31
#Secretlove
โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน... งานศพคุณยายถูกจัดขึ้นที่บ้าน คุณพ่อบอกเขาว่าสิริรวมเวลาทั้งหมดห้าวันถึงจะฌาปนกิจร่างท่าน มีญาติฝ่ายแม่เขาเดินทางมาร่วมงานประปรายนั่นเป็นเพราะพื้นฐานเดิมคุณแม่ไม่ใช่คนที่น่าน แต่มาพบรักและแต่งงานกับพ่อเขาซึ่งเป็นคนน่าน บ้านเกิดของแม่อยู่ที่พะเยา ก็ถือว่าใกล้กันนะเขาว่า
ส่วนคนบวชให้คุณยายนั้นมีถึงห้าคน เพราะหลานๆคุณยายท่านมีมาก ท่านเป็นคนใจดี แม้จะหอบข้าวของมาอยู่กับแม่ที่น่าน ตัวห่างไกลหลาน แต่ท่านก็เป็นที่รู้จักของหลานๆทุกคน ทุกคนรักท่านมาก เห็นได้จากเด็กทะโมนพวกนี้ที่ยอมบวชให้นั่นก็เพราะรักท่าน
“มึงไหวนะ”
หมอเดินมายืนข้างๆเขา ตอนนี้พวกเราอยู่หน้างานคอยต้อนรับแขกเหรื่อที่เริ่มทยอยกันมา
มือหนากอบกุมมือเขา แล้วสอดนิ้วประสานกันแน่น บีบเบาๆให้กำลังใจ
“อืม”
เขายิ้มตอบกลับ เป็นยิ้มที่ไม่ดูฝืน แต่ก็ยังติดขัดในท่าที
“ยิ้มเยอะๆ แล้วจะดีเอง”
หมอไม่พูดเปล่ายังยกมือจิ้มตรงข้างริมฝีปากทั้งสองของเขา บังคับให้มันหยักโค้ง
“ขอบคุณนะ”
“…”
“ที่คอยอยู่ข้างกัน”
“ไม่ลำบากเลย”
“…”
“เพราะกูเต็มใจ”
เราสองคนยิ้มให้กัน โลกเป็นสีชมพูโดยไม่รู้ตัวว่ามีคนมองอยู่
“หวานกันเข้าไปค่ะ”
เหล่าแองเจิลที่ถือถาดน้ำดื่ม ถาดจานอาหารเดินผ่านมาอดจจะเอ่ยแซวไม่ได้
“เข้าใจว่าอมทุกข์” นดบ่น
“…”
“รีบๆกลับมาให้ได้นะคะ เพื่อนเป็นห่วง ไม่ใช่แค่ผัว”
“อินด เบาๆ” นีพูดปราม
“เออ ลืมๆ”
“ป่ะเร็ว แขกเหรื่อเริ่มมากันเยอะแล้ว กูว่าถาดน้ำเราไม่เป็นหมันละ”
โบธบอกกล่าว
“อยู่กับผัวให้สบายใจไปเลยนะคะ พวกกูไปเป็นเด็กเสิร์ฟแป๊บ” ไม่วายหันมาแซวนะนด
พวกแองเจิลเข้างานไปแล้ว ความเงียบเข้าปกคลุมเขาทั้งสองคน
“หมอ”
“หืม”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
แล้วเราก็เงียบไป
“กูไม่ได้เดือดร้อนอะไร”
“…”
“กูแค่ลาห้าหกวันเอง มึงอ่ะคิดมาก”
เขาอดคิดไม่ได้ว่าตนเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้หมอต้องทิ้งงานทิ้งการเรียนมาที่นี่
“แล้วงานมึงล่ะ”
“งานเล็กๆเอง กูไม่อยู่ ไอ้พวกนั้นก็ทำเสร็จ”
ไอ้พวกนั้นที่ว่า คงหมายถึงเพื่อนๆของหมอ
“ขอบคุณนะ”
“มึงพูดขอบคุณนะๆ มาสองรอบแล้วนะจากที่กูคุยกับมึงตอนนี้”
หมอบ่นยิ้มๆ ยกมือขึ้นขยี้หัวเขา
“ผมเสียทรงเลย”
“ห่วงหล่อด้วย”
“เออดิ ไม่อยากน่ารักอ่ะ”
“ช่วยไม่ได้ว่ะ กูมองมึงน่ารักไปซะแล้ว”
งื้ออออออ เขิน
“แล้วกูหล่อมั้ย”
