Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.24 ท่ามกลางทางเดินไม้ที่ทอดตัวยาวไปจนแทบจะสุดสายตา สองข้างทางขนาบด้วยบานประตูกระดาษสีขาวธรรมชาติ ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ เหนือหัวแห่งมาเฟียอิตาลี่ผู้ยิ่งใหญ่กำลังเดินตามคนของตระกูลเทย์ริวเพื่อไปพบกับเจ้าตระกูลที่รอเขาอยู่ที่ห้องอาหาร คนข้างหลังเยื้องไปทางซ้ายคือฟราน เวคเตอร์ เลขาหนุ่มผู้มากความสามารถ เขาเดินตีคู่มากับสคูร์โด แอนโธจบอดี้การ์ดประจำตัวของเจ้าพ่อหนุ่ม
แต่สายตาของคนเป็นเจ้าพ่อกลับไม่ได้มองตรงไปทางด้านหน้าอย่างที่ควรเป็นเท่าไหร่นัก เพราะดวงตาสีสนิมคมกริบมักจะชอบเหลียวกลับไปมองคนที่เดินเยื้องหลังอยู่ทางขวาเสียมากกว่า ราชสีห์แมวของเขาอยู่ในชุดสูทสีควันบุหรี่ของดิออร์ขับเน้นให้ร่างบางแลดูเข้ารูปด้วยทรงเสื้อที่เน้นให้เห็นช่วงเอว ลำคอถูกพันทบไว้ด้วยผ้าพันคอสีฟ้าอ่อนเนื้อนุ่มเพื่อปกปิดรอยบางอย่างที่คนหวงของบางคนมาทำรอยเอาไว้ วงหน้าสวยฉายแววบึ้งตึงติดจะรำคาญอยู่สักหน่อย พอดวงตาสีน้ำตาลไหม้สบกับตาของอีกคนที่หันกลับมามองก็ถลึงเข้าใส่อย่างบอกให้รู้ว่าเป้าหมายของอารมณ์หงุดหงิดนี้คือใคร
ลาร์เฟียร์ยิ้มกลับให้อย่างอารมณ์ดี รู้สึกนึกชอบแววตาวาวๆของจอมอวดดีคนนี้เต็มแก่ ก็ยอมรับล่ะว่าเมื่อเช้าแกล้งเยอะไปนิด แต่เห็นคนไม่ชอบความพ่ายแพ้อย่างรัตติกรต้องมาหัวฟัดหัวเหวี่ยงหลังจากที่เขาไปชี้เป้าให้ดูว่ามีรอยอะไรที่คอแล้วเจ้าตัวแทบจะปรี๊ดปรอทแตก
มันสนุกตรงที่ถึงจะหัวเสียใกล้ระเบิดแต่เจ้าตัวกลับไม่โวยวายโหวกเหวกเสียงดัง แค่มองเขาด้วยสายตาอาฆาตพร้อมกับอวดนิ้วกลางเรียวๆ จากนั้นก็เดินออกไปทางระเบียงข้างนอกที่ดูออกจะเย็นเกินไปสำหรับคนที่ใส่แค่เพียงชุดนอนตัวบางแถมยังเท้าเปล่า พอเขารีบตามออกไป ลูกหิมะก็ถูกปาสวนเข้ามาทันควัน ยังดีที่ตอนนั้นหลบทัน บวกกับคนปามาไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่นักด้วยล่ะนะ
คิดไปก็ยิ้มออกมาอีกที คราวนี้คงไปสะกิดเส้นที่ใกล้จะขาดจนมีเสียงผึงเข้าให้ คนที่ตามมาข้างหลังถึงได้ยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองแล้วบ่นงึมงำเป็นภาษาที่เขาฟังไม่ออก
“บ่นอะไรลูน่า”เจ้าพ่อหนุ่มถามเป็นภาษาอิตาเลียน
“เรื่องของผม!”รัตติกรที่สบถด่าด้วยทุกภาษาครบชาติอาเซียนเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังกว้างที่เจ้าของชอบหันกลับมามองเขาเสียเหลือเกินอย่างหงุดหงิด
“จะถึงห้องเขาอยู่แล้ว สงบเสงี่ยมหน่อยไม่งั้นเขาจะหาว่าคนของฉันไม่มีมารยาท”
“ห๊ะ? อยากให้สงบนักก็หยุดกวนประสาทผมสิครับ แล้วอีกอย่างนะ ผมเป็นคนของคุณตรงไหนไม่ทราบครับ?”
