ตอนที่ 1หวางหลี่จวิน‘คุณว่าผมแปลกมั้ยที่ยังอารมณ์ดีจนถึงขั้นอยากหัวเราะให้ก้องฟ้า ยามอยู่ต่อหน้าผู้ชายขี้หึงที่คงอยากจะเข้ามาปลิดชีพผมด้วยการจ่อยิง ซึ่งสาเหตุนั้นก็อยู่ไม่ไกลตัวผมนัก จะใครถ้าไม่ใช่หนุ่มไทยหน้าตี๋คนนั้น’
“ผมเตือนเฮียหวางไว้ก่อนเลยว่าอย่ายุ่งกับ ‘คนของผม’ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าแก๊งหยางหลงเหยียนของเราหาเรื่องแล้วกัน!” ผู้ชายขี้หึงตรงหน้าข่มขู่ผมด้วยน้ำเสียงเข้มกังวาน และมีท่าทางขึงขังจ้องผมเขม็งอยู่นั้น ไม่มีทีท่าว่าล้อเล่นสักนิด
ส่วนผมที่ยืนประจันหน้าไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวกับท่าทางและคำพูดเหล่านั้นเลย ออกจะรู้สึกสนุกกับภาพตรงหน้าด้วยซ้ำ แม้ลูกชายของผมต้องอยู่ท่ามกลางพายุเพชรหึงก็ตาม ระหว่างที่ผมดูภาพสองชายหนุ่มที่ยื้อแย่งลูกชายตัวเองอย่างอารมณ์ดีอยู่นั้น ลูกสาวตัวน้อยในอ้อมกอดกลับสะอึกสะอื้นและพูดขึ้นมา จนผมต้องกลับมาให้ความสนใจกับสาวน้อยน่ารักแทน
“ฮึกๆ ปาปาคะ หลี่ผิงร้องไห้แล้ว หลี่ผิงเจ็บเหรอคะ ปาปาพาเหมยอิงไปโอ๋หลี่ผิงที” ผมกอดรัดร่างน้อยของลูกสาวที่เป็นแฝดคนน้องของเด็กที่กำลังร้องไห้ อยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มหน้าตี๋ตรงหน้าเราอย่างอ่อนโยน พลางปลอบใจเหมยอิงคนสวยของผมไปด้วยว่า พี่ชายของลูกสาวไม่ได้รับอันตรายอย่างที่ลูกคิด เพราะหลี่ผิงก็แค่ตกใจกับท่าทางของผู้ชายหน้าเคร่งที่กำลังหึงจัดก็เท่านั้น
แม้ใจหนึ่งผมจะสงสารลูกชายแต่เชื่อว่าหลี่ผิงย่อมไม่ได้รับอันตรายใดๆแน่ เมื่อยังมีชายหนุ่มที่ชื่อธัชดนัยคนนั้นปกป้อง เพราะแค่ได้เจอและพูดคุยกันไม่นานผมก็รู้แล้วว่า ‘คนรัก’ ของหยางตี้หลงนั้นเป็นคนจิตใจดี แถมชายหนุ่มรุ่นน้องปากดีที่ข่มขู่ผมอยู่นั้น เค้ารักและเกรงใจธัชดนัยหนุ่มหน้าตี๋คนนั้นมาก แม้ตี้หลงจะเป็นถึงรองหัวหน้าแก๊งหยางหลงเหยียนก็คงต้องยอมลงให้อยู่ดี ผมจึงเลือกที่จะยืนเฉยๆดูคู่รักเค้าหึงหวงใส่กัน
คุณๆคงนึกสงสัยแล้วใช่มั้ย ว่าผมเป็นใคร มาทำอะไรอยู่ที่นี่ และทำไมถึงทำให้นายน้อยแห่งหยางหลงเหยียนเดือดร้อนใจได้ขนาดนั้น ขอแนะนำตัวเลยแล้วกัน ผม ‘หวางหลี่จวิน’ อายุยี่สิบแปดปี เป็นหัวหน้าแก๊งหวางหย่งกังที่เป็นแก๊งมาเฟียอันดับหนึ่งของเกาะฮ่องกง ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคู่แข่งแก๊งหยางหลงเหยียนกลายๆ ด้วยเกิดจากความขัดแย้งตั้งแต่รุ่นพ่อนั่นแหละครับ และผมนั้นมีสถานะเป็นพ่อม่ายเรือพ่วงมีลูกชายหญิงฝาแฝดสองคนเป็น ‘แก้วตา’ ชื่อหวางหลี่ผิงและหวางเหมยอิง โดยที่มามาของทั้งคู่จากพวกเราไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว ทำให้ผมต้องรับหน้าที่เลี้ยงลูกทั้งสองด้วยตัวเอง