นี่มันใช่เรื่องที่ควรจะคุยกันตอนนี้ป่ะ โอ๊ย เขินมาก
“อืม”
“อืมคือไร”
“ก็…หล่อมากกกกกกกกกกกกกกกกก”
ลากเสียงยาวๆให้มันเลยเอ้า
“ก็เห็นอยู่ คนอวดผัว”
มันคงหมายถึงที่นดแคปแล้วโพสต์ลงบนไทม์ไลน์เขา
“ก็ผัวหล่อ”
“เดี๋ยวนี้หัดแรดเหรอ ฮะเรา”
“แรดตั้งนานแล้วไม่รู้เหรอ”
“แสดงว่าที่ผ่านมาคือแอ๊บเหรออีหนู”
โอ๊ย บทสนทนานี้มันชักจะเล่นใหญ่แล้วทุกคน
“ค่ะป๋า 55555555 พูดค่ะแล้วกระดากปากว่ะป๋าหมอ” เขายิ้มล้อๆมันไป
“งั้นให้พี่พูดค่ะแทนเนอะ น้องมิวคะ เมื่อไหร่จะหายเศร้าคะ คนดี พี่หมอเป็นห่วงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“ตกลงพี่หรือลุง เสี่ยเลี้ยงนี่ต้องแก่ป่ะ”
“ไม่เล่นละ เสี่ยอะไรจะหล่อขนาดนี้”
“แล้วอีหนูที่ไหนจะน่ารักขนาดนี้ครับป๋า”
“บอกไม่เล่น นี่แน่ะ”
มันเอานิ้วมาจั๊กจี้เอว เขาปัดมือมันที่พยายามตรงเข้ามาประทุษร้ายข้างเอวพัลวัน
“ฮ่าๆๆๆๆ ไม่เล่น พอๆ”
“…”
“หมอ ขอบคุณนะ”
“รอบที่สี่แล้ว” หมออมยิ้มขำ
“อะไร?”
“ที่มึงพูดขอบคุณกู”
อืม…
ขอบคุณนะ
หมอคงไม่รู้หรอกว่าเขาขอบคุณมันซ้ำๆในใจไม่รู้กี่ล้านรอบ
และเขาจะไม่หยุด จะขอบคุณมันไปเรื่อยๆ
ตราบที่เราทั้งคู่ยังคอยเคียงข้างกันอยู่แบบนี้
ขอบคุณนะ …หมอ
ขอบคุณจริงๆ
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
เรากลับมาในงานพอดีกับที่พระกำลังเริ่มสวดอภิธรรม แองเจิลกวักเรียกมาแต่ไกล เขาทั้งคู่เดินไปรวมกลุ่มกับพวกนั้น ส่วนเป้กับชลสงสัยสาละวนกันอยู่ในครัวกับแม่เขาเป็นแน่
“มึง กูว่า อิผู้หญิงพวกนั้นมองหมอแปลกๆมาสักพักละ” นดกระซิบพวกเราในขณะที่ตาก็เหล่ไปทางวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง
“คิดไปเองมั้ยมึง” นีตั้งแง่
แม้เขาจะแอบตั้งประเด็นกล่าวหานดอยู่ในใจเหมือนนี แต่ใจก็เชื่อครึ่งไปแล้ว เพราะหมอกับเขาต้องคอยต้อนรับแขกเหรื่อที่มาในงาน เลยพบเจอกับคนกลุ่มนั้นก่อนที่หน้างานแล้ว เขาก็มีคิดนะว่าแปลกๆตั้งแต่ผู้หญิงพวกนั้นทักทายหมอแล้ว ไม่รู้ว่านดเองก็มีเซนส์เหมือนกัน
“ไม่หรอก เดี๋ยวมึงคอยดู พอเลิกงานแล้วพวกมันจะมาจิกหมอไป” นดหมายมั่นไว้
พวกเราก็เงียบกันไป ตั้งใจไหว้เต็มที่ แม้จะรู้สึกสดชื่นดีขึ้นมากแล้ว แต่บอกตรงๆว่าไม่กล้ามองรูปคุณยายที่ติดข้างโลงเลย มันใจไม่ดี น้ำตาพลอยจะไหลอาบแก้มเปล่าๆ นี่ตอนเข้าไปไหว้ก้ปล่อยโฮจนแขกตกใจมากพอแล้วนะ เขามันอ่อนแอจริงๆ
วัยรุ่นหญิงพวกนั้นยังคงไม่เลิกมองหมอ เจ้าตัวก็อึดอัดไปตามระเบียบสิ นั่งกระแซะๆตัวเข้ามาหาเขาเต็มที่ คือหมอ เขาจะตกโต๊ะแล้วนะ
