ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0----------------------------------------------------------------------------------
แผนการร้ายมัดใจคุณชายเย็นชา BY HADES
คำโปรยเรื่อง
“เอาแล้วไง “นายอัคนี” เมื่อมีชีวิตที่อยู่ดีไม่ว่าดีดันไปร่วมมือกับน้องสาวสุดสวยอย่าง “น้องธีน่า” เพียงเพื่อหวังจะมัดใจ “นายนอร์ส” พี่ชายสุดที่รักของเธอ!!! ปฏิบัติการแผนการร้ายชวนวุ่นวายหัวใจจึงเริ่มต้นขึ้น อย่าลืมมาลุ้นและมาเอาใจช่วยนายอัคนีคนนี้ด้วยนะ”
แผนการร้ายครั้งที่ 1 : ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่เราทุกคนสามารถทำสิ่งเล็กๆน้อยๆด้วยความรัก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีเจ้าหญิงแสนสวยนามว่า ‘สโนวไวท์’ เธออาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงใจร้ายในปราสาทแห่งหนึ่ง
ทุกๆวันแม่เลี้ยงมักใช้งานเธอเยี่ยงทาส แต่เธอไม่สามารถขัดคำสั่งนางได้ ด้วยนางอันเป็นที่รักของบิดาตน นางจึงจำใจยอมรับ
วิถีชีวิตและชะตากรรมที่โหดร้ายนี้ ส่วนแม่เลี้ยงใจร้ายนั้นก็เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ภายในห้องลึกลับส่วนตัวของนางเพียงเพื่อถาม
กระจกวิเศษในทุกๆวันว่า ‘กระจกวิเศษจงบอกข้าเถิดใครงามเลิศในปฐพี’ ด้วยความที่กระจกกลัวแม่เลี้ยงใจร้ายจึงจำ
ต้องบอกออกไปว่านางเป็นผู้งดงามที่สุดในปฐพี แต่ครั้งนี้กระจกกลับเปลี่ยนคำตอบเมื่อนางย้ำถามคำถามเดิมเหมือนทุกๆครั้ง
ซึ่งคำตอบที่ได้รับกลับยิ่งทำให้นางโกรธกริ้วโกรธาเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าคนผู้นั้นเป็น ‘สโนวไวท์’ ไม่ใช่ตน นางจึงสั่งคนไปกำจัด
สโนวไวท์แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ สโนวไวท์เองที่ถูกลวงไปฆ่าในป่าแต่รอดพ้นมาได้ก็อาศัยอยู่กับเหล่าคนแคระ แต่แล้ววันหนึ่งแม่
มดผู้ชั่วร้ายก็กลับมาในคราบของหญิงชราผู้น่าสงสารพร้อมกับตะกร้าแอปเปิ้ล นางชักชวนให้ สโนวไวท์ลิ้มลองรสชาติของ
แอปเปิ้ลแต่ สโนวไวท์ก็หารู้ไม่ว่ามียาพิษเคลือบอยู่ที่ผลแอปเปิ้ล อนิจจา นางกัดคำแรกเข้าไป ร่างทั้งร่างไร้เรี่ยวแรงและในไม่
ช้านางก็สลบไป เหล่าคนแคระไม่สามารถทำอะไรได้ได้แต่พาร่างของนางไปฝังไว้ในโลงแก้ว เจ้าชายจากต่างแดนได้ท่องเที่ยว