ส่วนวันนี้ผมไม่ได้ต้องการมาหาเรื่องแก๊งหยางหลงเหยียน และไม่ต้องการมีเรื่องกับใครสักนิด แต่ที่มาที่นี่ด้วยผมตั้งใจว่าอยากจะพาลูกๆมาเที่ยวสวนสนุกหลังจากที่เพิ่งว่างจากงานในแก๊ง และที่ผมเลือกสวนสนุกในคาสิโนของแก๊งหยางหลงเหยียนนั้น ผมมีสองเหตุผลด้วยกันซึ่งเหตุผลแรกนั้นคือสวนสนุกแห่งนี้เพิ่งเปิดใหม่และกำลังเป็นที่นิยม จึงอยากให้ลูกๆได้มาเปิดหูเปิดตาพบเจอคนเยอะๆบ้าง ส่วนอีกเหตุผลนั้นคือผมก็แค่ ‘หวัง’ หวังว่าจะได้เจอ ‘ดวงใจ’ ของผม คนที่อยู่ในใจของผมมาตลอดยี่สิบปี และวันนี้พระเจ้าคงเห็นใจผู้ชายที่มีรักฝังใจอย่างผมแล้วล่ะครับ
“เฮียตี้หลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ช่วยบอกผมทีว่าผมไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ยครับ ที่เบื้องหน้าผมปรากฏร่างของหนุ่มน้อยหน้าหวานร่างระหงผู้มีผิวขาวจัด คนที่ผมหวังว่าจะได้เจอมาตลอด ผมถึงกับเผลอหลุดปากเรียกเจ้าของร่างนั้นออกมา
“หงส์น้อย” เจ้าของสรรพนามที่ผมใช้เรียกแทนชื่อจริงนั้นชะงักนิด และหันมามองผมด้วยแววตาวูบไหวเหมือนตกใจ ก่อนแววตาคู่สวยจะเปลี่ยนมาเรียบสนิทอย่างน่าเสียดาย หงส์น้อยแสนสวยของผมไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลยสักนิด แม้หยางเฟิงหวงจะดูเย็นชาแต่ผมก็รู้ว่านั่นก็แค่เปลือก ที่น้องสร้างขึ้นมากันผมและเอาไว้ใช้หลอกใจตัวเอง
ผมจับจ้องทุกกิริยาของหงส์น้อยตั้งแต่น้องเข้ามาอยู่ในกรอบสายตา จนกระทั่งคนร่างบางมายืนตรงหน้าโดยมีหลี่ผิงอยู่ในอ้อมกอด ด้วยเฟิงหวงต้องทำตามคำสั่งพี่ชายขี้หึงที่ให้น้องอุ้มหลี่ผิงมาส่งคืนผม แต่ผมก็ยังยืนนิ่งไม่ยอมรับลูกชายที่ถูกยื่นมาให้ตรงหน้า เพราะยังอยากสำรวจพ่อหงส์น้อยใกล้ๆแบบนี้ต่ออีกสักนิด แม้เฟิงหวงจะเริ่มหน้าตึงแล้วก็ตาม แต่กลับทำให้ผมอารมณ์ดีที่ได้เห็นคนที่ใครๆก็เรียกว่าเจ้าชายน้ำแข็งทำสีหน้าอื่นบ้าง นอกจากหน้านิ่งๆที่เจ้าตัวชอบทำนัก แต่ในที่สุดผมก็ต้องรับหลี่ผิงที่ขนตาเปียกชื้นเข้าสู่อ้อมกอดอีกคน เมื่อแฝดน้องเหมยอิงรบเร้าผมด้วยน้ำเสียงเล็กๆว่าอยากกอดปลอบพี่ชายแล้ว
