”
“อ้าว..ยายกิ่ง..ผมกำลังนินทายายอยู่ในใจครับ หึหึ”
“นินทาคนแก่บาปนะคะ ...ไม่เข้าไปร่วมวงกับเขากันหรือคะคุณหนู”
“ผมแก่แล้วน่ายายไว้เรียกเจ้าเฟียดีกว่าไหมคำนั้นน่ะ”
“ไม่ว่าคุณเดียวจะแก่ไปแค่ไหนคุณเดียวก็ยังเป็นคุณหนูของยายเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ “
“ครับๆยายก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับจะได้อยู่กับพวกเราไปนานๆ”
สงครามคิดอย่างที่พูด ยายกิ่งไม่ใช่แค่คนดูแลเก่าแก่แต่ยายกิ่งเหมือนญาติสนิทที่ไม่เคยทอดทิ้งเขาเวลาเขาตกที่นั่งลำบาก
ยายกิ่งอยู่ดูแลเขาและลูกแม้ว่าตอนนั้นเขาและลูกจะไม่เหลืออะไรไม่มีแม้แต่เงินเดือนให้ยายกิ่ง
แต่หญิงชราคนนี้ก็อยู่ดูแลเขาสองคนจนมาถึงตอนนี้เขาก็อยากจะตอบแทนเต็มที่ๆเขาสามารถทำได้อย่างน้อยก็ดูแลส่งเสียมะตูมให้ได้เรียนสูงๆยายกิ่งจะได้ไม่เหนื่อยมาก
“สวยมากเลยนะคะทะเลน่ะ “ยายกิ่งหันหน้าออกไปทางชายหาดเหม่อมองไปไกลสุดสายตาคิดถึงคนที่จากไปแล้ว และมองกลับมาคนที่ยังอยู่
“คุณปลาเธอน่ารักนะคะ ยายไม่คิดว่าเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนนั้นจะมาทำให้คุณหนูของยายทั้งคู่มีความสุขในวันนี้ ดีจังที่ยายได้เห็นอะไรแบบนี้ก่อนจาก”
“อย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมพายายกิ่งมาพักผ่อนนะ ป่ะเดี๋ยวคุณหนูเดียวจะพายายกิ่งไปเดินเล่นที่หาดเนอะ”
สงครามพยุงร่างของหญิงชราที่ค่อยๆเดินออกมาบริเวณหาด ยายกิ่งดูแลเขามาตลอดถึงคราวที่เขาจะต้องดูแลยายกิ่งคืนบ้างแล้ว
“ยายกิ่งฮะ พี่ตูมบอกว่ามีแฟนแล้วฮะ “
“อ๊า!!! คุณหนูค๊า ตูมเปล่านะ แหะๆยายขา...ตูมแค่ล้อคุณหนูเล่นใครจะไปมีแฟนตอนนี้ต้องตั้งใจเรียนเนอะยายเนอะ “
มะตูมรีบแก้ตัวพัลวันเมื่อคุณหนูแกล้งฟ้องยายกิ่งจะอะไรซะอีก ก็คุณหนูน่ะบอกว่ามีแฟนแล้วทั้งๆที่คุณหนูพึ่งจะอยู่ชั้นประถมนะ แล้วมะตูมน่ะจะจบมหาวิทยาลัยอยู่แล้วจะแพ้คุณหนูได้ไงกันล่ะ
สงครามประคองให้ยายกิ่งนั่งลงข้างๆมะตูมที่นั่งเล่นทรายอยู่กับมาเฟียและมีมัจฉานั่งมองอยู่ใกล้ๆ เสียงสองยายหลานโต้เถียงกันขำๆ
ทำให้บรรยากาศรื่นเริงกว่าที่เป็น มาเฟียหัวเราะร่าถูกใจเมื่อเห็นพี่ตูมโดนยายเอ็ด
เด็กชายปีนป่ายขึ้นเก้าอี้ผ้าใบก่อนจะกระเถิบเข้าไปนั่งบนตักของมัจฉากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ร่างบางขยับลุกนั่งและโอบเอาเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด
“พี่ปลาฮะเฟียอยากเล่นน้ำทะเล”
“ตอนนี้ยังเล่นไม่ได้ครับ แดดเริ่มแรงแล้ว เอาไว้ตอนเย็นๆนะพี่ปลาเล่นด้วยดีไหม”
“ดีฮะ แต่เฟียอยากเล่นไอ้ที่เห็นในทีวีเมื่อวานอ่ะ “
“อ๋อเจ็ทสกีเหรอครับ เฟียต้องโตกว่านี้ก่อนนะ ให้คุณพ่อพาเล่นเป็นไง พี่ปลาเล่นไม่เป็นหรอกครับ “
มัจฉานึกถึงรายการโทรทัศน์ที่เขาดูกับคุณหนูเมื่อวาน ท่าทางคุณหนูจะชอบกีฬาประเภทนี้ร่ำร้องอยากจะเล่นตั้งแต่เมื่อวาน
“เอางี้สิ พี่เห็นของทางโรงแรมนั้นเขามีให้เช่านะพี่รู้จักเจ้าของโรงแรมอยู่น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ถ้าจะให้เขาเอามาส่งที่บ้านเรา พี่จะพาขี่ดีไหม”
สงครามออกความเห็นเขาอยากให้ทุกคนสนุกอะไรไรที่ทำได้เขาก็ไม่ห้ามเจ๊ทสกียังอันตรายเกินไปถ้าจะปล่อยให้ลูกเล่นลำพังแต่ถ้าเขาเล่นด้วยก็น่าจะดี เป็นกิจกรรมดีๆร่วมกันครั้งแรกเลยก็ว่าได้
…………………………
ร่างสูงใหญ่ของสงครามจัดแจงหาเสื้อชูชีพทั้งของเขาและของลูกชาย ขณะที่คนตัวบางยังง่วนอยู่กับการทาครีมกันแดดให้ลูกชายตัวน้อยของเขาเลยดูเหมือนเขาสองคนมะรุมมะตุ้มคุณหนูของบ้าน
“ปลาก็ทาด้วยนะครับเดี๋ยวผิวจะไหม้เอานะ..”เขาอดที่จะเตือนคนตัวบางด้วยไม่ได้เพราะเขาเห็นมัจฉาเอาแต่ห่วงลูกและเขาโดยลืมตัวเองอยู่บ่อยครั้ง
“ครับๆปลาทาแล้วน่า คุณหนูครับ หันหลังมาหน่อยพี่ปลาจะทาครีมให้ คุณก็ด้วยทาที่หน้าหน่อยเดี๋ยวหน้าไหม้หรอก..น่าจะรอให้แดดร่มกว่านี้นะ”
มัจฉาอดที่จะบ่นไม่ได้ก็ว่าทีแรกจะรอแดดร่มๆค่ำๆค่อยเล่นแต่ทั้งคุณหนูและคุณพ่อก็ไม่ฟังเขาเลยต้องลากมาทาครีมก่อนลงเล่น
“มันเหนียวๆอ่ะเฟียไม่ชอบเลย ไม่ทาได้ไหมครับ”เสียงอ้อนๆของคนตัวเล็กไม่ได้ทำให้พี่ปลาของเขาใจอ่อน
“ไม่ได้ครับ เดี๋ยวผิวไหม้มันจะแสบมาก..ต้องทานะ “
กว่าจะลงทะเลได้มัจฉาก็ปล้ำทาครีมทั้งพ่อทั้งลูก หาดส่วนตัวที่เงียบสงบเมื่อสักครู่ตอนนี้กลับมีเสียงวี๊ดว้ายของมะตูมและคุณหนูมาเฟีย ที่หัวเราะลั่นด้วยความสนุกสนาน
เจ็ทสกีสองลำที่แข่งกันขับฉวัดเฉวียนน่าเวียนหัว แต่สร้างความสนุกให้ทุกคนที่อยู่บนเครื่อง สงครามเป็นคนขับมีลูกชายตัวน้อยนั่งอยู่ข้างหน้า
และมัจฉานั่งกอดเอวเขาเอาไว้แน่นด้วยความกลัวอยู่ข้างหลังอีกลำมีป๋องเป็นคนขับซ้อนหลังด้วยมะตูมที่คอยทุบหลังป๋องทุกครั้งที่ป๋องขับเร็วๆ
เพื่อแข่งกับคุณสงครามท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของป๋อง และยายกิ่งที่นั่งมองทุกคนเล่นสนุก เวลาแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ เธอรู้สึกสบายใจมากแล้วตอนนี้ ไม่มีอะไรให้เธอต้องห่วงอีกแล้ว
.................................
