โทษทีที่หายไปนานนะครับ พอดีฉลองคริสต์มาส ต่อเนื่องถึงปีใหม่ ไปจนถึงวันเด็ก เรื่อยมาถึงตรุษจีน เลยมาช้าไปหน่อย อย่าว่ากันนะ
ความจริง เจอคลื่นซัดกระหน่ำครับ เลยเซไปเซมา ตอนนี้พอไหว
ก็เลยได้โอกาสพิมพ์และโพสต่อ อีกประมาณยี่สิบหน้าก็จะหมดที่เขียนเอาไว้แล้วนะครับ ต้องหาเวลาเขียนต่อ ช่วงนี้ลูกน้อยกวนมาก ดูแลลูกๆ ห้าตัวเหนื่อยสุดๆ แถมมีสามตัวป่วยเป็นโรคลำใส้อักเสบติดต่อ ให้น้ำเกลือ หนักที่สุดคือตัวที่ซนที่สุด ให้น้ำเกลือมาสิบกว่าวัน ตอนนี้ยังอยู่กับคุณหมออยู่เลย ส่วนลูกชายวัยรุ่นที่เป็นคนก็สุดๆ เหมือนกัน ยุ่งกับเลี้ยงเด็กวัยรุ่นหนึ่งคนและลูกหมาห้าตัว แถมเน็ตก็ไม่มี (ตัดเน็ตเพราะควบคุมเด็กวัยรุ่นใช้เน็ตไม่บันยะบันยังอ่ะ)
แต่จะมาโพสต่อเรื่อยๆ นะครับ ตอนนี้ใกล้จะครึ่งเรื่องแล้ว ได้ลุ้นกันซะที
Guy Chapter 24
กายเห็นว่าบนเตียงนั้นยับยู่ยี่จนมองไม่ออกว่ามีรอยคนนอนสองคนหรือไม่ หมอนหนึ่งใบวางอยู่บนหัวเตียงแต่อีกหนึ่งใบวางอยู่ปลายเตียงด้านขวา ผ้าห่มกองอยู่กลางเตียง ส่วนหมอนข้างนั้นหล่นลงมาอยู่บนพื้น
...เพราะแกนอนดิ้เหมือนใส้เดือนถูกน้ำร้อนลวกนะสิไอ้กาย เตียงนอนเลยเละเทะแบบนี้ แล้วจะดูออกไหมเนี่ยว่าเมื่อคืนบนเตียงนี้มีคนนอนกี่คน...
“กาย เร็วๆ เข้านะ” เสียงของคเชนทร์ดังขึ้นอีกที่หน้าประตู กายจึงรีบเข้าห้องน้ำเพื่อ 'วิ่งผ่านน้ำ' อย่างที่เจ้าของบ้านแนะนำ ไม่ถึงห้านาทีกายก็แต่งตัวเสร็จ เปิดประตูห้องออกมาเห็นคเชนทร์ยืนอยู่กลางห้อง สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีน้ำตาล บนหน้าอกเป็นตัวหนังสือสีขาวตัวใหญ่อ่านว่า 'โสด' แต่เมื่อกายเพ่งมองจึงเห็นว่ามีตัวหนังสือสีดำตัวเล็กๆ อ่านว่า 'ไม่อยาก' อยู่หน้าตัวหนังสือสีขาว และมีคำว่า 'อีกแล้ว' สีเทาต่อท้าย
...ซื้อที่ไหนวะ จะได้ซื้อไปให้เชิงชายใส่ซักตัว...
...คเชนทร์แต่งตัวแบบนี้ดูเท่ไปอีกแบบ เสื้อยืดพอดีตัว เน้นมัดกล้าม เซ็กซี่ไม่ใช่เล่น...
“วันพีเดย์ แต่งแบบนี้หรือครับ” กายไม่อยากจะเชื่อเพราะคเชนทร์แต่งตัวตามสบายมาก แตกต่างไปจากที่เคยเห็นโดยสิ้นเชิง
...แล้วท่านประธานพฤศจะแต่งตัวแบบไหนกัน หัวหน้าการุณย์ล่ะ และคนอื่นๆ ที่สวมเสื้อขาวผูกเนคไทด์สีเข้ม หรือบางคนที่สวมสูทประจำจะแต่งตัวกันแบบไหน...
