T@NG[รวมเรื่องสั้น] 鸱尾 ขอ 'กิน' บ้างดิ! (29/5/58)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: T@NG[รวมเรื่องสั้น] 鸱尾 ขอ 'กิน' บ้างดิ! (29/5/58)  (อ่าน 49668 ครั้ง)

ออฟไลน์ hibatsumoe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ชอบกล้องจัง :o8:
ว่าแต่ ด้อยกว่าฝ่ายรับ อิๆ :z1:

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
ปล้ำลิงก่อนอ่าน...  อย่าลืม+1นะฮับ :mew3:                                                         


                                                    ผมเป็นคนบ้า...  แต่ผมว่าเขาเป็นลูกมาเฟีย
                                                                   ตอน...  บ้าก็รัก(ว่ะ)ครับ

   อยู่ไหนวะ....  โว้ยยยย!! อย่าให้เจอนะ  พ่อจับขังลืมปล้ำแม่งทั้งวันทั้งคืนเลยให้ตายสิ...  จะกี่ปีกี่ปีก็เหมือนเดิม...  หนีเก่งยังไงก็ยังงั้น...   เฮ้อ....  กะอีกแค่ทำงานหนักจนลืมเวลากลับบ้านแค่สี่สิบนาที นี้มันถึงกับต้องหนีออกจากบ้านเลยรึไงวะ....  อ่อ...  นึกออกแล้ว... ที่สุดท้าย...  ถ้าไม่เจอนะแม่ง...กูโดนงอนไปตลอดชีวิตแน่ๆ 
   “มาหาใครคะคุณ”แม่บ้านคนหนึ่งเดินออกมาถามหลังจากที่ผมกดออดไปได้สักสามสี่ครั้ง...
   “ผมมาหานัทครับ...  เขาอยู่รึเปล่าครับคุณป้า”ผมเอ่ยถาม...  เอาวะ... ความหวังสุดท้าย  ตามหามาวันครึ่งแล้ว...  อดหลับอดนอนมาจนเกือบขับมาไม่ถึงที่นี่ด้วยซ้ำ
   “อ่อ...  คุณนัทใช่มั๊ยคะ...  อยู่ค่ะ... เชิญเข้ามาเลยค่ะ”คุณป้าคนนั้นเชิญผมเข้าบ้าน...  ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปแบบไม่เกรงใจใคร...  มารับเมียเว้ย! ใครกล้าขวางพ่อเตะไส้ปลิ้น...  อ่อ  ผมบอกไปรึยัง... ผมเป็นมาเฟีย... แบบ  เป็นแทน ‘เมีย’ น่ะ  หึหึหึ
   “ชักช้า!!!”มาแล้วครับ...  เสียงทักทายที่ได้ยินมาตลอด20ปีที่ผ่านมา... 
   “โอ๋ๆ...  ขอโทษครับ ขอโทษ...  ผมไม่คิดว่าอิมจะมาที่นี่นี้หน่า...  มารับแล้ว... กลับกันเถอะนะครับ”ผมยิ้ม...  อ้อนแบบสุดๆอ่ะครับ  อ้อนไม่หายนี่ผมคงไม่ได้นอนแน่ๆ  แค่ไปเคลียร์งานนี้ก็โคตรเพลียแล้วนะครับ  กะจะกลับมากอดเมียให้หายเหนื่อย...  เมียก็นอยด์ทำบ้าอีกซะล่ะ
   “บอกว่าไม่ให้กลับบ้านเกินกี่โมง...”เสียงแข็งครับ....  ผมปรี่เข้าไปนั่งกอดข้างๆ... 
   “ไม่เกินหนึ่งทุ่มครับ...  เลทได้ไม่เกินสิบห้านาที  มากกว่านั้นต้องโทรบอก...  แต่ว่า... ตอนนั้นพ่ออิมเรียกตัวเข้าไปหาด่วน  เลยไม่มีโอกาสโทรบอกนี่...  พอเสร็จก็รีบกลับเลยนะครับ  โอ๋ๆ”ครับผม...  เมียผมอัพเกรดจากหนีไปเป็นคนบ้า...  ตอนนี้ท่านเจ้าประคุณอัพเกรดเป็นหนีมาเป็นคุณนายที่บ้านเพื่อนสนิทแทน...
   “เหรอ...  งั้นก็ไปเอาพ่อผมเป็นเมียสิ...  ลืมไปแล้วเหรอไงว่าผมบ้า...  แล้วคนบ้าก็อารมณ์ไม่คงที่น่ะ”ผมมองอีกฝ่ายที่ทำหน้าเบ้น้ำตาคลอ...  โอ๊ย...  เห็นแล้วอยากจับขึงพรืดอยู่ในห้องด้วยกันสักสี่ห้าวันสี่ห้าคืนจริงๆเลย  ให้ตายสิ...  เกิดมาเพื่อยั่วกันชัดๆแบบนี้
   “ขอโทษครับ...  คนดีไม่เอาน้า....  ผมยังไม่ได้นอนเลย  หายงอนนะครับ   โอ๋ๆ”ผมรีบอ้อน...  มันเบ้ปากแล้วพยักหน้าหนึ่งที...
   “ครั้งสุดท้ายแล้วนะสัก...  ต่อไปผมจะไม่ทน...”เหย้ดดดด.....  เมียที่น่ารักยอมคืนดีแล้วเว้ยยยยย   ผมแทนจะอุ้มมันออกไปขึ้นรถ...  ง่วงจะตายแล้วครับไม่ใช่อะไร...  กลัวพาเมียที่รักไปไม่ถึงบ้าน แต่จะไปสอยเสาไฟฟ้าแถวบ้านเอาแทน... 
   “ผมบ้านะ...  สักรักคนบ้าจริงๆเหรอ...”ทุกครั้งที่มันหนีผมไป  ประโยคนี้ก็กลับมาทุกครั้งสิหน่า...
   “อิมครับ...  ผมบอกอิมไปทุกครั้งที่อิมหนีไป...  ซึ่งมันเกือบจะพันครั้งแล้วนะในรอบยี่สิบสองปีที่เราอยู่ด้วยกันน่ะ   ว่าไม่ว่าอิมจะบ้าแค่ไหนยังไง  ผมก็จะบ้าอย่างเดียว...  บ้ารักอิมไงครับ”ผมไม่ได้พูดเกินจริงเลยนะทั้งประโยค...  เมียที่รักของผมนี่แทบจะหนีออกจากบ้านวันเว้นวัน...  ทั้งผมทำผิดสัญญาบ้าง...  หรือไม่เคารพเมียบ้าง... ดีไม่ดี  ท่านเจ้าประคุณหนีออกไปเพราะบอกว่าเบื่ออากาศในบ้าน...  เอากะท่านสิครับ!  เมียใครไม่รู้...  เจ๋งจริงๆ  แต่ยังไงก็น่ารักที่สุดอยู่ดี
   เราสองคนกลับมาถึงบ้านในเวลาเพียงยี่สิบนาที  ซึ่งนั้นเป็นเวลาที่ยาวนานมากสำหรับคนไม่ได้นอนมาร่วมสองวันอย่างผม...  เกือบสอยเสาไฟไปหลายรอบล่ะครับ...  ผมอุ้มที่รักที่หลับไปเรียบร้อยแล้วเข้าไปในบ้าน...  บ้านที่ผมสร้างไว้ให้แฟนของผมคนเดียวโดยเฉพาะจากน้ำพักน้ำแรงของผม.... 
   “ฮึบ!  นอนดีๆครับอิม...”ผมดันตัวที่รักของผมให้นอนดีดี  ก่อนที่ผมจะเดินไปนอนอีกฝ่ายแล้วดึงตัวอีกฝ่ายมากอดหลวมๆ... 
   “ฝันดีครับคนบ้าของผม...”

   [ Nut talk]

   ครับ...  ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกสักพัก...  หลายคนคงลืมผมไปแล้ว...  ผม อิม  นัทหรือไอ้บ้า...  แล้วแต่จะเรียกเลยครับ...  ผมมองคาง... ก็ผมเห็นแค่ตรงคางอ่ะ  ใครจะทำไม บู่ว์! คางของคนที่กอดผมเอาไว้...  ผมรักมันมาก...  มากจนไม่อยากให้ใครมาแย่งความสนใจของมันไปจากผม...  บอกแล้วไงครับ...  คนบ้าอารมณ์แปรปรวนง่าย...  และตอนนี้มันก็แปรปรวนมากซะด้วย...  แปรเป็นตัวอักษรคำว่ารักเลยล่ะครับ  อ้วก...(ใครต้องการกระโถนไปซื้อเองนะครับ  ผมมีหน้าที่แค่พูดประโยคเสี่ยวๆนี่  ฮาๆๆ)
   “รักมึงนะสัก...”ผมเงยหน้าไปจุ๊บคางสากๆของมัน...  ก่อนจะขยับตัวเบาๆออกจากอ้อมกอดของมัน...  ตอนนี้ผมยังไม่ง่วง...  ก็ทั้งวันที่ผมไปอยู่บ้านไอ้พรตกับไอ้ต๊อก...  สองผัวเมียที่สมัครสมานรักใคร่กลมเกลียวจนหนีไปฮันนีมูนที่....  อะไรใครบอกมัลดีฟ...  ม่ายยยยยยย...  คุณๆกำลังเข้าผิดอย่างแรงส์...  พวกมันไปอินเดียต่างหาก...  มันอยากไปเที่ยวที่แม่น้ำคงคา...  จะว่าไป...  มีอะไรกันที่ริมแม่น้ำคงสนุกพิลึก...  ว่างๆคงต้องชวนไอ้เจ้าพ่อมาเฟียคนนี้ไปหน่อยแล้ว...  นี่ผมไม่ได้ทะลึ่งนะ... จริงจริ๊งงงงงงง....
   ผมเดินไปหน้าบ้าน...  รูปตอนที่สักรับปริญญายังแปะอยู่...  มันอยู่ตรงนี้มาหลายปีเหลือเกิน...  นี่ผมเลวไปรึเปล่า...  ทำนายแพทย์ดีๆหายไปจากสังคมหนึ่งคนน่ะ...   แน่สิ...  ก็มันบอกกับพ่อผมเองว่าจะเอาแก๊งค์ไปดูแลต่อ...  ซึ่งนั่นก็ควรอยู่ที่พ่อเอาผมมาแลกกับการทำงานของมัน...  เอาเหอะ...  ผมเดินไปที่ระเบียงหน้าบ้าน...  สมุดบันทึกเล่มเล็กๆที่ผมพกไว้ติดตัวเสมอ...

   ‘วันอังคาร... 
   สักตามตัวเจออีกแล้ว...  เหมือนเล่นซ่อนแอบเลย...  ขอบคุณนะที่ตามหาเจอทุกครั้ง...  ยังรักเสมอนะ...’

   สั้นๆครับ...  ผมจดเอาไว้ตั้งแค่แรกๆที่เราเจอกัน  ตอนแรกมันมีหลายเล่มนะ...  ผมจดมายี่สิบกว่าปีนี่หน่า...  ตอนนี้แพคได้เป็นลังอ่ะครับ  ขนาดจดสั้นๆนะ...  ผมเก็บสมุดแล้วล้มตัวลงนอนบนพื้น...  ไอ้หมา...  อ่อ...  ผมเบื่อเลยไปเก็บหมาแถวๆที่ผมเคยอยู่มาหนึ่งตัว  เป็นเพื่อนสนิทผมเองชื่อไอ้หมา...  ผมตั้งเอง...  น่ารักมั๊ย...  มันเป็นหมาพันธุ์ไหนไม่รู้เพราะคิดว่าผสมมาเยอะจนดูพันธุ์ ไม่ออก  แต่มันน่ารักในสายตาคนบ้าอย่างผมแล้วกัน...  ไอ้หมามันนอนมาเลียหน้าผมแล้วนอนเอาหัวเกยบนอกผม...  น่ารักดีครับ  หนักดีด้วย ฮาๆ
   “ไอ้หมา...  แกคิดว่าคนๆหนึ่งจะรักกันได้นานเท่าไรวะ...  แต่อย่างแกคงต้องเป็นหมาตัวหนึ่งสินะ  โทษที...  ฉันลืมน่ะ”ผมลูบหัวมันแล้วเงยหน้ามองดวงดาว  ถามว่าเห็นมั๊ย...  ก็ไม่เห็นแหละ  แล้วผมจะนอนทำไม...  มันเป็นฟีลลิ่ง  คนไม่บ้าอย่าถามมากได้มั๊ย  คนบ้าขี้เกียจตอบนะ
   “โฮ่ง!”โห...  มีพัฒนาเห่าตอบซะด้วย  เจ๋งๆ 
   “แล้วคนเราจะรักคนที่บ้าจริงๆเหรอ...”
   “โฮ่งๆ!”
   “บางทีฉันก็แค่อยากทำตัวให้มันสนใจบ้าง”
   “โฮ่งๆๆ!!!”
   “ประโยคบอกเล่าไม่ต้องตอบก็ได้ไอ้หมา!”ผมหันไปทำตาดุดุใส่มันก่อนจะลุกขึ้นนั่ง...  แล้วลูบหัวมันเบาๆ...  ผมรักหมา  แล้วผมก็รักทุกที่อยู่ใกล้หมา...  ใช่...  ผมรักตัวเอง... จะว่างั้นก็ได้... 
   “ดึกแล้วแม่งนอยด์สลัดผักเลยว่ะไอ้หมา...  ฉันไปนอนแล้วนะ...  บาย...  มาจุ๊บทีดิ๊...”ผมก้มไปหอมหน้าผากของไอ้หมาก่อนจะโบกมือลา...
   “ฝันดี  เจอกันพรุ่งนี้เว้ย!  ฉันรักแก  ไอ้หมาเพื่อนรัก”ผมเดินเข้าบ้าน  ไปที่ที่นอนที่เดิมก่อนจะก้มลงหอมแก้มคนตัวโต...
   “ฝันดีครับ... ที่รักของผม”ผมยิ้ม...  ให้กับใครอีกคนที่ยังไม่ตื่นมารับรู้แล้วสอดตัวเข้าไปใกล้ความอบอุ่นนั่น... 

   หนึ่งทุ่มแล้วครับ...  ผมเงยหน้ามองนาฬิกาที่เข็มยาวชี้ไปที่เลขสอง...  กลับข้าอีกแล้ว...  ผมมองนาฬิกาสลับกับมองประตูบ้าน... ไม่เปิด...  ยังไงก็ไม่มีวี่แววว่าอีกฝ่ายจะกลับมา...  ไหนๆ...  ใครบอกผมไว้วะว่าจะโทรมาบอกก่อนน่ะ  โฮ๊ย!!!  อารมรืเสีย...  คนบ้าเซ็งครับ  แม่ง!! เซ็งเว้ย!  ผมเดินปึงปังขึ้นบนบ้าน...  หยิบกระเป๋า ไม่สิ! ถุงเก่าๆใบหนึ่ง...  ยัดเสื้อผ้าขาดๆที่ผมชอบไว้สองสามชุด  เดินลงมา  หยิบอาหารหมามาเทให้ไอ้หมาประมาณหนึ่ง...  แล้วเดินออกจากบ้าน...  แม่ง! งอน!!!!!!
   “น้องสาววววว...  ไปกับเพ่ม๊ายยยยย”เชี่ย... คนเมา  ผมเดินเลี่ยงมันออกมา  ไอ้แก่อายุเกือบ50นี่มัน...  จะด่ามันว่าแก่ดีมั๊ย...  ผมก็สี่สิบนิดๆแล้ว...  เหอะๆ  แต่หน้าตาเหมือนสามสิบต้นๆนะครับ ขอโทษ  ชิ!
   “ผมบ้า...  อย่ามาใกล้นะไอ้สัด!”สักดอกแล้วผมก็รีบเดินห่างมันไปเร็วๆ   ใครจะไม่กลัวครับ...  ตัวคนเดียวนะ  ผมเดินมาถึงสะพานลอยที่โปรด...  วางกองเสื้อผ้า  หยิบกระป๋องมาม่าที่เพิ่งคุยขยะมาได้วางไว้หน้าตัวก่อนจะทำเป็นนั่งขุดคู้อยู่กับที่  ไม่นานก็มีคนเอาตังค์มาหยอกให้สิบยาท  เฮ๊ะ!  มีตังค์ซื้อน้ำล่ะๆ  ดีใจจุงเบยยยย...
   “อ่า...  งุงิงุงิง”ผมฮึมฮัมอะไรไปเรื่อยเปื่อยพร้อมๆกับสิ่งที่โปรดปราน...  หนังสือสักเล่ม  แน่นอน...  มันต้องเป็นหนังสือการ์ตูนน่ะสิ...   อย่าแปลกใจ  ซีไรต์ปีนี้ผมเพิ่งอ่านจบหมดไปเมื่อตอนหนีไปครั้งล่าสุดนี่เอง  ฮาๆ
   “ไอ้หนู...  แถวนี้มันถิ่นฉัน  แกมานั่งอะไรแถวนี้  ถอยไป!  เด็กฉันจะมานั่ง”ไอ้เถื่อนนนนนนน...  ผมทำหน้าเศร้าแล้วเกาะเสาสะพานแน่น
   “ฮึก...ฮือ....  ใครอ่ะ...  ใครๆ...  ไม่เอา  ไม่ไป...  ฮือออออ”ครับผม  มุขประจำ  ผมร้องไห้จ้า...  ให้คนรอบๆหันมามอง  มันทำเสียงจิ๊จ๊ะในคอก่อนจะกระชากแขนผมออกจากราวเหล็ก...
   “ไม่อยากตายก็ไป ไป๊!”มันผลักผมจนเซ...  ไอ้โหดดดด   ผมคว้าถ้วยมาม่าก่อนจะทำเป็นเซตุปัดตุเป๋ไปลงบันได...  เรื่องมันเศร้า  ผมโดนแย่งที่!! แล้วคืนนี้ผมจะนอนที่ไหนวะครับ  กระซิกๆ 
   ผมเดินไปเรื่อยๆจนถึงที่ๆหนึ่งใต้เสาไฟฟ้า... แหม...  ที่ประจำโคตรดีเลยให้ตายสิ...  ผมนั่งงอขาแล้วโยกตัวไปมา...  ทำไมกูต้องเล่นท่ายาก...  ไม่รู้สิ...  ผมบ้า ! ผมนั่งอ่านหนังสือก่อนจะได้ยินเสียงซุบซิบกันเบาๆ  ผมเงยหน้าขึ้นมอง...  เด็กมัธยมสี่ห้าคนกำลังเดินผ่านมาทางนี้และมองผมอยู่อย่างระแวง...  แฮ่! เดี๋ยวพ่องับคอซะนี้  พวกมันเห็นผมแลบลิ้นปลิ้นตา ก่อนจะรีบเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว... 

