ตอนพิเศษ ปีใหม่
“พี่ฟ้า ตื่น”
“หืม กี่โมงแล้ว?”
“เจ็ดครึ่งครับ ต้องเข้าบริษัทไม่ใช่หรอ?”
ตั้งแต่รับตำแหน่งประธานบริษัทคนใหม่ งานก็เยอะทวีคูณ ทั้งงานที่ต้องเรียนรู้ ประชุม ดูแลลูกน้อง วางระบบใหม่ ปีนี้ฟ้าลั่นทำงานหนักทั้งปี ขนาดวันสิ้นปีแบบนี้ยังต้องเข้าไปเคลียร์งาน
“เชอยังไม่ได้นอนหรอ”
ดึงแขนคนน้องที่นั่งข้างเตียงเข้ามากอด แสงแดดอ่อนๆยามเช้าทำให้เห็นใต้ตาคล้ำกับหน้าซีดๆของเชอเบทชัดเจน สงสัยไม่ได้นอนอีกแล้ว
“อื้อ… แต่เชอมาปลุกพี่ฟ้าไปทำงานก่อน เชอรอกินข้าวด้วยกันก็จะนอนแล้วครับ”
เชอเบทกับการแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์แอคชั่นเรื่องใหม่ที่ค่ายใหญ่ของอเมริกาทุ่มงบหนักมาก งานจึงต้องดีมากด้วยเช่นกัน แก้มาสองอาทิตย์ก็ยังไม่เสร็จ
“งั้นพี่รีบอาบน้ำดีกว่า เชอจะได้นอนไวๆ แต่ขอพี่กอดก่อนนะ…ไม่ได้นอนพร้อมกันสองอาทิตย์แล้ว”
แขนหนาโอบเอวผอมบางแน่น ปลายจมูกจรดลงที่กลุ่มผมยาว แม้จะมันแผลบหน่อยๆเพราะมัวแต่โหมงาน เขาก็ยังรักของเขาอยู่ดี
“พี่ฟ้าก็ต้องพักผ่อนนะครับ…หน้าโทรมตามเชอแล้วเนี่ย”
จมูกถูไถกับแผ่นอกกว้างอ้อนๆ ตอนนี้ค่าสายตาฟ้าลั่นสั้นลงกว่าเดิมนิดหน่อยแล้ว รอยหยักลึกตรงหว่างคิ้วก็ชัดเจนขึ้น ทุกคืนต้องหอบแฟ้มงานมานั่งทำจนดึก
“พี่แก่ลงเยอะเลย”
“ตาลุงแก่ๆของเชอ”
เงยหน้าขึ้นไปจูบคางสากเบาๆเอาใจ สามปีมานี้ฟ้าลั่นดูโตขึ้นเยอะ เปลี่ยนจากนักศึกษามาดเนี้ยบมาเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง
“ห้ามไปรักคนอื่นนะ ไอ้พวกหน้าเอ๊าะๆมันไม่รวยเท่าพี่หรอก พี่รวยที่สุดแล้ว”
ขำก๊ากกับความสายเปย์
“หน้าสู้ไม่ได้เลยเอาเงินฟาด?”