ระหว่างที่ผมรับลูกชายคืนจากคนหน้าสวยก็แอบแตะแขนเจ้าตัว และทำเนียนไม่รู้เรื่องเมื่อเฟิงหวงฮึดฮัดถลึงตาเข้าใส่ ใจจริงแล้วผมนั้นอยากรวบกอดว่าที่มามาของลูกๆเข้าสู่อ้อมกอดรวมกับลูกๆด้วยซ้ำ แต่ของแบบนี้ย่อมต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะผมเคยทำพ่อหงส์ขาวตัวนี้เสียใจมาแล้ว ซึ่งมันคงถึงเวลาแล้วที่ผมต้องปรับความเข้าใจ และเปิดเผยความในใจที่เก็บไว้มาตลอดให้หยางเฟิงหวงคนนี้รับรู้สักที
“ครั้งนี้ผมต้องขอบคุณเฮียหวางที่มาเยี่ยมเยียน แต่ครั้งหน้าผมว่าแจ้งเข้ามาสักนิดจะดีกว่า ทางเราจะได้ต้อนรับให้อย่างสมเกียรติ” เสียงห้าวดังขึ้นทันทีที่เฟิงหวงเดินกลับไปยืนข้างๆ แม้คนที่พูดจะหน้าเครียดใช้น้ำเสียงดุดันแกมออกคำสั่งกับผม แต่ฝ่ามือของตี้หลงยังคงเกาะกุมคนสำคัญไม่ปล่อย ผมเห็นคนที่ตัวเองถือว่าเป็นน้องชายคนหนึ่งมีอาการแบบนี้แล้วก็ไม่คิดจะถือสา และให้นึกสนุกจึงอดยิ้มออกมาไม่ได้ แต่ก็ขอแหย่พ่อมังกรหนุ่มใจร้อนอีกหน่อยเถอะครับ
“แค่นี้ตระกูลหวางของเราก็ได้รับเกียรติมากแล้ว ที่มี ‘คนสำคัญ’......อย่างนายน้อยทั้งสองของตระกูลหยางมาต้อนรับ แต่อยากให้รับรู้ไว้ว่าการมาครั้งนี้ของเฮียไม่ได้ต้องการมาหาเรื่องอะไร ก็แค่หวังว่าอาจจะได้เจอ ‘คนคุ้นเคย’ และก็สมหวังจริงๆ” ผมได้ข่าวลับๆมาตั้งแต่ก่อนมาแล้วครับว่าหยางตี้หลงมี ‘คนสำคัญ’ ตามมาจากเมืองไทย เพราะผมนั้นคอยตามข่าวครอบครัวนี้อยู่ตลอด แต่ไม่ใช่การตามติดเพื่อฉกฉวยผลประโยชน์ หรือรอจังหวะเล่นงานอะไรนะ ผมก็แค่อยากรู้ความเป็นไปของสองหนุ่มพี่น้องที่ผมหวังดีด้วยก็เท่านั้น
ผมไม่รู้หรอกว่าคนสำคัญของตี้หลงเป็นใคร และไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชายหน้าตี๋คนนี้ด้วยซ้ำ จนกระทั่งมาเจอผู้ชายไทยที่มีคนของตระกูลหยางอารักขาไม่ห่าง เมื่อแรกเจอจึงอดแปลกใจไม่ได้ว่าตี้หลงมีคนรักเป็นผู้ชาย แต่เมื่อได้พูดคุยจึงเข้าใจว่าทำไมมังกรหนุ่มตัวนี้ถึงเลือกผู้ชายที่ชื่อธัชดนัยคนนั้น ขณะนี้ตี้หลงที่โดนผมแหย่ถึงกับควันออกหูหน้าบึ้งจัด ดูท่าธัชดนัยคนนี้จะมีความสำคัญตามที่ผมพูดแหย่ไปไม่น้อย
ส่วน ‘คนคุ้นเคย’ ที่ผมกำลังจับจ้องก็ยังทำหน้าไร้อารมณ์ตามเดิม แต่ไม่ว่ายังไงหงส์ขาวตัวนี้ก็ยังดูดีสำหรับผมเสมอ ด้วยรู้ดีว่ายามเฟิงหวงแย้มยิ้มนั้น มันสามารถทำให้โลกมืดๆของผมสว่างไสวได้ขึ้นทันตา แถมรอยยิ้มนั้นก็คงมีเพียงผมเท่านั้นที่เคยครอบครอง และจะไม่มีใครได้เจ้าของรอยยิ้มนี้ไปครองแน่ ถ้ายังมีผม ‘หวางหลี่จวิน’ คนนี้อยู่! และผมคงต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองให้หนุ่มหน้าสวยได้เข้าใจกับสิ่งที่ผ่านมาที่ผมได้ทำลงไป