“กลับบ้านแล้วเฟียอยากไปหาคุณแม่ได้ไหมฮะ”มัจฉาฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจเมื่อได้ยิน เขานึกมาตลอดเวลาว่าอยากจะพาคุณหนูไปหาคุณมายา
เพราะการรักษาที่ดีที่สุดและมั่นใจว่าคุณหนูจะหายและเดินไปต่อได้ คือการที่คุณหนูยอมรับคนเป็นแม่ได้เต็มหัวใจ
“ได้สิครับ”มัจฉากอดคุณหนูตัวน้อยเอาไว้ เขารู้สึกตื้นตันดีใจที่ความพยายามของเขามันกำลังจะเห็นผล
“แล้วก็เฟียอยากไปหาน้องนายด้วยเฟียคิดถึง “
“ได้เลยสุดหล่อ บอกมาว่าอยากไปไหนพี่ปลาจะพาไปเองเนอะ”
“คุณหนูขาไปนอนได้แล้วป่ะ เก็บแรงไว้พรุ่งนี้ไปเล่นเจ๊ทสกีกันอีกเนอะๆ”
“โห่..พี่ตูมอ่ะไม่เห็นต้องใช้แรงเลยมีแต่พี่ป๋องเล่นอยู่คนเดียว “
“แหมคุณหนูขาตูมยังไม่เอาจริงหรอกเชอะ”
“เอาล่ะๆ ไปนอนได้แล้วทั้งสองคนเลยนะ พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาทันดูพระอาทิตย์ขึ้นโอเค้”
“คร๊าบๆ”เด็กชายรับคำพลางจูงมือพี่ตูมเข้าห้องปล่อยให้พ่อกับพี่ปลานั่งคุยกันที่เดิม
“เออ..จริงสิพี่เดียวครับ แล้วนี่พี่ยุ้ยจะมาทำงานได้เมื่อไหร่ล่ะครับ”
“ก็อีกสักพักเลยล่ะ ตอนนี้เห็นว่า ฝ่ายบุคคลเขาหาคนมาแทนชั่วคราวนะเริ่มงานพรุ่งนี้มั้งพี่ให้เจ้าธรดูให้ คงไม่มีปัญหาอะไร “
“อ้าวแล้วแบบนี้ถ้าพี่ยุ้ยกลับมาคนที่มาแทนจะทำอะไรล่ะครับ”
“น้องเขามาชั่วคราวครับเป็นสัญญาจ้างชั่วคราว ไม่มีปัญหาตรงนั้นหรอก เอ หรือว่าคนแถวนี้จะไปเป็นเลขาแทนพี่ยุ้ยน๊า”
“หึ ไม่เอาดีกว่าปลาขอทำตำแหน่งอื่นได้ไหม”
“ตำแหน่งอะไรดีล่ะ ตำแหน่งเมียท่านประธานนี่ก็ใหญ่สุดแล้วนะ “มัจฉาหมั่นไส้คนที่พูดเล่นได้หน้าตาเฉยกลับเป็นเขาเองด้วยซ้ำที่เขินจนไม่รู้จะพูดอะไร
“หึหึ..ดูแลลูกไปก่อนนะครับ เอาไว้เฟียขึ้นมัธยมเมื่อไหร่พี่จะหางานให้ปลาทำแน่นอนเนอะ “
“ขอบคุณครับ “
มัจฉายกมือไหว้ขอบคุณเขาอยากทำงานแต่ตอนนี้ยังไม่สะดวกแค่คุณสงครามรับปากว่าจะได้ทำงานเขาก็ขอบคุณมากแล้ว
บางทีอยากหาเงินเองบ้าง เงินเก็บตอนที่ยังเป็นพี่เลี้ยงให้คุณหนูเขาก็มีไม่มากนัก คุณสงครามก็โอนเข้าบัญชีให้ทุกเดือน
แต่เป็นเงินที่เยอะเกินกว่าค่าแรงที่ได้รับ เขาอยากใช้ความรู้ที่เรียนมาบ้าง จะได้เก็บไว้ให้พ่อด้วย
เงินจำนวนนั้นเขาคืนพ่อไปครึ่งหนุ่งเพราะพ่อไม่ยอมรับคืนหมด แต่เขาก็ไม่อยากให้พ่อต้องลำบากทำงานหนัก
เพราะดูๆแล้วพ่อเดินทางบ่อยมากๆเขาเป็นห่วงแม้ว่าอาปรานจะบอกว่าจะไม่ให้พ่อต้องเดินทางบ่อยๆแล้วแต่เขารู้จักพ่อดีว่าเวลาดื้อล่ะก็ไม่มีใครห้ามฟังหรอก
“คิดอะไรอยู่ครับเงียบเชียว หืม”สงครามรวบเอาคนตัวบางเข้ามากอดเอาไว้พลางซุกซบลงสูดกลิ่นกายหอมๆของคนรักอย่างไม่รู้เบื่อ
“คิดถึงพ่อครับ ป่านนี้ไม่รู้จะไปทำให้อาปรานปวดหัวแค่ไหนแล้ว”
“ไม่หรอกน่า พี่ว่าพ่อปูของปลาน่ะจะปวดหัวกับอาปรานของพี่มากกว่านะ หึหึ”
ทั้งคู่ประสานเสียงหัวเราะราวกับถูกใจนักหนาเมื่อนึกถึงคนคู่นั้นที่เวลางอแงก็ราวกับว่าเป็นเด็กอายุเท่ามาเฟียที่เอาแต่ใจ ทั้งคู่
//ปลาอย่าห่วงเลย อารักพ่อของปลานะ ไม่รู้สิเอาเป็นว่าอาจะไม่ทำอะไรให้ปูเขาต้องลำบากหรือแม้แต่ทุกข์ใจ อารับรองด้วยเกียรติของลูกผู้ชายชาติทหารเลย//
คำมั่นสัญญาของผู้พันปราการทำให้มัจฉาลอบยิ้มในหน้า เขาได้แต่หวังว่าพ่อจะมีความสุขเช่นกัน
“พี่เดียวไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวปลาลงไปดูยายกิ่งแป๊บนึง เหมือนยายจะไม่สบาย”
“ปลาอาบก่อนเถอะพี่ไปดูเอง เหนียวตัวไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวก็ไม่สบายอีกคนนะ ไปๆเดี๋ยวพี่ไปดูยายเองครับ”
สงครามดันหลังมัจฉาเข้าห้องไป ส่วนเขาเดินเลยไปอีกห้องที่ยายกิ่งพัก สงสัยจะไม่ชินกับอากาศยายเลยป่วยง่าย
เดี๋ยวนี้ยายกิ่งไม่ค่อยแข็งแรงนักอาจจะเพราะอายุที่มากขึ้น แต่เขาก็เห็นว่ายายกิ่งมีความสุขดี เขาก็ดีใจ
..................