“อย่างอื่นก็ฟาดด้วย…”
“ทะลึ่งละลุง ไปอาบน้ำเร็ว”
“เดี๋ยวก่อน…ขอกอดอีหนูก่อน”
“กอดมากคิดตังค์”
หัวเราะขำๆกับคนจะคิดตังค์ แต่ดันทำเสียงงุ้งงิ้งไม่ยอมลุกออกไป ก็อยากกอดเหมือนกันล่ะน่า…สองอาทิตย์แล้วไม่ได้นอนกอดกันเลย
ตอนนี้ห้องดูทีวีทำการบ้านของเชอเบทถูกเปลี่ยนเป็นห้องทำงานของฟ้าลั่นเต็มตัว เพราะเชอเบทไม่คิดจะทำงานในสายสถาปัตย์ที่ตัวเองเรียนจบมาเลย โต๊ะเขียนแบบก็ยกให้รุ่นน้องไป หนังสือหนังหาที่ซื้อมาอันไหนแจกได้ก็แจก แล้วก็ไปยัดใส่ตู้หนังสือบริษัทฟ้าลั่นเผื่อสถาปนิกคนอื่นๆอยากได้ไอเดีย
“เชอซื้อน้ำส้มมาใส่เพิ่มแล้วนะพี่ฟ้าเอาป้ะ? หรือเอาฝรั่ง”
“ส้มก็ได้”
วิวัฒนาการอันแสนภาคภูมิใจคือเชอเบทซื้อของเข้าบ้านเป็นแล้ว จากการปลูกฝังพาไปเดินซื้อมาตลอดตอนนี้ก็เลือกเนื้อเลือกผักเลือกของกินที่ถูกหลักอนามัยได้ด้วยตัวเอง
ตอนนี้บางวันเลยได้เห็นคนผมยามมัดผมยุ่งๆมาเตรียมอาหารเช้าบ้างแล้ว เชอเบทในชุดผ้ากันเปื้อนสีฟ้าสดใสน่ารักจะตาย… ยิ่งตอนมีแต่ผ้ากันเปื้อนผืนเดียวบนตัว
คิดแล้วกระชุ่มกระชวย…เหมือนลุงแก่ๆจะได้ลวนลามเด็ก
“พี่ฟ้า ข้าวต้มได้แล้วครับ”
ตักข้าวต้มกุ้งมาวางตรงหน้าคนพี่ ตอนนี้ทำข้าวต้มเป็นแล้วและพยายามจะทำทุกวันเปลี่ยนเมนูไปเพราะพี่ฟ้าต้องทำงานนอกบ้านทุกวัน ออกจากบ้านแต่เช้า จะให้มาทำงานบ้านเหนื่อยๆอีกก็เห็นใจ
ทำเองก็ได้… รสชาติจะดีจะแย่พี่ฟ้าก็กินหมดอยู่ดี แต่สักพักก็ตั้งใจทำทุกวันเพราะอยากให้คนพี่ได้กินของดีๆมากกว่าของรสชาติห่วยๆอะนะ
“ติดกระดุมให้พี่หน่อย”
กระดุมข้อมือที่ต้องติดให้กันทุกวัน เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของฟ้าลั่น…เพราะต้องบังคับให้มานั่งตักปล่อยให้คนพี่ลวนลามระหว่างติดกระดุม
ผู้ชายตัวสูงร้อยแปดสิบกว่าๆทั้งคู่มานั่งตักกันนี่ตลกมากนะ แต่ฟ้าลั่นก็ยังชื่นชอบก็เลยปล่อยเลยตามเลย สงสัยบทลุงแก่ๆพี่ฟ้าจะชอบจริงๆ ชอบทำมาโอบเอว ลูบเอว ล้วงนั่น จับนี่ให้จักจี้ยามเช้า ก่อนจะจบลงด้วยจูบเบาๆก่อนกินข้าว
“จะใส่เนคไทปะ? หรือคลุมสูทเฉยๆ?”
“คลุมเฉยๆดีกว่า วันนี้แค่เข้าไปเคลียงาน”
“โอเคครับ”
ลุกจากตักไปหยิบสูทในห้องนอนออกมาวางพาดเก้าอี้ ไปตักข้าวต้มอีกชามมานั่งกินด้วยกัน ตาเรียวมองใบหน้าคมที่คร้ามขึ้นทุกวัน…กินข้าวด้วยกันมาจะห้าปีแล้วนะ
“แอบมองอะไร?”