“กูอึดอัดอ่ะ”
“หญิงมอง ไม่ชอบเหรอ” โบธแซว
“มองแบบโจ่งแจ้งก็ไม่ไหวนะ”
“…”
“กูรู้สึกเหมือนโดนข่มขืนทางสายตาว่ะ”
เท่านั้นล่ะ ลั่นเบาๆกันในกลุ่มเลย ขำลั่นมาก
“ที่มอก็เจอมาไม่รู้กี่ทีๆ มาแพ้สายตาสาวเมืองน่านเหรอคะหนุ่มคนกรุง” นีหยอกเล่น
“กูว่ามันอาจจะลากหมอเข้าพงหญ้าตอนงานเลิกก็ได้นะมึง อิมิวจับหมอไว้ให้แน่นล่ะ” นดยังจริงจังเสมอต้นและปลาย
“อินี่ก็คิดมาก” นีสวนกลับ
“ถามอิขิมสิคะ กูว่านางก็คงมีเซนส์แบบกู” นดหาแนวร่วม
“เหี้ย” เมื่อเราหันไปหาขิม
ขิมของทุกคน…เธอหลับน้ำลายยืดไปแล้ว
ที่สำคัญ น้ำลายหกใส่เสื้อโบธเป็นลิตรแล้วมั้ง ดูจากเจ้าของที่จะอ้วกออกมาก็พอรู้
น้ำลายขิม…ถือเป็นสิ่งสกปรกที่หนึ่งของโลก
“เอามันออกไปที T^T” โบธพูดทั้งหน้าแหยงๆของมัน
“ฟังพระสวดกันเถอะค่ะทุกคน ตั้งใจๆ”
นดนางทำเนียนหันไปตั้งใจไหว้พระสุดฤทธิ์
“นั่นสิ หมอมึงเลิกกลัวได้แล้ว ไหว้พระๆ” เขาชวนหมอบ้าง
“อืม นั่นสิ” ทีงี้ล่ะจบเรื่องเร็วเชียว
เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว พระเลิกสวดแล้ว แขกเหรื่อทยอยกันกลับบ้าน แต่กลุ่มสาววัยรุ่นกลุ่มนั้นยังนั่งอยู่ที่เดิม เห็นได้ชัดว่าสมมติฐานของนดถูกต้อง เมื่อนางหนึ่งในนั้นเดินออกมาจากกลุ่มแล้วตรงมาที่กลุ่มของพวกเรา
“นั่นไง” นดตบขาฉาดใหญ่
“เอ่อ ขอโทษนะคะ” เธอทักทายพวกเรา
“ครับ” เป็นเขาที่ตอบรับแทน แม้จะเห็นว่าสายตานางมองหมออยู่ก็ตาม
“คนนั้น” เธอชี้มาที่หมอ
“มีอะไรกับเพื่อนดิฉันรึเปล่าคะคุณเธอ” นดใจดีสู้เสือ
“ใช่ค่ะ พูดตรงนี้เลยค่ะ ไม่ต้องมาขอพูดกับเขาเป็นการส่วนตัว” นีพูดเสริม
“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่…”
“ไม่ใช่ได้ไง ดิฉันเห็นกลุ่มเธอมองเขาแบบ สายตาน่ากลัวมาก”
“เปล่าค่ะ คือเราอยากจะถามว่า…”
“ว่า?” เขาก็อดลุ้นไปด้วยไม่ได้
“เขาเป็น…ดาราช่องไหนรึเปล่าคะ”
โอ๊ย ลั่น ลั่นเลย
“กูอยากจะบอกว่า แถวบ้านอิมิวนี่เชยกันมากป่ะ ยังมีวัยรุ่นพวกนี้อยู่ในโลกนะคะ ไอ้ที่ทักผิดเข้าใจว่าคนนั้นคือดารา คนนี้คือดารา อยากถามจริงจังว่าน้องเล่นอินสตาแกรมมั้ยคะ แต่ที่นดสันนิษฐานแล้ว ไม่รู้จักแอพนี้ด้วยซ้ำไป 555” นดขำไม่หยุด
“มึงก็เกินไป แต่กูก็ขำ 555” นีขำด้วยคน
แล้วเช็คหมอคือหัวเสียมากโดนทักเป็นดาราไป 555
สามวันผ่านพ้นไป โดยที่มีเหล่าเพื่อนๆคอยให้กำลังใจ พวกแองเจิล เป้ ชล และหมอยังคงอยู่ช่วยงานและยังไม่กลับไปเรียน เจ้าตัวรวมถึงเหล่าแองเจิลบอกว่าที่ใบลาเขียนไว้ว่าลาแค่สามวัน แอบตลกตรงที่เพื่อนเอกแชทไลน์มาถามหาเพราะอาจารย์ประสิทธิ์แกอดจะคิดถึงนดไม่ได้ ทำเอาแองเจิลถึงกับหน้าถอดสี