แต่ตอนนี้ผมคงต้องตัดใจจากพ่อหงส์น้อยก่อน ด้วยถึงเวลาพาลูกๆกลับแล้วล่ะครับ ผมจึงให้แก้วตาทั้งคู่เอ่ยลาผู้ใหญ่ทั้งสามคนตรงหน้า แต่ใจก็อดไม่ได้จริงๆที่จะทอดมองพ่อหงส์ขาวของผม ส่วนน้องก็ยังรักษามาดเจ้าชายน้ำแข็งได้ดีไม่มีตก จนผมอยากกระชากตัวมาบดจูบลงโทษบนปากสีสดให้ได้โวยวาย เพราะอยากกระชากเกราะเย็นชานั้นออกนัก แต่ผมก็ได้แค่คิดก่อนระบายยิ้มอ่อนหวานให้ยอดดวงใจของผมไปหนึ่งที และจูงลูกชายหญิงของผมจากมา
เมื่อพวกเราขึ้นมานั่งบนรถกันแล้ว โดยที่ผมมีลูกสาวที่น่ารักอย่างกับตุ๊กตาญี่ปุ่นนั่งบนตัก และมีพ่อลูกชายรูปหล่อหน้าบึ้งนั่งอยู่เคียงข้าง ซึ่งลูกมังกรตัวแสบดันทำหน้าได้ไม่ต่างจากมังกรดินที่เราเพิ่งจากมานัก ด้วยหลี่ผิงนั้นกอดอกฉับทั้งๆที่ใบหน้ายังบึ้งตึง และมีแววตาครุ่นคิดผิดเด็กวัยเดียวกัน จนผมอดอมยิ้มเอ็นดูในท่าทางเกินเด็กของลูกชายไม่ได้ และภาพพี่ชายหน้าบูดก็สามารถเรียกสายตาจากน้องสาวฝาแฝดของเจ้าตัวให้จับจ้อง เหมยอิงจ้องพี่ชายตาโตก่อนเงยหน้าเอียงหัวมองผมด้วยความสงสัย จนผมต้องโน้มตัวลงฟัดแก้มขาวๆด้วยความมันเขี้ยว ก่อนกลั้วหัวเราะออกมาเบาๆให้กับหน้ามู่ทู่ของเหมยอิง ที่เจ้าตัวคิดว่าผมแกล้งเอาไรหนวดไปถูแก้มใสให้จั๊กจี้เล่น และยอมเอ่ยปากถามพ่อลูกชายตัวดีก่อนซะเอง ด้วยอยากรู้ว่าหลี่ผิงกำลังคิดอะไร ถึงมีท่าทางเคร่งเครียดอย่างกับผู้ใหญ่คิดไม่ตกอยู่แบบนั้น ส่วนคำตอบของพ่อลูกชายก็ทำผมหลุดขำออกมาลั่นรถเลยทีเดียว
“ปาปา หลี่ผิงกำลังคิดหาวิธีแย่งธัชชี่มาจากอาตี้หลงยังไงล่ะ อย่าเพิ่งกวนสิ” ฟังพ่อลูกชายตัวน้อยของผมพูดสิครับ ดูท่าจะถูกใจคนของตี้หลงเข้าแล้วจริงๆ หลี่ผิงไม่เคยติดใครง่ายแบบนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย ผมที่กำลังขำจนแทบหมดแรงก็ต้องหันมามองตามมือน้อยๆของเจ้าหญิงน้อยที่แตะเข้าที่แก้ม
“ปาปาคะ มิสเตอร์ธัชชี่ก็ดูใจดีนะ แต่เหมยอิงชอบอาเฟิงหวงมากกว่า อาเฟิงหวงสวยมากเลย ปาปาล่ะชอบใครมากกว่ากัน” ผมคลี่ยิ้มเต็มหน้ามองเจ้าของตาแป๋วทั้งสองคู่ที่จ้องมายังผมอย่างรอคอยคำตอบ และใจจริงนั้นอยากจะตอบเหมยอิงออกไป แบบไม่ต้องคิดเลยว่าผมชอบใครมากกว่ากัน แต่เดี๋ยวจะเป็นการเปิดศึกของสองลูกตัวน้อยของผมซะก่อน ด้วยคิดว่าผมลำเอียงเข้าข้างลูกสาวมากกว่าลูกชาย แต่ผมที่ยังไม่รู้จะตอบยังไง พ่อลูกชายตัวแสบก็เอ่ยปากแซงหน้าซะอย่างนั้น