“มองแฟนนนนนน”
ยิ้มแป้นแล้นกวนประสาทเต็มที่ เดี๋ยวนี้ไม่เขินแล้วจะเรียกกันว่าแฟน ไม่เหมือนแรกๆที่ไม่อยากจะยอมรับเลย…
“มองมากระวังโดนฟาดปากด้วยจูบ”
“ไม่เป็นไร ชอบ ฮ่าๆ”
กินข้าวเรียบร้อยก็ต้องจูงมือกันมาส่งถึงรถ ตอนนี้ฟ้าลั่นออกอีโค่คาร์มาขับแทนเจ็ดที่นั่งแล้ว เพราะสะดวกกว่าและประหยัดน้ำมัน เคยถามว่าอยากซื้อพวกรถยุโรปหรือสัญชาตินอกแพงๆไหมคนพี่ก็ส่ายหน้า บริษัทก็ไม่ได้ไกลบ้าน ต่างจังหวัดก็ขับเจ็ดที่นั่งคันเดิม ไปตลาดบางทีก็เอาบิ๊กไบค์คันเก่ามาขับ
เรียกว่า…พอดีแล้วล่ะมั้ง
“ขับรถดีๆนะครับ ตอนเย็นกลับมากินข้าวนะ”
“นอนพักเยอะๆล่ะ ห้ามซน โอเค?”
“คร้าบบบบ”
ย่อตัวลงหอมแก้มสากของคนในรถซ้ายขวา และถอยออกมายืนโบกมือให้ฟ้าลั่นขับรถออกไปทำงาน มองจนรถหายไปจากครรลองสายตาก็กลับเข้าไปนอน
เชอเบทตื่นมาอีกทีบ่ายแก่ๆ มองนาฬิกาดิจิตอลหัวเตียงที่บอกวันที่สามสิบเอ็ดแล้วรู้สึกขี้เกียจขึ้นมาครามครัน ช่วงเทศกาลแบบนี้ฟ้าลั่นกับเขาไม่ค่อยชอบออกไปไหน ถ้าอยากฉลองอย่างมากก็ร้านนั่งกิน จิบเบียร์ฟังเพลงชิวๆแถวบ้าน ไม่คิดจะออกไปเบียดเสียดกับใครที่ไหน
มือซีดหยิบมือถือมาเชคข้อความ ตอนนี้เพื่อนแยกย้ายกันไปตามทาง ปริ๊นซ์กับเกียร์ไปทำงานที่บริษัทแถวภาคเหนือเพราะปริ๊นซ์เบื่อกรุงเทพ ส่วนต้าเลือกไปเรียนต่อ
ส่งไลน์ไปสุขสันต์วันปีใหม่ที่กำลังจะเข้ามาก็เปิดแชทคนพี่ที่ไลน์มาสักพักว่าให้อาบน้ำ จะพาไปกินข้าวนอกบ้าน ร้านที่จะไปกินก็สวนอาหารแถวบ้านนี่ล่ะ
สงกรานต์ วาเลนไทน์ เข้าพรรษาก็ไปร้านนี้ บรรยากาศดี ไม่ไกล อาหารอร่อยไม่มากแต่มีดนตรีสดและเบียร์สดก็ถือว่าใช้ได้
เชอเบทอาบน้ำมาใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์สีดำ เขายังคงแต่งตัวเหมือนเดิม เรียกว่าเข้าร้านเสื้อก็เหมาเสื้อยืดสีขาวมาทั้งแถบได้เลย แต่งตัวเสร็จก็หยิบเสื้อโปโลสีดำกับกางเกงยีนส์สีเดียวกันมาวางบนเตียง รอฟ้าลั่นกลับมาอาบน้ำ
เป็นอันรู้กันว่าฟ้าลั่นเลิกใส่เสื้อเชิ้ตไปเที่ยวแล้วเพราะชอบเหลือเกินกับการปลดกระดุมโชว์กล้ามหน้าอกสีแทนให้สาวๆหนุ่มๆอยากเข้ามาซบเป็นอันไม่ผ่านมติครอบครัว เสื้อโปโลไปซะ เซ็กซี่สุดก็แค่เห็นอกนิดหน่อย ล้วงไม่ได้ มองไม่ได้ จบ!
“กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป เอาขาสั้นก็พอ”
“อ้าว ไหนว่ากินข้าวนอกบ้าน?”
