[เรื่องสั้นตอนเดียวจบ]เจ้าหนูแสบซ่ากับป๊าหม๊าจำเป็น
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ]เจ้าหนูแสบซ่ากับป๊าหม๊าจำเป็น  (อ่าน 3219 ครั้ง)

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



เจ้าหนูแสบซ่ากับป๊าหม๊าจำเป็น

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคู่หูเพื่อนซี้ผู้ได้รับฉายาว่า 'คู่หูส้นตีน'
ต้องตกกระไดพลอยโจรมาเล่นเกมเลี้ยงเด็กภายในหนึ่งวัน เพราะอยากได้เงินแสน


ปล. เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ลงในบอร์ดนี้
ปล2. เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดัดแปลงมาจากฟิคสายเจ ที่คนแต่งเคยแต่งลงไว้ในบล็อกส่วนตัว
เหตุการณ์ บรรยากาศ หรือสถานที่อาจแปลกๆ ไปบ้างนิดหน่อย

ใครเล่นทวิตเตอร์ก็อย่าลืมติดแท็ก #คู่หูส้นตีน ด้วยน้าาาา แล้วเราจะเจ้าไปอ่าน



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2019 01:16:24 โดย little_porcupine »

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เจ้าหนูแสบซ่ากับป๊าหม๊าจำเป็น
Plot By :: zig_gaza
Story By :: little_porcupine


“ปิ้ว ปิ้วๆ เฟี๊ยวฟ๊าว เจี๊ยวจ๊าว ครึ่กๆ โครมๆ ปังๆๆ ตึ่กๆๆ ป๊องแป๊ง ก๊องแก๊ง กะล๊องกะแล๊ง”

สารพัดสรรพเสียงที่ดังอึกทึกครึกโครมจนฟังไม่ออกว่าเสียงอะไรเป็นเสียงอะไร มีทั้งเสียงสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์และเสียงสิ่งไม่มีชีวิตที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อความสุขสนุกสนานของตัวเองอย่างตู้เกม

จากการเล่นเกมเพื่อความสนุกสนานผ่อนคลายอารมณ์ความตึงเครียดที่เกมเซ็นเตอร์แห่งนี้กลายเป็นการเสพติดการเล่นเกมงอมแงมจนถอนตัวไม่ขึ้น…

ท่ามกลางเสียงอันอึกทึกนั้นมีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้าออกเกมเซ็นเตอร์ เปลี่ยนหน้าไปจนจำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นใคร แต่ก็จะมีอยู่แค่สองคนเท่านั้นที่นั่งจับจองพื้นที่หน้าตู้เกมมาตั้งแต่พระอาทิตย์ทำงาน จนตอนนี้พระอาทิตย์เลิกงานไปแล้วก็ยังไม่ลุกไปไหน


ร่างสูงสองคนเพื่อนซี้ที่เพื่อนๆ หลายคนเรียกกันว่าคู่หูส้นตีน เนื่องด้วยชื่อที่สามารถผันได้เป็นคำที่เป็นชื่อเรียกของอวัยวะเบื้องล่างนั่นเอง บวกกับลักษณะนิสัยคล้ายๆ กันของทั้งคู่ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นสันดานของทั้งคู่ ทำให้การกระทำบางอย่างคนรอบข้างก็สบถใส่หน้าว่า “ส้นตีนเหอะ” อยู่บ่อยครั้ง สมกับฉายาคู่หูส้นตีนจริงๆ

หากจะมองดูดีๆ แล้วทั้งคู่ถือว่าเป็นบุคคลที่รูปร่างหน้าตา จัดอยู่ในหมวดดูดีมีชาติตระกูลเลยทีเดียว คนนึงสูง 186 อีกคนนึงสูง 184 รูปร่างสมส่วน ไม่อ้วนไม่ผอมเกินไป คิ้วเข้ม จมูกโด่ง คนนึงตาคม คนนึงตาโตเป็นลูกกวาง สีผิวก้ำกึ่งอยู่ระหว่างผิวสีแทนและผิวขาวของคนทั้งคู่ นับได้ว่าหล่อ ดูดี สมกับที่มีรูปปรากฏอยู่ในเพจสมาร์ทบอยของมหาวิทยาลัยอยู่บ่อยๆ แต่องค์รวมทางกายภาพก็ถูกหักลบกลบหนี้ด้วยสันดานส้นตีนไปเสียอย่างนั้น


“เฮ่ย! ไอ้ตีน ไปแลกหรียญให้หน่อยสิ” ร่างสูงที่นั่งจ้องจอตู้เกมตาไม่กระพริบใช้เท้าเขี่ยเรียกเพื่อนที่นั่งอยู่ตู้เกมข้างๆ

“ไปแลกเองดิวะ มึงไม่มีขาเดินไปเองรึไงไอ้ส้น กูกำลังติดพันอยู่มึงเห็นมั้ยเนี่ย โถ่เว๊ย! แพ้จนได้เพราะมึงคนเดียวเลยมาขัดจังหวะกู” วัยทีนทึ้งหัวตัวเองแล้วโวยวายลั่น

“โด่ว~~ เล่นอ่อนเองทำเป็นมาโทษกู”

"แล้วอีกอย่างนะ กูชื่อทีน วัยทีน เข้าใจ๊? เรียกให้มันถูกๆ หน่อย กี่ปีๆ ก็เรียกแต่ตีนๆ ๆ ๆ อยู่นั่น จนกูอยากจะเอาตีนลูบหน้ามึงละ" วัยทีนนึกขึ้นได้จึงท้วงขึ้น

"มึงเองก็ไม่ต่างกันป่ะ มึงก็เรียกกูว่าส้น ดูชื่อซน แสนซนโว้ย! ไม่ใช่ส้น ก็ถือว่าหายกัน" แสนซนแย้งบ้าง

“ชิ! อย่างมึงไม่น่าจะชื่อน่ารักๆ อย่างแสนซนเลยว่ะ ชื่อแม่งไม่เข้ากับหน้าตาและสันดาน น่าจะชื่อแสนแสบมากกว่า แสนแสบที่มาจากคลองแสนแสบน่ะ” วัยทีนจิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์ ประชดสำทับลงไปอีก ก่อนจะรีบเบี่ยงประเด็นเพราะแสนซนกำลังจะอ้าปากต่อคำ “ไหนๆ จะให้ไปแลกเหรียญให้ใช่ป่ะ จะแลกเท่าไหร่เอามา แต่กูขอค่าเดิน 40%” วัยทีนกระดิกนิ้วยิกๆ แบมือขอเงินจากแสนซน

“เฮ้ย ได้ไงวะ แล้วเงินมึงไม่มีรึไงถึงได้มารีดไถกูอย่างหน้าเลือดเนี่ย” แสนซนละลายตาจากเกมหันมาโวยวายบ้าง

“หมดแล้ว ตาเมื่อกี้คือสิบบาทสุดท้ายแล้ว” วัยทีนตอบ

“เล่นแพ้บ่อยอ่ะดิถึงได้หมดเร็วอ่ะ”

“ไม่ต้องมาพูดมากเลย จะแลกมั้ยเหรียญอ่ะ” วัยทีนแบบมือกระดิกนิ้วรอเงินที่จะเอาไปแลก

“เออๆๆ เอาไป นี่ร้อยสุดท้ายของกูแล้วเหมือนกัน” แสนซนปัดรำคาญแล้วก็ล้วงเอาแบงก์ร้อยบาทยัดใส่มือวัยทีน

“งั้นรอแป๊บนะ จองที่ให้ด้วยล่ะ อย่าให้ใครหน้าไหนมาแย่งที่กูไปได้ล่ะ” วัยทีนสั่งก่อนที่จะเดินออกไป

“รู้แล้วน่า” เน้นเสียงตอบพร้อมกับยืดขายาวๆ ไปวางพาดไว้บนเก้าอี้นั่งของตู้เกมข้างๆจองที่ไว้ให้เพื่อน

รอไม่นานนักวัยทีนก็เดินกลับมาพร้อมกับเหรียญที่เพิ่งไปแลกมาเพื่อเอาไว้หยอดตู้เกม

“อ่ะ ได้แล้วนี่ของมึง 60 บาท ที่เหลือนี่ของกู” จัดแจงแบ่งมรดกให้เจ้าของเงินเสร็จสรรพก็ใช้ขายาวๆ ของตัวเองเขี่ยขาของแสนซนที่วางพาดอยู่บนเก้าอี้ทิ้งไป แล้วตัวเองก็หย่อนก้นลงนั่งประจำที่พร้อมสำหรับการออกรบตาต่อไป

แสนซนมองเหรียญสิบบาทหกเหรียญที่อยู่ในมือสลับกับหน้าวัยทีนแล้วก็ส่ายหน้าเบาๆ มันก็ช่วยไม่ได้อ่ะนะ ก็อยากขี้เกียจเองมันก็ต้องมีค่าแรงให้เพื่อนบ้างเป็นธรรมดา

แต่สำหรับแสนซนแล้วนี่มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะต้องโดนวัยทีนตัดตอนค่านายหน้าเวลาไปแลกเหรียญมาเล่นเกมเป็นประจำ แต่แม่งมึงจะหน้าเลือดกับกูไปไหนวะไอ้ตีนนนนนนน

ทั้งคู่ก็เล่นเกมกันไปเรื่อยๆ อย่างเมามันจนกระทั่งเหรียญในมือหมดลง ไม่มีเงินที่จะไปแลกเหรียญมาเล่นต่ออีกแล้ว จึงได้ฤกษ์งามยามดี ชวนกันออกมาจากเกมเซ็นเตอร์

“เมื่อยชะมัด” แสนซนเดินไปก็บิดขี้เกียจไป

“แหงสิ ก็เล่นนั่งรากงอกไม่ยอมลุกไปไหนแบบนั้นน่ะ” วัยทีนแขวะเข้าให้

“ชิ!”

