ตอนที่ 12 ผมเตรียมพร้อมมาอย่างดี คิดมาทั้งคืน ไม่ว่าจะมาแนวไหนผมหาคำตอบไว้หมด
เหตุผลเตรียมไว้เป็นร้อยๆ ข้อ ยังไงก็ไม่ไป
มันก็ใช่ที่ในตอนแรกผมถูกวางตัวให้คุ้มกันคุณวีร์ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ตอนนี้มีบอดี้การ์ดตัวจริงแล้วทำไมผมยังต้องไป
ไม่เห็นจำเป็นเลย
แต่ผ่านไปครึ่งวันก็แล้วค่อนวันก็แล้ว คุณรองประธานไม่เห็นจะพูดอะไรกับผม หรือจะเล่นสงครามประสาท
รู้ว่ารออยู่เลยแกล้งไม่พูดหรือเปล่า
(?_?) ไม่ใช่สิ ไม่มีทางรู้ว่าผมทราบเรื่องแล้ว หรือว่าจะเปลี่ยนใจ
“ปุ่นเข้ามา”
“ครับ”
ถึงเวลาขึ้นสังเวียนต่อสู้ ยืดหลังตรงๆ ตีหน้าขรึมๆ เข้าไว้ ตั้งการ์ดสูงๆ
(¬_¬メ). พี่ปุ่นพร้อม
ผมเปิดประตูเข้าห้องคุณวีร์ เดินช้าๆ ก้าวขาอย่างมั่นคง
คุณรองประธานยื่นบัตรเชิญที่ถืออยู่ในมือให้ผม
“ตอบรับเฉพาะของบริษัทลลิลพร็อพเพอร์ตี้กับของคุณอาประจักษ์นอกนั้นปฏิเสธทั้งหมด
“ครับ”
“.............”
“.............”
“ปุ่นมีอะไรหรือเปล่า” คนพูดเงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นมามองหน้าผม
“ไม่มีครับ ผมนึกว่าคุณวีร์มีอะไรจะสั่งเพิ่มเติม”
“ไม่มี ปุ่นออกไปได้”
ผมเดินออกมาแบบงงๆ หรือพี่ปั้นมันฟังผิด ต้องใช่แน่ๆ เรานี่มันสำคัญตัวผิดจริงๆ
คิดไปได้ยังไงว่าเขาเรียกบอดี้การ์ดมาเพราะเป็นห่วง ขายหน้าชะมัด
●︿●
“น้องปุ่นเป็นอะไรคะ โดนดุเหรอ หน้าเศร้าเชียว”
“เปล่าครับพี่พร” ผมรีบปฏิเสธ
“แล้วทำไมหน้าตาไม่สดใส ใช่ปุ่นตัวจริงหรือเปล่า”
“ผมปวดท้องนิดหน่อยครับ พักนี้ทานข้าวไม่ตรงเวลา”
พี่พรพยักหน้า
“ระวังหน่อยแล้วกันจ้ะ ปวดกระเพาะขึ้นมาจะลำบาก”
“ครับ”
พี่พรหันกลับไปทำงานต่อ ผมยกมือสองข้างขึ้นตบแก้มตัวแองเบาๆ เป็นไรวะไม่เข้าใจเลย
“สวัสดีค่ะคุณวิกา” เสียงทักของพี่พรเรียกความสนใจจากผมให้เงยหน้าขึ้นมอง
คุณเทวิกาเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะพี่พร สวยเหมือนทุกครั้งที่เจอ ดูยังไงก็เหมาะสมกับคุณวีร์
“สักครู่นะคะ” พี่พรกดโทรศัพท์แจ้งให้คุณรองประธานทราบ ก่อนเดินไปเปิดประตูให้คุณวิกา
สิบนาที สิบสองนาที สิบสี่นาที ทำไมวันนี้เวลามันเดินช้า แล้วทำไมผมต้องเอาแต่มองนาฬิกา