“กูติดเอฟอิสิดยาแน่คราวนี้” นดทำหน้าหมดอาลัยตายอยากกอดเสาบ้านเขาร้องไห้พร่ำเพ้ออยู่เป็นวัน
“มึงคิดว่าจารย์จำมึงได้คนเดียวไง พวกกูนี่พ่วงไปด้วยแน่ โอ๊ย กูไม่อยากไปแก้กับนางนะ มันดูน่ากลัวสุดพลัง” นีขยี้หัวจนผมฟูฟ่อง นาทีนี้ไม่ห่วงสวย
แล้ววันที่สี่ก็ผ่านพ้นไปด้วยน้ำตาที่เสียไปหลายลิตรของเหล่าแองเจิล เขากับหมอได้แต่ปลอบใจพวกนี้ตลอดทั้งคืน
แต่พอมาถึงคืนวันที่ห้า ที่บ้านเขาจะมีการนอนเวรยามเฝ้าโลงศพ ทีนี้มันติดที่ว่า…
“กวินนนนนนนนนน กล้ามโตขึ้นนะมึง” กวินมาเข้าเวรแทนพ่อมันที่ไปทำงานต่างจังหวัด
“มึงตัวเล็กลงป่ะนี่” เขาขมวดคิ้ว
“ทำไมพูดแปลกๆ แล้วท่าทางแมน…อุ๊บ” เขาถูกกวินเอามือปิดปาก
หันไปมองหมอ นดกับเหล่าแองเจิลยื้อไว้เต็มที่ เป็นอะไรไปอีกคนนะ
“กวินสวัสดีค่า ยังน่ากินเหมือนเดิมนะ”
นดก็ดูแปลกไปนะ อะไรคือกวินน่ากิน
“เหี้ย” อะไรคือคำสบถที่กวินใช้กับนด
เขาไม่เข้าใจจริงๆ เหล่าแองเจิลคิดจะทำอะไรอีกกันแน่?
“มิว มาช่วยกูในครัวหน่อย” เป้ตะโกนเรียกมาแต่ไกล
“เออๆ คุยกันไปนะ กูไปช่วยในครัวแป๊บ”
“อืม ขอกอดให้หายคิดถึงหน่อย” เป็นเขาเองที่เข้าไปกอดกวิน
“หมอ ใจเย็นๆ” ในตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าท่าทีฮึดฮัด เหมือนโมโหหึงใครอยู่นั้นมาจากอะไร
จะว่าหึงเขากับกวินก็เห็นจะเป็นไปไม่ได้ เหล่าแองเจิลคงบอกหมอแล้วว่ากวินน่ะ…
เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดในน่านของเขาเลยล่ะ
เคมีเราตรงกัน
ตอนคนรักเขาเข้าไปกอดไอ้กวินเขาแทบทนเข้าไปอัดหน้ามันไม่ไหว แล้วอะไรคือมิวเข้าไปกอดมันเองด้วย นี่มันเพื่อนสนิทแบบไหนกัน
“ไงล่ะ เมียกู”
“เหี้ย”
ถ้าจะล้อเล่นก็ล้อเล่นแบบอื่น แบบนี้เขาสวนกลับแล้วมันจะหนาว
“หมอ สงบสติอารมณ์หน่อยค่ะ” นดห้ามปราม
“กวินมึงก็ไปแกล้งหมอนะ” โบธยิ้มล้อ กวินเหมือนเบือนหน้าหนีไปชั่วครู่
มันทนรอยยิ้มไม่ได้สินะ เขาจะยิ้ม เขาจะยิ้มให้รู้ไป ว่าเขาจะไม่ยอมเต้นตามเกมส์ที่มันหวังจะแกล้งเขา
“นดปล่อยก่อนนะ” นดยอมปล่อยเขาแต่โดยดี
เขาเดินตรงไปหากวิน
“กูต่างหาก ผัวมัน”
เขาเผยรอยยิ้มที่คิดว่าเท่ที่สุดในโลกไป เป็นไปตามคาด ไอ้กวินห่าเหวนั่นถึงกับอึ้งไปเมื่อเจอยิ้มหล่อของเขา มันคงนึกเจ็บใจที่ทำเขาโมโหได้แค่นี้
แต่ปกติรอยยิ้มนี้…เขาเอาไว้ใช้กับสาวน่ะ
อ่อย เอ๊ย ยิ้มทักทายเฉยๆ ห้ามเอาไปบอกมิวนะ