‘ “เฮ้ย... อย่ายุ่งกับมันเลยว่ะ  เขาว่ากันว่ามันเป็นบ้า... ไม่ยอมไปไหน นั่งอ่านแต่หนังสืออยู่แบบนี้มาตั้งหลายวันแล้ว”ผมเงยหน้ามองไอ้กลุ่มคนที่บอกว่าผมบ้า... อีกแล้วเหรอ  แต่สายตาผมกลับไปสะดุดใจกับคนในชุดสูทภูมิฐานที่ตัวใหญ่กว่าผมสักหน่อย... หล่อดีแฮะ...
   “พวกมึงกลับไปก่อนป่ะ... กูว่ากูอยากลองคุยกับคนบ้าดูสักตั้ง”ในความมืดที่มีแค่แสงโคมไฟจากตรงที่ผมนั่งอยู่ ผมบอกไปรึยังว่าบ้านตอนนี้ของผมคือข้างถนน
   “เอาจริงเหรอวะไอ้สัก... มึงนี้ท่าจะบ้าไปแล้วว่ะ”ตกลงคนๆนั้นเขาก็บ้าเหมือนผมเหรอ... ตลกชะมัดเลยแฮะ เป็นคนบ้า แต่ใส่สูทซะดูดีเชียว...
   “มึงเป็นคนบ้าเหรอ ชื่ออะไรวะ”ผมเงยหน้ามองเขางงๆ เขาถามชื่อผมเหรอ...
   “ถามผมเหรอ... ไม่รู้สิ ผมเป็นคนบ้า ไม่มีชื่อเหรอ”ผมตอบกลับเสียงเรียบแล้วก้มหน้าไปอ่านหนังสืออีกครั้ง ตัวหนังสือเบลอๆนิดๆ อาจเพราะสายตาผมสั้นลงล่ะมั้งเนี่ย
   “เออ... มึงนี่แปลกดีจัง กูชื่อสัก มึงมากับกูดีกว่า เดี๋ยวกูพาไปอยู่ด้วย” ’

ผมนึกถึงครั้งแรกที่เจอสัก...  เหตุการณ์แบบนี้เลยสินะ...  เพียงแต่ตอนนั้นมันเดินมาหาผม พยุงผม... เออ... ลากก็ได้  มันลากผมไปอยู่กับมัน...   วันนี้ในอีกยี่สิบกว่าปีเลยเกิดขึ้นมา...  ถ้าไม่มีมัน... ป่านนี้ผมคงไปอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลก...  อาจจะเป็นอิสราเอล...  ผมแค่อาจจะนะ  อาจะน่ะ  may be  you  know?
“คุณคนบ้าที่รักครับ...  ชื่ออะไรเหรอครับเนี่ย...  แล้วงอนอะไรถึงหนีมาตรงนี้ครับ  หืม...”เสียงที่คุ้นเคย...  ผมหันไปมอง...  ไอ้สักในชุดสูทเหมือนกับวันนั้นกำลังเดินมาหาผม...  ผมส่ายหน้าแล้วพูดเบาๆ
“ผมเป็นคนบ้า...  มีคนตั้งชื่อให้ผมว่า... อิม...”ผมโน้มตัวไปตามแรงดึงของมัน
“แล้วคนบ้ารู้มั๊ยครับ...  ว่าคนๆนั้นคิดถึงคนบ้าคนนี้ขนาดไหนน่ะ... ขอโทษนะครับที่ไม่ได้โทรบอก...  ไม่สะดวกจริงๆ  ขอโทษนะครับคนดี โอ๋...  ไม่ร้องนะไม่ร้อง”ผมเบ้ปาก...  ใครบอกผมร้องไห้...  แค่ต่อมในตาผมมันเสียแค่นั้นเอง... 
“ไม่ได้ร้อง...  ก็แค่...  รู้สึกเคืองๆตา...  รอหมอบางคนมาดูอาการให้...ก็แค่นั้น”ผมพูดเบาๆพอๆกับกระซิบ  ไม่ได้ยินก็ช่างแม่ง!
“งั้นให้นายแพทย์คนนี้ดูหน่อยนะครับ...  เป็นอะไรมากมั๊ย...”ผมลืมตาให้มันดู  มันมองสองสามทีแล้วก้มลงมาหาผม...
“ไม่เห็นมีอะไรเลยครับ  เห็นแต่ความรักที่มันสะท้อนอยู่เต็มดวงตาของคุณน่ะ”อ้วกกกกก.....  ครับ! แม่งจะโรแมนติกมาก...  ถ้ามันเป็นริมแม่น้ำแสนสวยหรือบนตึกดาดฟ้าสักที่ ที่เห็นท้องฟ้าสวยงามตอนกลางคืน  ไม่ใช่ในซอยเปลี่ยว ที่มีถังขยะกับน้องหมานอนมองหน้าอยู่น่ะ... 
“กูบ้านะ...  มึงรักกูแน่เหรอ...”ผมเอนตัวไปฟังเสียงหัวใจมัน...  ยังไงก็ยังเป็นเสียงที่ฟังแล้วอบอุ่นที่สุดอยู่ดี...
“แน่ครับ...  คนบ้าคนนี้น่ะ...  ทำผมหลงรักหัวปักหัวปำมาตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว...  ยังไม่แน่ใจอะไรอีกเหรอครับ”ผมยิ้ม...  แล้วมันก็ยิ้ม...  ผมหอมแก้มมันเบาๆก่อนจะหัวเราะคิก...  เสียงกระซิบในตอนเที่ยงคืนหนึ่งนาที...
   “happy anniversary 23 year ที่นี่ที่เราเจอกัน... ขอบคุณนะครับ... คนบ้าของผม”


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนนี้ใครว่าไม่หวานบ้างงงง  รายงานตัวที  555555

งงมั๊ยที่อยู่ๆมันก็มา...  จริงๆคือเห็นคอมเม้นต์จากเรื่องเต็มอันนี้แล้วเลยอยากแต่ง  บวกกันไปเจออันนี้พอดี...
http://writer.dek-d.com/Cute_Girl/story/viewlongc.php?id=845463&chapter=34
บอกเลย... เกิดมาไม่เคยโดนแชร์...  แอบดีใจเบาๆเลยแต่งให้เป็นการขอบคุณที่หลงผิดเอาไปแชร์ให้ 5555
กระแสตอบรับเรื่องนี้ดี๊ดี...  เลยจัดให้อีกรอบตามคำขอ...  หายไป5เดือนกับการสิงในเล้า...  เพื่ออ่านนิยาย...
เรื่องสักอิมนี้เป็นอะไรที่...  ไปตามกระแสใจสั่งจริงๆ...  แต่งแบบมั่วๆ ตอนพิเศษก็มั่วๆ
ที่เรื่องนี้ไม่มีมาม่า  เพราะคนแต่งปรับอารมณ์ไม่ทัน 55555 
เรื่องนี้แต่งยาวนะ  4หน้าเอสี่... ขนาด14 (ถือว่าเยอะสำหรับผมนะ)
เรื่องต่อไป...  มันหัวโผล่ล่ะ  แต่กำหนดการคลอดยังไม่มา 5555  รอไปซะ...
คนแต่งไม่มีพล็อตนะครับ เรื่องไหนกระแสดี  หรือถ้าคนอ่านเยอะ...  ผมก็จะมีกำลังใจมาแต่งต่อ...
ถ้าเงียบก็นะ...  ไม่แต่งล่ะ (ลืมนั่นเอง)  :hao6:  ตอนนี้ปิดเทอมครับ...  ใครอยากอ่านต่อ(เรื่องใดๆก็ตาม)
รีบจิกทวงกันช่วงนี้นะครับ  โดนมากๆมันจะเป็นกำลังในการแต่ง 
เรื่องที่แต่งง่ายและสนุกจริงๆสำหรับผม  ก็เรื่องนี้แหละ...  ง่ายสนุก... สบายยยยยยย   (บ้าทั้งเรื่อง)

ขอให้ฝันดีและอรุณสวัสดิ์  :z13: :z13:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-10-2013 02:53:57 โดย spy4869 »

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
เป็นคนบ้าที่น่ารักมากๆๆอ่ะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด

ทำไมคนบ้ามันน่ารักแบบนี้เนี่ย :o8:

แล้วมาอีกนะ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ momo9476

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
อิมหนีตลอด ฮาๆ สักก็ตามตลอด

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                     พี่เนียนน่ะผมรู้...  แต่ที่พี่ไม่รู้คือผม‘รัก’ 1




