Short Story :: แผนรัก(ไม่)ร้าย
“น้ำหน้าอย่างนายทำให้ตายก็ไม่มีใครอยากเอา!!”
คำพูดเดียวของเขาในวันนั้นมันยังฝังลึกในใจของผมอย่างไม่มีวันจางหายไปง่ายๆ ผมเป็นเกย์! ความจริงที่ตัวผมเองเฝ้าปฏิเสธมาตลอด เด็กเรียนใส่แว่นหนาเตอะกับเสื้อผ้าถูกตามระเบียบโรงเรียนเป๊ะมันทำให้ผมดูไม่น่าพิสมัยเลยสักนิด ไม่ว่ายังไงเขาเองก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้กับผมเหมือนกัน!!
“สักวันนายต้องมาขอร้องให้ฉันยอมเอากับนาย!!”
ผมป่าวประกาศออกไปอย่างนั้น มีแต่คนหัวเราะกับความไม่เจียมตัวของผม ผมลาออกจากโรงเรียนเดิมไปเรียนต่อที่เมืองนอกทันที ตลอดเวลาผมตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก และไม่ลืมที่จะดูแลตัวเอง ด้วยเงินและทรัพย์สมบัติที่บ้านของผมมีทำให้จากเด็กเรียนกลายเป็นผู้ชายที่สวยแม้แต่ผู้ชายแท้ๆยังต้องเหลียวมามอง
ผมไม่ได้ทำศัลยกรรมก็แค่หันมารู้จักดูแลตัวเองแต่งตัวให้ดูดีขึ้น ผมมีทั้งสมองและรูปกายเป็นของขวัญจากความพยายามของผม และวันนี้วันที่ผมเรียนจบและได้กลับไปทำงานที่บริษัทของคุณพ่อ วันนี้ล่ะที่ผมจะได้แค้นที่สั่งสมมานานให้จบไปเสียที
“สวัสดีครับคุณหนู ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ”
พ่อบ้านรูปหล่อเดินตรงเข้ามาหาผม ผมเห็นเขาจ้องผมไม่วางตา แบบนี้แสดงว่าแผนการของผมมันต้องสำเร็จอย่างไม่มีผิดพลาด เพราะไอ้สารเลวที่ว่าผมเอาไว้ตอนนั้นหน้าตามันยังเทียบชั้นกับพ่อบ้านคนใหม่ของผมยังไม่ได้เลย อีกอย่างผมสืบมาเรียบร้อยแล้วว่ามันมาทำงานอยู่ในธนาคารของพ่อผม แบบนี้ค่อยเล่นงานกันได้ถนัดหน่อย
พอกลับมาถึงบ้านผมก็แสดงตัวเป็นลูกที่ดีเข้าไปกราบเท้าของคุณพ่อคุณแม่ ท่านทราบดีว่าผมเป็นอะไรและท่านก็ไม่คิดจะห้าม เพียงแต่ท่านยังไม่ทราบเรื่องที่ผมกำลังคิดจะทำ
“พ่อครับ แม่ครับ พรุ่งนี้ผมเข้าไปทำงานที่ธนาคารได้เลยหรือเปล่าครับ” ผมยิ้มอย่างไม่ได้เสแสร้ง แต่ในใจก็คิดถึงหน้าไอ้สารเลวนั่นขึ้นมา
ตอนสมัยมัธยมมันเป็นคนมีชื่อเสียงมากในโรงเรียนชายล้วน มีเกย์มีกระเทยไปนอนแผ่อ้าขาให้มันสลับเปลี่ยนกันเอาทุกวัน มันมักจะเลือกแต่คนหน้าตาดีๆ
อยู่มาวันหนึ่งมันก็มาทำดีกับผม มาเทคแคร์ มาคอยเฝ้าไปรับไปส่งทุกวัน ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่มีอะไรดี หน้าตาผมตอนนั้นก็สิวเขรอะเต็มหน้าตามแบบเด็กเรียนเก่ง ผมไม่เคยสนใจเรื่องเพศมาก่อน พอผมเริ่มสนิทกับมันมันก็เริ่มเอาเรื่องเพศมายัดใส่หัวของผม บางวันก็ชวนผมไปดูพวกเพื่อนมันกำลังเอากันเองอย่างเมามัน เวลามีใครมาว่าผมเรื่องไม่เหมาะสมกับมัน มันก็โต้กลับแล้วบอกชอบผม
ตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัน แต่มันก็พยายามมาดูแลเอาอกเอาใจ สุดท้ายเด็กเรียนผู้อ่อนต่อโลกอย่างผมก็แพ้คารมกับการกระทำของมัน เตรียมซื้อของขวัญจะไปขอมันเป็นแฟน แต่เมื่อไปถึงผมกลับเจอมันกำลังเอากับกระเทยคนหนึ่งอยู่ ผมปรี่เข้าไปจะตบนังกระเทยร่านนั่นให้กระเด็น แต่กลักลายเป็นผมที่โดนไอ้สารเลวนั่นถีบออกมา พร้อมกับประโยคที่ผมจะไม่มีวันลืมไปจนชั่วชีวิต
ผมให้คนของพ่อตามสืบจนรู้ว่ามันเอาผมไปพนันกับเพื่อนของมันเอาไว้ ถ้าผมยอมรับมันเป็นแฟนเมื่อไหร่มันจะได้เงินที่พนันกันไว้ทั้งหมด ยิ่งพอรู้เรื่องราวทั้งหมด ความแค้นที่สุมในอกมันก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมออกปากบอกคุณพ่อว่าจะไปเรียนต่อเมืองนอกทันที ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรทำตามที่ผมขอทุกอย่าง
เรื่องที่ไอ้สารเลวนั่นได้เข้ามาทำงานในบริษัทของผมก็เช่นกัน เป็นแผนการของผมทั้งหมดตั้งแต่ต้น ผมอยากจะให้ผมเสื่อมเสียอับอายไปทั้งชีวิต อยากให้มันตายไปพร้อมกับความเจ็บปวดเหมือนที่ผมเคยได้รับจากมัน!!
“จะรีบไปทำไมล่ะ พักผ่อนบ้างก็ได้ นี่ลูกเพิ่งเรียนจบมาเองนะ” คุณแม่พูดอย่างเอ็นดูดึงผมเข้าไปหอมแก้มซ้ายทีขวาที
“โธ่! ก็ผมเรียนจบมาเร็วก็เลยอยากลองทำงานนี่ครับแม่ ให้ผมไปเถอะนะครับ นะ...” ผมเอาศีรษะทุยๆไปถูไถอ้อนผู้เป็นแม่อย่างเอาใจ
“คุณก็ให้เฟลมทำตามใจเถอะ ลูกอยากทำอะไรก็ให้เขาทำไป” คุณพ่อเอื้อมมือมาลูบหัวผมด้วยความเอ็นดู ผมเลยหันไปกอดอ้อนขอคุณพ่อบ้าง
“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะคุณ แต่แม่ต้องเลือกเลขาให้ลูกเองนะ” ผมพยักหน้ารับ แต่พอเห็นคุณเลขาที่แม่พูดถึงเท่านั้นล่ะ ใจเจ้ากรรมดันเต้นรัวซะอย่างนั้น
“พี่นพ...” พี่นพเป็นลูกของคุณน้านลินาเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนไฮสกูลของคุณแม่ พี่เค้านี่ล่ะที่ทำให้ผมอยากเรียนให้เก่ง เพราะมีพี่เขาเป็นต้นแบบมาตลอด เป็นคนที่ผมปลื้มไม่ใช่เพราะที่หน้าตา แต่เพราะความสามารถในการบริหารงานต่างหาก
“สบายดีไหมเฟลมน้อย” พี่นพเดินมาลูบหัวผมอย่างเอ็นดูเหมือนตอนเด็กๆ แต่ถ้าให้พี่นพอยู่ใกล้ๆผมแบบนี้แผนผมได้พังไม่เป็นท่าพอดี
