Chapter 2 Teasing
หลังจากคืนนั้นกลายเป็นว่าความสนใจของผมวนเวียนอยู่รอบตัวเขา ผมบอกตัวเองว่ามันเพราะเรามีกันแค่สองคน ความเงียบงันทำให้สิ่งมีชีวิตที่ขยับได้อย่างเขาน่าค้นหา
ผมไม่ได้ออกไปดื่มน้ำตอนกลางคืนอีก แต่กลับคอยเงี่ยหูฟังเผื่อว่าเขาจะออกจากห้องของเขาแล้วเดินผ่านห้องของผมลงไปข้างล่าง
หยาง...ไม่สิ พี่ซันชอบออกจากห้องประมาณเกือบห้าทุ่ม ผมรู้สึกว่าบานประตูห้องราวกับมีชีวิต มันพยายามล่อลวงผมให้ออกไป
ในยามเช้าหรือยามเย็นที่เราร่วมโต๊ะอาหารกันเขามักจะมีรอยยิ้มมุมปาก ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรแต่มันทำให้ผมทำตัวไม่ถูก
หลายครั้งที่ดวงตาคมจรดจ้องอยู่ที่ปากผม...แล้วมันก็ทำให้สัมผัสวันนั้นที่ผมยังจำได้กลับคืนมาอีกครั้ง ปากของผมรู้สึกถึงความนุ่มชื้นรสเดียวกับน้ำชา
เขายังคงชอบยกมือแตะต้องแก้มผม...ลูบไล้แผ่วเบา...เขานุ่มนวลกับผมเหมือนตอนที่เขาชงชาคืนนั้น ส่วนผมคงเป็นกาน้ำร้อน มันร้อนผ่าวอยู่เรื่อยเวลาเขาสัมผัส
ใบหู...คือบริเวณที่ผมรู้สึกประหลาดมากที่สุด เขามักจะบีบแผ่วเบา...สลับกับลงน้ำหนักจนผมหลุดเสียงตลก เขาพึงพอใจ ผมได้ยินเสียงเขาหัวเราะ และมันก็จบลง
ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมยังคงสับสนและไม่มีใครให้ถาม แต่...เขาก็ไม่ได้จูบอีก เขาก็แค่แตะ...บางทีแก้มผมอาจจะเหมือนซาลาเปาหรือกระดาษชำระที่เขาใช้เช็ดมือ
ผมเริ่มเรียนภาษาจีนกับเหล่าซือที่ลักษณะเหมือนคุณป้าคนหนึ่ง เราเรียนกันที่บริเวณห้องรับแขกตรงกลางชั้นหนึ่งของบ้าน เป็นเวลาเดียวที่ผมจะเห็นเลขาของหยางมายืนอยู่ตรงมุมห้อง และเขาก็จากไปพร้อมเหล่าซือ
เขาไม่ได้มาเฝ้าผม แต่มาเฝ้าเหล่าซือต่างหาก เรื่องที่หยางไม่ชอบให้ใครมายุ่งในบ้านคงจะเป็นเรื่องจริง ยิ่งวันไหนที่ถึงรอบทำความสะอาดบ้าน เลขาของเขาห้าคนจะคอยตรวจสอบทุกขั้นทุกตอน คนจะเยอะและวุ่นวายไปหมดเพราะต้องทำเวลา
ส่วนผมก็จะพาตัวเองมานั่งเอนหลังอยู่ตรงริมบ่อปลาคาร์ฟกับเขา...ระหว่างเรามีโต๊ะเล็กๆ และชุดกาน้ำชาเข้าชุดกัน พักหลังมานี้จะมีขนมเป็นของว่างด้วย แต่มันสำหรับผม พี่ซันไม่รับของหวาน
ส่วนมากเรามักใช้เวลาด้วยกันในความเงียบ มันทำให้ผมประหม่าในบางทีเพราะสายตาของเขา เขาจะเอ่ยถามนานๆ ครั้งว่าผมเป็นยังไงบ้าง เบื่อบ้านไหม จะออกไปข้างนอกไหม
ผมเคยได้ออกไปข้างนอกสองสามครั้ง แต่ก็ไปแค่ห้างใกล้ๆ ไปเดินเล่นแก้เบื่อ มีคนของเขาหนึ่งคนตามไปด้วย แต่มันก็ไม่ได้สนุกอะไร ที่นี่ก็เหมือนกรุงเทพฯ มีแต่ตึกสูงและคนมากหน้าหลายตา