เหล่าแองเจิลดูช็อคไป
โบธเอามือกุมขมับ
ท่าทีประหลาดพวกนั้น
มันอะไรกันนะ…
มิวเดินกลับมายืนอยู่ข้างเขา เขายิ้มมีชัย
ก่อนจะหุบลงเมื่อมันเดินไปยืนข้างกวินแทน
“กวิน แม่ถามว่าอาบน้ำยัง”
“ยังเลย”
“ขึ้นไปเอาเสื้อผ้ามึงที่ห้องกูได้นะ คราวก่อนมึงขนมาเยอะจริงอะไรจริง”
เขากัดฟันกรอด มีมานอนด้วยกันด้วยเหรอ จบจากเรื่องงานศพคุณยาย เขากับมิวคงต้องคุยกันแล้วล่ะ มิวหันมามองเขาชั่วครู่ ก่อนจะทำเมินไปคุยจ้อกับไอ้กล้ามปูต่อ
“คราวก่อนมากล้ามไม่ใหญ่ขนาดนี้ วันนี้เปิดให้ดูหน่อยนะ กูอยากดูกล้ามมึงมาก”
กรอด พูดไม่พอ ยังจับมือพากันไปห้องน้ำ
“อาบข้างนอกเลยนะมึง กูจะอาบด้วย จะได้ดูซิกแพ็ก ห้องน้ำดูไม่ชัด” มีเอาท์ดอร์ด้วยเหรอ
“มิว…” อารมณ์เขาตอนนี้พุ่งพล่านถึงขีดสุด
“อะไรเหรอ หมอ” แต่พอเจ้าตัวหันมายิ้มหวานให้แค่นั้นแหละ
“ไม่มีอะไร”
เขาพยายามผ่อนลมหายใจร้อนออกไป เขาจะไม่งี่เง่า แค่ขอดูกล้ามเอง แค่เปิดให้ดู แค่ไปอาบน้ำด้วยกันเอง
เฮ้ย นี่มันเพื่อนกันแน่เหรอวะ ไอ้เรื่องอาบน้ำก็เข้าใจ แต่ไปนั่งส่องดูซิกแพ็คกันนี่ไม่โอเค
“มิว กูว่า!” เขานิ่งคิดแผนในหัว
“ไปเอาไอโฟนกูให้หน่อยดิ ลืมไว้บนห้องมึงอ่ะ”
แผนสดมาก แต่ลืมจริงๆนะ หึ ยิ้มเย้ยไอ้กวินที่มองมาไปทีหนึ่ง มันเบือนหน้าหนีไปแทบไม่ทัน เจ็บใจล่ะสิมึง เขาว่าเขาดูเด็กมาก ตลกตัวเองเหมือนกันนะ
“งั้นเดี๋ยวไปเอาให้” มิวผละออกไป
“เฮ้ย มึง” เขาทักกวิน
“…”
“ไปอาบกับกูดีกว่า”
“เหี้ย”
พวกแองเจิลโพล่งขึ้นมาแทบจะทันที
แต่หยุดแรงเขาที่ลากไอ้กวินมาไม่ได้หรอก
พอมาถึงข้างนอก บอกเลยว่าให้ความรู้สึกโบราณแต่หรูหรามาก มีตุ่มใหญ่ใส่น้ำรอไว้แล้วหนึ่งใบ แต่ที่ยืนเป็นปูนพื้นปูกระเบื้องสาก มีทางน้ำไหลลงท่อเก็บ ถือได้ว่าเป็นระบบอาบน้ำที่โบราณแต่ทันสมัยสุดเมื่อบ้านมิวนำมันมาดัดแปลงนิดหน่อย
เมื่อสองวันก่อนได้คุยกับคุณแม่ ท่านบอกว่ามิวชอบอาบน้ำข้างนอกที่สุด
แอบตกใจนะนี่
เขาถอดเสื้อออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อพอเหมาะ บอกเลยว่าภูมิใจมากมันไม่น้อยและไม่มากเกิน แต่ซิกแพ็คเขาชัดเจน ผิวขาวๆสัมผัสความเย็นของอากาศ
หันไปมองไอ้กวิน
หันหลังให้เขาเฉย
เขาเลยจับมันหันกลับมา คิดไปเองรึเปล่าว่ามันหน้าแดง
“มึงรู้มั้ย กูกับมิวไม่ใช่แค่จับมือใสๆแล้วนะ” เขาพูดไปพลางมือก็ปลดถอดกางเกงไป ตอนนี้ทั้งเนื้อตัวเหลือแค่กางเกงในสีขาวตัวเดียว
มือกำคอเสื้อไอ้กวิน
มันจะหลุบมองต่ำที่เอวเขาทำไม
“มิวกับกู เราเป็นของกันและกันแล้ว”