        ‘ตา หู จมูก ปาก ตา หู จมูก ปาก ตา...  เหว้ย เหว้ย สารพัดเหว้ย  เหว้ย สารพัดเหว้ย เหว้ย สารพัดเหว้ยยยยย... เอ้า!ครับสาหวัดดีครับผมชื่อยินดีไม่มีปัญหา...’ 
   หลังเพลงสันทนาการที่เอาไว้ให้คนโดนลงโทษเต้นจบลง...  ผมที่โดนปะแป้งทั้งหน้าก็เดินกลับมานั่งที่กลุ่มนกกาเหว่าของตัวเอง  รอบตัวเต็มไปด้วยน้องๆมัธยมปลายที่ติดค่ายมาในครั้งนี้...  ผมชื่อดราฟครับ...  อยู่ปี2คณะจิตวิทยาที่มหา’ลัยแห่งหนึ่ง...  ทำไมผมถึงโดนลงโทษน่ะเหรอครับ...
   “เอาล่ะค่ะ...  เดี๋ยวพี่ส่งแป้งให้ต่อนะคะ...  อย่าลืมนะ  ว่าแป้งหยุดที่ใครคนนั้นต้องปะแป้งที่หน้าตัวเองแล้วต้องออกมาเต้นแบบน้องดราฟด้วยนะคะ”นั่นล่ะครับ...  แต่!... มันยังไม่จบครับ  คุณอาจสงสัยทำไมผมถึงกลายเป็นน้อง...  คำตอบ... คุณรู้จัก ‘พี่เนียน’ รึเปล่าครับ  แต่ละกลุ่มจะมีพี่เนียนที่ทำตัวเป็นน้องคอยเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้น้องๆร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆ...  และช่วงเวลากลั่นแกล้งของเพื่อนๆในชั้นปีก็จะเริ่มตอนนี้ล่ะครับ...  ไอ้เราก็เป็นน้องอยู่  ทำอะไรมากไม่ได้ครับ...  แค่จบค่ายไปน่ะคอยดู...
   ‘ฮิป!  ฮิป!  ฮิป ฮิปโป โอ้โหตัวมันใหญ่  มันเดินอุ้ยอ้าย มันเดินอุ้ยอ้าน ตะละล้าลั้นล้าลั้นลา...  ฮิป! ฮิป! ฮิป ฮิปโป้  โอ้โหตัวมัน... หยุด!’ 
   ผมมองเด็กคนที่โดนแป้งครับ...  พอๆกับผมเลยทีเดียว  ผมตบมือแล้วก็หัวเราะไปพลาง...  มองน้องๆในกลุ่มเผื่อใครจะเป็นลมเป็นแล้งไป  คือพี่กลุ่มก็มีนะครับ...  แต่ตอนนี้พวกเพื่อนผมมันหายหัวไปจัดฐานให้น้องๆเหรอแต่กลุ่มสันทนาการเอาไว้น่ะครับ...
   “น้องๆคะ...  รู้มั๊ยค่ายนี้ชื่อค่ายอะไร!!!”เสียงตะโกนถามดังลั่น...  แสบรูตูดทะลุถึงลำไส้ใหญ่เลยทีเดียว... 
   “ค่ายสัมผัสจิต ครั้งที่ 9 ค่ะ/ครับ”แหม...  เสียงดังฟังชัด...  ผมก็ตอบนะครับ...  อ่อ...  น้องๆในกลุ่มผมครับ  มีผู้หญิง4  ผู้ชาย3  รวมผมด้วยนะ   ทั้งหมดคือกลุ่มนกกาเหว่ามีทั้งสิ้น 7 คน  พี่กลุ่มอีก 2 คน  เป็นชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง... 
   “เอาล่ะค่ะ...  ตอนนี้หมดเวลาของพี่ๆสันฯแล้วเนอะ...  งั้นเดี๋ยวทุกคนลุกขึ้นนะคะ...  พี่จะให้พวกเราไปเข้าฐานช่วงบ่าย  น้องกลุ่มอนาคอนด้าไปกับกลุ่มหนูนานะคะ...  กลุ่มนกอินทรีย์ไปกับกลุ่มตัวตุ่นนะคะ...  กลุ่มนกกาเหว่าไปกับกลุ่มกานะคะ...  กลุ่ม...”MCคอยประกาศฐานต่างๆให้พวกเรารู้  ซึ่งคราวนี้ผมต้องไปเข้าฐานของไอ้เพื่อนชั่ว...  เอ่อ...  เพื่อนสนิทผมครับ  ไอ้เดินทาง...  ชื่อเจ๋งใช่มั๊ยล่ะ ผมได้ยินครั้งแรกยังฮาเลย...
   “น้องดราฟคะ...  อย่าเหม่อค่ะ  เพื่อนเดินไปไกลแล้วนะคะ”ผมสะดุ้ง.....  มั่วแต่คิดเพลิน  จริงด้วยครับ  เพื่อนกลุ่มผมเดินไปไกลพอควร  เสียงMC เพื่อนสนิทผมอีกคนเรียกให้ผมได้สติก่อนจะแอบหัวเราะเบาๆ  ฝากไว้ก่อนเหอะ!  ผมก้าวยาวๆเกือบจะวิ่งเพื่อตามเพื่อนๆไป... 
   “เฮ้ย! ดราฟๆ  นายอยู่ม.อะไรอ่ะ”ผมหันไปมองเพื่อนผู้ชายข้างๆ  คุยมาตั้งแต่เช้าเพิ่งจะถามม.เนี่ยนะ... 
   “ม.6ๆ  แล้วนายอ่ะ”ผมตอบก่อนจะเหลือบมองป้ายชื่อ...  โอเค  ชื่ออลัน  แม่งจะฝรั่งไปไหนวะ...  แต่มันก็เท่ห์จริงๆแหละ...
   “เท่ากัน...  หน้าดราฟเหมือนอยู่ม.5เลยอ่ะ  เกือบเรียกว่าน้องไปแล้วนะเนี่ย ฮาๆๆ”ผมหัวเราะไปกับมัน...  เออ...  ถ้าบอกว่าปี2นี้มันจะช็อคมั๊ยวะ  แค่ม.6ยังเข้าใจผิด...  ตกลงผมหน้าเด็กหรือมันหน้าแก่?
   “สวีดัส สวัสดีน้องๆทั้งสองกลุ่มคร้าบบบบบ....  ยินดีต้องรับเข้าสู้ฐาน... ‘ผู้หญิงสบาย ผู้ชาย!ไม่รอด’ ครับผม  พี่ชื่อเดินทางนะครับ พี่อีกคนชื่อหยุดนิ่ง กติกาง่ายๆ  น้องผู้หญิงครับ  ไปนั่งพักทานน้ำทานอาหารให้สบายเลยนะครับ  ส่วนน้องผู้ชาย...  น้องเห็นมาม่าตรงหน้าน้องมั๊ยครับ...  ระหว่างที่น้องผู้หญิงทานน้ำกับขนมรอ  น้องผู้ชายต้องช่วยกันกินมาม่าชามน้ำให้หมด  โดยเร็วที่สุด...  อย่าคิดรีรอนะครับ...  เอาละครับ  พี่ขอน้องผู้หญิงออกมาคนหนึ่งครับ”ผมมองเกมตรงหน้า...  มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกไป...  ไอ้เดินทางหยิบน้ำสีดำๆออกมา  ถามว่าผมรู้รึเปล่ามันคือน้ำอะไร...  รู้สิครับ ใส่น้ำแข็งซะเย็นเจี๊ยบด้วย...  ผมมองน้องผู้หญิงที่ค่อยๆซดน้ำนั่นเข้าปาก...  สาม... สอง... หนึ่ง...
   “พรวดดดด....!!!  น้ำปลานี่พี่...”น้องเขาพ่นทิ้งแทบไม่ทัน...  เพื่อนหลายๆคนแอบหัวเราะบ้างหัวเราะต่อหน้าบ้าง...  ไอ้เดินทางยิ้ม...  หลอนเสมอต้นเสมอปลายจริงๆไอ้เดินทาง...  ผมล่ะเพลีย...
   “งั้นน้องผู้หญิงไปกับพี่นิ่งเลยครับ...  น้องผู้ชายล้อมวงครับ  มีสองชามแบ่งกันดีๆนะครับ...”ผมล้อมอยู่กับน้องอีกสองคนชื่ออลันกับเอก...  ตะเกียบมีสามคู่...  พี่ๆไม่อยากให้ใช้คู่เดียวกันน่ะครับ  กลัวติดโรคน่ะ 
   “เอาล่ะนะครับ...  เริ่มได้!”ผมมองมาม่าที่ต้มอืดและน้ำซุปโคตรร้อนประมาณสองห่อที่ลอยเคว้งในชามพลาสติก...  น้องผู้หญิงเริ่มกระดกน้ำปลาเข้าปาก...  พร้อมกับทำหน้าแหยงๆ  สงสารครับ  แต่สงสารตัวเองมากกว่า...  มาม่าร้อนโคตรๆแบบควันขึ้นฉุยๆ  กินไปมีแต่ลิ้นพองครับ...
   “ผมว่า...  เราช่วยกันกินเส้นก่อนดีกว่ามั๊ยครับ  น้ำซุปรอให้มันหายร้อนเราค่อยช่วยกันซด...”เอกเสนอความคิด  ซึ่งผมก็ว่ามันเข้าท่าดี  เราสามคนช่วยกันมุงชามแล้วโซ้ดเส้นมาม่าที่ควันขึ้นฉุยๆ  บอกเลย...  จบวันนี้ไป...  ไอ้เดินทางมีเคลียร์กับผมแน่ๆ  วุ้ย!!
   ไม่นานมาม่าทั้งสองชามก็หมดลงพร้อมๆกับปากผมและผู้ชายหลายคนที่แดงจนเกือบพอง...   ไอ้เดินทางเอาน้ำมาให้พวกเรากินคนละแก้ว  ในขณะที่น้องผู้หญิงได้รับน้ำเปล่าเพื่อล้างปากจากกลิ่นน้ำปลา...
   “เอาล่ะครับ...  จบฐานแล้ว...  งั้นเรามาสรุปกันดีกว่าว่าฐานนี้เราได้อะไรกันบ้างนะครับ...  อย่างแรกนะครับ...  พี่อยากให้เรารู้จักการเสียสละ  น้องผู้ชายที่ต้องเสียสละกินมาม่าร้อนๆ  น้องผู้หญิงที่เสียสละกินน้ำปลาเค็มปี๋  ไม่ใช้ทุกครั้งนะครับที่การเสียสละของเราจะช่วยคนอื่น  บางครั้งการเสียสละของเราก็ต้องให้คนอื่นร่วมกันเสียสละด้วย   ต่อมาครับ...  ความสามัคคี  แน่นอนว่าถ้าเราไม่สามัคคีกัน  เราจะกินมาม่าไม่หมด  น้องผู้หญิงก็จะเป็นความอดทนนะครับ  ที่ยอมกินน้ำปลาทั้งๆที่รู้ว่าเค็ม  สุดท้ายครับ...  การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า...  น้องผู้ชายอาจต้องช่วยกันคิดว่าทำยังไงถึงจะกินมาม่าหมดให้ไวที่สุด  ส่วนน้องผู้หญิงก็ต้องคิดนะครับว่าทำยังไงถึงจะกินน้ำปลาให้น้อยที่สุด...”ไอ้นิ่งเดินมารับสมุดน้องๆไปเซ็นเข้าฐาน
   “มีใครอยากพูดอะไรมั๊ยครับ”มันเปิดโอกาส
   “พี่สองคนเป็นแฟนกันเหรอคะ”พรวดดดด!!!!  ผมหันไปมองน้องผู้หญิงที่ถาม  รู้สึกจะชื่อน้อยหน่า...  กลุ่มกาครับ...
   “อยากรู้ไปทำไมครับ”ไอ้เดินทางยิ้มแหยงๆก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้หยุดนิ่งที่ทำหน้าดุ...
   “หนูเป็นสาววายค่ะ  หนูเห็นออร่าความฟินจากพวกพี่ทั้งสองคน  แอร๊ย!”เอิ่ม...  บอกผมที...  สาววายคืออะไรครับ  อย่างกับมีเรดาห์...
   “คือ...”ไอ้เดินทางอ้ำๆอึ้งๆ  มันมองหน้าผมแล้วหันไปมองไอ้หยุดนิ่ง...  มันมองหน้าผมเพื่อ...?!
   “ครับ... ตามที่น้องเข้าใจ”ไอ้หยุดนิ่งตอบก่อนจะหน้าแดงแปร๊ดแล้วเดินกลับไปเตรียมมาม่าให้กลุ่มต่อไป...
   “อ๊ายยย  แกๆๆ  ฉันบอกแล้ว...  เรดาห์ฉันไม่ผิด  ฉันจะสอบเข้าที่นี่...  พี่ๆโคตรฟิน  กรี๊ดดดด”น้องเขาพูดเบาๆกับเพื่อน  แต่แบ...  มันอยู่หลังผมอ่ะครับ  ยังไงก็ได้ยิน...  ความปรารถนาของสาววายช่างแรงกล้า...  ยอมสอบเข้าเพราะผู้ชายรักกัน... 
   “งั้นเดี๋ยวน้องๆเตรียมตัวไปฐานถัดไปได้เลยครับ...  ขอบคุณครับทุกคน...”
   “ขอบคุณค่ะ/ครับ”เสียงขอบคุณของน้องๆดังเป็นหย่อมๆบอกว่าหลายฐานเริ่มเสร็จกิจกรรมแล้ว... 
   “ดราฟ...  นายชอบจิตวิทยาปะ?”อลันเดินตีข้างมากับผม  เรากำลังจะไปอีกฐานหนึ่งครับ...  ฐานนี้ผมไม่สนิทกับพี่ประจำฐานเพราะเป็นพี่ปี3เป็นคนคุมฐาน
   “ก็... ชอบดิ... ไม่งั้นจะสมัครมาค่ายทำไมล่ะ”ผมตอบ...  อลันพยักหน้า
   “ดราฟรู้ป่ะ...  เราโคตรตื่นเต้นอ่ะตอนเปิดใบประกาศผล... เออ...  ข้อที่ถามว่าให้กินข้าวอ่ะ...  ดราฟตอบว่าอะไรเหรอ”ผมนึก...  โชคดีที่เตรียมคำตอบเอาไว้เผื่อเด็กถาม...  ทำไมไปค่ายไหน  มันต้องถามกันด้วยว่าตอบอะไรกันไป...  พี่เนียนเหนื่อยกะการมานั่งคิดคำตอบนะเว้ย!
   “ข้อนั้นอ่ะนะ...  เราตอบว่าให้กินข้าวกับกับข้าวอ่ะ...  แล้วอลันอ่ะ  ให้กินข้าวอะไร”ผมเตรียมตัวมาแล้วครับ...  คือข้อนั้นเขาถามว่า  ถ้ามีข้าวให้หนึ่งจาน น้องจะทานข้าวกับอะไร...
   “เราเหรอ...  กินกับช้อนอ่ะ...  คือถ้าไม่มีชอบ ก็ไม่รู้จะกินกับอะไรว่ะ”เอ่อ...  ช่างคิด  แม่ง! ลึกซึ่งครับ...  ไอ้ที่คิดไว้ว่าเจ๋งนี้พังทลายเพราะคำตอบพวกมันเนี่ย!
   “น้องดราฟ น้องอลัน...  ฟังที่พี่พูดรึเปล่าคะ...  เมื่อกี้พี่ให้ทำอะไรเอ่ย...”เสียงหวานๆของพี่หวานปี3ดังเหนือหัวของเราทั้งคู่...  ซึ่งผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วยิ้มแหย่...  อย่ากัดเค้าน้า เค้ากลัววววว
   “พี่ให้น้องจับคู่กันแล้วบอกรักให้หวานที่สุด...  ตอนนี้ทุกคนจับคู่หมดแล้วเหรอแค่น้องสองคน...  แล้วที่น้องไม่ฟัง...  พี่จะให้น้องออกมาทำคู่แรก...  ด้านหน้าเลยค่ะ”ผมมองหน้าอลันแล้วส่ายหน้าพรืด...  พี่ทำร้ายน้อง  เค้าจะฟ้องกรมแรงงาน!
   “ไปเถอะดราฟ...  นายยืนเฉยๆเดี๋ยวเราจัดการเอง...”ผมออกไปยืนนิ่งตามคำสั่งอีกคน...  ตอนนี้ทุกคนตื่นเต้นมาก  รวมถึงน้องสาววายจากกลุ่มกาด้วย...  เห็นรีบหยิบมือถือมารัวถ่ายรูปไว้หลายสิบรูป...
   “ดราฟครับ...  ดราฟรู้มั๊ยว่าดราฟน่ารักมาก...  ผมชอบดราฟตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นดราฟ...  ดราฟทำหน้ายุ่งเพราะหากลุ่มไม่เจอ...”มาสายเว้ย!  มัวแต่ไปเข้าห้องน้ำ นี้มันทำให้ไอ้นี้ชอบผมเรอะ! อ่อ... ละครๆ
   “ดราฟดูดีที่สุด  กว่าผมจะกล้าคุยกับดราฟได้ก็แทบแย่...  แต่ตอนนี้...  ผมอยากบอกอะไรกับดราฟสักคำ...  ผมหวังว่าดราฟจะเข้าใจนะครับ...”มันลุกขึ้นแล้วกอดผมท่ามกลางความช็อคจากทั้งผมและทุกคนในกลุ่ม...
   “ผมรักดราฟนะครับ”
   “อร๊ายยยยย   น่ารักที่สุดค่ะ  สาววายฟินนนน”เสียงกรี๊ดทำให้ผมหลุดจากพวังค์แล้วผลักมันออกเบาๆ... 
   “เอ่อ...  โทษที  เราแค่อยากให้มันหวานอ่ะ...”อลันยิ้มเก้อๆมาให้ผม...  ซึ่งผมจะพยายามคิดว่ามันคือการแสดงนะ...  ฐานห้าหกฐานจบลงเมื่อเวลาประมาณห้าโมงเย็น  ซึ่งได้เวลากินข้าวเย็นพอดี...
   “วันนี้เราจะมีการกินข้าวที่พิเศษมากๆเลยนะคะน้องๆ...  น้องเห็นคนที่นั่งตรงข้ามกับน้องรึเปล่าคะ...”ผมเงยหน้ามอง... อลันกำลังมองตรงมาหาผม  ตามคำสั่งของรุ่นพี่...
   “น้องต้องป้อนข้าวเพื่อนที่นั่งตรงข้ามน้องนะคะ  ทั้งข้าว น้ำ ขนมหวาน...  ใครผิดกฏพวกพี่จะทำโทษโดยให้เต้นมัดหมี่นะคะ  ขอให้ทุกคนกินข้าวอย่างอร่อย...  ใครกินเสร็จแล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่ห้อง  ขอกางเกงขายาวนะคะ  ยุงมันเยอะ...   แล้วเดี๋ยวมันเจอกันตอนหนึ่งทุ่มตรง ที่โต๊ะเดิมที่น้องๆนั่งตอนนี้นะคะ...  ใครป่วยไม่สบายมีมั๊ยเอ่ย...  เดินออกมาเลยนะคะ  มาเอายาไป...”เสียงไอ้ดุ๊กดิ๊ก...  เป็นเพื่อนเอกเดียวกับผม...  มันบอกเสียงแจ๋น  จากนั้นก็แวบตัวออกไปกินข้าว...  ผมดูอาการน้องในกลุ่ม  ทุกคนปกติดี...
   “ใครไม่อิ่มเอาข้าวเพิ่มได้นะคะ  ส้ม   กิ่ง  ลัล  โอปอ...  มีใครไม่สบายกันมั๊ย...”พี่ขวัญ  หรือไอ้ขวัญเพื่อนเอกเดียวกับผมเช่นกัน  สนิทกันแต่ไม่มากเท่าไร...  มันทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงกลุ่มผมพอดี...
   “แล้วเอก  ดราฟ  อลันล่ะ  มีใครเป็นอะไรรึเปล่า”พวกผมส่ายหน้าก่อนจะตักข้าวคำไม่โตนักยื่นจ่อปากของอลัน  ส่วนอลันเองก็ตักข้าวมาจ่อปากผม  เราสลับกันกินจนหมดทุกอย่าง  ที่ลำบากคงจะเป็นน้ำ  เพราะพี่แม่งไม่มีหลอดให้ไงครับ  แก้วจริงๆ  เวลากินต้องยกซดเอา  ซึ่งมันทำให้มองไม่เห็นว่าอีกฝ่ายกินพอรึยัง  หรือน้ำยังไม่ถึงปาก 
   หลังจากนั้นเราก็ไปอาบน้ำ  ห้องอาบน้ำจะเป็นห้องรวมครับ...  ผู้ชายก็ใส่กางเกงในบ้างบ็อกเซอร์บ้างตามแต่สะดวก...    ใครไม่อายก็กางเกงในครับ  อายบ้างก็บ๊อกเซอร์  บางคนก็เป็นผ้าขาวม้า...  พวกเรารีบตักรีบอาบครับ  เพราะมีอีกหลายคนรออยู่...   ผมอาบน้ำในเวลาไม่ถึง 5 นาที  โดยที่อลันก็ทำเวลาได้พอๆกับผม...  เราทั้งคู่เดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุดตากผ้าเรียบร้อยก็นั่งรอในห้อง  รอเวลาที่จะไปรวมตัว  เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง  จริงๆช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่เราต้องคิดการแสดงเพื่อเอาไว้แสดงในวันสุดท้ายคือวันมะรืนตอนเช้า  ถัดจากนั้นก็จะเฉลยพี่เนียน  เขียนสมุดให้กันเล็กน้อยก่อนจะแยกกันกลับบ้าน...  อีกสิบห้านาทีต่อมา...  พวกเราทั้งเจ็ดรวมพี่อีกสองเป็นเก้าชีวิตกำลังนั่งสุมหัวคุยเรื่องการแสดง...
   “เราล้อเลียนโฆษณาดีป่ะ”โอปอเสนอ...  ผมว่าน้องคนนี้ดูมีความตั้งใจดีนะครับ  ทำเต็มที่ทุกกิจกรรมไม่มีกั๊ก... 
   “แต่พี่ให้กลุ่มละ 10-15 นาที  โฆษณามันจะกี่นาทีกัน...”เสียงกิ่งแย้ง  ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับกิ่งนะ...
   “เราว่าแสดงอะไรที่เป็นประสบการณ์ในค่ายของเราดีป่ะ...”เสียงลัลบอก...  พวกเราหันไปสนใจความคิดของลัล
   “แล้วเราจะทำยังไงล่ะ ถ้าแบบนั้นน่ะ”เสียงไอ้พี่ขวัญถาม  ผมนั่งรอฟัง...
   “ก็แบบ...  อะไรที่เราประทับใจ  เราก็เอามาแสดงเป็นฉากๆ  ดีป่ะ”ลัลอธิบาย...
   “แบบนั้นมันดูไม่มีที่มาอ่ะ...”เสียงเอกแย้ง...
   “ทำไมเราไม่แสดงเป็นวันสั้นๆแบบสรุปประจำวันล่ะ”ผมลองเสนอบ้าง...
   “ก็ดีนะ...  แต่มันไม่สนุกป่ะ?”เสียงโอปอถาม 
   “เราก็เอาจุดเด่นของเราไปนำเสนอสิ...  สองคนนี้ไง”ส้มชี้มาทางผมกับอลัน  ห๊ะ.. อะไร  ใคร... ผมงง
   “วันนี้ฐานที่สองคนนี้บอกรักกันอ่ะ  นอกจากกลุ่มเรากับกลุ่มกา  ไม่มีใครรู้นะ...”กิ่งบอก  ซึ่งมันก็ได้รับการสนับสนุนเต็มที่  แม้จะมีแค่ผมที่เถียงแต่สุดท้าย...  สปริตกลุ่ม...  ยอมก็ได้... (วะ)
   การแสดงที่คุยไว้คร่าวๆคือผมกับอลันจะเป็นตัวดำเนินเรื่อง  ตั้งแต่มาลงทะเบียน  พูดคุยแนะนำตัว...  เข้าฐาน  มาพักกินข้าว แล้วก็กลับไปเข้าฐาน  จนถึงตอนนอน  ส่วนอีกวันหนึ่งเดี๋ยวค่อยคุยกันต่อเพราะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น...  ตอนจบพวกเราจะเต้นเพลงประจำกลุ่ม...  ซึ่งที่สำคัญที่สุด...  ผมต้องเล่นคู่กับอลันเป็นคู่รัก คือมันไม่ถึงกับรักอ่ะครับ  แต่มันต้องเป็นเพื่อนที่โคตรสนิทแบบถึงเนื้อถึงตัวกันอ่ะครับ  เห็นโอปอบอกว่าเป็นคู่จิ้น...  อันนั้นล่ะเพลียสุดล่ะ...

------------------------------------------------------------------------------------------



อยู่ดีๆไอ้คู่จิ้นนี้ก็มาในหัว...  :hao6: :hao6:
แต่งจบแล้วนะครับ  พรุ่งนี้จะมาลงตอนต่อไปให้... อย่าลืม! +1ให้เก๊าด้วยนะ ^^

 :z13: :z13: :z13:

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ค่ายนี้จัดที่ไหนเนี่ยอยากไปจัง^O^
บอกรักแบบเนียนๆน่าร๊ากอร๊ายฟินนนนนน>////<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
อั้ยย่ะ พี่เนียนไม่เนียนไม่รู้
แต่ที่รู้น้องเนียนบอกรักพี่ไปแล้วล่ะ ฮ่าาาาา

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                         พี่เนียนน่ะผมรู้... แต่ที่พี่ไม่รู้คือผม‘รัก’ 2
                                                                       ตอนจบครับ

    การแสดงที่คุยไว้คร่าวๆคือผมกับอลันจะเป็นตัวดำเนินเรื่อง  ตั้งแต่มาลงทะเบียน  พูดคุยแนะนำตัว...  เข้าฐาน  มาพักกินข้าว แล้วก็กลับไปเข้าฐาน  จนถึงตอนนอน  ส่วนอีกวันหนึ่งเดี๋ยวค่อยคุยกันต่อเพราะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น...  ตอนจบพวกเราจะเต้นเพลงประจำกลุ่ม...  ซึ่งที่สำคัญที่สุด...  ผมต้องเล่นคู่กับอลันเป็นคู่รัก คือมันไม่ถึงกับรักอ่ะครับ  แต่มันต้องเป็นเพื่อนที่โคตรสนิทแบบถึงเนื้อถึงตัวกันอ่ะครับ  เห็นโอปอบอกว่าเป็นคู่จิ้น...  อันนั้นล่ะเพลียสุดล่ะ...

(ต่อครับ)

    หกโมงห้าสิบห้า  เราลงมารอด้านล่าง...  เพื่อรอเข้าฐานยามค่ำคืน  ไม่มีอะไรมากครับ...  ก็เรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ  ผมก็คุยกับหลายๆคนแต่ส่วนใหญ่จะคุยกับอลัน...  เพราะมันคุยสนุกสุดล่ะ  เอกนี้ไปสนิทกับพวกผู้หญิง  ผมก็ไปคุยไปแหย่ตามหน้าที่ที่ต้องเอนเตอร์เทรนน้องๆครับ... 
   พอห้าทุ่มครึ่ง  พี่ๆก็ปล่อยให้ขึ้นไปนอน  แบ่งนอนชายหญิง  ผมกับอลันกับเอกนอนอยู่ใกล้กันโดยที่อลันนอนตรงกลางมี่ผมกับเอกนอนประกบข้าง...  ส่วนข้างผมเป็นพี่เนียนเหมือนกัน  ชื่อไอ้แนท...  ผมรอน้องๆหลับกันเกือบหมดก็ได้เวลาย่องครับ  ผมสะกิดไอ้แนทที่ตาปรือใกล้จะหลับออกไปนั่งประชุม   ด้านล่างที่โต๊ะอาหาร  มีเพื่อนผมรุ่นน้องและรุ่นพี่หลายคนนั่งสุมหัวอยู่... 
   “เอ้า! มีปัญหาอะไรมั๊ยน้องกลุ่มพวกมึงอ่ะ”พี่จ๊าด  ลุงรหัสเป็นประธานค่ายปีนี้ด้วยครับ  ไม่แปลกที่หลานรหัสอย่างผมต้องมารับเคราะห์โดนลากชื่อไปทำงานด้วยเฉย...
   “ไม่มีครับพี่  น้องให้ความร่วมมือเรียบร้อยดี...”พวกผมนั่งประชุมอยู่ครึ่งชั่วโมงก็โดนไล่ไปนอนเพราะเดี๋ยวน้องๆสงสัย  ผมกับไอ้แนทก็เดินกลับเข้าที่พักเหมือนเดิม... 
   “ไปไหนมาวะดราฟ”เสียงอลันงัวเงียถาม  มันคงเห็นผมล้มตัวลงนอน...
   “ไปเข้าห้องน้ำมา  นอนๆ”ผมไล่แล้วหลับตา...  พรุ่งนี้ผมยังต้องทำหน้าที่อีกหลายอย่าง...