“ปาปาอย่ามาชอบธัชชี่อีกคนนะ ถ้าแค่อาตี้หลงคนเดียวหลี่ผิงเอาอยู่” นี่ถ้ามีใครมาเล่าว่าหลี่ผิงเป็นคนพูดประโยคนี้ผมคงไม่เชื่อ แต่นี่ได้ยินเองกับหูไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะครับว่าเป็นคำพูดของลูกชายผม ดูท่ามังกรดินจะมีคู่แข่งที่น่ากลัวซะแล้วล่ะครับ ถ้าหลี่ผิงจะเกิดเร็วกว่านี้สักยี่สิบปี! ซึ่งคำพูดของหลี่ผิงกลับทำให้ผมหาทางของตัวเองเจอ และใช้โอกาสนี้สอบถามความรู้สึกของลูกๆซะเลย แม้ลูกฝาแฝดของผมจะอายุเพียงสี่ขวบ ผมก็ยังอยากได้ความเห็นชอบของลูกๆในการเลือกมามาคนใหม่ของพวกแก
“และถ้า....ปาปาชอบอาเฟิงหวงล่ะ หลี่ผิงกับเหมยอิงจะว่ายังไง.....[คิกๆ ปาปาชอบอาเฟิงหวงเหมือนเหมยอิงเลย ดีใจจัง / หลี่ผิงว่าแล้วเชียว]....ฮึๆ” ขั้นแรกดูเหมือนจะราบรื่นนะครับเนี่ย เพราะสองฝาแฝดยิ้มแย้มอารมณ์ดีใหญ่เชียว ไหนลองขั้นต่อไปสิว่าลูกๆจะว่ายังไง แต่ผมก็แอบภาวนาเล็กๆนะว่าขอให้ลูกๆเห็นใจปาปาคนนี้ เพื่อให้เดินหน้าจีบมามาคนใหม่ของลูกได้อย่างเต็มตัวสักที
“แล้วถ้า.....ปาปาจะให้อาเฟิงหวงมาเป็นมามาคนใหม่ของหลี่ผิงและเหมยอิงล่ะ ลูกๆจะว่ายังไงครับ” เชื่อมั้ยว่าขนาดผมพาลูกน้องถล่มแก๊งอื่นยังไม่เครียดเท่าเวลานี้ ที่กำลังรอคำตอบจากปากลูกๆเลยนะครับ เพราะหลังจากคำถามของผมแล้ว ลูกแฝดของผมก็เงียบไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด นานจนผมแทบถอดใจและคิดไปไกลว่าคงต้องค่อยๆเกลี้ยกล่อมเด็กๆทีหลังแล้วล่ะ ด้วยผมคงไม่ยกเลิกภารกิจที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของผมกับหงส์น้อยหรอกครับ และก็ไม่สามารถฝืนใจทำลายแก้วตาดวงน้อยๆทั้งสองได้ด้วย แต่ทันใดนั้นผมก็ต้องตกใจเมื่อเหมยอิงรั้งคอผมลง และหอมแก้มผมระรัวอย่างกระตือรือร้น ซึ่งคำตอบของลูกสาวคนสวยก็ทำให้ผมดีใจยิ้มแก้มแตกทีเดียว
“เหมยอิงชอบอาเฟิงหวงคนสวย อยากได้คุณอามาเป็นมามาคนใหม่ค่ะ เพราะไม่มีเพื่อนคนไหนที่จะมีมามาสวยเท่าอาเฟิงหวงเลย เนอะหลี่ผิงเนอะ” ผมโล่งใจเป็นที่สุดที่ลูกสาวคนสวยเห็นด้วย แถมยังพยักหน้าให้คุณพี่ชายที่ยังนั่งวางมาดกอดอกสมเป็นนายน้อยแห่งหวางหย่งกังไม่มีผิด
“ใช่ครับ อาเฟิงหวงสวยและเหมาะสมที่จะเป็นมามาคนใหม่ของเรา ส่วนธัชชี่ใจดีเหมาะมาเป็นแฟนหลี่ผิงที่สุด เนอะเหมยอิงเนอะ” พ่อลูกชายตัวน้อยอมยิ้มและยักคิ้วใส่น้องสาวด้วยท่าทางกวนๆ ส่วนคนน้องก็พยักหน้าแรงๆจนผมกลัวว่าลูกสาวจะคอเคล็ดซะด้วยซ้ำ แต่ทั้งคำพูดและท่าทางของลูกๆทำให้ผมเบาใจปะปนกับความดีใจ ที่เห็นว่าลูกๆไม่คิดจะขัดถ้าผมต้องหามามาคนใหม่ให้ลูก ทีนี้ก็คงเหลือแต่ว่าที่นายหญิงแห่งหวางหย่งกังแล้วล่ะครับ ว่าจะยอมเข้าใจและเห็นใจหัวหน้าแก๊งอย่างผมเมื่อไหร่