เสียงฮัมเพลงเบาๆลอดออกมาจากห้องน้ำ ทำให้สงครามที่พึ่งจะเดินเข้าห้องมา ต้องชะงักฟังและสาวเท้าเดินไปตามเสียงเพลง
เขาค่อยๆเลื่อนประตูที่เป็นบานเลื่อนเบาๆก็พบว่ามันไม่ได้ล็อค ไอน้ำลอยวนจนกระจกในห้องน้ำเกิดฝ้าขาวๆราวกับมีหมอกจางๆในห้องน้ำ
สงครามถอดเสื้อผ้าอออกจากร่างกายอย่างช้าๆไม่เร่งรีบ ร่างบอบบางของมัจฉานอนแช่น้ำอุ่นเอนกายพิงพนักด้านหลังหลับตาพริ้ม
พลางร้องเพลงคลอเบาๆราวกับกำลังดื่มด่ำความสบายตัวและอารมณ์ที่ถูกปลดปล่อยออกไป
ร่างกำยำของสงครามที่เปล่าเปลือยปราศจากอาภรห่อหุ้มกายค่อยก้าวเข้าไปแล้วหย่อนกายลงแผ่วเบาในอ่างน้ำร่วมกับอีกคน
ที่ยังคงหลับตาฮัมเพลงอยู่อย่างนั้น มัจฉารู้สึกถึงแรงกระเพื่อมของน้ำจนต้องลืมตาขึ้นมองแล้วต้องยิ้มเมื่อเห็นอีกคนนั่งอยู่ตรงหน้า
ทั้งยังโน้มกายเข้าหาเขาทาบทับร่างกายแข็งแรงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามลงมาเบียดตัวเขาที่ยังนอนแช่น้ำอยู่
มัจฉายกแขนขึ้นทั้งสองข้างตวัดโอบรอบคอคนตัวโตที่โน้มหน้าเข้ามาใกล้ ริมฝีปากหนาประกบจูบแผ่วเบากับคนใต้ร่างที่แหงนเงยขึ้นรับจุมพิต
เสียงครางผะแผ่วเล็ดลอดจากลำคอของคนตัวบางทำให้สงครามกดกายเบียดลงแนบแน่นให้กายสัมผัสกายรับรู้ถึงความรักและความต้องการที่สื่อถึงกัน
มัจฉาแยกขาเรียวออกกว้างเพื่อเปิดช่องว่างให้คนตัวโตแทรกร่างลงมา มือหนาเฟ้นฟอนไปทั่วร่างเนียนนุ่มมือ ริมฝีปากยังประกบไม่ห่าง
ลิ้นร้อนๆแทรกกระหวัดรัดเกี่ยวลมหายใจอีกคนเอาไว้ดูดดึงช่วงชิงเอาริมปากของอีกคนไว้อย่างใจปรารถนา
“ฮื่อ..”
มัจฉาส่งเสียงประท้วงเมื่อลมหายใจเริ่มขาดห้วง สงครามถอนริมฝีปากให้คนตัวบางได้หายใจมือหนายังคงทำหน้าที่
ริมฝีปากเปลี่ยนเป้าหมายขบเม้มไปตามลำคอลาดไหล่และไหปลาร้า สองร่างเกี่ยวกระหวัดบอกรักกันผ่านภาษากาย
ความสุบลอยวนไปราวกับไอน้ำที่หมุนวนรอบห้อง สงครามอยากจะกอดร่างบางนี้เอาไว้ตลอดไม่อยากห่างไม่อยากให้ใครอื่นได้เห็น
เขาหวง อย่างที่ไม่เคยหวงแบบนี้กับใคร สิ่งที่เขาทำได้เพื่อตอกย้ำความมั่นใจว่ามัจฉารักเขาคือการบอกรักกันทุกวันทั้งภาษาพูดและภาษากาย
ที่ลูกปลาตัวน้อยในอ้อมแขนนี้ไม่เคยปฏิเสธเขาสักครั้ง และเพราะแบบนี้เขายิ่งรักคนๆนี้มากขึ้นทุกทีพอๆกับความหวงที่มีมากพอกัน
หลายคนอาจจะคิดว่าเขาไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะด้วยปัจจัยหลายๆอย่างมัจฉาต่างหากที่ควรกลัว แต่ถ้าคนที่คิดแบบนั้นได้รู้จักมัจฉาล่ะก็
จะเข้าใจเขาทันทีว่าเพราะอะไร ....เสียงกายกระทบกันดังก้องกังวานในห้องน้ำ เสียงครวญครางสุขสมของคนทั้งคู่ดังไปพร้อมๆกัน
ความร้อนแรงที่มอบให้ไม่เคยจืดจางมันยิ่งทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนความรักของเขาทั้งคู่ ที่กำลังงอกงาม
.....................................