...แต่ที่แน่ๆ ไอ้กายดูเฉิ่มที่สุ เพราะใส่กางเกงคาร์โก้สีกากีหม่นๆ กับเสื้อโปโลตัวโคร่งสีเขียว ผมไม่หวี ล้างหน้าลวกๆ ใส่กางเกงในตัวเดิมที่ใส่เมื่อวาน โชคดีเปิดแอร์เย็นทั้งคืน กางเกงในแห้ง ไม่เปียกชื้น แต่กลิ่นคงตุๆ...
...แต่ใครจะมาดมวะ...
“ฉีดน้ำหอมหน่อยดีไหมกาย” คเชนทร์เดินเข้ามาใกล้ ทำจมูกฟุดฟิดแล้วชี้เข้าไปในห้อง “วางอยู่บนโต๊ะหน้ากระจกโน่นน่ะ”
“ผมเหม็นขนาดนั้นเลยหรือครับ” กายทำหน้ามุ่ย
“หน่อยนะ จะได้มั่นใจ” คเชนทร์หัวเราะ
“ไปเถอะครับ เดี๋ยวไม่ทัน ผมไม่อยากโดนเกลียดที่ครั้งต่อไปการประชุมต้องเลื่อนมาเริ่มเร็วขึ้นอีกสิบห้านาที” กายก้มหน้า เดินไปที่ประตู แต่เมื่อถึงกลางห้องก็ชะงัก ตัวแข็ง อึ้ง อ้าปากค้าง
...เราจำห้องนี้ได้ เช้าวันเสาร์ที่ 21 เราตาลีตาเหลือก วิ่งออกมาจากห้องนอน ผ่านห้องรับแขก มองออกไปเห็นวิวยอดตึก กระจากบานใหญ่ มุมห้องเป็นกระจกติดกันสองด้าน เห็นสะพานแขวนลิบๆ...
...แล้วก็รูปภาพบ้าบออะไรก็ไม่รู้ แขวนอยู่ข้างทีวีจอแบน รูปเบ้อเริ่ม สีเลอะเทอะ เหมือนไม่ได้เอามือวาด...
...โซฟาสีขาวขนาดใหญ่มาก...
...เราถูกผลักให้นอนคว่ำลงไป หน้าซุกหมอนข้างสีดำ แล้วผู้ชายคนนั้นก็ดึงกางเกงเราออก...
...คืนวันศุกร์ที่ 20 ที่เรานอนกับผู้ชายแปลกหน้า คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ผิวสีแทน ตัวสูงใหญ่ และ 'ขนาดใหญ่' จนจุกไปทั้งวัน ที่สำคัญ มีอะไรกันแบบไม่ได้สวมถุงยาง คงเพราะเมากันทั้งสองคน จะหลั่งข้างในหรือข้างนอกก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ทำกันแบบสดๆ 'เนื้อต่อเนื้อ'...
...คเชนทร์!...