   วันทั้งวันไม่มีอะไรมากครับ  รอบนี้เป็นเข้าฐานกิจกรรมแบบให้ความรู้เกี่ยวกับคณะจิตวิทยา  ว่าแต่ละเอกเป็นยังไงบ้าง...  ซึ่งเอกผม... พี่จ๊าดเป็นคนดูแลครับ...ตามด้วยผองเพื่อนที่ผมคุ้นหน้ากับพี่ๆปี3อีกสี่ห้าคน...  เป็นฐานที่ใช้คนเยอะมาก  เพราะทุกคนนอกจากพี่เลี้ยงกับพี่เนียน  ทุกคนไปตามเอกของตัวเองหมด...   ซึ่งคณะจิตวิทยามีแค่สี่เอกครับคณะผมน่ะ...   หลังจากนั้นก็เป็นพิธีบายศรีครับ  คือภาพสวยมากอ่ะ  ผมคิดถึงตอนบายศรีรุ่นแล้วน้ำตาจะไหล  ซึ้งอ่ะครับ  ไม่คิดว่าจะได้อยู่ที่นี้มาตั้งสองปี  เหมือนผมเพิ่งรู้ผลสอบเมื่อวานนี้เอง 
   “เอาล่ะค่ะน้องๆ...  เข้าฐานวันนี้เป็นยังไงบ้าง...  สนุกมั๊ยเอ่ย?!!”เสียงMC  คือมีไอ้ดุ๊กด๊กกับไอ้ตูมตามอ่ะครับ  ทั้งคู่เลย  เข้าขากันดี โดนโหวตให้เป็นพิธีกรในงานเลย...   มันตะโกนถามน้องก่อนจะได้ยินเสียงตอบรับกลับ
   “สนุกมากกกก”โอเคครับ... ผมฟังแล้วปลื้ม  ฮาๆๆๆ  ถามว่ากิจกรรมต่อไปนี้คืออะไร...  คือมันเป็นกิจกรรมเดียวที่ผมรอจากทั้งสามวันอ่ะครับ...
   “งั้นไปเหนื่อยก่อนนอนกัน! คอนเสิร์ตจากพี่ๆค่ะ”
   “สวัสดีครับน้องๆ...  พี่ชื่อทรัมเปตนะครับ...  ร้องนำครับ  พี่โอ๋กีต้าร์  พี่เบสมือเบสครับ และพี่ธันเดอร์  มือกลองครับ”ผมส่งเสียงไปกับทุกคน  ไอ้อลันลากผมไปยืนอยู่หน้าเวที...
   “งั้นเราไปฟังเพลงแรกกัน...  รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง...”แค่เพลงแรกก็มันส์แล้วครับ  ผมกับอลันเกาะแล้วกระโดดไปพร้อมกัน...  เสียงกรี๊ดรอบตัวไม่ทำให้ผมหนวกหู  ก็นี้มันคอนเสิร์ตนี่ครับ... ไม่ได้อยู่วัดสักหน่อย!
   “รู้ว่าเหนื่อยแต่อยากได้ของที่อยู่สูง ยังไงจะขอลองดูสักที... “ผมโยกหัวแบบเมามันส์เลยครับ  พอถึงท่อนฮุก  พวกเราก็พร้อมใจกันร้องเสียงดัง
   “ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที!!!  ไม่ว่ายังไงจะลองดี... สักวัน!! อยากรักก็ต้องเสี่ยง ไม่อยากให้เธอเป็นเพียงภาพในความฝัน...”ผมทั้งร้องทั้งเต้น  โดยมีอลันจับมือแล้วกระโดดไปพร้อมกัน  มันส์มากครับบอกได้เลย... 
   “เพลงต่อไปครับ!! เห็นเธอเดินมาไกลๆ ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร  หน้าเธอสวย... ที่สุดเลย  ท่ามกลางผู้คนมากมาย  สายตาเธอเป็นประกาย  อย่างนางฟ้า... อยู่ตรงนี้”ผมร้องตามครับ  เพลงไปเรื่อยๆ  ผมก็มันส์ไม่หยุด  จนเริ่มเปลี่ยนมาเป็นเพลงช้า...  ไอ้อลันเอื้อมมือมาโอบไหล่แล้วโยกตัวเราไปพร้อมกัน...    ผมเลยเอื้อมไปโอบมันบ้าง...  สนุกมากครับ...
   “อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้ บอกที... อีกไกลแค่ไหนจนกว่าเธอจะรักฉัน เสียที...”ผมร้องคลอไปเรื่อยๆ  ไอ้อลันก็ร้องครับ  ผมถ่ายรูปคู่กะมันไปเยอะเหมือนกัน  อย่าถามถึงคนอื่นครับ  หายไปไหนหมดไม่รู้...  สักพักหนึ่งเราก็ออกมานั่งด้านนอกครับ...  เหนื่อยจริงอะไรจริง...  มาขอน้ำกินครับแล้วก็นั่งถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย...  อัพอินตราแกรมสักหน่อยกำลังดี...
   หลังจากนั้นอีกประมาณ หนึ่งชั่วโมง  พี่ก็ปล่อยไปนอนครับ  เบ็ดเสร็จคืนนี้เราได้นอนกันเกือบๆตีหนึ่งครับ  เพราะกว่าจะคุยการแสดงอีก  เลยนอนดึกโดยปริยาย  แต่ก็ไม่ใช่แค่กลุ่มเรานะครับ  เป็นทุกกลุ่มอ่ะครับ  นอนพอกัน

   เช้าแล้วครับ  พวกเราอาบน้ำเก็บกระเป๋าก่อนจะไปรวมตัวกันเพื่อกินอาหารเช้าและแสดงละคร...  ข้าวเช้ามือนี้ไม่มีอะไรพิสดารแล้วครับ  ส่วนผมกับอลันพยายามท่องบทอยู่และที่สำคัญคือต้องทำใจกับจุดไคลแมกซ์เรื่องที่ผมโคตรอาย  สาบานได้ว่าเพื่อนผมล้อกันไปอีกสามชาติสี่ชาติแหงๆ...    แล้วมันดันมีสองอันด้วยนะ...  เพราะกิ่งดันเห็นเมื่อวานที่คอนเสิร์ตพอดี...  เจ็บตัวสิครับผม...
   “รอฉันรอเธออยู่  แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด  เธอจะมา เธอจะมาเมื่อใด นัดกันไว้ทำไมไม่มา...”พี่ๆก็ร้องเพลงรอครับ  พวกเราได้เวลาสิบนาทีในการเตรียมการแสดงให้พร้อมทุกกลุ่ม  ดูสภาพแล้วจัดเต็มทุกกลุ่มครับ... 
   “ตะละบุม บุ่มบุ้ม โอ้แม่เนื้อนุ่มบัวบาน  พี่คอยคำนึงคิดถึงเธอตั้งนาน โอแม่ตาหวานอย่าปล่อยให้ฉันงวยงง…..  แม่ดอกเอ๋ย แม่ดอกจำปา... ขอเชิญกลุ่มกาออกมาแสดง...”ผมตบมือครับ  กลุ่มกาก็พากันเดินออกไป...   กลุ่มนี้ล้อเลียนละครเรื่องคุณชายรัชชานนท์จากซีรีย์สุภาพบุรุษจุฑาเทพ  ก็สนุกสนานกันไปครับ...  จากนั้นก็ได้เวลาลุ้นอีกครั้งหนึ่ง  ตื่นเต้นอ่ะให้ตายเถอะ...
   “ตะละบุม บุ่มบุ้ม โอ้แม่เนื้อนุ่มบัวบาน  พี่คอยคำนึงคิดถึงเธอตั้งนาน โอแม่ตาหวานอย่าปล่อยให้ฉันงวยงง…..  แม่ดอกเอ๋ย แม่ดอกจำปี... ขอเชิญกลุ่มนกอินทรีย์... นั่งดูกลุ่มนกกาเหว่าแสดง...”เอ่อ...  นึกว่าจะรอด  เห็นลงด้วยจำปี  ใครแม่งคิดมุขนี้  ผมจะไปเตะมัน! ฮึย!
   “น้องคะ...  มาลงทะเบียนตรงนี้เลยค่ะ”เสียงโอปอที่เล่นเป็นรุ่นพี่บอกให้ผมเริ่มแสดง...  ผมเดินไปลงทะเบียนก่อนจะชนกับอลันตามบท  อลันดึงแขนผมให้ลุกขึ้นแล้วเดินไปลงทะเบียนด้วยกัน...
   “เฮ้ย! นายอยู่บ้านเดียวกับเราเลย...  เฮ้ย! ไปไหน”ผมวิ่งออกมาตามบท  คือตอนนั้นผมต้องไปเข้าห้องน้ำอ่ะครับ  ผมวิ่งไปหลบหลังเสาพร้อมกับไอ้พี่ขวัญทำหน้าที่เปิดซาวด์เสียงเปิดประตูกับเสียงชักโครกในห้องน้ำให้... เพื่อนก็หัวเราะกันใหญ่อ่ะครับ  ผมกลับมาอีกที ก็ฉากที่ทุกคนนั่งกันอยู่ มีโอปอทำหน้าที่เป็นรุ่นพี่ยืนข้างหน้า  ผมแกล้งทำชะเง้อคอมองก่อนจะวิ่งแบบย่องๆไปต่อท้ายไอ้อลัน...  จากนั้นก็ตัดไปฉากที่ผมโดนทำโทษให้โดนปะแป้ง  ตลอดอ่ะครับ  โดนแป้งเต็มๆอีกครั้ง  พอเดินเข้ามาอลันก็ช่วยปัดแป้งออกให้  มีเสียงกรี๊ดดังกระหึ่มจากน้องๆผู้หญิงที่นั่งดูอยู่...  แล้วก็ตัดไปที่ฉากโดนทำโทษ  คือนี้มันฉากประทำใจรุ่นพี่หรือประทับใจสาววายกันแน่ครับ  แต่ละฉากนี้มัน...  ส่อมาก...  ผมก็เดินลากไปล่ะครับ...  แล้วก็พล็อตประโยคเดิมๆ  ผมก็ยืนนิ่งเหมือนเดิมจนมันกอด...
   “แก้มหอมดีนะ...”มันกระซิบแทนคำว่ารักแล้วเลื่อนปากที่ควรจะอยู่ตรงคอมาอยู่ตรงแก้มผมแทน  เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มกว่าเดิม  แต่ผมเหมือนไม่ได้สติ  จนอลันเดินมาดึงมือผมออกไป... 
   ฉากต่อมาเป็นฐานของวันที่สอง  ก็มีอลันโดนแกล้งนิดหน่อยกับพูดความรู้สั้นๆเหมือนสรุปอีกที...  แล้วก็ตัดมาจนถึงคอนเสิร์ต  ที่กิ่ง โอปอและลัลช่วยกันเสนอให้มันหวานๆ  พี่ขวัญเพลงแบบเมื่อคืน...  พวกเราก็พากันเต้นไป  สักพักอลันก็เอื้อมมาจับมือผมตามบท... แล้วมองหน้าผม...  สักสามสิบวินาที  อลันก็เปลี่ยนมาโอบไหล่แล้วกระโดดพร้อมกันกับผม...  สาบานได้ว่าตอนที่เต้นเมื่อคืนผมไม่ได้คิดอะไร...  แต่ตอนนี้ที่ต้องมาทำเฉยๆ  มันโคตรอายเลย  จริงๆนะ...
   “ถ่ายรูปกัน...”ผมต้องชวนตามบท  เราทำเป็นถ่ายรูป แบบแก้มแนบแก้ม  ชิด  สนิท...  จนผมหน้าแดง  เห็นจากกล้องอ่ะครับ  ยอมรับเลยว่าอายมาก
   “เฮ้ย! ดราฟหน้าแดง!”ไอ้เพื่อนกลุ่มบ้านหนูนา  คือมันเป็นพี่เนียนอ่ะครับ  หลังจากมันพูดจบ  เสียงกรี๊ดยิ่งดังเข้าไปใหญ่...  จอคอนเสิร์ตจบ  โอปอก็เดินมาตรงหน้า  กลุ่มนกกาเหว่า  ทำการขอบคุณรุ่นพี่...  สาม... สี่!”
   “วันนี้วันดี  ฉันนั้นสุขีมาเจอเพื่อนใหม่  นี้กลุ่มของฉัน นี้กลุ่มของฉัน  กลุ่มนกกาเหว่า  ฉันไม่หงอยเหงา ฉันแสนสบาย...  ฉันชอบนั่งเล่นนอนเล่นวิ่งเล่น...  ถ้าไม่ยากเย็น เล่นขี้ด้วยกะด้ายยยยย!!!”พวกเราร่วมกันร้องเพลงพร้อมกับท่ากวนๆ  เพลงนี้เป็นเพลงประจำกลุ่มครับ  เราต้องมาคิดเพลงคิดท่ากลุ่ม...  ออกมาให้โดนที่สุดอ่ะครับ...
   “อ๊ายยยย   ฟินที่สุดค้า!!!”เสียงกรี๊ดจากในกลุ่มเด็กผู้หญิงทำผมเขิน...  บ้าจริง... ให้เล่นแบบนี้ใครจะไม่เขิน  หรือคุณว่าไม่จริง...?
   การแสดงของทุกกลุ่มก็ผ่านไปครับ  ตอนนี้พวกเรานั่งกันเป็นกลุ่ม...  พี่MCก็ยืนรออยู่ด้านหน้า...  เอาล่ะครับ  เวลาเฉลยมาถึงล่ะ  ผมตื่นเต้นมากเลยให้ตายสิ  กลัวน้องโกรธด้วย  กลัวไปหมดทุกอย่างเลย...
   “น้องๆคะ...  น้องอาจจะไม่รู้...  แต่พี่จะบอกให้น้องรู้  เอ๊ะ! ยังไงล่ะเนี่ย  ฮาๆ”ไอ้ดุ๊กดิ๊กเล่นมุขครับ   ตูมตามมองแบบแหยงๆทำให้น้องหัวเราะ...
   “เอาเป็นว่าพี่อยากให้น้องทุกคนหลับตาลงนะคะ  อย่าลืมตาจนกว่าพี่จะบอก...”ไอ้ดุ๊กดิ๊กบอก...  น้องๆทุกคนหลับตาครับ  ผมก็แกล้งหลับด้วย
   “ออกมาได้เลยครับ”เสียงตูมตามส่งสัญญาณให้พี่เนียนทุกคนออกไปด้านหน้า...  เราโดนปิดตาครับ  พวกมึงจะเล่นอะร๊ายยยยย...  ไม่นัดแนะกันเลย... แต่ทำไงได้ครับ  ตามน้ำสถานเดียว และคาดว่าพี่เนียนคนอื่นๆก็คงไม่รู้ด้วยเช่นกัน...
   “น้องๆลืมตาได้แล้วครับ...”เสียงตูมตามบอก  ผมไม่เห็นอะไรครับ  อยากจะร้องไห้  กลัวอ่ะ  พวกมันจะทำอะไรกับผม...
   “เพื่อนๆที่อยู่ตรงหน้าน้องตอนนี้...  เขาทำผิดกฎค่ายครับ”เสียงไอ้ตูมตามดังแบบดุๆ
   “พวกเขาไม่มีสิทธิมาเข้าค่ายนี้ตั้งแต่แรก  น้องรู้มั๊ยคะว่าเพราะอะไร...”ไอ้ดุ๊กดิ๊กช่วยพูด  น้ำเสียงมันนี่น้า...  ผมเป็นน้องผมคงดราม่าอ่ะ
   “เพราะพวกเขาเป็นพี่ๆปี2จากคณะจิตวิทยาค่า!!!”ไอ้ดุ๊กดิ๊กเฉลยเสียงใส  มีเสียงฮือฮาดังอยู่พักใหญ่ก่อนจะซาลง...
   “แล้วพวกที่ผิดกฎเนี่ย  พี่ก็จะลงโทษครับ  เอาล่ะ  น้องๆออกมารับแป้งได้เลยครับ...”เชี่ย! เล่นกูแล้วไง!! ผมใจหายวาบเมื่อมีมือมาป้ายแป้งที่หน้าผม...
   “เนียนนะครับพี่ดราฟ...”เสียงแรกเสียงเอกครับผมจำได้ 
   “พี่ปี2แต่หน้าเด็กกว่าเราอีก  อิจฉานะ”ป้ายมาเต็มๆครับ  เสียงนี้เสียงส้มครับผมจำได้  จากนั้นก็ตามมาด้วยกิ่ง ลัลและโอปอครับ
   “พี่...ดราฟเหรอ...  รอผมก่อนนะครับ”เสียงอลัน...  ผมจำได้  เสียงเขาจะนุ่มแบบนี้เสมอ  หลังจากที่เราโดนทำโทษไปครบทุกคน  ไอ้ตูมตามก็เดินมาเปิดตาให้...  แป้งร่วงกราวเลยครับ...
   “เราให้น้องพูดไปแล้ว...  งั้นทีนี้เรามาให้พี่ของเราพูดบ้างดีกว่าเนอะ...  อยู่กันมาตั้งสามวันสองคืนแหนะ...  รู้สึกยังไงกับน้องๆบ้างเอ่ย...”ไอ้ดุ๊กดิ๊กยื่นไมค์ให้แนท
   “พี่ก็รู้สึกยินดีมากเลยนะ  ที่ได้รับหน้าที่นี้  มันทำให้พี่รู้สึกว่าพี่ได้ย้อนวัยไปสองสามปี  อยู่กับน้องๆสนุกมากเลยครับ  ทุกคนดีกับพี่มากเลย  พี่จะไม่ลืมพวกเราเลยครับ”ไอ้แนทซูดน้ำมูกก่อนจะยื่นไมค์ต่อให้ผม...
   “น้องสนุก  พี่ก็สนุกครับ...  ขอบคุณที่ไม่โกรธที่พี่แกล้งพวกเรา  ถึงตอนนี้พี่จะเป็นพี่  แต่ยังไงพี่ก็ของจำพวกเราไว้เป็นเพื่อนแล้วกันนะครับ”ผมส่งไมค์ต่อให้คนข้างๆทันที...  น้ำตาคลอเหมือนกันครับ  ทนไม่ได้  เรื่องมันเศร้า...
   หลังจากนั้นเราก็แลกกันเขียนสมุดครับ  เหมือนเฟรนชิปค่ายอะไรประมาณนี้...   ผมก้เขียนไปให้หลายคนนะครับ  แล้วสุดท้ายผมก็หันไปหาอลัน...
   “อลัน  เอาสมุดมาดิ...”ผมเรียกหา  มันส่งสมุดมันมาให้พร้อมกับผมที่ส่งสมุดผมไปให้มัน  ผมคิดอยู่สักพักแล้วจรดปากกาลงไป...
   ‘รออยู่นะ...   ดราฟกลุ่มนกกาเหว่า’ 