“…” หน้าของมันเริ่มแดงมากขึ้น
มันหลุบตาต่ำมองที่เป้าเขา
“หึ กูเข้าไปในตัวมิวแล้ว อย่างที่มึงคิด”
“…”
“…”
“ของมึง คะ คงใหญ่ มะ มากสินะ” กวินมันพูดออกมาตะกุกตะกัก
เขายิ้ม
“ใหญ่กว่าของมึงเลยล่ะ”
เขาจับของตัวเองเน้นๆตรงนั้นให้มันดู ว่า ยาว ใหญ่ แค่ไหน
อึก
มีเสียงคนกลืนน้ำลาย
“ตอนนี้…”
“ใช่ ตอนนี้กูก็กำลังไม่พอใจมาก ที่มึงใช้คำว่าผัว กับเมียกู”
“ไม่ใช่…”
“ไม่ใช่อะไร กูกับมิวเรานอนด้วยกัน อยู่กินด้วยกันแล้ว”
“ไปกันใหญ่แล้ว…”
“ไม่ใหญ่หรอก กูกับมิวเรารักกันมาก”
“มึง…” กวินมันพูดคำตอบคำเหรอวะ
“…” เขานิ่งฟังมัน
“หมออ่อยกวินอยู่ใช่มั้ยคะ”
มือหนาของไอ้กวินตะปบเข้าที่เป้าเขา แล้วบีบคลึงเน้นๆ
“เหี้ย!!!”
“มามะ มาให้กวินปลุกหมอน้อยเร็วววววววว”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ทุกคนถึงกับขำลั่นเมื่อได้ดูวิดีโอที่มีมือดีแอบถ่ายไว้
ไม่ใช่ใครที่ไหน…เขาเอง มิว คนรักของหมอ ใช้กล้องไอโฟนของมันถ่ายเน้นๆด้วย
‘หมอขา กวินชอบคนแบบหมอจังเลย’
‘ไปนะมึง กูกลัว’
ในคลิปปรากฏภาพหมอกับกวินในคราบสาวแตกกำลังไล่ปล้ำหมอรอบตุ่มใหญ่ เล็ดลอดเสียงหัวเราะของเขามาด้วย คือถ่ายไปก็หัวเราะไปอ่ะคิดดู
“แต่เป้าหมอก็ใหญ่นะคะมึง 555” นดแซวหมอเบาๆ
คนถูกแซวน่ะเหรอ หลบหลังเขานี่แหละ กลัวกวินที่ขนาดนั่งตรงข้ามยังคอยส่งสายตามาหาคนรักเขาสุดฤทธิ์
“นดบอกแล้วให้ใจเย็นๆ สรุปอิกวินทั้งได้ และได้ ได้เห็นงูหมอชัดๆด้วย กรี๊ด อิจฉา”
“ดูหน้าหมองงๆนะ อ่ะๆ เดี๋ยวแนะนำนางให้ใหม่นะคะ”
“…”
“นี่คือ กวินซี่ ไม่ได้อ่านว่า กะ-วิน นะคะ กวินน่ะค่ะ กวินควบไปเลย กวินซี่ เพื่อนสาวแสนสนิทของอิมิวที่น่านค่า 555”
นดไม่วายหัวเราะขำ
“ทุกอย่างเป็นแผนของอิกวินค่ะ ตอนแรกมันก็เล่นสนุกตามประสาตุ๊ดเจอชายนี่ล่ะค่ะ มันอยากแกล้งหมอ แต่ตอนนี้คือ มันอยากกินหมอแล้วค่ะ 555555555555555555”
“หมอหึงอิมิวเลิศสุด กวินมีโอกาสเข้าไปอยู่ในใจหมอมั้ยคะ”
เขาขำ หมอนี่แทบเอาหลังเขามาปิดตัวใหญ่ๆของมันไม่ทันเลย
“แถมกวินก็ไม่คิดเลยว่า เรือนร่างของกวินจะเซ็กซี่จนหมอถึงกับเปลื้องอาภรณ์เข้ามาสวมกอดกวินแบบนี้”
นางพูดไปปิดหน้าไป แต่เท่าที่ดูความจริงคือ หมอมันไม่รู้มากกว่านะว่าต้องใส่ขาวม้าอาบ
“ไม่เคยอาบแบบนี้เหรอ” เขาหันไปถามมัน
“อืม” ยังสั่นกลัวไม่หายเลย 5555555555555
จบเรื่องกวินไป คืนนั้นหมอถึงกับขึ้นมานอนห้องเขาเลยนะ ทั้งๆที่เจ้าตัวเป็นคนขี้ร้อน เหตุเพราะมีกวินคอยป้วนเปี้ยนแกล้งมันตลอดเวลา สงสัยคงจะเข็ดกวินไปอีกนาน
“ถ้าพรุ่งนี้กูร้องไห้ ยืนอยู่ข้างๆกูนะ”
“…”
“…”
“ไม่บอก กูก็ทำอยู่แล้วล่ะ”
เรากอดกันจนหลับไป คืนนี้อากาศเย็น เขากับหมอจึงรู้สึกอบอุ่นมากกว่าที่นอนกอดกัน
“เหี้ยยยยยยยยย”
ตอนเช้าตื่นมาก็ต้องเจอะกับความชุลมุนวุ่นวายเมื่อกวินตามมาปลุกบอกชนิดถึงเนื้อตัวบนห้องนอนเขา เข้าใจว่าเล่นกัน แต่คือต้องไม่ถือสาหมอที่กลัวมากๆจนเผลอถีบกวินออกไปไกลหลายร้อยเมตรด้วยนะมึง ฮา…
“หมอคะ ถีบกวินทำไม” นางพูดไปเอามือกุมท้องไป คาดว่าลูกถีบหมอคงกระเทือนถึงกระดูกซี่โครงนางเป็นแน่
“ขอโทษนะ เว้ย เอ่อ ครับ” หมอยังสับสนกับคำพูดตัวเองอยู่นะเขาว่า
“ไม่เป็นไรค่ะ กวินให้อภัย”
“…”
“อิมิว จะขำอีกนานมั้ยคะ แม่บอกให้มาตาม”
“จ้า จ้า”
เช้าวุ่นวายผ่านไป…
ทุกคนอยู่พร้อมหน้าเลย
“มิว เดี๋ยวแม่ต้องไปเตรียมสถานที่นะ ลูกอยู่ช่วยเพื่อนๆที่งานนะ”
“ครับ”
“ไหวนะ” แม่เอ่ยถามเป็นห่วง
“ไม่ต้องห่วงค่ะแม่ ได้เพื่อนดี”
“เพื่อนหรือแฟนนด เอาให้แน่” แม่กระเซ้า
“แฟนครับ” หมอตอบแทนแบบเต็มปากเต็มคำ
“ดูแลกันดีๆนะ แม่ไปแล้วนะ หมออย่าลืมยกดอกไม้จันทน์ไปด้วยนะ”
“ครับ” หมอตอบรับอย่างเต็มใจ
“แหม ใช้ได้ใช้ดีนะคะ นี่ถ้าไม่ใช่ลูกเขยก็ไม่กล้าชิมิคะ คุณแม่” นดแซว
“เป็นลูกเขยบ้านนี้ก็ต้องแข็งแรง ช่วยไม่ได้นี่นา ลูกชายตัวจริงไม่มีกล้ามอ่ะ”
“แม่!!!”
“แม่ไปละ วันนี้อยากร้องไห้ ก็ร้องให้พอนะลูก แม่คงไม่ห่วงอีกแล้ว มีคนคอยเป็นห่วงมิวมากมายขนาดนี้”
แม่กวาดสายตามองทั่วกัน พวกเราทุกคนยิ้มให้กัน
พิธีเผาคุณยายเริ่มไปแล้ว
เป็นดังคาด เขาแทบทนดูจนจบไม่ได้ ปิดตาตัวเองด้วยการหันเข้าไปซบอกร่างสูงที่คอยยืนให้กำลังใจข้างกัน โดยไม่สนว่าคนอื่นจะมองยังไง หมอลูบหลังเขาเบาๆ ในช่วงชุลมุนวุ่นวาย ผู้คนแห่กันเอาดอกไม้จันทน์ไปวาง
เขากลับได้ยินคำมั่นสัญญาชัดเจน
“คุณยายครับ ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้นะครับ ผมจะดูแลมิว รักมิว คอยอยู่เคียงข้างมิว คอยห่วงใย คอยช่วยเหลือ คอยพยุงกันไป ให้เท่ากับที่คุณยายเคยทำ จะไม่ขาดตกบกพร่อง”
“…”
“ผมสัญญา”
คำสัญญา…ที่หมอมันให้ไว้กับคุณยาย
“ผมลืมบอกคุณยายไป…”
“…”
“ฮะๆ ควรจะบอกตั้งแต่แรกแล้ว”
“…”
“ผมขอหลานคุณยายไปดูแลแทนนะครับ”
“…”
ท่ามกลางควันโขมงที่ลอยฟุ้งบนท้องฟ้า
เขาเชื่อว่า…คุณยายท่านต้องรับรู้
อย่างที่บอกไป เขาเชื่อว่าทุกคนย่อมเคยทำผิดพลาด
มีคนเคยบอกเขานะว่า การทำผิดพลาดซ้ำๆ ไม่ได้ทำให้คนเราอ่อนแอ ตรงกันข้าม…
มันกลับทำให้เราเข้มแข็งจนไม่น่าเชื่อ พลังแปลกประหลาดที่ผลักดันเราให้ก้าวข้ามมันไป
คือความห่วงใยจากคนข้างหลัง…
เมื่อต้องเจอะเจอมันอีกครั้ง มันจะเป็นแค่สายลมที่คอยพัดผ่านมาย้ำเตือนเราในใจ
ทดสอบเรา ปลุกเราให้ลุกขึ้น และทำให้เราเข้มแข็งได้ในสักวัน
ทำไมเราต้องไปมัวเศร้าสร้อยกับผลของการทำผิดพลาดนั้นล่ะ สู้ยอมรับมัน ยิ้มรับมัน
ในที่สุดแล้ว…รอยยิ้มก็จะประดับบนใบหน้าเราตราบนานเท่านาน
แม้ความผิดพลาดจะหวนมาอีกครั้ง
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตามที… จบจากเรื่องคุณยาย เรามาทำบุญกันที่วัด เลยตัดสินใจลาหยุดอีกวัน นั่นทำให้เราเซอร์ไพรส์มาก
“เจ๊ขา มาได้ไง”
เจ๊บอยลี่โผล่มาทำให้พวกเราช็อคถึงที่
“หมอชวนมาทำบุญที่น่านน่ะ”
“ลงทุนมาก” นดยกนิ้วให้นางไป
ส่วนคนถูกพาดพิงก็ยักคิ้วหลิ่วตาไปตามระเบียบ
“เสียใจเรื่องคุณยายด้วยนะคะ ส่วนตัวมาไม่ทันงานรู้สึกเสียใจมาก”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เป็นไรแล้ว”
“เจ๊ก็คิดว่างั้นนะ”
“หือ ตรงนี้มีจุดธูปขอพรด้วยเหรอ”
หลังจากที่เราไหว้พระกันเสร็จสรรพ ทุกคนก็แยกย้ายกันเที่ยวชมวิหารอารามต่างๆของวัด เขากับหมอแยกกันออกมาสองคน
“อือฮึ ขอพรมั้ย”
“เอาดิ”
เราก้มลงคุกเข่า จุดธูปขอพรพร้อมกัน
เขาปักธูปลงตรงกระถาง ตามมาติดๆกันคือหมอ
“ขอพรว่าอะไรอ่ะ”
พูดขณะพากันเดินชมพระธาตุ
“ไม่บอกสิ เดี๋ยวไม่สมพร” เขาท้วงหมอไป
“เหรอ แต่ของกูบอกหรือไม่บอกมันก็เป็นจริงร้อยเปอร์เซนต์”
“…”
“กูขอว่า…”
“…”
“อยากจับมือมึงแบบนี้ตลอดไป”
เราก้มมองมือที่ประสานกันแน่น
เราสบสายตากัน
“หมอขา กวินมาแล้ววววววว”
มือเราทั้งคู่หลุดออกจากกัน
หมอวิ่งหนีกวินหายไป
“เห็นมั้ย ไม่เป็นจริงเลย” เขาพูดขำๆ
ก่อนจะพบว่าหมอที่วิ่งจากไหนมาไม่รู้ คว้าข้อมือของเขาไปจับ มือเราทั้งสองประสานกันอีกครา
ก่อนเขาจะถูกดึงให้วิ่งไปด้วยกัน
To Be Continued.
**************************************************
และฝนกับกวินใครดูจะเป็นปัญหาสุด 555
ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้วนะ T^T รู้สึกดีใจ
มากที่ลงจนจบได้ เหนื่อยหอบสุด 555
แล้วเจอกัน #เริ่มต้นที่แฮชแท็ก เร็วๆนี้ #ข้ามปีนะ 555
#ฝากแก้คำผิดที่อาจมีมากมาย
#ขอพื้นที่ขอบคุณ คุณ Al2iskiren และคุณ AKFC2010 ที่คอยแก้คำผิดเสมอมา ยินดีรับเพิ่มนะ 5555555555555
#ขอบคุณคนอ่านที่คอยอุ้มชูเรื่องนี้เรื่อยมา
มามุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง งุงิที่นี่...MewSN