ความสัมพันธ์แปลกประหลาดของเราเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์ ผมนอนอยู่ในห้องและรอฟังเสียงเขาเดินผ่านห้องผมไปเหมือนทุกวัน
แต่ครั้งนี้ฝีเท้าของเขากลับหยุดที่หน้าประตูห้องผม ผมรู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้น...หัวใจผมเต้นแรง อยู่ๆ ก็คาดหวังว่าเขาจะเข้ามา แต่อีกใจก็หวาดกลัว
เสียงลูกบิดประตูดังแผ่วเบา...ผมไม่ชอบนอนล็อคประตูห้อง ความเคยชินตั้งแต่ยังอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็ก เพราะพี่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลจะเปิดเข้ามาดูพวกเราหลับกลางดึก
ตอนอยู่กับเยว่บางทีแม่บ้านก็จะเข้ามาปรับแอร์ หรือปิดไฟในตอนที่ผมหลับไปแล้ว...แต่พี่ซันคงไม่ได้เข้ามาปรับแอร์หรือปิดไฟแน่ๆ
เขาก้าวเข้ามาในห้อง แสงจันทร์จากด้านนอกทำให้ผมเห็นเขาไม่ชัดเจนนัก เขาอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำเหมือนคืนนั้น กลิ่นโคโลญจน์ของเขาทำให้ผมกระสับกระส่าย
“ยังไม่นอนอีก”
พี่ซันนั่งลงข้างเตียง ด้วยเหลี่ยมมุมที่เขานั่งทำให้ผมมองไม่เห็นสีหน้าของเขา มือหนายืนมาลูบไล้แก้มผมเหมือนที่เขาชอบทำมาเสมอ
“ผม...นอนไม่หลับ”
“ทำไมล่ะ”
“ผมไม่รู้”
“ฉันก็นอนไม่หลับ”
ผมไม่รู้ว่าต้องตอบอะไร มือเขาของไม่ได้เคลื่อนไปที่ใบหูเหมือนทุกทีทว่ากลับขยับมาแตะต้องริมฝีปากของผม นิ้วเขากดแผ่วเบาราวกับหยอกล้อ...การหยอกล้อที่ผมบังคับตัวเองให้หันหน้าหนีไม่ได้
“เด็กดี”
“ไม่ใช่เด็กดีสักหน่อย”
การถูกเขาเรียกว่า เด็กดี มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนล้อเลียน ผมอายุสิบห้าแล้วนะ การถูกเย้าแหย่ว่าเป็นเด็กดีมันไม่สนุกนักหรอก
“เหรอ...ไม่ดียังไงล่ะ”
“ก็...ไม่ดีแล้วกันครับ”
“หึหึ...ไปดื่มชากันไหม”
“คุณบอกไม่ให้ผมออกจากห้องตอนกลางคืน”
“แล้วการที่ฉันเข้ามาในห้องเธอแล้ว...มันจะต่างอะไรกันล่ะ”
ผมเถียงไม่ออก ทำได้แค่เม้มปากแน่น มือเขาเลิกยุ่งกับปากผมแล้วแต่กลับเลื่อนลงไปที่ลำคอ ชุดนอนของผมเป็นชุดเสื้อเชิ้ตแต่ผมมักจะอึดอัดเลยปลดกระดุมออกสองเม็ดตลอด
มันเลยทำให้มือของเขาสัมผัสแผ่นอกผมอย่างง่ายดาย...เขาแค่วางมือนิ่งขยับเล็กน้อยมาที่อกด้านซ้ายที่หัวใจของผมทำงานอย่างหนัก
“ตื่นเต้นหรอ”
“ปละ เปล่าครับ”
“เด็กไม่ดี...ขี้โกหก”
“อะ...อื้ออ”
ปลายเล็บเขาสะกิดหัวนมผม ผมเพิ่งรู้ว่าการถูกแตะต้องบริเวณนี้มันรู้สึกแปลกประหลาดได้มากขนาดนี้ ทำไมตอนผมอาบน้ำ หรือใส่เสื้อไม่เห็นรู้สึกอะไร แต่พอเป็นเขา...เป็นหยาง...เป็นพี่ซัน
ฝ่ามือใหญ่ขยำเคล้นคลึงสลับกับบีบขยี้นมข้างซ้ายของผม เขาทำอยู่อย่างนั้น ผมพยายามดึงมือเขาออกแต่ผมสู้แรงพี่ซันไม่ได้เลย