ผมไม่มีสมาธิเท่าที่ควร นั่งดูลิสต์งานที่ทำไว้ ส่งดอกไม้แสดงความยินดีเปิดสาขาใหม่
ตอบรับบัตรเชิญ ส่งของขวัญวันเกิดให้ผู้อำนวยการ
มาทำอะไรอยู่ที่นี่ฟระ หรือควรลาออกอย่างที่พี่ปั้นบอก ผมอยู่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร พี่สนิมกับพี่โชคมือหนึ่งทั้งคู่
ไม่เห็นมีอะไรต้องห่วง
ผมยกมือขึ้นทุบอกเบาๆ ทำไมมันรู้สึกไม่ดีเอาสียเลย เหมือนไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว หงุดหงิด
เป็นไข้หรือเปล่า ผมยกมือขึ้นจับหน้าผากตัวเอง ก็ไม่ร้อน หยิบช็อคโกแลตใส่ปากเคี้ยวจนหมดก็ไม่ดีขึ้น
เสียงเปิดประตูห้องคุณรองประธาน คุณวิกาเดินออกมา ยิ้มให้พี่พรนิดนึงแต่ไม่หันมามองผม
มือที่ยกเตรียมไหว้ตกลงข้างตัว หนึ่งชั่วโมง คุยอะไรกันนานขนาดนี้ไหนบอกว่าไม่ใช่แฟน
“น้องปุ่นพี่ฝากเอาเอกสารเข้าไปให้คุณวีร์หน่อยสิจ้ะ”
“ได้ครับ” ผมหยิบเอกสารจากพี่พร เดินไปเคาะประตูที่อยู่ใกล้ๆ
“เอกสารจากฝ่ายวางแผนครับ”
“ขอบใจปุ่น วางไว้เลย” ผมมองคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสาร พูดกับผมแต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา
นั่นอะไรน่ะ ผมขยับเข้าไปใกล้โต๊ะจ้องมองให้แน่ใจ
“ปุ่น มีอะไรอยากพูดหรือเปล่า วันนี้ท่าทางแปลกๆ” คุณวีร์วางปากกาในมือ เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม
ผมยกมือขึ้นชี้ไปที่แก้ม
“อะไร” คุณวีร์เอามือแตะตรงที่ผมชี้
“เอ่อ...รอยลิปสติกครับ”
“ขอบใจ” คุณวีร์หยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ด แต่ลิปคงเป็นแบบติดทนหรือไม่อย่างนั้นคนทำก็ตั้งใจมาก
เล่นขึ้นเป็นรูปปากชัดเจน มันเลยยังมองเห็นสีแดงจางๆ ถึงจะผ่านการเช็ดแล้ว
“ยังออกไม่หมดครับ”
คนเช็ดถอนใจทำหน้ารำคาญ ก่อนยื่นทิชชู่มาให้ผม
“จัดการให้หน่อย”
ผมยกมือชี้ตัวเอง
“อื้อ เช็ดให้หน่อย”
“ครับ”
ผมเอื้อมมือไปรับ ชะโงกตัวข้ามโต๊ะไปเช็ดให้ แต่คนขอให้ช่วยกลับเอนตัวหนี
“เดินอ้อมโต๊ะมา” เอาแต่ใจจริงวุ้ย แต่ก็ดีโต๊ะทำงานตัวใหญ่เบ้อเร่อยื่นแขนนานๆก็เมื่อย
ผมเดินอ้อมโต๊ะไปหา คุณรองประธานหมุนเก้าอี้หันมารอ
“ขออนุญาตครับ” ผมใช้ทิชชู่ถูไปบนรอยสีแดงสด