“สบายดีครับ แต่พี่นพมาทำอะไรที่ธนาคารพ่อผมครับ ทำไมไม่ทำที่ของบ้านพี่ล่ะ” แอบขอโทษพี่นพเขาในใจแล้วกัน
“ตายแล้ว! ตาเฟลมไปพูดแบบนั้นกับพี่เขาได้ยังไงกันลูก พี่เขาอุตส่าห์จะมาช่วยดูแลเราจนกว่าเราจะเข้าที่เข้าทางกับงานได้นะ แทนที่จะขอบคุณทำอย่างกับจะเอ่ยปากไล่พี่เขาไปเสียอย่างนั้น”
ผมโดนคุณแม่เอ็ดยกใหญ่ พี่นพก็นั่งยิ้มแป้นไม่ได้ว่าอะไร
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณแม่ เฟลมก็แค่สงสัยจริงไหมครับ” ผมรีบพยักหน้าตอบพี่นพเขาไปทันที ขืนไม่ทำผมได้โดนคุณแม่เอ็ดเอายกใหญ่แน่ คนนี้น่ะลูกรักของคุณแม่ท่านตัวจริงๆ
“นี่คุณ เดี๋ยวมีงานการกุศลตอนเย็นไม่ใช่หรือไงต้องแต่งตัวเตรียมเขียนกล่าวเปิดงานอีก มามัวนั่งไม่ได้แล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้นเฟลมกับนพก็ทำความรู้จักกันไปก่อนแล้วกัน พ่อกับแม่ขอตัวก่อน” คุณพ่อพูดจบก็ดึงแขนคุณแม่ตามไป ท่านทั้งสองคนยังคงมีเรื่องต้องทำมากมายเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
“เอ่อ...ผมขอตัวเอาของไปเก็บนะครับ” พอพ้นร่างของคุณพ่อกับคุณแม่ผมก็เตรียมเผ่นหนีหน้าพี่นพไปทันที กลัวแผนที่วางไว้พี่นพเองที่เป็นคนละเอียดตรวจดูการรับพนรักงานคงจะสงสัยไม่น้อยกับการรับไอ้สารเลวนั่นเข้ามา
“คิดจะหนีความผิดหรือครับ ไหนบอกพี่มาซิว่าเรื่องอะไรที่รับคนแบบนั้นเข้ามาทำงาน แถมยังสั่งกำชับคุณดารณีที่อยู่แผนกบุคคลเอาไว้อย่างดี” ผมโดนพี่นพลากไปนั่งบนโซฟา พี่แกเล่นจ้องหน้าผมขนาดว่าไม่ตอบมีปัญหาแน่ขนาดนั้น แล้วจะให้ผมทำยังไงนอกจากเล่าเรื่องทั้งหมดออกไป
“พี่เข้าใจ แล้วแผนเราจะเอาตัวเราไปล่อให้เขามีอะไรด้วยนั่นพี่ไม่ยอม” พี่นพกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่แววตานั่นบ่งบอกว่าผมไม่ควรขัดคำพูดของเขาเป็นอย่างยิ่ง แววตาเหมือนเสือร้ายจ้องมองด้วยความโกรธไม่น่าสนุกเลยหากจะคิดลองดี
“แล้วพี่นพจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ”
“พี่มีแผนก็แล้วกัน”
เช้าวันต่อมาพี่นพขับรถมารับผมถึงบ้าน ผมตื่นแต่เช้าเร่งแต่งตัวอย่างดี ฉีดน้ำหอมกลิ่นอ่อนตามซอกคอและใบหู มองดูร่างของตัวเองสะท้อนภายในกระจกอย่างพึงพอใจก่อนออกจากบ้านไปยังสถานที่ดำเนินแผนการ
พนักงานในธนาคารทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างจ้องมองมาทางผมราวกับผมเป็นจุดศูนย์กลางของทุกอย่างบนโลกใบนี้ พี่นพก้มลงมากระซิบบางอย่างกับผม ภาพนั้นทำให้เราสองคนเหมือนคู่รักกำลังหยอกล้อเล่นกัน แต่ที่จริงพี่นพกระซิบบอกให้ผมเหลือบไปมองไอ้สารเลวนั่นและเริ่มดำเนินแผนการต่างหาก