“โห~~ นี่ดึกป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย มิน่าล่ะรู้สึกหิวพิกล” วัยทีนพูดขึ้นหลังจากที่ดูเวลาจากมือถือของตัวเอง

“ก็นั่งเล่นเกมกันตั้งแต่เช้าจนใกล้ได้เวลาที่เกมเซ็นเตอร์จะปิดยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา”

“หิวอ่ะ ไม่ไหวละไปหาไรกินกันเถอะ” วัยทีนเดินก้าวยาวๆ นำลิ่วๆ เข้า 7-11 ที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อหาอะไรลงท้อง แสนซนได้แต่เร่งฝีเท้าตามไปแล้วก็ดึงแขนเพื่อนเอาไว้เมื่อตามทัน

“มึงมีเงินเหรอ” แสนซนถาม

“ไม่มีอ่ะ” ส่ายหน้าตอบหน้าตาย

“ไม่มีเงินแล้วเดินเข้าไปหยิบของในร้านเนี่ยนะ เดี๋ยวก็ได้โดนเค้าเรียกตำรวจมาจับกันพอดีหรอก”

“อ้าว แล้วมึงไม่มีเงินเหรอ” วัยทีนย้อนถาม

“ก็เออดิ ก็ร้อยบาทสุดท้ายของกูให้มึงไปแลกเหรียญมาหยอดตู้เกมไปแล้วมึงจำไม่ได้เหรอ”

“โอ่ย~~ แล้วทีนี้จะทำไงดีล่ะเนี่ย กูหิวจะตายอยู่แล้ว” พูดจบก็ทรุดลงไปนั่งกับพื้นเอามือกุมท้องด้วยความหิวโหย

“ช่วยไม่ได้ล่ะนะ”

“เพราะมึงนั่นแหละ” วัยทีนโวยวายแล้วทำหน้ายู่ใส่เพื่อน

“อะไรของมึงอีกล่ะ” แสนซนเท้าเอวมองตอบ

“ทำไมมึงไม่เหลือตังค์ไว้กินข้าวบ้างเล่าห๊า!”

“แล้วทำไมมึงถึงไม่เก็บตังค์ของมึงเองเล่าห๊า!”

“ก็กูอยากฆ่าบอสให้ได้นี่นา เลยเอาตังค์ค่าข้าวมาปราบบอสหมด” พูดพลางก็เอานิ้วเขี่ยพื้นพลาง

“แล้วเป็นไง บอสตายมั้ย”

“บอสไม่ตายแต่กูกำลังจะตาย~~ มึงเข้าใจมั้ยกูกำลังจะตายยยยย หิวง๊า!!”

“ช่วยไม่ได้งั้นเรากลับไปตั้งหลักที่ห้องกันก่อนเถอะ” แสนซนยื่นมือออกไปให้วัยทีนยึดพยุงตัวขึ้น

“ตั้งหลักที่ห้องแล้วจะได้อะไรอ่ะ ตู้เย็นก็โล่งจนเราสองคนเข้าไปนอนได้สบายเลยนะ”

“ได้นอนไง” คราวนี้แสนซนเป็นฝ่ายเดินนำลิ่วออกไปให้วัยทีนเดินตามบ้าง

“เฮ่ยๆ ๆ มึงจะนอนในตู้เย็นจริงเหรอวะ” วัยทีนถามพาซื่อ เพราะคิดว่าเพื่อนคิดจะเข้าไปนอนในตู้เย็นจริงๆ ตามที่ตนได้บอกไปว่าตู้เย็นโล่งจนเข้าไปนอนได้

“มึงจะบ้าเรอะ ที่นอนก็มีมั้ย จะไปนอนทำไมในตู้เย็น ถ้ามึงจะนอนก็นอนไปคนเดียวเถอะ”


“เฮ้ยๆ นั่น!” วัยทีนชี้ให้แสนซนดูบางอย่าง

“อะไรของมึงอีกล่ะทีนี้” แสนซนถามน้ำเสียงติดรำคาญเล็กน้อย

“เด็กหลงว่ะ”

“เด็กที่ไหนจะมาเดินอยู่ข้างนอกป่านนี้มันไม่ใช่เวลาแล้ว”

“ก็นั่นไง”

“เออ จริงด้วยว่ะ”

“ฮี่ๆ” ทั้งสองมองหน้ากันแล้วฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์
.
.
.
“เฮ้ย!” ส่งเสียงดังแกมข่มขู่แล้วก็เดินไปดักหน้าดักหลังเด็กคนนั้นคนละด้าน ต้อนจนเหยื่อถอยร่นเข้าไปในซอกตึก

“พ พวกพี่ต้องการอะไร” เหยื่อถามเสียงสั่น

“เอาเงินมา” วัยทีนแบมือกระดิกนิ้วอีกมือนึงก็ยันกำแพงดักทางเหยื่อไว้ ถลึงตาใส่สร้างความน่ากลัวเพิ่มไปอีก

เด็ก(ดวงซวย)คนนั้นล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบบางอย่างยัดใส่มือวัยทีน

“อยากเจ็บตัวรึไงห๊า! บอกว่าให้เอาเงินมาไง!!” ตบกำแพงพร้อมขู่เสียงดังจนเหยื่อตัวสั่น

“ก ก็ ผ ผมไม่มีเงินนี่นา” เหยื่อพูดเสียงสั่นพร้อมด้วยน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอ

“ไหนดูซิ ไม่มีจริงๆรึป่าว ถ้าโกหกล่ะก็…ฮึ” แสนซนรี่ตรงเข้าไปค้นตัวเหยื่อ แต่ค้นเท่าไหร่ก็ไม่เจอของที่ต้องการเลย “มันไม่มีเงินจริงๆ ด้วยว่ะ” หันไปบอกวัยทีน

“โถ่เว้ย!” วัยทีนผลักหัวเด็กไปที ด้วยความหงุดหงิด “จะไปไหนก็ไปไป๊!” สิ้นเสียงวัยทีนเด็ก(ดวงซวย)ก็รีบเผ่นออกจากตรงนั้นด้วยความไวแสง

แล้วสองคนก็เดินออกมาจากซอกตึก

“เด็กนั่นยัดอะไรใส่มือมึงอ่ะ” แสนซนถาม

“นี่อ่ะ ไม่ได้เงินแต่ได้ขนมปังมาชิ้นนึง” วัยทีนตอบพลางฉีกถุงขนมปังด้วยความรุนแรง กัดขนมปังแบบคำเดียวก็ล่อไปครึ่งชิ้นแล้ว

“เฮ้ยๆๆ แบ่งกันมั่งดิโว้ย” แสนซนแย่งขนมปังที่เหลือมาจากมือวัยทีน

“เฮ้ย ไรวะ” วัยทีนโวยวายทั้งที่ยังมีขนมปังอยู่เต็มปาก

“ก็แบ่งกันกินไงเล่า กูก็หิวเหมือนกันนะ” แล้วก็ยัดใส่ปากไปจนหมด

หลังจากนั้นก็เกิดศึกสู้รบเล็กๆโดยการผลักหัวกันไปเขกหัวกันมาระหว่างแสนซนและวัยทีน

"กูว่านะ เราสองคนแม่งไม่เหมาะกับวิถีรีดไถคนอื่นว่ะ" แสนซนพูดขึ้นแล้วก็ทำท่าคอตก

"ทำไมวะ อย่างน้อยถึงเมื่อกี้จะไม่ได้เงินแต่ก็ยังได้ขนมปังมาประทังชีวิตนะเว้ย" วัยทีนแย้งเพื่อนที่ทำหน้าสลดคอตกอย่างจริงจังอยู่ข้างๆ

"เราไม่เหมาะจะรีดไถคนอื่นหรอกจริงๆ แต่เราเหมาะที่จะมารีดไถกันเองมากกว่า กูกับมึงทั้งรีดทั้งไถกันเองประจำไม่ใช่รึไง" จากคนที่คอตกหน้าสลด เงยหน้าขึ้นมาตอบเพื่อนตาพราวระยับอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมยักคิ้วให้อีกสองจึ่ก

"อะ อะ ไอ้เชี่ยส้น!! รีดไถอะไรของมึงวะแม่ง ไม่เคยมีเหอะ" คนฟังถึงกับติดอ่างพูดไม่ออก อ้าปากพะงาบๆ อมลม หน้าก็แดงเป็นมะเขือเทศสุก

"อะไรๆ เป็นไรของมึง คิดไรป่ะเนี่ย ก็มึงยังรีดไถกูอยู่เลยเมื่อตอนหัวค่ำน่ะ" แสนซนยิ้มล้อ คนพูดจาสองแง่สามง่ามให้เพื่อนเข้าใจผิดอมยิ้มส่งสายตาล้อเลียนให้วัยทีนเป็นเชิงว่ามึงอ่ะคิดลึกไปได้

