เสื้อกาวน์เก่าๆ.....กับเราสองคน ตอนที่ 82 ความรัก มันอาจไม่เพียงพอ
10:06 14/7/2010หกชั่วโมงที่แสนยาวนานสำหรับการผ่าตัดผ่านพ้นไป หมอ พยาบาล และทีมแพทย์ทุกคนค่อยๆทยอยออกมาจากห้องผ่าตัด สุดท้ายคือหมอจ๊ะโอ๋
'' ผลการผ่าตัดเป็นไงบ้างครับหมอ '' ผมถามเมื่อหมอจ๊ะโอ๋ก้าวออกมาจากห้องผ่าตัด
'' ผลการผ่าตัดก็เป็นที่น่าพอใจที่เหลือก็แค่รอลุ้นว่าคนไข้จะกลับมาเหมือนเดิมได้ร้อยเปอร์เซนต์หรือไม่เท่านั้นเอง ''
'' หมอหมายความว่ายังไงเหรอคับ ''
'' ผลการรักษาทุกอย่างไม่มีอะไรดีเหมือนเดิมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกน่ะคับหมอไม้ ที่เราต้องรอตอนนี้คือรอลุ้นว่าหลังจากผ่าเอาก้อนเนื้อออกไปแล้วร่างกายของติ๊บจะกลับสู่สภาพเดิมได้ดีแค่ไหน อาจตองใช้เวลาซักพักนึง และคนที่ทำหน้าที่ในการดูแลหมอติ๊บได้ดีที่สุดก็คือตัวหมอเองนั่นแหละคับ '' หมอจ๊ะโอ๋บอกพลางสบตาผมก่อนเดินนำไปนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ
'' อันที่จริงผมเองก็อยากเป็นคนที่ดูแลหมอติ๊บไปตลอดเหมือนกันน่ะคับ แต่ติดอย่างเดียว... '' หมอจ๊ะโอ๋หยุดและถอนหายใจยาวเฮือก
'' ติดแค่ตรงที่หมอติ๊บไม่เคยคิดที่จะรักผม เหมือนที่เค้ารักหมอ ''
'' หมอจ๊ะโอ๋รู้ '' ผมถามเพื่อความแน่ใจ
'' ผมรู้มาตลอดเวลาคับว่าคนเดียวที่ติ๊บรักก็คือหมอไม้ ไม่ว่าผมจะพยายามเอาชนะใจติ๊บแค่ไหน แต่สิ่งเดียวที่ผมได้กลับมาตลอดเวลา คือ ความรักในแบบที่น้องชายคนหนึ่งมีให้ต่อพี่เท่านั้น ซึ่งมันแตกต่างจากที่เขามีให้หมอโดยสิ้นเชิง ''
'' แล้วทำไมติ๊บถึงไม่บอกอะไรผมเลย '' ผมเอ่ยถามหมอจ๊ะโอ๋ที่มองเข้าไปยังห้องผ่าตัด
'' ตอนแรกผมก็ยังไม่แน่ใจโรคที่ติ๊บเป็นนักหรอกคับจึงต้องพาติ๊บมาตรวจในเมืองบ่อยๆ ติ๊บเองก็ยังไม่แน่ใจในโรคที่ตัวเองเป็นจึงไม่ยอมบอกอะไรกับหมอ จนเมื่อไม่นานมานี้ผมพาติ๊บไปทำซีที (
CT scan ) จึงได้รู้ผลว่าติ๊บมีก้อนเนื้ออยู่ในสมอง แต่โชคยังเข้าข้างเรา ที่มันไม่ใช่เนื้อร้ายและอยู่ในตำแหน่งที่สามารถผ่าตัดได้ ทุกอย่างพร้อมและรอคอยติ๊บมาซักระยะแล้วแต่เจ้าตัวอยากบอกคุณก่อน เขาคงอยากได้กำลังใจจากคุณ ''
'' ผมคงเป็นคนรักที่โง่เง่าที่สุดเลยนะ '' ผมก้มหน้าลงซบกับฝ่ามือตัวเองปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจพรั่งพรูออกมา หมอจ๊ะโอ๋ยื่นมือมาแตะไหล่ผมเบาๆ
'' บางครั้งความรักก็ไม่ได้หมายถึงการครอบครองเสมอไปหรอกน่ะหมอไม้ ''
'' ผมไม่รู้จริงๆ ''
'' บางครั้งคุณหมออาจจะรักติ๊บมากเกินไป จนลืมไปว่าบางครั้งแค่ความรักมันอาจไม่พอ คนรักของคุณบางครั้งต้องการการเอาใจใส่ดูแล บางครั้งต้องการการทะนุถนอม และบางครั้งก็ต้องการการให้เกียรติบ้าง ''
'' ผมรู้ว่าหมอไม้เป็นคนรักที่ดีและดูแลหมอติ๊บได้ และผมหวังว่านับจากวันนี้ไปมันจะทำให้คุณรักโดยที่ไม่ขาดสติ และจะใช้เวลาทุกวันที่คุณมีเขาอยู่อย่างมีความหมาย ก่อนที่คุณจะไม่มีเขาอยู่ข้างๆให้บอกรักนะหมอไม้ '' พูดจบหมอจ๊ะโอ๋ตบไหล่ผมเบาก่อนเดินจากไปปล่อยให้ผมร้องไห้เสียใจกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นและรอคอยการตื่นขึ้นมาของติ๊บสุดชีวิต...
