คืนที่4 100%
“คุณหนูครับ ผมมาหาแล้ว ตื่นก่อนเถอะ” เสียงที่อบอุ่นพร้อมสัมผัสที่อ่อนโยนบนใบหน้าปลุกให้ผมตื่น
“นิล ได้เห็นหน้าแล้ว วันนี้นิลได้คุยอะไรกับหลวงลุงหรือเปล่า” ผมคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ถามออกไปด้วยความอยากรู้
“ครับหลวงพ่อมาเตือนความทรงจำนิดหน่อย ท่านบอกผมเกี่ยวกับเรื่องที่คุณหนูถาม”
“ท่านบอกอะไร”
“ผม... ไม่บอกได้ไหมครับคุณหนู” พอได้ยินประโยคนี้ ผมก็ชะงัก นิลไม่เคยมีอะไรปิดบังผม ผมถามอะไรเขาก็ตอบเสมอ ผมเงียบไปพักหนึ่งแล้วก็คิดได้ว่า ถ้าหลวงลุงอยากให้ผมรู้ท่านก็คงบอกต่อหน้าผมแล้ว ไม่ต้องไปคุยกับนิลตามลำพัง
“คุณหนูไม่โกรธผมใช่ไหมครับ” ผมส่ายหน้า
“ฉันเข้าใจ แต่ถ้ามีอะไรที่ฉันสามารถช่วยได้ก็รีบๆบอกฉันนะ”
“ครับคุณหนู ว่าแต่งานออกแบบของคุณหนูจะวางขายเมื่อไหร่เหรอ” นิลถาม ผมสงสัยนิดหน่อยแต่ก็ตอบออกไป
“เห็นบอกว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนตุลา นี่ก็กันยาแล้ว คงอีกไม่กี่อาทิตย์” นิลพยักหน้ารับรู้ ความเงียบเข้าคลุมพื้นที่ ถึงจะเงียบไม่มีบทสนทนา แต่ก็ไม่ได้มีความอึดอัดในความเงียบนั้น ทั้งผมทั้งนิลมองหน้ากัน มันแปลกหรือเปล่าที่ผมรู้สึกว่าหน้าของพวกเราใกล้กัน
รู้ตัวอีกทีริมฝีปากของผมและของนิลก็บดเบียดกันแล้ว ผมปิดตาลงเพื่อที่จะเก็บสัมผัสของนิลไว้
จูบแรกของเรา
กลีบปากของเราบดเบียดกันอย่างเร่าร้อนถึงนี่จะเป็นเพียงฝัน มันก็คงเป็นฝันที่ดีที่สุดของผม นิลถอนปากออก กำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรสักอย่างแต่ผมไม่ยอมหรอก ไหนๆเราก็ใจตรงกันแล้ว ฝันที่สามารถสัมผัสนิลได้ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ผมจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้ผ่านไปอย่างไร้ความหมาย ผมกดปากลงไปอีกครั้งและอีกครั้งจนเราทั้งคู่หอบเพราะหายใจไม่ทัน ถึงจะเป็นคนเริ่มแต่ริ้วแดงๆบนใบหน้าของผมก็บ่งบอกว่าผมก็เขินเหมือนกัน
“คุณหนู... ไม่ควรเลย” ถ้าผมมองไม่ผิด หูของนิลก็เหมือนจะแดงขึ้นมาเหมือนกัน
“ทำไมถึงไม่ควร นิลไม่ชอบเหมือนที่ฉันชอบเหรอ”
“ชอบสิครับ แต่ถ้าผมยังเป็นเพียงแค่ความฝันของคุณหนู ถ้าเกิดเราไม่ได้เจอกันอีก คนที่จะเจ็บปวดก็คือคุณหนูไม่ใช่เหรอครับ”
“นิล! อย่าพูดแบบนั้นสิ มันต้องมีทางที่จะทำให้เราได้อยู่ด้วยกัน แต่ถึงแม้ว่าสิ่งที่ฉันหวังจะไม่เป็นจริง แต่ตอนนี้มันก็คือโอกาสของเรา เราควรจะคว้ามันไว้สิ อย่างน้อยเราทั้งคู่ก็ได้รับรู้ว่าพวกเรารักกันแค่ไหน เรามาสร้างความทรงจำด้วยกัน เพราะถ้าวันนั้นมาถึงเราจะได้ไม่เสียดายวันเวลาที่ผ่านไปไง เราจะได้มีความทรงจำดีๆให้นึกถึง” แค่คิดว่าต้องจากกัน น้ำตาก็พากันมาคลออยู่ที่ดวงตา
“คุณหนูอย่าร้องไห้เลยนะครับ ไม่ว่ายังไงผมจะพยายามทำให้สิ่งที่คุณหนูหวังไว้ให้เป็นจริง” ถึงแม้ว่าผมจะมองไม่เห็นเส้นทางเลยก็ตาม นิลคิดในใจพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้คุณหนู
“รัก ฉันรักนิลนะ”
“ครับ ผมก็รักคุณหนูเหมือนกัน” เสียงบอกรักของพวกเราดังก้องกังวานอยู่ในหู ในสมอง และในหัวใจ
ผมขอ ไม่ว่าสิ่งใดที่สร้างอุปสรรคให้ความรักของเรา ขอ ขอให้มันหายไป