“อ่า..อย่างอนพี่เดียวเลยนะครับ ก็ปลาของพี่สวยเซ็กส์ซี่ขนาดนี้พี่จะอดใจไหวได้ไง รอบเดียวมันก็ไม่พอนี่นา “
เสียงอ่อยๆของคนตัวโตที่คลอเคลียอยู่ข้างๆในตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมารับอรุณของอีกวัน มัจฉานึกถึงเมื่อคืนเขาตามใจคุณสงครามในห้องน้ำ
ก็นึกว่าจะแค่รอบเดียวที่ไหนได้พ่อตัวดีเอาแต่ใจเรียกร้องจนเขาได้นอนตอนตีสาม และตอนนี้เขาป่วยเพราะเมื่อวานเล่นน้ำทะเลกลางแดด
แถมกลางคืนไม่ได้พัก ที่เขาหงุดหงิดไม่ใช่เพราะเรื่องสงครามรังแกเขาหลายรอบ จะว่าแบบนั้นก็ไม่ถูกนักเขาเองก็เต็มใจ
แต่เหตุที่เขาหงุดหงิดคือทำไมพ่อคนตัวโตนั่นถึงได้กระดี๊กระด๊าร่าเริงไม่เจ็บไม่ป่วยสักนิด ผิดกับเขาที่ต้องนอนแบ่บอยู่บนเตียง ฮึ่ย..คิดแล้วมันน่างอนนานๆนัก
"ปลาอยากเล่นน้ำทะเลกับลูกนี่ ดูสิมาเที่ยวทั้งทีต้องมานอนอยู่กับเตียงไม่สนุกเลย”
สงครามสอดแขนลงไปใต้ร่างช้อนคนร่างบางขึ้นมาอุ้มเอาไว้แล้วพาเข้าห้องน้ำไป เขาจัดการทำความสะอาดให้มัจฉา
อาบน้ำล้างหน้าให้พร้อมฮัมเพลงโปรดในลำคอไปด้วยความสุข มัจฉาไม่บ่ายเบี่ยงเขาปล่อยให้คุณสงครามทำอย่างที่ต้องการ
เขาชอบเวลาที่คุณสงครามทำอะไรแบบนี้ให้ วันนี้เขานึกรู้ได้เลยว่าเขาคงไม่ได้เดินหรอกพ่อคนหน้าบานนี่คงอุ้มเขาทั้งวัน และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
.........
“คุณปลาดีขึ้นหรือยังคะ “หญิงชราเอ่ยถามขณะที่นั่งอยู่ริมระเบียงบ้านมองดูคุณสงครามและมาเฟียทั้งมะตูมและป๋องเล่นน้ำทะเลกันสนุกสนาน
“ปลาสบายดีครับยาย คุณเดียวก็โอเวอร์ไปงั้นแหละครับ ยายกิ่งน่าจะรู้”
“ฮ่าๆนั่นสิคะ เลยมีคนป่วยสองคนมานั่งคุยกันดูพวกลิงทะโมนเล่นน้ำแทน “
“แล้วยายล่ะครับดีขึ้นหรือยัง “
“ไม่ต้องห่วงยายหรอกค่า แก่แล้วก็แบบนี้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวไข้ แต่ตอนนี้ดีแล้วค่ะ เดี๋ยวยายไปยกขนมหวานมาให้นะคะ คุณปลาอย่าลุกไปไหนนะ เดี๋ยวคุณหนูสองคนมองขึ้นมาไม่เห็น คุณปลาจะเอะอะปล่าวๆ”
“ครับผม”
มัจฉายิ้มให้หญิงชราที่ปลีกตัวออกไป เขามองลงไปที่ชายหาด คุณพ่อตัวโตที่ปลุกปล้ำกับลูกชายตัวน้อยในทะเลโดยมีป๋องกับมะตูมเป็นคนเชียร์
กลับไปคราวนี้ก็มีอะไรรออยู่อีกมากมาย คุณหนูให้อภัยแม่แล้วตัวเขาเองก็เช่นกัน บาดแผลวัยเด็กมันต้องเยียวยาไปเรื่อยๆ
เขาเชื่อว่าเขาเข้มแข็งพอที่จะเผชิญกับปมที่ผู้อยู่ในใจเขาแล้ว คราวนี้เขาจะไปเยี่ยมแม่และ พี่กุ้ง ได้อย่างไม่มีอคติใดๆอีก
มัจฉาเอนกายลงพิงพนักเก้าอี้ หลับตาลงพักสายตาพลางคิดถึงเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน กลับมาแล้วสินะ ความรักที่หายไป
เขาได้คืนมาหมดแล้ว และจากนี้เขาจะรักษาเอาไว้ให้ดี ไม่ให้หลุดหายไปที่ไหนได้อีก
มัจฉายิ้มให้กับตัวเองเมื่อมองเห็นทางข้างหน้าที่ชัดเจนขึ้น เขาโชคดีมากจริงๆที่ได้เจอคนที่รักได้รับความรัก
.........ความสุขอยู่แค่นี้ รักษาเอาไว้ให้ดีๆ มันก็จะไม่หายไปอีกแล้ว .........
.
.
.
..
The End ...........................
กราบขอบคุณคนที่ติดตามอ่านและมาเม้นท์ให้เป็นกำลังใจคนเขียน เรื่องราวของน้องปลาและพี่เดียวก็เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว
หากเป็นชีวิตจริงนี่คงเป็นจุดเริ่มต้นมากกว่า การใช้ชีวิตคู่ไม่ง่ายอย่างที่ใครๆคิด
เพราะงั้นพันวาขออยู่เป็นโสดไปอย่างนี้ก็แล้วกันค่ะ 555555555 วุ้ัยยไม่น่าเกี่ยวนะ
ตอนพิเศษรอนิดนึงนะคะ มีแน่นอน ของพ่อปูกับอาปราน และพี่เดียวกับน้องปลา ..ส่วนกันธรกับการันต์นั้น โปรดรอติดตามในเรื่องยาวนะคะ
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ตอนพิเศษ ...จับ.หัวใจ (ปราน+ปู)
“สวัสดีครับ “กรกฏยกมือไหว้ชายสูงวัยท่าทางน่าเกรงขามที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก
“นั่งก่อนสิ หนูมุกบอกอะไรเธอมั่ง”
“เอ่อ..ก็แค่บอกว่าผมจะมีงานทำและรายได้ค่อนข้างดีครับ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมต้องแต่งงานกับคุณมุกในเมื่อ...”
