LOVE HIGH STORY – 29 – Nudge Nudge | สะกิดใจเกือบบ่ายโมง...
.
.
ต้าร์นั่งเจี๋ยมเจี้ยมเล่นเกมในไอพอดอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนโดยมีรัก-ยมหน้ายักษ์นั่งอ่านการ์ตูนขนาบข้างซ้ายขวาหลังจากที่เล่มเกมล่าทรเกรียนกันรอบสระเป็ดมากันจนหมดแรง...
ถ้าเรื่องนี้เป็นการ์ตูน สภาพของต้าร์ตอนนี้ก็คงจะประมาณว่า... ตาเขียว หัวโนปูดเป็นภูเขาสามชั้น และมีพลาสเตอร์ปิดอยู่ที่มุมปาก... ส่วนทีและโจก็คงจะมีรอยขีดข่วนและฟกช้ำไปทั่วตัวและใบหน้า... ทั้งหมดนี้เริ่มจากทีและโจโต้เถียงกันว่าลูฟี่หรือนารุโตะเก่งกว่ากัน ก่อนจะจบลงด้วยการที่ทีและโจร่วมมือกันรุมสกัมไอ้เปี๊ยกแสบตัวร้ายที่อาจหาญซัด(?)ลูฟี่และนารุโตะลงไปหมอบอยู่บนพื้นต่อหน้าต่อตา
.
.
.
ทางด้านร่างสูงที่นั่งเรียนอยู่กับเพื่อนๆ หลังจากที่เขาส่งข้อความไปกวนประสาทร่างเล็กและนั่งเล่นโทรศัพท์ตลอดครึ่งคาบ เขาก็เก็บโทรศัพท์แล้วหันไปสะกิดแบงก์ที่กำลังนั่งตั้งใจเรียนพลางจดโน็ตเพิ่มเติมลงในชีทเรียน
“ไอ้แบงก์”
“อะไร” แบงก์ถามโดยที่ไม่ได้ละสายตาจากชีทของตัวเอง
“เล่นเกมจุดกะกูเหอะ” ร่างสูงพูดพลางฉีกกระดาษจากสมุดของตัวเองแล้วยื่นปากกาแดงมาให้แบงก์
“เฮ้ย เล่นห่าไร เรียนก่อนดิวะ”
“เชี่ยเอ้ย เล่นกะกูหน่อยดิ กูต้องการคู่ฝึก” ใช่สิ เล่นไม่เคยชนะไอ้เปี๊ยกเลยสักครั้ง ฝึกเยอะๆ นะคุณโบ๊ท ฮ่าๆ
“ไอ้โบ๊ท มึงไม่เรียนมึงก็สอบผ่าน แต่กูเนี่ยไม่รอดแน่ เพราะฉะนั้นมึงเลิกสะกิดกูได้แล้ว”
“โหยยย มึงอะ... ไอ้เต็ม มึงเล่นกับกูเหอะ” เมื่อท่าทางของแบงก์ไม่มีท่าทีจะโอนอ่อน เลยหันไปชวนกึ่งบังคับเต็มแทน
“ไม่เอาอะ ปัญญาอ่อน” เต็มทำท่าไม่แยแส
“เหอะ ว่าเกมจุดปัญญาอ่อน... ว่าแต่มึงเหอะ มีปัญญาเอาชนะกูรึเปล่าไอ้เต็ม” เมื่อชวนดีๆ ไม่ยอมก็ต้องยุกันละ
“อย่าท้านะเชี่ยโบ๊ท”
“ก็ไม่ได้ท้า เพราะว่าดูก็รู้ว่ามึงแม่งอ่อน”
“ปากดี... พอเลิกส่งแมสเสจจีบเด็กก็หันมากวนตีนเพื่อนเลยนะมึง”
“จีบเด็กห่าไร”
“อย่ามาเฉไฉ ไอ้โบ๊ท กูรู้นะมึงคุยกับไอ้ต้าร์อะ”
“กู... กู... กูแค่ส่งไปเยาะเย้ยไอ้เปี๊ยกมันเฉยๆ หรอก แม่งแพ้เกมจุดกู” เหรอออออ ไม่บอกไม่ยักกะรู้นะเนี่ย...
“มึงเก่งขนาดนั้นเชียว? เห็นทุกทีบ่นว่าแพ้มันตลอด” ถึงจะถามไปแบบนั้น แต่น้ำเสียงของเต็มแสดงออกอย่างชัดเจนเลยว่าไม่เชื่อเพื่อนร่างสูงเลยสักนิด
“มันคงจะเก่งขึ้นแล้วละมั้งมึง เดี๋ยวนี้แม่งหมกตัวอยู่แต่ในคอนโดฯ สงสัยจะฝึกจิ้มทุกวัน เอ้ย ฝึกจุด ฮ่าๆๆๆ” ว่านที่นั่งฟังมาตลอดเอ่ยขึ้น เรียกเสียงฮาจากเต็มและแบงก์ได้ซะเต็มปาก... นานๆ พูดที แต่เล่นซะโบ๊ทจุกเลยนะนั่น
“...ไอ้พวกเหี้ย!”
“มาๆ ไหนกูขอดวลฝีมือกับมึงหน่อยสิ พ่อนักรบหน้ามน” ว่านกล่าวพลางลุกขึ้นเป็นสัญญาณให้เต็มเปลี่ยนที่กับตนเพื่อที่จะได้มานั่งดวลเกมจุดกับโบ๊ทได้ถนัดมือ
“มาเลย ไอ้ว่าน เดี๋ยวกูจะสั่งสอนให้มึงหุบปากเอง หึหึหึ”
ถึงทั้งสี่หนุ่มจะพยายามพูดให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนนักศึกษาคนอื่น แต่ก็คงยังเบาไม่พอเพราะว่าอาจารย์ถึงกับต้องออกปากว่า
“นี่กลุ่มหลังห้องนะ ถ้ามีธุระอะไรสำคัญก็ออกไปคุยกันข้างนอกได้นะ ผมไม่ว่า”... อุยยยย นี่ขนาดไม่ว่านะ เสียงดุเชียวครับอาจารย์... แฮะ แฮะ แฮะ
.
.
.
เวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึงบ่ายโมงครึ่งก็ได้เวลาเลิกเรียนเสียที โบ๊ทแอนด์เดอะแก๊งค์เดินออกจากห้องเรียน ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสยกเว้นพ่อยอดชายนายโบ๊ทของเรานั่นเอง... หน้าบูดเป็นตูดลิงแบบนี้เพราะอะไร ก็เพราะว่าแพ้เกมจุดนะสิ ถึงแม้จะแพ้แบบสูสี แต่เรื่องของเรื่องมันอยู่ตรงที่อันที่จริงแล้วว่านไม่เคยเล่นเกมจุดมาก่อนเลยแม้สักครั้งหนึ่งในชีวิต!! เฮ้อ โบ๊ทเอ้ย หันไปเอาดีทางอื่นเหอะไป...
ออกมาจากห้องได้สักพักก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกไปหาร่างเล็ก คุยอยู่เพียงไม่กี่ประโยคก็วางสายไป หันมาอีกทีก็เห็นสายตาของเพื่อนทั้งสามคนจ้องมอง... เอิ่มมม ออกจะแนวรีดเค้น...
“มีอะไร” โบ๊ทถามด้วยความสสัยในท่าทีของเพื่อนๆ
“ก็... ไม่มีอะไรหรอก... แค่อยากรู้ว่าหล่อๆ อย่างมึงเนี่ย ทำไมไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักทีวะโบ๊ท ดูอย่างไอ้แบงก์ดิ แม่งหน้าตาก็งั้นๆ แต่เสือกเปลี่ยนแฟนมาสองคนแล้วนะเว้ย” เต็มตอบพลางเดินไปกอดคอเพื่อนสนิท
“อ้าว พาดพิงกูซะงั้น... ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจ ความหล่อมันแค่ออพชั่นเสริมเว้ย” แบงก์ได้ทีก็ขอโวหน่อยละกัน อืมมม อันที่จริงแบงก์ไม่ใช่ไม่หล่อนะ เพียงแค่ไม่ค่อยสะดุดตาซะมากกว่า
“อย่างไอ้โบ๊ทอะ มันไม่ต้องการหรอกแฟนเฟินไรนั่นนะ” ว่านกล่าวขึ้น ทำเอาโบ๊ทถึงกับระแวง เพราะพูดออกมาทีทำเอาสะอึกได้ง่ายๆ
“ทำไมวะ” แหม่ๆ เต็มนี่เขารู้จังหวะชงจังหวะบ่างจริงๆ นะ ทำเอาโบ๊ทคันมือยิบๆ
“ก็ดูมันดิ ว่างซะที่ไหน... อะไรๆ ก็... ไอ้เปี๊ยกกกกกก” เป็นรอบที่สองของวันที่ว่านทำเอาเพื่อนๆ ฮากันเอร็ดอร่อย เว้นแต่โบ๊ทเนี่ยแหละที่ยืนสบถด่าเพื่อนๆ ที่ชงแล้วส่งกันเข้าขากรึ่บๆ
“ฮ่าๆๆๆๆ... ฮึ่บ! พอๆๆๆ หยุดหัวเราะก่อน กูขอจริงจังสักสองนาที” เต็มหยุดขำแล้วทำหน้าซีเรียส ยกมือเป็นสัญญาณให้เพื่อนๆ หยุดพูดหยุดหัวเราะจนกระทั่งทุกคนหันมาสนใจเขาเป็นจุดเดียว
“เออ ขอให้ซีเรียสจริงนะมึง ตลกแดกขึ้นมากูจะโบกให้” โบ๊ทพูดขึ้นโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้า
“เออ รับรองน่า... อะแฮ่มๆ...”
