Tweet Love 02
[[ PAM ]]
P.Pam @pppamx_
ทำไมต้องทำตัวน่ารักขนาดนี้ว่ะ .///.
P.Pam @pppamx_
ชอบพี่เขามากควรทำยังไงดี ♡
ผมนั่งทวีตข้อความเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจที่เพิ่งได้เจอพี่ฟางไปสดๆร้อนๆเมื่อตอนหัวค่ำ พี่เขาดูแลผมอย่างดีตอนที่ผมประสบอุบัติเหตุ นวดเท้าให้ผมเสร็จเรียบร้อยยังอาสาไปส่งผมที่หอพักอีก -//- ปกติแค่ผมแอบมอ
พี่เขาผมก็ชอบเขาจะแย่แล้ว พอได้ทำความรู้จักและได้อยู่ใกล้ๆถึงได้รู้ว่าไอ้คนหน้าตาย ดูจะดุเนี่ย จริงๆแล้วใจดีมากแค่ไหน ปากร้อยแต่ใจดีอะไรทำนองนั่นเลยครับ
ที่ผมกล้าระบายลงทวิตเตอร์เพราะพี่ฟางไม่ได้ฟอลโล่วผมกลับมา ผมก็เลยกล้าจะทำอะไรแบบนี้ลงไป ใบหน้าของผมที่ตอนนี้ประดับยิ้มสดใสมาตลอดตั้งแต่พี่เขาตอบว่าจะยอมเปิดใจให้ผม จนตอนนี้ผมนอนอยู่บนเตียงที่หอแล้วยังหุบยิ้มไม่ได้เลย ง่าก คิดไปคิดมาก็เขินอีกแล้วครับ ทำยังไงดี เพราะผมมัวแต่เขินมากไปหน่อยจนเสียงเตือนว่ามีคนเมนชั่นมาให้ทวิตทำให้ผมตกใจ มือไม้สั่นรีบจับมือถือไว้ให้มันก่อนจะมันจะตกใส่หน้า ผมรีบเปิดดูว่าใครเมนชั่นมาก็ต้องอ้าปากค้าง มือไม้เหมือนจะหมดแรงซะดื้อๆ ฮื้อ พี่ฟางฟอลโล่วผมกลับพร้อมด้วยเมนชั่นต่อท้ายข้อความที่ผมทวิตลงไปเมื่อกี้ อายดีไหมครับเนี่ย เขารู้หมดว่าผมเพ้ออะไรไปบ้าง ลบไม่ทันแล้วด้วย โอ้ยย
SUPER F. @Superfang
@pppamx_ ชอบขนาดนั้นก็จีบสิวะน้อง
ดูพี่ฟางเขาทำสิครับ แบบนี้เรียกว่าอ่อยได้ไหม แพมจะเป็นลมแล้วนะ ไอ้คนบ้า! อ่อยขนาดนี้ไม่อยากจีบแล้วครับ มาเป็นแฟนกันเลยเถอะจะได้ไม่เสียเวลารักกัน
P.Pam @pppamx_
@Superfang ขอเตรียมตัวก่อนสิครับ .//.
โดนอ่อยขนาดนี้ใครไม่เขินก็บ้าแล้วครับ ขอเวลาเตรียมตัวสักวันสองวันเถอะครับ จีบคนที่ตัวเองชอบมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ แค่ได้คุยก็ใจสั่นจะแย่แล้ว ยิ่งได้เจอหน้าได้อยู่ใกล้หัวใจมันจะวายอยู่เรื่อย ตอนนี้รู้สึกร้อนจนหน้าจะระเบิดอยู่แล้วครับ ฮือ ถ้าใครเอาน้ำเย็นมาราดควันคงขึ้นอ่ะ
SUPER F. @Superfang
@pppamx_ ชักช้ากูไปชอบคนอื่นนะเว้ย
ผมอ่านข้อความที่ส่งมาแล้วเบะปากแรงใส่หน้าจอมือถือ ใช่สิ๊ ตัวเองไม่ได้ชอบเรานิ มีสิทธิ์เหนือกว่าเราทุกอย่างอ่ะ ไอ้พี่ฟางใจร้าย! ทำไมเป็นคนเปลี่ยนใจง่ายขนาดนี้อ่ะ เดี๋ยวไม่รักซะเลยว่ะ!!!!
P.Pam @pppamx_
@Superfang อย่าใจร้ายกับผมสิครับพี่ฟางงงงง ;__; เดี๋ยวกระโดดงับหูเลยนี่
SUPER F. @Superfang
@pppamx_ ไหนบอกชอบกูไง จะทำร้ายกูเนี่ยมันใช่เหรอ?