“สูทสีเทา เนคไทด์สีออกแดง” ผมพยักหน้าหันไปมอง ไอ้สารเลวนั่นมันอยู่ไม่ไกลจากผมแล้ว ผมทำทีเป็นเดินเอื่อยๆเข้าไปแถวนั้น แต่แล้วก็สะดุดขาของคนแถวนั้นซึ่งผมจงใจ ล้มลงไปทางไอ้สารเลวนั่นอย่างพอดิบพอดี
ผมแกล้งเอาหน้าซบลงไปบนแผ่นอกกว้างของมัน เอียงคอเล็กน้อยพอให้มันที่ก้มลงมาพยุงผมได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงเหล่านั้น เงยหน้าช้อนตาขึ้นไปสบตากับมัน กะองศาให้ปากเฉียดกับมันพร้อมสบตาหวานซึ้ง
“อ๊ะ! ขอโทษนะครับ” ผมขยับปากพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่าพอจะได้ยินกันแค่สองคน ริมฝีปากของผมขณะพูดห่างจากปากของไอ้สารเลวนั่นเพียงไม่กี่มิลลิเมตร นี่ถ้าไม่ใช่กลางธนาคารมันคงจับผมจูบไปนานแล้ว ดูจากท่าทางหื่นกระหายในสายตาของมัน
“ไม่เป็นไรครับ” ไอ้สารเลวนั่นจะพยุงผมให้ลุกขึ้น แต่ไม่ทันความไวของพี่นพที่คว้าตัวผมขึ้นไปอุ้มแนบอก ฉากนี้พี่นพไม่ได้ตกลงกับผมเอาไว้ก่อนผมเลยอดที่จะเขินไม่ได้ ไอ้การแสดงทั้งหมดนั่นพี่นพสอนผมเมื่อวานเองครับ ยอมรับเลยว่าเมื่อวานพี่นพทำเอาผมหัวใจเกือบหยุดเต้นไปหลายรอบ ก็เซ็กซี่ขนาดนั้นผู้ชายอะไรก็ไม่รู้
พี่นพมองไอ้สารเลวนั่นด้วยหางตาก่อนจะอุ้มผมเข้าไปในลิฟต์ ผมแอบเห็นมันมองมาทางพี่นพด้วยสายตาอาฆาตด้วย
“ปลาติดเบ็ดแล้วสินะ” พี่นพยิ้มละไมก่อนจะกดหยุดลิฟต์ทำให้ผมมึนงงกับการกระทำของเขา “แต่ว่านะห้ามทำจริงๆรู้ไหม?” พูดจบพี่นพก็ก้มลงมาประกบปากจูบผมอย่างเร่าร้อน มือของผมเข้าไปคล้องคอพี่นพอย่างโหยหา ไม่ใช่จูบแรก แต่จูบที่เท่าไหร่ไม่รู้ หลังจากเมื่อคืนพี่นพพยายามสอนวิธีการยั่วสารพัดแบบให้กับผม การจูบนี่พี่นพก็สอนอย่างลึกซึ้งทีเดียว...
สอนตั้งแต่เบสิกการประกบปากยังไง เอียงคอมุมไหนลืมตาตอนไหนถึงจะดูเย้ายวน ลามไปถึงเทคนิคการใช้ลิ้นภาคปฏิบัติ ตอนนี้พี่นพก็กำลังสองการใช้ลิ้นให้ผมต่อจากเมื่อคืน ลิ้นร้อนๆของพี่เขาแทรกเข้ามาในโพรงปากของผม มันคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ เริ่มโลมเลียไปทั่วทั้งโพรงปาก ก่อนจะกลับมาตวัดเกี่ยวพันกับลิ้นของผมอย่างเร่าร้อน จูบของพี่นพทำให้ผมละลายได้ทุกครั้ง พี่นพบอกว่านี่เป็นการสอนเพื่อนำไปใช้จริง แต่พี่นพไม่รู้หรอกว่าผมเริ่มรู้สึกไม่อยากทำแบบนี้กับใครนอกจากพี่นพ...