“ก็ของฉันทั้งหมดนั่นและ”
“ห๊า!!??”
“ชู่ว เงียบๆสิครับ ถึงแล้วนะ”ฟรานเอ่ยขัดขึ้นมาก่อนที่เจ้านายของเขาจะแหย่รัตติกรจนอีกฝ่ายสติแตกไปเสียก่อน หนุ่มชาวไทยพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่เพื่อปรับอารมณ์ ในขณะที่ลาร์เฟียร์เพียงยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองยังประตูบานเลื่อนที่อยู่ข้างหน้าซึ่งคนนำทางได้พาพวกเขามาหยุดอยู่ตรงนี้
คนเลื่อนบานประตูเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดกิโมโน เธอคุกเข่ารออยู่อย่างเรียบร้อยแล้วเอื้อมมือไปเลื่อนบานประตูให้เปิดออกอย่างนุ่มนวล ภายในนั้นเป็นห้องที่มีลักษณะยาว และคนที่รอคอยพวกเขาก็นั่งรออยู่ข้างใน
ห้องแบบญี่ปุ่นที่รัตติกรได้ย่างก้าวเข้าไปเป็นครั้งแรกนั้นดูไม่ต่างจากห้องของเหล่าขุนนางและซามูไรของญี่ปุ่นในยุคโบราณอย่างที่เรียกได้ว่าถอดแบบกันมา ทั้งเสื่อตาตามิขนาดสิบเสื่อที่ทอดยาวไปตั้งแต่ทางเข้าจรดกับโทโกโนมะซึ่งเป็นพื้นที่เว้าเข้าไปหลังฉากเพื่อวางแจกันดอกไม้ที่เน้นโชว์ดอกพยับหมอกสีฟ้าครามและไฮเดรนเยียสีน้ำเงินอ่อน บนผนังนั้นยังแขวนภาพอักษรที่ตวัดเขียนอย่างทรงพลังด้วยคำว่าเทย์ริวอย่างเด่นชัด
ทว่าสิ่งที่โดดเด่นที่สุดในห้องแห่งนี้กลับเป็นชายคนหนึ่งในชุดฮากามะสีน้ำเงินขาวที่นั่งคุกเข่ามองมาทางกลุ่มของผู้มาเยือนด้วยนัยต์ตาสีฟ้าเข้มแข็งคมกล้า ผมสั้นตัดระต้นคอตามสมัยนิยมบ่งบอกว่าเจ้าของนั้นยังอยู่ในวัยรุ่นมากกว่าวัยกลางคน หากแต่สิ่งที่ทำให้ใครๆต่างต้องสะดุดตาเมื่อได้เจอเขากลับเป็นผมสีน้ำเงินที่เกิดจากการย้อม ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นถึงผู้นำตระกูลแต่กล้าทำผมสีนี้นั้นเรียกได้ว่าเจ้าตัวคงมีนิสัยเฮี้ยวอยู่ใช่เล่น
เทย์ริว อาราชิ... มังกรฟ้าแห่งกลุ่มเทย์ริวที่เป็นถึงผู้นำของกลุ่มมาเฟียทางภูมิภาคคันไซตะวันตก…
ผู้ทรยศที่ปรากฏอยู่ในภาพของฟงเจิ้นฮ่าวคนนั้นนั่นเอง!
