#3
ผมกับไอ้เคพวกเรากลับมาเป็นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสถานะที่เปลี่ยนไป เพราะเราเพิ่งใช้คำว่าแฟนกันไปหมาดๆประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว
และคนที่เห่อแม่งที่สุดคือไอ้เค
ไอ้เวรตะไลคนเดิม
เพิ่มเติมคือแฟนผม
“กูขึ้นสถานะนะ”
“สถานะอะไร”
“ในเฟสบุ๊คอ่ะ”
“เรื่องมึง”
แอบอายเหมือนกัน แต่ก็ตามใจมันไปแล้วกัน
แววตามันแม่งมีประกายมากกว่าได้เปิดซิงสาวอีกมั้งแม่ง อะไรจะดูตื่นเต้นขนาดนี้วะ
ไม่นานเสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น แน่นอนเป็นเสียงจาการแจ้งเตือนการตั้งสถานะของไอ้เคนั่นเอง
Kay
In a Relationship with Jan JJ
เหล่าคอมเม้นเริ่มทยอยมาส่วนมากก็มาจากเพื่อนผมและเพื่อนมันเป็นส่วนใหญ่ ผมแอบอมยิ้มตามอย่างอดไม่ได้ ใครจะไปคิดว่าวันๆหนึ่งผมจะมาคบกับมัน
ขนาดผมเองยังคิดไม่ถึงเลย
บางทีไอ้เคมันอาจจะทำเล่นของใส่ผมก็ได้
“ยิ้มอะไร”
“เสือก”
“ผัวมึงนะ”
“รู้ได้ไงมึงผัวกู มึงอาจจะเป็นเมียกูก็ได้”
“สูงแค่นี้?” มันว่าพลางวางมือของมันไว้ตรงระนาบคางตัวเอง ซึ่งมันก็เท่ากับส่วนสูงของผมถ้าเทียบกับมัน
แล้วไง มันก็แค่ส่วนสูงตัวผมก็ไม่ได้บางขนาดที่ขึ้นคร่อมเป็นผัวมันไม่ได้เสียหน่อย
“ส่วนสูงไม่เกี่ยวกับลีลาบนเตียงไหม”
“เดี๋ยวนี้มีต่อปากต่อคำ”
“เก่ง”
ได้มาจากมึงทั้งนั้นแหละ ไม่งั้นคบมึงไม่ได้หรอก ควาย
“งั้นมาพิสูจน์ไหม” แววตาของไอ้เคเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ มันเหลือบมามองผมแวบหนึ่งเล่นเอาผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว สัญชาตญาณบ่งบอกว่าอันตรายกำลังค่อยๆคลืบคลานเข้ามาใกล้
อันตรายมาในรูปแบบมนุษย์เชี่ยๆ ไม่มีเหี้ยไรดี ชื่อว่า เค
สัส!!
“ไปไกลๆตีนกู” วลีเด็ดประจำชีวิต
“หึ”
“เกลียดมึง”
“เหรอ”
“กวนตีน”
“อืม”
จุ๊บ
มันใช้จังหวะที่ผมกำลังจะก่นคำด่าใส่มันพุ่งเข้าประกบปากเข้ากับผม มันเป็นการจูบที่บดเบียดริมฝีปากเข้าด้วยกันไร้การรุกล้ำ เพียงเสี้ยววิไอ้เคก็ถอนริมฝีปากออกและยิ้มกรุ้มกริ่ม
“มึงแม่ง..”
สรรหาคำด่ามันไม่ออกเลยจริงๆ
“หวาน”
“พร่อง”
“หวาน”
ได้กำมือแน่น หน้าร้อนผ่าวแทบจะระเบิดได้อยู่แล้ว ให้เดาว่าตอนนี้หน้าผมคงแดงเป็นมะเขือเทศสุกชัวร์
ไอ้เคไอ้เวร!!
“มึงคืนนี้ดาวสวย”
“ติสต์เชี่ยไรมึง”
“มึงมาดู” มันกวักมือผมให้เดิมไปหามันที่นอกระเบียง
“ที่นี่กรุงเทพไอ้เชี่ยเค คงมีดาวให้แหกตาดู” ผมพูดสีหน้าเนือยๆ สรรหาคำด่ามันไม่ถูกแล้ว
“มานั่งแดกเบียร์รับบรรยากาศดีกว่า”
ว่าแล้วมันก็วิ่งปลี่ไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาสามขวดและเดินมาที่ระเบียงจัดการลากโต๊ะเก้าอี้มาวางเตรียมไว้
“จันทร์มาดิ่” ผอมถอนหายใจยากเหยียดแต่ก็เดินไปหามันตามที่มันเรียก
“คึกไรของมึง” ผมหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆมัน ไอ้เคจัดแจงรินเบียร์ใส่แก้วให้ผมเงียบๆ
“อยากฉลอง”
“ฉลองไร”
“ที่ได้คบกับมึง”
“...”