ฮืออ ผมก็ล้อเล่นไหมล่ะวะ อย่าทำเป็นโกรธจริงจังแบบนั้นเด้ ผมดิ้นไปมาบนเตียงจนผ้าห่ม ตุ๊กตาเป็ด หมอนข้างกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ง่ากก จีบพี่ฟางนี่มันยากกว่าสอบแมทอีกเว้ย ทั้งกวนตีน ทั้งอ่อย ไม่รู้อารมณ์ไหนเป็นอารมณ์ไหนอ่ะ
P.Pam @pppamx_
@Superfang ชอบดิ ชอบมาด้วยนะ แพมไม่ได้จะทำจริงซะหน่อย โกรธเหรอ?
ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองร้อนรนชอบกล กลัวพี่เขาโกรธแล้วลืมสิ่งที่เคยพูดกับผมไว้ ผมก็แค่เด็กกะโปโลคนหนึ่งที่ไม่สามารถเอาอะไรไปเทียบกับคนที่ยืนข้างๆพี่เขาได้เลยสักนิด... พี่ยีนส์เขามีพร้อมทุกอย่าง ทั้งหน้าตาและฐานะ แถมนิสัยดีด้วย ผมล่ะ ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย.. คงมีดีแค่เรื่องเรียนล่ะมั้ง ผมรอการตอบกลับของพี่ฟางเกือบครึ่งชั่วโมง ไม่ยอมละสายตาจากจอมือถือเลยแม้แต่นาทีเดียว ไม่กล้าลุกไปทำอะไรที่ไหน เพราะกลัวจะพลาด และการรอคอยก็สิ้นสุดลงเมื่อเสียงเตือนว่ามีเมนชั่นเข้ามาดังขึ้น
SUPER F. @Superfang
@pppamx_ รู้ไว้อย่างนึงนะ กูเป็นคนขี้แกล้ง 555 ไปนอนได้แล้วไป พักผ่อนเยอะๆ หายไวๆนะแพม
ผมเขินได้ไหมครับ พี่เขาเป็นห่วงผมอ่ะ แถมยังพิมพ์ชื่อผมมาด้วย ฮือ ขอแคปเก็บไว้ได้ไหมครับ แต่ยังไม่อยากนอนเลยอ่ะ อยากคุยกับพี่ฟางต่อ คุยด้วยทีไรไม่อยากหยุดคุยเลย อยากคุยกันไปแบบนี้ไปจนแก่ -//-
P.Pam @pppamx_
@Superfang ยังไม่อยากนอนเลยครับ อยากคุยกับพี่ฟาง ._.
ผมพิมพ์ออกไปตามความรู้สึกครับ ถึงมันจะดูงี่เง่าในสายตาพี่เขาก็เถอะ แต่ผมก็อยากให้เขารู้ไว้ว่าผมชอบเขามากแค่ไหน ถ้าได้พี่เขามาเป็นแฟนผมคงจะติดพี่เขาน่าดูเลยล่ะ หน้าตาผมตอนนี้ก็หงอยเหมือนอีโมที่ใช้ไปนั่นล่ะครับ แค่คิดว่านอนแล้วจะไม่ได้คุยความรู้สึกมันก็พาลไปเอง
SUPER F. @Superfang
@pppamx_ มึงนี่มันเด็กน้อยจริงๆ พรุ่งนี้ค่อยคุย กูไม่หายไปไหนหรอก นี่มันตีสองแล้วนะ นอนๆซะ กูไม่ชอบเด็กดื้อ
ฮึก ผมเบะปากคว่ำ โดนดุเลยเว้ย พี่ฟางโหมดดุน่ากลัวชิบหาย เหมือนพี่เขาพร้อมจะเทผมทุกเมื่อเลย ผมควรเป็นเด็กดีไม่ทำตัวงอแงสินะ ก็ได้วะ ยอมนอนดีกว่าโดนพี่ฟางเบื่อ
P.Pam @pppamx_
@Superfang ครับผม นอนแล้วๆ อย่าให้คนอื่นจีบนะ อย่าไปชอบคนอื่นด้วย ฝันดีนะครับ ♡
ผมพิมพ์ข้อความเสร็จก็รีบวางมันไว้บนหัวเตียงก่อนจะมุดหน้าลงใต้ผ้าห่ม โอย นี่ผมกล้าบอกพี่เขาไปแบบนั้นได้ยังไงกัน ฮือ ถ้าเจอหน้ากันควรจะทำตัวยังไงดีล่ะเนี่ย แล้วคืนนี้ผมจะนอนหลับไหมครับ อ๊ากก ผมได้แต่สติแตกอยู่ใต้ผ้าห่ม ใจเต้นแรงมากครับ แต่ก่อนที่จะได้ตั้งสมาธิให้มันสงบลง เสียงเตือนเมนชั่นเข้าก็ทำให้สิตผมแตกอีกรอบ ผมไม่รอช้าที่จะเอื้อมมือออกไปหยิบมือถือมาปลดล็อคแล้วรีบเข้าไปอ่านทันที