"เชี่ยเอ้ย!" วัยทีนเสยผมตัวเองเมื่อรู้ตัวว่าเสียรู้ให้กับแสนซนเสียแล้ว

“…อย่าช้านะครับ มาพิชิตเงินแสนกัน แต่! อย่าลืมนะครับว่า 20 คู่แรกที่มาถึงเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ร่วมเล่นเกมกับเรา เรารอคุณอยู่ เงินรางวัล 1 แสนบาทรอคุณอยู่ แล้วเจอกันนะคร๊าบ…”

เสียงโฆษณาทางโทรทัศน์ช่องเคเบิ้ลทีวีที่ปกติจะมีแค่โฆษณาขายของเป็นส่วนใหญ่ ดังแว่วๆ มาจากร้านข้าวต้มโต้รุ่งใกล้ๆ กับที่ทั้งสองคนยืนอยู่ เรียกความสนใจทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี สองคนหยุดตบตีกันแล้วเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

“รางวัลตั้งแสนนึงแน่ะ” วัยทีนพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นตาลุกวาว

“น่าสนใจดีเนอะ” อีกคนก็ตอบรับด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต่างกัน

“พรุ่งนี้เรารีบไปสมัครเล่นเกมนี้กันนะ นะๆๆ ไอส้น เอ้ย! นะซนนะ” วัยทีนเขย่าแขนรบเร้าเพื่อน พร้อมส่งสายตาวิ้งๆ เป็นเชิงออดอ้อนไปให้แสนซน

“เออๆๆ ไปก็ไป แล้วเค้าสมัครกันที่ไหนอ่ะ” อีกคนก็ใจอ่อนแพ้ให้กับสายตาอ้อนๆ นั้นจนได้

“ไม่รู้อ่ะ” ปล่อยมือจากแขนของแสนซนแล้วส่ายหน้าพรืด

“อ้าว เวรกรรม เค้ารับแค่ 20 คู่เองนะเว้ย ไม่รู้ว่าที่ไหนแล้วจะไปสมัครทันมั้ย”

“นั่นๆๆ” วัยทีนกระโดดเหยงๆ ชี้ไปที่จอโทรทัศน์

หน้าจอกำลังมีตัววิ่งเกี่ยวกับการสมัครเล่นเกมที่เพิ่งประกาศไปเมื่อครู่พอดี ระบุเวลาและสถานที่ในการสมัครไว้พร้อม นับว่าเป็นโชคดีของทั้งคู่จริงๆ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าเกมนั้นเป็นเกมอะไร แต่เงินแสนนึงมันก็ล่อตาล่อใจใช่น้อย เกมอะไรก็ค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน

“รีบกลับห้องไปนอนกันเถอะ เก็บแรงไว้ไปแข่งเกมกันพรุ่งนี้” แสนซนชวน

“อื้อๆ แต่ก่อนอื่นต้องตื่นไปสมัครให้ทันก่อนมั้ย”

“เออ นั่นแหละ รีบกลับกันเถอะ”


เช้าแล้ว…

“เร็วๆ ดิวะไอ้ซนเดี๋ยวไม่ทันนะ”

“ก็รีบอยู่นี่ไงเล่า”

“มึงเป็นกิ้งกือรึไงแค่ใส่รองเท้าทำไมนานจัง ไปกันเถอะ” วัยทีนรีบลากแสนซนออกไปทันทีไม่รอช้า
.
.
.
.
.
“เอาล่ะครับทุกท่าน เวลาที่ทุกท่านรอคอยมาถึงแล้ว ช่วงเวลาที่เราจะไปพิชิตเงินแสนกัน!!” เสียงประกาศของพิธีกรจากเครื่องขยายเสียง เรียกเสียงปรบมือจากผู้เข้าแข่งขันได้เป็นอย่างดี

“มึงว่าคนเค้ามองเราแปลกๆ มั้ย” วัยทีนสะกิดเพื่อนแล้วถามเบาๆ ลอดไรฟันออกมา

“แหงสิ ก็เราสองคนเล่นแทรกฝ่าฝูงชนเป็นร้อยเข้ามาสมัครเล่นเกมนี่น่ะ พูดง่ายๆคือเราแซงคิวชาวบ้านเค้า”

“ก็ถ้าไม่แซงคิวมาเราก็สมัครไม่ทันอ่ะดิ”

“เออๆๆ ช่างมันเหอะ ก็ทำไปแล้วนี่”

“แต่กูว่านะ…”

“อะไรอีกล่ะไอ้ตีน” แสนซนย้อนถามด้วยน้ำเสียงที่ติดจะรำคาญเล็กน้อย

“ทีนเว้ย ไม่ใช่ตีน มึงนี่แม่ง แต่เรื่องนั้นช่างเถอะ กูว่าสายตาของทุกคนมองเราแปลกๆ แปลกแบบไม่ใช่แค่เพราะเราแซงคิวคนอื่นเค้ามาหรอกนะ” วัยทีนตอบแล้วหันมองบรรยากาศโดยรอบช้าๆ

“จริงด้วยแฮะ กูก็รู้สึกเหมือนกัน”

“ทุกคนพร้อมรึยังครับ!?” เสียงพิธีกรตะคอกใส่ไมค์ดังลั่น

“พร้อม~~~!” แล้วก็ตามมาด้วยเสียงผู้เข้าแข่งขันทุกคู่

“และวันนี้นะครับ เราก็มีคู่รักที่เป็นผู้ชายมาร่วมแข่งขันกับเราด้วย สงสัยคงอยากจะมีลูกมากแต่ไม่สามารถกันใช่มั้ยครับ แล้วอย่างนี้ใครจะเป็นคุณพ่อใครจะเป็นคุณแม่กันล่ะครับเนี่ย ฮา…” แล้วก็ตามมาด้วยเสียงขำขันจากรอบข้าง มันทำให้ทั้งสองคนหันมองไปรอบๆแล้วก็หันมองหน้ากันเองอย่างงงๆ

“คู่รัก? หมายความว่าไงวะ กูกับมึงเนี่ยนะ” วัยทีนเกาหัวแกรกๆ

“แล้วแค่มาแข่งเกมนี่เกี่ยวอะไรกับการมีลูกวะ” แสนซนก็สงสัยไม่แพ้กัน

“อ้าว นี่พวกนายไม่รู้เหรอว่าคนที่มาแข่งเกมนี้น่ะเค้าเป็นคู่รักที่อยากจะมีลูกกันทั้งนั้นเลยนะ มันเป็นเกมเลี้ยงเด็กน่ะ” ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ วัยทีนกระซิบบอก

“หา!!??”

“มึงคิดเหมือนที่กูคิดมั้ยเสาไฟฟ้า 1”

“กูก็คิดเหมือนมึงแหละเสาไฟฟ้า 2”

“ซวยแล้ว~~~!!” ทั้งสองทำหน้าแหยๆพูดออกมาพร้อมกัน

“ถอนตัวตอนนี้ทันมั้ยเนี่ย” แสนซนพึมพำ

“ไม่ทันแล้วล่ะ หน้าด้านแซงคิวชาวบ้านเค้ามาขนาดนั้นจะให้ถอนตัวตอนนี้คงไม่ได้แล้ว”

“เฮ้อ~~~ เอาก็เอา แข่งก็แข่ง เพื่อเงินแสน” แล้วก็ยืนคอตกกันทั้งคู่ แม้ว่าจะมีเงินแสนเป็นรางวัลล่อใจอยู่ก็ตาม

“อ่ะแฮ่มๆ” พิธีกรกระแอมใส่ไมค์ “งั้นเรามาฟังกติกาของเกมนี้กันเลยนะครับ เชิญรับชมวีทีอาร์ครับ” บนจอโปรเจคเตอร์ปรากฏภาพและเสียงอธิบายกฎกติกาของเกม

กติกาคร่าวๆ ก็คือ แต่ละคู่จะต้องเลี้ยงดูเด็กอายุประมาณ 3-5 ขวบเป็นเวลา 1 วัน เลี้ยงดูอย่างดีเปรียบเสมือนว่าตัวเองเป็นพ่อแม่ของเด็กคนนั้น ห้ามใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด แล้วจะมีกรรมการไปแอบซุ่ม(พร้อมกล้อง)ให้คะแนน สถานที่ก็คือบ้านที่อยู่ในโครงการหมู่บ้านโครงการหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของเด็กๆ แต่ละคนที่มาคุณลูกเฉพาะกิจนั่นเอง (เด็กๆ มาจากหมู่บ้านเดียวกันนะ) ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้พ่อแม่ตัวจริงไม่อยู่บ้านนะจ๊ะ

“นี่ก็เป็นกติกาของเกมนี้นะครับ ต่อไปเราก็มาพบกับเด็กๆ น่ารักๆ ที่จะมาเป็นลูกๆ ของทุกคนกันเลยคร้าบบบบ” *ปรบมือ*

เด็กๆ ทั้ง 20 คนหน้าตาน่ารักมีทั้งเด็กผู้หญิงและผู้ชายปนๆ กันไป แต่คู่ไหนจะได้เลี้ยงเด็กคนไหนต้องมาจับฉลากกันอีกที

“จับฉลากกันเรียบร้อยก็เดินไปหาลูกๆ ของตัวเอง แล้วให้เด็กๆ นำทางไปที่บ้านเลยครับ เกมของเราจะเริ่มตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป…ไอ ไอ ไอ ไอ…(เอคโค่)”

