ตอนที่ 2 Part II
อากาศภายนอกร้อนระอุ หากแต่สายลมผะแผ่วที่พัดเอื่อย ช่วยทำให้รู้สึกไม่ร้อนมากจนเกินไป
ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากหาที่คลายร้อนเสียหน่อย ซึ่งจุดหมายก็ไม่ใช่ที่ไหน นอกจากเป็นห้องสมุดที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำและเงียบสงบ
ผมชอบมาอ่านหนังสือที่นี่ ยิ่งตอนนี้มีใครบางคนอยู่ในห้องพักด้วยแล้ว ก็รู้สึกไม่ค่อยอยากกลับหอสักเท่าไหร่ กลิ่นบุหรี่ที่อวลอยู่ในห้องมันน่าหงุดหงิดเกินไป แล้วยังภาพใบหน้าขาวอันแสนเรียบเฉยนั่นอีก เห็นแล้วก็มักจะอารมณ์คุกรุ่นขึ้นมาเสียดื้อๆ
ไม่เข้าใจตัวเองนักทำไมถึงเป็นแบบนี้ อาจจะเพราะผมไม่ชอบวายุมากก็ได้ ถึงจะหาสาเหตุลงลึกไปได้ไม่แน่ชัดว่า เกลียด เพราะว่าอะไรกันแน่
เกลียดท่าทีไม่ยี่หระต่อคนอื่น
เกลียดที่เขาเห็นว่าความสัมพันธ์เชิงลึกกับคนอื่นเป็นเรื่องแค่ล้อเล่น แล้วยังปล่อยตัวให้คนอื่นง่ายๆ
หรือเกลียด...ที่ความเกลียดของตัวเองเอาชนะความสนใจที่มีต่อคนคนนั้นไม่ได้
และเพราะฟุ้งซ่านมากเกินไป ผมจึงมานั่งที่ห้องสมุดเพื่อทบทวนบทเรียน หลังจากนั่งอ่านไปจนเข้าใจดี ก็ค่อยเดินค้นหาหนังสือสำหรับทำรายงานฆ่าเวลาเรื่อยเปื่อย
จะว่าบังเอิญก็คงได้ ที่สายตาดันสังเกตเห็นเพื่อนร่วมห้อง อยู่ในห้องสมุดนี้ด้วยเช่นกัน
ทีแรกก็เกือบจะเดินผ่านเขาไปโดยไม่ทันได้มองแล้ว หากแต่ใบหน้าอันเป็นเอกลักษณ์และความโดดเด่นแบบนั้น ก็สะดุดสายตาผมจนต้องเผลอหยุดยืนลอบมองอยู่ห่าง ๆ
ใบหน้าได้รูปดูตั้งอกตั้งใจกับการยืนอ่านหนังสือยาก นิ้วมือเรียวเปิดพลิกหน้าหนังสือปรัชญา ไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะสนใจเรื่องทำนองนี้ด้วย ดูไม่เข้ากับบุคลิกที่ดูไม่ใส่ใจกับสิ่งรอบข้างแม้แต่น้อย พอนึกดูแล้ว ทำไมสิ่งที่คิดกับสิ่งที่ได้รับรู้ถึงได้ขัดแย้งกันในความรู้สึกขนาดนี้นัก
น่าหงุดหงิดชะมัด
ตัดสินใจจะเดินจากที่ตรงนั้น ทว่ายังไม่ทันได้เดินพ้นไปไกล เสียงของใครคนหนึ่งก็ทำให้สองขาหยุดก้าวเดินเสียก่อน
เป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เข้าประชิดตัววายุ และกำลังก้อร่อก้อติกเจ้าของใบหน้าสวยที่ไม่คิดแม้แต่จะให้ความสนใจ
ไม่รู้ว่าปกติเขาจะเจอพวกตามตื๊ออย่างนี้บ่อยหรือไม่ เพราะคนที่จะตามติดตามตื๊อจนน่ารำคาญแบบหมอนี่คงมีอยู่ไม่มากนัก แล้ววาก็ดันดึงดูดคนแบบนี้ได้ดีเสียด้วย ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ ที่ผ่านมาก็เห็นเขามีคนสนอกสนใจอยู่เยอะไป
แต่ส่วนมากที่สนใจ ก็คงเป็นความ
ง่าย ของเจ้าตัวเองนั่นแหละ
เรื่องดูจะเกินเลยมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายพยายามตามติดเข้ามาประชิดตัว มือที่จับท่อนแขนดูจะไม่ปล่อยออกง่ายๆ แม้วาจะพยายามผลักดันให้ชายคนนั้นถอยออกไปก็ตามที
ไม่ใช่เรื่องของผมเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึง
จงใจ ทำหนังสือร่วงหล่นจากมือ จนคนสองคนที่ยืนอยู่ในช่องมุมหนังสือปรัชญาหันมามองผมเป็นสายตาเดียว
ผมทำเป็นไม่สนใจสายตาของคนทั้งสอง หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้น และเดินเข้าไปด้านในของชั้นเพื่อเลือกดูหนังสือต่อ ทำให้ผู้ชายที่ตามตื๊อวาผงะออก เขาแสดงสีหน้าตกใจ ก่อนจะแยกตัวออกมา
ในที่สุดหมอนั่นยอมล่าถอย หากแต่ก็ยังหันไปเอ่ยกับอีกฝ่ายทิ้งท้าย “ลองไปคิดดูนะ”
“......”