“อยากให้วันนี้มันพิเศษ”
“นี่ฉลองของมึง?”
“ก็มันคิดได้แค่นี้”
ผมแค่นหัวเราะในลำคอแต่ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ มือเอื้อมไปหยิบน้ำแอลกอฮอล์กระดกเข้าปากแหงนหน้ามองฟ้าในตอนกลางคืน กลางเมืองกรุงที่หาดาวดูไม่ได้แน่ๆ
แต่ถ้ามีไอ้เคอยู่ข้างๆแบบนี้ก็อีกเรื่อง ท้องฟ้ามืดๆที่หาความพิเศษอะไรไม่ได้แบบนี้อาจจะดูพิเศษขึ้นมาก็ได้
“จันทร์”
“ว่า”
“ขอบคุณนะ”
“เรื่อง”
“ที่ยอมคบกับคนอย่างกู”
“พูดเหมือนกูโดนบังคับให้คบกับมึงงั้นแหละ”
“...”
“กูยอมโดยสมัครใจ มีอะไรต้องมาขอบคุณ”
“ถึงแบบนั้นก็อยากขอบคุณอยู่ดี”
เพราะผมกับมันนั่งข้างๆกันละมั้ง มือของผมกับมือของมันที่ห้อยลงไว้ลำตัวคนละข้างถึงค่อยๆประสานกันทีละน้อย
ไม่ต้องมีคำพูดที่สวยหรู แต่รับรู้ได้ด้วยความรู้สึก
“รักมึงนะจันทร์”
“รู้แล้ว”
“รู้อะไร”
ไอ้เวรนี่โคตรกวนตีน
“ก็รู้แล้วไง”
“รู้อะไรล่ะ”
“รู้ว่ามึงรักกูไงควาย”
“แล้วมึงอ่ะ รักกูป่ะ”
“มาขนาดนี้แล้ว ไม่รักมั้งสัส”
ผมแม่งโคตรเกลียดมันเลย ผมเบนหน้าหนีไปอีกทาง อายก็อาย โมโหก็โมโห
ไอ้เคไอ้เวรตะไล!
ผมรู้สึกว่ามือที่กำลังกอบกุมมือของผมอยู่กระชับแน่นขึ้นและเจ้าของมือนั้นกำลังเดินมาอยู่ตรงหน้าผม บดบังวิสัยทัศน์ด้านหน้าของผมจนมิดด้วยขนาดตัวยักษ์ๆของมัน
“อะไรขะ..” ผมที่เตรียมจะก่นด่ามันแต่ก็ต้องกลืนคำพูดลงคอไป มันประทับริมฝีปากลงมาบดเบียดริมฝีปากของผมอย่างอ่อนโยนและค่อยๆโลมเลียริมฝีปากของผมอย่างเชื่องช้า
มันอ่อนโยน หวานช่ำ ผมอยากจะหยุดเวลาตรงหน้า หยุดไว้เพียงเท่านี้...
ไอ้เคค่อยๆสอดลิ้นเข้ามาในปากผม มันกวาดลิ้นไปทั่วโพลงปากเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของผมจนพอใจอยู่นาน ผมรับรู้รสเบียร์อ่อนๆที่ติดลิ้นของไอ้เค มันเหมือนสิ่งเสพติด ยิ่งลองยิ่งต้องการ
น้ำใสๆเริ่มไหลลงที่มุมปาก ไอ้เคผละริมฝีปากออกและไล่กวาดน้ำใสๆนั่นเข้าไป
“สกปรก”
“หวานออก”
“ส้นตีน”
“มึงไม่รู้หรอกจันทร์ ว่ามึงน่ะหวานไปทั้งตัวนั่นแหละ”
“สัส” หน้าแดงแน่ๆ ผมต้องหน้าแดงอยู่แน่ๆ
“มึงแม่งน่ารักชิบหาย”
“พูดแบบนี้กับผู้ชายด้วยกันมันไม่ดีใจหรอกไอ้ควาย”
“แต่มึงน่ารักจริงๆ”
“ตามึงบอดแน่ๆ”
“อืม สงสัยจะเป็นแบบนั้น” พูดจบมันก็ประกบปากเข้ามาอีก
แม่ง เป็นโรคเสพติดการจูบหรอ
ง้างปากพูดได้ไม่กี่คำแม่งจูบลงอีกแล้ว!