“อ้อ..อันนั้นเธอไม่ต้องสนใจหรอกลูกสาวฉันมันเอาแต่ใจมาแต่ไหนแต่ไร เรื่องแต่งงานนั่นฉันบังคับมันเอง ไหนๆเธอก็ยอมที่จะมาทำงานให้ฉันแล้วเดี๋ยวให้โก้บอกรายละเอียดให้เธอทราบก็แล้วกัน ฉันจะไปพักผ่อน “
ชายสูงวัยกล่าวเสร็จก็ลุกขึ้นเดินจากไป คงเหลือไว้แค่เขากับผู้ชายร่างเล็กอีกคนที่นั่งอยู่เงียบๆ
“เริ่มงานกันเลยดีไหม “เสียงแหบจากชายร่างเล็กที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นดึงสติของกรกฏที่กำลังเหม่อให้หันมาสนใจ
“ได้ครับ”
“ผมเปิดโอกาสให้คุณได้ถามก่อน ถามได้ทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ แต่ถ้าเรื่องไหนผมไม่รู้ผมจะไม่ตอบคุณนะ”
ชายคนดังกล่าวพูดขึ้นเมื่อเห็นว่ากรกฏคงจะมีคำถามมากมาย แน่ล่ะเป็นใครก็ต้องงง เมื่อแต่งงานกับลูกสาวอาเสี่ยใหญ่ขนาดนี้แต่ต้องมาทำงานราวกับกรรมกรแบบนี้
“ผมอยากทราบเหตุผลที่ให้ผมแต่งงานกับมุก “
กรกฏถามข้อแรกแทบจะทันที เพราเขาเองพึ่งจะรู้จักมุกดาผู้หญิงคนนี้ช่วยเขาทุกอย่างแต่ไม่ได้รักเขา เพียงแต่ต้องการแต่งงานกับเขาเพราะมีข้อแลกเปลี่ยนเรื่องงานที่เขาต้องการ
“ไม่ใช่แค่คุณที่มีข้อแลกเปลี่ยนคุณมุกเธอก็มี นายอยากให้คุณมุกแต่งงานเพราะงานครั้งนี้คนว่าจ้างเขาไม่ไว้ใจคนนอกและคุณมุกเธอการันตีว่าคุณไว้ใจได้นายเลยโอเค แต่คุณก็ยังเป็นคนนอกอยู่ดีการที่จะทำให้คุณเป็นคนในให้ลูกค้าเชื่อถือได้มีทางเดียว”
กรกฏเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมมุกดาถึงขอเขาแต่งงานเมื่อวันที่เขาไปของานเธอทำ การคบกันหลอกๆสร้างภาพมาตลอด1 เดือนนี่
เพื่อให้น่าเชื่อถืองั้นเหรอ คนรวยนี่ก็ทำอะไรแปลกๆนะ แต่ช่างเถอะเขาไม่สนใจอะไรเพราะเขาก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องแต่งงานหลอกๆนั่น
เขาแค่อยากได้งาน เงินดีๆอย่างที่มุกดาบอกนั่นทำเขาวาดฝันว่าสักวันเขาจะมีเงินให้ลูกชายคนเดียวของเขาเรียนสูงๆมีบ้านอยู่กันสองคนพ่อลูก
รอพ่อก่อนนะไอ้หนูปลา อีกไม่นานพ่อจะไปรับ เขาได้แค่คิดในใจ ยิ่งคิดถึงลูกยิ่งรู้สึกผิด ช่วงที่เขาย่ำแย่จนต้องพึ่งพาเหล้ากินจนขาดสติ
เป็นภาระให้ไอ้หนูปลาจนนึกสงสารลูก เขาผิดจนอยากไถ่โทษให้ลูกทางเดียวคือฝันของลูกชายที่อยากเรียนสูงๆอยากมีบ้านอยู่โดยไม่ต้องเช่าเขา
เขาจะสานฝันให้ลูก แม้จะรู้ว่าพี่สาวของเขาไม่ชอบลูกชายเขาเท่าไหร่เพราะไม่ชอบฟางแม่ของไอ้หนูมันพี่ไก่พานจะไม่ชอบหลาน
แต่เขาไม่มีทางเลือก อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าไอ้หนูมันจะมีที่ซุกหัวนอนรอพ่อขี้ขลาดอย่างเขา ไม่นานหรอกเขาจะกลับไปหาลูกอดทนหน่อยปู เขาได้แต่ปลอบใจตัวเอง
“แล้วผมต้องทำอะไรบ้าง”
“งานของนายบางทีเป็นเหมือนงานง่ายๆแต่ลูกค้าต้องการความน่าเชื่อถือ อย่างธุรกิจขายรถโบราณเนี่ย ลูกค้าจะกลัวรถหนีภาษีมากที่สุดและรถที่ได้มาแบบผิดกฏหมายด้วย เพราะงั้นนอกจากความน่าเชื่อถือของนายแล้ว เลยต้องการคนส่งรถที่ไว้ใจได้ด้วย”
“ส่งรถยังไง “
“นายจะให้คุณเป็นคนส่งรถโบราณให้ลูกค้าก่อน..พวกรถแพงๆรถหายากของสะสมพวกเศรษฐีเขาน่ะ นายจะให้คุณทำ ค่าจ้าง นายจ่ายให้คุณเป็นงวด ถ้าส่งรถเสร็จก็รับเงินเลย งวดละสองแสน “
“ห๊ะ!! สองแสนเลยเหรอ แล้วเดือนนึงนี่ผมจะได้ส่งรถกี่คัน”
“หนึ่งเดือนก็ส่งราวๆ8-10 คัน”
กรกฏตื่นเต้นกับราคาค่าจ้างที่จะได้เขาเริ่มคำนวณรายได้ทันที เขาจะมีเงินล้านภายในเวลาหนึ่งเดือน ไอ้หนูเอ๊ยแกจะสบายแล้ว
ชายร่างเล็กมองหน้ากรกฏที่แสดงความตื่นเต้นจนปิดไม่มิด ใจหนึ่งก็รู้สึกสงสารอีกใจก็มันไม่ใช่อะไรกงการของเขา
ปล่อยไปใครอ่อนแอก็แพ้ไปเป็นกฏธรรมชาติอยู่แล้วเขาก็ได้แต่หวังว่าผู้ชายตัวเล็กท่าทางซื่อๆคนนี้จะเอาตัวรอดได้
………………….