“อ๊า...ยะ อย่านะ”
“ตอง...เด็กไม่ดี”
เขายอมหยุดมือในที่สุด ในความเงียบสนิทมีเพียงเสียงหายใจหอบของผม ความรู้สึกอุ่นยังคงอยู่ตรงที่เขาขยำขยี้ ขาผมขยับเสียดสีกันไปมาเพราะร่างกายมันแปลกประหลาด
ผ้าห่มของผมถูกดึงออก และแม้จะไม่เห็นสีหน้าเขาแต่ผมกลับรู้สึกว่าร่างกายถูกสำรวจ...ร่างกายที่เหมือนกับไม่ใช่ของผม
“พี่ซัน...ทำอะไรผม”
“ไม่ได้ทำอะไร”
“พี่ซันจับผม”
“หึหึ...ไม่ชอบให้จับหรอ”
คำถามที่ยากจะตอบ ผมไม่ได้รังเกียจเขา...แค่ สัมผัสของเขาทำให้ผมไม่รู้จะรับมือยังไง ท่าทีลังเลของผมทำให้เขาหัวเราะอีกครั้ง
“ถ้าไม่ชอบ...คราวหลังก็แกล้งหลับสิ”
“หมายความว่ายังไงครับที่ว่าคราวหลัง”
“เพราะฉันจะทำอีก”
เขาทำอย่างที่พูด ในคืนต่อมาเขาเข้าห้องผมมาอีก...ผมทำเป็นแกล้งหลับ แต่ มันยากมาก...จะให้แกล้งทำเป็นไม่รู้สึกได้ยังไงในเมื่อร่างกายมันร้อนผ่าวทุกครั้งที่เขาแตะต้อง
ผมติดกระดุมชุดนอนจนถึงคอ...เขาก็แกะมันออก...มากกว่าคืนก่อนด้วยซ้ำ สาบเสื้อผมถูกแยกออกจนขนลุกเพราะลมจากแอร์เย็นๆ
เขาเคล้นคลึงแผ่นอกของผม...บดขยี้หัวนมจนมันเจ็บ...ขยับเคลื่อนมาที่เรียวปาก...และหัวเราะที่ผมพยายามหลับตาปี๋
สองมือผมขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่น เพราะผ้าห่มที่เป็นเกราะป้องกันเดียวของผมถูกเขาดึงออกไปนานแล้ว เขายังคงหยอกล้อผมด้วยการบีบแก้มผมเบาๆ
“พี่ซัน...หยุดเถอะนะครับ อื้อ...”
“ถ้าจะห้ามก็เข้มแข็งหน่อย”
เขาบีบใบหูผมอีกแล้ว ตาผมรื้นน้ำจนมองอะไรไม่ชัด มัน....เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างหมุนวนอยู่ในร่างกาย ผมพยายามส่งเสียงห้ามเขาอีกหลายครั้ง แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุด
จนผมเหนื่อยหอบ...และ...นอนหมดแรงเขาถึงยอมปล่อยให้ผมเป็นอิสระ
พี่ซันเป็นโจรบุกรุกห้องผมทั้งอาทิตย์ หยอกล้อให้ผมทำเสียงประหลาด รู้สึกประหลาดจนเขาพอใจถึงยอมออกไป การกลั่นแกล้งของเขามักจะต่อเนื่องมาในตอนเช้า
สายตาเขาวิบวับและกวาดมองผมราวกับผมไม่มีเสื้อผ้าขวางกั้นอยู่ เขาทำให้ผมหน้าร้อนผ่าวและหัวใจเต้นแรงแต่เช้าทุกที
ถ้าตอนกลางคืนผมคงค้านเขาไม่ไหว แต่มื้อเช้าที่ผมพยายามรวบรวมความกล้าแบบนี้ผมจะต้องเอ่ยปากอย่างจริงจัง
“พี่ซัน...หยุดเข้าห้องผมตอนกลางคืนได้แล้วครับ”
เสียงของผมเข้มแบบที่ต้องการ ผมสะกดจิตตัวเองไม่ให้หันหนีสายตาของเขา สายตาที่ผมไม่มีทางชนะเลย...สองมือผมขยุ้มกางเกงตัวเองสุดแรง เกมจ้องตาครั้งนี้ผมจะไม่แพ้
ทว่าพี่ซันไม่คิดจะแข็ง...เขาตอบรับมาด้วยคำถามที่ผมไม่อาจหาคำตอบได้
“แล้วทำไมไม่ล็อคห้อง”
“คะ คือ...”