“ที่นี่ที่ไหนครับ” กายหันไปถามคเชนทร์
“คอนโดผม” คเชนทร์ตอบแล้วเดินไปที่โต๊ะข้างประตูเพื่อหยิบกุญแจก่อนจะหันมาเร่งกาย “ไปซิครับ เดี๋ยวไม่ทัน ยังมึนอยู่หรือ เมื่อกี้เห็นรีบ แต่ตอนนี้ยืนนิ่งเหมือนถูกสะกดจิต”
“ผมกำลังช้อค” กายพึมพำแล้วเดินไปที่ประตูห้องชุดช้าๆ
“นี่ล่ะน๊า กินเหล้าแบบไม่บันยะบันยัง” คเชนทร์พูดพลางหัวเราะแล้วเปิดประตูห้อง “เสียดาย ไม่ได้ถ่ายคลิปเอาไว้ เวลาคุณเมาส์นี่สุดๆ จริงๆ เลย แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมบันทึกไว้ในความทรงจำหมดแล้ว”
คเชนทร์ปิดประตูห้องแล้วเดินนำไปที่ลิฟท์ ขายวๆ ของคเชนทร์ก้าวเร็วมาก กายพยายามเดินตามให้ทัน ในใจคิดว่าจะเริ่ม 'พูด' กับคเชนทร์อย่างไรดี
อย่างไรก็ตาม กายกลับยืนนิ่งอยู่ในลิฟท์จนกระทั่งลงมาถึงชั้นหนึ่งและเดินผ่านลอบบี้ไปยังประตูหน้าตึกอาคารชุด
“คุณรู้หรือเปล่ากาย รถผมได้จอดอยู่ข้างหน้า ไม่ต้องไปลานจอดรถ สิทธิพิเศษสำหรับห้อง 39A” คเชนทร์หันมาพูดยิ้มๆ กับกาย “แต่เพนทส์เฮาส์ชั้นบนผม ถึงจะมีลิฟท์ส่วนตัว แต่ต้องเดินหลายก้าวกว่าผมกว่าจะได้ขึ้นรถ”
...ช่างเถอะ เดินกี่ก้าวก็ช่าง ว่าแต่ว่าใช่คอนโดนี้แน่นะกาย ถ้าหันไปทางขวาแล้วเห็นป้ายธนาคารสแตนด์ดาร์ดชาร์ทเตอร์ล่ะใช่แน่...
กายยืนนิ่งเมื่อเห็นสิ่งที่ตัวเองคาดหวัง ป้ายสีน้ำเงินของธนาคารเด่นชัดอยู่ไม่ไกล เมื่อหันไปมองรอบๆ เขาก็จำได้ทันที เช้าวันที่วิ่งออกมา เขายืนอยู่ตรงนี้ แท๊กซี่แล่นเข้ามาจอดพอดีและเขาก็กระโดดขึ้นทันเมื่อผู้โดยสารคนอยู่ในแท๊กซี่สีเขียว-เหลืองลงจากรถคันนั้น ครั้นหันไปมองที่ประตูหน้าคอนโดมิเนี่ยมก็เห็นพนักงานหนุ่มในชุดสีขาว คาดเอวด้วยผ้าสีแดงเลือดหมูเหมือนอย่างผู้ชายคนที่กำลังยื่นอะไรบางอย่างให้คเชนทร์
“โน้ตครับคุณคเชนทร์ จากเพนท์เฮาส์ ขอแลกที่จอดรถครับ” พนักงานหนุ่มพูดขึ้น
“หือ” คเชนทร์เลิกคิ้วสงสัย
“คุณแบงค์ นิตินัยบอกว่ายอมจ่าย เท่าไหร่ก็ได้ตามที่คุณคเชนทร์เสนอครับ ขอเพียงแต่ได้ที่จอดรถคุณคเชนทร์ คุณแบงค์บอกว่าไม่อยากเดินไกล รบกวนคุณคเชนทร์บีบีไปหาคุณแบงค์หน่อยครับ”
“บีบี” คเชนทร์พึมพำแล้วพยักหน้าให้พนักงานประจำประตูแล้วหันมาเร่งกายซึ่งเดินตามมาช้าๆ
“คุณกาย ผมว่าคุณจะทำให้ทุกคนต้องประชุมทาวน์มีตติ้งครั้งต่่อไปเร็วขึ้นอีกสิบห้านาทีแน่นอน”
“ครับๆ” กายรีบพยักหน้าและเดินตรงไปที่รถของคเชนทร์แล้วขึ้นนั่ง
...คเชนทร์คือผู้ชายคนนั้น คเชนทร์คือคนที่เขามีอะไรด้วยในคืนวันศุกร์ที่ยี่สิบ...
...คเชนทร์จำเขาได้หรือเปล่า...
...น่าจะจำได้ คเชนทร์ทำท่าน่าสงสัยมาตลอด อีกอย่าง คเชนทร์ดูสนิทกับท่านประธาน พฤศอาจจะรู้เรื่องนี้ด้วย ที่แสดงว่าไม่ชอบหน้าเราก็คงอาจจะคิดว่าเราเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้ทำงานที่บริษัท ยิ่งคเชนทร์ทำตัวสนิทกับเราท่านประธานก็ยิ่งไม่ชอบ...