SUPER F. @Superfang
@pppamx_ กูไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้นนะ ฝันดีครับน้องแพม
ใครก็ได้ช่วยเรียกหมอมาปั๊มหัวใจผมทีครับ ฮือ !!! 'ฝันดีครับน้องแพม' อยากให้ผมตายรึยังไงงงงงง พี่ฟางอย่าอ่อยหนักนะสิวะ แง
ผมคุยกับพี่เขาทุกวันมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก่อนจะเปิดเทอม วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกครับ เนื่องจากที่หอผมอยู่ใกล้มหา'ลัยมากผมเลยเลือกปั่นจักรยานไป แล้วระหว่างทางผมก็ได้เจอคนที่ไม่คาดว่าน่าจะเจอด้วยล่ะ พอดีทางไปคณะนิติศาสตร์มันต้องผ่านหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่พี่ฟางอยู่ เสียงเรียกผมดังขึ้นจนผมต้องหยุดรถริมฟุตบาทแล้วหันไปหาเจ้าของเสียงที่กำลังเดินตรงมาหาพร้อมกับเพื่อนของเขา
"มาแต่เช้าเลยนะ"
คำทักทายที่ไม่ได้มีความน่ารักอะไรของพี่ฟางเลยสักนิด แต่มันกลับทำให้ผมยิ้มกว้างรับอย่างดีใจ หนึ่งเดือนที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนค่อยๆเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนพี่ยีนส์เขาก็ไม่ได้ขัดขวางอะไรผมนะ ดูจะถูกใจผมซะด้วยซ้ำ
"พี่ฟางกับพี่ยีนส์มาเช้ากว่าผมอีกอ่ะ"
ผมยู่ปากแล้วมองทั้งสองคนที่ยักไหล่ไม่แคร์อะไรให้กับผม สองคนนี้ความกวนตีนไล่ๆกันเลยครับ แต่แทนที่พี่ฟางจะได้ตอบอะไร พี่ยีนส์ก็แย่งซีนไปซะก่อน
"มันรู้ว่าแพมเรียนเช้าไง มันเลยมาดักรอ"
พี่ยีนส์พูดจบก็ยักคิ้วกวนไปให้พี่ฟางที่ขมวดคิ้วยุ่ง กำปั้นใหญ่ๆของพี่ฟางเขกลงกลางหัวของพี่ยีนส์ จนคนโดนทำร้ายร้องโวยวาย
"โอ้ย ไอ้เชี่ยฟาง เจ็บนะ"
พี่ยีนส์ลูบหัวตัวเองป้อยๆแล้วแยกเขี้ยวใส่เพื่อนสนิทของตัวเอง พี่ฟางไม่ได้รู้สึกผิดแต่อย่างใด ยังยักคิ้วกวนตีนกลับไปอีก
"มึงไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่ามึงเป็นใบ้หรอก"
"ก็กูพูดเรื่องจริงอ่ะ! กูผิดตรงไหนไม่ทราบ?"
พี่ยีนส์เบ้ปากใส่พี่ฟาง ผมหลุดขำน้อยๆเมื่อเห็นทั้งสองคนทำหน้าบึ้งใส่กัน นี่สินะคงเป็นมุมเด็กๆของผู้ใหญ่ทั้งสองคน
"เออ ขี้เกียจเถียงกับมึงละ"
พี่ฟางพูดจบก็เดินเข้ามาใกล้ผมอีก ผมได้แต่มองแล้วอมยิ้ม ความเขินของผมตอนนี้มันลดเลเวลลงแล้วครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่คุยกับพี่ฟางแล้วปั่นจักรยานหนีเป็นแน่ การลดความเขินของตัวเองลงเป็นผลดีครับ เพราะได้คุยกับพี่ฟางนานขึ้นนั่นเอง
"เมื่อกี้พี่ยีนส์พูดเรื่องจริงเหรอ?"