   ค่ายจบไปเทอมหนึ่งแล้ว...  ตอนนี้เป็นช่วงน้องปีหนึ่งเฟรชชี่กำลังมาโดนรับน้อง  ส่วนผมก็ขึ้นปีสามแล้วครับ...  ผมเดินไปดูที่ๆเดิม...  ไม่เข้าใจเหมือนกัน...  แต่ผมกลับคิดถึงไอ้เพื่อนสนิทของผม...  ทำไงก็ไม่ลืมมันสักที...  แล้วที่มันให้รอ...  เมื่อไรมันจะกลับมานะ...  ผมส่ายหัว... คิดบ้าอะไรวะไอ้ดราฟ  จบค่ายจบเรื่องแล้วเว้ย!!
   “ไอ้เหี้ยดราฟ  มารอน้องคนนั้นเหรอวะ  ทำไม... คิดถึง?”พี่เดินทางมันเดินมากอดคอผม...  ผมหันไปชูนิ้วกลางให้มันก่อนจะผลักมันออก
   “ไปอยู่กับเมียมึงเลยไอ้สัด”ผมไล่มัน...  ก่อนจะเดินไปนั่งที่ตึกใต้คณะ...  ระหว่างที่ผมนั่งก้มหน้า  เท้าของใครคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในระยะสายตา...  ผมไม่สนใจจนผ่านไปเกือบห้านาที  เท้านั้นยังไม่ขยับไปไหน...
   “ยืนค้างหาพ...  อลัน”ผมช็อคค้าง...  ไอ้อลันในชุดนักศึกษามหา’ลัยเดียวกับผม  และจากไทด์ทำให้ผมรู้ว่ามันอยู่คณะจิตวิทยาด้วย...
   “รออยู่รึเปล่าครับดราฟ...”มันถามพร้อมกับนั่งลงตรงหน้าผม...
   “มั่วแต่ไปตั้งใจเรียน  ดันมีเป้าหมายเลยต้องตั้งใจเรียนหน่อย  กลับมาหาแล้วนะครับ”ผมลูบหน้าผม ก่อนจะคุกเข่าลง...
   “เทอมที่แล้วพูดไปไม่ครบ...  ดราฟครับ  ผมชอบดราฟจริงๆตั้งแต่วันแรก...  ผมดีใจมากที่ได้คุยได้เต้นได้แสดงละครร่วมกับดราฟ...  ไม่ว่าดราฟจะเป็นพี่หรือเพื่อน...  ดราฟช่วยฟังคำๆนี้ของผมได้มั๊ยครับ...”ผมมองคนตรงหน้าทั้งช็อคทั้งอึ้งเลยครับ  มันกำลังทำผมเขินนะ(?)
   “ผมรักดราฟ...   คบกับผมได้มั๊ยครับ”ผมยิ้ม... มันยิ้ม...  แล้วผมก็ก้มลงไปกระซิบข้างหูมัน...
   “รอมาจนถึงตอนนี้  กลับมาที่เดิมทุกวัน...  ยังต้องให้ตอบอีกเหรอว่าผมจะตอบอะไรน่ะ”ผมยิ้ม...  แล้วมันก็ยิ้มกว้างขึ้นก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอด...
   “รักนะครับ...  รักจริงๆนะ...  รักตั้งแต่แรกเห็นเลย”ผมหัวเราะเบาๆก่อนจะให้มันขึ้นมานั่งข้างๆ...
   “วิ้วๆ...  เพื่อนกูขายออกแล้วเว้ย!!!”ไอ้เดินทางเดินจูงมือมากับไอ้หยุดนิ่ง...  มันนั่งลงตรงข้ามผม... 
   “อร๊ายยยยย!!!!  สาววายโคตรฟินค่ะ!!!!!”ผมหันขวับไปมอง...  น้องสาววาย...  ตกลงสอบเข้ามาจริงๆใช่มั๊ยเนี่ย...!!!!!


----------------------------------------------------------------------------------

จบแล้ววววว...  ช่างน่ารักน่าชังจริงๆ  อยากแต่งเรื่องค่ายมานานล่ะ...  แต่จะเอาน้องค่ายมารักกันมันไม่สนุกพอ...  พี่เนียนเลยบังเกิด... คริคริ :hao7:

มาวางชื่อเรื่องต่อไป (มีพล็อตแล้วครับผม)

"สิ่งที่คนหน้าตา(ไม่)ดี ไม่มีวันเข้าใจ"

ขอเวลาไม่เกินหนึ่งอาทิตย์จะพยายามปั่นมาลงครับ
+1แล้วขอตัวนี้ให้ด้วย  ดูยังไงก็ชอบ >>   :z13:

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
รักกันแล้วเว้ย  ขำสาววายคนนั้นอ่ะฮ่าฮ่า  ให้คนแต่งจ้า:z13:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เรื่องนี้ก็น่ารักนะ มารอตอนต่อไปค่ะ :mew3:

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
น่ารักมากกกก>////<
ขอเก็บดราฟกะอลันกลับบ้านได้ป่ะ^^

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ชอบเรื่องพี่เนียนมากเลย หวานมาก แต่เรื่องสนุกทุกตอนนะ :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                        สิ่งที่คนหน้าตา(ไม่)ดีไม่มีวันเข้าใจ

      ผมแอบมองเขาตั้งแต่วันแรก...  เขาตัวอ้วนๆ  ดูน่าฟัด...  ผิวคล้ำๆกับหน้าตาที่ไม่ได้ดูดีมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับแย่  เรียกว่าเขาเป็นผู้ชายธรรมดาๆ แต่สิ่งที่ผมชอบเขา...   นิสัยที่น่ารักของเขา...  ผมชอบที่เขาซื้อลูกชิ้นให้หมาแทบจะทุกวัน  บางครั้งถ้ามีคนชรารอข้ามถนน  เขาจะวิ่งเข้าไปช่วยอย่างเต็มใจ...  เขาทำให้ผมหลงรักเขา... ที่นิสัยของเขา...  ผมตามสืบเรื่องของเขามานาน  ชื่อของเขาคือ ‘ค้อน’  อยู่ปี1 คณะรัฐศาสตร์  มีพี่น้องอีกสองคนชื่อขวานกับเลื่อย  ชอบกินอาหารที่ประกอบด้วยปลาหมึกทุกชนิด  ไม่ชอบมะเขือเทศ  และอีกมากมายยันแผนที่บ้าน...
“เฮ้ย! กระดาษเดือนจิตวิทยามองมาโต๊ะเราว่ะ”เสียงกระซิบจากเพื่อนของเขาทำให้ผมหลุดจากพวังค์ที่ผมแอบมองเขามานานพอสมควร...  เขาหันมามองผมแล้วหันไปพูดคุยเบาๆ
“มองโต๊ะถัดไปจากเรารึเปล่า  ดาวเศรษฐาสตร์น่ะ  เขาไม่มองคนหน้าตาบ้านๆอย่างพวกเราหรอก...”ผมแทบจะโผไปหาเขา...  ถ้าไม่ติดว่าแฟนคลับผมกำลังนั่งจ้องอยู่...  ถ้าผมไปหาเขา  นอกจากจะเขาจะโดนเขม่นแล้ว...  เขาอาจจะไม่กล้าพูดกับผมก็ได้...
‘Profile ที่ขึ้นรูปนี้ ก็อยากมีคนกดไลค์
ให้แชร์กันไป แต่ไม่มีใคร เสียดายตัวเราไม่หล่อ
ดูเธอในแต่ละวัน มีคนคุยด้วยมากมาย
ไอ้คนหล่อๆเธอคุยกระจาย ฉันทำได้แค่เฝ้ามอง

ความสุขแบบคนหน้าตาดีๆ มันเปนเช่นนี้จะได้รู้เอาไว้
แต่มีบางอันที่ เธอไม่มีวันเข้าใจ

ฉันว่านั่นคือหนึ่งคือเธอไม่เคยง้อขอใครให¬้มอง
อย่างที่สองคงไม่ถูกทิ้งให้เป็นตัวสำรองขอ¬งใครก็ตาม
อย่างที่สามเธอคงไม่คิดถึงใคร จนเก็บไว้ไปฝันละเมอ
สี่คือรักที่มักถูกล้อว่าคงไม่เจอ ... ถ้าเธอหน้าตาไม่ดี’
เสียงเพลงจากลำโพงของโรงอาหารเปิดเพลงที่ผมชอบมันพอสมควร  ชื่อเพลงคือ ‘สิ่งที่คนหน้าตาดีไม่มีวันเข้าใจ’ ของเสือโคร่ง ที่ร้องเพลงรถของเล่นนั่นแหละครับ...  แต่ผมอยากเปลี่ยนคือเพลงเป็นสิ่งที่คนหน้าตาไม่ดีไม่มีวันเข้าใจเหลือเกิน...  ได้แต่มอง...  ไม่กล้าเข้าไปคุย  โอ๊ย!สารพัดสารเพ...
“ไอ้กระดาษ...  มานั่งเหงาอะไรคนเดียว ฮึ!”เสียงพี่รหัสผม...  พี่อลันครับ  พี่อลันมีแฟนอยู่ปี4ชื่อพี่ดราฟ  อย่าแปลกใจว่าทำไมถึงชื่อเหมือนผู้ชาย  แฟนพี่อลันเป็นผู้ชายครับ...  ผมส่ายหน้าแล้วคนแก้วชานมเย็นของโปรดของคนที่ผมแอบมองอยู่... 
“แล้วนี่ไม่กิน?”พี่อลันชี้มาที่แก้วชานม 
“กินพี่กิน...  หิวนักก็ไปอ้อนพี่ดราฟดิ วู้!”ผมรีบดูดแก้วชานมจนหมด 
“ไอ้ขี้หวง  ดราฟมันเตรียมทำโปรเจกค์จบ  พี่ไม่อยากไปกวน”พี่อลันดันหัวผมเบาๆ...  ผมลุกขึ้น  อีก 5 นาทีจะได้เวลาเข้าเรียน... 
“งั้นผมไปก่อนนะพี่...  อ่ะนี่น้ำ”ผมดันแก้วให้พี่อลันก่อนจะเผ่นออกมา
“มีแต่น้ำแข็ง  ไอ้น้องรหัสเฮงซวย!”ผมหัวเราะกับเสียงด่าที่ไล่ตามหลังมา...    แกล้งนิดหน่อยพอให้หายเครียด...  ผมหยิบโทรศัพท์ล็อคอินเข้าเฟสบุ๊ค  เสิร์จหาคนๆหนึ่ง...
‘เรียนอีกแล้ว  เหนื่อยเว้ย!’ผมหัวเราะกับโพสล่าสุดของเขา...  เมื่อห้านาทีที่ผ่านมา...
‘ไม่ไหวกับหนังสือแล้ว  ลาตายก่อนน้า’ประกอบกับรูปกองหนังสือมีคนตัวอ้วนนอนหลับตาอยู่ด้านหลัง  ผมเซฟภาพนั้นแล้วเอามาตั้งเป็นภาพจอไอโฟนของผม...   

สองชั่วโมงผ่านไปไวเล็กน้อย  ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะแบกเป้เตรียมกลับหอ...  ระหว่างทางผมหยุดยืนรอที่เดิม...  เขากำลังยื่นลูกชิ้นให้หมาน้อย...  มันก้มลงกินแล้วสะบัดหางไปมา...  ผมมองภาพตรงหน้าก่อนจะรอจนเขาเดินจากไป...  บางทีการมองคนๆหนึ่งทำอะไรมันก็มีความสุขดีเหมือนกัน...  ผมวนรถจากลานจอดรถเพื่อจะออกไปที่หอ... 
เอี๊ยด!
ผมเบรกรถระหว่างที่กลังจะเลี้ยวโค้ง  หมาตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถผม... ด้วยความที่ผมกลัวมันตาย  ผมเลยยอมเสียเวลาลงจากรถไปดู  คงเป็นโชคดีของมันที่มันเข้าไปใต้ท้องรถพอดี  แต่ด้วยความที่มันตัวเล็กทำให้ไม่โดนอะไรใต้ท้องรถผม  และผมก็จำได้...  มันเป็นตัวเดียวกับที่ค้อนชอบเอาลูกชิ้นให้กินทุกวัน  ผมอุ้มมันออกมาก่อนจะปล่อยไว้ข้างทาง...  แต่ตอนที่ผมจะก้าวขึ้นรถ  มันกลับวิ่งมานั่งบนเบาะรถของผม  และไม่ยอมลงไปเสียด้วย
“อยากไปกับฉัน?”ผมถาม  มันแลบลิ้นแผลบๆไม่ตอบ...  ผมหัวเราะก่อนจะก้าวขึ้นรถ...  เอาเถอะ  ผมอาจจะใช้มันเป็นข้ออ้างคุยกับเขาบ้างก็ได้
โชคดีที่หอผมอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงได้  แต่ต้องห้ามทำเสียงดัง  หรือออกมาเพ่นพ่านสร้างความวุ่นวายให้คนอื่น  รวมถึงกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆที่จะออกมาด้วย... ซึ่งผมก็มั่นใจว่าผมจะไม่ทำผิดกฎข้อไหนแน่ๆ... 
“หมาน้อย...  ชื่ออะไรดีน้า... หืม...”ผมลูบหัวมันหลังจากที่แบกเจ้าหมาน้อยขึ้นมาบนตึกเรียบร้อย...  มันแลบลิ้นน้ำลายไหล  จ้องผมตาแป๋ว...
“ชื่อ...  กรรไกร...  ดีมั๊ยเจ้ากรรไกร...  ค้อน กระดาษ  กรรไกร  มาเป่ายิ้งฉุบกันดีกว่า ฮะๆๆ”ดูท่าเจ้าหมาน้อยกรรไกรจะพอใจกับชื่อใหม่ไม่น้อย...  มันกระโดดมานั่งตักผมก่อนจะเอาจมูกดุดๆที่มือผมให้ลูบหัวมันเล่นเรื่อยๆ...