กายพยายามเรียบเรียงคำพูด รู้สึกใจเต้นขึ้นมาทันที และเมื่อคเชนทร์ปิดประตูรถและสตาร์ทเครื่องยนต์ ใจก็ยิ่งเต้นแรงกว่าเดิม
“ทำไมหรือครับ” คเชนทร์หันมาถามพลางเคลื่อนรถออกจากช่องจอด “มองผมยังกับไม่เคยเห็นมาก่อน”
“คุณคเชนทร์” กายพึมพำ ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเริ่มพูดกับคเชนทร์อย่างไรดี
“ครับ คเชนทร์คนเดิม” คเชนทร์ยิ้ม “คนที่คุณคุ้นเคยดี ไม่ใช่ใครที่ไหน เรียกผมอย่่างนี้กลัวลืมชื่อผมหรือไง”
“คือว่า...” กายอึกอัก และขณะนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของคเชนทร์ก็ดังขึ้น
คเชนทร์ถอนหายใจเบาๆ และบ่่นว่าใครโทรศัพท์มารบกวนตั้งแต่เช้า แต่เมื่อรับสายคเชนทร์ก็เอาแต่พยักหน้าอย่างตั้งใจฟัง จนกระทั่งรถติดไฟแดงจึงพูดออกมาประโยคแรกด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
“คุณเตรียมแฟ้มให้ผมเรียบร้อยหรือยัง”
“...”
“ผมยังไม่พร้อมที่จะคุยกับฝรั่งเศสตอนนี้ ผมขับรถอยู่ อีกหน่อยก็จะถึงออฟฟิส” คเชนทร์พูด
“...”
“คุณถ่วงเวลาเอาไว้สิ ผมรู้ว่าคูณทำได้ ทุกทีคุณก็ถ่วงเวลา ไม่ว่าใครคุณก็ไม่ปล่อยให้ผ่านมาถึงผมง่ายๆ คุณทำได้อย่างไม่มีที่ติ”
“...”
“เฮ้อ” คเชนทร์ถอนหายใจเสียงดังแล้วนิ่งฟังคนที่โทรศัพท์มาซึ่งตอนนี้กายพอจะเดาไว้ว่าคือเลขานุุการหน้าบึ้งของคเชนทร์
คนที่โทรศัพท์มาอธิบายยืนยาว กายได้ยินเสียงอู้อี้ดังออกมาจากโทรศัพท์ของคเชนทร์ ชนกพูดเร็วมาก ส่วนคเชนทร์เอาแต่ตอบรับสั้นๆ และเมื่อจนอีกฝ่ายพูดจบจึงสั่งงาน
“คุณตามทีมคุณแจ๊คมาประชุมกับผม บอกคุณเจนว่าผมไม่เข้าประชุมทาวน์มีตติ้งวันนี้ คุณเข้าประชุมแทน ส่วนเรื่องเดินทางเอาตั๋ว SQ นะ เอา the red eye ทั้งไปและกลับ ไม่เอา TG ส่วนโรงแรมจอง Ritz ไม่เอา Atlantis เด็ดขาด”
...ไม่เอา Atlantis โรงแรมของวรุจน์ คเชนทร์ไม่ถูกกับวรุจน์ขนาดไม่ยอมพักโรงแรมในเครือ Atlantis...
“คุณชนก ผมขับรถอยู่” คเชนทร์อุทานขึ้นมาหลังจากได้ยินเลขานุการพูดอะไรบางอย่าง
“...”
“ก็ได้ ก็ได้ ก็ได้ โอนสายเข้ามา ให้มันจบๆ ซะที ส่วนสายจากอเมริกาคุณรับไป ถ่วงเวลาไว้ ยังไงก็ให้รอฟังตอบหลังจากผมประชุมกับทีมของคุณแจ๊คเสร็จ” คเชนทร์สั่งงาน
กายหันไปมองสีหน้าด้านข้างของคเชนทร์แล้วอดนึกไม่ได้ว่า คเชนทร์ขณะนี้ช่างแตกต่่างจากทุกครั้งที่เขาเคยเห็น
...พูดจาเป็นการเป็นงาน ค่อนข้างเจ้าอารมณ์ด้วยซ้ำ...อ้อ...คำพูดชัดเจน ตรงประเด็น ไม่มีกำกวมเหมือนที่พูดกับเราเลยแม้แต่นิด...