เป็นเวลาเกือบเดือนแล้วที่กรกฏได้เข้ามาทำงานกับพ่อของมุกดา ตั้งแต่เข้ามาในบ้านเขาเจอมุกดาน้อยมากจะเจอกันเวลาออกงานด้วยกัน
ประกาศว่าเป็นสามี ภรรยาควงกันออกงาน แต่กลับเข้าบ้านก็นอนคนละห้อง บางทีเขาก็งงๆกับการทำแบบนี้ของนายกับมุกดา
ถึงแม้บางทีเขาคิดว่าไม่สนใจแต่ก็อดคิดไม่ได้ จนเมื่อวานที่มุกดาบอกว่าจริงๆแล้วเธอมีแฟนอยู่แล้วแต่พาออกสังคมไม่ได้
เขาไม่เข้าใจหรอกแต่ก็ถือว่าได้ช่วยมุกดาตอบแทนที่เธอหางานให้เขาทำ ตอนนี้เขาเก็บเงินได้ก้อนเล็กๆเพราะบางส่วนต้องส่งให้พี่ไก่ด้วย
เขาขาดการติดต่อกับลูกเพราะไม่อยากให้ไอ้หนูของเขาเป็นห่วง แววตาของลูกที่มองตัดพ้อเขาในวันที่เขาตัดสินใจมากับมุกดามันยังติดตา
รอหน่อยนะไอ้ลูกชายพ่อจะกลับไปหาแล้วเล่าให้ฟังทุกเรื่องเลย
“ปูวันนี้ไปส่งรถให้พ่อเลี้ยงนะ”
กรกฏพยักหน้ารับคำเอาจริงเขาก็เกรงๆพ่อเลี้ยงคนนั้นอยู่พอควร เพราะเมื่อวันก่อนที่เขาไปงานวันเกิดของพ่อเลี้ยงกับมุกดาเขารู้สึกว่าถูกจับตามองทุกฝีก้าว สายตาที่จ้องมาที่เขาราวกับจะส่องให้ทะลุตัวเขานั่นมันไม่น่าไว้ใจ
“ไปส่งที่ไหนเหรอครับ”
“แม่ฮ่องสอน”
“ผมไม่ต้องข้ามเขตใช่ไหมครับ “
“ไม่หรอกแค่รอยต่อใกล้แม่น้ำสาละวินน่ะ เดี๋ยวจะมีคนมารับรถเอง”
กรกฏพยักหน้ารับคำ พรุ่งนี้คงต้องตื่นแต่เช้า งานนี้นายบอกว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่ รถถูกส่งมาเกือบเดือนแล้วพึ่งจะส่งไปให้พ่อเลี้ยงพรุ่งนี้
“ไปนอนเถอะพรุ่งนี้ต้องขับรถไกลนะ “
“ครับนาย”
“ปู”
“ครับ”
“เดี๋ยวจบงานนี้อยากจะขอให้ปูอยู่กับยัยมุกไปก่อนได้ไหม สักปีนึงค่อยหย่า เดี๋ยวฉันจ่ายค่าเสียเวลาให้ นอกจากค่าจ้างถือว่าฉันขอละกัน”
“ได้ครับนายผมไม่มีปัญหาอะไรครับ”
กรกฏรับคำก่อนจะเดินเข้าห้องไป ทิ้งให้เจ้าของบ้านมองตามหลังอย่างไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไร ผ่านมาหนึ่งเดือนเขาชักจะชอบผู้ชายคนนี้
จนอยากจะได้เป็นลูกเขยจริงๆ เขาได้แต่นึกเสียดายคนดีๆแต่ก็นั่นแหละมันเลือกไม่ได้
ชายสูงวัยยกโทรศัพท์ขึ้นต่อสายหาคนสนิทที่รับงานใหญ่ชิ้นนี้
“ประกบให้ดีนะถ้าพลาดมึงรู้ว่าต้องทำไง”
//ครับนายผมจัดการเอง//
เขามองไปที่ห้องของลูกเขยในนามพลางถอนหายใจ พรุ่งนี้พลาดไม่ได้
.........................................
กรกฏมองวิวสองข้างทางอย่างเพลิดเพลิน เขารับรถบ่ายโมงกว่าๆแล้วก่อนจะขับออกนอกเมืองมุ่งหน้าแม่ฮ่องสอนตามใบสั่งนาย
บางทีเขาคิดว่างานนี้ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร แค่ขับรถไปส่ง ทุกครั้งผ่านมาไม่เคยมีปัญหาอะไรเพราะเขาเป็นคนขับรถระวังมาก
และใจเย็นไม่เคยมีปัญหาเรื่องการชนเหมือนที่นายเคยบ่นว่าคนขับคนก่อนชอบขับเร็วและรถชน
บางครั้งต้องเปลี่ยนสินค้าให้ลูกค้าจนแทบจะขาดทุนเขาเองเห็นใจนายเข้าใจว่าสินค้าแพงๆแบบนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ
กรกฏแวะเติมน้ำมันก่อนจะเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเพราะเส้นทางยังอีกไกล ..เขาสะดุดตากับรถอีกคันที่เขาเห็นมาตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯ
จะว่าไปแรกๆเขาไม่สังเกตอะไร แต่พอเขาแวะปั๊มสองครั้งรถคันนั้นก็แวะพร้อมๆกับเขา หรือว่าเขาจะคิดมากไปนะ
กรกฏเดินสะบัดศรีษะมึนๆออกจากห้องน้ำ อีกไม่กี่กิโลจะเข้าสู่แม่ฮ่องสอนแล้ว แม้ร่างกายจะล้าแต่เขาไม่คิดจะหยุดพัก
กรกฏขับรถตามเส้นทางหลักมาเรื่อยๆตามแผนที่ๆทางนายให้มา เข้าสู่เขตรอยต่อไทยพม่าที่มีแม่น้ำสาละวินกั้นเขตแดนเอาไว้
อีกนิดเดียวจะถึงจุดหมายแต่เขาก็ต้องงงเมื่อเจอด่านที่ไม่มีในแผนที่ และทันทีที่เขาชะลอรถ เจ้าหน้าที่ในชุดทหารหลายนายก็เข้ามารุมล้อมรถเขา
"จะไปไหนครับ”นายทหารหนึ่งนายเดินมาที่กระจกข้างเขาพร้อมทั้งสอบถาม
“ไปบ้านพ่อเลี้ยงศรันย์ครับ”
“ผมขอตรวจค้นรถหน่อยนะครับ”เจ้าหน้าที่คนเดิมยังคงสุภาพกับเขา
“ได้ครับ ตามสบายเลย”
“ผมขอตรวจปัสสาวะด้วยนะครับ”
“อ้าว..ทำไมล่ะครับผมไม่ได้เมานะไม่ได้เสพยาด้วย”
กรกฏเริ่มหงุดหงิดเพราะกำหนดส่งรถใกล้ได้เวลาแล้วถ้าเขาช้านายจะถูกตำหนิและหากพ่อเลี้ยงไม่พอใจ อาจจะทำให้ธุรกิจนายมีปัญหา
“นิดเดียวน่าคุณให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ไม่ได้หรือไง”
เสียงดุๆดังขึ้นอีกฝั่งของรถทำให้กรกฏต้องหันไปมอง ผู้ชายตัวสูงใหญ่ในชุดทหารเต็มยศ ยืนกอดอกมองมาที่เขานิ่งๆ จนเขารู้สึกกลัวคนๆนั้นขึ้นมา จนต้องลงจากรถ
ฟุบ!!
อึก!
จังหวะที่กรกฏเดินตามนายทหารคนนั้นไป ผู้ชายเสียงดุคนนั้นก็พุ่งเข้ามาลากแขนเขากระชากเต็มแรงจนเขากระเด็นไปกับแรงกระชากนั่น
เขารู้สึกเจ็บแปลบที่หัวไหล่ด้านขวาก่อนจะเซเข้าสู่อ้อมแขนของคนๆนั้นที่ลากเขาเข้าที่กำบัง
“มันอยู่บนเนินทิศเหนือ !”