ผมมองตาแป๋ว ต้องการคำตอบจากปากพี่ฟางมากกว่า เพราะถ้าเป็นแบบพี่ยีนส์พูดจริง ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ฟางก็คงพัฒนาไปอีกขั้น
"อยากให้จริงไหมล่ะ?"
พี่ฟางยกยิ้มมุมปากให้กับผม สายตาที่เขาใช้มองผมนั่นเจ้าเล่ห์มาครับ แต่ผมก็ชอบนะ มันดูมีเสน่ห์มาก ส่วนหนึ่งผมก็ชอบเขาที่ดวงตานี่ล่ะครับ ผมหลบสายตาของเขา ยอมรับว่าความเขินกำลังเล่นงานผมอีกแล้ว
"ถ้าจริงก็ดีสิ"
เสียงพูดของผมเบาหวิว ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองหน้าพี่ฟาง พี่เขาหัวเราะออกมาเบาๆ และผมก็รู้แล้วว่าต่อไปพี่เขาต้องหาอะไรมาแกล้งผมแน่ๆ และผมก็สัมผัสได้ว่ามีลมหายใจอุ่นๆที่มีกลิ่นหอมของเมนทอลอ่อนๆที่ข้างแก้ม เสียงกระซิบทุ่มต่ำในแบบฉบับของพี่ฟางดังขึ้น
"พี่มารอแพมครับ"
ผมหน้าร้อนวูบวาบเมื่อพี่ฟางพูดประโยคนั้นออกมา ผมพยายามกลั้นยิ้มแต่ก็ทำไม่ได้ โอยย แก้มจะแตกอยู่แล้วนะ!! ระหว่างที่ผมเขินพี่ฟางก็หัวเราะออกมาเบาๆเหมือนคนกำลังถูกใจอะไรสักอย่าง ผมเงยหน้ามองเขาแล้วหุบยิ้มฉับตีหน้าบึ้งทันที โดนแกล้งอีกแล้ว !
"หัวเราะอะไรครับ?!"
ผมยู่ปากมองหน้าคนขี้แกล้ง แต่พี่ฟางไม่ได้โอ๋ผมเลยครับ กลับหัวเราะหนักขึ้นแล้วเอื้อมมือใหญ่ๆมายีหัวผมจนยุ่งเหยิงไปหมด ผมปัดมือนั่นทิ้งอย่างไม่จริงจังนัก พี่เขาเลยหยุดยีหัวผมแล้วจ้องหน้าผมนิ่ง เหมือนโลกหยุดหมุนเมื่อเราสบตากัน
"แพมน่ารักว่ะ โคตรน่าแกล้งเลย"
พี่ฟางพูดจบก็ยิ้มออกมา มันเป็นยิ้มที่ผมคิดว่า... ผมแพ้อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ฮือ ทำไมต้องเป็นคนน่ารักแบบนี้ด้วยอ่ะ แต่ใจร้ายนะ ทำให้ผมตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ปรานีกันเลยอ่ะ
"น่ารักก็รักด้วยสิครับ"
ผมเสมองไปทางอื่น แก้มร้อนอย่างไม่ต้องสืบ มันต้องแดงมากแน่ๆเลยครับ แต่จะก้มหน้าอีกก็คงทำไม่ได้แล้ว ผมพูดออกไปน้ำเสียงสั่นเพราะความตื่นเต้นและความเขิน รอลุ้นคำตอบของพี่ฟางอยู่แค่อึดใจ พี่เขาก็พูดคำที่แทบจะฆ่าผมทั้งเป็น
"ถึงเวลาเมื่อไหร่จะรักน้องแพมจนหมดใจเลยครับ"
พี่ฟางกำลังฆ่าผมด้วยร้อยยิ้มและรักษามันด้วยความสุข หัวใจดวงน้อยๆของผมเต้นแรงมากอย่างห้ามไม่อยู่ จนเผลอยกมือที่จับแฮนด์รถจักรยานมาวางทาบตำแหน่งหัวใจของตัวเอง พี่มันจะยิ้มละมุนให้ผมทำไมเนี่ย รู้ตัวรึเปล่าว่าทำให้คนอื่นเขาจะบ้าตาย!
"พอครับพี่ฟาง ผมไปเรียนแล้วนะ!"