“อืม...พี่นพ อือ...” ผมเริ่มขาดอากาศหายใจเพราะระยะเวลาในการสอนภาคปฏิบัติของพี่นพดูจะยาวนานเหลือเกิน เริ่มประท้วงด้วยการทุบรัวเบาๆที่แผ่นอกกว้างๆนั่น ก่อนจะได้รับอิสรภาพในการหายใจอีกครั้ง
“วันนี้พี่จะแนะนำการทำงานไปด้วยนะครับ แต่ต้องเรียนภาคปฏิบัติให้รู้เรื่องกันด้วย” พี่นพยิ้มเจ้าเล่ห์พูดในสิ่งที่ผมรู้ดีว่าคืออะไร
ดังนั้นวันนี้ตลอดการเรียนรู้งานของผม ผมจึงต้องนั่งบนเก้าอี้ทำงานตัวเดียวกับพี่นพ บนตักของเขา... ถ้าผมทำงานได้ถูกต้องจดจำเรื่องที่พี่เขาพูดไปได้ผมก็จะได้รับรางวัลเป็นการจูบภาคปฏิบัติอย่างถึงใจ แต่ถ้าผมไม่เข้าใจหรือตอบผิด ผมจะถูกพี่นพแกล้งเลื่อนมือไปซุกซนแถวช่วงล่างจนเผลอครางเสียงกระเส่า ที่หากใครมาได้ยินก็คงรู้ได้เลยว่าผมมีอารมณ์อย่างว่า แต่พี่นพไม่ได้ปลดปล่อยให้ผมหรอกนะครับ ไม่ยอมให้ผมหลบไปทำด้วย แกล้งจนผมเสียวไปหมด
“อ๊า....อื๊อ....อือ....พ...พี่นพอย่าแกล้งสิครับ” ผมพยายามปัดมือของพี่นพที่ลงไปซุกซนด้านล่างของผมรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แถมครั้งนี้ผมเองก็ไม่ได้ตอบคำถามผิดเลยสักนิดเดียว เล่นแหย่มังกรที่กำลังหลับตื่นแถมยังซนแหย่ไม่เลิกแบบนี้มีหวังมังกรได้พ่นน้ำออกมาเยอะเป็นพิเศษแน่
“เฟลมน้อยน่ารัก พี่นพก็เลยชอบแกล้งครับ” พี่นพลอยหน้าลอยตาพูดโดยสายตาจับจ้องมายังมังกรภายใต้อาภรณ์ของผมไม่วางตา “เรามาเริ่มแผนสองกันเลยดีกว่าครับ” พี่นพกดต่อสายไปยังเลขาให้เรียกไอ้สารเลวนั่นเข้ามาในห้องของผม คราวนี้แผนสองผมไม่ได้รับรู้อะไรทั้งนั้น ทำหน้าตาเหรอหราไม่เข้าใจส่งไปให้พี่นพแทน
“พี่นพคิดจะทำอะไรครับ” พี่นพกลับไม่ตอบลงมือปลดเข็มขัดกางเกงของผมออกแทน ผมเบิกตากว้างก่อนจะจับมือของพี่นพไม่ให้ยุ่งกับเข็มขัดของผมไปมากกว่านี้ แต่แรงของผมยังไงก็สู้พี่นพไม่ได้ เข็มขัดเจ้ากรรมเลยถูกเหวี่ยงไปกองตรงพื้นห้องหน้าโต๊ะทำงาน
“แผนนี้เฟลมน้อยมีหน้าที่รับความสุขไปอย่างเดียวนะครับ ที่เหลือพี่นพจะทำให้” พี่นพพูดน้ำเสียงราบเรียบด้วยท่าทีไม่จริงจัง แต่แววตาพราวระยับเหมือนถูกใจบางอย่างนั่นมันอะไรกัน พี่นพแสนดีของผมใครเอาไปเก็บไว้ไหนนี่?