ไปในป่าใหญ่บังเอิญเห็นร่างของหญิงสาวผู้งดงามนอนแน่นิ่งไร้สติอยู่ในโลงแก้ว เจ้าชายอยากที่จะเห็นหน้าของนางจึงเปิดฝา
โลงแก้วขึ้น ด้วยมนตราชะตาฟ้าลิขิต เจ้าชายหลงรักสโนวไวท์ตั้งแต่แรกเห็นจึงก้มลงไปใกล้ใบหน้าของนางเพื่อจุมพิษรัก ราว
กับมีปาฏิหาริย์ สโนวไวท์ฟื้นขึ้นอีกครั้งและได้กลับไปครองรักกับเจ้าชายอย่างมีความสุขตราบนิจนิรันดร์
แปะ แปะ แปะ
เสียงปรบมือดังระงมทั่วทั้งหอประชุมจัดงานดังขึ้นเมื่อม่านการแสดงถูกปิดลงและเหล่านักแสดงที่เดินออกมาทัก
ทายผู้ชม
“ทำมันออกมาได้ดีมากเลยไฟไม่เสียแรงที่อาจารย์สอนเรามา”
“ขอบคุณที่ชมครับอาจารย์” ลูกศิษย์ที่ถูกอาจารย์ชมเมื่อครู่ยืนยิ้มหน้าบานไปกับคำชมที่ได้รับพร้อมยืนมองผลงานที่เพิ่ง
จบไปอย่างภาคภูมิใจ งานละครเวทีที่ตนตั้งใจสร้างมันมากับมือพร้อมด้วยเหล่าทีมงานทั้งหลายที่ช่วยสร้างสรรค์มันขึ้นมาและถึง
แม้งานเวทีที่สร้างนี้จะเป็นนิทานก่อนนอนสำหรับหนูน้อยทั้งหลายแต่ผลตอบรับก็กลับดีเกินคาด
‘อัคนี ธีระชานันท์’ หรือ ‘ไฟ’ นักศึกษาจบใหม่ไฟแรงที่เลือกใช้ชีวิตโดยการก้าวเข้าสู่สายงานบันเทิงในฐานะผู้กำกับ
น้องใหม่หน้าละอ่อนแต่ฝีมือการสร้างภาพยนตร์นั้นไม่ได้ละอ่อนตามหน้าเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อยและยิ่งผลงานที่จบไปเมื่อครู่ก็เป็น
ตัวการันตีความสามารถของเจ้าตัวได้ดีทีเดียว
“อย่างนี้มันต้องฉลองเว้ย!” เสียงคุ้นหูที่ดังขึ้นใกล้ๆกับน้ำหนักของแขนที่อีกฝ่ายทิ้งมาที่เขาคงไม่ต้องบอกว่าคนๆนั้นคือ
ใครถ้าไม่ใช่เจ้าเพื่อนรักอย่าง ‘ปฐวี’ หรืออีกนัยหนึ่งคือทีมงานของเขาในครั้งนี้
“แน่นอนอยู่แล้วผลงานออกมาดีวันนี้ก็ต้องมีฉลอง พี่ๆครับเตรียมตัวให้พร้อมเย็นนี้เรามีฉลองงงง”
“เฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” และเสียงที่ได้รับกลับมาก็พาเอาไฟยิ้มขำ
“เออนี่ไอ้ไฟเห็นว่างานนี้มีผู้ใหญ่จากหลายๆค่ายเขามาดูผลงาน แล้วอย่างนี้มีคนเขาเข้ามาติดต่อหรือทาบทามให้เราไป
กำกับให้บ้างป่ะ” ปฐวีหันมาถามอีกฝ่าย แต่ไม่ได้รับคำตอบกลับไปแต่กลับปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้าของเจ้า
เพื่อนรักตัวดี
“ของแบบนี้ไม่มีพลาดหรอกเพื่อนรัก ไป เราไปเตรียมตัวฉลองกันดีกว่า” ไม่ว่าเปล่าไฟยังลากเจ้าเพื่อนสนิทให้ตามมาด้วย
เอากับมันเถอะ นายปฐวีอยากจะปลง!!
ขณะนี้เวลาสิบเก้านาฬิกาศูนย์นาทีศูนย์วินาที.....