“อย่าเผลอไปหว่านเสน่ห์ใส่เขานะลูน่า”ดอนแห่งปาเลอร์โม่มองสบกับสายตาที่จ้องมาจากอาราชิด้วยรอยยิ้มเย็นๆ ทว่าก็ยังส่งเสียงกระซิบเบาๆที่แฝงแววขบขันให้คนที่เดินตามมาข้างหลังได้ยินสิ่งที่เขาต้องการจะสื่ออย่างชัดเจน
รัตติกรใช้ความเงียบเป็นการตอบรับแม้ในใจอย่างจะด่าสาดกลับเสียให้เต็มแก่ ทั้งที่เมื่อเช้าหลังจากที่มีเรื่องราววุ่นวาย กว่าที่พวกเขาจะได้พูดคุยเรื่องงานก็ปาไปตอนที่จะเดินทางจากห้องพักมาที่ห้องอาหารแห่งนี้เท่านั้น แล้วนี่ขนาดอยู่ต่อหน้าผู้ต้องสงสัยแท้ๆ ทำไมยังทำสองหน้ามากวนประสาทเขาได้หน้าตาเฉยขนาดนี้นะ!
หนุ่มชาวไทยขบฟันนับเลขข่มอารมณ์ในใจ หน้าที่ของเขาในการเข้าพบครั้งนี้คือการแปลทุกประโยคที่ได้ฟังนอกเหนือจากประโยคที่พูดกันอย่างเป็นทางการของอาราชิกับลาร์เฟียร์ เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของฟราน หนุ่มชาวไทยต้องเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ รวมไปถึงคอยสนับสนุนข้อมูลต่างๆ และกลับไปรายงานทีหลังเมื่อจบการประชุมในคราวนี้แล้ว
“สวัสดีตอนเช้าครับ ที่พักของพวกคุณเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาใช่มั้ยครับ”เทย์ริว อาราชิยิ้มพร้อมกับโค้งตัวคำนับทักทายตามมารยาท เขาพูดทักทายมาด้วยภาษาญี่ปุ่น ในขณะเดียวกันล่ามของทางฝ่ายนั้นที่นั่งเยื้องอยู่ทางด้านหลังก็พูดประโยคของเจ้านายเป็นภาษาอิตาเลียนอีกที อาราชิผายมือให้คนของตนพาแขกไปนั่งตามที่นั่งซึ่งเป็นเบาะรองพื้นแบบมีพนักพิงที่ออกแบบมาอย่างดี รอจนกระทั่งนั่งเรียงกันจนครบก็พยักหน้าให้คนของตนยกอาหารเช้าเข้ามาเสิร์ฟ
“เรียบร้อยดีครับ อย่าห่วงเลย อีกอย่างบ้านของคุณสวยมาก ยังไงก็ขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างดีนะครับ”ฟรานเอ่ยตอบกลับไปเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างคล่องแคล่ว แต่ละฝ่ายดูเหมือนยังไม่อยากจะเข้าเรื่องสำคัญเท่าไหร่นัก จึงทำเพียงพูดคุยโดยทั่วไประหว่างรับประทานอาหารเช้าไปด้วยเท่านั้น
“แล้วคุณล่ะครับ คุณลูน่า...ใช่มั้ยครับ? อาการดีขึ้นแล้วรึยัง? ผมเคยเข้าไปเยี่ยมคุยแค่ครั้งเดียวเลยยังไม่มีโอกาสคุยกันเลยนะครับ”อาราชิเบือนหน้ามาทักทายทางหนุ่มชาวไทยหน้าสวยคมที่นั่งนิ่งๆอยู่ถัดไปจากฟราน กลุ่มของลาร์เฟียร์มาพักอยู่ที่บ้านของเขาได้สี่ห้าวันแล้ว ช่วงที่มาวันแรกวุ่นวายเล็กน้อยจากการที่ต้องตามหมอมาเพิ่ม จากเดิมเพียงแค่จัดเตรียมที่พักไว้เท่านั้น วันที่สองเขาถึงได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมคนของเวสเปอร์แฟมมิลี่ และนึกไม่ถึงจริงๆว่าคนๆนั้นจะเป็นคนเอเชีย...ว่าแต่ประเทศไทนกันนะ?