ผมตื่นเช้ามา...  วันนี้วันเสาร์  ผมจะไปหาเงินใช้  ที่จริงพ่อก็ส่งเงินให้ผมทุกเดือน  แต่ผมอยากหาเงินใช้เองบ้าง...  ผมอุ้มเจ้ากรรไกรไว้  ก่อนจะแบกกีต้าร์คู่ใจ ล็อคกุญแจห้อง  แล้วเดินลงไปที่รถมาสด้าสีเขียวคันโปรด...  เราหนึ่งคนกับหนึ่งตัวมุ่งหน้าไปยังที่ประจำ... ‘ตลาดนัดจตุจักร’
ผมเอาเจ้ากรรไกรไปผูกไว้กับเสาใกล้ๆกับที่ผมยืน  เปิดถุงกีต้าร์  อ้ามันไว้อย่างนั้นก่อนจะเริ่มเล่นไปเรื่อยๆ... 
“โอ้!เธอเจ้าซินเดอเรล่า คอยเธอมาลั้นลั้นล้า...”เสียงเกากีต้าร์กับน้ำเสียงนุ่มๆชวนฟังทำให้หญิงสาวหลายคนหยุดยืนฟัง  แบงค์20หลายใบถูกหย่อนลงในถุงกีต้ารที่เปิดอ้าไว้... 
“โฮ่งๆๆ”ผมหยุดเล่นกีต้าร์พร้อมกับหันไปมองเจ้ากรรไกรที่พยายามจะกระโจนไปหาใครสักคน  ผมหันไปมองตาม ก่อนจะพบกับ ‘ค้อน’...  ผมแทบหน้าคะม่ำ...  ใจเต้นรัวไม่กล้าสบตา  เขาเดินออกจากฝูงชนเดินเข้าไปหาเจ้ากรรไกร...
“นายเอามันไปเลี้ยง...”เขาถาม  ผมยืนอ้ำอึ้งก่อนจะพยักหน้า...
“มันกระโดดขึ้นมาบนรถ  ฉันเลยเอาไปเลี้ยง  ฝากนายดูมันแปปล่ะกัน  ขอฉันเล่นอีกสองเพลงเดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน”ผมพูดรัวก่อนจะหันไปดีดกีต้าร์ไม่ให้ใครท้วงอีก
“ความสุขแบบคนหน้าตาไม่ดี ทำได้แค่นี้ต้องเจียมเอาไว้ นี่แหละความขมหวาน ที่เธอไม่มีวันเข้าใจ
ทำเถอะทำยังไงเธอคงไม่มองหน้าตาหยั่งงี้ จะเป็นคนดี มันคงไม่มีความหมาย...”ผมร้องเพลงเพื่อส่งให้ใครบางคน  เขาจะเข้าใจหรือเปล่า...  ผมเองก็ไม่แน่ใจ  เมื่อโน้ตสุดท้ายจบลง  ผมโค้งหัวให้คนที่ยืนล้อมวงอยู่ก่อนจะเก็บเงินที่อยู่ในกระเป๋ากีต้าร์ใส่ถุงเล็กๆเอาไว้แล้วใส่กีต้าร์เข้าไปแทนเดินไปแก้เชือกแล้วจูงเจ้ากรรไกรเอาไว้
“ไปกินข้าวกัน...”ผมพูดแล้วออกเดินนำ ไม่กล้าหันไปมองว่าอีกฝ่ายเดินตามมาหรือไม่...  จนเมื่อถึงร้านก๋วยเตี๋ยว...  ถึงได้โล่งใจว่าใครอีกคนเดินตามมา...
“เอาเล็กต้มยำครับ”ผมหันไปสั่งเฮียเจ้าของร้านก่อนจะมองหน้าคนฝั่งตรงข้าม...
“บะหมี่ต้มยำครับ”เรานั่งรอไม่นาน  ก๋วยเตี๋ยวสองชามก็มาวางอยู่ตรงหน้า...
“นายชื่ออะไร”ผมถาม  ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าคนตรงหน้าชื่ออะไร รู้แม้กระทั่งที่อยู่ของเขา...
“ชื่อค้อน  นายชื่อกระดาษเดือนจิตวิทยาใช่มั๊ย”เขาถามกลับมา  ผมหัวเราะรู้สึกดีที่เขารู้จักชื่อผมแม้จะในฐานะเดือนคณะก็ตาม...
“ดีใจจังที่นายรู้จัก...”ผมยิ้ม...  เขาหลบตาก่อนจะจัดการบะหมี่ในชามตัวเอง... 
“ว่าแต่...  นายรู้จักเจ้ากรรไกร?”ผมถาม...  จริงๆแค่อยากหาเรื่องคุย  คำตอบผมรู้มาตั้งนานแล้วล่ะ...
“ก็เจอมันบ่อยๆแถวหลังคณะ...  มันชอบมารอลูกชิ้น...  วันนี้ไปหามันไม่เจอ...”ค้อนบอกเสียงเศร้าก่อนจะโยนลูกชิ้นให้เจ้ากรรไกร...
“ขอโทษนะ...”ผมก้มหน้าสำนึกผิด... เพราะผมเอามันมา  ทำให้ค้อนต้องกังวลใจ
“ไม่เป็นไรๆ  แค่เป็นห่วงว่ามันจะโดนรถชนรึเปล่าแค่นั้นแหละ...  มันยิ่งเซ่อๆอยู่”ค้อนเอื้อมลงไปลูบหัวเจ้ากรรไกร
“ถ้านายคิดถึง...  ไปหามันที่หอฉันก็ได้นะ...  ห้อง307  อยู่หลังมอน่ะแหละ”ผมเสนอ  ค้อนหัวเราะก่อนจะตอบ
“โอ๊ย!ไม่เอาหรอก  ถ้าไปหานายมีหวังเช้าวันถัดมา  ฉันโดนหญิงคณะฉันรุมซักแน่ๆ”เขายังยิ้มต่อเหมือนไม่คิดอะไรแต่แววตาของเขาดูเศร้าๆจนผมรู้สึกได้...
“งั้น...  ทุกวันเสาร์ฉันต้องมาที่นี้   นายมารอฉันก็ได้  ฉันจะเอาเจ้ากรรไกรมาด้วย โอเคนะ...”ผมบอก  เขาทำท่าคิดก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ...
“เอาแบบนั้นก็ได้...  ฉันจะแวะมาหามันทุกเสาร์แล้วกัน”
เรานั่งคุยกันสักพักก่อนจะเรียกเก็บเงินค่าก๋วยเตี๋ยวสองชาม...  ผมกับค้อนยังเดินเล่นอยู่ในตลาดพักใหญ่  ได้เสื้อมาคนละตัวสองตัวพอสนุก  หลังจากนั้นเมื่อพระอาทิตย์เริ่มอ่อนแรง  เราสองคนก็ได้เวลาลากัน   ค้อนเดินมาส่งผมที่รถ  เราโบกมือลาพร้อมกับผมที่ยกขาหน้าของเจ้ากรรไกรโบกตอบคนที่อยู่นอกกระจก  ผมสตาร์ทรถก่อนจะค่อยๆออกตัว...  ไม่อยากจาก  แต่ไม่เป็นไร  อย่างน้อยอีกแค่ 6 วันผมก็จะได้เจอกับเขาอีกครั้ง
หลังจากที่กลับมาที่หอ  ผมก็จัดการให้ตัวเองและให้เจ้ากรรไกรตัวน้อยๆที่เกลือกกลิ้งอยู่บนโซฟา  มันครางหงิงๆไปตามเรื่อง...  ผมเทอาหารให้มันในจานข้าวเปิดหน้าต่างไว้เล็กๆพอให้มันเอาจมูกไปซุกดมอากาศบริสุทธิ์ได้  แต่ไม่ให้มันออกไปด้านนอก...  เพราะผมกลัวมันจะหลุดรั้วออกไปข้างนอก... คือห้องอยู่อยู่ชั้นสาม  หลุดไปก็ตกลงข้างล่างอย่างเดียว  และผมก็ไม่อยากเสี่ยงแบบนั้นซะด้วยสิ

วันเสาร์และอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว...  ผมนั่งอยู่ที่โรงอาหารที่เดิม...  พร้อมกับกลุ่มคนเดิมๆราวกับนัดกันเอาไว้  เพียงแต่คราวนี้ผมสามารถยิ้มให้ใครอีกคนในโต๊ะนั้นเห็นได้...  ค้อนยิ้มกลับมาก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนเหมือนเดิม  ผมนั่งกินผัดไทที่สั่งไว้เกือบสามสิบนาที...  และยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นจบเกือบได้เวลาเข้าคลาสเรียน  ผมเรียนไปรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง...  ตามสไตล์ชิวๆของตัวผมเอง  พอตอนเย็นก็กลับไปให้อาหารเจ้ากรรไกร  อ่านหนังสือที่เรียนไปวันนี้  แล้วก็ทำอะไรเรื่อยเปื่อย  แต่ที่ทำประจำคงจะเป็น...  เสิร์จหาบ้านของค้อนในกูเกิ้ลแมพ  มองหลังคาบ้านแล้วก็สุขใจเบาๆ...  สักวันผมจะไปอยู่ที่บ้านหลังนี้ให้ได้  สัญญากับตัวเองเลย 
แล้ววันเสาร์ก็เวียนมาอีกรอบ...  ผมเล่นกีต้าร์ไปเกือบๆสี่สิบห้านาที  คนที่ผมรอก็โผล่มาเล่นกับเจ้ากรรไกรเหมือนเดิม...  ผมเก็บเงินพร้อมกีต้าร์ก่อนจะถอดสายจูงของเจ้ากรรไกรออกจากเสา  พามันไปเดินเล่น  ผมกับค้อนเดินคู่กันไปเรื่อยๆ  เสียงหัวเราะของเขามันทำให้ผมยิ้มได้  ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราคุยเรื่องอะไรกันอยู่  เคยเป็นกันมั๊ยครับ  เวลาที่เราได้คุยกับคนที่เราแอบชอบแล้วมันจะรู้สึกเหมือนตัวลอยๆ  พอเห็นเขายิ้มเราก็จะเผลอยิ้มตามแบบไม่รู้ตัวน่ะ  ผมเพิ่งสังเกตว่าเขาสูงกว่าผมนิดหน่อย  นิดหน่อยจริงๆนะครับ  แต่อาจจะว่าเพราะผมตัวบางกว่าเยอะ  เลยทำให้ดูเหมือนเขาตัวโตไปเลย  แต่ใครจะสนล่ะ  อ้วนๆแบบนี้น่ากอดจะตาย  ฮาๆๆ
“ดาษๆ  กระดาษได้ยินผมมั๊ยเนี่ย”ค้อนส่งเสียงเรียก  ผมสะดุ้งก่อนจะหันซ้ายหันขวา  ค้อนหัวเราะน้อยๆที่ผมเหวอ 
“นายนี่ตลกดีนะ  เห็นเป๋อๆแบบนี้ฉันเริ่มไม่เชื่อแล้วสิว่านายน่ะเป็นเดือนคณะ”เขาแหย่ผม  ส่วนผมหน้ามู่ลง  ก่อนจะพึมพำคนเดียว
“ถ้าไม่ใช่เพราะนาย  ฉันไม่ลงแข่งหรอก”
“ห๊ะ! นายว่าอะไรนะ  ฉันได้ยินไม่ชัด  ขออีกทีดิ”เขาเงี่ยหูมาใกล้ๆแต่ผมก็เอามือดันออก...
“ไม่มีอะไรหน่า...  จูงเจ้ากรรไกรไปเลย  ฉันจะไปซื้ออาหารมาให้มัน  แปรงหวีขน  น้ำยาอาบน้ำ  ที่นอนอีก  สารพัดเลย”ผมโวยวาย  ทั้งๆที่ของพวกนั้นผมซื้อตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วไปหมดแล้ว  ค้อนคงสังเกตได้  เขาหัวเราะน้อยๆแล้วเอามือโยกหัวผมเหมือนผมเป็นเด็กๆ  ผมหันไปแลบลิ้นแล้วผลักอกเขาแรงๆ  แต่เขาไม่ยักเซเลยสักนิด
“ฐานมั่นคงชะมัด ฮึ!”ผมบ่น  แต่ทีนี้ค้อนกลับไปยิน  เขาหัวเราะแล้วแลบลิ้นใส่ผมบ้าง
“ผมไม่ผอมแบบใครบางคนหรอก  เห็นแล้วกลัวจะปลิวซะวัน”แล้วเขาก็แกล้งผลักผมกลับ  ทำเกือบหน้าคะมำถ้าไม่ใช่เพราะเขาช่วยล็อคตัวผมเอาไว้ได้ทันเวลา...
“เฮ้ย! โทษทีๆ  ไม่คิดว่าจะเซขนาดนี้  ตัวบางจริงอะไรจริงนะนายเนี่ย...”ผมเบ้ปากแล้วโวยวายเสียงเบา...  จากนั้นเราก็เดินไปหาของกิน  เขาก็กินน้อยดี  ไม่รู้ทำไมถึงอ้วนก็ไม่รู้สิ...  ออกจะเป็นผมด้วยซ้ำที่กินเยอะกว่าเขา...
 

ต่อข้างล่างฮับ
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-10-2013 00:02:29 โดย spy4869 »

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
(รับไม้จากข้างบน  ต่อเลยฮับ)