“น้องซ่า” นั่นคือชื่อที่วัยทีนจับขึ้นมาได้ แล้วก็มองหาเด็กที่ติดป้ายชื่อตามนั้นเอาไว้

เด็กชายแสบซ่า (น้องซ่า) อายุ 4 ขวบครึ่ง อื้อหือ แค่ชื่อก็ปวดหัวจี๊ดแล้ว พ่อแม่ก็ช่างตั้งจริงจริ๊ง ไม่รู้ตัวจริงจะแสบสมชื่อรึเปล่า

“นี่ๆ ทำไมผมมีป่าป๊าสองคนเลยล่ะ แล้วหม่าหม๊าล่ะ” เจ้าหนูแสบซ่ากระตุกขากางเกงแสนซนแล้วถาม

“เรียกพี่ก็พอแล้วล่ะ นี่พี่ซน แล้วก็นี่พี่ทีน” แสนซนย่อตัวลงไปลูบหัวบอกเจ้าหนูแสบซ่าเสียงนุ่ม

“ไม่เอาอ่ะ ไม่เอา คนอื่นเค้ามีป่าป๊าหม่าหม๊ากันผมก็ต้องมีป่าป๊าหม่าหม๊าเหมือนคนอื่นสิ ฮืออออ” ด่านแรกก็เจอความยุ่งยากซะละ เจ้าหนูนี่ร้องจะเอาป่าป๊าหม่าหม๊าซะอย่างงั้น

“อ่ะๆๆ ไม่ร้องนะๆ” แสนซนดึงเจ้าหนูแสบซ่าเข้ามากอด “เอางี้นะ เรียกพี่ทีนว่าหม่าหม๊า” ชี้ไปที่วัยทีน “แล้วเรียกพี่ว่าป่าป๊า โอเคนะ” แล้วก็ชี้มาที่ตัวเองและทำท่าโอเคเพื่อให้เจ้าหนูแสบซ่าตกลงตามนั้น

“พี่เป็นตุ๊ดเหรอ” เจ้าหนูแสบซ่าแหงนคอตั้งบ่าถามวัยทีน

“ไม่ใช่เฟ้ย!” เงื้อมือทำท่าจะตบเด็กอีกแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังอยู่ระหว่างเล่นเกม “ทำไมมึงต้องให้เด็กนี่มาเรียกกูว่าหม่าหม๊าด้วยห๊าไอ้ซน”

“ก็เด็กอยากมีหม่าหม๊าเหมือนเพื่อนๆ นี่ กูเลยจัดให้”

“แล้วทำไมมึงไม่เป็นหม่าหม๊าซะเองวะ”

“เพราะกูสูงกว่ามึง 2 เซนต์ มึงเตี้ยกว่าเป็นแม่ไป จบนะ” แสนซนตอบกลับ และตัดจบอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหน้านิ่งๆ ที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา แต่ในใจนี่คงจะลิงโลดที่ได้แกล้งเพื่อนอย่างวัยทีนให้หน้างออย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

“เหตุผลของมึงนี่แม่ง....” วัยทีนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าเพื่อนตอบเลยทีเดียว ได้แต่ทำหน้างอคอหักต่อไป

“แล้วอีกอย่าง.....” แสนซนกระพริบตาปริบๆ มองวัยทีนตาวิบวับ แล้วเว้นจังหวะพูดให้คนฟังต้องลุ้นว่าจะพูดอะไรต่อ

“อีกอย่างอะไรของมึง” ทนไม่ไหวเลยถามแทรกขึ้นมาก่อน

“ก็...ปกติตอนนอนมึงอยู่ข้างล่างส่วนกูอยู่ข้างบน ตำแหน่งมันก็ชัดเจนแล้วป่ะ”  พูดจบก็ทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อนอีก

“มึงนี่แม่งชอบพูดจากำกวม ใครมาได้ยินเข้าได้เข้าใจผิดกันพอดี”

“อ้าว หรือไม่จริง”

“เออ จริง! กลับไปกูจะสลับที่นอน มึงลงมานอนข้างล่างเลย!” วัยทีนขึ้นเสียงใส่หน้าดำหน้าแดง มองค้อนแสนซนไปอีกวงเบ้อเร่อ แถมอมลมจนแก้มพองแถมให้อีก

“อะไรว้า แค่ต้องเป็นแม่นี่ถึงกับต้องเปลี่ยนที่นอนเลยเหรอวะ” แสนซนพูดแซวๆ มือก็จิ้มๆ หยิกแก้มของวัยทีนที่พองลมเล่น

“มึงแม่ง.....”  พูดได้แค่นั้นก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าเพื่อนอีก พูดไม่ออกจริงๆ

“เอาน่าๆ แค่วันนี้วันเดียวเอง” แสนซนตบบ่าวัยทีนปุๆ ให้ยอมรับสภาพ

“หม่าหม๊าทีน~~” เจ้าหนูแสบซ่าเรียกวัยทีน พร้อมยักคิ้วยิ้มแป้นให้แก้มปริ

“อื้อฮือ~~~ ไอ้เด็กนี่ ท่าทางเจ้าเล่ห์ใช่เล่น หางตาชี้เหมือนลูกจิ้งจอกไม่มีผิด” วัยทีนถลึงตาใส่หนูซ่าแล้วคิดในใจ

“ป่าป๊าซนๆ ขอขี่คอหน่อย” กระพริบตาปริบๆมองแสนซน

“อ่ะ ก็ได้ๆ ขึ้นมา” แพ้สายตาเด็กอ้อนจนต้องย่อตัวลงให้เจ้าหนูแสบซ่าขึ้นขี่คอ

“เย่ๆ สูงดีจังเลย~~”

“เกาะดีๆ ระวังตกลงไปล่ะ”

“ป่าป๊านั่นแหละต้องจับผมไว้ให้ดีๆ อย่าให้ผมตกลงไปได้นะ” แล้วก็โดนเด็กย้อนเข้าให้

“คิกๆๆ” วัยทีนปิดปากกลั้นขำแทบไม่ทัน

“จะขี่คอป่าป๊าซนให้ถึงบ้านเลย~~” แต่ก็ใช่ว่าเจ้าหนูแสบซ่าจะขี่คอแสนซนนิ่งๆ เฉยๆ ซะเมื่อไหร่ โยกไปโยกมาราวกับควบม้าอยู่ยังไงยังงั้น จนบางทีแสนซนก็เซแทบจะล้มเหมือนกัน

“ระวังหน่อยสิฮะป่าป๊าซน ผมกลัวตกนะ” บอกพลางจิกผมแสนซนเอาไว้เพื่อยึดเกาะไม่ให้ตัวเองร่วงลงพื้นอีกต่างหาก

“กว่าจะถึงบ้านผมกูคงร่วงเป็นกระจุกแน่ๆ เลยว่ะ” หันไปบ่นเบาๆกับวัยทีน

“เอาน่าๆ ทนเอาหน่อยนะ”

“ถึงแล้วๆ ถึงบ้านแล้ว” เจ้าหนูแสบซ่าบอกทั้งคู่ด้วยน้ำเสียงเริงร่า กระโดดลงสู่พื้นโลกอย่างสวยงาม ไอที่กลัวตกเมื่อกี้คือแกล้งกลัวสินะ

“กรรมการจะมาให้คะแนนพวกเราตอนไหนนะ” วัยทีนถามขณะเดินเข้าไปในบ้าน

“ถามกูแล้วกูจะไปถามใครล่ะ” แสนซนย้อนเพื่อน พลางจัดทรงผมที่เสียไปกับการโดนเจ้าหนูแสบซ่าจิกทึ้งให้เข้าที่เข้าทาง

“มาตอนไหนไม่มีใครรู้หรอกฮะ แต่ถ้าหมดเวลาแข่งแล้วก็จะรู้เอง” เจ้าหนูแสบซ่าหันกลับมาบอกพลางเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ

“หืม? ยังไง แล้วจะรู้ได้ยังไง”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันฮะหม่าหม๊าทีน แต่ถ้าหมดเวลาแล้วป่าป๊าหม่าหม๊าต้องพาผมกลับไปส่งที่เดิมแล้วเค้าจะประกาศผล”

“เลิกเรียกหม่าหม๊าทีนซะทีจะได้มั้ย กู เอ้ย! พี่เป็นผู้ชายนะเฟ้ย!” วัยทีนถึงกับต้องเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวอย่างเร็ว เพราะรู้ว่าพูดคำหยาบกับเด็กมันไม่เหมาะสม

“ก็อยากเรียกอ่ะ หม่าหม๊าทีน หม่าหม๊าทีน หม่าหม๊าทีนนนนนนน แบร่~” พูดจบก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่วัยทีน จนเจ้าตัวต้องวิ่งไปไล่จับเจ้าเด็กแสบที่กำลังวิ่งหนีไปทั่วบ้าน

“คิกๆๆ มึงนี่เหมือนเด็กเลยนะไอ้ทีน” แสนซนพูดเบาๆ กับตัวเองแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟายาว(แต่ตัวแสนซนยาวกว่า)

“มาให้จับซะดีๆเจ้าตัวยุ่ง”

“หม่าหม๊าทีนขายาวจะตาย แน่จริงก็มาจับผมให้ได้เองสิ” แล้วก็ได้ยินเสียงวัยทีนกับเจ้าหนูแสบซ่าดังแว่วๆ มาจากในครัว แต่ก็ไม่ไหวแล้วล่ะ แสนซนตาจะปิดแล้ว