“ดีขึ้นมากแล้วครับ ขอบคุณครับ”รัตติกรตอบกลับด้วยภาษาญี่ปุ่นสำเนียงชัดแจ๋ว พาให้เจ้าของภาษาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงงงวย
“เอ๋ เป็นคนญี่ปุ่นเหรอครับ?”เจ้าตัวเอียงคอถามเล็กน้อย ตาเป็นประกายหน่อยๆเมื่อเห็นความหวังว่าคนของอีกฝ่ายมีคนชาติเดียวกับตัวเองอยู่ด้วย
“เปล่าครับ ผมเป็นคนไทย อีกอย่างถ้าเป็นไปได้ อยากให้เรียกผมว่ารัตติกรนะครับ”ว่าจบหนุ่มชาวไทยก็เหลือบไปมองเจ้าพ่อหนุ่มที่เริ่มทำหน้าบึ้งหลังจากหันไปถามฟรานว่าพวกเขาพูดอะไรกัน ก็ใครใช้ให้มาตั้งชื่อเขาเอาดื้อๆกันล่ะ คนอื่นเข้าใจผิดจนไม่มีใครเรียกชื่อจริงเขาถูกแล้วเนี่ย
“ลัด ทิ กอง?”หนุ่มชาวไทยแทบอยากกุมขมับ มาเป็นกองเลยวึ้ย! ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆแว่วมาจากทางลาร์เฟียร์ เขายิ่งได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไอ้มาเฟียนิสัยเสียนี่!
“รัด ติ กอน ครับ ภาษาไทยแปลว่าแสงของพระจันทร์”รัตติกรเน้นเสียงแต่ละพยางค์ให้อีกฝ่ายได้ยินชัดๆ
“เป็นชื่อที่ดีนะครับ งั้นผมเรียกคุณว่าฮาซึกิได้มั้ย? ความหมายเดียวกับชื่อของคุณเลยนะ”อาราชิที่หลังจากลองออกเสียงชื่อจริงของอีกฝ่ายแล้วติดๆขัดๆ เลยเกิดปิ๊งไอเดียคิดชื่อภาษาญี่ปุ่นให้เขาเสร็จสรรพ
....
...พวกมาเฟียนี่ ชอบตั้งชื่อชาวบ้านเขาไปทั่วรึไงฮะ!? “...หึ”รัตติกรหันขวับกลับไปมองคนที่หลุดเสียงหัวเราะออกมาแต่ทำเนียนยกชาขึ้นมาจิบปิดบังมุมปากที่ยกยิ้มไว้อย่างหน้าหมั่นไส้ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ก็มาเฟียคนแรกที่เอาชื่อเขาไปแปลงจนกลายเป็นชื่อผู้หญิงนั่นแหละ!
เหอะ! คิดว่าจะทำตามที่สั่งรึไง?
หนุ่มชาวไทยหันไปยิ้มหวานส่งให้เจ้าพ่อหนุ่มอย่างเสแสร้ง เจตนากวนเบื้องล่างอย่างเห็นได้ชัด พอเห็นดวงตาสีสนิมคมกริบเบิกค้างขึ้นมาน้อยๆอย่างสมใจแล้วถึงได้เผื่อแผ่รอยยิ้มส่งไปให้หนุ่มผมฟ้าที่รอคำตอบอยู่
“เอาสิครับ เรียกฮาซึกิก็ได้”อย่างน้อยฮาซึกิก็ชื่อผู้ชายแล้วกัน!