กางเกงของผมถูกรูดซิปลงช้าๆ มือเรียวสวยของพี่นพเอื้อมไปสัมผัสมังกรที่ถูกกักขังภายใต้เนื้อผ้าฝ้ายบางเบาสีขาว ผมครางออกมาเมื่อมือของพี่นพสอดเข้าไปขยำมังกรตัวนั้นราวกับจะยั่วให้ตื่น
“อ๊า...อ๊า...อึก...พ...พี่นพ...อย่าแกล้งผมสิครับ” ผมทั้งครางทั้งหอบเสียงแหบพร่าด้วยอารมณ์ที่ปะทุอย่างหยุดไม่ได้ พี่นพไม่ตอบยิ้มกลับมาแล้วลงมือคลึงส่วนหัวของมังกรเล่น คราวนี้ผมดิ้นเร่าๆ เหมือนจะขาดใจให้ได้ เกิดมาผมก็เพิ่งโดนมือของคนอื่นนอกจากตัวเองมาแหย่มังกรครั้งแรก แถมครั้งแรกของผมยังเป็นห้องรโหฐานที่ไม่รู้จะมีคนเข้ามาเมื่อไหร่ ประตูก็เป็นกระจกบานใสไม่เก็บเสียง แต่ผมก็อดจะครางออกมาไม่ได้ เมื่อสิ่งที่พี่นพทำกับผมมันเกินกว่าจะกลั้นไว้ได้จริงๆ
พี่นพไม่ได้หยุดแค่นั้น มือของเขาดึงเอาอาภรณ์สีขาวให้ร่นลงไปกองกับพื้นพร้อมกับกางแกงผ้าเนื้อดี พี่นพค่อยๆเปลี่ยนจากจากขยำเบาๆ เป็นการรูดขึ้นลงตามความยาวของตัวมังกร ไม่ใช่เพียงแค่มือเดียว แต่อีกมือหนึ่งนั้นพี่นพใช้นิ้ววนไปมาเขี่ยรอบหัวมังกรเล่น สายตาจับจ้องไปยังหัวมังกรซึ่งยังไม่อ้าปากออกจนผมรู้สึกอายไปหมด
“วันนี้พี่จะทำมังกรพ่นน้ำนะครับ ว่าแต่หัวมังกรน่ะน่าทานนะครับ ไว้เย็นนี้พี่ขอเอากลับไปทานที่บ้านแล้วกันนะ” เอาอีกแล้วไอ้ท่าทีเหมือนจะดูจริงจังแต่เรื่องที่พูดมานั่นมันไม่ใช่เรื่องต้องมาใช้น้ำเสียงแบบนั้นซะหน่อย เนื้อความมันส่อนะครับพี่นพ ผมคิดนะ!
“อ๊า...อ๊า...อื้อ...” ผมเริ่มครางอีกครั้งเมื่อพี่นพเริ่มเร่งจังหวะของการลูบไปตามความยาวของตัวมังกรให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่ทันที่มังกรพ่นน้ำของพี่นพจะได้ออกแสดง เสียงเคาะประตูกระจกด้านหน้าก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน
“เอ่อ...คุณนพเรียกผมมามีอะไรหรือครับ” ไอ้สารเลวนั่นเปิดประตูก้าวเข้ามาในห้อง ทำทีจะเดินเข้ามาให้ชิดโต๊ะที่ผมกับพี่นพกำลังจะแสดงมังกรพ่นน้ำกันอยู่
“หยุดตรงนั้นล่ะ ฉันมีงานจะสั่งนายน่ะ” ไอ้สารเลวนั่นหยุดชะงักในมุมที่ไม่สามารถเห็นการละเล่นของผมกับพี่นพได้ ผมคิดว่าแผนของพี่นพคงแค่ให้หมอนั่นได้ยินเสียงผมครางจากนอกประตู เพราะผมเหลือบมองเป้ากางเกงของมันก็ดูตุงจนผิดปกติ
แต่เหมือนผมจะคิดผิดเมื่อมือหนึ่งของพี่นพทำท่าหาแฟ้มเอกสารจะส่งให้ไอ้สารเลวนั่นบนโต๊ะ อีกมือที่ว่างอยู่ก็จู่โจมมังกรที่เริ่มผงาดสู้มือของพี่นพอีกครั้ง จากที่กำลังจะหลับใหลลงไปอีกครั้งก็ต้องมาตื่นเต็มที่ด้วยอุ้งมืออุ่นๆของพี่นพ คราวนี้ผมหันหน้าไปซบอกพี่นพทันที พยายามสะกดเสียงครางเอาไว้ มือก็พยายามปัดป่ายไม่ให้พี่นพกระทำกับมังกรตามใจชอบแบบนี้ ยิ่งมีคนมายืนมองยิ่งรู้สึกว่าเสียวมากกว่าปกติ
“เฟลมน้อยครับ ถ้าไม่ยอมครางพี่นพจะทำให้ครางเองนะ” พี่นพยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมเลยตัดสินใจหลบตาพี่นพมุดหันเข้าซอกอก แต่พี่นพไม่ยอมให้ผมทำแบบนั้นมือข้างที่ไม่ได้เล่นกับมังกรน้อยจับหน้าผมหันไปสบตากับไอ้สารเลวนั่น มือด้านล่างก็เร่งรวบมังกรชักขึ้นลงอย่างเร็ว ผมที่นั่งกัดริมฝีปากไม่ยอมร้องอะไรออกมาสักพักก็เริ่มจะทนไม่ไหว
“อ๊า...อื๊อ...พ...พี่นพครับ เร็วอีก มังจะพ่นน้ำแล้ว” คราวนี้ไม่ใช่แค่มือของพี่นพที่ขยับอย่างรวดเร็วด้านล่าง มือของผมเองก็เอื้อมไปแหวกขาของตัวเองให้กว้างพอที่พี่นพจะแสดงมังกรพ่นน้ำได้อย่างถนัดมือ ใบหน้าเรียบเฉยของพี่นพเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมันทำให้ผมรู้สึกมากกว่าปกติหลายเท่าตัว อยากเห็นตอนที่พี่นพครางออกมาเวลาที่มังกรของเขาล่วงล้ำเข้าอาณาเขตหวงห้ามของผม
แต่ยังไงผมก็ไม่ลืมจุดมุ่งหมายในการเล่นมังกรพ่นน้ำครั้งนี้ ผมเห็นไอ้สารเลวนั่นยืนเป้ากางเกงคับตุง แถมเริ่มมีน้ำเปียกๆ ออกมาเลอะซึมตามเป้ากางเกงไม่กล้าพูดอะไรออกมาเพราะกลัวถูกพี่นพไล่ออก หรืออีกทีมันเองก็คงอยากอยู่ดูฉากเสียวของผมซึ่งถูกพี่นพเป็นผู้กระทำอยู่ขณะนี้
“เฟลมน้อยเป็นอะไรครับ” พี่นพหันมาสบตากับผมด้วยแววตาเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ผมหอบหายใจส่งเสียงครางไม่หยุด ก็ด้านล่างของผมกำลังได้รับความสุขอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนจากมือของใคร
“ฟ...เฟลม อยากครับ...” ตอนนั้นผมไม่หลงเหลือคำว่าอายแม้แต่นิดเดียว ความอยากมันเร่งให้ผมพูดออกไปอย่างนั้น ผมเห็นใบหน้าของพี่นพยิ้มแย้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“อยาก...ถ้าแบบนั้นพี่นพให้เขาออกไปก่อนดีไหมครับ” พี่นพปรายตาไปมองหน้าไอ้สารเลวที่น้ำเริ่มซึมออกมาเปียกเป้ากางเกง