ผมตะโกนกลบเกลื่อนความเขินแล้วเตรียมปั่นจักรยานหนี แต่พี่ฟางเข้าจับมือผมที่จับแฮนด์รถอยู่ ทำให้ผมสะดุ้ง โอ้ยย อย่ามาแต๊ะอั๋งคนอื่นตอนสิครับพี่ฟาง จะให้ผมเขินจนขาดอากาศหายใจตายเลยเหรอ ฮือออ
"จะรีบหนีไปไหนล่ะ จะพาไปกินข้าวเช้า โทรเรียกไอ้แป๊กมาด้วยนะ"
หื้อออออ หมายความว่ายังไงครับ นี่ชวนผมกินข้าวหรอกเหรอ ขอเขินได้ไหม ครั้งแรกที่ได้กินข้าวกับพี่ฟางเลยนะถึงจะมีคนร่วมโต๊ะอีกสองคนก็เถอะ แล้วอีกอย่างพี่ฟางเขาเลิกใช้คำกูมึงกับผมแล้วครับ เพราะครั้งนึงผมเคยบอกว่าผมไม่ชอบอะไรแบบนี้ พี่เขาก็เลยเลิกพูด เห็นไหมนะพี่ฟางของผมน่ารักแค่ไหน
"อ่า งั้นผมโทรหาไอ้แป๊กแปปนึงนะครับ"
พี่ฟางพยักหน้ารับแล้วเดินกลับไปยืนข้างพี่ยีนส์ ตอนผมรอสายผมก็มองไปที่เขาสองคน พี่ฟางกับพี่ยีนส์กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมาก บางทีผมก็แอบปวดใจเมื่อเห็นเขาแตะต้องตัวกันหรือแม้กระทั่งเขายิ้มให้กัน เฮ้อ
'โหลๆๆๆๆๆๆ ไอ้แพมมม มึงโทรมาทำไมไม่พูด'
ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงปลายสายโวยวาย นี่ผมเผลอคิดอะไรจนลืมสนใจมันเลยเหรอวะ ท่าทางอาการจะหนักพอตัว -^-
"เออ สัญญาณไม่ค่อยดี มึงอยู่ไหน?"
ผมก็แถไปครับ สายตานี่ก็แอบมองพี่ฟางกับพี่ยีนส์ที่เล่นกันอยู่ พี่ฟางกำลังล็อคคอพี่ยีนส์ ส่วนพี่ยีนส์ก็ดิ้นไปมาจนหน้าแดงไปหมด ปวดใจขึ้นมาอีกแล้ว ผมเสมองไปทางอื่นเมื่อรู้สึกแบบนั้น ถึงจะรู้ว่าเขามีขอบเขตวางไว้แล้ว แต่ก็อดคิดมากไม่ได้ ก็ในเมื่อพี่ฟางไม่เคยบอกว่าชอบผมหรือรักผมเลยสักครั้ง
'อยู่หน้ามอแล้ว มึงมีไร?'
"พี่ฟางให้ชวนมึงไปกินข้าวเช้าด้วยกัน"
'เหรอวะๆ รอแปป เดี๋ยวกูเข้าไป เอ้อ แล้วกินที่ไหน?'
นั่นดิ กินที่ไหนล่ะ ผมเลื่อนมือถือให้ไกลจากปากแล้วตะโกนถามพี่ฟางที่ตอนนี้ยีนส์ยีผมของพี่ยีนส์เล่นอย่างเมามัน นี่มันอะไรกันครับเมื่อกี้ผมยังยิ้มปากจะฉีกอยู่เลย ตอนนี้อยากจะร้องไห้ซะแล้ว
"พี่ฟางครับ จะกินข้าวที่ไหน?"
ผมตะโกนถามทำให้พี่ฟางหยุดชะงักมือที่ยีผมพี่ยีนส์อยู่ ส่วนพี่ยีนส์ก็จับมือพี่ฟางแล้วดึงออกจากหัวตัวเอง
"โรงอาหารวิดวะนี่ล่ะ"
เขาตอบพร้อมกับยิ้มให้ผม ผมก็พยายามยิ้มตอบเขาก่อนจะเลื่อนมือถือมาคุยอีกครั้ง
"มึง โรงอาหารคณะมึงนี่ล่ะ มาไวๆเลย"
'เคคคค'
แล้วมันก็ตัดสายผมไป ผมมองหน้าจอมือถือแล้วถอนหายใจเบาๆอีกครั้งก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋า แล้วนี่ผมควรทำยังไงกับจักรยานล่ะเนี่ย? จอดไว้ข้างตึกวิศวะก่อนได้ไหม? ในระหว่างที่ผมกำลังคิด พี่ยีนส์ก็เดินเข้ามาหาผม ผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจแต่ก็หันไปยิ้มทักทาย
"มีอะไรรึเปล่าครับพี่?"