ได้ยินเสียงกระทบกันของจานรองแก้วน้ำชามาจากทางฝั่งเจ้าพ่อหนุ่มดังกว่าปกติจนเกือบเหมือนการวางอย่างกระแทกกระทั้น หากแต่รัตติกรไม่ได้หันกลับไปมองแต่ยังคงสนทนากับหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัยต่อไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ปล่อยให้คนอื่นที่เห็นอาการของเจ้าพ่อหนุ่มต้องหนาวๆร้อนๆกันไปเป็นแถบๆ
คุณลูน่ากำลังยั่วให้ดอนของพวกเขาของขึ้น!
“ตอนที่คุณฮาซึกิไม่สบายอยู่ผมก็ได้เข้าไปเยี่ยมบ้าง แต่หลังจากที่คุณฟื้นแล้วก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปทักทาย อย่างไรก็พักผ่อนให้หายดีก่อนได้นะครับ ที่นี่ยินดีต้อนรับเสมอ”อาราชิที่รู้สึกจะคุยถูกคอกับรัตติกรเป็นพิเศษชวนคุยต่อไปโดยที่ไม่รู้สึกถึงบรรยากาศมาคุของเจ้าพ่อหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ห่างกันบ้างเลยแม้แต่น้อย
พูดให้ถูกคือทำเป็นไม่สนใจมากกว่าล่ะนะ...นี่มันน่าสนุกจะตายไป! ผู้คุมกฏแห่งโลกสีเทาที่กำลังแสดงอาการ
หึงหวง ออกมาเนี่ย ของหายากโคตรๆ!!
“ที่ผ่านมารบกวนไปหลายอย่างเลยทีเดียว ขอบคุณมากๆนะครับ”รัตติกรโค้งขอบคุณตามมารยาทของชาวญี่ปุ่น ทั้งองศาและการวางนิ้วมือที่แสดงถึงการสื่อความหมายเบื้องลึกก็ทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติ ทำเอาคนที่เป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆยังต้องผิวปากหวือ
“บอกว่าคุณฮาซึกิเป็นคนญี่ปุ่นผมก็เชื่อนะเนี่ย นี่คุณไปหาเลขาที่สุดยอดขนาดนี้มาได้ยังไงครับเนี่ย คุณเวสเปอร์?”
ฟรานหันไปถ่ายทอดประโยคของอาราชิเมื่อครู่ให้เจ้านายของตนฟังอย่างรวดเร็ว ลาร์เฟียร์ฟังแล้วก็พ่นลมหายใจออกมาเพื่อให้ตนเองใจเย็นลง ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เจ้าพ่อหนุ่มชายตามองทางรัตติกรที่หันมามองอย่างสนใจว่าเขาจะตอบว่าอะไร
“Rapire!!(ฉุดมา!!)” “เฮ้ย!” “นายท่านช่วยชีวิตคุณลูน่าไว้น่ะครับ”ฟรานรีบพูดแก้ให้ก่อนที่ล่ามของฝ่ายอาราชิที่กำลังตกใจว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่าจะแปลความหมายที่แท้จริงของคำพูดเมื่อกี้ออกมา
แต่รัตติกรที่ได้ยินแล้วแปลได้ทันทีน่ะ ตกตะลึงซะจนค้างนิ่งอยู่กับที่ไปแล้ว
“อย่างนี้นี่เอง คุณลาร์เฟียร์โชคดีจังครับ ผมล่ะอิจฉาเลย”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”เจ้าพ่อหนุ่มยิ้มอีกครั้ง คราวนี้สมใจที่เอาคืนเจ้าสิงโตแมวตัวแสบได้เต็มแก่เลยเผลอยกมุมปากสูงกว่าปกติเล็กน้อย รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงใครบางคนสติขาดผึ่งอย่างสมใจถึงได้กระแอมไอออกมาเบาๆ
“ว่าแต่ จะถ่วงเวลาไปอีกนานมั้ยครับ?”เจ้าพ่อหนุ่มเปลี่ยนรอยยิ้มสมใจของตัวเองเป็นเย็นเยียบ ดูเหมือนจะปล่อยอีกฝ่ายให้ผ่อนคลายจนหมดเวลาทำเป็นเล่นแล้ว
ต่อไปนี้คือการเอาจริงของเวสเปอร์แฟมมิลี่! “นั่นสินะครับ ประวิงเวลาไปก็ใช่ที่”หลังจากฟังคำแปลของสิ่งที่เจ้าพ่อหนุ่มพูดเมื่อครู่ อาราชิก็เรียกคนของตนเองเข้ามาเก็บอาหารออกไปข้างนอก เหลือไว้เพียงชุดน้ำชาร้อนๆเพื่อให้จิบแก้กระหายระหว่างการประชุม
ตั้งแต่ตัดสินใจไปพบกับกลุ่มผู้นำของพวกโนวาห์ เขาก็รู้ดีว่าอย่างไรช้าเร็ววันที่ลาร์เฟียร์จะเข้ามาถามถึงความภักดีที่มีให้กันก็ต้องมาถึง!!
“เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ”อาราชิกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดวงตาของเขายังคงฉายแววกล้าหาญมุ่งมั่น ไม่เหมือนคนที่กำลังมีความผิดเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าเช่นนั้นก็...”ฟรานเกริ่นนำก่อนเพื่อให้ไม่บรรยากาศดูเคร่งเครียด ทว่าลาร์เฟียร์กลับยกมือขึ้นมาเป็นสัญญาณให้เลขาหนุ่มหยุดพูดแล้วหันมาสั่งการกับรัตติกรที่เก็บเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการประชุมครั้งนี้เอาไว้
“เอารูปให้เขาดู จากนั้นก็อธิบายมา ว่ามันหมายความว่าอะไร”เพียงการกระทำเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศของทั้งห้องให้ตกอยู่ในความเครียดขรึมได้อย่างรวดเร็ว สำหรับลาร์เฟียร์ เรื่องของพวกโนวาห์สำหรับเขาไม่ใช่เรื่องที่ควรมาประณีประนอมยอมความกัน ในเมื่ออีกฝ่ายคือโนวาห์ การจัดการสำหรับเรื่องนี้ก็ต้องทำให้เด็ดขาด!
ถ้าจะภักดีกับเวสเปอร์ คำว่าโนวาห์แม้เพียงแค่ตัวอักษรเดียวก็ห้ามไปข้องเกี่ยว!!
รัตติกรผงกศรีษะรับ ในใจรู้สึกไม่ค่อยชินกับภาพลักษณ์จริงจังของเจ้าพ่อหนุ่มที่เปลี่ยนไปมาปุบปับเสียเท่าไหร่ แต่ทว่างานก็คืองาน เขาแยกแยะมันกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเป็น จึงหันหลังกลับไปหยิบเอกสารแล้วส่งให้คนของเทย์ริวที่คุกเข่ารอรับอยู่ข้างหลัง ก่อนที่จะนำไปส่งให้นายของตนเองอีกที
สิ่งที่ส่งไปคือภาพถ่ายที่ได้จากฟงเจิ้นฮ่าว นอกจากนั้นยังมีภาพที่ถ่ายไล่ย้อนกลับไปตั้งแต่จุดลงเครื่องบินของอาราชิตั้งแต่เขาไปถึงรัสเซีย ภาพในตอนที่คนของโนวาห์ที่เข้าไปรับ รวมไปถึงภาพตั้งแต่ก้าวที่เขาลงจากรถเพื่อไปพบกับกลุ่มผู้นำของโนววาห์จนกระทั่งกลับมาขึ้นรถอีกที
สืบหลักฐานจากภาพของกล้องวงจรปิดเบลอๆเพียงอย่างเดียว...
เวสเปอร์นี่มัน เหลือร้าย... อาราชิมองภาพเหล่านั้นแล้วยิ้มเครียดๆ เขาวางมันลงกับพื้นเบื้องหน้าตนเอง แม้จะมั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องมีหลักฐานมาเอาผิดเขาแน่ๆ แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงและแสดงให้เห็นนั้นกลับเหนือกว่าด้วยการกระทำที่หมายถึงการจับตาดูเขาอยู่ทุกฝีก้าว
ฝีมือของผู้คุมกฎแห่งโลกสีเทาไม่ได้มีแค่เพียงลมปาก!