เป็นอี่แบบนี้ไปเรื่อยๆผมไม่ปากเจ่อไปเรียนทุนวันหรอ
เวร!!
[เค]
การที่มีจันทร์มาอยู่ข้างๆตัวแบบนี้ แถมยังมีสถานะไว้อวดชาวบ้านแม่งยิ่งกว่ามีความสุขอีก แต่เสียอยู่อย่างถึงจันทร์จะยอมอ่อนข้อให้ผมตลอดเวลาผิวอยากกระหาย แต่ฝีปากมันแม่งเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ถึงมันจะอึนๆ ถึงจะสูงแต่ก็ติดจะผอมไป หน้าตาก็ติดจะสวยเล็กๆด้วยซ้ำแถมฝีมือการทำอาหารที่คืออร่อยเลย งานบ้าน
งานเรือนไม่ต้องถามจันทร์จัดการเองหมด บ้านสะอาดในพริบตานี่สโลแกนมันชัดๆ โดยรวมถือว่าคุณสมบัติเมียเต็มขั้น
ยกเว้น...
“ไอ้ควายเค อยากแดกข้าวก็หาทำเองบ้างสิวะ”
ฝีปากพ่อคุณเขา
“ทำไม่เป็น อยากกินฝีมือมึง”
ลองเพิ่มลูกอ้อน
“ง่อยแดกหรอ ทำไม่ได้ร้านแถวๆนี้ก็มี”
เต็มๆ ไม่ได้ผล
“จันทร์”
“สัส”
เพิ่มลูกอ้อนเข้าไปอีก
“จันทร์”
“เออ ทำก็ทำวะ”
ถึงจะปากร้ายแต่จันทร์ก็คือเมียที่ดีอยู่วันยังค่ำ
“เค”
จันทร์เรียกผมก่อน แบบนี้มีเรื่องมาขอร้องผมแหง
“หืม”
“วันอาทิตย์นี้มึงว่างป่ะ”
“ทำไมหรอ”
“คือรุ่นพี่ในสาขาเขาวานให้กูชวนมึงไปเปิดหมวกที่ห้าง M นี้อ่ะ”
ผมเดาผิดที่ไหนล่ะ
“ได้อยู่ แล้วจะให้ทำอะไร”
“ให้มึงไปร้องเพลง พี่เขาหานักร้องไม่ได้”
“อืม ถ้ามึงไปกูไป”
ต้องหาข้อแม้กันไว้ก่อน ไม่งั้นถึงวันจริงจันทร์คงไม่ไปกับผมแน่ๆ
“ได้ไง!”
“ก็พี่ที่สาขามึงชวนกู”
“แล้วกูเกี่ยวไรด้วย”
“มึงเมียกูไง”
ผัวเมียต้องอยู่ด้วยกัน กฎเหล็กแห่งสัจธรรมโลก
“ตรรกะอะไรของมึง” มันขมวดคิ้วเป็นปม ผมจึงยื่นนิ้วเข้าไปกดแล้วคลึงเบาๆให้มันคลายออก
กลัวเมียรอยย่นขึ้นหน้าผาก เดี๋ยวแก่ก่อนวัย
“ถ้าไปด้วยเดี๋ยวจุ๊บเป็นรางวัล”
“พร่อง”
ผมเคยบอกรึยัง ว่าตอนจันทร์เขิน
มันคือสิ่งมีชีวิตที่โคตรน่ารักเลย
ท้ายที่สุดแล้วพอวันอาทิตย์ช่วงบ่ายๆจันทร์ก็ต้องมาห้างยืนรอผมเล่นดนตรีเปิดหมวกการกุศลหาเงินทำค่ายอาสาให้พวกพี่ๆในสาขามันเหมือนเดิม
จันทร์เดินเข้าไปคุยกับพวกพี่ๆเขาแนะนำผมให้รู้จัก แต่ดูเหมือนเขาจะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของผมอยู่แล้ว ผมจึงไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงมากเข้าไปถึงก็นั่งลงตรงตำแหน่งนักร้องที่มีไมค์จ่ออยู่ เช็คไมค์สักพักและเริ่มซ้อมกับมือกีตาร์รุ่นพี่ที่ข้างๆตัว