"เอารถไปจอดข้างตึกสิ"
พี่ยีนส์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ใบหน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้มบางดูผ่อนคลาย ผมพยักหน้ารับก่อนจะออกตัวปั่นจักรยานไปจอดไว้ข้างตึกแล้วเดินไปรวมตัวกับพี่ๆเขา แต่พี่ฟางก็ขอตัวไปทำธุระอะไรนิดหน่อยแล้วจะรีบกลับมาทำให้ผมต้องอยู่กับพี่ยีนส์สองต่อสอง
"นี่ กำลังคิดมากเรื่องพี่กับฟางเหรอ?"
พี่ยีนส์ถามตรงประเด็นจนลมหายใจของผมสะดุดกึก พี่เขาไม่ได้มองผมหรอก แต่มองตรงไปทางที่พี่ฟางกับลังยืนคุยกับใครคนหนึ่งอยู่
"ก็นิดหน่อยครับ"
ผมตอบไปตามความจริง โกหกไปก็ไม่ได้มีประโยขน์อะไรขึ้นมารังแต่จะไม่สบายใจซะเอง
"พี่รักฟางนะ ตอนนี้ก็ยังรักอยู่"
ผมรู้ครับ รู้มาตลอด สายตาของพี่ยีนส์ที่มองพี่ฟางมันเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย สายตาของคนๆหนึ่งที่ใช้มองคนที่ตัวเองรักสุดหัวใจ
"....."
ผมได้แต่ฟังเงียบๆไม่รู้จะพูดอะไรดี และเหมือนพี่ยีนส์ก็รู้ว่าผมคงไม่พูดอะไร เขาเลยพูดต่อ
"แต่ความรักของพี่ที่ให้ฟางมันไม่เหมือนเดิมแล้วนะ มันไม่ใช่รักอย่างคนรัก แต่มันเป็นรักแบบเพื่อน"
พี่ยีนส์พูดแล้วยิ้มบางออกมาก่อนจะมองมาที่ผม เราสบตากัน ตอนนี้ผมสับสน พี่ยีนส์เปลี่ยนใจจากพี่ฟางได้แล้วเหรอ หรือว่าทั้งหมดที่ทำไปเพราะผลดีกับคนทั้งสองเองรึเปล่า
"พี่ยีนส์ตัดใจจากพี่ฟางได้แล้วเหรอครับ เอ่อ ขอโทษที่ถามแบบนั้น"
ผมเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่ถามออกไปมันไม่ควร แต่มันก็ไม่ทันแล้ว ผมมองตรงไปเจอพี่ฟางที่หันมายิ้มให้เราสองคน พวกผมก็เลยยิ้มกลับไป เพื่อนคนที่พี่ฟางคุยด้วยหายไปแล้ว กลายเป็นไอ้แป๊กเข้ามาแทนที่
"ไม่ได้ตัดใจ แต่พี่เผลอใจไปชอบไอ้แป๊กซะแล้วล่ะ ฮ่าๆ ตลกดีเนอะ กลัวมันจะมาจีบฟาง แต่พี่ดันไปชอบมันเอง"
พี่ยีนส์มองไปที่ไอ้แป๊กแล้วขำออกมา ผมมองพี่ยีนส์อย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าคนที่ดึงพี่ยีนส์ขึ้นมาจากการหลงรักเพื่อนสนิทจะเป็นเพื่อนของผมเอง
"น่าแปลกใจใช่ไหมล่ะ ต่อไปก็ไม่ต้องคิดมากเรื่องพี่กับฟางแล้วนะ"
พี่ยีนส์เอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ ส่วนผมส่งยิ้มให้พี่เขา หลังจากนั้นเราทั้งสี่คนก็ไปกินข้าวเช้าด้วยกัน และแยกย้ายไปทำหน้าที่นักศึกษาของแต่ละคนกันไป