จากนั้นคเชนทร์คุยกับสายที่เลขานุการโอนให้ ท่าทางเคร่งเครียด คเชนทร์พยายามต่อรองเรื่องการซื้อขายเรดาร์ประจำเรือรบของกองทัพเรือ คเชนทร์พูดภาษาฝรั่งเศสคล่องมากจนกายรู้สึกทึ่ง
การจราจรในตอนเช้าคับคั่งมาก แต่คเชนทร์ก็ทำเวลาได้ดี มาถึงบริษัทเมื่อเวลาเจ็ดนาฬิกาตรง เมื่อรถจอดหน้าตึก คเชนทร์บีบแตรรถสั้นๆ สองครัั้ง พนักงานที่ประตูด้านหน้าตึกรีบวิ่งเข้ามาหา กายเปิดประตูแล้วทำท่างทางประกอบคำพูดที่ไม่มีเสียงออกมาจากปากเพื่อสื่อสารให้คเชนทร์ทราบว่าตัวเองจะเดินเข้าไปก่อน คเชนทร์พยักหน้าแล้วนั่งคุยโทรศัพท์ต่อ และเมื่อพนักงานประจำประตูทางเข้าวิ่งมาถึงจึงลงจากรถและยื่นกุญแจรถให้ก่อนจะเดินตามหลังกายมาช้าๆ
กายเดินผ่านห้องโถงชั้นหนึ่งของตึก SEAR 2012 ไปยังลิฟท์ช้าๆ หันไปมองคเชนทร์แวบหนึ่งจึงเห็นว่าเพิ่งจะคุญโทรศัพท์เสร็จ
“กาย” คเชนทร์เรียก กายหันหน้าไปมองพร้อมกับเลิกคิ้วแล้วหันหน้ากลับ
“รอหน่อยสิ” คเชนทร์พูด กายกดลิฟท์แล้วยืนรอ และเมื่อลิฟท์เปิดออกก็รีบเดินเข้าไป ตั้งใจว่าจะขึ้นไปตั้งตัวที่ห้องดื่มกาแฟเพื่อทำสมาธิก่อนเข้าประชุม และเมื่อเสร็จการประชุมถึงจะคุยกับคเชนทร์
เมื่อเข้าไปในลิฟท์ กายเลือกชั้นและกดปุ่มปิดลิฟท์ทันทีทั้งที่คเชนทร์เดินตามมาใกล้จะทันแล้ว แต่ทันใดมีเสียงหนึ่งดังขึ้นนอกลิฟท์ ทำให้กายถึงกับสะดุ้ง
“เคนนี่”
กายเงยหน้าขึ้นมองไปยังคเชนทร์ซึ่งหันขวับไปทางซ้ายตามเสียงเรียกทันทีพร้อมกับเลิกคิ้ว
...คเชนทร์คือเคนนี่! ชื่อเล่นของคเชนทร์คือเคนนี่ ผู้ชายคนที่มีอะไรกับเราคืนนั้นคือคเชนทร์ คอนโดห้องนั้นก็เป็นของคเชนทร์ ทีนี้ก็ยิ่งแน่ชัด ไม่มีอะไรจะต้องสงสัยอีกแล้ว...
...แต่ใครเรียกคเชนทร์ว่าเคนนี่ เสียงคุ้นๆ...
กายรีบเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดประตูลิฟท์ค้างเอาไว้ คเชนทร์หันหน้ามาแล้วชี้มือขึ้นข้างบนแล้วโบกมือเล็กน้อย สื่อสารให้กายขึ้นไปก่อนโดยไม่ต้องรอ แต่กายไม่สนใจ ยังคงกดปุ่มลิฟท์ค้างเอาไว้เพราะต้องการจะรู้ว่าใครเรียกคเชนทร์
End of Chapter 24