(มีต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
(ต่อจากด้านบน)

“ป่าป๊าซน ช่วยผมด้วย หม่าหม๊าทีนจะตีผม” เจ้าหนูแสบซ่าวิ่งหน้าตั้งกระโดดขึ้นไปบนโซฟาที่แสนซนนอนอยู่ แล้วกระโดดไปหลบหลังโซฟา โผล่แค่ตาขึ้นมาดู เพราะส่วนสูงมีอยู่แค่นั้น

“มันใช่เวลามาหลับมั้ยห๊าไอ้ซนลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” วัยทีนหยิบหมอนฟาดใส่คนหลับ

“งื้อ~~ มีอะไรเหรอทีน” แสนซนมองวัยทีนตาปรือ ถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เวลาแสนซนเพิ่งตื่นคำหยาบที่นำหน้าชื่อเพื่อนเสมอมักจะวิ่งแซงหน้าชื่อไม่ทัน

“ยังจะมาถามอีก!” ฟาดหมอนลงไปอีกที “ลุกขึ้นมาเลย มาช่วยกันทำมาหากินเดี๋ยวนี้”

“ป่าป๊าซนขี้เซาจังเลยเนอะ”

“แสนรู้นักนะเจ้าตัวยุ่ง” เอื้อมมือไปขยี้หัวเจ้าหนูแสบซ่าด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ผมหิวแล้วฮะ” เจ้าหนูแสบซ่าเดินอ้อมมานั่งเลื้อยบนโซฟา เอามือลูบพุงมองหน้าป๊าหม๊าสลับไปมาตาปริบๆ

“ไอ้ทีนมึงไปทำกับข้าวไป” แสนซนออกคำสั่ง

“อย่าหยาบคายต่อหน้าเด็ก” วัยทีนเอาหมอนฟาดไปอีกที

“เออๆ โทษที ลืมตัว เอาใหม่ๆ” แสนซนตั้งสมาธิก่อนจะพูดออกมา “วัยทีนที่รัก ตัวเองไปทำกับข้าวให้เค้ากับลูกซ่ากินหน่อยได้มั้ยครับ” ทั้งคำพูดทั้งน้ำเสียงโมดิฟายใหม่หมดยกเซ็ต ฟังนุ่มนวลอ่อนโยน ไม่มีแววประชดในน้ำเสียงแม้แต่น้อย พร้อมกับสายตาเชื่อมๆ ที่ส่งไปให้นั่นอีก จนคนฟังถึงกับหูแดงบิดหมอนในมือแทบขาด เพราะปกติแสนซนไม่เคยพูดหรือใช้น้ำเสียง รวมถึงท่าทางแบบนี้กับวัยทีนเลย

“แล้วมาใช้ฉันได้ไงเล่า” หมอนที่อยู่ในมือฟาดลงหัวแสนซนไปอีกทีแก้อาการเขิน แต่ก็ยังไม่ลืมว่าห้ามพูดคำหยาบต่อหน้าเด็ก

“ก็ตัวเองเป็นหม่าหม๊า เป็นแม่บ้าน ก็ต้องทำกับข้าวสิ” แสนซนเริ่มกระแดะใช้เสียงสองพูดกับวัยทีน

“อย่ามาตัวอง ตัวเอง แล้วทำเสียงเล็กเสียงน้อยได้ป่ะ ฉันเลี่ยน!! แม่งขนลุก” ลูบแขนตัวเองพลางพูดพลาง “แล้วก็กับข้าวน่ะ.....ทำไม่เป็นโว้ย!” ขึ้นเสียงใส่ กระแทกก้นลงนั่งบนโซฟาอีกตัว

“จริงด้วยแฮะ ปกติเราก็กินแต่ข้าวกล่องในเซเว่นกัน”

“เราไปช่วยกันทำกับข้าวกันดีมั้ยฮะ” เจ้าหนูแสบซ่าเสนอความคิด

“ทำเป็นเหรอเรา” วัยทีนถาม

“ทำไม่เป็นหรอกฮะ แต่เคยช่วยหม่าหม๊าทำน่าจะพอไหว ไปฮะไปเข้าครัวกัน” เจ้าหนูแสบซ่าลุกขึ้นมาลากแสนซนกับวัยทีนเข้าครัว นี่ตกลงใครเลี้ยงใครกันแน่ชักไม่แน่ใจแล้ว แล้วนี่คือเด็ก 4 ขวบครึ่งจริงๆ เหรอ ไม่ใช่เด็ก 10 ขวบที่มีพัฒนาการทางกายภาพเท่าเด็ก 4 ขวบใช่มั้ย ทำไมแสนรู้จังวะ

“ป่าป๊าซนกับหม่าหม๊าทีนตัวสูงจังเลยเนอะ โตขึ้นผมจะสูงแบบนี้มั้ยนะ” เจ้าหนูแสบซ่าแหงนคอตั้งบ่ามองทั้งสองคน

“อยากตัวสูงก็ต้องกินเยอะๆ ดื่มนมเยอะๆ” แสนซนลูบหัวเจ้าหนูแสบซ่าเบาๆ

“แล้วต้องนอนเยอะๆ แบบป่าป๊าซนด้วยมั้ยฮะ” หนูซ่าย้อนถาม ทำเอาวัยทีนขำพรืดออกมาแบบกลั้นไม่อยู่เลย

“ไหนๆ ในตู้เย็นมีอะไรกินบ้างนะ” แสนซนไม่ตอบเฉไฉเดินไปเปิดตู้เย็น “ตัวเองก็หยุดขำได้แล้วน่าทีน” หันกลับมาโวยวายใส่เพื่อนทีนึง แต่ก็ยังไม่เลิกใช้คำว่าตัวเองกับอีกฝ่าย วัยทีนก็ได้แต่ยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจ

แสนซนกับหนูซ่าช่วยกันรื้อผักและเนื้อสัตว์ออกจากตู้เย็นมากองไว้บนโต๊ะ

“เดี๋ยวเค้าหั่นผักเอง ตัวเองหุงข้าวนะทีน”

“นายอยากกินข้าวต้มเหรอ” จู่ๆ วัยทีนก็ย้อนถาม

“ทำไมเค้าต้องอยากกินข้าวต้ม”

“ก็ฉันหุงข้าวเป็นซะที่ไหนกันเล่า”

“มาฮะหม่าหม๊า เดี๋ยวผมช่วยหุง” หนูซ่าลากวัยทีนไปหุงข้าว

“ขออนุญาตคร้าบบบบ” ได้ยินเสียงคุ้นๆดังแว่วๆมาจากทางประตูบ้าน

“เอ๊ะ? ใครมากันนะ” เจ้าหนูแสบซ่าวิ่งแจ้นออกไปดู แล้วก็วิ่งกลับมาในครัวอีกครั้ง “คุณลุงพิธีกรคนเมื่อเช้ามาล่ะฮะ มีคุณตากล้องมาด้วย”

“สวัสดีคร้าบบบ คุณแสนซน คุณวัยทีน เป็นยังไงบ้างครับ” พิธีกรคนเดิมหยุดยืนอยู่หน้าทางเข้าครัว โดยมีตากล้องคอยเก็บภาพเอาไว้ “โห้วววว นี่กำลังจะทำมื้อเที่ยงทานกันใช่มั้ยครับเนี่ย น่ารักมากเลยใช่มั้ยล่ะครับท่านผู้ชม” พิธีกรหันไปพูดใส่กล้อง “เรามาดูกันซิว่าพวกเค้าทำอะไรกันบ้าง ตามมาเลยครับ”

เจ้าหนูแสบซ่าก็ตื่นเต้น กระโดดเหยงๆ โบกมือให้กล้องใหญ่ วิ่งซนไปทั่วครัว ส่วนป๊าหม๊าจำเป็นของเราก็พยายามทำหน้านิ่งๆ ไม่พูดอะไร รักษาความสุภาพไว้สุดๆ เมื่ออยู่หน้ากล้อง

“คุณวัยทีนกำลังทำอะไรอยู่ครับเนี่ย” พิธีกรถามแล้วยื่นไมค์ไปหาวัยทีน

“หม่าหม๊าทีนกำลังหุงข้าวอยู่ฮะ” เจ้าหนูแสบซ่าแย่งซีนตอบแทนซะงั้น

“เอ๋~~? หม่าหม๊าทีนเหรอ เรียกได้น่ารักจังเลยน้าน้องซ่า” พิธีกรแอบแซว

วัยทีนได้แต่ฉีกยิ้มสร้างภาพให้กล้อง แต่ในใจนี่แทบอยากจะโบกกะโหลกเจ้าเด็กนี่นัก

“ถ้าคุณวัยทีนเป็นหม่าหม๊าทีนแล้วคุณแสนซนเป็นอะไรล่ะน้องซ่า” พิธีกรยื่นไมค์ถามหนูซ่าต่อ กล้องก็เก็บภาพไป

“เป็นป่าป๊าซนฮะ” ตอบเสียงดังฟังชัด ยิ้มแก้มปริ แล้ววิ่งไปหาแสนซน

"ครอบครัวนี้ก็น่ารักไปอีกแบบใช่มั้ยครับท่านผู้ชม เอาล่ะครับเราไปดูที่บ้านอื่นกันต่อเลยดีกว่า ปล่อยให้ป่าป๊าหม่าหม๊าแล้วก็หนูน้อยแสบซ่าสุขสันต์กับมื้อเที่ยงกันไปนะครับ ไปกันเลย~~"