หลังจากวันนั้นผมก็ยังเดินหน้าจีบพี่ฟางไปเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ของเราก็ค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ผ่านมาสองเดือนแล้วสินะ กับการตามจีบรุ่นพี่ที่ตัวเองแอบชอบ และวันนี้พวกเราก็ตกลงกันว่าจะไปเที่ยวหัวหิน... เอ่อ ไปกันสี่คนนะครับ ผม พี่ฟาง ไอ้แป๊ก พี่ยีนส์
พี่ฟางเป็นคนขับรถครับ ส่วนผมโดนให้นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ พี่ยีนส์กับไอ้แป๊กจองเบาะด้านหลัง สองคนนั้นเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันครับ แย่งชิงขนมกันตลอดทางตั้งแต่กรุงเทพฯยันถึงหัวหิน มีพักรบกันบ้างตอนความง่วงมาเยือน ผมแอบถ่ายรูปไว้ด้วยนะ ก็พี่ยีนส์นอนหนุนตักไอ้แป๊กที่นั่งหลับพิงเบาะ มือมันก็วางไว้บนเอวของพี่ยีนส์ น่ารักไปอีกคนเรา ส่วยผมกับพี่ฟางก็มีชวนคุยกันบ้างเงียบกับบ้างเป็นปกติ ถ้าคุยกันได้ตลอดเวลาคงเหนื่อยแย่ครับ
ตอนนี้พวกเรากำลังปาร์ตี้เล็กๆที่หน้าบ้านพักครับ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และย่างบาร์บีคิวกินกัน วงเหล้าเล็กๆดำเนินกันไปเรื่อยๆ พี่ฟางกับไอ้แป๊กนี่ดวลกันอย่างดุเดือด คอทองแดงกันทั้งคู่ครับ ผมกับพี่ยีนส์ได้แต่นั่งมองอยู่เงียบๆ จิบเหล้าจางๆในแก้วพร้อมกับกัดบาร์บีคิวใส่ปากกันไป หลังจากนั่งกันนานเกินไป พี่ฟางเลยชวนผมออกไปเดินเล่นที่ชายหาด ผมก็ไปล่ะครับ โอกาสที่จะได้อยู่สองต่อสองมาถึงแล้ว
ผมเดินเรียบติดริมหาด เท้าย่ำลงบนน้ำทะเล เราเดินกันไปตามความยาวของหาดยามค่ำคืนที่มีเสียงคลื่นเป็นระลอก เราไม่ได้พูดคุยอะไรกันสักคำเดียว ต่างคนต่างตกอยู่ในความคิดของตัวเอง จนที่ฟางหยุดเท้าแล้วหมุนตัวเข้าหาทะเลก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่มีดาวส่องแสงระยิบระยับ ผมทำตามเขาอย่างเงียบๆ
"สวยดีนะ"
อยู่ๆพี่ฟางก็พูดขึ้นมา ผมก็เลยพยักหน้ารับทั้งๆที่ตาก็ยังมองท้องฟ้าอยู่
"ดาวสวยเนอะพี่ฟาง ต่างจากในกรุงเทพมากเลย หาดาวดูยาก"
ผมพูดจบก็ยิ้มบางให้กับคนข้างๆที่มองผมอยู่ก่อนหน้าแล้ว ใบหน้าที่ผมชอบตอนนี้มันเรียบเฉยจนผมเดาอารมณ์ของพี่เขาไม่ออก
"นี่แพม พี่ขอถามอะไรหน่อยสิ"
เสียงทุ้มดังขึ้น ดวงตาคมมองจ้องมาที่ผม ซึ่งผมก็ไม่ได้หลบตาเขาหรอก ตอนนี้แสงไฟมีแค่น้อยนิดเอง ถ้าเห็นชัดๆผมคงไม่กล้ามองเขาตรงๆเหมือนเดิม
"อื้อ ถามสิครับ"
"แพมชอบพี่เพราะอะไรเหรอ?"
คำถามนี้ผมว่าเป็นคำถามที่ผมตอบได้ง่ายที่สุดในชีวิตเลยนะ แต่คำตอบมันคงมากมายมหาศาลจนตอบไม่หมดภายในคืนนี้แน่ๆ แต่จะให้ผมตอบจริงๆเหรอ มันน่าอายออก
"อยากรู้จริงๆเหรอครับ?"