ผมโอบกอดแก้วตาทั้งคู่เข้าสู่อ้อมกอดและภูมิใจในตัวเองไม่น้อย ที่สามารถเลี้ยงลูกฝาแฝดชายหญิงให้ออกมาน่ารักสมใจ แม้ผมจะเลี้ยงพวกแกมาเองโดยลำพัง ตั้งแต่แม่ของลูกจากไปเมื่อสี่ปีก่อนก็ตาม ถึงเราจะมีกันสามคนพ่อลูกแต่ผมเชื่อนะว่าลูกของผมไม่ขาดอะไร โดยเฉพาะความรักของพ่ออย่างผม ด้วยประสบการณ์อันเลวร้ายในวัยเด็กที่ผมมี ผมจึงไม่อยากให้ลูกๆรู้สึกแบบเดียวกับผม ความรู้สึกที่ไม่เป็นที่ต้องการของคนเป็นแม่......
*
*
*
ยี่สิบปีก่อน“แกจะเกิดมาทำไม! เพราะแกเลยฉันถึงต้องมาตกนรกอยู่แบบนี้...พลัก / โอ๊ย!” ความเจ็บที่หัวแล่นปราดไปทั่วร่างเมื่อผมถูกแม่แท้ๆผลักล้มจนหัวชนเข้ากับขอบโต๊ะ จนผมต้องร้องออกมาทั้งๆที่ตลอดเวลาผมสามารถกักเก็บความเจ็บปวดไว้ได้ตลอด ก่อนจะมีฝ่ามืออุ่นเข้ามาช่วยพยุงผมขึ้น แต่มันไม่ได้ทำให้ใจที่หนาวเหน็บของผมอุ่นตามฝ่ามือคู่นี้สักนิด เมื่อเสียงตะคอกที่ดังตามมาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของผม และเป็นสามีของผู้หญิงที่ยืนโงนเงนมีกลิ่นเหล้าอยู่ตรงหน้า
“อี้เหนียง! เธอทำอะไรลูกน่ะ หา! หลี่จวินไม่เป็นอะไรนะ...อาคัง อาคัง! มาเอาตัวนายน้อยไป”
“อี้เหนียงเธอเป็นบ้าอะไร ถึงทำร้ายลูกชายตัวเองได้ นี่ถ้าฉันไม่มาเห็น หลี่จวินจะเป็นยังไง โว้ยยย จะร้องให้มันได้อะไรขึ้นมา.......โฮๆๆๆๆ”
“นายน้อยครับไปเถอะครับ เดี๋ยวอาคังทำแผลที่หัวให้นะ” ภาพและเสียงของคนที่เป็นปาปาและมามาของผมนั้น ถูกเจ้าของน้ำเสียงอ่อนโยนที่ดังข้างตัวพรากออกไป ด้วยการที่อาคังพาผมที่กำลังปวดหัวตุบๆเดินจากมา ในขณะที่หูยังได้ยินแว่วๆถึงเสียงร้องไห้ของมามา
อาคังพ่อบ้านตระกูลหวางนั่งทำแผลที่หัวให้ผมเงียบๆด้วยแววตาสงสารจับใจ แม้ผมยังเป็นเด็กแค่แปดขวบแต่ผมก็ไม่ต้องการได้รับความเห็นใจจากใครทั้งสิ้น คงเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของเด็กที่ถูกวางตัวและถูกฝึกให้เป็นนายใหญ่ของแก๊งหวางหย่งกังในอนาคต ผมจึงสามารถนั่งนิ่งๆและไม่มีแม้แต่น้ำตาแสดงถึงความเสียใจในอกให้คนที่เป็นพ่อบ้านได้เห็น จวบจนกระทั่งการทำแผลจบลงผมก็ยังนั่งนิ่ง และทำเพียงมองตรงไปยังสวนกว้างเบื้องหน้า ก่อนพ่อบ้านใหญ่จะถอนใจแผ่วเบาและเอ่ยปากขอตัวไปจัดการภารกิจของตัวเอง
เมื่อผมได้อยู่คนเดียวน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลออกมาอย่างเงียบๆให้สมกับความเสียใจที่มี และสำนึกของเด็กแปดขวบอย่างผม ก็เฝ้าแต่คิดถึงถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจดวงน้อยๆจากผู้เป็นแม่ ที่แสดงออกชัดว่าไม่ต้องการลูกตัวเอง เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มันเกิดกับผมมาตลอดตั้งแต่จำความได้ และทำให้ผมรู้ตัวว่ามามาไม่ได้รักลูกชายเพียงคนเดียวที่ท่านให้กำเนิดสักนิด เพียงแต่ครั้งนี้หนักหน่อยที่มามากำลังเมาจนเผลอตัวผลักผมล้มลง เมื่อผมขัดใจท่านไม่ยอมไปหยิบเหล้าขวดใหม่มาให้นั่นเอง
ส่วนปาปาที่มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าแก๊งที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง ท่านรักผมสมกับที่ผมเป็นลูกชายคนเดียวของท่านเสมอมา แม้จะไม่ค่อยมีเวลาให้ก็ตาม แต่ผมก็ยังรับรู้ถึงความรักของท่านได้ ซึ่งพฤติกรรมของปาปาที่มีต่อมามานั้นท่านกลับมีทีท่าเฉยชา ด้วยไม่เคยแสดงออกว่าท่านรักคู่ชีวิตให้ผมได้เห็นเลย และคงเป็นเหตุผลหลักที่มามาเกลียดผมก็เป็นได้ ที่ผมไปแย่งความรักของปาปามาจากท่าน ซึ่งนั่นเป็นเพียงเหตุผลที่เด็กแปดขวบคิดได้ แต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่ผมถึงได้รู้เหตุผลแท้จริงทั้งหมด
ผมนั่งเหม่อลอยจนน้ำตาแห้งเหือดไปเอง และอยู่ๆผมก็คิดขึ้นมาแบบเด็กๆว่าถ้าได้ออกไปพ้นกำแพงรั้วสูงเหยียดฟ้าตรงหน้านี้ ผมจะรู้สึกดีแค่ไหนกัน อยากออกไปดูรอบๆบ้านบ้างว่ามีอะไรน่าสนใจ ด้วยไม่อยากคิดถึงผู้ใหญ่อีกสองคนในบ้าน ที่ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะทะเลาะเสียงดังใส่กันไปถึงไหนแล้ว หรือบางทีการออกนอกบ้านครั้งนี้ผมอาจจะได้ดอกไม้สักช่อกลับมาฝากมามา ทำให้ท่านได้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้างก็เป็นได้ ซึ่งผมไม่ได้รู้เลยว่าการออกจากบ้านครั้งนั้นจะทำให้ผมได้พบใครบางคน คนที่ทำให้ผมจำได้อย่างไม่มีวันลืม
..................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ตอนแรกเฮียหลี่มาเองเลยค่ะ ถ้าใครเคยอ่านบ่วงรักพญามังกร
คงพอจำเหตุการณ์นี้ได้นะคะ ซึ่งคงได้รู้แล้วว่าเฮียหลี่คิดอย่างไร
อดีตจะค่อยๆเผยให้รู้พร้อมการดำเนินเรื่องปัจจุบันนะคะ
ตอนหน้าเราจะได้รู้กันว่าเมื่อเด็กชายหลี่จวินออกจากบ้าน
จะไปพบกับอะไรหรือใครบ้าง!? รู้คำตอบได้ในวันอาทิตย์ค่ะ
ดีใจจังค่ะได้เปิดเรื่องใหม่อีกเรื่องแล้ว
ฝากบ่วงหงส์ที่เป็นความรักของหลี่จวินและเฟิงหวงด้วยนะคะ
ปล.สำหรับนักอ่านหน้าใหม่ ถ้าอยากรู้เหตุการณ์เดียวกันนี้ในอีกแง่มุม
ติดตามได้ตามลิ้งค์นี้ที่อยู่ในเรื่อง ‘บ่วงรักพญามังกร’ ได้นะคะ
• ตอนที่ 23 "เสือสิ้นลาย"ปล.2 วันเสาร์นี้อย่าลืมแวะไปอ่านตอนพิเศษของธัชชี้กะตี้หลงนะคะ