“นอกบ้าน…ก็จะชวนมากินตรงสนาม ทำปิ้งย่างกัน”
“แล้วก็ไม่บอกแต่แรก โธ่…”
สุดท้ายก็เข้าไปเปลี่ยนเป็นเสื้อกล้ามกับบ๊อกเซอร์สีชมพูออกมาช่วยเตรียมของ ทั้งปลาหมึก หมู กุ้ง อย่างละนิดละหน่อย แต่ที่ขาดไม่ได้คือเบียร์สองลัง ช่วงนี้ฟ้าลั่นชอบโฮกาเด้นมากก็คงจะไม่พ้นโฮกาเด้นเหมือนเดิม
การปิ้งย่างเป็นไปช้าๆ ลมเย็นๆของปีใหม่ทำให้นั่งสบาย ปกติทำปิ้งย่างต้องไปทำริมสระบ้านฟ้าลั่นแต่ช่วงนี้เชอเบทแต่งเพลงเลยต้องย้ายมาอยู่ที่นี่กัน
“เชอ…เราคบกันมากี่ปีแล้วครับ”
“จะห้า เอ้ะ หรือห้าแล้ว?”
ไม่มีใครจำวันคบกันแม่นๆ แค่ประมาณช่วงเวลากันไปตามประสาผู้ชาย
“อยู่กับพี่มีความสุขไหม?”
“มีดิ ถามทำไมเนี่ย แล้วทำไมต้องหน้าตาจริงจังด้วย”
“จำที่เปล่าข้างหลังบ้านพี่ได้ไหม?”
หยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า
“อื้อ”
“พี่ขอซื้อเขาแล้วนะ เขายอมขายแล้ว”
“พี่ฟ้าจะขยายบ้านหรอ? อ๋อ หรือที่บอกอยากทำห้องทำงาน?”
บ้านฟ้าลั่นใช้ชั้นสองเป็นห้องนอนทั้งชั้น เรียกว่าเดินขึ้นบันไดก็เจอเตียงเลย เห็นคนพี่เปรยๆว่าอยากมีห้องทำงานเป็นกิจจะลักษณะอยู่เหมือนกัน ทุกวันนี้ใช้โซฟาเป็นโต๊ะทำงาน
“อืม…ว่าจะทำเชื่อมกับสระน้ำอีกด้านไปเลย ให้เหมือน
บ้านเราเป็นทรงตัวแอลริมสระ พี่จะทำสองชั้นเหมือนเดิม มีฟิตเนสด้วย ไม่มีเวลาไปเล่นข้างนอก ทำในบ้านก็น่าจะดีกว่า”
“ก็ดีนะครับ เชอว่าก็สะดวกดี”
“แล้วเราก็ปลูกต้นไม้ด้วยดีไหม ยังไงก็ที่เหลือ ทำเป็นสวนหลังบ้านกัน?”
“ดีๆ จะได้ร่มรื่นหน่อยๆ”
“แล้วก็พี่ให้ไอ้พุกออกแบบมาให้แล้ว เชอช่วยดูหน่อยสิ”
แปลนบ้านที่คนเรียนสถาปัตย์ยังไงก็ดูออก ส่วนฟ้าลั่นถึงจะเป็นผู้บริหารบริษัทรับออกแบบครบวงจรชื่อดังแต่ก็ทำหน้าที่ด้านบริหาร ให้หุ้นส่วนอีกคนอย่างพุกดูแลด้านสถาปัตย์ไป
“โหย พี่พุกงานเนี้ยบอยู่แล้ว พี่ฟ้าก็รู้ ยิ่งแบบลอตฟ์สไตล์บ้านพี่ฟ้านะ โคตรรรรสวยยยย”
สมัยฝึกงานก็โดนเบื้องบนมีคำสั่งให้มาฝึกที่ฟาร์ลาของฟ้าลั่นนี่แหละ…แถมพี่เลี้ยงก็คุณพุกหุ้นส่วนของบริษัทมาเอง วีไอพีของจริง
“ลองดูก่อน พุกไม่ได้ใส่รายละเอียดหลายอย่าง บอกให้เชอช่วยเลือกดีกว่า”
“หือ ผมหรอ ไหนเอามาดู”
ฟ้าลั่นเดินไปหยิบแปลนขนาดย่อที่ปริ้นมาส่งให้คนน้องดู ตัวบ้านขนาดเล็กกว่าของฟ้าลั่น ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่แบ่งห้องเป็นสามล็อค แต่ทำสองชั้น…ข้างบนเว้นว่างไว้ยาวๆ ไม่มีดีเทลอะไรเลยนอกจากกำแพงที่เป็นผนังเก็บเสียง
“พี่ฟ้า…เชอว่ามันคุ้นๆ”
“ใช่…”
“เหมือนบ้านหลังนี้?”