กลับสู่ความสงบ(ที่ไม่สงบ)อีกครั้ง

"ป่าป๊าซนทำอะไรน่ะฮะ"

"หั่นผักไง"

"สงสัยมีดบ้านผมคงจะไม่คมแฮะ" พูดพลางก็หยิบชิ้นผักที่แสนซนหั่นไว้ขึ้นมา แต่หยิบแค่ชิ้นเดียวมันดันติดสอยห้อยตามกันมาเป็นย่านเป็นยวง หั่นยังไงไม่ขาดออกจากกัน

“เอาน่า เดี๋ยวค่อยใช้ช้อนตัดให้ขาดตอนจะกินก็ได้นี่” แสนซนบอกปัดๆ เพราะขี้เกียจจะหั่นผักใหม่ให้ดีๆ เอาแบบตามมีตามเกิดไปแบบนี้ละกัน แล้วก็ลงมือทำกับข้าวกันต่อไปจนเสร็จ

"กินข้าวกัน~~ เย่~~" เจ้าหนูแสบซ่าวิ่งไปนั่งประจำที่ที่โต๊ะอาหาร แสนซนกับวัยทีนก็ตามมานั่งด้วย

ครอบครัวสุขสันต์กินข้าวเที่ยงพร้อมหน้าพร้อมตา

"ไม่คิดว่ากับข้าวหน้าตาแบบนี้จะอร่อยเกินคาดนะฮะ" เจ้าหนูแสบซ่าพูดแล้วก็ตักข้าวเข้าปาก

"หมายความว่าไงห๊ะเจ้าตัวยุ่ง" แสนซนถาม

"ก็หน้าตาเหมือนจะกินไม่ได้อ่ะ แต่ก็อร่อยดี" ยิ้มตาหยีแก้มปริ

"ถ้าอร่อยก็กินเยอะๆ นะจะได้โตเร็วๆ"

"หม่าหม๊าทีนป้อนข้าวผมหน่อยสิฮะ" กระตุกเสื้อบอกวัยทีนเสียงอ้อน

"ไม่ป้อน กินเองเลยไป" ขัดใจเด็กอย่างไร้เยื่อใย เจ้าหนูแสบซ่านั่งหน้ายู่เขี่ยข้าวไปมา ทำหน้าหงอยไม่สมชื่อสุดฟี้ยวของตัวเองเลย

"ตัวเอง" แสนซนเรียกเสียงเข้ม ใช้ช้อนที่ถืออยู่ชี้ไปทางหนูซ่า วัยทีนมองตามปลายช้อนไป

"อ่ะๆๆ ป้อนก็ได้ คำเดียวนะ เพราะโตแล้วต้องหัดกินเองได้แล้วเข้าใจมั้ย"

"ฮะ" เจ้าหนูแสบซ่ารับคำเสียงแจ๋ว

เมื่อกินข้าวเที่ยงกันอิ่มแล้ว ทั้งสามคนก็มานอนแผ่กันอยู่ที่ห้องรับแขก

"อิ่มพุงกางเลยนะฮะ" เจ้าหนูแสบซ่านอนลูบพุงตัวเอง

"แล้วนี่เราจะทำอะไรกันต่อ" วัยทีนถาม

"ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆคือ เค้าง่วงมากเลยอ่ะตัวเอง" แสนซนพูดพลางปิดปากหาว

"ป่าป๊าซนอย่าเพิ่งหลับสิฮะ" เขย่าแขนแสนซน "อาบน้ำให้ผมหน่อย"

"ใครเค้าอาบน้ำหลังกินข้าวเสร็จกันห๊า เดี๋ยวก็ได้จุกตายกันพอดีหรอก" วัยทีนพูดเสียงดุ

"เอ๋? ถึงขั้นตายได้เลยเหรอฮะ?" เจ้าหนูแสบซ่าย้อนถาม

"ก็ไม่หรอก แค่พูดให้เห็นภาพเฉยๆ ว่ามันไม่ควรทำ" วัยทีนตอบ

"อ๋อ~" เจ้าหนูแสบซ่าพยักหน้าเข้าใจ "งั้นพักซักแป๊บนึงเนอะค่อยอาบ" พูดจบก็หงายท้องนอนแผ่กับพื้น

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป...

"ป่าป๊าซนๆ ตื่นได้แล้วฮะ" เจ้าหนูแสบซ่าพูดกรอกหูแล้วขึ้นไปนั่งเขย่าๆ อยู่บนพุงแสนซน

"โอ๊ย! มันจุกนะเจ้าตัวยุ่งลงไปเดี๋ยวนี้นะ" คนนอนอยู่ก็ดันๆ เจ้าหนูแสบซ่าลงไปที่พื้น

"ไปอาบน้ำกันฮะ" พยายามดึงแขนแสนซนให้ลุกขึ้น ป่าป๊าจำเป็นของเราก็เอาแต่นั่งขยี้ตางัวเงียอยู่อย่างนั้น

"อื้มๆ ไปก็ไป~" ตอบรับเสียงเอื่อย

"เย่~~" เจ้าหนูแสบซ่าดีใจกระโดดเกาะหลังแสนซนทั้งที่เจ้าตัวยังไม่ทันได้ยืนทรงตัวดีๆเลย

"โอะ โอย นี่เจ้าตัวยุ่ง คราวหลังถ้าจะขึ้นขี่หลังก็ให้บอกดีๆ อย่ากระโจนขึ้นมาแบบนี้เข้าใจมั้ย” แสนซนหันกลับไปดุเสียงเข้ม

"เข้าใจฮะ" ทำหน้าจ๋อยพูดเสียงเบา "ไปอาบน้ำกันเถอะ!!" แล้วก็เปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเริงร่าราวกับสลับโหมด

"ทีน ตัวเองไปเอาเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เจ้าตัวยุ่งนี่ด้วยนะ" หันกลับมาสั่งเพื่อนเสียงอ่อนเสียงหวาน วัยทีนก็พยักหน้ารับคำโดยไม่พูดอะไร

ในห้องน้ำ เหมือนมีสงกรานต์ขนาดย่อม เจ้าหนูแสบซ่าให้แสนซนอาบน้ำให้แต่ก็ใช่ว่าจะอยู่นิ่งให้อาบแต่โดยดี ดี๊ด๊าเป็นปลากระดี่ได้น้ำ แกล้งหันฝักบัวใส่แสนซนบ้างล่ะ เอาฟองสบู่มาป้ายหน้าบ้างล่ะ สรุปแล้วทั้งคนอาบและคนอาบให้เปียกไม่ต่างกัน

"ทีน รับช่วงต่อที" แสนซนจับเจ้าหนูแสบซ่าห่อผ้าเช็ดตัวโยนให้วัยทีน

"ถ้านายจะอาบน้ำทำไมไม่ถอดเสื้อผ้าก่อนเล่า" วัยทีนแกล้งถามขำๆ

"ไม่ได้จะอาบซะหน่อย" ตอบกลับหน้ายุ่ง บิดน้ำออกจากเสื้อ

แล้ววัยทีนก็รับช่วงต่อด้วยการแต่งตัวให้เจ้าหนูแสบซ่า แต่สภาพคนแต่งตัวให้นี่สิเหมือนไปตกถังแป้งมายังไงยังงั้น ขาวโพลนตั้งแต่หัวจรดเท้า

"นี่ตัวเอง ปกติตัวเองทาแป้งแบบนี้เหรอ" แสนซนได้ทีแซวกลับบ้าง แถมอมยิ้มกลั้นขำแก้มแทบแตก

"ก็คงเหมือนนายไม่ได้อยากอาบน้ำทั้งเสื้อผ้านั่นแหละ"

"ฮ่าๆๆๆ หม่าหม๊าทีนกลายเป็นคุณยายทีนไปแล้ว" เจ้าหนูแสบซ่าหัวเราะใหญ่

"แล้วใครทำให้เป็นแบบนี้กันเล่าหา!?" คว้าเจ้าตัวยุ่งติดมือมาได้ก็สะบัดแป้งบนหัวใส่จนฟุ้งไปทั่ว

"ฮัดชิ้ว!!" แล้วก็จามไปตามๆกัน

"หม่าหม๊าทีนๆ"

"อะไร!!" ถลึงตาใส่ซะจนเจ้าหนูแสบซ่าหน้าซีดวิ่งไปหลบหลังแสนซน

"ทำหน้าตาน่ากลัวเกินไปแล้วตัวเอง" พูดพลางหยิบหน้ากากมิคกี้เมาส์ที่วางอยู่แถวนั้นมาใส่ให้วัยทีน

"ฮ่าๆๆ หม่าหม๊าทีนเป็นคุณมิคกี้น่ารักจังเลย" ตบมือชอบใจใหญ่ พุ่งไปกอดคุณมิคกี้ตัวโต

วัยทีนก็ผลักๆ ดันๆ หัวเจ้าตัวยุ่งออกไปห่างๆ เป็นอย่างนั้นเจ้าหนูแสบซ่าก็ยิ่งคึกใหญ่ กระโดดเกาะแข้งเกาะขา วัยทีนก็สะบัดๆ ผลักๆ เขี่ยๆ ออกไปห่างๆ แสนซนก็ทำหน้าที่เป็นกองหนุนอย่างดี พอวัยทีนผลักเจ้าหนูแสบซ่าออกมา แสนซนก็ผลักกลับไปหาวัยทีนอีก สองพ่อลูกสนุกกันใหญ่แต่วัยทีนติดจะรำคาญมากกว่า