ขอถ่วงเวลาหน่อยเถอะครับ ขอเวลาเตรียมตัวอีกสักแปปนะพี่ฟาง
"ที่ถามเพราะอยากรู้ ไม่อยากรู้จะถามทำไมวะ"
เริ่มขึ้นวะแล้วอ่ะ แพมยอมก็ได้ครับพี่ฟาง อย่าใจร้ายกับเด็กตัวเล็กๆแบบผมนักดิ พี่ฟางมองตรงไปยังทะเลด้านหน้า ผมรู้ครับว่าเขากำลังรอคำตอบอยู่ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วผ่อนออกมา เอาวะ ตอบก็ตอบ มาถึงขนาดนี้แล้ว
"ครั้งแรกที่ผมมั่นใจว่าชอบพี่เพราะว่า หน้าตาของพี่มันน่ารักดี หลังจากนั้นผมก็ชอบรอยยิ้มของพี่ ยิ่งได้คุยได้รู้จักกันทำให้ผมยิ่งชอบพี่มากขึ้นไปอีก ถึงพี่จะหน้านิ่งๆ พูดไม่หวาน แต่พี่ก็ดุเพราะว่าเป็นห่วงผม ใจดี คุยด้วยแล้วสบายใจ ดูแลเทคแคร์ผมเป็นอย่างดี พี่เป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกอบ....อื้อออ"
ผมยังไม่พูดไม่ทันจบ ริมฝีปากหนุ่มหยุนสีชมพูอ่อนก็ประกบลงบนริมฝีปากของผม มันเป็นเพียงแค่การเอาปากแตะปากเพียงชั่วครู่ แต่แค่นั้นผมก็แทบจะล้มทั้งยืนไปซะดื้อๆ ใครมันจะคิดว่าพี่ฟางจะจูบผมล่ะ!!!
พี่ฟางถอนริมฝีปากออก เขายิ้มละมุนให้ผม ผมรีบยกมือขึ้นปิดปากของตัวเอง แก้มทั้งสองข้างร้อนวูบวาบอย่างช่วยไม่ได้ ฮือ ตอนนี้ผมอยากดำน้ำหนีไอ้คนบ้าตรงหน้าผมชะมัด มาขโมยจูบกันหน้าตาเฉยเลยไง
"แพมพูดมากว่ะ"
ดูเขาพูดกับผมดิ!! ก็ตัวเองเป็นคนบอกให้ผมพูดเองอ่ะ แล้วนี่คือการลงโทษคนพูดมากรึยังไงกันเล่า ฮือออ ผมนวดแก้มตัวเองไปมาอย่างหนัก คนมันเขินมากนี่นา
"ก็พี่ฟางให้ผมพูดเองนะ คนฉวยโอกาส!"
ผมตะโกนกลบเกลื่อนความเขินอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับต้องกลั้นหายใจเมื่อพี่ฟางหันมามองหน้าผมแล้วจับมือทั้งสองข้างของผมดึงออก
ก่อนจะใช้มือตัวเองนวดแก้มให้ผมเอง อ๊ากก จะบ้ารึไง จะให้หัวใจวายตายใช่ไหม ฮือ ผมพลาดอ่ะ พลาดมากที่มาเขินไอ้คนขี้แกล้งเนี่ย
"อยากจับมานานแล้วแก้มเนี่ย นุ่มดีชะมัด ชอบว่ะ"
ดูท่าทางพี่ฟางจะคิดว่าแก้มผมเป็นของเล่นไปแล้ว ก็พี่เขาทั้งนวดทั้งดึงแก้มผมเล่นไม่หยุดเลย จากที่เขินตัวจะแตกกลายเป็นมองพี่เขาแบบปลงๆไปซะงั้น
"ชอบแก้มผมก็ชอบผมด้วยดิ"
ได้ทีแพมคนนี้ก็ขอหยอดพี่มันอีกล่ะครับ ต้องรีบทำคะแนน เพราะช่วงนี้เหมือนพี่ฟางจะเป็นคนฮอตในหมู่สาวๆและหนุ่มน้อย
"พูดมากอีกแล้วว่ะ เดี๋ยวดีพคิสเลยนี่"
พี่ฟางพูดเสียงทะเล้น มือสองข้างบีบแก้มผมเล่น โอยย ไอ้พี่ฟางบ้า ชอบแกล้งกันดีนักนัก ฮึ่ยยย ผมทำอะไรไม่ได้ไง อย่างมากสุดก็แค่เม้มปากตัวเองไม่ให้เผลอยิ้มนี่ล่ะ
"ถอยไปเลย จะกลับแล้ว ยุงกัด"
ผมผลักพี่ฟางออกแล้วเดินหนีเข้าบ้านพัก ผมได้ยินเสียงตะโกนให้รอและเสียงฝีเท้าเดินตามมา แต่ผมก็รีบวิ่งทันที ไม่อยากอยู่ด้วยแล้วครับ สงสารหัวใจตัวเองที่มันเต้นแรงจนจะทะลุออกมาแล้ว คนบ้าอะไรว่ะ ชอบทำให้เขินอยู่เรื่อยเลย สงสัยคงต้องไปฝึกภูมิคุ้มกันพี่ฟางซะแล้ว!
-----------------------------------------------------------