น่าปรบมือให้กับความพยายามเสียจริง นายวายุคง
มีดี มากขนาดที่ยอมตามตื๊อได้ขนาดนี้ เมื่อชายคนที่ว่าเดินออกไปแล้ว ผมก็หันกลับมาทางสมาชิกร่วมกลุ่มที่จ้องมองผมมาด้วยสายตาเขม็ง
นี่กำลังไม่พอใจ?
“ไม่อยากให้ใครเข้ามาขัดจังหวะรึไง”
เลิกคิ้วเอ่ยถาม ก่อนจะหันกลับมาเปิดหน้าหนังสือพลิกอ่านไปด้วย วานิ่งเงียบไปจนคิดว่าคงจะไม่เอ่ยอะไรตอบออกมา หากแต่ไม่กี่อึดใจหลังจากนั้น เขาก็เอ่ยเสียงเรียบตอบกลับ
“ก็คงงั้น”
“......”
หันไปเผชิญเจ้าของใบหน้านิ่งเฉยโดยตรง ไม่มีความหมายอะไรแฝงไว้ในแววตาที่ส่งทอดให้อีกฝ่าย สองขาเดินเฉียดร่างบางเข้าไปด้านใน มือหนึ่งเลือกหยิบหนังสือออกมาเปิดดูเนื้อหาผ่านตา ขณะที่ริมฝีปากเอ่ยพูดลอยๆ
“ตามไปสานต่อสิ ดีเหมือนกัน ตรงนี้จะได้ไม่มีใครทำเสียงรบกวนคนอ่านหนังสือ”
“......”
เขาเงียบไปครู่ ก่อนจะสวนตอบออกมา “ถ้านายจะสังเกต ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ตั้งแต่ก่อนนายมาอีกนะเพลิง”
ตกลงแล้วจะบอกว่าผมเป็นฝ่ายเข้ามาสอดและเสนอหน้าจริงๆ งั้นสิ
ออกแรงปิดหนังสือลงแล้ววางมันไว้กับชั้นดังเดิม ก่อนจะปราดสายตามองใบหน้านิ่งราวกับรูปปั้นอย่างเย็นชา ผมตั้งใจจะเดินกลับออกไป หากแต่ทันใด วาก็เอ่ยบางอย่างที่ทำให้ต้องหยุดชะงัก
“เกลียดที่ต้องอยู่ที่ที่เดียวกับฉันมากรึไง?”
ผมหยุดกึก และหันกลับไปมองหน้าอีกฝ่าย
วายุกำลังยืนมองผมมาอย่างคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ เขาอาจกำลังท้าทายหรือยั่วโมโห สติบอกให้ผมไม่ควรเดินตามเกม หากแต่สีหน้าท่าทางที่ไม่มีการแสดงความสนใจไยดีที่ปรากฏกับสายตา กับคำพูดที่แสนประชดประชัน ทำให้เกิดอารมณ์หุนหันจนเผลอหลุดคำพูดออกไป
“ใช่ ฉัน ‘เกลียด’ ที่ต้องอยู่ที่ที่เดียวกับนาย”
คำพูดร้ายกาจนั้นไม่ต่างจากใบมีดคมกริบที่อาจทำให้เปลือกนอกอันสวยงามเกิดริ้วรอย ร้ายที่สุดก็คือสร้างความแตกร้าวให้ ผมคิดว่าอย่างนั้น อย่างน้อยก็ในทีแรก หากแต่ในความเป็นจริง มันไม่ได้ทำให้รูปปั้นงดงามเกิดริ้วรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย
วายุยกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่เหมือนกับล่วงรู้อยู่แล้วว่าผมจะเอ่ยอย่างนี้ออกมา
“พูดตรงดีนะ...ก็ไม่แปลกใจนักหรอก”
อีกฝ่ายเอ่ยพลางก้าวเดินเข้ามาใกล้ ทำให้ผมก้าวถอยหลังห่างออกโดยไม่รู้ตัว ขืนอยู่ต่อคงได้ถูกคนตรงหน้านี้ปั่นหัวแน่ จึงตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายเดินออกไปเสียดีกว่า ถึงกลับไปห้องจะต้องเจออีก แต่ตอนนี้อยู่ห่างๆ ไว้เพื่อสงบสติอารมณ์คงดีที่สุด
ทว่าทันใดนั้น วายุก็คว้าคอเสื้อผมไว้ ออกแรงดึงผมให้โน้มเข้าใกล้ ไม่ทันได้ตั้งตัว
ริมฝีปากอิ่มก็เข้าประทับลงกับริมฝีปากผม
รู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบที่ทาบทับ หากแต่ก็เป็นความเย็นที่ปลุกให้ร่างกายร้อนรุ่ม และสะกดให้ผมหยุดนิ่งได้ในคราวเดียวกัน
ไม่แม้แต่จะสามารถผละใบหน้าออก ริมฝีปากนุ่มก็ถือโอกาสบดเบียดแนบแน่นเข้ามากขึ้น
เสี้ยววินาทีที่กาลเวลาราวกับจะหยุดชะงัก บางสิ่งบางอย่างก็ค่อยๆ แจ่มชัด ค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้นให้ผมได้ตระหนัก
ไออวลกลิ่นหอมที่วนเวียนอยู่ใกล้ ๆ อุณหภูมิจากร่างกายเย็นเฉียบจนสั่นไหว สั่นสะเทือนจนทำให้หัวใจผมเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ไม่ต้องเสียเวลารวบรวมสติตนเอง วาก็จัดการเรียกสติผมให้กลับคืน ด้วยการฝังคมเขี้ยวลงที่ริมฝีปากให้รู้สึกเจ็บแปลบ ผมสะดุ้ง สัญชาตญาณทำให้ผมออกแรงผลักร่างอีกฝ่ายออกไป
ตึง!