"สนุกนักใช่มั้ยเจ้าตัวยุ่ง นี่แน่ะ แฮร่~~~!!" วัยทีนถอดหน้ากากมิคกี้เมาส์ออกแล้วหยิบหน้ากากผีมาใส่แทน

"แว๊กกกก!!! ผีหลอก!! ป่าป๊าซนช่วยผมด้วย" วิ่งแจ้นหนีผีไปหาแสนซนทันที

"ฮ่าๆๆๆ" วัยทีนถอดหน้ากากออกลงไปนั่งขำกับพื้น "พึ่งพาผิดคนแล้วล่ะ หมอนี่น่ะกลัวผีขี้ขึ้นสมองเลยนะจะบอกให้"

เจ้าหนูแสบซ่าเงยหน้ามองแสนซนซึ่งตอนนี้ยืนนิ่งเป็นหุ่นปูนปั้นไปแล้ว

"ป่าป๊าซนกลัวผีจริงๆสินะฮะ"

"ฮ่ะ เฮ้ย! ไม่ใช่ซักหน่อยแค่ตกใจเอง" ปฏิเสธทันควัน "ว่าแต่มึง เอ้ย! ตัวเองเอาหน้ากากผีนั่นมาจากไหนน่ะ" ด้วยความตกใจหน้ากากผีจนเกือบหลุดคอนเซ็ปท์ต่อหน้าเด็กต้องไม่พูดคำหยาบไปซะแล้ว

"มันวางอยู่หลังทีวีอ่ะ เลยหยิบมาใส่" วัยทีนลุกขึ้นเอาหน้ากากไปไว้ที่เดิม

"ตัวเองเล่นอะไรเนี่ยตกใจหมด" แสนซนเดินมาเขกหัววัยทีนไปทีนึง

"เจ็บนะเว้ย!!" โวยวายเสียงดังจนหลุดคอนเซปท์ไปอีกคน แถมยังกุมหัวทำหน้าหงิกใส่แสนซนไปอีก

เจ้าหนูแสบซ่ามองหน้าวัยทีนกับแสนซนสลับกันไปมาแล้วก็แอบยิ้มออกมานิดๆ

"หม่าหม๊าทีน~" เหมือนไม่เข็ด เจ้าหนูแสบซ่าเข้าไปเกาะขาวัยทีนอีก

"เลิกเรียกหม่าหม๊าทีนซะที ฉันชื่อวัยทีนเฟ้ย!!" ขึ้นเสียงใส่เด็ก เหมือนอารมณ์ยังค้างอยู่แฮะเลยพาลเหวี่ยงใส่เด็ก

"ขอดูใต้กระโปรงหม่าหม๊าทีนหน่อยสิ" แต่เจ้าหนูแสบซ่าก็ไม่ได้สนใจอารมณ์ขุ่นๆ ของวัยทีนเลยสักนิด พูดแล้วก็ทำหน้าทะเล้น เปิดชายเสื้อวัยทีน แล้วมุดหัวเข้าไปข้างใน

"กระโปรงบ้าอะไร ฉันเป็นผู้ชายนะเฟ้ย!!" ด้วยความหงุดหงิดเลยเผลอเขกหัวเจ้าตัวยุ่งไปทีนึง

"แง๊ๆๆ ป่าป๊าซน~" เจ้าหนูแสบซ่ากุมหัววิ่งไปหาแสนซน

"ว่าไงเจ้าตัวแสบ" ถามแล้วก็อุ้มเจ้าหนูแสบซ่าขึ้นมา

"หม่าหม๊าทีนไม่ยอมให้เปิดกระโปรงอ่ะ" เบะปากจะร้องชี้ไปที่วัยทีนที่ยืนกอดอกหน้าหงิกอยู่

"จะเปิดกระโปรงได้ไงหม่าหม๊าทีนเค้าเป็นผู้ชายเค้าไม่ใส่กระโปรงหรอกนะ" แสนซนบอกเจ้าหนูเร็น วัยทีนก็พยักหน้าด้วยความพอใจ "ถ้าอยากเปิดกระโปรงต้องเปิดกระโปรงผู้หญิงสิ" แล้วก็ต้องหน้าตึงเพราะแสนซนดันมาปลูกฝังสันดานส้นตีนให้เด็ก

"เฮ้ย!! นั่นมึงสอนอะไรให้เด็กน่ะห๊า!!?" โวยวายเสียงดังลั่น สรรพนามหยาบๆ มาพร้อม

"ป๊าว~" ตอบเสียงสูงลากเสียงยาว ยักไหล่ แล้วอุ้มเจ้าหนูแสบซ่าเดินหนี

"ป่าป๊าซนๆ ขอขี่คออีกทีสิฮะ" ได้ยินเสียงแจ๋วๆดังแว่วมาจากนอกบ้าน

"กริ๊ง~~~~~" จู่ๆก็มีเสียงกริ่งดังสนั่นขึ้นในบ้าน "หมดเวลาสนุกแล้วสิๆ"

"นี่กูกลายเป็นเทเลทับบี้ไปแล้วเหรอวะเนี่ย" วัยทีนบ่นพึมพำคนเดียว

วัยทีนพาเจ้าหนูแสบซ่าขี่คอวิ่งเข้ามาดูในบ้าน

"เฮ้ย!! ระวัง" วัยทีนตะโกนแล้วเอามือปิดตา

"โป๊ก!" เต็มๆ เจ้าหนูแสบซ่าหัวโหม่งขอบประตูเต็มๆ แสนซนลืมตัวไปว่ามีเจ้าหนูแสบซ่าขี่คออยู่ทำให้ส่วนสูงมันเลยขอบประตูไป

"โอ๊ย! ฮือ~ เจ็บจัง" ลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ แสนซนย่อตัวให้เจ้าหนูแสบซ่าลงจากคอ

"เจ็บมากมั้ย ไหนดูซิ" หันไปถามเสียงอ่อน ดึงมือเจ้าตัวยุ่งออกดู หน้าผากเริ่มแดงนูนเล็กน้อย

"อ่ะ ทายาซะก่อนที่มันจะบวมกว่านี้" วัยทีนไปหยิบยามายื่นให้แสนซน

"ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ" แสนวนพูดเสียงนุ่ม ทายาให้หนูซ่าอย่างเบามือ

"ไม่เป็นไรฮะ ไม่ได้เจ็บเท่าไหร่"

"เมื่อกี้เสียงอะไรน่ะ" มือลูบหัวเจ้าหนูแสบซ่าแต่หันหน้าไปถามวัยทีน

"สงสัยคงหมดเวลาแข่งขันแล้วล่ะมั้ง" วัยทีนตอบ

"ใช่ฮะ หมดเวลาแล้ว ว๊า~~ เสียดายจังผมยังสนุกอยู่เลย" พูดแล้วก็ก้มหน้ามองพื้น

"สนุกอยู่คนเดียวน่ะสิเจ้าตัวยุ่ง" วัยทีนเดินเข้ามาขยี้หัวเจ้าหนูแสบซ่าจนยุ่ง

"ไปกันเถอะ เดี๋ยวเค้าก็จะประกาศผลแล้วนี่นา" แสนซนชวน

ทั้งสามช่วยกันสำรวจความเรียบร้อยภายในบ้านแล้วจึงออกเดินกลับไปยังจุดเริ่มต้นเพื่อฟังการประกาศผล...
.
.
.
.
.
"เอาล่ะครับ ณ ตอนนี้เวลาที่ทุกท่านรอคอยมาถึงแล้ว คู่รักคู่ไหนจะได้เป็นผู้ครอบครองเงินแสนนั้น อีกไม่กี่วินาทีนี้เราก็จะได้ทราบกันแล้วครับ" พิธีกรคนเดิมพูดบิ๊วอารมณ์ให้ตื่นเต้นสุดๆ

"รีบๆ ประกาศซะทีเห๊อะ ลุ้นจะตายแล้ว" วัยทีนบีบมือแสนซนแน่น

"และผู้ชนะในเกมนี้ก็คือ..." ดนตรีดังกระหึ่มลุ้นสุดๆ "คือ..." ก็ยังไม่ประกาศซะที "คือ...คู่ของ...คู่ของคุณมอร์ฟีนและปลายฟ้าคร้าบบบ~~!!" เสียงปรบมือแสดงความยินดีกับคู่ที่ชนะดังขึ้นทันที พร้อมแผ่นกระดาษสีและสายรุ้งโปรยปรายลงมา คู่ที่ชนะก็ดีใจกระโดดกอดกันกลม วัยทีนจำได้ว่าเป็นคู่รักที่ยืนอยู่ข้างๆเค้าเมื่อเช้านี้

"และนี่ก็คือโฉมหน้าของผู้ชนะในเกมวันนี้นะครับ คราวหน้าทางรายการของเราจะมีเกมอะไรมาให้ร่วมสนุกกันอีกนั้นโปรดติดตามกันต่อไปด้วยนะครับ" พิธีกรหันมาพูดกับกล้อง "ก่อนจากกันในวันนี้ผมขอเฉลยบางอย่างนิดนึงนะครับว่า เราได้ทำการติดตั้งกล้องวิดิโอแบบเรียลไทม์ไว้ตามจุดต่างๆของบ้านทุกหลังเพื่อสะดวกสำหรับการตัดสินของคณะกรรมการครับ ฮา.... ลาก่อนครับท่านผู้ชม สวัสดีคร้าบบบบ~" พูดจบก็โบกมือให้กล้อง