“ท...ทำให้เฟลมก่อน...นะครับ” คราวนี้ผมเริ่มบดเบียดสะโพกของผมลงไปบนมังกรของพี่นพบ้าง ผมแอบเห็นพี่นพสะกดเสียงครางของตัวเองไว้ได้ทัน ครู่เดียวก็กลับมายิ้มเป็นปกติ
“ครับ...” พี่นพตอบรับก่อนเร่งจังหวะให้ถี่ขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊า....อ๊า...พ...พี่นพ...พี่นพ...อ๊าววววว...” สิ้นเสียงครางสุดท้ายมังกรของผมก็พ่นน้ำออกมาเต็มมือของพี่นพ แทนที่พี่นพจะไล่หมอนั่นออกไป แต่กลับยกมือที่เต็มไปด้วยคราบน้ำสีขาวขุ่นขึ้นมาเลียราวกับเป็นของกินชั้นเลิศ ตอนนั้นผมก็หมดแรงเอนไปซบกับอกของพี่นพเต็มที่ราวกับเป็นเจ้าของเสียเอง
“เอาล่ะฉันหางานของนายเจอแล้ว รีบๆไปทำด้วยล่ะ” พี่นพหยิบแฟ้มสีดำโยนไปให้ไอ้สารเลวนั่น “ทีนี้ก็ออกไปได้แล้ว อย่าอู้ล่ะ” พี่นพยิ้มเหี้ยม
“ต...แต่ว่า...” ไอ้สารเลวนั่นทำท่าอึกอักก้มลงมองดูเป้ากางเกงของตนเองที่มีน้ำเปียกซึมเป็นดวง
“ออกไป!! ฉันสั่งไม่ได้ยินหรือไง ไม่ต้องมาหาข้ออ้าง” พี่นพพูดจบไอ้สารเลวนั่นก็เผ่นออกไปทันที ลับหลังมันผมก็แอบแลบลิ้นปลิ้นตาไล่ตามไป พี่นพเก่งที่สุดจริงๆ
ฟอด!
ผมหอมแก้มพี่นพไปหนึ่งที แทนคำขอบคุณที่ช่วยทำให้ความฝันของผมเป็นจริงได้ แค่น้ำเปียกที่เป้ากางเกงของไอ้สารเลวนั่นก็แสดงได้แล้วว่ามันอยากมีอะไรกับผมมากแค่ไหน สะใจ!! แต่ก็สุขจนล้นเพราะการกระทำของพี่นพอีกเช่นกัน
“เฟลมน้อย...”
“ครับพี่นพ”
“เฟลมน้อยเอาสะโพกมาเบียดกับมังกรของพี่แบบนั้นได้ยังไงครับ” พี่นพถามเสียงดุ ผมไม่เคยโดนดุก็เลยหงอยไปเพราะคิดว่าพี่นพคงโกรธที่ผมทำอะไรแบบนั้นลงไป
“ขอโทษครับ”
“คราวหน้าเล่นแบบนี้อีก ช่องทางลับโดนมังกรของพี่บุกแน่ครับ” ผมหันขวับไปมองใบหน้าเจ้าเล่ห์ของพี่นพอีกที ก่อนจะรู้สึกว่าหน้าตัวเองเริ่มร้อนๆตามคำพูดส่อของพี่นพอีกครั้ง
“อ๊ะ! อ๊า....! ไม่เอานะพี่นพอย่าแกล้งผมนะ” จะไม่ให้ผมครางได้ยังไง ก็พี่นพใช้มือคลึงสะโพกของผม แถมยังเอาเจ้ามังกรยักษ์ของตัวเองมาเสียดสีอีก “อื๊อ...อืม....” แล้วแบบนี้แผนรัก(ไม่)ร้ายของผมจะรอดไหมนี่?
************************************************************************************************
อยากเขียนค่ะ อยู่ดีๆก้อยากเขียน เขียนมาเมื่อตอนบ่ายๆนี้เอง พอจบส่วนแรกก็เลยอยากเอาลงให้วิจารณ์ซะเลย
อยากเขียน NC ต้องพยายามสิเนอะ
จุดธูปบนบานก็กระไรอยู่
อ่านแล้วง่วงก็เปิดอ่านของคุณ kyoya11 แทนนะคะ