“ยอมรับเถอะ...ว่าเธอก็ชอบเหมือนกัน”
ผม...ชอบให้พี่ซันสัมผัสจริงๆ หรอ
วันนี้บ้านเราไม่ได้เงียบเหงาเหมือนทุกครั้ง พี่ซันไม่ได้ออกไปทำงานแต่เลขาพี่ซันพาคนมากมายมาที่ห้อง เริ่มจาก...ช่างตัดเสื้อ
ผมถูกจับหมุนเป็นวงกลม วัดตรงนั้นทีตรงนี้ทีอยู่นาน เลขาพี่ซันพูดภาษาจีนโต้ตอบไปมากับช่างตัดเสื้อ ผมยืนจนเมื่อยไปหมด
จากนั้นทีมงานของช่างตัดเสื้อก็เอาชุดหลายแบบให้ผมลองใส่ มีทั้งชุดสูทและชุดแบบจีน รองเท้า หมวก ผมใช้เวลาทั้งเช้าหัวหมุนกับการถอดชุดนั้นใส่ชุดนี้
กว่าทุกคนจะพอใจและคืนความเงียบสงบให้บ้านเรา...ตลอดเวลาพี่ซันไม่ได้อยู่ด้วย เขาแค่แวะเวียนมาบางครั้งบางคราว นอกนั้นเขาก็ใช้เวลาอยู่ที่ห้องทำงานชั้นบน
เพราะต้องเปลี่ยนชุดเยอะมาก ผมเลยมีแค่เสื้อคลุมแบบจีนอยู่บนตัว มันคล้ายชุดคลุมอาบน้ำแต่เป็นผ้าเนื้อเรียบลื่นแบบที่พี่ซันใส่ แบบนี้มันสะดวกกว่าไม่งั้นถอดไปใส่มาเป็นสิบยี่สิบรอบแบบนี้มันเสียเวลาพอตัว
“เสร็จแล้วหรอ?”
“ครับ”
พี่ซันวันนี้ใส่ชุดจีนสีดำสนิท คอปกตั้งแขนยาว ชายเสื้อยาวถึงพื้นแต่ผ่าข้างสองข้างขึ้นมาถึงเอว มันเหมือนกระโปรงแต่เข้ารูป กางเกงสีดำพอดีตัวทำให้ผมพอจะจินตนาการช่วงขายาวของพี่ซันออก
ละ แล้วผมจะไปนึกภาพขาพี่ซันทำไมล่ะ...
“เหนื่อยไหม”
“ครับ...มันเยอะไปหมด”
เขาเดินเข้ามาประชิดตัวผม ยกมือลูบแก้มผมเหมือนทุกที แต่ครั้งนี้เขาขยับนิ้วคล้ายกำลังเกาแก้มผมเบาๆ ก่อนจะลดมือลงเปลี่ยนมาเกาคาง ผมพยายามจะค้านว่าผมไม่ใช่แมวนะ...