“โอ๊ะ!! ตก ตก” จู่ๆ คุณรองประธานก็คว้าเอวผมดึงเข้าไปใกล้ เกือบเบรกไม่ทัน ดีที่ผมเอามือยันไหล่ไว้ได้
ขาข้างหนึ่งยกขึ้นเข่าแตะบนเก้าอี้ เอ่อ..ตรง..ตรงกลางระหว่างขาคนที่นั่งอยู่นั่นแหล่ะ
“ยืนซะห่างจะทำถนัดไหม ทำอะไรชักช้า พี่ต้องเซ็นเอกสารอีกเป็นตั้ง”
เอากับคุณเขาสิ จะดุทำไม ความผิดใคร ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยสักนิด เลขามันต้องทำให้ขนาดนี้เลยเหรอฟระ
ผมหมั่นไส้เลยถูแรงๆ แต่ไม่ยักบ่น ลิปนี่ก็ติดทนติดดีเหลือเกิน
ผมมุ่งมันในการกำจัดรอย จนเผลอยกมือขึ้นมาจับแก้มอีกข้างของคุณรองประธานไว้ จะได้ไม่โยกไปมา
หน้าก้มต่ำ ตาจ้องรอยบนแก้ม เช็ดจนไม่เหลือสีแดงให้เห็น
ผมยิ้มออกมา เฮ้อ เสร็จเสียที
“หมดแล้วครับ” ผมยิ้มค้าง พูดต่อไม่ออก เพิ่งสังเกตว่าหน้าของผมกับคุณรองประธานอยู่ใกล้กันมาก
ต่างคนต่างไม่พูดอะไร ได้แต่จ้องตากันอยู่แบบนั้น ผมรู้สึกถึงสัมผัสที่อยู่ตรงสะโพก
คุณรองประธานเอามือมาจับไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ตึกตึก ตึกตึก นี่คือเสียงเดียวที่ผมได้ยินตอนนี้
>///<
“ขอบใจ” มือใหญ่เลื่อนออกจากตัวผม
“เดี๋ยวครับคุณวีร์” ผมเอื้อมมือไปแตะหน้าคมก่อนที่ร่างสูงจะทันได้หันเก้าอี้กลับ
คุณวีร์เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
ผมมองทิชชู่ที่เริ่มขาดยุ่ยในมือ ตัดสินใจใช้นิ้วอวบๆ ของตัวเองเช็ดไปบนริมฝีปากหนา
เกลี่ยนิ้วไปมาสามสี่ครั้ง ก่อนชูนิ้วนั้นให้คุณวีร์ดู
“แดงแจ๋เลย”
คุณรองประธานใช้ความเร็วลุกขึ้นยืน ดึงตัวผมเข้าชิด ใช้มือจับทับบนมือผม บังคับให้นิ้วที่เปื้อนสีแดง
แตะลงบนแก้มของผมเอง กดนิ่งไว้ชั่วครู่ก่อนปล่อยออก
“ซาลาเปา” คนทำถอยไปยืนเอียงคอมองผลงานตัวเองอย่างพอใจ
“ซาลาเปา?” ผมหันไปมองหน้าตัวเองที่สะท้อนจากตู้กระจก แก้มกลมสีขาว มีรอยแต้มสีแดงอยู่ตรงกลาง
ผมรีบใช้หลังมือเช็ดแรงๆ โชคดีที่มันเป็นแค่รอยจางๆ
สนุก ขำ ชิ
ต่อไปจะไม่ทัก จะปล่อยให้อายคนอื่นให้เข็ด จำเอาไว้เลย
(=‵′=)
ผมเดินออกมาล้างมือและเช็คหน้าให้มั่นใจในห้องน้ำ มองสีแดงที่ยังเห็นบนนิ้ว
เกือบลืมไปแล้วว่ามันมาจากไหน พอคิดได้ก็เผลอถอนใจออกมา
ต้องจูบกันขนาดไหน มันถึงติดอยู่ไปทั่วแบบนั้น
ผมกลับมานั่งทำงาน วันนี้อารมณ์ของผมเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลง
เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวบึ้ง แปรปรวนจนพี่พรยังเลิกถาม เลิกยุ่งกับผม ปล่อยให้ผมอยู่ของผมไปเงียบๆ
“ปุ่น” เสียงเรียกผ่านโทรศัพท์ ผมมองนาฬิกาใกล้เวลาเลิกงานแล้ว
“ครับ”
“เดี๋ยวกลับพร้อมกัน พี่ไปส่ง”
“ครับ”
ผมวางหู สรุปวันนี้ทั้งวันคุณวีร์ไม่ได้พูดเรื่องนั้นกับผมเลย
ตลกดีนะครับ ผมไม่อยากไป แต่พอคุณวีร์ไม่ถามผมกลับเสียใจ
แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยตอนนี้ผมก็ยิ้มออกมาได้นิดนึง คุณวีร์ยังไปส่งผมกลับบ้าน แสดงว่ายังเป็นห่วงผมอยู่บ้าง
ผมนั่งอยู่ในรถของคุณรองประธาน ตั้งแต่วันที่ถูกเรียกให้กลับมานั่งด้านหลังด้วยกัน ผมก็นั่งตรงนี้มาโดยตลอด
“ที่บ้านปุ่นมีอะไรทานเป็นมื้อเย็นไหม”
“มีครับ” คงเป็นการบอกเป็นนัยๆ ล่ะมั้งว่าวันนี้ไม่พาไปทานข้าว
“ดี”
ได้ยินแบบนี้แล้วผมแอบเซ็ง พอคุณรองประธานไม่พูดอะไรต่อ ผมก็เงียบบ้าง
เราเงียบกันจนรถมาจอดในซอยบ้านผม
“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้ เปิดประตูลงจากรถ
อ้าวแล้วคุณรองประธานลงมาทำไม ผมแปลกใจที่คนข้างๆเปิดประตูลงมาเหมือนกัน
ผมยังไม่หันจะหายสงสัย ลุงชัยคนขับรถก็เปิดลงมาด้วยอีกคน งงรับประทานสิครับ
“ปุ่นรอเดี๋ยว พี่ให้เอากระเป๋าเดินทางลงก่อน”
“อะไรนะครับคุณวีร์” ผมมองหน้าสองคนสลับกันไปมา
“ไม่รู้จักเหรอกระเป๋าเดินทางที่เอาไว้ใส่เสื้อผ้า”
( ̄﹏ ̄”)
กระโดดเตะก้านคอเจ้านายได้ไหมครับ มันอยากทำเหลือเกิน
“รู้ครับว่ากระเป๋าใส่เสื้อผ้าแต่เอามาทำไม”
“เอามาค้างบ้านปุ่น พี่นัดให้ทางบริษัทรักษาความปลอดภัยส่งคนมาพรุ่งนี้ เขาจะดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
ทางโน้นแนะนำว่าปุ่นควรจะอยู่ในความดูแลด้วย ความจริงเขาอยากเริ่มตั้งแต่วันนี้ แต่พี่ว่าพรุ่งนี้สะดวกกว่า
ปุ่นจะได้มีเวลาเตรียมตัว ”
พระเจ้าช่วย!! คุณรองประธานโกหกได้หน้าตายมาก คันปากอยากจะบอกว่าทางโน้นน่ะพี่ชายผมเอง
เดี๋ยวก่อนนั่นไม่ใช่ประเด็นใหญ่ ผมหลงไปนิด ที่สำคัญคือแล้วทำไมมาค้างบ้านผม
“ทำไมต้องมาค้างบ้านผมครับ คุณวีร์ก็อยู่บ้านคุณวีร์สิครับ ให้บอดี้การ์ดเขาไปคุ้มครองที่โน้น”
“นั่นสิ” คนตัวสูงพยักหน้าเห็นด้วย ทำเหมือนเพิ่งคิดได้ อะไรฟระปกติฉลาดจะตาย ทำไมมาโง่เรื่องแค่นี้
“ถ้าอย่างนั้นปุ่นไปเก็บของเดี๋ยวพี่รอ ย้ายไปอยู่บ้านพี่แทน”
เฮ้ย!! มายังไง
“ไม่เอา ไม่ไปครับ” ผมร้องเสียงหลง ผิดคีย์ ขึ้นสูงปรี๊ด
“โลเลนะเรา ถ้าไม่อยากไปโน่นก็เข้าบ้านกัน” คนหน้ามึนจับมือผมจะลากเข้าบ้าน
เดี๋ยวๆๆ ผมเบรกตัวโก่ง เข้าได้ที่ไหนเล่า ให้เจอพี่ปั้นไม่ได้เด็ดขาด ความแตกละเอียดไม่เหลือซากแน่ๆ
“คุณวีร์ก็อยู่บ้านคุณวีร์ ผมก็อยู่บ้านผมไม่ได้เหรอครับ”
“เลือกเอาจะอยู่ที่ไหน อย่าชักช้าพี่หิวแล้ว” นอกจากจะไม่ตอบคำถามผมยังมาทำเสียงดุใส่อีก ใช่เรื่องไหม
“บ้านผมเล็กนิดเดียวคุณวีร์อยู่ไม่ได้หรอกครับ”
“ไม่ต้อนรับ?” เสียงเริ่มไม่พอใจ หน้าเริ่มหงิก คุณรองประธานตอนนี้รับมือได้ยากมาก
“เปล่าครับ” ผมบอกเสียงอ่อย
“แต่บ้านผมอยู่กันหลายคน พี่ชายผม แม่บ้าน ลูกชายแม่บ้าน ผมกลัวคุณวีร์จะอึดอัด”
“ถ้าอย่างนั้นก็จบไม่ต้องเสียเวลาคิดแล้ว ไปเก็บของเอาแต่เสื้อผ้าก็พอ พี่ให้เวลาบอกที่บ้านรวมเก็บของสิบห้านาที
เกินกว่านั้นจะตามเข้าไปช่วย”
คนตัวสูงปล่อยมือผมเดินกลับเข้าไปนั่งในรถ
ผมเดินงงๆ เข้าบ้านตัวเอง
เดี๋ยวนะ!!
ไอ้ที่อดตาหลับขับตานอนคิดไว้ทั้งคืน ผมยังไม่ได้พูดสักประโยคเลย
ไอ้บ้าคุณรองประธาน
(#‵′)
“คุณวีร์ไม่เอากระเป๋าขึ้นไปเก็บเหรอครับ”
“กระเป๋าอะไร” คุณรองประธานหันมาถามผม ขี้ลืมใช้ได้แหะ
“กระเป๋าเสื้อผ้าคุณวีร์ไงครับ” ผมชี้มือไปที่กระโปรงหลัง
“อ๋อ....” คุณรองประธานลากเสียงยาว
“มีที่ไหนล่ะ”
“มีที่ไหน..” ผมทวนคำช้าๆ
“แปลว่าไม่มีเหรอครับ”
“ก็ไม่มีนะสิ”
หึๆ ฮ่าๆๆ เสียงหัวเราะคุณรองประธานมันบาดอารมณ์
โอ้ยยย มันเจ็บจี๊ดในอก
ผมชี้นิ้วใส่หลังคนที่เดินนำเข้าบ้านไป คิดหาคำด่าไม่ออก
“ไอ้...”
“ไอ้..”
“ไอ้โง่ปุ่นเอ๊ย”
Y_Y
.............................................TBC..........................................
ทำFanpage ไว้ให้แล้วนะคะ เผื่อใครขี้เกียจรีเฟรชจะลงแจ้งอัพตอนใหม่ไว้ให้ จิ้มได้เลย
Darin ♥ FANPAGE คนเขียนอัพทุกวัน หรือถ้าติดอะไรจะมาแจ้งให้ทราบค่ะ ^^