“อย่างนี้มันต้องชนหน่อยพวกเรา เอ้า!! ชนแก้ว!!” เสียงหนึ่งในทีมงานเอ่ยขึ้น พร้อมเสียงแก้วที่กระทบกันดังกังวาน
ไฟที่นั่งมองดูเหล่าพี่ๆทีมงานมีความสุข คนที่เป็นหัวหน้าอย่างเขาก็พลอยมีความสุขไปด้วย
“เฮ้ย ไอ้ไฟ” เสียงเรียกข้างตัวทำให้ไฟต้องละสายตาจากภาพตรงหน้าและหันมามองเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม มีไรก็ว่ามา
“อย่าว่าอย่างนู้น อย่างนี้เลยนะเพื่อน นายไม่คิดจะมีความรักใหม่เลยเหรอวะ” เมื่อเจอคำถามที่ไม่คิดว่าจะมีคำตอบเข้าไป
ไฟถึงกับชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะตอบเพื่อนรักด้วยสีหน้าปกติ
“ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเลยว่ะ อาจจะอยู่เป็นโสดก็ได้ ถามทำไมหรือนายจะเป็นคนเอาเราลงจากคาน” ได้ทีไฟก็ขอหยอดสัก
หน่อย ทุกๆคนที่ทำงานร่วมกับไฟรู้ดีว่าไฟชอบผู้ชายแล้วก็เพิ่งจะผิดหวังกับความรักมาเมื่อไม่นานมานี้และหลายๆคนก็รู้ว่าไฟ
เป็นคน sensitive ในเรื่องของความรักเป็นอย่างมากก็กลัวว่าเจ้าตัวจะทำใจไม่ได้จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ไฟลืมเรื่องราว
ไม่ดีๆที่ผ่านมา แต่ไฟก็พิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่าเขาโตพอที่จะทำใจยอมรับมันได้และไม่นานไฟคนเดิมก็กลับมา
“ใครจะกล้ายุ่งกับคุณมึงล่ะครับเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย โกรธขึ้นมาทีนึกว่าเป็นพระศิวะปางทำลายล้างซะอีก” เหอะๆ ดูไอ้เพื่อนรัก
มันพูด ไฟได้แต่ส่ายหน้ากับคำเปรียบเปรยของไอ้เพื่อนรักสุดสวาทขาดใจดิ้นคนนี้เสียจริง ก็จริงอยู่ที่เขาเป็นคนโมโหร้ายจน
เพื่อนๆในมหา’ลัยตั้งฉายาให้ว่า ‘เฮฟเฟตัส’ เทพเจ้าแห่งไฟ
“เอ่อไอ้ไฟแล้วเรื่องที่เราคุยกันที่งานวันนี้เรื่องทำหนังอ่ะว่าไงวะ” มันเป็นสิ่งที่ค้างคาใจกับนายปฐวีคนนี้มากจริงๆว่าไอ้เจ้า
เพื่อนตัวดีมันไปคุยเจรจาพาทีกันตอนไหน แล้วเรื่องราวต่อไปเป็นไงก็ไม่รู้
“เออใช่ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่ๆเลย แต่ว่าไม่เป็นไรบอกวีก่อนก็ได้ คืองี้ คุณสมศักดิ์เขาขอให้เราไปกำกับภาพยนตร์ที่มา
จากซีรีย์ของหนังสือชุดหนึ่งที่กำลังฮิตติดชาร์ตกันในเวลานี้”
“เรื่องไรวะ” ปฐวีย้อนถามแต่ก็ได้รับการส่ายหน้าเป็นคำตอบ เป็นอันรู้กันว่า ตูก็ไม่รู้
“แล้วพรุ่งนี้คุณสมศักดิ์ให้เราไปคุยกับเขาและนักเขียนเพื่อตกลงกันอย่างแน่ชัดว่าเราจะทำภาพยนตร์เรื่องนี้กัน และรับรอง
ว่าถ้างานนี้ผ่านเรารับเต็มๆ ” เมื่อพูดถึงรายได้ของงานในครั้งนี้คนอย่างนายไฟตาลุกวาวเป็นประกายเลยทีเดียว ก็จะไม่ให้วาวได้
ยังไง ถ้าทุกฝ่ายยินยอมตกลงทำกันเขาและทางบริษัทก็จะได้รับเงินค่าเหนื่อยล่วงหน้ากันก่อน 10 ล้าน แค่คิดไอ้ไฟก็ฟินไปถึง
ชาติหน้าแล้วโว้ย!!
“ก็ขอให้พรุ่งนี้เราได้งานทำก็แล้วกัน” เพราะคนอย่างนายปฐวีรู้ดีว่าถ้างานไหนที่ไอ้ไฟเพื่อนรักของเขาหมายปองไม่มีทาง
พลาดแน่นอนและรู้ยิ่งกว่านั้นคือถ้างานที่มันหมายปองแล้วไม่ได้มาคนรอบข้างเตรียมรอรับไฟบรรลัยกัลป์เผาได้เลย!!
“มันต้องได้อยู่แล้ว ถ้าคนอย่างไฟอยากได้อะไรมันก็ต้องได้ ฮ่าๆๆ” ยังไม่ทันขาดคำนายปฐวีเล้ยยย
“เดี๋ยวมานะเว้ยไอ้วีไปซื้อของที่เซเว่นก่อน ฝากบอกเรื่องนี้กับพี่ๆทีมงานด้วยนะ” ว่าจบเจ้าตัวก็ลุกเดินออกไป
“สี่ร้อยยี่สิบบาทค่ะ” เสียงพนักงานสาวเอ่ยบอกจำนวนราคาสิ้นค้าและแน่นอนว่าประโยคถัดมาหลายๆคนคงต้องคุ้นๆเป็น
แน่
“รับขนมจีบกับซาลาเปาร้อนๆเพิ่มไหมคะ” น่านไงครับยังไม่ทันขาดคำประโยคนี้ก็มาเลย
“ไม่ครับ” ผมรีบจ่ายเงินแล้วเดินออกมาก่อนที่จะต้องเสียเงินเพิ่มเพราะซื้อขนมจีบกับซาลาเปากลับมาด้วย?!
นานแล้วที่ผมไม่ค่อยได้ออกมาเดินเล่นยามเย็นแบบนี้ถึงแม้ว่าย่านนี้จะเป็นย่านที่เต็มไปด้วยผับบาร์และรถที่วิ่งกัน
ให้วุ่นอยู่บนท้องถนน สถานที่บริเวณนี้เป็นสถานที่ที่ผมกับเหล่าพี่ๆทีมงานมักมาฉลองกันเป็นประจำ ถึงแม้ว่าสถานที่ตรงนี้จะอยู่
ในย่านของผับบาร์แต่ก็ยังมีร้านอาหารกึ่งบาร์ที่บรรยากาศเงียบสงบ สบายๆเป็นกันเองตั้งอยู่จึงตอบโจทย์ของผมได้ดีเพราะถ้าจะ
ไปฉลอง ผมขอที่เงียบๆ คนไม่พลุกพล่านเท่าไร บรรยากาศสบายๆเป็นกันเองเหมาะที่จะนั่งคิดงานในโปรเจกถัดไป ซึ่งพี่เม่นก็
สามารถหาสถานที่ที่ผมเสนอไปได้ เราจึงมาที่นี่เพื่อฉลองกันเป็นประจำ
“ช่วยด้วยค่ะ มีคนขโมยกระเป๋าค่ะ” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งกำลังร้องขอความช่วยเหลือ ผมที่อยู่บริเวณนั้นพอดีก็รีบวิ่งไปหา
สาวเจ้าเพื่อถามถึงไอ้คนร้ายที่ขโมยของเธอไป
“คุณครับคนร้ายมันวิ่งไปทางไหนครับ”
“ทางนั้นค่ะ” หลังจากที่เธอชี้บอกทางที่ไอ้คนร้ายมันวิ่งไป ผมก็รีบทำหน้าที่พลเมืองดีตามไปช่วยจับเจ้าโจรวายร้ายและ
ไม่นานกระเป๋าสะพายใบสวยของหญิงสาวเมื่อครู่ที่ถูกโจรขโมยไปก็ได้กลับมาอยู่ที่เจ้าของอย่างปลอดภัยหายห่วง
“ขอบคุณมากเลยนะคะ..เอ่อ..คุณ..”
“ไฟครับ”
“ขอบคุณนะคะคุณไฟ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ดิฉันอาธีน่าค่ะ ถ้าไม่รังเกียจฉันขอเลี้ยงข้าวขอบคุณที่คุณช่วยฉันได้ไหมคะ”
“ได้ครับ แต่ขอเวลาสักครู่นะครับ” ผมตอบรับสาวเจ้าก่อนจะขอเวลาโทรไปบอกไอ้วีให้กลับบ้านเลยถ้ากินเสร็จ ส่วนเรื่อง
ค่าใช้จ่ายให้เจ้าตัวออกไปก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเข้าบริษัทค่อยไปเคลียร์กันอีกที ส่วนเจ้าเพื่อนรักก็โอดครวญแต่พอเขาบอกว่าจะ
ให้พิเศษถ้างานพรุ่งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีทางนั้นจึงหยุดคร่ำครวญ
“ไปรถผมดีกว่าครับ” ฝ่ายสาวเจ้าก็พยักหน้ารับ เขาจึงนำเธอไปที่รถก่อนจะพามุ่งหน้าไปร้านอาหารตามที่เธอบอก
ร้านอาหารที่ผู้หญิงที่นั่งข้างๆผมพามาเป็นร้านอาหารสไตล์วินเทจเล็กน้อยเพราะเห็นเจ้าตัวบอกว่านัดพี่ชายให้มาหา
ที่ร้านอาหารแห่งนี้แล้วเจ้าตัวยังบอกอีกว่าร้านอาหารร้านนี้เป็นร้านที่พี่ชายเธอชอบมาก ผมจึงได้แต่พยักหน้ารับไปตามมารยาท
และดูจากท่าทางและน้ำเสียงในการเล่าของเธอที่เล่าถึงพี่ชายคนนี้ดูเธอจะภูมิใจกับพี่ชายของเธอเสียเหลือเกิน เราทั้งคู่เดินเข้า
มาภายในร้านอาหาร ผมว่าภายนอกที่ดูดีแล้วยังเทียบไม่ติดกับภายในที่ดูดีมีสไตล์กว่ามากกว่า สงสัยเจ้าของร้านคนนี้คงจะไม่
ธรรมดาเสียแล้ว
“รับอะไรดีครับคุณผู้หญิง คุณผู้ชาย” เสียงบริกรที่ยืนรอรับออเดอร์เอ่ยถามหลังจากที่ผมและเธอนั่งลงเรียบร้อยแล้วพร้อม
กับยื่นใบเมนูอาหารมาให้ ผมไล่สายตาไปเรื่อยๆเพราะไม่รู้ว่าจะทานอะไรดีเพราะก่อนหน้านี้ผมก็เพิ่งทานไปกับเหล่าพี่ๆทีมงาน
“ฉันขอเป็นสเต็กแซลมอนที่หนึ่งค่ะ ” เธอบอกบริกรชายก่อนส่งเมนูกลับคืนให้เขา ส่วนบริกรเมื่อรับเมนูกลับคืนก็หันมา
มองหน้าผมเป็นเชิงถาม
“ผมสั่งแบบคุณผู้หญิงอีกที่หนึ่งครับ” ผมบอกพนักงานไปซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ารับพร้อมเก็บเมนูของผม
“คุณไฟไม่อยากทานอาหารเหรอคะ” ผู้หญิงที่นั่งตรงหน้าผมเอ่ยถาม จะให้ผมปฏิเสธตรงๆเลยรึไงว่าผมเพิ่งกินมาแล้วใคร
มันจะไปอยากอีก
“เอ่อ พอดีผมยังไม่ค่อยหิวสักเท่าไร แต่ว่าอีกเดี๋ยวก็คงหิวแล้วล่ะครับ” ผมตอบเธอกลับไปด้วยรอยยิ้มสุภาพ
“จะเป็นการละลาบละล้วงไหมคะ ถ้าธีน่าจะถามคุณว่าอายุเท่าไรแล้ว” เป็นครับ!!เพราะคำถามนี้เป็นหนึ่งในคำถามที่ผมไม่
อยากจะตอบให้เจ็บปวดตัวเองเท่าไร
“ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ผมอายุ 26 ปีครับ” แต่ถึงผมจะไม่ชอบยังไงก็คงจะปฏิเสธไม่ได้
“โห ยังดูเด็กอยู่เลยนะคะ” เธอตกตะลึงกับอายุของผม แน่นอนครับผมหน้าเด็ก ฮ่าๆ
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”
“ขนาดนี้แหละค่ะ ก็พี่ชายของธีน่าสิคะหน้าตายังดูแก่กว่าคุณตั้งเยอะทั้งๆที่อายุน้อยกว่าคุณแท้ๆเลย” เอ๋?
“นินทาพี่ชายแบบนี้ไม่กลัวถูกจับได้เหรอครับ”
“ไม่หรอกค่ะ ถ้าคุณไฟไม่พูด ธีน่าไม่พูด พี่ก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆ” ดูเธอจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษที่ได้นินทาพี่ชายเธอ
“คุณไฟมีพี่น้องไหมคะ”
“ไม่ครับ ผมลูกคนเดียว แค่วีรกรรมของผมคนเดียวก็ทำให้ที่บ้านปวดหัวจะแย่แล้วล่ะครับ” สมัยก่อนผมเป็นเด็กเกเร
มากๆๆๆถึงมากที่สุดเลยล่ะครับ ม๊าต้องคอยว่าผมอยู่ทุกวันนึกแล้วก็คิดถึงวันเก่าๆ
“จริงเหรอคะ เล่าให้ธีน่าฟังบ้างได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ แต่ตอนนี้อาหารมาแล้วผมว่าทานไปเล่าไปน่าจะดีกว่า” เพราะผมเห็นว่าบริกรคนเมื่อครู่เดินมาพร้อมกับถาด
อาหารผมจึงเลือกที่จะทานไปเล่าวีรกรรมแสบๆของผมให้กับคุณธีน่าฟัง
บรรยากาศในโต๊ะดูเป็นกันเองมากกว่าเมื่อสักครู่เพราะเราทั้งคู่ก็เล่าประสบการณ์ในวัยเด็กของเราให้ต่างคนต่างได้
ฟังกันมีบ้างที่ในบางครั้งน้องธีน่าเล่าวีรกรรมแสบๆของพี่ชายเธอให้ผมฟังซึ่งนั้นก็ทำให้ผมรู้เรื่องพี่ชายของเธอและตัวเธอมากขึ้น
“พี่ไฟนี่มีแต่วีรกรรมแสบๆทั้งนั้นเลยนะคะ” หลังจากที่เราคุยกันมาได้สักพักสรรพนามที่เคยใช้ก็ถูกเปลี่ยนเพื่อให้ดูสนิทกัน
มากขึ้น
“ยังไม่หมดแค่นั้นนะครับจริงๆแล้ววีรกรรมของพี่ยังมีมากกว่านี้อีกนะครับ โดยเฉพาะในช่วงชีวิตมหา’ลัย”
“เฮ้อ!! ธีน่าอยากจะให้พี่ไฟเป็นผู้หญิงจังเลยค่ะ” เมื่อเธอพูดจบผมแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองตาย ดีนะที่ผมยังไม่ได้ทาน
น้ำไม่งั้นมีหวังผมต้องได้สำลักน้ำลายหรือไม่ก็น้ำตายแน่ๆ
โศกอนาถกรรมผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งสำลักน้ำลายตัวเองตายกลางร้านอาหารสุดหรูเพียงเพราะประโยคของหญิงสาวที่
ว่า ‘อยากให้เจ้าตัวนั้นเป็นผู้หญิง’!? ช่างภูมิใจอะไรเช่นนี้ เหอะๆ
“ทำไมถึงอยากให้พี่เป็นผู้หญิงล่ะครับ”
“ก็เพราะว่าธีน่าอยากได้พี่เป็นพี่สะใภ้น่ะสิคะ”
“แค่กๆๆ” และแล้วครั้งนี้ผมก็สำลักจริงๆ หรือว่านี่จะเป็นจุดจบของผมจริงๆซะแล้ว?
“เป็นไรไหมคะพี่ไฟ ค่อยๆดื่มสิคะ” หญิงสาวตรงหน้าส่งกระดาษทิชชู่มาให้ผมก่อนที่ผมจะรับมันไปเช็ดอย่างอนาถ
จิตอนาถใจ
“ทำไมถึงอยากได้พี่ไปเป็นเอ่อ..สะใภ้ล่ะ แต่พี่ก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงนะครับ ฝันของน้องธีน่าคงจะไม่เป็นจริง”
“ที่ธีน่าอยากได้พี่เป็นสะใภ้เพราะว่าพี่น่ารัก มีอะไรหลายๆอย่างที่สามารถเข้ากันได้กับพี่ชายธีน่าได้แล้วที่สำคัญคุณแม่จะ
ให้พี่ชายของธีน่าแต่งงานกับยัยปากแดง เอ้ย! คุณหนูเจนสิญาซึ่งธีน่าไม่ชอบเลยอยากได้ใครสักคนไปเป็นอีกตัวเลือกให้กับพี่
ชายบ้างก็แค่นั้น”
“ส่วนเรื่องที่พี่เป็นผู้ชายก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยค่ะเดี๋ยวนี้สังคมออกจะกว้างเพราะตอนอยู่เมืองนอกพี่ชายก็ยังเคยควงหนุ่ม
หน้าสวยเลย เรื่องนี้ครอบครัวธีน่ารับได้ไม่ต้องห่วงค่ะ” เอ่อ คุณน้องธีน่าครับถามพี่รึยังครับว่าพี่จะยอมไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกให้
กับพี่ชายคุณน้องรึเปล่าครับ
“และอีกอย่างนะคะธีน่าก็ชอบพี่ไฟมากกกเลยล่ะค่ะ ช่วยธีน่าหน่อยนะคะถือว่าน้องคนนี้ขอร้อง” เอาแล้วไง น้องธีน่าเริ่ม
เอื้อมมือมาจับมือผมพร้อมกับกระพริบตาปริบๆเป็นเชิงอ้อนวอน ร้องขอ
“แล้วพี่ชายของน้องธีน่าจะว่ายังไงล่ะครับ” เอาสิผมก็ยังพอมีทางอื่นให้เฉได้
“ไม่ต้องห่วงเรื่องพี่ชายค่ะเพราะธีน่าจะบอกว่าพี่ไฟเป็นรุ่นพี่ที่สนิทของธีน่าแล้วพี่ก็ยังเคยช่วยธีน่ามาก่อนด้วยเรื่องนี้พี่ชาย
เชื่อแน่นอนและเดี๋ยวธีน่าเองจะเป็นแม่สื่อให้กับพี่ไฟแล้วก็พี่ชายของธีน่า พี่ไฟไม่ต้องห่วงค่ะ” ไปไม่เป็นเลยล่ะครับงานนี้ จะว่า
ดีใจก็คงจะดีใจที่อยู่ดีๆก็จะมีคนแนะนำผู้ชายสักคนมาให้ได้รู้จักและจะได้ลืมเรื่องราวของ ‘เขา’ คนนั้นได้สนิทสักที แต่นี่รูปร่าง
หน้าตาก็ยังไม่เคยได้เห็นจะไม่ให้ผมเครียดได้ยังไงล่ะครับ
“ยังมีอีกเรื่องที่ธีน่าลืมถาม พี่ไฟยังไม่มีแฟนใช่ไหมคะ”
“ครับ ยังไม่มีครับ” เพราะถ้าพี่จะบอกว่ามีธีน่าคงจะต้องให้พี่ตอบว่าไม่มีใช่ไหมครับเพราะดูจากแววตาเธอแล้ว
ถ้ามีก็ต้องตอบว่าไม่มีนะคะพี่ไฟ
“งั้นก็ยิ่งดีเลยล่ะค่ะเราจะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย” แน่ใจนะครับว่าทั้งสองฝ่ายไม่ใช่น้องธีน่าแค่ฝ่ายเดียว
ครืดๆๆ
เสียงโทรศัพท์ยี่ห้อดังมาแรงแพงสุดติ่งกระดิ่งแมว!?ของน้องธีน่าดังขึ้น เจ้าตัวจึงหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็เงยหน้าขึ้นมามอง
ผมพร้อมสัญญาณปากที่ว่า
พี่ชายมาแล้วค่ะ
ผมก็ได้แต่พยักหน้าและยิ้มรับกับการมาของพี่ชายน้องธีน่า น้องธีน่าจะรู้ไหมนะว่าพี่ไฟคนนี้นั่งน้ำตาซึมอยู่ภายใน
กระซิกๆ ผมเอาแต่ก้มหน้ามองอาหารที่ก่อนหน้านี้เคยอยู่ในจานแต่ตอนนี้แม้แต่ซากยังไม่เหลือเงาให้เห็น
“รอนานไหมคะ พี่ขอโทษนะที่ปล่อยให้เรารอนาน” มาแล้วไงพี่ชายของน้องธีน่า
“ไม่นานหรอกค่ะพี่นอร์ส” ชื่อนอร์สซะด้วย
“พี่นอร์สคะนี่พี่ไฟค่ะ” เมื่อน้องธีน่าแนะนำผมให้กับพี่ชายเธอรู้จักและตามมารยาทที่ดีแล้วผมจึงต้องจำใจเงยหน้าขึ้นมา
มอง เท่านั้นล่ะครับ ออร่าความหล่อของคนตรงหน้ากระแทกเข้าตาผมอย่างจัง
พระเจ้า!!เขาหล่อมาก
เรียกได้ว่าเขาเป็นเทพบุตรที่มาจุติบนโลกมนุษย์ก็ว่าได้
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณไฟ ผมชื่อนอร์สเป็นพี่ชายอาธีน่า” พี่ชายของอาธีน่ายื่นมือมาทักทาย
“ครับยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนอร์ส” ผมจึงยื่นมือออกไปทักทายเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
ตึกตัก ตึกตัก
เสียงใจเจ้ากรรมดันเต้นซะแรงเชียว โอ๊ย!ผมอยากระเบิดตัวตายให้กลายเป็นโกโก้ครั้นช์ท่วมทุ่งข้าวสาลีกันไปข้างเลย
“พี่ไฟเป็นพี่ชายที่สนิทมากๆของธีน่าเองค่ะแถมพี่ไฟยังช่วยธีน่าอีกด้วยนะคะ” หลังจากที่ผมทักทายพี่ชายของธีน่าอย่าง
เป็นทางการเรียบร้อยแล้ว น้องธีน่าชวนพวกเราให้มาเดินห้างเพื่อช่วยเธอเลือกซื้อของให้กับเพื่อนของเธอเนื่องในวันเกิดของ
เพื่อนเจ้าตัวซึ่งพวกผมก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ถือที่ดีและดูเหมือนว่าน้องธีน่าจะเริ่มปฏิบัติการจับคู่ผมกับพี่ชายของเธอซะแล้ว
“พี่ไฟคะช่วยหยิบตุ๊กตาที่อยู่ด้านบนให้ธีน่าหน่อยสิค่ะ ธีน่าหยิบไม่ถึงอะค่ะ” น้องธีน่าตะโกนออกมาจากชั้นในสุดของ
แผนกตุ๊กตาหมี ใช่แล้วล่ะครับตอนนี้พวกเราอยู่ในร้านขายตุ๊กตาคิขุอาโนเนะที่เหล่าสาวๆชอบเลือกซื้อไปให้กับเพื่อนๆในงานวัน
เกิด ผมจึงต้องเดินเข้าไปหาเธอเพื่อหยิบตุ๊กตาเจ้าปัญหานี้ให้เธอ แต่เมื่อผมเดินไปถึงกลับพบว่าเจ้าตุ๊กตาตัวที่ธีน่าต้องการให้
ผมช่วยหยิบนั้นมันสูงเกินกว่าผมจะเอื้อมถึง ผมจึงหันไปถามเธอทางสีหน้าว่าพี่หยิบให้ไม่ถึงเจ้าตัวก็ไม่ได้มีทีท่าทุกข์ร้อนอะไร
มิหนำซ้ำยังตะโกนเรียกอีกคนให้เขามาหยิบให้อีกต่างหาก
“พี่นอร์สคะพี่นอร์ส พี่ไฟหยิบตุ๊กตาให้ธีน่าไม่ถึงพี่นอร์สมาช่วยหยิบให้หน่อยค่ะ” หลังจากที่น้องธีน่าตะโกนออกไปไม่นาน
อีกฝ่ายก็เดินมาถึง ผมกำลังจะผละออกจากที่ๆยืนหยิบตุ๊กตา แต่แล้วพี่ชายของน้องธีน่าก็เอื้อมมือมาหยิบตุ๊กตาให้น้องสาวทั้งๆที่
ผมก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย กลายเป็นว่าพี่ชายของน้องธีน่ากำลังกอดผมอยู่กลายๆ โอ๊ย!คุณครับแค่ออร่าความหล่อของคุณมันก็ทำ
ให้ผมใจเต้นผิดจังหวะไปแล้ว แล้วนี่คุณยังมาทำแบบนี้ต้องการให้ผมละลายแล้วค่อยออสโมซิสหายไปกับตุ๊กตาตัวนั้นเหรอครับ
คุณเทพบุตร!!!
“ได้แล้วค่ะ น้องธีน่า” เมื่อคุณพี่ชายแสนดีของน้องธีน่าหยิบตุ๊กตาตัวนั้นได้ เจ้าตัวก็ยื่นมันไปให้กับน้องสาวสุดที่รักพร้อม
กับเดินออกไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์กับน้องสาวแล้วก็ทิ้งผมไว้อยู่ที่เดิมคนเดียว
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
โอ๊ย!!จะเต้นอะไรนักหนาฟร้ะ เพราะพอสองพี่น้องเดินออกไปผมจึงได้ถอนหายใจเพื่อปรับร่างกายให้สามารถ
หายใจได้อย่างทั่วทองก่อนจะจับสัมผัสถึงพลังงานบางอย่างที่เต้นแรงอยู่ในอกข้างซ้ายได้และแน่นอนว่าเสียงมันชัดถึงชัดมาก
เลยทีเดียวเชียวค่ะคุณผู้ชม สงสัยงานนี้ผมควรจะต้องเข้าโรง’บาลเพื่อไปเช็คร่างกายซักหน่อยเพราะดูเหมือนว่าก้อนเนื้อในอก
ซ้ายจะทำงานผิดจังหวะบ่อยเหลือเกิน