แต่มันก็...สบายมากเลย ผมพริ้มตาหลับปล่อยให้เขาเกาเล่น เสียงหัวเราะในลำคอของพี่ซันก็ไม่ทำให้ผมหงุดหงิดเหมือนทุกที
“เป็นแมวขี้เกียจไปแล้วจริงๆ ด้วย...หืมอวิ๋น”
มีบ้างที่เขาจะเรียกผมว่าอวิ๋น เขาหยุดเกาแล้วโอบเอวผมเข้าหาตัว นั่นทำให้ความเคลิบเคลิ้มปลิดปลิวหายไป เราไม่เคยใกล้ชิดกันแบบนี้...ร่างกายผมแนบไปกับเรือนกายสูงใหญ่ของเขา
มีเพียงชุดผ้าบางเบาที่ป้องกันผมอยู่...และสายตาเขาจรดจ้องลงตรงที่...สายผูกเอวผมใกล้จะหลุดอยู่รอมร่อ สาบเสื้อคลุมมันแยกออกไปไม่รู้ตอนไหน มันเกือบจะหลุดจากไหล่ขวาของผมอยู่แล้ว
อาจจะเพราะผมมัวแต่ล่องลอยไปกับการถูกเขาเกา...ไม่ใช่แมวสักหน่อยไปเผลอเคลิ้มได้ยังไงกันนะ... ผมพยายามจะจัดเสื้อคลุมให้เข้าที่แต่พี่ซันกลับล็อคเอวผมไว้ทำให้ผมขยับไม่ได้เลย
อีกนิด...นมข้างขวาผมก็จะโผล่พ้นสาบเสื้อออกมาอยู่แล้ว...และพี่ซันก็จับจ้องมันอยู่อย่างนั้น ผมไม่กล้าหายใจด้วยซ้ำกลัวว่าแผ่นอกจะขยับ...และผมก็จะโป๊
ถึงเขาจะเคยเห็นมาแล้วแต่มันก็ตอนกลางคืนที่มีแสงสลัว แต่ตอนนี้มันเป็นตอนกลางวัน...ตอนกลางคืนผมไม่เห็นสีหน้าและแววตาของเขา แต่เวลานี้มันกลับกัน
“ชู่ว...อย่าเกร็งสิตอง”
“พี่ซัน...ปล่อยครับ”
“บอกแล้วไง...ว่าให้ทำเสียงเข้มแข็งกว่านี้”
คอเสื้อผมร่วงลงจากไหล่ในที่สุด ผมยกมือปิดแผ่นอกตัวเองแล้วแต่มันก็พี่ซันดึงออก เขาจรดจ้องนมผมทั้งๆ ที่มันก็แบนราบ
“พี่ซัน...อย่ามอง”
“งั้นถ้าไม่มอง...จับได้ใช่ไหม”
ผมตาพร่าเบลอถูกดันชิดกับกำแพงห้อง เขาไม่มองแบบที่ผมต้องการแต่นิ้วมือบีบเคล้นอย่างแรง แรงกว่าทุกคืนที่เขาทำ เขาจับผมเงยหน้าให้เล่นเกมจ้องตากับเขา
“อะ อื้อออ”
“อย่ากัดปากสิตอง...เดี๋ยวเป็นแผล”
“พี่ซัน...อย่า”
“ทำเสียงเข้มอีกสิ”
“พี่ซะ...อ๊ะ! ”
มือพี่ซันขยับต่ำลงไปที่แผ่นท้อง...และถ้าต่ำอีกนิดมันก็จะเป็น...ตะ ตรงนั้น...ผมไม่ได้ใส่แม้กระทั้งกางเกงชั้นใน เพราะผมต้องลองกางเกงในด้วย
ผ้าผูกเอวมันหลุดร่วงไปแล้ว เหลือเพียงผมที่เปลือยเปล่า กับเสื้อที่หล่นลงจากไหล่ไปกองอยู่ที่แขน มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักนิด
“พี่แค่...จะช่วยตองแต่งตัวเอง”
คนโกหก... เขาทำเป็นอ้อยอิ่งควานมือสะเปะสะปะหายสาบเสื้อของผม มือเขาปัดป่ายผ่านตรงนั้น...ผมรู้ว่าเขาตั้งใจแต่ผมพูดอะไรไม่ได้ ผมสู้รอยยิ้มหยอกล้อของเขาไม่ได้เลย
สุดท้ายเขาก็หยิบสายคาดเอวมามัดให้ผมหลวมๆ คราวนี้มือเขาไม่ได้ยกขึ้นสัมผัสผิวแก้ม หรือใบหูผมอีกแล้ว เขาโอบเอวผมไว้...และเคลื่อนต่ำลงอยู่เหนือสะโพกเล็กน้อย
“ทะ ทำไมพี่ซันชอบแกล้ง...”
“พี่ไม่ได้แกล้ง...พี่จะแกล้งตองทำไม”
แล้วที่พี่ทำอยู่...มันคืออะไร
-------------
พี่ซันแกล้งน้องแน่ๆ แกล้งแน่ๆ !!! น้องไม่ได้รู้ไม่ทันนะ แต่น้องยังจับต้นชนปลายไม่ถูก 555