“ทำไมเพื่อนมึงพูดน้อยจังว่ะ ไม่เห็นกวนตีนเหมือนที่มึงบอก” ผมแอบได้ยินที่รุ่นพี่พวกนั้นพูดกับจันทร์เล็กๆ
ทำไมผมต้องกวนตีนคนที่ไม่รู้จักด้วย หลายๆคนในสาขาจันทร์ชอบคิดว่าผมเป็นอย่างที่จันทร์ชอบเอาไปบ่นให้ฟัง พูดมาก กวนตีน ดื้อ รั้น ซึ่งนั่นผมไม่ได้แสดงออกกับทุกคน
เพื่อนในสาขาผมก็ไม่เคย
ก็มีแต่จันทร์คนเดียวที่ทำใส่
ไม่ใช่เพราะเกลียด แต่เพราะรักต่างหาก
“ผมก็ไม่รู้ ปกตินี่กวนส้นผมตลอดอ่ะ” แหน่ะ มีการฟ้อง
แล้วทำไมต้องทำตัวเบียดชิดรุ่นพี่คนนั้นด้วย
กลับไปต้องมีเคลีย
พอเตี๊ยมเพลงกับมือกีต้าร์ เพลงก็เริ่มบรรเลงผมก็เริ่มร้องตาม
ทำเลแถวนี่น่าจะหาเงินได้ไม่ยาก มันอยู่แค่การเอนเตอร์เทนคนให้เข้าหาและฝีมือต่างหาก
ก่อนเคยเหงา เคยรู้สึกเหว่ว้า
เคยมองหา ความรักนั้นมันอยู่..ที่ใด
โลกใบใหญ่ เหลือเกิน
มีผู้คนอยู่มากมาย
แต่หัวใจมันกลับเหงาขึ้นทุกที
ผมเป็นคนเลือกเพลงเอง พร้อมกับบังเอิญว่ามือกี่ต้าร์เล่นเพลงนี้ได้พอดี คนที่เดินอยู่รอบๆเริ่มให้ความสนใจบ้างเดินเข้ามามุงดูบ้างก็ให้เงินกับเรามา
ผมไม่ลืมที่ต้องโค้งหัวขอบคุณให้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
จันทร์กับพวกรุ่นพี่คนอื่นๆ ก็ยืนดูอยู่ใกล้ๆไม่ได้หายไปได้ จันทร์มองมาที่ผมอย่างยิ้มๆ ผมเองก็ยิ้มตอบกลับไป
เคยบอกไหมว่าผมร้องเพลงเพราะ อาจจะเพราะมากๆเลยด้วย สมัยมัธยมยังจำได้ดีจนขึ้นใจว่าหลังเลิกเรียนจันทร์ชอบให้ผมเล่นกีต้าร์กับร้องเพลงให้มันฟังเพื่อเติมกำลังใจ
และผมก็ตกหลุมรักมันตั้งแต่ตอนนั้น แต่กว่าจะแน่ใจผมก็ไม่รู้ว่าผมทำไมเจ็บและเสียใจไปขนาดไหน
เธอเป็นมากกว่ารัก เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต
ฉันใช้เวลาทั้งชีวิต เพื่อตามหาและรอคอยเธอมาแสนนาน
และสุดท้ายก็เจอ ว่าเธอคือทุกอย่าง ที่เติมเต็มหัวใจ
จากนี้ทุกลมหายใจ ฉันคือเธอ *มากกว่ารัก - โรส ศิรินทิพย์
จบเพลงด้วยเสียงปรบมือจากคนรอบข้าง ทั้งคนที่ให้ความสนใจกับคนของเราเอง
เงินในกระเป๋ากีต้าร์ที่เปิดรับบริจาคตอนนี้ค่อนข้างจะมากพอเพราคนให้ความสนใจเราเยอะพอสมควร
“ขอบคุณมากนะครับ” ผมยิ้มการค้าให้กับคนที่ปรบมือให้
“แต่เพลงต่อไปนี้ ผมอยากจะมอบให้คนๆหนึ่ง คนที่ผมชอบมานานพอสมควร คนสำคัญของผม คนที่อยู่เคียงข้างผมมาตั้งแต่เริ่มต้น อยากจะขอบคุณเขาแบบจริงๆจังสักครั้งครับ”
“กรี๊ด!! โรแมนติกมากค่ะพี่!”