จากนั้นไม่นานเสียงปืนดังขึ้นจากทุกทิศสติของกรกฏเริ่มเลือนลาง และดับวูบลงไปในอ้อมแขนของผู้ชายคนนั้น
“เฮ้..คุณอย่าพึ่งตายนะเว้ย!”
...............................
“อูยยยยย”
กรกฏมองไปรอบกายบรรยากาศไม่คุ้นเคย ความเจ็บแปลบที่หัวไหล่วิ่งเข้าสู่สมองทันทีที่พลิกตัว เขาถูกยิง.?.ทำไมกัน?ใครยิงเขา?ยิงทำไม?
คำถามมากมายสับสนอลหม่านอยู่ข้างในต้องสะดุดเมื่อประตูถูกเปิดออกพร้อมกับผู้ชายเสียงดุคนนั้น..
“ไง”
“เอ่อ..ผมถูกยิงเหรอ ทำไม?”
“อ้าวคุณถามผมแบบนี้ ..เฮ้อ...ผมควรถามคุณมากกว่านะ “
“ถามผม? “
“เอาล่ะคุณตอบตามความจริงนะ ถ้าผมจะถามอะไรคุณสักสองสามข้อ”
“.................”
“คุณกำลังจะไปไหน”
“ผมบอกแล้วไงว่าไปบ้านพ่อเลี้ยงศรันย์”
“ไปทำไม”
“เอารถไปส่ง”
“รถคันนั้นน่ะเหรอ”
“ใช่..รถมีใบเสียภาษีถูกต้องนะคุณไม่ได้ผิดกฏหมายนะ”กรกฏเริ่มจะเข้าใจคิดว่านายทหารพวกนี้คิดว่ารถที่เขาขับมาเป็นรถหนีภาษีแต่ไม่น่าจะต้องยิงกันนี่นา
ปราการเพ่งมองผู้ชายร่างเล็กที่ยังนอนอยู่บนเตียง ท่าทางมึนงงและไม่เข้าใจทำให้เขานึกรู้ทันทีว่านี่เป็นแพะ ถูกสั่งเก็บยังไม่รู้ตัวอีก
“ผมถามคุณอีกคำ ว่ารถที่คุณมาส่งเนี่ยไปส่งให้ใครและใครเป็นนายจ้างคุณ"
“ก็..ส่งให้พ่อเลี้ยงศรันย์ ..ออเดอร์จากเสี่ยพงษ์เทพ”
ก๊อกๆ
“เข้ามา”
“ขออนุญาตครับผู้พัน “ผู้ชายในเครื่องแบบทหารเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารปึกใหญ่ส่งให้กับคนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่กับเขาบนเตียง
ผู้พันปราการพิจารณาเอกสารในมือพลางมองหน้าคนที่นอนเจ็บอยู่บนเตียงสลับกันไปมา ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เอาล่ะคุณกรกฏ “กรกฏยิ่งแปลกใจหนักขึ้นเมื่อคนตรงหน้ารู้จักชื่อเขา
“ทำไมคุณรู้จักชื่อผม”ปราการยื่นเอกสารในมือบางส่วนให้กับคนเจ็บที่ทำหน้าสงสัยจนเขาคิดว่าคิ้วเรียวคู่นั้นมันจะผูกกันบนหน้าชายหนุ่มคนนั้นแล้ว
กรกฏอ่านเอกสารช้าๆทั้งรูปถ่ายทั้งประวัติย่อของเขามีเต็มหน้ากระดาษแถมข้อความใต้ภาพที่เขียนไว้ว่าผู้ต้องสงสัยลักลอบขนยาเสพติด !
“นี่มันอะไรกัน!”กรกฏมือไม้อ่อนแรงแทบจะทันที
“ตลอดเวลาหนึ่งเดือนมานี้ทางหน่วยงานเฉพาะกิจได้ประสานงานกับตำรวจเรื่องนี้มาพอสมควร เสี่ยพงษ์เทพเป็นพ่อค้ายารายใหญ่
ที่ทางการต้องการตัวมากแต่ยังไร้หลักฐาน เพราะทุกครั้งที่คนส่งยาถูกจับได้ทุกคนจะถูกฆ่าก่อนที่ตำรวจจะได้ตัว
บางคนได้ตัวแล้วขังไว้ในคุกยังโดนฆ่าปิดปากได้เลย แต่หนนี้คงหนีไม่รอด รถทุกคันที่คุณขับใต้เบาะที่นั่ง ใต้คันเร่งที่คุณเหยียบเต็มไปด้วยเฮโรอีนที่ซุกซ่อนมาในตัวรถ คันนี้ที่คุณขับมาก็มูลค่าของยามากกว่ารถที่คุณขับอีกสิบเท่า “
“ผม ...ผม ไม่รู้เลย”
เสียงของกรกฏหายลงไปในลำคอ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมต้องแต่งงานหลอกๆเป็นคนรักหลอกๆ เพื่อความเชื่อใจต่อคนรับของ
ว่าจะไม่มีหนอนส่งข่าวให้ตำรวจ มุกดาเป็นคนหาเหยื่อให้พ่อเธอ และเขาก็ตกเป็นเหยื่อด้วยความโลภนั้นด้วย
ลูกปลาพ่อขอโทษ ..กรกฏอยากจะร้องไห้แต่มันจุกแน่นไปหมดเขาเสียใจกี่ครั้งกันที่เขาทำชั่วโดยไม่รู้สักนิดว่าทุกครั้งที่ทำงานคือการส่งยานรกพวกนั้น เขามันเลวไม่มีที่ติจริงๆ
ปราการมองหน้าคนเจ็บที่ซีดลงไปทุกขณะแววตาเจ็บปวดท้อแท้ฉายออกมาอย่างปิดไม่มิด ตากลมโตนั่นไหวระริกเหมือนจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตาสักหยดให้เห็น
“ผมมีทางเลือกให้คุณนะคุณกรกฏ คุณพักให้หายดีก่อน เป็นพยานให้ทางการเราจะให้คุณอยู่ที่นี่เพื่อความปลอดภัย เพราะคนส่งของทุกคนถูกฆ่าหมดไม่ว่าจะอยู่ในคุกหรือที่ไหน อีกอย่าง ถ้าคุณบริสุทธิ์ผมจะกันคุณไว้เป็นพยาน ส่วนเรื่องอื่นคุณต้องเก็บตัวที่นี่เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง “
“ผม...ผมจะติดคุกไหมครับ”
เสียงแผ่วเบาผ่านปากบางๆที่กรกฏกัดมันไว้แน่นเพื่อกลั้นก้อนสะอื้นที่ตีขึ้นมาจุกที่คอ เขาจะให้ไอ้หนูรู้ไม่ได้ว่าเขาเป็นคนเลวไปแล้ว