“ผมยอมรับ ผบไปพบกับผู้นำของพวกโนวาห์จริงๆ ไม่มีข้อแก้ตัวครับ”ว่าจบก็หันทั้งตัวไปทางลาร์เฟียร์ที่นั่งเอนหลังไปพิงพนักเบาะด้วยท่ากอดอกสบายๆแต่แผ่รังสีกดดันออกมาอย่างที่ใครๆก็รู้สึกได้
หัวหน้าของตระกูลเทย์ริวมองตอบสายตาที่จ้องมาอย่างแน่วแน่แล้วค่อมตัวลงคำนับ สองมือกุมแน่นที่หัวเข่าทั้งสองข้างสั่นระริกเล็กน้อย แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะความกลัว แต่การทำเช่นนี้คือการลดศักดิ์ศรีของตระกูลของเขาลง มันสั่นเพราะเขาต้องข่มใจตนเองเพื่อส่วนรวมของตระกูล
ผู้นำของเทย์ริวต้องไม่ก้มหัวให้ใคร...
แต่ลูกผู้ชาย ถ้าทำผิดก็ต้องยอมรับอย่างไม่บิดพลิ้ว!!_______________________________________________________
กลับมาแย้วววววว
(แล้วเดี๋ยวก็จะหายไปอีกแย้วววว // โดนตบผั่วะ
)
สวัสดีตอนประมาณตีสามครับ = w =
ด้วยอานิสงสอบเสร็จกว่าชาวบ้านเลยมีเวลาได้มานั่งเขียนอย่างเป็นจริงเป็นจังสักทีหลังจากที่ห่างมือไปเป็นเวลานานมากกก (ห้าเดือนได้ แม่เจ้าเว้ย
)
ก็ต้องขอโทษที่หายไปนาน และขอบคุณที่ยังรอกันอยู่มากๆเลยครับ ขอบคุณจริงๆครับ
เหตุผลที่หายไปนาน ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอะไรหรอกครับ เรื่องเรียนนี่แหละ ปีสองเรียนหนักมว๊ากกก ชีวิตนักศึกษาช่างโหดเหี้ยมอะไรเช่นนี้...//
ได้แต่เขียนเก็บไปทีละนิดทีละหน่อย ได้มาตรวจแก้พิมพ์แล้วลบพิมพ์แล้วลบจนกว่าจะเรียกความรู้สึกเดิมๆกลับมาได้ก็เสียเวลาไปเยอะอยู่ ช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้าเลยไม่อยากสัญญาเท่าไหร่ว่าจะมาลงได้บ่อยหรือเปล่า ต้องขอโทษจริงๆนะครับ
แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งเรื่องนี้จริงๆนะ!!
ปีนี้ไม่มีปิดเทอมเล็กเพราะอาเซียน แต่ปิดเทอมใหญ่ล่อซะหกเดือนครับพี่น้อง คิดว่า คงจะได้มาทุ่มลงเอาในหกเดือนนั้นล่ะครับ ช่วงระหว่างนี้อาจจะมีมาลงบ้างสองสามตอนตามอัตภาพแรงกายแรงใจ //แง้ว
ยังไงก็ รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ เข้าหน้าหนาวแล้ว ปีนี้ลมหนาวมาจริงด้วย บางพื้นที่ก็ยังมีน้ำท่วมอยู่เลย ดูแลตัวเองดีๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรงๆทุกคนนะครับ
แล้วเจอกันครับ
Namioto Yo
ปล.ภายในอาทิตย์นี้ จะพยายามลงทำดีได้ดีฯอีกตอนให้ได้ครับ เจอกันที่เรื่องนู้นด้วยน้า