วันเสาร์ผ่านไปสี่ครั้ง  เป็นสี่ครั้งที่เราเจอกันที่เดิม  ทำอะไรเดิมๆ  และผมก็ยังรู้สึกดีทุกครั้งไป  ตอนนี้ค้อนไม่เกร็งกับผมแล้ว  เขาเล่นหัวกับผมได้อย่างปกติ  และผมก็รู้อีกอย่างหนึ่งว่า...  ค้อนยิ้มได้สดใสจริงๆ  โดยเฉพาะเวลาที่เขายิ้มให้ผม...
“ค้อนๆ  คืนนี้ไปกินเหล้ากัน”ผมชวน...  ค้อนคิดก่อนจะพยักหน้า...  ผมไม่พาไปไหนไกล  ร้านเหล้านี้อยู่หลังมอ  ใกล้ๆหอพักผม...  ผมเอาเจ้ากรรไกรขึ้นไปเก็บบนห้องก่อนจะเดินลงมาอีกครั้ง  ค้อนยืนรออยู่  เราสองคนเดินไปที่ร้านเหล้า  ส่วนหน้าที่สั่งผมให้ค้อนจัดการ  จากนั้นเบลน285 พร้อมมิกซ์อีกบานก็ถูกลำเลียงลงตรงหน้า  ผมสองคนกินไปคุยไป... และก็คงไม่พ้น
“ค้อนแข่งกัน...  ใครเมาก่อนแพ้!”ผมท้า  ซึ่งค้อนที่กรึ่มๆตอนนี้ก็ไม่ปฏิเสธ  แก้วแรก แก้วสอง สาม สี่ ห้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว  ทั้งผมทั้งค้อนต่างโงนเงน  แต่ไม่มีใครยอมใคร...   ผ่านไปแก้วเดียว...  แต่หลายครั้งพอสมควร  คนร่างหนาก็ฟุบลงไปก่อน  ผมหัวเราะแล้วเรียกเก็บเงิน   แม้จะเป๋...  แต่ผมก็ยังรู้ผิดชอบอยู่...  ผมแบกร่างหนาที่เกือบทับผมตาย  ปกติผมจะเดินขึ้นบันได แต่วันนี้ขอเถอะ...  ถ้าไม่พึ่งลิฟท์ผมคงสลบตั้งแต่บันไดขั้นสาม  พอได้มาแบกมัน ถึงได้รู้ว่ามันตัวใหญ่และก็หนักเอาการ...  แขนกับขาผมสั่น  เกือบจะล้มอยู่หลายครั้งหลายครา  แต่สุดท้ายก็อดทนแบกมันเข้าห้องมาได้จนสำเร็จ...  ผมไล่เจ้ากรรไกรไปอยู่ในห้องน้ำไม่ให้มันมาวุ่นวายก่อนจะเปลี่ยนชุดให้ตัวเองที่เต็มไปด้วยเหงื่อ  ห้องดูหมุนๆพอๆกับใจเต้นแรง...  ผมได้อยู่กับคนที่ผมชอบ  เขานอนอยู่บนเตียงของผม  เราอยู่ในห้องเดียวกัน...  ผมหัวเราะให้กับความคิดเพ้อๆ  ก่อนจะนอนลงข้างๆ  คิดว่าเขาคงไม่คิดอะไรมากถ้าตื่นขึ้นมาแล้ว...
“อือ...”ผมอึดอัด  มันรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างทับอยู่บนตัวผม 
“เฮ้ย!ค้อน”ผมลืมตาตื่นเต็มตา  ค้อนกำลังทับอยู่บนตัวผม...  สองมือกำลังเลิกเสื้อผมให้สูงขึ้น  ผมยกมือขึ้นดันคนตัวใหญ่  แต่นั่นแหละ  ใครมันจะไปดันไหวล่ะ!
“ค้อน ตื่นๆ  ค้อนนนน!!!!  โว้ย! ทำอะไรวะเนี่ย”ผมโวยวายเมื่อคนด้านบนไม่ยุ่งกับเสื้อผมแต่กำลังถอดกางเกงผมออกแทน 
“ค้อน...  ไม่เล่นแล้วนะ  พอให้พอไง  ไม่เอานะ...  แบบนี้ไม่เอา  เมาแล้วอย่าเลื้อยดิ”ผมส่ายหน้าหนีริมฝีปากที่พยายามก้มลงมา  ยิ่งผมหันหน้าหนี  คอที่ว่างก็ถูกอีกฝ่ายดูดดุนและกัดจนเจ็บ  ผมน้ำตาไหล...  มันไม่ใช่ว่าเจ็บอะไร  แต่ผมไม่อยาก...  ค้อนเมา... นี้เป็นครั้งแรก  ผมอยากให้กับใครสักคนที่รักผมจริง  ไม่ใช่แค่คนเมาคนหนึ่ง...
“ขอโทษ...  ไม่ทำแล้วๆ  อย่าร้องนะ...  รู้ว่าหน้าตาไม่ดี  ดาษคงไม่ชอบ  ขอเป็นคนเมาคืนหนึ่งได้มั๊ย  ตื่นเช้ามาจะลืมให้หมดเลย”ฝ่ามือหนาและอุ่นลูบน้ำตาผมเมาๆก่อนจะประทับจูบลงที่หน้าผาก  เสียงนั้นไม่ได้บ่งบอกว่าเมาสักนิด...  ผมลืมตาอีกครั้งแล้วมองคนที่ค่อยๆยกตัวเองออกจากการทับบนตัวผม 
“ขอโทษนะ...  เดียวเช้าแล้วจะรีบไป”ค้อนลุกไปนั่งยีหัวตัวเอง พึมพำอะไรไม่รู้อยู่คนเดียว  ผมดันเสื้อลงแล้วดึงกางเกงขึ้น  ผมลุกขึ้นนั่งข้างๆ
“ไม่ใช่หน้าตาไม่ดี...  ไม่ใช่ไม่ชอบ...  อย่าทำเป็นเมาได้มั๊ย  มาคุยกันดีดีสิ”ผมเอื้อมมือไปจับแขนคนตรงหน้า...  ค้อนหันมา  แสงที่สว่างเล็กน้อยทำให้ผมเห็นแววตาของค้อน  มันเจ็บปวดแล้วก็หวั่นไหว...
“คิดว่าเป็นคำพูดของคนเมาได้มั๊ย  อย่าใส่ใจ  เสาร์หน้าเราจะไปเจอกันที่เดิม...  ไปเล่นกับกรรไกร  ไปเดินเล่นด้วยกันเหมือนเดิม...  กระดาษ...  ชอบนะ...”ผมช็อคกับคำพูดของคนตรงหน้า  ค้อนพูดแต่ผมไม่ทันได้ห้ามเขา  ไม่ทันบอกว่าไม่ลืม  และผมก็ชอบเขาเช่นกัน
“ค้อน! อย่าไป...”ผมเรียกเสียงแผ่ว  ล้มตัวลงนอนก่อนจะค่อยๆถอดกางเกงออก...
“ถ้าชอบเราจริง...  ก็กอดเราสิ”ผมอ้าแขนออกรอความอบอุ่นของใครบางคนมาเติมเต็ม  นับหนึ่งไม่ทันถึงสาม  ร่างสูงใหญ่ก็โถมมาใส่ผมเต็มแรง  ถึงจะจุกแต่ก็เต็มใจที่จะเจ็บ 
“ชอบเหมือนกัน...  ชอบนะ  ชอบๆๆๆ  ชอบที่สุดเลย”ผมพร่ำบอก...  ค้อมกอดผมแน่นก่อนจะเลื่อนริมฝีปากมาประทับกับปากของผม  เราจูบกันอย่างอ้อยอิ่ง  แต่มือสองข้างนั้นกลับไม่อ้อยอิ่งตาม  ผมและค้อนช่วยกันเปลื้องเสื้อผ้าของอีกฝ่าย...  ค้อนเป็นคนที่ตัวใหญ่มีหน้าท้องนิดๆ  ถ้าถามว่าเขาดูดีมั๊ย...  ถ้าคนอื่นเห็บคงบอกว่าเฉยๆ  เขาไม่ได้หล่อไม่ได้เท่ห์เหมือนใคร  แต่ในสายตาผม  เขาดูดีมากพอแล้วสำหรับคนอย่างผม...  เราลูบไล้ร่างกายอย่างโหยหา  ลิ้นร้อนของเขาไล่วนอยู่ที่บริเวณอกและหน้าท้อง  มือยาวกอบกุมประสานมือของเราทั้งคู่ไว้แน่น...
“อ่ะ... อ่าาาาาา...  ค้อน   ค้อน...เรียกชื่อผม  กอดผม  ค้อน....”ผมครางอย่างสุขสม...  ผมไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้  ค้อนปล่อยมือผมข้างหนึ่งมาลูบใบหน้าก่อนจะเอื้อมมือลงไปเบื้องล่าง...
“กระดาษ...  แน่ใจแล้วนะ... ผมยังหยุดได้นะ แค่ในตอนนี้”เขาถาม  ผมอยากจะหาอะไรมาปิดปากเขา  บอกให้เรียกชื่อผม  แต่เขากลับถามอะไรไม่รู้...  ผมยอมถึงขนาดนี้แล้วแท้ๆ  และทันทีที่คิดได้  ผมก็โน้มตัวเพื่อไปจูบเขาเอาไว้...  ลิ้นของผมทำหน้าที่ได้ดีในปากของเขา  เราหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน  ก่อนที่ผมจะหลับตาและอ้าปากค้างทันทีที่เขาสอดนิ้วแรกเข้ามาในช่องทางของผม  มันเจ็บจี๊ดไปถึงไขสันหลัง  ช่องทางของผมขมิบถี่รัว  เหมือนมีหัวใจอีกดวงไปเต้นอยู่ตรงนั้น  หวาดกลัว  แต่ก็เต็มใจ...
“อย่าเกร็ง... คนดี...  ทำตัวสบายๆนะ  กระดาษ... นะครับ”เสียงที่ออดอ้อน  ผมหายใจเข้าหนักๆก่อนจะค่อยๆผ่อนคลายการรัดตัวของกล้ามเนื้อ  รู้สึกทันทีว่ามีนิ้วอีกนิ้วสอดเข้ามา  ทั้งสองนิ้วช่วยกับขยับและคว้านไปทั่ว  ผมกระตุกและเผลอเกร็งไปหลายครั้ง  ทุกครั้ง... ก็จะมีเสียงนุ่มๆและริมฝีปากนุ่มๆค่อยปลอมประโยนอยู่ใกล้ๆจนผมรู้สึกดี
“อ๊ะ! ตรงนั้นๆ  ค้อนนนน”ผมผวาขึ้นกอดคนด้านบน  เมื่อนิ้วทั้งสามของเขาไปโดนจุดๆหนึ่งในร่างกายของผม   มันเสียวจี๊ดจนผมเกือบแตก...  ยิ่งเขารู้  ค้อนก็ยิ่งเร่งเร้า  เขาขยับนิ้วให้โดนจุดๆนั้นถี่ยิบ  ผมรู้สึกเหมือนนั่งรถไฟเหาะ  มันกำลังพุ่งขึ้นสูงสุด...
“อ๊าาาาาาาาาา.....”และตกลงมาด้วยความเร็วสูงพร้อมๆกับลูกน้อยหลายพันตัวของผมที่พุ่งออกจากท่อ  นี้เป็นครั้งแรกที่ผม ‘เสร็จ’ โดยไม่ต้องใช้มือช่วย  ค้อนยิ้มน้อยๆก่อนจะปาดลูกๆของผมไปป้ายที่ของๆเขา...  ผมลืมตามองเจ้าค้อนน้อยๆกระดกหัวหงึกๆทักทายกับผม  นั่นทำให้ผมอายจนต้องดึงหมอนมาปิดหน้า...
“อะไรกันครับ  ทำความรู้จักไว้สิ...  เดี๋ยวเจ้านี้ก็ต้องไปรู้จักกับคุณแล้วนะ”ค้อนหัวเราก่อนจะเอื้อมมือดึงมือของผมออก...  และแล้วฝ่ามือของผมก็ได้สำผัสกับเอ็นหยุ่นๆ  มันก็เหมือนกับของๆผม  แต่ผมกลับตื่นเต้นมากกว่าเมื่อจับของคนอื่น...  ค้อนดึงมือผมให้รูดขึ้นลงสามสี่ครั้งก่อนจะซี๊ดปาก...
“พอแล้วครับคนดี...  เดี๋ยวจะเสร็จซะก่อน...  ผมจะเข้าไปแล้วนะ”ค้อนบอกพร้อมกับประทับจูบให้ผมอีกครั้ง  แรงถูไถเบาๆที่ด้านหลังทำให้ผมหลังตาปี๋แต่ก็พยายามผ่อนคลายเพื่อเปิดช่องทางด้านหลังให้มากที่สุด...
“อ๊ะ... อ่ะ”กว่าจะหลุดส่วนหัวเข้ามาได้  ก็ทำผมเหงื่อแตกพลั่กๆ  ค้อนลูบหัวผมก่อนจะจูบผมแล้วเอาอีกมือรูดเจ้ากระดาษตัวน้อยเร็วๆ   ผมค่อยๆผ่อนคลายช้าๆ 
“อุก!! ค้อน!!! เจ็บ!!”ผมโวยวาย  เขาทำให้ผมเผลอแล้วแทงเข้ามาทีเดียวทั้งลำ  นั่นทำให้ผมถึงกับน้ำตาไหล  มันทรมานมาก  ท่อนลำที่อยู่ในตัวผมอุ่นร้อน  และร่างกายของผมก็พยามยามขับสิ่งแปลกปลอมออกไปด้วยการตอดรัดอย่างรุนแรง...  ค้อนยิ้มให้ผมก่อนจะค่อยๆดันมันเข้าออกช้าๆ
“อ๊ะๆๆ   ค้อน  มัน... มันเสียว”ผมร้องครางอย่างน่าอาย  เจ้านั่นของค้อนผลุบเข้าออกในช่องทางของผม  ค้อนดันตัวผมให้ชนกับหัวเตียง  ซึ่งนั่นทำให้ผมเห็นท่อนของค้อนกำลังเข้าออกในตัวผมอย่างชัดเจน  ปฎิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้ผมมีอารมณ์ร่วมมากกว่าเดิม  และแน่นอนมันเสียวกว่าเดิมด้วย...
ค้อนมีวิธีแกล้งผมได้หลากหลาย  เขาขยับตัวเร่งอย่างรุนแรงจนตัวผมสั่น  แล้วก็หยุดค้างไม่ยอมขยับจนผมต้องตีไหล่เขาไปแรงๆ  และนั่นจะมาพร้อมกับเสียงหัวเราะของเขา...  บางทีเขาก็ใส่อย่างช้าๆและเร่งจนผมเกือบแตกครั้งที่สอง  แย่ตรงที่ว่าเขากันไม่ยอมให้ผมปลดปล่อย  ผมเกือบจะน้ำตาไหลอยู่หลายครั้ง  แต่เขาก็ปลอบประโลมด้วยการกระแทกใส่ผมแรงๆจนผมได้ปล่อย ‘มัน’ ออกมา...  แรงเสียดสีในช่องทางของผมผ่านมานานเท่าไรไม่รู้  แต่ตอนนี้มันชุ่มช้ำไปด้วยน้ำของค้อน  มีบ้างที่ไหลออกมาข้างนอก...  เสียงหนึบหนับที่ดังเวลาขยับมันทำให้ผมอายจนอยากจะหนี  แต่ก็ทำไม่ได้  ค้อนดันตัวผมให้คลานเป็นท่าหมา  ซึ่งนี้เป็นท่าที่ห้าและที่เขาให้ผมเปลี่ยน  แรงกระแทกทำให้ผมเสียงสุดๆ  ท่านี้ทำให้ผมตื่นเต้นกว่าเดิม...  ท้าวแขนบนเตียงได้ไม่เกินค้อนกระแทกสี่ครั้งแขนผมก็ผมแรงลงไปกองกับที่นอนมีเพียงสะโพกเท่านั้นที่ค้อนยังประคองมันเอาไว้...   ผมแตกไปแล้วสี่น้ำ...  แต่ค้อนเพิ่งไปถึงแค่สองครั้ง...  ผมเหนื่อยจนแทบหมดแรง  แต่ค้อนยังดูคึกคักไม่สิ้นเรี่ยวแรงเอาง่ายๆ...  นี้ผมคิดผิดรึเปล่าที่มาชอบมันน่ะ!
“ครั้งสุดท้ายแล้วนะครับ...  ทำให้หน่อยนะ  นะครับคนดีของค้อน... นะๆ  ไม่ยากหรอก เดี๋ยวค้อนประคองนะครับ”เสียงออดอ้อนบวกตาละห้อยไม่ได้ทำให้ผมเห็นใจแต่ประการใด  ค้อนทำแบบนี้มาแล้วสามครั้ง  และทุกครั้งก็ทำให้ผมเหนื่อยสุดๆ  ผมอยากจะหยุดตั้งแต่น้ำสองหรือสามแล้ว  ไอ้น้ำสี่เนี่ยล่ะที่ผมมาเสียท่ามัน  แล้วกว่าจะปล่อยได้แต่ละครั้งโดนแกล้งแล้วแกล้งอีกจนเข็ด
“ครั้ง... อ่ะ... สุดท้าย... นะ  อ่ะ! ค้อนๆ”ผมทุบอกคนข้างล่างดังปึก! เมื่อค้อนดันขยับตัวขึ้นมา  มันจะไม่เกิดอะไรขึ้นถ้าไม่ใช่ว่าผมกำลังนั่งพักอยู่บนตัวของค้อน  และไอ้นั่นของค้อนก็ยังอยู่ในตัวของผม  ผมสูดหายใจก่อนจะค่อยๆขยับตัวช้าๆ  ขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ  มือสองข้างยันไว้ที่หน้าอกของค้อนกันล้ม  และมือของค้อนก็ประคองไว้ที่สะโพกของผม  มันเสียวจริงๆนะท่านี้  ผมรู้สึกว่ามันอยู่ลึกกว่าเดิมและใหญ่กว่าเดิม  ผมรู้สึกถึงมันได้มากกว่าทุกๆท่าที่ทำมา... 
“ดาษๆ  อ่า...  นั่นแหละแบบนั้น... ดีมากคนดี...”ค้อนพึมพำออกมาบ้าง  ซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกดีไม่น้อย  ผมขยับกายอย่างรวดเร็วขึ้น  ไอ้หนูของผมเด้งขึ้นลงกระทบกับหน้าท้องของค้อนดังพับๆๆ  ค้อนยิ้มแล้วจิ้มเจ้าหนูของผมเบาๆ...
“น่ารักจริง  พยกหัวให้ผมใหญ่เลย  กระดาษ  นายดูสิ...”ค้อนเริ่มจิ้มมันแรงขึ้นก่อนจะพูดแหย่
“ฮะ... บ้า...  นายมันบ้า  ค้อน... อ่ะ อ๊า....”ผมโวยวาย  รู้สึกได้ว่าแก้มร้อนฉ่า...  ค้อยหัวเราะก่อนจะจับมันรูดขึ้นลงให้แรงๆ  ผมหอบหายใจหนัก  แขนที่ท้าวไว้เริ่มหมดแรง...  ผมหยุดนิ่งอยู่แบบนั้นและดูเหมือนว่าค้อนจะเข้าใจในท่าทีของผม  ค้อนจับสะโพกของผมยกขึ้นก่อนจะเด้งเอวสวนทั้งๆที่ผมนอนทับตัวของเขาอยู่  แรงเด้งเอวทำให้ผมจุกเสียด...
“อ๊ะ...อ๋า...  ค้อนๆ  ไม่ไหวแล้ว”ผมครางเสียงแผ่ว  ใกล้หมดแรงเต็มทน...  ค้อนหันมาจูบกับผมก่อนจะเร่งเครื่องเต็มแรง...
“พร้อมกันดาษ...  ไปพร้อมกัน”ผมหลับตาแน่น...  ความเสียวซ่านกำลังพุ่งทะยาน  ผมอุ่นวาบในช่องท้องเมื่อรู้สึกถึงแรงดันอะไรบางอย่างที่พุ่งเข้าใส่  แต่ผมเพลียแล้วก็หมดแรงมากๆจริงๆ...  ค้อนค่อยๆถอนตัวออก  เสียงดัง ‘บล็อก’ ดังก้องในห้องเงียบๆ  ผมปรือตามองคนตรงหน้า...  ค้อนยิ้มแล้วก้มลงมาจูบหน้าผากผมเบาๆ  ในความง่วงงุน  ผมรู้สึกถึงความเปียกที่ถูกไถบนร่างกายของผม  นิ้วยาวที่คุ้นเคยสอดเข้ามาในช่องทางที่ตอดตุบของผม  คว้านเอาสิ่งที่ค้างคาอยู่ภายในออก  จนเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น  แรงอ่อนยวบของเตรียมพร้อมกับอ้อมกอดที่อบอุ่นก็พาดเข้ากับเอวผม...
“นอนนะครับคนดีของค้อน”ผมยิ้มให้กับตัวเองในความมืด...  เสียงเพลงที่คุ้นเคยดังลอดเข้ามาในห้องทั้งๆที่ใกล้จะหลับเต็มแก่...

‘ความสุขแบบคนหน้าตาไม่ดี ทำได้แค่นี้ต้องเจียมเอาไว้ นี่แหละความขมหวาน ที่เธอไม่มีวันเข้าใจ’

ผมอยากเถียงใจจะขาด...  ทำได้แค่นี้... เหอะ!  ทำได้ขนาดนี้สิไม่ว่า!!  แล้วใครว่าไม่เข้าใจ...  โคตรเข้าใจเลยต่างหาก ถ้าไม่เข้าใจเขาไม่เพลียและคิดว่าพรุ่งนี้คงได้นอนทั้งวันเพราะเป็นหวัดอยู่แหงๆ   จำไว้เลยไอ้คนหน้าตาไม่ดี  ขอคราวหน้ารอไปเลยอีกห้าเดือนโน่นไป๊...  ทำทีสูบพลังชีวิตเขาหายไปจนเหลือแค่ขีดแดง...  โว้ย! ง่วง...
“นอนได้แล้วคนดีของค้อน”เสียงสุดท้ายที่ตัดสติของกระดาษให้หลุดจากทุกอย่างเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว...

--------------------------------------------------The End---------------------------------------

เฮือก! เพิ่งเคยเจอ โพสเดียวไม่พอต้องแยกสอง

ลงถี๊ถี่  สามวันสามตอน  ทุบสถิติแหลกราน....  อยากแบ่งเป็นสองพาร์ทแต่ดูแล้วสั้นเล็กน้อย...  เอาไปแค่นี้ก่อน  ตอนพิเศษอาจตามมาเพราะรู้สึกว่ามันไม่เคลียร์...  มาขอเม้นต์ได้มั๊ยอ่ะ  คือแบบผมเป็นคนบ้าที่ลงแยกกระทู้ไว้  สามตอนได้โพสพอๆกับเรื่องนี้เลย  เดี๋ยวจะหันไปปั่นเรื่องนั้นอย่างเดียว(ฮา)  คนเขียนบางทีก็อยากได้ฟีทแบ็คบ้างนะ...  แบบติชมนิดหนึ่ง  ฉาก...น้อยไป หรือไม่แรงพอไร๊เงี๊ยะ (ฮา)  ขอบคุณที่อ่านและชม 

ปล.+1ด้วย  ครุคริ... 
ปล.2  เม้นต์ด้วย  ไม่เม้นต์งอน  //โดนเตะ :z6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-10-2013 00:01:51 โดย spy4869 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0

ออฟไลน์ Der Adler

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +126/-0
อุบ๊ะ!!!! ตอนใหม่...มาแบบเป่ายิงฉุบด้วย  :hao7:

สนุกดีอ่ะ....เนื่้อเรื่องน่ารักมาก :mew1:
ไม่มีต่อจากนี้เหรอ..... :katai1:

ปล.ชอบทุกเรื่องที่อ่านมา เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะค้าบบบ :L2: :L2:
เขียนออกมาเยอะๆๆๆๆเลย :hao3:

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
คู่นี้น่ารักอีกแล้วนะ  ฉากนั้นก็...มันส์เนอะ  ขอบคุณสำหรับอีกเรื่องคัฟคนเขียน^^

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
คนหน้าตาไม่ดี แต่หื่นมากกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ไม่มีพาร์ทของค้อนมั่งหรออยากรู้ว่าค้อนชอบกระดาษได้ไงอ่ะ
เนื้อเรื่องน่ารักอีกล่ะชอบๆๆๆสนุกดี^^

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
เขียนฉากต่อของค้อน.... น่าสน... ไว้อาจจะมาแต่งเพิ่ม.... คิคิ

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
นึกว่ากระดาษ จะห่อค้อนสะอีกกก  :oo1: :oo1:

ออฟไลน์ GF_pp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ขอบคุณสำหรับเรื่องสั่นทุกเรื่องเลยนะคะ     :pig4:     :pig4:

สนุกมากเยคะ  :-[     :o8:

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                 คำไม่สุภาพเยอะ  ใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                          ผมเป็นคนบ้า... แต่ผมว่าเขาเป็นลูกมาเฟีย
                                                            ตอนพิเศษ  วันพ่อ

          วันนี้วันอะไรครับ...  ครับ  วันนี้วันพ่อ!!! และผม ไอ้บ้าคนนี้แหละ มีวัตถุประสงค์อย่างยิ่งยวดที่จะไปหาพ่อ...  ของไอ้สัก!! ตั้งแต่คบกันมานะครับ ผมล่ะไม่เค๊ยไม่เคยจะได้ไปหาพ่อมันเลย...
“อิมเพิ่งไปเมื่ออาทิตย์ก่อนเองนะครับ”ไอ้...  รู้ความคิดในใจกูอีก  ปั๊วใครวะเนี่ย  เอามันไปเก็บ ผมจะบ่นต่อ!!
“อิมคร้าบบบบ  วันนี้สักต้องไปทำงานให้พ่ออิมนะครับ  ไปอยู่กับพรตกับต๊อกได้มั๊ย  แล้วเดี๋ยวเย็นๆผมไปหา” ไฝว์ได้มั๊ยครับ  โมโห  มีผัวใหม่แม่ง  ชิ!
“ไม่เอา  ไม่รู้  ไม่คุยด้วยแล้ว  เชอะ!!”กระแดะมั๊ยครับ  โคตรกระแดะ...งานมันก็ใช่จะมากมาย  เห็นไอ้บ้าเป็นคนบ้าแบบนี้ก่อนบ้าผมก็ไปบริหารงานที่แก๊งค์มาแล้วนะครับ  ไม่งั้นจะบอกได้ไงว่าไม่ชอบ...
“นัทครับ  ไม่เอาแบบนี้นะ  นัทก็รู้ว่าสักเหนื่อยนะครับเนี่ย...  ทั้งงานโรงพยาบาลทั้งงานแก๊งค์  นัทเข้าใจสักหน่อยนะครับ”ผมบอกไปรึเปล่า  ไอ้นี่มันไม่เลิกสายงานตัวเองนะ  เป็นทั้งหมอทั้งหัวหน้าแก๊งค์  เข้ากับบรรลัย  ทำร้ายเค้าแล้วก็ไปรักษาให้เค้า  ไอ้บ้า!!
“จะไปหรือไม่ไป...”ผมถามครั้งสุดท้าย อยากหยิบปืนมายิงแม่งจริงๆครับ  ไอ้พวกรักนะแต่ไม่แสดงออกเนี่ย  กูเพลียครับ  แสดงออกบ้างก็ด๊ายยยยย  อยู่กันมายี่สิบกว่าปี  อะไรจะสงบเหมือนกับน้ำในแก้วได้ขนาดเน้!!!
“ไม่ครับ...  ไว้ค่อยไปพรุ่งนี้เช้านะครับ”มันต่อรอง  แต่!! ผมงอนเว้ยครับ!!
“เหอะ!”ไม่บ้าครับงานนี้  งอนให้แม่งรู้เลย  อารมณ์เสียอารมณ์เสียอารมณ์เสีย  น่าโมโหมันน่าโมโหผู้ชายอะไร!!
“นัท...  พ่อมึงนั่งอยู่นี้นะครับ  วันพ่อ มึงก็มาหาพ่อสิครับ  ไอ้สันขวาน!!”เสียงพ่อบังเกิดเกล้าดังจากนอกห้อง  เหอะ! อ่านข่าวยามเข้าชิลๆ  ปล่อยให้ลูกเขยทะเลาะกับลูกตัวเอง  พ่อแบบนี้... แม่ง!!!
“เจอมา40กว่าปีแล้วพ่อ  อยากเจอพ่อคนอื่นบ้าง จบป่ะ!”
“จบชีวิตมั๊ยไอ้ลูกชาย  ไอ้สลัดผัก  ก็พ่อมึงคนนี้ไม่ใช่รึไงที่เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวป้อนขี้ป้อนเยี่ยว  เหี้ย! ป้อนข้าวป้อนน้ำให้มึงโตเนี่ย  เดี๋ยวกูก็ส่องด้วยอาก้าหรอก  ปล่อยลูกชายกูทำงาน  มึงอ่ะ  ไปนั่งเล่นเกมที่ห้องเงียบๆไป๊”มาเป็นชุด  ส่วนผมเหรอ?
“งอนพ่องอนสัก โป้ง! เชอะ!!!”แบ๊วได้อีกกู  แต่...  แคร์เหรอ  ไม่ครับ  คนอย่างไอ้บ้า  หน้าตาดีไม่มีพิษภัย  ใสๆสไตล์ออโรร่าาาาาาา!!!  นี่ตรูทัมเพื่อคร๊ายยยยย  ดูปากไอ้บ้าอีกครั้งนะครับ  ตรู-ทัม-เพื่อ-คร๊ายยยยย  ข้อควรระวัง  เวลาพูดแล้วหนีตีนให้ทันนะครับ...