คนน้องขมวดคิ้วงงๆ บ้านหลังนี้เขาออกแบบเองโดยการเอาสะดวกเข้าไว้ แบ่งสามล็อค มีด้านหลังที่ไม่แบ่งเพราะทำห้องทำงานทั้งแถบ เหมือนกับที่ชั้นสองในแปลนของฟ้าลั่นเปี๊ยบ
“ใช่…พี่ไม่อยากให้มีคำว่า บ้านพี่ บ้านเชอ อีกแล้ว… เปลี่ยนเป็น
บ้านเราได้ไหม? ย้ายไปอยู่ด้วยกันจริงๆนะ”
ฟ้าลั่นคุกเข่าลงข้างหน้าเชอเบท คนผมยาวเบิกตากว้างทำหน้าเลิ่กลั่ก
“เชอครับ”
“อะ เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน… ห้ามพูดนะ”
“เชอ…”
“ยะ อย่า…”
“เชอเบทของพี่ฟ้า”
ผิวซีดตอนนี้แดงแปร๊ดลงมาถึงคอ ท่าคุกเข่าแบบนี้ ดึงมือไปกุมแบบนี้ เงยหน้าสบตากันวิ๊งๆแบบนี้ มันช่างตรงกับแพทเทิร์นที่สาวๆทุกคนใฝ่ฝันใช่ไหม?
“พี่ฟ้า หยุด…”
“ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างพี่มาโดยตลอดนะครับ เชอเป็นทุกอย่างของพี่เลยรู้ใช่ไหม?”
“อื้อ…”
น้ำตาเริ่มคลอ ชีวิตนี้ไม่เคยใฝ่ฝันว่าจะต้องเป็นฝ่ายถูกขอแต่งงานแบบนี้ แต่พอมาเจอจริงๆก็ปลื้มปริ่มบอกไม่ถูก คำพูดทุกอย่างจุกอยู่ที่คอหอย เข้าใจฟีลลิ่งสาวๆที่น้ำตาซึมกระจองงอแงขึ้นมา
“พี่ก็สัญญาว่าจะดูแลเชอไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะแก่ไปด้วยกัน เป็นคุณตาสองคนในอีกหลายๆปีข้างหน้า… เราแก่ไปด้วยกันนะครับ”
“อื้อออ”
พยักหน้าหงึกๆ ปากเม้มแน่น พยายามมองคนพี่ผ่านม่านน้ำตา
“ย้ายไปอยู่บ้านเราด้วยกันนะ…นะครับ”
“อื้อออ”
มือแกร่งดึงรั้งคนงอแงลงมากอดแน่น ไม่มีคำพูดชัดเจนว่าขอแต่งงาน…แต่ทุกอย่างมันลงตัวในแบบของมันอยู่แล้ว เข้าใจได้…มั่นใจได้
“พี่รักเชอ”
“เชอรักพี่ฟ้า”
“แฟนใครร้องไห้งอแง พี่ไม่ได้ขอแต่งงานสักหน่อย”
แกล้งแซวแต่ก็หยิบผ้าเช็ดหน้าที่เตรียมไว้มาซับน้ำตาให้คนน้อง
“ก็มันดีใจอ่ะ…พี่ฟ้าชวนเชอแก่ไปด้วย เชอจะได้เห็นคุณตาฟ้าลั่นในวันที่ผมหงอกเต็มหัวใช่ไหม?”