“หล่อมากค่ะพี่!!” หลากหลายคนเริ่มยกมือถือขึ้นถ่ายคลิปหรือรูปผมเอาไว้ ซึ่งส่วนนี้ผมก็ได้เตี๊ยมกับรุ่นพี่มือกีต้าร์เสียดิบดีแล้ว พอถึงช่วงนี้เขาจึงรู้งานทันที
เสียงกีต้าร์เริ่มบรรเลงขึ้น ผมเบนสายตาไปทางจันทร์ที่ยืนเหมือนจะตกใจเล็กๆอยู่ภายในกลุ่มคนที่มามุงดู
“จันทร์”
“...”
“กูรักมึงนะ”
ไหนๆก็มีโอกาสแล้ว ขอทำให้เต็มที่แล้วกัน
รอ บางสิ่งที่ยังขาดหายไป
รอ รอใครมาร่วมใช้เวลา
คอย สักคนมาแก้โจทย์ที่ค้างคา
ว่าฉันวันๆ อยู่ไปเพื่อใคร
ผมเบนเก้าอี้ให้หันไปทางที่จันทร์ยืนอยู่ คงไม่มีใครโง่ขนาดดูไม่ออกหรอกว่า ผมร้องเพลงนี้กับใคร
ถ้าไม่ใช่ จันทร์
รอ รอคนนี้มานานเท่าไร
คนที่มาเติมเต็ม
คนนี้ที่ตรงกับใจ คือเธอแน่ใจ
ทุกลมหายใจของฉันต่อจากนี้
ได้รู้สักทีจะใช้มันกับใคร
ชีวิตมันมีจุดหมาย
อยากหายใจอยู่ต่อไป รู้ไหมว่าเพื่อเธอ
ทุกลมหายใจวันนี้มีความหมาย
เมื่อรู้ว่าฉันได้ใช้มันกับเธอ
ชีวิตนับต่อจากนี้ จะรักแค่เธอคนนี้
ตราบที่ฉันหายใจ *รักเธอทุกลมหายใจ – รุจ
ผมยิ้มให้จันทร์ จันทร์ยิ้มให้ผม ดูก็รู้ว่าจันทร์เขิน แต่ในตอนนี้ในเวลานี้เหมือนมีแค่ผมกับจันทร์อยู่ด้วยกันสองคน อยากหยุดเวลาไว้แบบนี้ตลอดไป..
เล่นต่ออีกสี่ห้าเพลง พวกพี่ๆเขาก็บอกยอดเงินเกินยอดที่ตั้งไว้แล้วเลยเก็บข้าวของกลับกัน พอบอกลากันจบก็แยกย้ายผมก็พาจันทร์กลับคอนโด
“เป็นไรตาแดงๆนะ”
สังเกตมาได้สักพักแล้ว
“มึงแม่ง”
ผมเหรอ
พอจันทร์หันมาหาผม ได้ทีก็ปล่อยโฮออกมาเล่นเอาผมไม่ทันตั้งตัวรีบเข้ากอดปลอบทันที
จันทร์ร้องไห้ทีไรหยุดยากตลอด
และผมไม่ชอบเลย
“ที่มึงทำวันนี้โคตรเลี่ยน”
“แล้วชอบไหม”
“อือ”
“ดีแล้วไง”
“คลิปแม่งว่อนเน็ตแล้วมึงรู้ไหม”
คลิปที่ผมร้องเพลงให้จันทร์ ทำไมผมจะไม่รู้เมื่อก่อนกลับรุ่นพี่คนหนึ่งในสาขาจันทร์ที่มาเปิดหมวกด้วยกันวิ่งถลาเข้ามาและเปิดหน้าคลิปที่ว่อนเน็ตอยู่ตอนนี้
“อืม ก็ดีแล้ว”
“มึงแม่ง” พูดอีกก็ปล่อยโฮอีก
จันทร์เนี่ยเหมือนเด็กจริงๆ
“ขอบคุณนะ” ผมชะงักไปชั่วขณะเมื่อคำพูดที่ออกจากปากจันทร์เมื่อครู่ “รักมึงนะ”
“อืม เหมือนกัน”
ความรู้สึกดีๆที่พิเศษของผมกับจันทร์ ไม่ต้องหวือหวาเหมือนคนอื่นๆ
เพียงแค่รับรู้กันแบบนี้ตลอดดไปก็พอ
ผมขอเพียงแค่นี้
เพียงแค่นี้ก็พอ
คนสำคัญของผม..จันทร์
THE END
ปิดจ๊อบไปแล้ว 1 เรื่อง เหลือ ตอนพิเศษ 1 ตอน
เขารักกันแล้วตัวเธอ หวานใส่กันแล้วเด้อ
ปล. จะมาแก้คำผิดต่างๆนาๆหลังลงตอนพิเศษจบแล้ว