ร่างตรงหน้าชนเข้ากับชั้นหนังสือจนเกิดเสียงกระแทกดัง หากแต่วายุกลับไม่มีทีท่าว่าจะแสดงออกมาว่าเจ็บ จะมีก็แต่ยกยิ้มราวกับกำลังเย้ยหยันส่งทอดมา
น่าเจ็บใจจริงๆ สุดท้ายก็โดนคนอย่างเขาปั่นหัวจนได้ ผมหันหลังกลับ รีบก้าวเดินออกจากที่ตรงนั้นโดยไม่คิดที่จะหันกลับไปเหลียวมองอีก แต่ผมก็รู้ตัวดี ว่าต่อให้ไม่คิดจะหันไปมอง ภาพบางอย่างก็ยังคงติดตรึงอยู่ในสายตา
ความสวยงามที่รังสรรค์อยู่บนใบหน้ารูปปั้นหินอ่อน แม้จะได้รับแรงกระทบจากภายนอก ก็ยังคงไว้ทั้งความสวยงามและความแกร่งกล้าเอาไว้ได้
ไม่แปลกใจที่ใครต่อใครต่างพากันหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของรูปปั้นนั้น
พอได้สัมผัสกับอุณหภูมิเย็นเยือกราวกับกำลังสัมผัสกับสิ่งไร้ซึ่งชีวิต ความร้อนรุ่มก็ยังคงถูกปลุกเร้าให้ก่อเกิดขึ้นในร่างกายได้ ถึงแม้จะเย็นเยือกจนบาดเนื้อมากสักเพียงไหน เชือดเฉือนไปจนถึงเนื้อในมากสักเพียงใด รูปปั้นหินอ่อนที่คงความงดงามนั้น ยังคงสามารถดึงดูดให้หลายต่อหลายคนต้องการครอบครองไว้แต่เพียงผู้เดียว
ปลายนิ้วพลางลูบที่ริมฝีปากที่เจ็บแสบ รสชาติและความรู้สึกที่รูปปั้นไร้ชีวิตได้ฝากฝังเอาไว้ หากมันจะเจ็บไปถึงขั้วหัวใจให้ผมรู้สึก
เข็ดขยาด บ้าง ก็คงดี
.
.
TBC.
______
Talk: มาแล้วค่าา ขอโทษที่ตอนนี้มาช้านะคะ พอดีโยยุ่งๆ มากเลย เลยมาลงได้แค่คุณหมอเรื่องเดียว แต่ตอนนี้สามารถมาลงบ่อยได้แล้วค่ะ หวังว่าคนอ่านจะยังติดตามกันอยู่น้าา อย่าพึ่งทิ้งพี่เพลิงกับวายุไป
และสำหรับตอนนี้ เพราะว่าเป็นเรื่อง เพลิงในวายุ วายุน้อยของเราก็เลยใส่ไฟให้คุขึ้นกว่าเดิมอีก เห้ะๆๆๆ ทำไงได้ วาอยากเล่นกับไฟดูนี่นา แต่ไม่รู้เลยตัวเองทำให้เชื้อยิ่งไหม้แรงขึ้น ><
เจอกันใหม่ตอนที่ 3 นะคะ อ่านแล้วเป็นยังไงเม้นต์บอกโยบ้างน้า
แล้วก็ขอฝากนิยายเรื่องอื่นไว้ด้วยนะคะ ^^
ลิขิตเหนือภพ - สัตตบรรณหลงฟ้า [จบภาค]
LOVE CURE รักนี้ ต้องรักษา [นิยายแนวตลกขบขันปนหื่นเล็กๆ]
FB Page