            ผมเดินเตาะแตะแบบเป็ดหันเดิน  ท่าอุบาทว์ดีนะครับ ลองทำดู... ไปบ้านอีกสามหลังถัดไปด้านขวามือ...  บ้านพ่อสัก  ใกล๊ใกล้แค่นี้  มันไม่มีเวลาพามา  คิดดู๊!!!  อยากจะไฝว์!!! 
“ตาเลิศศศศศสะแมนแตน...  ดีครับท่าย  สบายดีครับผม”ผมตะโกนลั่น  คนใช้หลายคนหันมามองหน้าแล้วส่ายหน้าเบาๆ  อย่าเสียดายพี่เลยครับ  ผัวพี่โหด  คริคริ....
“อ้าวไอ้บ้านัท  มาอีกแล้วเหรอมึง  เอาลูกชายกูไปปู้ยี้ปู้ยำสนุกมั๊ยล่ะนั่น”ฮูยยยย!!!  พ่อผัวแร๊งส์!
“สนุกม๊ากมาก...  แต่แม่ง...  ไม่ยอมพาผมมาหาตาเลิศ”ผมได้ทีบ่นอุบ
“กูควรดีใจมั๊ย  เรียกกูว่าตา  กูเด็กกว่าพ่อมึงอีกนะไอ้เหี้ยนี่...”
“สองวันเองนะตา...”ผมแย้ง  พ่อเลิศหันมามองผมตาขวาง
“แล้วมันเด็กกว่ารึเปล่าวะ  เดี๋ยวก็ถีบส่งกลับบ้านเลย”ผมยิ้มอ้อน  ตีนพ่อผัวหนักครับ  ผมเคยโดน  ตั้งแต่เด็กยันโต  เรียกว่าโตมาด้วยลำแข้งพ่อผัว  แหม่...  พูดล่ะก็คิดถึง  ขอสักป๊าบได้มั๊ยเนี่ย...
“แล้วนี่มึงไม่อยู่กับไอ้ป๋องเหรอวันนี้ ไอ้ห่านั่นก็แก่จะตายแล้วหน่า...  อยู่ดีดีตายไปมึงจะร้องไห้เป็นเผาเต่า”พ่อเลิศบอก  ไอ้ผมก็คิดๆแล้วครับ  แต่ก็อยากมาหาพ่อผัวก่อนบ้างไรบ้าง
“เผาเต่าแล้วจะกินเนื้อเต่ายังไงอ่ะตา  มันเหมือนเผาปูรึเปล่า”ผมถามหน้าซื่อ  ส่วนที่ได้กลับมาเหรอครับ...
       ป๊าบบบบ!!!
       เน้นๆเพียวๆ  หน้าแข้งฟาดเข้าเต็มหน้าท้อง  ถ้าผมแท้งนะ  พ่อเลิศจะต้องเสียใจ...!! ว่าแต่...  กูจะท้องได้เหรอวะ  ถ้าท้องได้ป่านนี้ผมลูกดกแหง่ซะ  ไอ้ตัวดีแม่งเอาคืนละรอบสองรอบ  ตูดบานไม่ต้องเบ่งสักวัน ฮึย!!!
“สันขวาน...  มึงเรียนภาษาไทยจากโรงเรียนไหน  กูจะไปยุบโรงเรียนแม่ง!”ผมรีบโอ๋เอาใจ...  แล้วเราทั้งคู่ก็มาหยุดที่ห้องๆหนึ่ง  หน้าห้องอาร์ตมาครับ  เมจิกสีชมพู...  ที่ไอ้คนซื้อโคตรดั้นด้นไปซื้อถึงร้านเครื่องเขียนหน้าปากซอยอีกสามร้อยเมตร  ผมปรบมือให้เลย  แหม่...  ปรบสิครับ  ผมรอรับอยู่นะ  ก็ไอ้คนไปซื้อน่ะ  ผมเองไง!!  พอเปิดประตูเข้าไป  เศษกระดาษที่กองสุมราวขวดพลาสติกในหนังเรื่อง  หมานคร  ที่นางเอกมันเก็บขวดพลาสติกกองไว้ในห้องจนเต็มอ่ะครับ ใครไม่เคยดู...  ไปหาซะ...   พอๆ  ผมก็พานอกเรื่อง  พอเข้าห้องได้  ผมก็วิ่งปรู๊ดติดสปีดเกือบเท่าหอยทากไปหยิบกระดาษ  กาว กรรไกร กากเพชรและของประดับอีกเล็กน้อยพอประมาณ...
ผมจะทำการ์ดวันพ่อ!!!
เคยมั๊ยครับ  อารมณ์อินดี้อ่ะ  40กว่าปี  ผมซื้อของให้  พาพ่อไปกินข้าว  ทำมาจะครบทุกอย่างล่ะ  แต่อยู่ๆผมก็นึกถึงตอนตัวเอง5 -6 ขวบ  ผมทำการ์ดวันพ่อที่รูปไม่ได้สวยอะไร  แต่มันถือว่าดีที่สุดแล้วในอายุตอนนั้น  แล้วตอนนี้ผมก็อยากทำอีก...
“ตาเลิศ  ห้าโมงเย็นแล้วบอกผมด้วยนะ”ผมบอก  พ่อเลิศตบหัวผมแทนการตอบรับแล้วเดินออกจากห้องไป...  พูดว่าเออ  ผมก็เข้าใจแล้วนะ  เอาซะสมองกลับเลยแม่ง!
ผมทำการ์ดไปพักใหญ่จนเสร็จ ผมก็หันไปดูนาฬิกา  สี่โมงเกือบห้าโมงแล้ว ผมเคลียร์ของแล้วถือการ์ดออกจากห้อง สวนกับพ่อเลิศที่กำลังจะเข้ามาเรียกผมพอดี...
“โห...  คุณตาความจำดี๊ดี...  แก่แค่หน้าตาจริงๆ”ผมหัวเราะแล้วกระโดดหลับแข้งทองฟรีคิกของอีกฝ่าย  โดนมากไปก็ระบบนะครับ
“งั้นเดี๋ยวผมกลับก่อนนะพ่อ...  อาทิตย์หน้าผมจะบังคับไอ้สักมาหาพ่อให้ได้เลย  สุขภาพแข็งแรง  อยู่เตะผมไปนานๆนะครับ  ผมไปแล้วนะ”ผมบอกลาแล้วกราบที่ไหล่ของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของผมอีกคน...  เหมือนผมจะเพิ่งดูเป็นผู้เป็นคนก็ประโยคนี้ล่ะครับ เอิ๊ก...
“เออๆ  ดูแลลูกกูดีๆ  บอกพ่อมึงให้มาเม้าท์ทูเม้าท์กับกูบ้างก็ได้”กระแดะใช้ศัพท์อังกฤษครับ แต่มันทำเอาผมขำพรืด
“ครับๆ  ไว้จะให้พ่อป๋องมาเม้าท์ทูเม้าท์กับตานะครับ”ผมบอกแล้ววิ่งลั้นล้ากลับมาที่บ้าน 

        สักนั่งหน้าเครียดอยู่กับงานตรงหน้า  อยากจะถีบแม่งจริงจังเลยนะเนี่ย เมียหายทั้งคนไม่มีเป็นห่วงอ่ะ
“ไอ้สัก!!!  ไปกินข้าว”ผมออกปากไล่  สักเงยหน้ามา  ยิ้มเพลียๆให้ผมทีนึงแล้วทำท่าจะแย้ง
“กิน-ข้าว  อ่านปากกูอะเกน  แดก-ข้าว”ผมจิกตา  มันลุกขึ้นอย่างว่าง่าย  พ่อผมหัวเราะรวน  เออ...  ก็นั่งชิลเนอะ  แทนที่จะมาช่วยลูกเขย  ผมส่ายหน้าก่อนจะเดินไปที่โต๊ะแทนไอ้สัก  หยิบแว่นมาใส่แล้วแปลงร่างเป็นคุณชายสามผู้ไฮโซ  ผิดล่ะ...  เป็นหัวหน้าจำเป็นให้กับแก๊งค์  อ่านงานที่ต้องเซ็นต์กับที่ไม่เซ็นต์แยกจากกัน... ทั้งงานที่ต้องพิจารณาและงานที่ไม่เร่งด่วน  จริงๆผมจะเซ็นต์ก็ได้นะ  เพราะพ่อมอบตำแหน่งให้ทั้งผมแล้วก็มัน  ลูกน้องก็รู้แหละว่าผมทำได้  แต่ผมชิลเหมือนกันไง  เลยโยนงานให้ผอสระอัวแทน... 

       เกือบๆทุ่มผมเดินไปที่ห้องครัว  พระบิดาผู้นั่งชิล เอ้ย! ผู้บังเกิดเกล้านั่งที่หัวโต๊ะ  สามีที่รักนั่งฝั่งซ้ายไอ้ตัวผมเลยเสด็จไปนั่งฝั่งขวา  ผมถือโอกาสนี้ยื่นซองสีขาวให้กับพ่อ  พร้อมกับพูดว่า...
“พ่อ...  ผมไล่พ่อออก”ป้าบ! สองฝ่ามือทั้งจากพ่อจากผัวส่งมาซะผมมึน...
“ซองผ้าป่าเหรอวะไอ่ห่านนี่  ไปได้มาจากไหนล่ะ”พ่อถามเล่นๆก่อนจะเปิดแง้มดู...  พอเห็น  พ่อชะงักไปช่วงครู่ก่อนจะยิ้มออก  มืออีกข้างหยิบกระเป๋าเงินออกมา  เปิดแล้วล้วงเข้าไปหยิบอะไรบางอย่าง...
“เงินเหรอพ่อ”ผมหลบฝ่ามือที่บินมาอย่างหวุดหวิด  ทำไมผัวโหดร้ายกับเมียเยี่ยงนี้ล่ะ...
“พร่องส์!”เสียงด่าดังลั่น  ผมยิ้มเผล่แล้วชี้ไปทางที่พ่อนั่งอยู่...
“พร่องส์...  ก็นั่งอยู่ตรงหน้าผมนี่ไง”ผมหัวเราะรวน  พ่อเก็บกระเป๋าตังแล้วก็ซองขาวเข้ากระเป๋าโดยไม่พูดอะไร  เรากินข้าวกันสักพัก  แล้วพ่อก็ขอตัวกลับบ้าน  ซึ่งถัดจากบ้านพวกเราไปสามหลังทางซ้ายมือ  บ้านพวกผมรวยอ่ะครับ  ซื้อบ้านห่างกันอย่างล่ะสามหลัง  ก็ไม่รู้ว่าเพื่ออะไร?  ใครรู้ส่งคำตอบมาที  รางวัลคือเอาฝ่าตีนผมไปกินได้หนึ่งมื้อ  ฮาๆ

          พอพ่อป๋องกลับไปแล้ว  สักก็จูงมือผมไปที่บ้านพ่อของมัน  บ้านตาเลิศที่ผมเพิ่งกลับมาไม่เกินห้าชั่วโมงที่แล้วครับ  สลัด!!!
“พ่อๆ...  สุขสันต์วันพ่อครับ”ไอ้สักยกมือไหว้ก่อนจะกราบที่ไหล่...  หนึ่งมือล้วงกระเป๋าสองเท้าก้าวเข้ามาใกล้ตัวพ่อของมัน....  หยิบสิ่งของที่เป็นซองๆให้กับพ่อเลิศ
“ไอ้ควาย  นี่มันถุงยาง!!”พ่อเลิศปาซองนั้นคืนให้  สักหัวเราะ  แล้วคิดเหรอว่าผมจะไม่หัวเราะด้วยน่ะ...
“พวกมึงสองตัวนี่มัน...”สักยิ้มแล้วก้มลงคุกเข่า  พวงมาลัยพวงเล็กถูกยกออกจากถุงที่มันถือติดมือตั้งแต่ออกจากบ้านมา...  มันก้มลงกราบลงแทบฝ่าเท้าของพ่อเลิศ 
“ขอบคุณที่เลี้ยงผมมาครับพ่อ  ขอให้พ่ออยู่กับผมไปอีกนานๆเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับพวกผมทั้งคู่ไปอีกแสนนานนะครับ...”ผมเองก็ไปคุกเข่าข้างๆมัน  ก้มลงกราบเหมือนกันครับ  จริงๆผมเคารพทั้งพ่อป๋องและพ่อเลิศ  แต่กับพ่อตัวเอง  ผมสนิทเกินไปอ่ะครับ  บางทีก็เขินๆถ้าต้องมากราบอะไรแบบนี้  และผมก็ว่าพ่อผมเองก็เขินเหมือนกันแหละถ้าผมไปกราบอ่ะ...
“กูอายุ 70 กว่าแล้ว  จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้...  แต่กูขอให้มึงสองคนรักกันไปนานๆแล้วกัน...  ดูแลกันเองแทนกู  แทนไอ้ป๋อง  มึงสองคนถ้าช่วยเหลือกัน...  ไม่ว่าอะไรก็จะสำเร็จไปได้ด้วยดี...”พ่อเลิศให้พรครับ ผมก็ก้มหน้าฟังกันไป  อีกมือก็กุมมือกันไว้ข้างตัว...  เศร้าครับ  รู้สึกตัวเองแก่พอสมควร...
“ไปๆ  กลับบ้านกลับช่อง  ไปนอนได้แล้ว...  เดี๋ยวกูจะไปนอนแล้วเหมือนกัน”ไอ้สักยิ้มครับแล้วลุกขึ้นไปกอดพ่อมันแรงๆทีหนึ่ง  อู๊ยยยย!!!  กลัวกระดูกพ่อมึงแตกจริงๆไอ้สัก

        ระหว่างที่เดินกลับบ้านสักก็ชวนผมคุยไปด้วย... 
“อิม  ที่พ่อมึงจะหยิบมาตอนกินข้าวอ่ะ...  อะไรวะ”ผมส่ายหน้า
“มึงเห็นพ่อกูหยิบออกมามั๊ย...”มันส่ายหน้าเหมือนกัน
“แล้วกูจะไปตรัสรู้มั๊ย  ไอ้สลัดผักไม่ใส่มะเขือเทศ!!”ผมหัวเราะแล้ววิ่งหนีลูกถีบของมัน  ต่อให้รู้ผมก็ไม่บอกหรอก...  บางทีผมก็อายเป็นเหมือนกันนะ...  แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากทำการ์ดให้พ่ออีกครั้งน่ะ...  ก็การ์ดที่ผมทำตอบ5ขวบ  ที่พ่อยังเก็บมาจนถึงตอนนี้ยังไงล่ะ...


-----------------------------------------------------------------------
ทันมั๊ย  ทันเนอะวันพ่อ...  มาซะช้าเชียว  สารภาพว่าฟีลอยากแต่งมาตอน4ทุ่มครึ่ง  ปั่นแบบสุดฤทธิ์ ได้เท่านี้แหละ...

ตอนนี้อยากเสนอแนวคิดสองแนว  สักกับพ่อ  แล้วก็นัทกับพ่อ  ต่างมีมุมมองแนวคิดต่างกัน  นัทกับพ่อไม่ต้องพูดมาก  แต่รู้กันอยู่  ส่วนสักกับพ่อ  แบบพูดเปิดอกกับตัลหลอด...  ตอนท้ายๆเหมือนตาเลิศจะส่งสักกับนัทเข้าห้องหออย่างไงอย่างงั้นเลย  เขิลแทน 

ตามเดิมครับ  +1 พอเป็นพิธีนะครับ  หุหุ... 

*อยากได้ตอนหน้าเร็วๆ  อย่าลืมถีบคนเขียนนะครับ  :z13: :z13:
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2013 00:23:30 โดย spy4869 »

ออฟไลน์ argon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :z1: :katai4: น่ารักมาก  อ่านแล้คิดถึงพ่อเลย  :hao5: :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด