คุณครับ...ได้(ฟัน)ผมแล้วก็มารักกันเถอะครับ บทที่ 59/60 พิเศษ UP 6/1/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณครับ...ได้(ฟัน)ผมแล้วก็มารักกันเถอะครับ บทที่ 59/60 พิเศษ UP 6/1/55  (อ่าน 805690 ครั้ง)

kiizkziekiizk

  • บุคคลทั่วไป
ขอเดาว่า กายเลือกเชิงชายแน่นอน ฮ่าๆๆๆๆ :laugh:
แต่ไม่แน่พอเลือกไปแล้วเชิงชาย(สุดท้าย)ตาย :sad4:
แต่คิดว่า อาจท้ายที่สุด กายไม่เลือกใครเลย เเล้วหนีไปอยู่คนเดียวอาเมน  :pig4:

แต่เชียร์เคนนี่(ตั้งแต่ต้นเรื่อง)จ้า :-[ (อะไรของแก)
ปล.นั่งอ่านเรื่องนี้ตั้งสามวันกว่าจะตามทัน  :o8:

สุดท้ายสู้ๆค่ะ เพิ่งมาอ่านเรื่องนี้ของคุณคฑาวุฒ เป็นเรื่องแรก ถ้าจะทำใ้ห้คนอ่านอกจะแตกตายขนาดนี้
ให้ลุ้นทุกตอนจริงๆเล้ยยย  :call:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-10-2011 15:43:35 โดย kiizkziekiizk »

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
จริงๆ แล้วก็อยากจะถามว่า ตอนนี้พล็อตเรื่องที่วางไว้มันคลาดเคลื่อนจากเดิมไปมากไหม (ดูจากตัวอย่างที่คุณคฑาวุิฒิเคยให้อ่านอ่ะนะ

และเดาถูกว่าธฤตกับพฤศเป็นพี่น้องกัน แต่ไม่คิดว่าตาประธานจะเป็นน้องอ่ะนะ ดูจากสถานะตำแหน่งแล้วน่าจะเป็นพี่
แต่ที่แน่ๆ พ่อตาประธานนี่เมียเยอะมาก แฟนเก่าเคนนี่ก็ยังเป็นน้องเลย

ส่วนตาเคนนี่ ช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริง รักเพื่อนเหลือเกิน ของส่วนตัวเผื่อแผ่ได้ตลอด มีคนเอาความมาใส่ให้กี่รอบแล้วละนี่ ที่จริงตานี่ก็ดูฉลาดดีนะ แต่จะตายเพราะคนใกล้ตัว

ส่วนอีตาประธาน ก็ยังเป็นผู้ชายที่นิสัยไม่ดีต่อไป (คราวนี้ด่าได้เต็มปากซะที เพราะคุณคนเขียนเฉลยแล้ว) ที่จริงแล้วในมุมผู้บริหารนี่ถือว่าสอบตกนะ เอาเรื่องส่วนตัวมาโวยกับลูกน้อง ทั้งที่ตัวเองเป็นบอสใหญ่ 

จริงซินะที่เค้าว่าเงียบๆ แต่โคตรแรง (คนนั้น)  แต่ที่ดูแรงๆ ที่จริงก็ไม่มีอะไร (เคนนี่)  :bye2:

หมอกฤษฟันธง เอ้ย หมอลักษณ์คอมเฟิร์ม
สงสัย งานนี้ท่านประธานแหงมๆ
ฉุกคิดได้ ว่า ทำไมต้องหนีบเอากายไว้ข้างกายเวลาไปทำงานที่ต่างประเทศด้วยนะ
และยังคืนนั้นที่พม่าก็คงจะโดนท่านประธานอีกครั้งแน่ๆ เพราะมันคลุมเคลือเหมือนครั้งแรกเลย

CYzlon

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งได้เข้ามาอ่านครับ
ลุ้นจนเหนื่อยๆจริง
จะรอติดตามจนจบครับ
สนุกจริงๆ  แต่เก่งมากครับ

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ช่วงนี้คนป่วยเยอะจังแหะ
วรุจน์ก็ความจำเสื่อม เชิงชายก็ลูคีเมีย
คนที่เหลือก็รุกหนักเหลือเกิน  ยังไงก็ยังสงสัยว่าชายปริศนาคือท่านประธานแน่ๆ
แต่ที่ไม่แน่ใจคือหัวใจของกาย  เพราะกายเหมือนใช้สมองคิดแทนหัวใจเลยเลือกใครไม่ได้สักที :z3:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
สนุกอาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

beboy

  • บุคคลทั่วไป
ชอบครับ  สนุกมากครับ
ขอบคุณนะครับ

กายจะรอดไหมงานนี้  สงสัยมีศึกหน้านายกันบ้างหล่ะ

ออฟไลน์ kikumaru

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
เพิ่งรู้ว่าเกิดมาหน้าตาดีก็เหมือนมีกรรม
ดูกายสิโดนศึกทุกทาง
ลุ้นเหลือเกินว่าใครกันแน่คือตัวจริง
แอบเล็งว่าเป็นท่านประธาน

ออฟไลน์ Mimimimi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นิยายเรื่องนี้ของพี่นายเลเวลอัพมากค่ะ

อ่านแล้วแก่ขึ้นหลายปี  เพราะเผลอคิ้วขมวดอยู่เรื่อย

แต่จะเป็นท่านประธานจริงๆน่ะเหรอ??  ไม่งั้นรอบสองที่พม่าคงไม่ใช่ เพราะกายไม่เห็นจุกเลยนี่นา
หรือที่พม่าโดนตีก้น? เลยเจ็บๆแสบๆ แต่ไม่จุก 
เอ๊ะยังไง...

จริงๆแล้วไม่อยากให้เป็นท่านนะคะ  นิสัยจุกจิกงี้  น่าจะเป็นรับให้รู้แล้วรู้รอดไป
แล้วให้คู่กับคนที่น่าปวดหัวแบบเสาธงจะดีมาก  อิอิ

 :กอด1:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Guy Chapter 42

เมื่อไม่สามารถไปเที่ยวเกาะกับ นต. เมฆ ไปพักผ่อนที่บ้านของคเชนทร์ และดูแลเชิงชายในเวลาเดียวกันได้ กายจึงตัดสินใจหาทางออกด้วยการปฏิเสธทุกฝ่ายโดยให้เหตุผลว่ามีธุระที่สำคัญมาก อย่างไรก็ตาม กายก็ยังรักษาน้ำใจของทุกฝ่ายเอาไว้ด้วยการแบ่งเวลาให้คนละสองชั่วโมง
เช้าวันเสาร์เป็นของเชิงชาย ส่วนเย็นวันจันทร์เป็นของ นต. เมฆและคเชนทร์ ปิดท้ายด้วยการทานอาหารค่ำกับซอว์ เบนก่อนที่ซอว์ เบนจะเดินทางไปสนามบิน
ดังนั้น เช้าวันเสาร์ กายจึงมาเยี่ยมเชิงชายแต่เช้า และบอกว่าธุระสำคัญคืออะไร
“นั่งวิปรัสนา" เชิงชายอุทาน "ทำไมหรือกาย ไม่ต้องถึงกับไปเผื่อแผ่ส่วนกุศลอะไรให้ชายนะ ชายยังไม่ได้เป็นอะไร"
“พอดีมันรู้สึกปวดหัว เลยอยากไปหาที่สงบๆ ทำใจให้สบาย" กายไม่รู้จะให้เหตุผลอะไร
“ปวดหัวเรื่องอะไร" เชิงชายถาม
“เรื่องงาน"
“ให้ชายช่วยได้ไหม"
“ไม่ต้องหรอก ตัวเองก็ไม่ค่อยสบาย" กายส่ายหน้า
“ช่าง ชายไม่สน ถ้าจะช่วยไม่ให้กายปวดหัว ชายยอมไ
“ฟังนะ" กายทำเสียงเข้ม "ถ้าจะไมให้ปวดหัวก็ดูแลตัวเองดีๆ อย่าให้อาการทรุด ที่พูดนี่พูดเพื่อเจ๊นอด้วยนะ ตัวเองก็เคยพูดว่าจะดูแลตัวเองให้ดี จำได้ไหม"
“กายเป็นห่วงชายใช่ไหม" เชิงชายทำตาซึ้ง
“ถ้าไม่ห่วงจะพูดยังงีหรือเปล่าล่ะ"
“เป็นห่วงกันแบบนี้ก็มารักกันเถอะนะกาย" เชิงชายได้โอกาส ขยับเข้ามาใกล้ อยากเอื้อมมือไปดึงกายเข้ามากอดแต่ก็ไม่กล้า กลัวจะถูกชก "กายตัดสินใจเลือกชายซะเถอะ อย่าปล่อยให้มันเป็นแบบนี้เลย"
“เป็นแบบนี้ เป็นแบบไหน" กายขยับตัวออกห่างจากเชิงชายอีกเล็กน้อย
“ก็รู้สึกอึดอัดกันทุกฝ่ายไง" เชิงชายขยับตาม
“ใครอึดอัด ไม่เห็นจะอึดอัดที่ไหนเลย" กายขยับห่างอีก
“ก็แล้วทำไมต้องถึงกับไปเข้าคอร์สวิปรัสนาที่วัดล่ะ" เชิงขยับตามอีก
“ก็บอกแล้วไงว่าปวดหัว" กายลุกขึ้น เดินไปยืนพิงกรอบหน้าต่าง กอดอก มองออกไปข้างนอก
“กายรออะไรอีก" เชิงชายพูดเสียงเบา
“รออะไร" กายเลิกคิ้ว
“กายรอให้คุณวรุจน์หายใช้ไหม ถึงยังไม่ตัดสินใจ" เชิงชายฝืนพูดเสียงราบเรียบ
“ไม่รู้อะไรอย่าพูด"
“ไม่รู้อะไรที่ว่านี้ คือไม่รู้ว่าใจของกายคิดอะไรอยู่ใช่หรือเปล่า" เชิงชายรวบความความกล้าพูดออกมาตรงๆ "แล้วกายล่ะ รู้ใจตัวเองหรือยัง ถ้าไม่รู้ เมื่อไหร่จะรู้เสียที จะให้รอไปถึงไหน"
“รอไม่ไหวหรือ"
“รอไหวสิ รอได้ ได้เสมอ ถ้ารู้ซักนิดว่าอาจจะสมหวัง"
“ชาย" กายครางเสียงเบา
“ชายถึงได้รอกายอยู่นี่ไง"
“ชาย" กายถอนหายใจเบาๆ "ขอเวลาอีกซักหน่อยเถอะ"
“ชายรู้ว่าตัวเองเป็นรองทุกคน" เสียงของเชิงชายฟังเศร้าสร้อย
“อย่าเพิ่งเร่งรัดตอนนี้ได้ไหม ดูแลตัวเองให้ดีก่อน ให้หายจาก...”
“ให้ชายหายจากโรคนี้ก่อน กายถึงจะเลือกชายงั้นหรือ" เสียงของเชิงชายเบาโหวง เศร้ายิ่งกว่าเดิม
“ชาย ไม่ใช่ยังงั้น ต้องเข้าใจสิว่าเราก็ลำบากใจเหมือนกัน"
“ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจ" เชิงชายก้มหน้า
“เอายังงี้ กลับจากนั่งวิปรัสนา...”
“กลับจากนั่งวิปรัสนานี้เลยหรือกาย" เชิงชายรีบถามแทรก น้ำเสียงแปรเปลี่ยนเป็นดีใจทันที
“กลับจากนั่งวิปรัสนา จะบอกว่าใครผ่านรอบคัดเลือก"
“โธ่" เชิงชายถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ขอร้องเถอะนะชาย" กายทำหน้าเคร่งเครียด น้ำเสียงจริงจัง "ตอนนี้รู้สึกเครียดจริงๆ อย่างที่พูด ขอเวลาอีกซักหน่อย คงไม่นานหรอก จริงๆ"
“สัญญานะ"
“สัญญาสิ" กายพยักหน้า "สัญญาว่าเราจะซื่อสัตย์ต่อใจของตัวเอง และมองความรักบนพื้นฐานของความเป็นจริง กับเจ๊นอก็เคยคุยกันยังงี้ล่ะ"
...ซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตัวเอง และมองความรักบนพื้นฐานของความเป็นจริง...
...ดูเหมือนจะง่ายนะ...

...กลับจากนั่งวิปรัสนา เราก็ยังคิดไม่ตกและร้อนรุ่มอยู่ดี เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะไม่ได้ตั้งใจจะไปวิปรัสนานะสิ เราจะบาปหรือเปล่าเนี่ย เข้าวัดเพื่อหาทางหลบหนุ่ม แต่พอออกจากวัดก็ต้องไปเผชิญความจริง...
เย็นวันจันทร์ กายพบกับคเชนทร์เพื่อชมภาพยนต์ด้วยกัน จากนั้นไปที่ห้างสรรพสินค้าไม่ไกลจากแห่งแรกเท่าใดนักเพื่อทานอาหารว่างและเดินซื้อของกับ นต. เมฆ ก่อนจะรีบไปพบซอว์ เบนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเขาใช้เวลาค้นหาสถานที่อยู่นาน
ซอว์ เบนนั่งรออย่่างอารมณ์ดีอยู่ในร้านอาหาร แต่งตัวหล่อเนี้ยบเช่นเคย
“ผมมาเมืองไทยบ่อย ยกเว้นตอนที่ไปเรียนฝรั่งเศส" ซอว์ เบนพูดกับกายด้วยน้ำเสียงร่าเริง "ผมชอบร้านนี้ อาหารอร่อยเหมือนแม่ทำเลยครับ"
“ยังไม่ได้ทานก็เชื่อแล้วครับว่าอร่อย อยู่ในซอยลึกขนาดนี้คนก็ยังเต็มร้าน" กายตอบ
“ต่อจากนี้ไป ผมก็จะได้มาบ่อยๆ เหมือนเดิม"
“ไหนบอกว่าคุณจะต้องทำงานที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และหมดเคอร์ฟิวเที่ยว"
“สุดสัปดาห์ผมก็มีเวลาเป็นของตัวเองนี่ครับ และอีกอย่าง...” ซอว์ เบนส่งสายตาระยิบระยับให้กาย แสดงอาการว่าดีใจมาก "พ่อให้ผมเปลี่ยนแผนกเพราะพี่ชายคนถัดจากผมอยากทำงานที่ผมทำอยู่ตอนนี้ ผมเลยมีเวลาว่างมากกว่าเดิม คุณรู้ไหม ผมเคยนึกน้อยใจว่าพ่อสนับสนุนเขามากกว่าผม ตอนนี้เป็นครั้งแรกที่ผมอยากจะร้องไชโยด้วยความดีใจที่พ่อผลักดันเขาเรื่องงานมากกว่าผม"
“ครับ" กายเลิกคิ้ว แสดงความสงสัยว่าจริงๆ แล้วซอว์ เบนต้องการบอกอะไรเขากันแน่
“แม่ผมยิ่งดีใจใหญ่ที่ผมไม่ต้องทำงานหนัก ผมเป็นลูกคนสุดท้อง ความจริง แม่อยากให้ผมทุ่มเรียนดอกเตอร์อย่างเดียวด้วยซ้ำ แต่ว่า...”
“แต่ว่าอะไรครับ" กายถาม
“แม่คงเห็นว่าผมไม่มีความสุข ชอบใจลอยอยู่เรื่อย ก็เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม"
“แล้ว...”
“ผมก็เลยบอกว่า ผมกำลังตกหลุมรัก" ซอว์ เบนมองกายตาไม่กะพริบ
...ตายละหว่า อย่ามาบอกรักกันตอนนี้นะเบนนี่ เดี๋ยวจะยุ่งกันไปใหญ่ อุตส่าห์เพิ่งจะไปเข้าวัดมา...
“แม่ก็เลยอยากมาดูตัวคนที่ผมรัก" ซอว์ เบนพูดเสียงอ่อนโยน
กายรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก
...แม่เลยอยากมาดูตัวคนที่ผมรัก มาดูใครหรือเบนนี่ จะมาเมื่อไหร่...
“หมายความว่าไงครับ" กายไม่รู้จะพูดอะไรดีไปกว่านี้
“แม่เป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของร้านนี้" ซอว์ เบนอมยิ้ม หันไปมองรอบๆ
“แล้ว...”
“แม่อยู่ในครัวครับ" ซอว์ เบนยิ้มกว้าง "กำลังทำอาหารให้ลูกชายกับคนพิเศษทาน ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องทำ แม่ก็ไม่เชื่อ จะทำอาหารจานโปรดของผมให้ได้"
...เอางั้นเลยหรือ โอย ตายแล้ว...
...วิ่งหนียังทันนะกาย...
...อะไรกันนี่ นึกว่าจะรอดแล้วเชียว อุตส่าห์หนีไปนั่งวิปรัสนาที่วัด ตั้งใจจะเจอกับเบนนี่แค่หนึ่งชั่วโมง ไหนบอกว่าเจอกันแล้วจะไปสนามบินเลยไง หลอกกันนี่นา...

กายละสายตาจากหน้าคอมพิวเตอร์แล้วหยิบน้ำตาเทียมขึ้นมาหยดใส่ตาทั้งสองข้าง เมื่อวานนี้เขาไปพบแพทย์เพราะรู้สึกเจ็บตามาก หลายวันที่ผ่านมาเขาต้องเร่งทำงานแปลจนแทบไม่มีเวลาพัก กายลงความเห็นว่าโดนพฤศแกล้งเพราะยิ่งใกล้วันทำงานวันสุดท้ายก็ยิ่งได้รับงานมอบหมายมากขึ้นกว่าเดิมถึงเกือบสามเท่า แม้แต่การุณย์เองก็ยังทำหน้าหนักใจแทนเมื่อยื่นงานให้ทำ และในขณะเดียวกันกายก็มีเรื่องคิดหลายเรื่อง เชิงชาย นต. เมฆ และคเชนทร์ต่างก็รุกหนัก หลังเลิกงานเขาต้องสับหลีกให้วุ่น ส่วนซอว์ เบนก็โทรศัพท์ข้ามประเทศมาคุยด้วยทุกวันและ 'ทวงคำตอบ' ของคำถามที่ตัวเองกับแม่ถามในวันที่รับประทานอาหารเย็นด้วยกันเมื่อคืนวันจันทร์
...แม่ของเบนนี่บอกว่าถูกชะตากับเขา และมีความสุขมากที่เห็นลูกชายคนสุดท้องมีความสุข...
...แม่ไม่เคยเห็นประกายตาของเบนนี่ฉายแสงเจิดจ้าแบบนี้มาก่อนเมื่อพูดถึงคนอืี่น...
...แต่เขาเห็นประกายตาของเบนนี่สว่างเจิดจ้าทุกครั้งที่มอง ดวงตาของผู้ชายคนนี้ไม่เคยปิดบังความรู้สึก...
“โอย...” กายครางเบาๆ พลางใช้มือขยี้ตาขวา ลืมคำสั่งของหมอโดยสิ้นเชิงว่าไม่ให้ขยี้ตา
...คอยดูนะ ชิ้นสุดท้ายจะแปลผิดให้หมดทุกหน้าแล้วส่งให้ท่านประธานซักสิบห้านาทีก่อนเลิกงานวันสุดท้าย ดูซิ ท่านจะกล้าสั่งให้เราอยู่แก้งานหรือเปล่า...
...กล้าสิ อย่าไปลองของกับท่านเชียวนาไอ้กาย...
...เออ จริงด้วย..
ในสมองของกายคิดไปเรื่อย และขณะที่กำลังคิด กายก็สะดุ้งเพราะโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานแผดเสียงดังขึ้น
...ห้านาทีก่อนเลิกงานวันสุดท้าย เราจะทุบเครื่องโทรศัพท์บ้านี่ให้พังไปเลย เสียงมันดังแสบแก้วหูจริงๆ ให้ตายสิ บริษัทไฮเทคอะไรวะ โทรศัพท์กลับปรับระดับเสียงไม่ได้...
กายบ่นให้โทรศัพท์แล้วรับสาย มืออีกข้างยังคงขยี้ตาตัวเองเพราะรู้สึกเคืองตามาก เจนจิราเลขานุการของพฤศโทรศัพท์มา คำพูดของเจนจิราไม่ได้ทำให้เขาแปลกใจเลย
เขาเลิกแปลกใจมานานแล้วเมื่อถูกเรียกให้เข้าพบประธานบริษัท
“เอาเอกสาร ECAN F18 มาด้วยค่ะ" เจนจิราบอก
“ยังแปลไม่เสร็จเลยครับ" กายรีบพูด
“ท่านประธานต้องการด่วน" เสียงเจนจิราฟังดูเครียด
“ก็ผมเพิ่งได้มา"
“เฮ้อ" เจนจิราถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ถ้ายังงั้นคุณก็เอามาเท่าที่ทำได้ แล้วมาคุยกับท่านประธานเอง"
“ยังไม่ได้ทำเลยครับคุณเจน"
“ตายแล้ว" เจนจิราอุทานเสียงดัง
...ตายจริงๆ นั่นล่ะ...
กายตอบในใจ ไม่อยากจะนึกภาพว่าเดินเข้าไปพบกับพฤศเพื่อยื่นเอกสาร ECAN F18 ให้แล้วบอกว่ายังไม่ได้แปลแม้แต่คำเดียว
...แต่เขาอ่านแล้ว เรื่องตอร์ปิโดของฝรั่งเศส ศัพท์เทคนิคล้วนๆ ถ้ามีมนต์วิเศษช่่วยก็คงใช้เวลาซักสามวันถึงจะเสร็จ คเชนทร์ก็ไม่อยู่ ออกไปทำงานนอกบริษัททุกวัน จะขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้...
“ทำยังไงดีครับ" กายถาม
“เจนไม่รู้ คุณมาพบกับท่านประธานก่อนแล้วคุยกับเอง" เจนจิราตอบแล้ววางสายโทรศัพท์ทันที ทิ้งให้กายนั่งอ้าปากค้าง มือที่กำลังขยี้ตาหยุดนิ่ง ลืมความระคายเคืองของตาขวาโดยสิ้นเชิง

เจนจิรานั่งก้มหน้าเพ่งความสนใจอยู่กับงานบนโต๊ะทำงาน เมื่อกายเดินเข้าไปในออฟฟิสของพฤศ เจนจิราไม่เงยหน้าขึ้นมามองว่าใครเดินเข้าไปด้้วยซ้ำ แต่กายรู้ว่าหญิงสาวคงรู้ว่าเป็นเขา
กายก้มลงมองเอกสารในมือแล้วเดินไปที่ประตูห้องทำงานของพฤศ เคาะประตูสองครั้งแล้วเปิดเดินเข้าไปช้าๆ
“คุณเจนจิราบอกว่าคุณยังไม่ได้แปล ECAN F18” พฤศพูดเสียงเย็นเมื่อกายเดินเข้าไปใกล้
“ยังครับ ผมกำลังทำงานชิ้นอื่นอยู่ยังไม่เสร็จ" กายตอบ
“ไม่มีใครบอกคุณหรือไงว่าผมต้องการชิ้นนี้ก่อน"
“เอ่อ คุณการุณย์บอกแล้วครับ แต่ผมกำลังแปล JF-17 Thunder กำลังจะเสร็จ ตั้งใจจะแปล ECAN ต่อทันที แต่พอดี...” กายโกหกว่าการุณย์บอกเพราะไม่อยากให้พฤศไปตำหนิหัวหน้าของเขา
“ถ้ายังงั้นอ่านหรือยัง"
“อ่านแล้วครับ" กายพยักหน้า
“งั้นสรุปให้ผมฟัง ใช้เวลาสิบห้านาที" พฤศสั่งแล้วนั่งลง เอนเก้าอี้ไปด้านหลัง มือเท้าค้าง มองกายนิ่ง
“เอ่อ...”
...สรุปอะไรตั้งสิบห้านาที แต่ห้านาทีก็ใช้เวลานานเกินไปแล้ว...
“คุณกาย" พฤศพูดเมื่อเห็นว่ากายยืนนิ่งอยู่นาน  "จะนั่งสรุปก็ได้นะ"
...รู้สึกเหมือนเป็นนักเรียนมัธยมกำลังยืนท่องสูตรคูณอยู่หน้าโต๊ะครูคณิตศาสตร์ใจร้ายจังเลย...
“ครับ" กายตอบรับเบาๆ
“คุณอ่านแล้วจริงหรือเปล่า"
“อ่านจริงครับ" กายเสียงเข้มขึ้นมาเล็กน้อย
“งั้นเชิญ"
กายหันหลังช้าๆ ก้าวขาขวาไปข้างหน้าช้าๆ แต่เมื่อได้ยินเสียงพฤศเรียกชื่อจึงรู้สึกตัวและรีบหันหลังกลับมา
“คุณจะไปไหน" พฤศถาม
...ก็ได้ยินว่่าเชิญ นึกว่าโดนไล่ให้ออกจากห้องนะสิครับท่าน โอย ชักจะเบลอ แล้วนี่จะสรุปให้ท่านฟังได้ไหมเนี่ย...
“ท่าทางคุณไม่มีสมาธิ"
...เบนนี่ถึงกับพาแม่มาดูตัวเรา นี่ไม่ใช่ผู้หญิงนะ จะได้ดูตัวกันก่อนแต่งงาน...
...เชิงชายก็จะเอาคำตอบให้ได้ว่าใครผ่านรอบคัดเลือก ไม่น่าไปพูดเลยว่าจะให้คำตอบหลังกลับจากนั่งวิปรัสนา ส่วนคุณทหารอากาศเมฆก็จะพาเราไปทะเลท่าเดียว จะค้นหาตัวเองทำไม่ต้องไปแต่ทะเลวะ...
“พอดีผมทำงานแปลหลายชิ้นติดๆ กันครับ ก็เลยรู้สึกเบลอ" กายให้เหตุผล
“คุณกำลังว่าผมว่าให้คุณทำงานเยอะเกินค่าจ้าง" พฤศเลิกคิ้ว
“เปล่าครับ" กายตอบเบาๆ ในใจพูดว่า
...หาเรื่อง...
“งั้นกลับไปทำสมาธิครึ่งชั่วโมง แล้วกลับมาสรุป ECAN F-18 ให้ผมฟัง"
“ขอบคุณครับ" กายรีบพูด
“เชิญ"
...'เชิญ' คราวนี้หมายความว่า 'ให้ไปได้' แน่ๆ...
ทันทีที่ได้ยินเสียงพฤศอนุญาต กายจึงรีบเดินออกจากห้องไป พฤศมองตามอย่างครุ่นคิดแล้วถอนหายใจเบาๆ
...กายผ่านการทดสอบบางอย่างของเขา ไม่อยากจะเชื่อ นี่ถึงกับโกหกเพื่อปกป้องหัวหน้า กายไม่ยอมตำหนิการุณย์และยอมรับผิดเอง ทั้งที่เขาไม่ได้บอกว่าต้องการเอกสารชิ้นนี้ก่อนชิ้นอื่นๆ...
พฤศเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มพลาสติกสีเข้มซึ่งวางอยู่บนโต๊ะมาดูแล้วดึงเอกสารประมาณสิบแผ่นออกมาอ่าน ไม่ถึงห้านาทีก็วางลงบนโต๊ะ ก่อนจะหันไปเปิดคอมพิวเตอร์และเรียกดูข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานและรายงานพิเศษซึ่งเคยเขาสั่งให้แผนกตรวจสอบทำรายงานให้
“กาย..." พฤศพึมพำเสียงเบา

รถแท็กซี่สีเขียว-เหลืองจอดลงหน้าโรงพยาบาลใหญ่กลางกรุงเทพมหานคร แต่ผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหลังยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง คนขับรถเหลือบตามองอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดขึ้น
“ถึงแล้วครับคุณ"
“หือ" กายเลิกคิ้ว
“ถึงแล้วครับ 153 บาท" คนขับแท็กซี่พูดเสียงดังขึ้น
กายรู้สึกหัว หันไปมองนอกหน้าต่างเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นโรงพยาบาลที่วรุจน์นอนพักรักษาตัวอยู่แล้วหันมาหาคนขับแท็กซี่และยื่นเงินค่ารถให้
“ป่วยเป็นอะไรหรือคุณ" แท็กซี่ถามขณะที่กำลังทอนเงิน
“เปล่า" กายส่ายหน้า
“เห็นคุณนั่งนิ่งมาตลอดทาง นึกว่าป่่วยเป็นโรคเครียด"
...แน่ะ มาทำเป็นรู้ดีอีก...
กายไม่ตอบ รับเงินทอนแล้วลงจากรถ อดฉุนคนขับแท็กซี่ไม่ได้
“โรคเครียด เอ เราเป็นโรคเครียดจริงหรือเปล่าวะ" กายพึมพำถามตัวเองขณะที่เดินเข้าไปในโรงพยาบาล ในใจคิดต่อว่า
...จริงสิ ตั้งแต่ทำงานบริษัทนายหน้าค้าอาวุธแปลกประหลาดนี่มันรู้สึกเครียดจริงๆ ด้วย มิน่า เราถึงตัดสินใจเลือกใครไม่ได้ซะที ขนาดไปนั่งวิปรัสนาก็ยังไม่สามารถควบคุมความคิดได้...
“เฮ้อ...” กายถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อมาหยุดยืนรอลิฟท์ "แล้วทีนี้จะพูดกับคุณวรุจน์ยังไงดี"

คเชนทร์โยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ กระแทกหลังเข้ากับพนักพิงเก้าอี้ แสดงอาการหงุดหงิดจนคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามถามขึ้นมาว่า
“อาหารไม่อร่อยหรือไง"
“ใช่" คเชนทร์ตอบ
“คงไม่มั๊ง เราว่านายไม่พอใจที่โทรศัพท์หาใครตั้งสิบกว่าครั้งแล้วเขาไม่รับสายมากกว่า"
“นั่นก็ใช่ พอใจหรือยังที่ตอบแบบนี้"
“เก็บอารมณ์หน่อยคเชนทร์ อีกหน่อยแขกของเราก็จะกลับมาที่โต๊ะแล้ว อย่่าลืมว่าตอนนี้เรากำลังทานbusiness dinner”
“นายรับหน้าไปก่อน เราจะไปสูบบุหรี่นอกร้าน" คเชนทร์พูดเสียงห้วนแล้วลุกขึ้นเดินจากไปทันที พฤศมองตามจนคเชนทร์เดินออกไปจากร้านอาหารแล้วหันมามองบนโต๊ะอาหารจึงเห็นว่าเพื่อนลืมโทรศัพท์สีดำไว้บนโต๊ะเพราะหงุดหงิด
...กาย คเชนทร์โทรหากายแน่ๆ...
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พฤศสะดุ้งเล็กน้อยเพราะเสียงโทรศัพท์ของคเชนทร์ดังเป็นเพลงร๊อคจังหวะหนักหน่วง เสียงเพลงดังอยู่นานจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง พฤศจึงเอื้อมมือไปกดตัดสายและทานอาหารต่อ แต่อีกไม่ถึงหนึ่งนาทีโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก คราวนี้พฤศหยิบมาดูจึงรู้อย่างแน่ชัดว่าใครเป็นคนโทรศัพท์มา
“กาย" พฤศพูดเบาๆ เสียงโทรศัพท์ยังคงดังไม่หยุด แขกคนอื่นซึ่งนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ พากันหันมามองอีก พฤศจึงทำเหมือนเดินทั้งที่ใจหนึ่งก็อยากรับโทรศัพท์แทนคเชนทร์
พฤศทานอาหารต่อช้าๆ ในใจนึกอยากจะปิดเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ให้เป็นแบบสั่น แต่โทรศัพท์รุ่นนี้เขาไม่คุ้นเคย คเชนทร์ชอบเปลี่ยนโทรศัพท์บ่อยๆ เพื่อไล่ตามเทคโนโลยีใหม่อยู่เสมอ แต่เขาแทบไม่เคยเปลี่ยนโทรศัพท์เลย
โทรศัพท์ดังอีก พฤศทำอย่างเดิม และในเวลานั้นแขกของเขากับคเชนทร์ก็เดินกลับมาที่โต๊ะ โทรศัพท์เครื่องเล็กดังขึ้นอีกครั้ง พฤศจึงกดตัดสาย จากนั้นก็ไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกเลย

กายทำปากยื่น รู้สึกฉุนเล็กน้อยที่คเชนทร์ไม่รับโทรศัพท์ ประตูลิฟท์เปิดออก กายเก็บโทรศัพท์ไว้ในเป้สะพายหลังแล้วเดินออกจากลิฟท์มุ่งตรงไปยังห้องพักของวรุจน์ พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ยืนเฝ้าหน้าห้องจำเขาได้จึงขอให้ลงชื่อเข้าเยี่ยมแล้วเปิดประตูให้ พยาบาลซึ่งนั่งอยู่บนโซฟายืนขึ้นและเดินเข้ามาต้อนรับกาย บอกให้เขารอสักครู่เพราะวรุจน์มีแขก ไม่ถึงสามนาทีประตูห้องของวรุจน์ก็เปิดออก กายหันไปมอง พอเห็นว่าใครเดินออกมาจากห้องก็รู้สึกแปลกใจปนตกใจ
“คุณเจนจิรา" กายอุทานเสียงเบา
“คุณกาย" เจนจิราเลิกคิ้ว
“ผมไม่เคยคิดเลยครับว่าคุณเจนจิรารู้จักคุณวรุจน์" กายพูด
“เจนมาเยี่ยมแทนท่านประธานค่ะ" เจนจิราตอบ
“แทนคุณพฤศ" กายยิ่งแปลกใจ
“มันเป็นมารยาทางธุรกิจค่ะ" เจนจิรายักไหล่ ไม่อธิบายอะไรต่อ เพียงแต่พูดสั้นๆ ว่า "เจนไปก่อนนะคะ กำลังรียบ คุณวรุจน์ดูเครียด คุณกายคงเยี่ยมนานไม่ได้ สวัสดีค่ะ"
พยาบาลกล่าวขอบคุณเจนจิราแล้วรีบหันมาขอให้กายรอสักครู่และให้เหตุผลว่าต้องการเข้าไปขออนุญาตวรุจน์ก่อนเพราะเกรงว่าวรุจน์อาจจะเหนื่อยและเครียด กายพยักหน้า มองพยาบาลซึ่งรีบเดินเข้าไปให้ห้องของวรุจน์ เขาถอนหายใจเบาๆ รู้สึกลังเลเล็กน้อยเพราะจนถึงเวลานี้ เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าจะพูดกับวรุจน์อย่างไรดี ครั้งแรกที่มาเยี่ยมวรุจน์นั้นเข้าไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดเพราะเกรงว่าวรุจน์จะระแวงว่าเขาถือโอกาสเข้ามาสร้างความสนิทสนม แต่โชคร้ายมีข่าวไม่ดีออกไปทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงกันทั้งสองฝ่าย เขาเองนั้นไม่เท่าไหร่แต่วรุจน์เป็นถึงประธานคณะกรรมการบริหารโรงแรมเครือ The Atlantis และได้รับผลกระทบไม่ใช่น้อย
...วรุจน์จะโกรธแค่ไหนที่หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับลงข่าวและภาพหลุดของเขาทำนองว่าเป็น 'เพื่อนพิเศษ' ของวรุจน์...
...และตอนนี้วรุจน์ก็รู้แล้ว่าเราทำงานอยู่ที่บริษัทของพฤศ คนที่ตัวเองไม่ชอบหน้า หรืออาจจะเข้าขั้นเกลียด ตอนที่มาเยี่ยมครั้งแรก เราไม่ได้บอกว่าทำงานที่ไหน...
...วรุจน์สูญเสียความจำ อาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองเกลียดพฤศ...
...คงไม่หรอก วรุจน์คงรู้แล้ว แต่ละวันมีคนมาเยี่ยม ต่างคนต่างก็ต้องเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง...
ความคิดของกายหยุดลงเมื่อประตูห้องของวรุจน์เปิดออก พยาบาลเชิญกายให้เข้าเยี่ยมวรุจน์ได้และขอร้องว่าอย่าใช้เวลานาน
กายรู้สึกดีว่าการมาเยี่ยมวรุจน์ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง

::: End of Chapter 42 :::

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






4life

  • บุคคลทั่วไป
ยังงงเหมือนเดิม.... :เฮ้อ:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
เจอหนุ่มๆโจมตี จนติดสตัน ไปเช่นเคย   o2

ออฟไลน์ pp4

  • คนที่ 'ชอบ' ไม่ได้แปลว่าคือคนที่ 'ใช่'
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-6
ฮื้ออออออ เครียดแทนกายจริงๆีค่ะ ปวดหัวแทน~
กายออกจากงานเครียดๆนั่นแล้ว น่าจะได้ใช้เวลากับตัวเองมากขึ้นนะ
สู้ๆ เข้าใจว่ามันเลือกยาก(พูดเหมือนตัวเองเชี่ยวชาน กร๊ากๆ)
แต่ละคนนี่ก็ ทำไมพยายามแต่จะเค้นคำตอบจากเรื่อยเลยน้า~
ชิงทำคะแนนกันวะ กายนับแต้มตามไม่ทัน 5555
รอตอนต่อไป

mixmix

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องสายของวรุจน์ก็คลี่คลายไปแล้วว่าคือคุณเจนจิร่ แต่ตอนนี้สับสนและไม่รู้จะเชีรย์ใครเป็นพระเอกดี
แต่ที่กลัวที่สุดก็เหมือนเดิม กลัวเรื่องนี้แล้วสุดท้ายกลายไม่ได้คู่กับใครเลยอ่า  :sad4:

ออฟไลน์ hobazaki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
โอยยยยย เรียดแทนกาย ทุกสิ่งรุมเร้าเหลือเกิน T^T

สู้ๆนะกาย สู้ๆนะคะคุณ katawoot  :กอด1:

MokGaLaKom

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยากกระโดดดีใจ เดาถูกจริงๆด้วยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร มาถูกทางแล้ว90%
ลุ้นๆ ซอว์เบนรุกหนักจริงๆ คุณพฤศเหมือนจะใจอ่อนขึ้นแล้ว ยังเชียร์ให้เป็นพระเอกอยู่นะคะ

sakuracity

  • บุคคลทั่วไป
พอเห็นเลข 42 แล้ว ดีใจจนเนื้อเต้นอะ......โอยยย มันกำลังมันส์มากอะ can't wait

ถ้าเรื่องนี้ไม่มี พฤศ จะรื่นรมย์ อารมณ์ดี กว่านี้เยอะ...น่ารำคาญอะ!! โรคจิตป่าววะ!! เก็บกดมากปะ!! ไปตายให้หนอนแดกไป!! ถ้ามาถามกุว่า "ผมให้งานคุณเยอะเกินเงินเดือนไปหรอ?" กุจะตอบเลยว่่า่ "ใช่!!"

ส่วนกาย หน้าตาก็ดี เข้าวงการได้เงินสบายๆก็ไม่เอา.....ภาษาก็ดี ไปเป็นสจ๊วต ไม่ก็นักบินไปเลยหมดเรื่อง มานั่งถ่างตาหน้าคอมอยู่ได้ เดี๋ยวตาบอดเข้าแล้วจะรู้สึก ขยี้ตาอยู่นั่นแหละ...ตาบอดก็ดีเหมือนกันนะ จะได้รู้มันไปเลยว่า ใครรักจริง รักไม่จริง

พอและยิ่งบ่นยิ่งดูเหมือนเจ๊นอไปทุกที 555  :laugh:

ออฟไลน์ parakoparako

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3
นิยายเรื่องนี้ของพี่นายเลเวลอัพมากค่ะ

อ่านแล้วแก่ขึ้นหลายปี  เพราะเผลอคิ้วขมวดอยู่เรื่อย

แต่จะเป็นท่านประธานจริงๆน่ะเหรอ??  ไม่งั้นรอบสองที่พม่าคงไม่ใช่ เพราะกายไม่เห็นจุกเลยนี่นา
หรือที่พม่าโดนตีก้น? เลยเจ็บๆแสบๆ แต่ไม่จุก 
เอ๊ะยังไง...

จริงๆแล้วไม่อยากให้เป็นท่านนะคะ  นิสัยจุกจิกงี้  น่าจะเป็นรับให้รู้แล้วรู้รอดไป
แล้วให้คู่กับคนที่น่าปวดหัวแบบเสาธงจะดีมาก  อิอิ

 :กอด1:

ที่ไม่จุกเพราะชินแล้วอ่ะเปล่า กายอ่า

เชียร์ประธานนะจ้ะ

เรามันมาโซ

เอิ้กๆ :o8:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
เราก็ยังหัวช้ากับความซับซ้อนของเรื่อง แต่รู้สึกเข้าใจเชิงชายนะ
คือรักกายมานาน ละก็รอกาย แต่กายก็ไม่พูดให้เคลียร์สักทีว่าจะเอาหรือไม่เอาอะ
กายตัวเลือกเยอะก็ไม่ผิดนะ แต่ก็อยากให้เลือกๆมาสักคนได้แล้ว เพราะกายกดดันตัวเองเยอะแล้วอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4

ออฟไลน์ NUTTYZERO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1044
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
เชือกเริ่มจะพันกัน  เริ่มเครียดแทนกาย  จะเอาใครดีหว่า 555+

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ค่อนข้างมั่นใจว่าประธานน่าจะเป็นพระเอก  เจนจิราเป็นไส้ศึก

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
เจนจิราเป็นสายให้วรุจน์!!
น่ากลัวนะ กลายเป็นคนใกลตัวประธานขนาดนี้
ขอให้วรุจน์อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจทำอะไรที่จะเกิดผลร้ายกับกายเลย
สงสารกายมาก ๆ เหมือนทุกคนจะโยนทุกอย่างมาที่กายนี่สิ เคนนี่ช่วยด้วย!!

ออฟไลน์ momo9476

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
 :mc4: เชียร์ท่านประธาน

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
ท่านประธานจะแกล้งกายไปถึงไหน :angry2:

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

หญิงเจนเป็นสายลับ???
น่าจะใช่อยู่นะ

เข้าไปหาวรุจน์แล้วจะเกิดอะไรขึ้น

ขอบคุณและจะติดตามครับ

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หรือว่าเจนจิราเป็นสปายยยยย :a5:

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2

ออฟไลน์ broncho

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-1
ตอนนี้คุณคนแต่งตั้งใจจะโชว์วิธีสับรางรถใช่ไหมคะ เก่งจริงๆ สับได้ครบทุกราง แถมมีเวลาไปนั่งวิปรัสนาด้วยนะเออ  เอากะเค้าซิ

อ่านตอนนี้แล้วคิดว่า เชิงชายเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวมาก ทั้งที่น่าจะรู้ว่ากายไม่ได้คิดอะไรด้วย กลับเอาความเจ็บป่วยมาเป็นเครื่องต่อรอง นี่ยิ่งถ้ารู้อยู่เต็มอกว่ากายมีส่วนออกค่าใช้จ่ายรักษาละก็นะ ยิ่งแย่ใหญ่
ส่วนกาย ที่จริงแล้วช้อยส์เชิงชายตัดสินใจง่ายที่สุดแล้ว คือจะเอาหรือไม่เอา เพราะโรคมันไม่มีวันรักษาหาย แต่อดรนทนอยู่รอให้อาการดีขึ้น คงต้องรอไปตลอดชีวิต ประมาณว่าถ้าจะจับมือเอาไว้ ก็ต้องจับไปตลอด ปล่อยเมื่อไหร่ม่องแท่งแน่นอน สู้ตัดไปให้เคลียร์แล้วกลับมาเป็นเพื่อนเหมือนที่เคยเป็นมาน่าจะเวิร์คสุดแล้ว

ส่วนท่านประธาน ถามมาได้ว่าใช้งานเกินเงินเดือนหรือเปล่า เรียกพบ 5 นาทีก่อนเลิกงาน แค่เดินมาถึงห้องก็หมดเวลาแล้ว แล้วยังจะให้ตั้งสมาธิอีกครึ่งชั่วโมงมาอธิบายใหม่ แบบนี้โอทีชัดๆ เลยนะเฮีย?! 

และที่แรงสุดยอดประจำตอนต้องยกให้ท่านแม่เบนนี่ ดูจากสถานะทางสังคม และเชื้อชาติแล้ว ต้องยกตำแหน่งขวัญใจท่านแม่ให้เลย สรุปว่า ณ ตอนนี้ต้องตัดธฤตทิ้งไปเลยซินะ เพราะขนาดอยู่ไทยเหมือนกัน กลับห่างเหินยิ่งกว่าคนอยู่พม่า สรุปว่าข่าวดีของตาเบนนี่คือให้แม่มาดูตัว นึกว่ามาคอนเฟิร์มซื้อเครื่องบนรบทำยอดขายให้นายกายซะอีก

อ่านแล้วลุ้นว่า ความจะแตกเพราะใครกันนะระหว่างท่านซาดิสต์ฟันแล้วทิ้ง กับท่านเจ้าคิดเจ้าแค้น ถ้าเป็นคนหลังหนูกายจะช็อคสลบหรือเปล่านี่ โอ้มายก๊อดดดดดดดด

และท่านคฑาวุฒิเจ้าคะ พอจะมีตัวแทนอิมเมจของนายกายไหม อยากรู้จริงๆ ว่ามันต้องรูปร่างหน้าตาประมาณไหน ถึงสยบใจชายทั้งหลายและหม่อมแม่ได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ นี่ยังอดคิดไม่ได้เลยนะว่า ไฉนอดีตของกายก่อนถูก "เจิมสดคืนวันศุกร์" มันไม่มีเสน่ห์เหรอ ถึงมีเชิงชายมาหลงรักตามตี้อแค่คนเดียว อิ อิ :bye2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด