ตอนที่ 9 ของๆผม“ไปเที่ยวผับกัน กูอยากเที่ยว กูอยากเมา” มันบอกหน้าจริงจัง ผมกับภีมได้แต่มองหน้ากันไปมา
“เลิกมองหน้ากันสักที ไปแต่งตัว กูนัดไอ้บอยไอ้ชายไว้แล้ว เอาผัวมึงไปด้วยกันเนี่ยแหละ เร็ว!!!” ผมกับภีมก็ดันบ้าจี้รีบแต่งตัวตามที่มันบอก
“มึงเป็นไรเปล่าเนี่ย อกหักมา?” ผมถามไอ้กิตระหว่างที่นั่งรถไปผับใกล้ๆกับมหาลัย
“บ้าหรอ กูเนี่ยนะอกหัก” มีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่คบกันมาก็เห็นมันชอบผู้หญิงไปทั่ว มีแฟนมาก็หลายคน แต่มันกลับไม่เคยต้องการที่จะเมาเวลาต้องเลิกกับใครสักคน นี้เรียกว่าผิดปกติอย่างมาก
พอมาถึงผับไอ้บอยกับไอ้ชายก็นั่งจองโต๊ะรออยู่แล้ว แล้วผมก็รู้สึกคิดผิดทันทีที่พาภีมมาด้วย เพราะแค่เขาเดินเข้ามาในงานก็แทบจะดึดดูดสายตาทุกคู่ไปจนหมด ผมไม่สบอารมณ์เอาซะเลย
“น้องภีมมาด้วยหรอ กลัวเพื่อนพี่มันนอกลู่นอกทางหรือไง” ไอ้บอกแซว
“เปล่าหรอกคับ ผมหล่อขนาดนี้จะมีใครมาสู้กับผมได้ละพี่” ไอ้นี้ก็อวยตัวเองจัง ผมอดหมันไส้ไม่ได้ ต้องเหยียบเท่าไปสักที เขาเหมือนจะร้องออกมา แต่ก็แค่หันมายิ้มให้ผม พร้อมสายตาคาดโทษเล็กๆ
“เออ ไม่มีใครสู้แกได้หรอก ไอ้พายมันจะไปไหนพ้นวะ 55555” แซวเล่นกันสนุกปากเชียว
“เดี๋ยวกูล้มโต๊ะ หยุดแซวเลยพวกมึง มีปากก็กินเหล้าไป” ระหว่างที่ผมต่อปากต่อคำกับไอ้บอย และไอ้ชาย เจ้าภาพที่ชวนก็กินไม่ลืมหูลืมตา ผมสงสัย แต่ก็ไม่อยากถาม เพราะไอ้กิตเป็นพวกปากแข็ง ถ้าไม่อยากพูดใครไปง้างปากมันๆก็ไม่บอกหรอก
“ใจเย็นๆไอ้พาย วันนี้มึงเอาอะไร สไปร์ซ หรือโค้ก” ไอ้ชายถาม ดูท่าวันนี้พวกมันจะดื่มกันหนักเลยให้ผมกินแค่น้ำอัดลม ถ้าแค่นั่งชิล มันจะให้ผมดื่มด้วยนิดหน่อย
“โค้กละกัน” ผมบอก
“พี่พายแพ้แอลกอฮอล์ใช่ไหมคับ” ภีมถาม
“ใช่แล้ว ภีมรู้ได้ไง”
“ผมรู้แทบทุกอย่างเกี่ยวกับพี่ เพราะพี่สำคัญ” เขาบอกพลางยิ้มที่ชวนให้หลงใหล ผมนี้ใจเต้นจนเหมือนจะหลุดออกมาจากหน้าอก
“กูจะอ้วก เลี่ยนชิบ ไปหยอดกันที่ห้องไป” ไอ้กิตแขวะก่อนจะกระดกเหล้าไปหมดแก้ว
“ภีมๆมาเดี๋ยวพี่ชงให้” ไอ้ชายบอกก่อนจะชงสเหล้ามาให้ภีม ดูเข้มพอตัว แต่ภีมก็ดูเหมือนผู้ชายทั่วไป กินเหมือนน้ำเปล่า ไม่สะทกสะเทือน
“ดื่มเก่งจัง”
“พี่ผมบอกให้ดื่มให้เป็น พอช่วยงานที่บ้านต้องออกงานสังคมเยอะจะได้ไม่เสียเปรียบ” เขาพูดพลางยิ้มอย่างน่ารักให้ผม ผมอดยิ้มตามไม่ได้ บางทีเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ไม่น้อย
เรานั้งดื่มกันไปหลายแก้ว ไอ้กิตเริ่มที่จะมึนแล้ว ไอ้ชายก็หิ้วสาวที่ส่งสายตาให้กลับไปก่อน ไอ้บอยนี้ก็บอกครั้นเนื่อครั้นตัว ร้อนๆแปลกๆ ผมก็นึกว่ามันไม่สบาย แต่พอเจอสาวถูกใจก็ออกไปอีกราย
“ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคับ” ภีมบอกก่อนจะเดินไป ผมที่เห็นเขาเริ่มพูดเสียงแปลกๆ เลยอยากตามไปดูเขาสักหน่อย
“พี่ฝากไอ้กิตหน่อยนะไอ้แจ๊ค” ผมโชคดีที่เจอรุ่นน้องที่คณะพอดีเลยฝากไอ้กิตไว้กับรุ่นน้องก่อน
“เดี๋ยวพี่จะรีบไปไหน” ไอ้แจ๊คน้องรหัสผมเป็นคนถาม
“รู้สึกมีลางสังหรณ์แปลกๆวะ ฝากไอ้กิตไว้กะพวกมึง ดูแลมันด้วย กูไปละเดี๋ยวมา” ผมรีบเดินออกมาทันที
พอมาถึงห้องน้ำ ผมก็เดินไล่หาที่ละห้อง เพราะเขาไม่ได้ยืนฉี่ที่โถ คงเขาไปในห้องน้ำแน่ๆ แต่เขาไม่ใช่ฟุบคาส้วมไปแล้วรึเปล่า
“อะภีมอย่าใจร้อนสิ เดี๋ยวเราถอดให้” เสียงคนที่พูดออกมาทำเอาผมหน้าชาไปชั่วขณะ
“เงี่ยนชิบ” เสียงภีม!!! ผมไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทำแบบนี้ ผมอยากจะตะโกนด่าหรือทำอะไรก็ได้ที่ผมพอจะทำได้ แต่ผมตัวแข็งไปหมด เพราะการกลัวความจริง...ความจริงที่เขานอกใจผมในระยะเผาขนเช่นนี้
“เดี๋ยวเราถอดกางเกงให้” เสียงนั้นดูกระหายไม่น้อย เสียงของผู้ชายที่คุ้นหู
“ผมเงี่ยนมากเลยคับ พี่พาย..” เสียงที่เขาเรียกชื่อผม ทำผมตื่นจากผวังแห่งความกลัว มันไม่ปกติแล้ว
“เราก็เงี่ยน ของภีมแข็งเต็มที่ละนี้ ใหญ่อย่างที่เราคิดไว้เลย” เสียงนั้นทำให้ผมโกรธจัด
“พี่พาย ภีมขอนะคับ อะ..เฮ้ย นายไม่ใช้พาย ปะ...ปล่อยเรา” เสียงภีมกระเส่า และเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย ขนาดที่เขาเริ่มรู้สึกว่าคนที่เห็นไม่ใช่ผม น้ำเสียงเขาแหบพลาอย่างรู้สึกได้ แต่ความกระเส่าในน้ำเสียงก็ยังทำให้คนฟังเสียวกระสันได้ ผมไม่รอช้าให้สถานการณ์เกินเลยไปมากกว่านี้ เลยถีบประตูห้องน้ำอย่างแรง ด้วยความโกรธของผม ประตูห้องน้ำก็พังในทันที คนข้างในดูตกใจจนนิ่งค้างไป
สิ่งที่ผมเห็นคือภีมถอดกางเกงออกเรียบร้อยนั่งบนชักโครก ส่วนไอ้เด็กเชี่ยนั้นนั่งที่พื้นพร้อมที่จะกลืนกินของภีมที่แข็งขึงให้เห็นเต็มตา
“อย่าเข้ามานะพวกมึง ไม่งั้นกูกระทืบเรียงตัวแน่” ผมบอกคนที่จะเข้ามาในห้องน้ำ สิ่งแรกที่ผมกลัวคือคนเห็นของภีมซะมากกว่า ทุกคนดูกลัวผม เพราะผมโกระจัดจนเหมือนจะระเบิดได้
“มึงออกมา” ผมกระชากมันที่กำลังชะงักออกมาจากห้องน้ำ พร้อมเหวี่ยงไปที่ประตูทางเข้า แทบเท้าคนที่ยืนอออยู่
“มึงมอมยาแฟนกูหรอ” ผมบอกก่อนจะเตะไอ้เด็กนั้นเข้าที่ท้องแบบไม่ทันตั้งตัว
“กูถามว่ามึงมอมแฟนกูหรอ” มันกลัวผมจนตัวสั่นในขณะที่ผมบีบปากมัน
“
ตอบ!!!” ผมพูดเสียงดัง
“กูวางยาในน้ำแข็ง” น้ำแข็ง? แย่แล้ว มิน่าไอ้ชายไอ้บอยถึงดูเสี้ยนนัก ดีที่ไอ้กิตมันหลับไปก่อน แต่มันหลับไปแล้วฤทธิ์ยายังอยู่รึเปล่า ส่วนผมไม่ค่อยกินน้ำ รู้สึกร้อนๆวูบๆบ้าง แต่ก็ยังคุมตัวเองได้อยู่ แบบนี้มันเกินไปแล้ว
“ไอ้เด็กเชี่ย” ผมบอกพลางต่อยมันไปอีกที ระหว่างที่ผมต่อยมันก็ได้ยินเสียงคนที่มุงดูกระซิบกัน “นี้มันพี่พาย ศิลปกรรมนี้หว่า” “สวยแต่โหดสัสอะ” “เขาต่อยเด็กนี้ทำไมวะ” “แย่งผู้ชายกันชัวร์” “ใครวะ” “กูอยากรู่ว่าผู้ชายคนนั้นใครวะ” “เขาเป็นแฟนภีมไม่ใช่หรนอ” และอีกมากมาย คำต่างๆนาๆที่ผมรับเข้ามาระหว่างที่ซ้อมไอ้บ้านี้ ชวนให้โมโหมากขึ้นจนรุ่นน้องผมก็กรูกันเข้ามาในห้องน้ำ
“เกิดไรพี่พาย ไอ้เด็กนี้หาเรื่องพี่หรอ” ไอ้แจ๊คน้องรหัสผมเป็นคนถาม
“ใช่ ลากมันไปที กูไม่อยากเห็นหน้ามัน” พวกรุ่นน้องรีบไปหิ้วปีกมันออกไป
“เดี๋ยวไอ้แจ๊ค มึงจะเอามันไปทำอะไรก็เชิญ กูรู้ว่ามึงชอบแบบนี้” ผมบอกไอ้แจ๊ค พอมันได้ยินที่ผมบอกก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์จนน่ากลัว
“ตามบัญชาคับนายท่าน” มันบอกก่อนโค้งเล็กๆให้ผม ไอ้แจ๊คมันเคยปลื้มผม ด้วยความที่ผมเป็นคนตรงๆ และไม่ยอมใครง่ายๆ แถมผมยังไม่สนใจคนอื่นๆ จนเหมือนไม่เคยกลัวอะไร มันเลยเห็นผมเป็นไอดอลของมัน ซึ่งผมแทบจะไม่เคยไปไหนกับพวกมันด้วยซ้ำ แต่เวลาขอให้ช่วยอะไรแม่งเต็มที่สุดๆ
“มึงจำไว้ไอ้เด็กอ่อน ผู้ชายคนนี้เป็นของกู ไม่มีใครมีสิทธิแตะต้องทั้งนั้น บทเรียนที่มึงจะได้รับ มึงต้องจำไปจนตาย” ผมโกรธจนทำอะไรที่อยากทำลงไป ผมส่งเด็กขาวๆแบบนั้นไว้ในมือไอ้แจ๊ค คงไม่รอดแน่ ถึงรู้แบบนั้น แต่ผมก็ไม่มีอารมณ์ที่จะดึงความดีมาหยุดไอ้แจ๊คหรือแม้แต่ตัวเองไว้
พอมันออกไปหมดผมหันมาหาภีมที่ดูจะเริ่มนั่งชักว่าว เพราะทนฤทธิ์ยาปลุกไม่ไหว
“ถ้าใครก้าวเข้ามากูไม่เอาไว้แน่” ผมบอกทุกคนที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ ทุกคนดูจะกลัวผมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้
“ภีม หยุดชักเดี๋ยวนี้” ผมเดินเข้าไปบอกภีมเสียงเข้ม
“พี่พาย พี่พายของผม ผมไม่ไหวแล้วคับ ผมอยากจริงๆ” ดูท่าต้องทำอะไรอย่างก่อนที่เขาจะชักจนแตกตรงนี้ได้อายคนทั้งผับแน่
“ไม่อยากได้พี่หรอ” คงต้องใช้ไม้ตาย
“อยากสิคับ ผมอยากได้พี่ที่สุด”
“งั้นก็ใจเย็น แล้วไปทำที่ห้องเรานะ” ผมบอกเขาก่อนจะดึงกางเกงเขาขึ้น รูดซิบใส่เข็มขัดให้เรียบร้อย ก่อนจะพยุงเขาออกมา เขาทั้งเมา และโดนยา ทำให้ผมเหนื่อยในการรพยุงเขาออกมาไม่น้อย ทุกคนที่ยืนดูอยู่รีบหลบทางให้ผมทันที
ระหว่างที่กำลังจะขึ้นรถแท็กซี่ ตอนนั้นเองที่ผมนึกขึ้นได้ว่าผมทิ้งไอ้กิตไว้กับพวกไอ้แจ๊ค แต่ไอ้แจ๊คมันลากเด็กนั้นไปแล้ว แล้วไอ้กิตละ ไม่เห็นอยู่ในกลุ่มไอ้แจ๊คเลย มันไปทิ้งไอ้กิตไว้ที่ไหนรึเปล่า ผมรีบโทรศัพท์หาไอ้แจ๊คทันที
“ไอ้แจ๊ค มึงทิ้งกิตไว้ในผับรึเปล่า” ผมถาม
“เปล่านะพี่ ไอ้เชนมันบอกว่าเดี๋ยวมันพาพี่กิตกลับเองให้ผมไปสนุกกันให้เต็มที่”
“ไอ้เชนหรอ มันรู้จักบ้านกิตหรอวะ” ผมอดเป็นห่วงไม่ได้ ถึงแม้ตอนนี้ภีมจะเกาะผมเป็นปลาหมึกก็ตาม
“มันบอกรู้จักพี่”
“มันไว้ใจได้เปล่าเนี่ย” เชนเป็นรุ่นน้องเงียบๆนั่งหล่อเซอไปวันๆ ผมเลยไม่ค่อยได้คุยด้วย
“ได้ดิพี่ ไอ้เชนมันเป็นคนดีที่สุดในกลุ่มผมละนะ” ไอ้แจ๊คพูดอย่างภูมิใจ
“อ่อ งั้นโอเค” ผมวางสายมันไป โล่งใจไป ไอ้แจ๊คพูดแบบนั้นผมก็คงไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว เลยพาภีมขึ้นแท๊กซี่อย่างสบายใจ
ระหว่างทางภีมพยายามซุกไซร้ผมตลอด ดีที่หออยู่ใกล้ ผมรีบพยุงเขาเข้าห้อง พอทิ้งเขาลงเตียงผมก็แทบหมดแรง แต่แค่นั้นคงไม่เรียกหมดแรงจริงๆ เพราะพอผมนั่งลงที่เตียงก็โดนภีมรวบตัวลงนอนในทันที คืนนั้นผมมีอะไรกับภีมไปไม่น้อยกว่าหกครั้ง มันรุนแรง และเร่าร้อน จนฤทธิ์ยาคลายลงตอนแดดส่องเข้ามาที่ห้องแล้ว
ผมลืมตาตื่นก็ช่วงตะวันกำลังคล้อยลงแล้ว ผมปวดเนื้อปวดตัวไปหมด ทำได้แค่เงยหน้ามองผู้ชายที่กอดผมไว้ เขายังคงหลับสนิท ผมลูบใบหน้าเขาด้วยความหวงแหน ผมจูบที่หน้าผากเขา จูบแก้มเขา และจูบปากเขา ผมกลัวเหลือเกินที่จะเสียเขาไป ตอนนี้ผมได้แต่กอดเขา เพื่อให้ตัวเองรู้ว่าภีมคือของจริง เขาอยู่กับผม และเป็นของผม แค่ไม่กี่อาทิตย์ที่เราเจอกัน มันกลับทำให้ผมรักเขาได้มากขนาดนี้ ผมรู้สึกเหมือนเรารู้จักกันมานาน แต่ผมก็นึกไม่ออกซะทีว่าเคยเห็นหน้าหล่อๆนี้ที่ไหน
“พี่รักภีมนะ” ผมกระซิบบอกเขาก่อนที่จะหลับไปอีกครั้ง เพราะความเพลีย
ผมงัวเงียตื่นขึ้นมากลางดึง เพราะผมเหนี่ยวตัวเหลือเกินกับกิจกรรมที่รุ่นแรงเมื่อวาน ผพยายามลุกขึ่นอย่างยากลำบาก ไม่คิดว่าร่างกายจะโดนกระทำได้มากขนาดนี้ มากจนเรี่ยวแรงแทบจะหายไปจนหมด ผมอาบน้ำอย่างเชื่องช้าที่สุด ความเย็นของน้ำช่วยให้ผมสดชื่น และไล่ความคิดที่แสนเหนื่อยล้าเมื่อวานหายไป แต่สิ่งที่รู้สึกได้มากกว่านั้นคือ ก้นผมมีเลือดออก มันเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าผมกับภีมเราทำกันมากขนาดไหน ผมได้แต่ล้างออกด้วยความยากลำบาก เพราะผมต้องล้างคราบอสุจิที่ภีมปล่อยข้างในครั้งแล้วครั้งเล่าด้วย พออกมาจากห้องน้ำก็เห็นภีมนั่งผิงหัวเตียงอยู่ เขาดูนิ่งขรึม และเศร้า
“โกรธผมรึเปล่าคับ” ภีมถาม
“ทำไมต้องโกรธคับ” ผมค่อยๆเดินไปหาเขา
“ผมไม่ระวังตัว เกือบทำให้พี่พายเสียใจ” เขาบอกอย่างสำนึกผิด
“คิดมากไปแล้ว” ผมบอกก่อนจะนั่งลงข้างเขาอย่างช้าๆ ยังเจ็บอยู่เลยแฮะ
“ผมโกรธตัวเอง” พอได้ยินประโยคนี้ ผมได้แต่ดึงเขามากอดเอาไว้
“โกรธตัวเองทำไม พี่ยังไม่โกรธภีมเลย นี้ขนาดภีมทำพี่ซะมากมายขนาดนั้น จนระบมไปหมด พี่ก็ยังไม่โกรธ” ผมบอกด้วยความรู้สึกจากใจผม พลางพูดเล่นนิดหน่อย เพื่อผ่อนคลายเขา เขากอดตอบผมแน่น
“ผมขอโทษคับ มันหยุดตัวเองไม่ได้เลย ยิ่งพอรู้ว่าได้ทำกับพี่ ผมกลับโลภอยากได้มากขึ้น และมากขึ้น”
“พี่เต็มใจ ฉะนั้นหยุดโทษตัวเองได้แล้ว”
“ผมรู้สึกโคตรไม่ดีเลยที่ทำแบบนั้น พอคิดถึงก็อยากต่อยไอ้เชี่ยนั้นเหมือนกัน” ผมได้แต่กอดปลอบเขา
“พี่จัดการไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็กลับมาเป็นภีมที่น่ารักของพี่ได้แล้ว” ผมได้แต่ใช้น้ำเสียงอ้อนเขาเท่านั้น ก็มันเป็นท่าไม้ตายเดียวที่ภีมชอบ
“จัดการ?”
“ด้วยวิธีที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อย่ารู้เลย”
“พี่นี้ร้ายจัง” ตอนนี้เขารวบตัวผมไปนั่งที่หว่างขาเขา โดยมีเขาซ้อนอยู่ด้านหลังกอดผมไว้
“โอ๊ะ...เจ็บ” ก้นผมเจ็บแปลบขึ้นมาเลย
“ขอโทษคับ เป็นอะไรมากไหม เดี๋ยวผมไปซื้อยาให้ดีกว่า” เขาดูรีบร้อนที่จะช่วยผม
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย พี่ว่างั้นนะ”
“หรือไปหาหมอไหมคับ” เขาพยายามจะอุ้มผม แต่เขาก็ดูหมดแรงเหมือนกัน
“พักเถอะคับ”
“แต่...”
“ไม่เชื่อพี่หรอคับ” ผมทำเสียงอ้อนเขาซะหน่อย
“นอนพักก็ได้คับ” เขาตอบตกลงก่อนจะดูดคอผมเบาๆ
ครือ----ครืด โทรศัพท์ผมมีสายเข้า พอหยิบมาดูก็เป็นไอ้กิตนั้นเอง
“ฮัลโหล”
--ไอ้พาย มึงทิ้งกูแล้วหนีกลับไปกับผัวหรอ— เสียงมันดูโมโหผมพอตัว
“เปล่านะ มีเรื่องที่ผับนิดหน่อยกูเลยฝากมึงไว้กับพวกไอ้แจ๊ค มีอะไรเปล่าเนี่ย” ผมถามอย่างสงสัย
--โธ่เว้ยยยย มึงฝากกูไว้กับใครไม่ฝาก มาฝากกูไว้กับพวกไอ้แจ๊คเนี่ยนะ—
“มึงเป็นอะไร เมื่อคืนไอ้แจ๊คบอกให้เชนไปส่งมึง เพราะเชนมันรู้ว่าบ้านมึงอยู่ไหน”
--มึงแม่งปล่อยกูไว้กับไอ้เชี่ยเชนอะ มันเลวที่สุดในคณะแล้ว— มันเริ่มโวยวาย
“อย่าบอกว่าเชนมันเอามึงไปทิ้งไว้กลางทางนะ แล้วมึงเป็นไงบ้าง ตอนนี้อยู่ไหน มีใครทำอะไรมึงเปล่า บอกกูมาดิ” ผมเริ่มตกใจจนอดถามเยอะแยะไม่ได้
--เปล่าๆๆๆๆ ไม่มีไร แค่นี้นะ— มันรีบตัดสายผมอย่างรวดเร็ว เป็นบ้าอะไรเนี่ยไอ้กิต
“พี่กิตโดนทำร้ายหรอคับ” ภีมถามด้วยความเป็นห่วง
“มันบอกเปล่า ช่างเหอะ เดี๋ยวค่อยไปเค้นคำตอบวันหลัง ตอนนี้พักผ่อนซะ” ผมบอกภีม เขาก็เขยิบมานอนราบปกติโดยมีผมในอ้อมแขนก่อนจะกระชับกอดผมแน่นขึ้น
“พี่รู้ไหม ผมรักพี่มานานแล้ว ผมรักพี่ตั้งแต่ ม.2 จนตอนนี้ปี 1 พี่ก็ยังเป็นคนเดียวที่ผมรัก” เขาเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปสักพัก ผมชะงักไปเล็กน้อยตอนที่เขาบอกแบบนั้น แต่ผมก็ใจเย็นฟังเขาพูดต่อไป
“พี่จำครั้งแรกที่เราเจอกันได้ไหมคับ” เขาถามขณะเอาจมูกคลอเคลียที่แก้มผม
“ที่ห้างหรอ” ผมตอบ
“ไม่ใช่คับ ที่โรงเรียนมัธยม ผมนั่งร้องไห้เพราะโดนแกล้งอยู่ในห้องน้ำ พอผมเปิดประตูออกมาพี่ก็เข้ามากอดผม และบอกว่า ถ้าอยากร้องไห้ ก็ร้องกับพี่ได้นะ ความเข้มแข็งต้องค่อยๆสร้าง เพราะปุบปับอยากจะมี มันไม่ใช่เรื่องง่าย แค่ประโยคนั้นของพี่ก็ทำให้ผมหลงรักพี่ในทันที ใจผมมันบอกว่าพี่คือสิ่งที่ผมต้องการมาตลอด คนที่ปลอบโยน และคนที่เข้าใจ” ผมอึ้ง และตกใจกับความจริงที่ไม่คาดคิด ผมพลิกตัวไปประชันหน้ากับเขาในทันที
“สะ...สโนว์บอล!!!” ผมบอกเสียงแหบพล่า
“ใช่คับ ผมคือสโนว์บอล”
TBC...