“อื้ม…พี่อาจจะหัวล้านด้วยนะ แล้วก็เดินไม่ค่อยไหว แถมยังขี้บ่นจนเชอเบื่อแน่ๆ”
“เชอรับได้…บ่นเยอะๆ เชออาจจะต้องตัดผมสั้นเพราะผมยาวมันคงหงอกทั้งหัวแน่ๆเลย เอ๊ะหรือเชออาจจะหัวล้านก่อนพี่ฟ้าอีก?”
“ไม่เป็นไร…เราจะไปปลูกผมด้วยกันนะครับคุณตาเชอเบท”
“ฮื่ออออ รักพี่ฟ้าจังเลย”
กอดแน่นจนตัวเองจมไปในอ้อมแขนแกร่ง เสียงหัวเราะดังประสานกัน ก่อนทั้งคู่จะกลับไปปิ้งย่างหมู ปลาหมึก กุ้งกันต่อ…
“พี่ฟ้า ถามจริง ทำไมมาขอข้างเตาย่างเนี่ย?”
“กลยุทธ์ที่ดี คือล่อหลอกให้อีกฝ่ายกินให้อิ่ม พออิ่มก็อารมณ์ดี อารมณ์ดีอะไรก็คุยง่าย เชอจะได้ตกปากรับคำพี่ง่ายๆ หึหึ…”
“แต่ปลาหมึกมันไหม้อ้ะ…”
ระหว่างหวานแหววเจ้าปลาหมึกสีขาวชิ้นอวบอ้วนก็หลายเป็นดำเกรียมไปด้านหนึ่ง…
“เดี๋ยวพี่แกะกุ้งให้แทน”
“กุ้งก็ไหม้”
“หมู?”
“หมูก็ไหม้ โวะ อะไรวะเนี่ยเหลือแต่เบียร์”
“ดี กินเบียร์ไป จะได้เมา…เราจะได้เข้าหอเลย”
“โว้ยวันๆคิดแต่เรื่องทะลึ่ง”
บ่นกระปอดกระแปดแต่ก็อมยิ้มเมื่อมือถูกดึงไปกุม… เอาเหอะ ไหนๆก็จะแต่งงาน เอ้ย ย้ายไปอยู่ด้วยกันแล้ว… ไม่มีงานแต่งอะไรทั้งนั้นอ่ะ
ก็ฟ้าลั่นไม่ได้ขอแต่งสักหน่อย… เนอะ?
ไม่มีการเคาน์ดาว ไม่มีการบอกแฮปปี้นิวเยียร์ มีแต่เบียร์ กับแปลนบ้านที่นั่งคุยกันว่าอยากจะแก้อะไรบ้าง จริงๆพุกก็แค่เอาบ้านเชอเบทมาทำแปลนโล่งๆ ตามแผนฟ้าลั่น…เพราะบ้านเชอเบทก็อยากให้เจ้าตัวเขาออกแบบเองอยู่แล้ว
มันแค่เป็นแผน…
ไม่สิ ไม่มีบ้านเชอเบท ไม่มีบ้านฟ้าลั่น… มีแค่
บ้านเรา สุขสันต์วันปีใหม่ <3
-------------------------------------------------------------------
ตกลงไม่มีใครแต่งงานกันนะคะ
อิ้อิ้ ขอเป็นตอนพิเศษตอนสุดท้ายนะคะ ที่เหลืออีกยาวเหยียดจะไปใส่ในรวมเล่มค่ะ
สำหรับคนสนใจ ชาร์ล-แมท อ่านได้ใน เพราะ...เป็นเอกนะคะ (กำลังเปิดพรีออเดอร์ด้วย) เนื่องจากไปมีบทบาทอย่างมากในเรื่องนั้น แหะๆ
สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะ ปีหน้าก็หวังว่าจะได้รับความรักจากทุกคนแบบนี้อีกนะคะ จุ้บบบบบบบบบบ <3 <3
======================================================
อ่านเรื่องของเฌอแตม ต่อ ได้ที่นี้
กับดักพระจันทร์