“...” ทุกคนตั้งใจฟัง... ถึงกับหยุดเดินกันเลยนะเนี่ย
“ไอ้โบ๊ท...”
“อ้าว เกี่ยวไรกับกูวะ”
“มึงยอมรับมาตรงๆ เหอะ ว่ามึงชอบไอ้ต้าร์ ใช่ไหม” ไม่ใช่แค่โบ๊ทหรอกนะที่ช็อกกับคำถามนี้ ว่านและแบงก์ก็ตกใจไม่แพ้กัน ไม่ใช่ว่าตกใจเนื้อหาของคำถามหรอก เพราะว่าเป็นสิ่งที่พวกเขาเองก็คุยกันมาตลอด แต่ที่ตกใจก็คือไม่คิดว่าเต็มจะถามออกไปตรงๆ แบบนี้... แต่แทนที่จะได้รับคำตอบใดๆ จากโบ๊ท เต็มกลับโดนโบกกบาลซะหัวคลอน
“กูบอกแล้วว่าถ้ามึงตลกแดกกูจะโบกมึง” ว่าแล้วก็ชิงเดินนำหน้าเพื่อนๆ ไปยังโต๊ะหินอ่อน... ด้วยใจที่เต้นรัว
.
.
“มึงนึกไงถึงถามไปแบบนั้นวะเต็ม” แบงก์สงสัย พยายามรั้งเพื่อนให้เดินช้าๆ เว้นระยะห่างจากโบ๊ทที่เดินนำอยู่ด้านหน้า
“ตอนแรกกูก็ไม่คิดจะถามหรอก ปล่อยให้พวกมันอยู่กันแบบนี้จนชิน แต่เมื่อเช้าตอนกูจอดรถ กูเจอไอ้ทีกับไอ้โจกำลังคุยกัน แล้วกูเห็นว่าหน้าพวกมันแม่งโคตรชั่วร้ายอะ กูเลยสนใจเข้าไปร่วมแจม...” เต็มอธิบาย
“แล้วคุยอะไรกันวะ”
“หึหึ... พวกมันกำลังคิดแผนง้างปากไอ้ต้าร์เพื่อนมันให้ยอมรับว่ามีอะไรกิ๊กกับไอ้โบ๊ทนะสิ”
“งั้นก็แปลว่าไม่ได้มีแค่พวกเราที่คิดแบบนั้น” ว่านพูดพลางลูบคางตัวเองเหมือนกำลังครุ่นคิด
“ก็เออดิ น้องๆ ในชมรมแม่งก็คิดเหมือนเรานี่แหละ แค่ไม่มีใครพูดเฉยๆ”
“อย่าว่าแต่ไอ้ต้าร์ปากแข็งเลย ดูเพื่อนมึงเหอะ ปากแข็งชิบหาย”
“เพื่อนกูก็เพื่อนมึงนะแหละไอ้แบงก์”
“เออวะ ฮ่าๆๆๆ”
.
.
.
เมื่อกลุ่มของโบ๊ทเดินไปถึงโต๊ะหินอ่อน ก็เห็นว่ามีที โจ ดรีม และอู๋กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน... ว่าแต่ต้าร์ไปไหน?... แล้วดรีมอยู่นี้ ดังนั้นโต้งก็ควรจะอยู่ด้วยสิ หายไปไหนละนั่น...
“ไอ้เปี๊ยกละ” นั่นไง ไม่ต้องสงสัยนาน มีคนเขาถามหาอยู่แล้วละ
“อ้าว พี่โบ๊ท หวัดดีพี่... ไอ้เปี๊ยกอะเหรอ มันนอกใจพี่ ควงโต้งไปซื้อขนมแล้ว ฮ่าๆ” ทีตอบติดตลกโดยไม่ลืมที่จะใส่ชื่อโต้งลงไปด้วย แอบหวังผลเล็กๆ
ถึงโบ๊ทจะเดินเข้าไปนั่งร่วมวงโดยไม่มีอาการอะไร แต่ก็มีหลายคนที่สังเกตเห็นแววตาขุ่นในสองตาคมคู่นั้น หลายๆ คนที่รู้กันต่างก็หันไปพยักหน้าส่งซิกให้กันเป็นเชิงว่า... รู้กัน
.
.
หนึ่งสาวสวยและชายหนุ่มทั้งเจ็ดจองบริเวณโต๊ะหินอ่อนสองโต๊ะนั่งคุยกันเรื่องสอบมิดเทอมที่จะเริ่มขึ้นในสองสัปดาห์ ทำเอาโบ๊ทงงเป็นไก่ตาแตกเพราะว่าไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยว่าวันสอบใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว... ดูเพื่อนๆ และน้องๆ รู้เรื่องกันหมด พอเอ่ยถามก็โดนเพื่อนทับถมว่าเอาแต่เล่นเกมจุด ไม่สนใจสิ่งที่อาจารย์พูด ทั้งๆ ที่อาจารย์ก็เพิ่งจะพูดถึงไปเมื่อท้ายคาบนี้เอง... โดนว่าไปเช่นนั้นไม่พอ ยังโดนรุ่นน้องตัวแสบอย่างทีและโจเสริมกำลังรุมเข้าไปอีก ฟ้องเพื่อนๆ ของโบ๊ทว่า เมื่อเช้าเข้าไปนั่งกับไอ้ต้าร์ก็เล่นแต่เกมจุดกันทั้งคาบ... ยัง ยังไม่พอ... นอกจากนั้นยังโดนแซวเรื่องเอาแต่ส่งข้อความคุยกับต้าร์ตลอดคาบเรียนอีกด้วย...
ชายหนุ่มทุกคนตรงนั้นแซวโบ๊ทที่กลายเป็นเป้านิ่งอย่างสนุกปาก... ส่วนหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวตรงนั้นท่าทางจะไม่ค่อยสนุกไปกับคำแซวสักเท่าไรนัก เห็นเอาแต่ยิ้มและหัวเราะแห้งๆ เท่านั้น... ส่วนอู่ก็นั่งนิ่งไม่ออกความเห็นใดๆ
โดนหนักๆ เข้า คนเป็นเป้าเริ่มไม่สนุกไปกับคำแซว โบ๊ทนั่งมองนาฬิกาด้วยแววตาขุ่น... ไอ้เปี๊ยกไปนานแล้วยังไม่กลับมาสักที... ว่าแล้วก็ลุกขึ้นจากกลุ่มเพื่อนไปซะดื้อๆ ทำเอาเพื่อนๆ งงกันทั่วหน้า
“โบ๊ท ไปไหนวะ” เต็มตะโกนถามไล่หลังรางสูงไป
“ไปไกลๆ หมาอย่างพวกมึง” โบ๊ทหันมาตอบพร้อมยักคิ้วให้... อืมมมม ท่าทางกวนตีนแบบนี้ไปได้มาจากใครกันนะ
.
.
.
ทางด้านกีต้าร์และโต้งที่กำลังเดินกลับจากร้านสะดวกซื้อ...
.
~Ma cosa hai messo nel caffè. Che ho bevuto su da te? C'è qualche cosa di diverso adesso in me~โทรศัพท์ของต้าร์ดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็เห็นชื่อรุ่นพี่คนสนิทโชว์หรา ต้าร์ยิ้มแห้งๆ ให้โต้งก่อนจะชี้ไปที่โทรศัพท์เป็นเชิงบอกว่า “ขอรับโทรศัพท์ก่อนนะ”... ถึงแม้ว่าจะเห็นชื่อคนโทรเข้าแต่โต้งก็ยิ้มให้แทนคำตอบ
โต้งปล่อยให้ต้าร์คุยโทรศัพท์ไปโดยที่ไม่คิดจะแอบฟัง... คิดอยู่ในใจเพียงว่าถ้าคนที่โบ๊ทโทรหาเป็นเขา เขาคงจะมีความสุขมากแน่ๆ... แต่เท่าที่เป็นอยู่ ณ จุดนี้เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรแล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนนี้ต้องคอยแอบอิจฉาต้าร์อยู่เสมอ แต่พอได้รู้จักต้าร์มากขึ้น ได้พูดคุยกันมากขึ้น กลับทำให้ความรู้สึกอิจฉานั้นหายไป อาจเป็นเพราะต้าร์คอยให้กำลังใจและเป็นที่ปรึกษามาตลอดก็ได้
“เอ่อ โต้ง เดี๋ยวเราต้องไปแล้วอะ” ร่างเล็กวางโทรศัพท์เสร็จก็หันมาบอกเพื่อนร่างโปร่ง
“อ้าวเหรอ ไปไหนละ”
“พอดีไอ้คุณโบ๊ทจะไปเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้พี่ชายนะ”
“ที่ไหนเหรอ”
“เซ็นทรัลลาดพร้าว”
“ไปกันสองคนเหรอ”
“อืม... โต้งไปด้วยกันไหมละ”
“เฮ้ยยย ได้เหรอ พี่โบ๊ทไม่ว่าเหรอ”
“ไม่ว่าหรอก ทำไมต้องว่าอะไรด้วยละ”
“ไม่รู้สิ... ต้าร์ไปเหอะ ถ้าเราเปลี่ยนใจแล้วจะตามไปนะ”
“เอางั้นเหรอ... อืมมม งั้นก็ไว้ตามมาแล้วกันนะ” ต้าร์กล่าวแล้วโบกมือลาก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง
.
.
โต้งมองแผ่นหลังเล็กเดินจากไป เขาถอนหายใจก่อนจะยิ้มแววตาหม่นให้กับตัวเองก่อนจะก้าวขาออกเดินกลับไปยังโต๊ะหินอ่อน... เมื่อไปถึงก็เจอคนมากมายนั่งคุยกันอยู่อย่างคึกคัก
“อ้าวโต้ง นึกว่าไปซื้อขนมที่ดาวอังคารแล้วนะเนี่ย” ดรีมแอบแขวะเพื่อนหนุ่มที่หายไปนานสองนาน ก่อนจะเขยิบตัวเว้นที่ให้โต้งนั่งลงข้างๆ
“ก็เว่อร์ไป” ร่างโปร่งกล่าวพร้อมรอยยิ้มจางแล้วทิ้งตัวลงนั่ง
“อ้าว แล้วไอ้เปี๊ยกละโต้ง” ทีเอ่ยถามเมื่อมองหาแล้วไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสนิท
“ไปกับพี่โบ๊ทแล้ว”
“ห๊ะ? ไปกับพี่โบ๊ท”
“พวกมันไปไหนกัน” แบงก์สงสัย
“อ้อ... นึกออกละ เมื่อเช้านี้เห็นพี่โบ๊ทบอกว่าจะไปเซ็นทรัลนี่นา” โจนึกขึ้นได้
“ไม่เห็นมันบอกพวกพี่เลย โหยแม่ง ไม่มีชวน” เต็มบ่น คิ้วขมวดจนจะเป็นเงื่อนพิรอด
“มันจะชวนคนอื่นไปทำไม ในเมื่อมันจะไปกับไอ้ต้าร์” ว่านกล่าวขึ้นเสียงเรียบพลางเล่นเกมมือถือไปด้วย ทำเอาทุกคนถึงบางอ้อกันในทันที
“เห็นไหมละ! สิ่งที่พวกเราคิดอะ ไม่ผิดแน่! ไอ้สองคนนั้นแม่งลึกซึ้งกัน” เต็มพูดพลางตบต้นขาตัวเอง
คนที่โต๊ะหินอ่อนนั้นเริ่มแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของโบ๊ทและต้าร์อย่างสนุกปาก ยิ่งไม่มีสองคนนั้นมานั่งปฏิเสธด้วยแล้วยิ่งลื่นไหล... จะมีก็เพียงโต้ง ดรีมและอู๋ละมั้ง ที่ไม่รู้สึกสนุกไปด้วยสักเท่าไรนัก
.
.
.
ร่างเล็กเดินเคี้ยวขนมเดินชิลไปที่ลานจอดรถ เมื่อไปถึงก็เดินตรงไปที่รถ BMW สีดำคันคุ้นตูดก็เห็นเจ้าของรถนั่งหน้าสลอนอยู่ในรถแล้ว ก็เลยเปิดประตูเข้าไปนั่งตามความคุ้นชิน... ร่างสูงเหยียบคันเร่งเคลื่อนรถออกจากมหาวิทยาลัยมุ่งหน้าไปยังเซ็นทรัลลาดพร้าว
โบ๊ทขับรถออกมาพ้นเขตมหาวิทยาลัยได้ไม่เท่าไร เสียงโทรศัพท์ของร่างเล็กก็ดังขึ้น แต่นั่นไม่ได้มีอะไรน่าสงสัยจนกระทั่งหางตาของโบ๊ทไปสะดุดเข้ากับท่าทีแปลกๆ ของต้าร์... ทำไมต้องเหล่ตามามองก่อนจะกดรับโทรศัพท์ด้วยละ
“โหลโต้ง ว่าไง”
...
“นี่เพิ่งออกมาได้สักแปบนี่เอง”
...
“อ้อ ใช่ เซ็นทรัลลาดพร้าว”
...
“ได้ๆ ถึงแล้วโทรมาละกัน”
...
“อือๆ บาย”
ต้าร์บอกลาปลายสายแล้ววางโทรศัพท์ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าตามเดิมก่อนจะหันมาเจอสีหน้าแปลกๆ ของร่างสูงที่หันมามองเขาระหว่างรอสัญญาณไฟจราจร... แบบนี้ท่าทางมีอะไรจะพูดแน่ๆ
“อะไร”
“...”
“เอ้า จะพูดอะไรก็ว่ามาดิคุณ มัวแต่ทำตาตี่ใส่อยู่นั่นอะ... โอ้ย!” นั่นไง โดนโบกเข้าให้
“ปากดีจริงนะเอ็ง” โบ๊ทพูดแล้วหันหน้ากลับไป
“...”
“...”
“เอ้า นี่ตกลงไม่ได้มีอะไรจะพูด?”
“...มี”
“งั้นก็ว่ามาดิ... มัวแต่เก๊กอยู่นั่นอะ”
“เมื่อกี๊โต้งโทรมาเหรอ”
“อืม”
“โต้งจะตามไป?”
“อืม ทำไมเหรอ”
“...โต้งจีบเอ็งเหรอ”
“เฮ้ยยยยยยย!! ไม่ใช่! ตลกละ นามสกุลเชิญยิ้มปะเนี่ยคุณโบ๊ท” ต้าร์ตกใจถึงกับร้องเสียงสูง ช็อกกับคำถามที่ไม่คาดคิดว่าในชีวิตนี้จะมีคนมาถาม แล้วอีกอย่างนะ ไอ้คนที่ถามเนี่ยแหละที่ไม่ได้รู้อะไรบ้างเลย!! ถามมาได้!!
“อย่ามาเฉไฉ” โบ๊ทหันหน้ากลับมาส่งสายตารีดเค้น
“...ตาตี่ขนาดนั้นยังจะหรี่อีก... โอ้ย!!” โดนโบกไปอีกหนึ่งดอก
“ไม่ต้องมาเบี่ยงประเด็นเลยนะ ไอ้เปี๊ยก”
“ไม่ได้เบี่ยงเฟ้ย... ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ไงละ”
“แน่ใจ?”
“แน่ยิ่งกว่าแน่อีก... โต้งมันไม่ได้จีบผมหรอกน่า... หึหึหึ”
“หัวเราะมีพิรุธอีกละนะเอ็ง”
“เปล๊า ไม่มีสักหน่อย... หึหึหึ”
“นี่เอ็งโกหกปะเนี่ย”
“โธ่ ไม่ได้โกหก... ว่าแต่... ทำไมถึงคิดแบบนั้นละ หือ?”
“ก็... ดูพวกเอ็งสนิทกันไว แล้วเดี๋ยวนี้ก็ดูโต้งมันมาเกาะแกะเอ็งมากกว่าเมื่อก่อน”
“เฮ้ออออ อันที่จริงผมไม่ควรจะพูดเรื่องนี้หรอกนะ แต่จะบอกไว้เลยว่าโต้งมันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว และที่คุณโบ๊ทมองว่ามันมาเกาะแกะผมเนี่ย ขอบอกเลยว่ามันมาปรึกษาปัญหาหัวใจของมันนะแหละ... วุ้วววว คิดไปไหนเนี่ย... เอ้าๆๆ ไฟเขียวแล้วนั่น”
“ปรึกษาอะไรกันนักหนา ถึงต้องคุยโทรศัพท์กันเป็นชั่วโมงๆ...”
“แหม่ๆๆ มันก็ต้องมีกันบ้างแหละนะไอ้เรื่องปัญหาหัวใ... เอ๊ะ... นี่มาแอบดูโทรศัพท์ผมเหรอ”
“...” ร่างสูงตีหน้านิ่งขับรถเนียนๆ ปล่อยให้ร่างเล็กจ้องด้วยสายตารีดเค้นอยู่อย่างนั้นโดยไม่คิดจะยอมรับหรือปฏิเสธ... นิ่งจนร่างเล็กต้องเป็นฝ่ายเลิกราไปเอง จ้องไปก็เมื่อยลูกตาป่าวๆ... ต่อไปนี้คงต้องเอามือถือเข้าห้องน้ำไปด้วยซะแล้วละ
อันที่จริงมันควรจะเป็นอะไรที่ทำให้กีต้าร์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้เลยนะที่มาแอบดูโทรศัพท์มือถือของเขาโดยที่พลการ... แต่ก็แปลกแต่จริงที่คราวนี้ต้าร์กลับไม่โกรธอะไร แค่ฟึดฟัดไปอย่างนั้นพอเป็นพิธี... และก็แปลกแต่จริงที่คราวนี้ต้าร์กลับรู้สึกดีอยู่ลึกๆ ในใจเสียด้วยซ้ำไป ดูสิแอบหันไปอมยิ้มให้กระจกอีกต่างหาก... อืมมมม แปลกแต่จริง
ส่วนเจ้าโบ๊ทก็เหล่มองร่างเล็กก่อนจะเผลออมยิ้มออกมา พอดีกับจังหวะดีเจคลื่นวิทยุเปิดเพลง “ให้ตอบว่ายังไง” ของเบล สุพล ดังขึ้น... จังหวะเพลงสดใส ชิลๆ สบายๆ แบบนี้คงถูกใจต้าร์กับโบ๊ทอยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะในบรรยากาศในรถ ณ จุดนี้... เอิ่มมมม แต่ฟังไปฟังมาเนื้อหามันทำเอารู้สึกจิ๊ดๆ อยู่ลึกๆ เหมือนกันนะเนี่ย...
http://www.youtube.com/v/NepWiyWXfgUนั่งฟังกันเงียบๆ จนจบเพลง รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้าคนทั้งสอง... ไม่ใครพูดอะไรออกมานอกจากดีเจเสียงใสที่บอกกับผู้ฟังทุกคนว่า
.
“โปรดติดตามตอนต่อไป”.
.
.
------------------------------------------------
[Bonus หลังไมค์]
ในคาบเรียน เมื่อว่านตบปากรับคำท้าดวลเกมจุดกันกับโบ๊ทแล้วก็...
ว่าน: มาๆ กูพร้อมแล้ว
โบ๊ท: จัดไป มึงแพ้แล้วอย่าหาว่ากูไม่เตือนนะสาดดด
ว่าน: เออ... ว่าแต่ มันเล่นยังไงวะ
โบ๊ท: ไอ้เชี่ยว่าน เล่นไม่เป็นแล้วยังอาจหาญมาต่อกรกับท่านโบ๊ทนะมึง
ว่าน: เออน่า อย่ามัวแพร่ม บอกกูมาว่าเล่นยังไง
โบ๊ท: นี่ไง กูให้มึงเริ่มก่อนเลย... มึงเลือกจุดก่อนเลยว่ามึงจะเริ่มตรงไหน
ว่าน: ตรงไหนก็ได้เหรอ
โบ๊ท: เออ ตรงไหนก็ได้
ว่าน: งั้นกูเลือกตรงนี้ (//จิ้มปากกาลงไปที่กลางหน้ากระดาษที่มีเส้นตัดเป็นตารางแล้วฝนเป็นจุดเล็กๆ)
โบ๊ท: อะ งั้นกูก็จะลงตรงนี้ (//จุดลงไปข้างๆ จุดของว่าน)
ว่าน: แล้วไงต่อ
โบ๊ท: มึงก็จุดต่อไปดิ หาทางล้อมจุดกู แล้วก็สกัดไม่ให้กูเชื่อมจุดล้อมมึงได้
ว่าน: อย่างนี้เหรอ (//จุดลงไปข้างๆ จุดของโบ๊ท)
โบ๊ท: อืม
ว่าน: อย่างนี้เหรอ (//จุดลงไปข้างๆ จุดของโบ๊ทอีกจุด)
โบ๊ท: เออ
ว่าน: อย่างนี้ใช่ปะ (//จุดลงไปข้างๆ จุดของโบ๊ทอีกจุด)
โบ๊ท: อืม
ว่าน: อย่างนี้ถูกไหม (//จุดลงไปข้างๆ จุดของโบ๊ทอีกจุด)
โบ๊ท: เออ ถูก
ว่าน: กูกินมึงละ
โบ๊ท: เฮ้ยยยย มึงขี้โกงนี่!!------------------------------------------------
FlapJack's Corner:
วันนี้คงเริ่มทำงานหรือเปิดเรียนกันแล้วละสิ ยังไงก็ขยันและอดทนกันไว้นะครับทุกๆ คน เริ่มปีใหม่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจก็น่าจะเป็นการเริ่มต้นปีที่ดีนะครับ
ตอนนี้มีเพลงเพิ่มมาด้วยหนึ่งเพลง อันที่จริงมันก็ไม่ถึงกับตรงกับอารมณ์ตัวละคร ณ จุดนี้หรอกนะ แค่มันเฉียดๆ ความรู้สึกเฉยๆ แต่ฟังแล้วมันแบบว่า "เฮ้ย เพลงนี้ต้องไม่พลาด ต้องยัดเข้าไปในนิยายให้ได้" เลยทีเดียว ฮ่าๆ
@iforgive ผลของแผนยังต้องรอกันไปอีกหน่อยนะ เพราะว่าแผนหลักๆ ยังไม่ได้เริ่มเลย
@RGB.__ ไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไรจากคนเมาได้มากน้อยสักเท่าไรนะเออ
@sakurai "หวังว่าจะมีอะไรดีๆนะ(บีบคอแจ็ค)" >>>
ปล. ไม่ลำบากหรอกครับ ผมมีคนให้คุยด้วยแค่เท่านี้เอง ไม่ได้เหนื่อยหรือลำบากอะไรหรอกครับ ผมชอบด้วยซ้ำนะ อย่างน้อยๆ ก็ได้พูดคุยกับชนกลุ่มน้อยบ้าง อ่านคอมเม้นท์แล้วมันก็คันมือคันปากอยากจะพูดอยากจะคุยด้วยนะ
@- คราส - สวัสดีปีใหม่ครับ
@greensnake ใช่แล้วละ เริ่มมีแววตาขุ่นแล้ว แต่ไม่ใช่ต้อกระจกนะเออ ว่าแต่ที่ว่าตั้งวงรอนี่มีเครื่องดื่มมึนเมาไหมครับ
@noomasoi3 "ไม่ได้กดดันนะแค่....รอ...ร๊อ...รอ" >>>
@yeyong "แผนแบบซับซ้อนมากกก" >>> ประชดใช่มะ
@princegolf สงสัยแผนเดิมมันจะไม่แมนพอสำหรับทีและโจเขามั้ง
@Theznux จะสำเร็จหรือเปล่า ต้องรอแผนหลักออกโรงก่อนนะ
@BeeRY สวัสดีปีใหม่ครับ ไปเที่ยวมาเหรอครับ มีของฝากมะ
@runningout ไม่ใช่แค่คนอ่านหรอกครับ คนเขียนก็ลุ้นเหมือนกัน (เอ๊ะ ยังไง )
@pim_onelove ทีกับโจเจอความสวยของดรีมเข้าไปก็อ่อนยวบแล้วละมั้ง
@aoommy ตอนแรกเอามาลงแค่ครึ่งเดียวครับ เลยดูสั้นไปนิด
@malula ผมว่ามันฟังออกไปแนวชั่วร้ายมากกว่านะ
@imonkey mc สวัสดีปีใหม่ครับ ยังไงก็มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงนะครับ
@JingJing ไม่สายเกินไปหรอกครับ... สวัสดีปีใหม่เช่นกันนะครับ ... "แผนตอนแรกดูเริ่ดมาก สุดท้ายเกรียนซะงั้น" >>> ผมก็ว่างั้นแหละ
@JAN ยินดีต้อนรับครับ อ่านรวดเดียวแบบนี้เหนื่อยไหมครับ อืมมม มันก็เยอะอยู่นะ ใช่มะ
@look_new นี่ก็หน้าใหม่นี่ มาๆ กอดต้อนรับก่อน ส่วนเรื่องบาส มันเป็นตัวละครที่เกิดขึ้นก่อนที่ต้าร์จะมาเจอโบ๊ทนะครับ ยังไม่มีบทในเรื่องนะครับ แค่เกริ่นๆ ไว้ครั้งสองครั้งเท่านั้น แต่จะออกมาในเรื่องนี้หรือไม่ เอาไว้รอดูพร้อมๆ กันนะครับ
@yunjae55 "อกเค้าแบนราบเรียบ(เดี๋ยวสิตูเป็นผู้หญิงนะเนี่ย... )บอกโต้งให้มาซบได้เลย" >>> ผมนั่งฮาคำที่อยู่ในวงเล็บจนปวดท้องเลยนะเนี่ย กร๊ากกกกกกก
เอาละ ตอนหน้า LOVE HIGH STORY ก็ขึ้นเลข 3 แล้วสินะ แต่คนเขียนยังเอ๊าะๆ อยู่นะเออ
เจอกันตอนหน้านะครับ คืนนี้ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ
ปล. +1 กันไปตามระเบียบ