แม้เขาจะทำตัวไม่ดีแค่ไหนแต่ยาเสพติดเป็นสิ่งที่เขาเองก็เกลียดที่สุดในชีวิต แต่ตอนนี้เขากลับกลายมาเป็นผู้ต้องหาค้ายาเสพติด
ลูกเขาจะอับอายถ้ามีพ่อชั่วๆแบบเขา และเขาคงไม่มีหน้ากลับไปหาลูกอีกแล้ว
“ข้อนั้นอย่าคิดมากไปเลยนะ นอนพักก่อนเอาไว้ผมได้หลักฐานอะไรมาครบแล้วผมจะบอกคุณอีกทีว่าควรทำอะไรต่อไป”
อะไรบางอย่างในแววตานั่นทำให้ปราการเสียงอ่อนลงอย่างไม่รู้ตัว เขาสงสารงั้นหรือสงสารผู้ต้องสงสัยค้ายางั้นเหรอ คนอย่างเขาเนี่ยนะ
ไอ้ปรานเอ๊ยถ้าจะบ้า ผู้พันหนุ่มได้แต่ด่าตัวเองในใจ เขาไม่เคยใจอ่อนกับพวกค้ายายิ้งทิ้งได้เขายิงทิ้งไปเลยไม่เคยสนใจด้วยซ้ำ
เขาเกลียดคนพวกนี้ที่บ่อนทำลายชาติ แต่ตอนนี้เขากำลังเห็นใจคนพวกนั้นเพราะอะไร ผู้พันหนุ่มสะบัดหัวไล่ความรู้สึกสับสนออกไป
ก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องปล่อยให้คนเจ็บได้พัก พลางบอกกับตัวเองว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ผู้ต้องหาไม่ได้ค้ายาแค่เป็นเหยื่อเท่านั้น
และนั่นคือหน้าที่ๆเขาจะต้องช่วยไม่ใช่หรือไง
.............................
“ผู้หมวดปล่อยข่าวไปว่าคนขับรถของเสี่ยพงษ์เทพถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จัดการหาศพแทนด้วยแล้วกันอย่าให้พวกนั้นรู้ว่าผู้ชายคนนั้นยังมีชีวิตอยู่”
“ครับผู้พัน”
ปราการมองขึ้นไปชั้นบนที่กรกฏยังอยู่เขาได้แต่คิดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือหน้าที่ก็แค่ช่วยแพะตัวเล็กๆที่ใม่รู้เหนือรู้ใต้ใดๆกับเขา
“ผู้พันครับ นี่ของที่สั่งครับ”
พลทหารอีกคนเดินถือถุงใส่พวกของสดที่เตรียมมาทำกับข้าว ที่ผู้พันสั่งไว้ตั้งแต่เช้าเข้ามาในบ้านแม้จะแปลกใจ
ที่คราวนี้ผู้พันพาคนนอกมาพักที่บ้านหลังนี้ที่ไม่เคยมีใครเข้ามาพักเลยนอกจากผู้พันและคนติดตาม
แถมยังลุกมาทำอาหารเองอีก มันน่าแปลกใจสุดๆแต่พลทหารชั้นผู้น้อยแบบเขาก็ไม่อยากจะสงสัยให้มากเรื่องทำตามคำสั่งนายไปดีกว่ามานั่งสงสัยให้ปวดหัว
“ขอบใจเอาไปวางไว้บนโต๊ะนุ่นไปเดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง”
“ครับผม”
ปราการเดินเข้าครัวจัดการรื้ออุปการณ์ที่ไม่เคยได้ใช้ออกมาจัดการกับอาหารเช้าให้คนเจ็บและตัวเอง เขาส่ายหน้าน้อยๆ
เมื่อนึกคิดไปว่าทำไมเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้แต่เมื่อนึกเห็นหน้าเศร้าๆของเชลยบนห้องเขาก็ได้แต่ถอนใจ
“พี่โป้งรู้ว่ากูมาทำอะไรกินเองแบบนี้โดนหัวเราะเยาะแหงเลย”
ร่างสูงบ่นงึมงัมเมื่อนึกถึงพี่ชายที่เคยบ่นว่าเขามันไม่ได้เรื่องในการทำอะไรกินเองพึ่งแต่ข้าวแกงข้าวถุงมาทั้งชีวิต
ไม่ใช่ว่าทำไม่เป็นแค่ไม่อยากทำก็งานมันเหนื่อยกลับถึงบ้านไม่มีอารมณ์จะทำอะไรกินแล้ว แต่วันนี้ต้องทำให้คนเจ็บก่อน
ก็แค่ไม่อยากเห็นใครมาตายต่อหน้าก็เท่านั้นแหละ
.
.
.
.
TBC.................
หวัดดีค่าาาา เอารุ่นใหญ่มาเสิร์ฟ อิอิ ขออภัยที่มาช้านะ แต่ก็มาแล้วนี่เนอะ คริคริ
พ่อปูเป็นผู้ชายตัวเล็กหน้าหวานพอๆกับลูกชาย พ่อปูหน้าเด็กแม้จะใกล้ๆ40แล้วแต่พ่อปูยังน่ารักน๊าาา
ผู้พันปราการ หนุ่มโสดวันสามสิบกว่าๆ(กว่าเท่าไหร่ไม่รู้เนอะ ) เป็นคนบ้างาน กินนอนที่ชายแดนมานานไม่เคยกลับบ้านที่กรุงเทพจนพี่ชายและพี่สะใภ้จะกรวดน้ำให้เป็นการประชดแล้ว 555
พ่อปูมีนิสัยคล้ายๆปลาน่ารักอ่อนโยนแต่ก็ใจเด็ดแข็งแกร่งแม้ตัวจะเล็ก
ผู้พันปรานนายทหารหุ่นหมี ผู้เด็ดขาดและไม่เคยปราณีใครยิ่งกับผู๔้ค้ายาด้วยแล้ว ทีมฆ่าตัดตอนก็ผู้พันปรานเลย แต่ต้องมาพ่ายแพ้ให้คนแก่หน้าเด็ก ที่อายุมากกว่าเขาถึง 6 ปี
เรื่องราวของทั้งคู่ไม่ยาวนะคะ มาสั้นๆ แต่ฟินเนอะ 5555
รอติดตามความเคลื่อนไหวต่อไป (รอติดตามต่อในเล่นนะค๊าาา)
รักคนอ่านรักคนเม้นท์ทุกคนที่มาเม้นท์เป็นกำลังใจให้พันวานะคะ ติดตามทวงถามนิยายได้ที่เพจพันวา ที่หน้าสารบัญเลยค่าจุ๊บๆ