'' ติ๊บ ตื่นขึ้นมาได้แล้วคนดี อย่าทรมานพี่ไปมากกว่านี้เลย แค่นี้พี่ก็จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว '' ผมกุมมือน้อยๆนั้นแนบแก้มที่ชื้นไปด้วยหยดน้ำตาลูกผู้ชาย
'' ติ๊บอยากไปเที่ยวไหนตื่นขึ้นมาไวๆซิ ไว้ติ๊บหายแล้วพี่จะพาติ๊บไปเที่ยวเอง '' ผมบอกก่อนลูบไล้ไปบนแก้มขาวเนียนนั้น แต่เจ้าตัวก็ยังคงนอนสงบแน่นิ่งนี่ก็ปาเข้าไปวันที่สองหลังจากการผ่าตัด ติ๊บก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาแต่อย่างใด
'' หรือติ๊บอยากกินกับข้าวฝีมือพี่มั้ย พี่จะทำให้ติ๊บกินเองนะ ''
'' หรือติ๊บอยากกินไอติมป่าว พี่สัญญาจะพาไปกินไอติมทุกวันเลยนะตื่นขึ้นมานะติ๊บ ตื่นขึ้นมา '' ผมสะอื้นหนักบนหลังมือน้อยๆของหมอติ๊บ ก่อนจะตั้งสติและรับรู้ได้ว่าเจ้าตัวเริ่มกระดิกมือแล้วผมกดสัญญาณเรียกหมอทันทีเมื่อรู้ว่าติ๊บฟื้น คงจะเพราะอยากกินไอติมทุกวันนั้นแน่ๆ
หลังจากที่หมอมาเช็คดูอาการและการตอบสนองของติ๊บผ่านไป ก็ไม่พบว่ามีอะไรให้ต้องเป็นห่วง นอกจากอาการอ่อนเพลียของเจ้าตัวเล็กที่ยังต้องการการพักผ่อนอยู่อีกสักระยะ
ตอนนี้ผมนั่งจ้องหน้าเจ้าตัวเล็กที่นอนจ้องหน้าผมอยู่เช่นกัน
ผมค่อยๆเปิดกระเป๋าสีเขียว เอาสร้อยคอและสร้อยข้อมือที่ติ๊บเคยใส่ออกมาให้ติ๊บเช่นเดิม
'' ติ๊บไม่ต้องเอามาคืนให้พี่นะ ไม่ว่าวันไหนพี่ก็จะไม่มีทางรับมันคืนเด็ดขาด มันเป็นของติ๊บคนเดียว… รวมถึงหัวใจดวงนี้ของพี่ด้วย มันจะเป็นของติ๊บคนเดียว พี่สัญญา '' ติ๊บไม่เอ่ยอะไรออกจากปากแม้แต่คำเดียว มีเพียงน้ำตาที่รินไหลออกมาพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปาก
'' ขอบคุณนะที่ติ๊บเกิดมาเพื่อพี่ แต่ติ๊บสัญญากับพี่อีกข้อได้มั้ย ว่าติ๊บจะอยู่ต่อไปเพื่อพี่ด้วย อย่าทิ้งพี่ไปแบบนี้อีกนะ พี่รักติ๊บนะคนดี พี่รักติ๊บมากนะรู้มั้ย '' ผมก้มลงไปจูบหน้าผากติ๊บเบาๆและตอนนี้เราสองคนต่างปล่อยน้ำตาแห่งความสุขรินไหล หลังจากอะไรร้ายๆผ่านพ้นไปทุกอย่างคงสวยงามขึ้นน่ะ...
ปล. จ่ะ คนโพสต์ก็สัญญาว่าจะมาโพสต์เรื่อยๆ ไรท์เตอร์เช่นกัน มาอัพบ่อยๆ นะจ๊ะ(Hackz)