"เจ้าพิธีกรปีศาจ" ทั้งแสนซนและวัยทีนกัดฟันพูดออกมาพร้อมกัน ทุกการกระทำของทั้งคู่คงได้เห็นหมดแล้วสินะ

"แพ้ก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะป่าป๊าหม่าหม๊า"

"ไม่เป็นไรได้ไงเล่า อดได้แสนนึงเลยนะเว้ย!" วัยทีนโวยวาย ตอนนี้จะหลุดคอนเซปท์ยังไงก็ได้ เพราะจบแข่งขันแล้ว แถมเด็กนี่ฉลาดเกินวัยอีก ต่อให้พูดคำหยาบหรือไม่พูดก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก(มั้ง)

"แต่วันนี้ผมสนุกมากๆจริงๆนะฮะ" เจ้าหนูแสบซ่าพูดตาละห้อย

"น้องซ่า~" ได้ยินเสียงมาจากข้างหลัง เจ้าของชื่อก็หันไปดู

"หม่าหม๊า~" คุณแม่ตัวจริงมารับแล้วเจ้าหนูแสบซ่าก็วิ่งเข้าไปหาทันที

"เป็นไงห๊ะเรา ดื้อกับพี่เค้ารึป่าว" คุณแม่ถาม

"ไม่ฮะ ไม่ดื้อแล้วก็สนุกมากเลย" ตอบเสียงแจ๋ว

"ไม่ดื้อเลยครับแค่ซนขั้นสุดยอดเอง" วัยทีนพึมพำเบาๆ

"เก่งมาก" เอ่ยชมแล้วลูบหัวลูกชายเบาๆ "ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยดูแลน้องซ่าเป็นอย่างดี" หันไปโค้งขอบคุณให้แสนซนกับวัยทีน

"ไม่เป็นไรหรอกครับ" แสนซนโค้งตอบ

"นี่เป็นของฝากเล็กๆ น้อยๆ รับไว้ด้วยนะคะ" คุณแม่ส่งถุงใบใหญ่ให้แสนซนกับวัยทีน ข้างในเป็นซูชิชุดใหญ่จากร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีรูปภูเขาไฟเป็นสัญลักษณ์ ดูแล้วน่ากินมากๆ เห็นแล้วน้ำลายสอเลยทีเดียว (^__,^)

"อันที่จริงไม่ต้องก็ได้ครับพวกผมเกรงใจ" ปากบอกเกรงใจแต่วัยทีนก็ยื่นมือไปรับถุงจากมือคุณแม่หนูซ่ามาซะแล้ว

"งั้นเราก็กลับกันเถอะลูก"

"ฮะ"

"ขอตัวก่อนนะคะ"

"บ๊ายบายฮะป่าป๊าซนหม่าหม๊าทีน" เจ้าหนูแสบซ่าโบกมือลาทั้งสองคน

"บ๊ายบายเจ้าตัวยุ่ง"

ร่ำลากันเรียบร้อยต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป ทั้งคุณลูกจำเป็นและป๊าหม๊าจำเป็น

แสนซนกับวัยทีนแวะนั่งกินซูชิที่แม่หนูซ่าให้มากันที่ใต้สะพานแขวนริมแม่น้ำ กินเสร็จก็นั่งพิงหลังกันเองด้วยความเหน็ดเหนื่อย

"น่ารักดีเนอะ" จู่ๆ แสนซนก็เอ่ยขึ้นมา

"น่ารักกะผีสิ เด็กผีชัดๆ เหนื่อยจะตายอยู่แล้วโว้ย!!"

"ไม่ได้หมายถึงเด็ก หมายถึงมึงน่ะ" แสนซนพูดต่อ

"โว๊ะ!!! ไร้สาระ เมาซูชิรึไงห๊า" ทำไรไม่ถูกก็ผลักหัวแสนซนไปที คนโดนผลักก็ได้แต่ขำคิกๆ

"อยากตายรึไง" ข่มขู่แก้เขิน

"ป่าว ไม่อยากตาย แต่อยากได้ลูก" พูดเสียงอ่อยเงยหน้ามองฟ้า

"มึงว่าไงนะ!!" วัยทีนขึ้นเสียง

"ป๊าว!!! ไม่มีไร๊!!" ปฏิเสธเสียงสูงสายตาเลิ่กลั่ก วัยทีนผละออกมาทันทีจนแสนซนที่พิงหลังอยู่หงายท้องลงไปนอนกับพื้น วัยซนได้ทีต่อยลงไปที่ท้องของเพื่อนไม่เบาแต่ก็ไม่แรงนัก

"โว๊ย!! เพิ่งกินอิ่มๆ ต่อยมาได้จุกนะเว้ย!" นอนคู้ตัวโวยวาย

"สมน้ำหน้า ใครใช้ให้มึงมาพูดอะไรไร้สาระชวนจั๊กจี้กันวะห๊ะ!!"

"ไอ้ตีนนนน!!" ตั้งท่าจะลุกขึ้นยืนแต่วัยทีนเร็วกว่ารีบลุกวิ่งหนีไปซะก่อน

"เรียกทำไม กลัวจะลืมชื่อกูรึไง" ถามกลับพลางหัวเราะพลาง

“ยอมรับแล้วเหรอว่าชื่อตีนน่ะ” นึกขึ้นได้วัยทีนก็หยุดหัวเราะทันที กลายเป็นเสียงหัวเราะเยาะของแสนซนดังขึ้นมาแทน แล้วก็กลับลำจากวิ่งหนีเป็นวิ่งไล่อีกฝ่ายซะงั้น

"ไอ้ส้นนนนนน มึงแม่ง แน่จริงอย่าหนีสิวะ มาให้เตะซะดีๆ" ตะโกนใส่แล้วก็วิ่งตามแสนซนไป

แล้วทั้งคู่ก็ไล่เตะกันไปเรื่อยๆตลอดทาง....

...............แฮปปี้เอนดิ้งรึป่าวไม่รู้ แต่...จบเหอะ...............


Talk

คุยกันซักนิด

จริงๆ เรื่องนี้ควรมีชื่อเรื่องว่าคู่หูส้นตีนมากกว่าป่ะเนี่ย ฮาาาา

เรื่องนี้ถ้าอ่านตามเนื้อเรื่องก็อาจจะไม่ใช่นิยายวายซักเท่าไหร่ แม้จะมีประโยคชวนคิดลึก ก็ให้เอาไปคิดต่อเอาเองละกันเนอะ ฮาาาาา

มันจะออกแนวบ้าๆ บอๆ ซะมากกว่า

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดัดแปลงมาจากฟิคสายเจ

ก่อนจะแต่งเรื่องนี้ ก็คุยกันกับเพื่อน คนที่เป็นเจ้าของพล็อต ว่าอยากแต่งฟิคคู่นี้จัง(ไอดอลสายเจ) แล้วทีนี้ก็ช่วยกันคิดโดยเพื่อนก็คิดพล็อตมาว่าอยากได้เรื่องประมาณนี้ๆ เราก็เอาพล็อตของนางมาแต่งเป็นเรื่องเป็นราว จนได้เป็นฟิคเรื่องนึงขึ้นมาสมใจอยาก

แล้วเวลาก็ผ่านมาเป็นปีหลังจากเราเอาฟิคลงบล็อกไป คุณเพื่อนคนเดิมก็มาบอกว่า เฮ้ย แก ถ้าเอาฟิคคู่สองเสาไฟฟ้ามาแปลงเป็นนิยายวายไทยมันได้ป่าววะ?

เราก็เออๆ น่าจะได้นะ ต้องลองดู แล้วพอลองเอามาโมดิฟายใหม่ เปลี่ยนตรงนั้น เสริมตรงนี้ เพิ่มบางฉาก บางประโยคลงไป ก็ได้เรื่องนี้มา

อ่านแล้วเป็นยังไงก็อย่าคอมเมนท์ไว้บ้างน้า เราอยากอ่านคอมเมนท์ของคนอ่านทุกคนเลย

อย่าลืมติดแท็ก #คู่หูส้นตีน ในทวิตเตอร์ด้วยน้าาาาา



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2017 17:13:49 โดย little_porcupine »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ dadt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
“เฮ้ย!” ส่งเสียงดังแกมข่มขู่แล้วก็เดินไปดักหน้าดักหลังเด็กคนนั้นคนละด้าน ต้อนจนเหยื่อถอยร่นเข้าไปในซอกตึก

“พ พวกพี่ต้องการอะไร” เหยื่อถามเสียงสั่น

“เอาเงินมา” วัยทีนแบมือกระดิกนิ้วอีกมือนึงก็ยันกำแพงดักทางเหยื่อไว้ ถลึงตาใส่สร้างความน่ากลัวเพิ่มไปอีก

เด็ก(ดวงซวย)คนนั้นล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบบางอย่างยัดใส่มือวัยทีน

“อยากเจ็บตัวรึไงห๊า! บอกว่าให้เอาเงินมาไง!!” ตบกำแพงพร้อมขู่เสียงดังจนเหยื่อตัวสั่น

ขอติฉากนี้ ไม่จำเป็นต้องมีเลย การไถเงินเด็กไม่ใช่เรื่องตลกนะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด