แพทอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยอยู่ในชุดกางเกงบอลขาสั้น เสื้อยืดตัวโคร่งสีเทา ผมสีสวยที่ยังชื้นน้ำถูกขยี้เบาๆด้วยผ้าขนหนูจนหมาดเรียบร้อย
ร่างโปร่งทิ้งตัวลงนั่งไขว่ห้างลงที่ปลายเตียง หยิบรีโมททีวี กดปุ่มเปิดแล้วกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดที่ช่องแฟชั่นโชว์รอบดึกที่มีนางแบบฝรั่งสาวสวย ซึ่งส่วนใหญ่จะแต่งตัวน้อยชิ้นเดินไปเดินมาเพื่อพรีเซนต์เสื้อผ้าบนเวทีแคทวอล์ค
“โห หุ่นแม่งโคตร... ดูคนนี้ดิ” สายตาพราวระยับของแพทดูตื่นตาตื่นใจไปกับภาพนางแบบเซ็กซี่ที่เห็นในจอโทรทัศน์ก่อนพยักเพยิดให้อีกคนมองตาม นั่นเป็นเรื่องชินตาของมาวินมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาจึงไม่ค่อยใส่ใจกับมันสักเท่าไหร่
มีเพียงสิ่งเดียวที่เรียกความสนใจของเขาในตอนนี้ได้ก็คือกลิ่นสบู่หอมเย็นๆ และแชมพูสระผมที่ลอยมาเตะจมูกอยู่นี่ต่างหาก มันทำให้เขาไม่สามารถละสายตาและลบความคิดซี้ซั้วะในหัวออกไปได้สักนิด ในขณะที่แพทยังคงกดรีโมทเรื่อยเปื่อยต่อไปอีก
“แพท...” เสียงแหบทุ้มเอ่ยเรียกเบาๆ หลังจากที่ร่างโปร่งกระเถิบตัวขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงเรียบร้อย
“ว่า” เจ้าของชื่อหันกลับมามองตามต้นเสียงก่อนจะผงะถอยหลังเกือบตกเตียงเพราะมาวินดันยื่นหน้ามาใกล้จนใบหน้าอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งฟุต
“เฮ้ย! ตกใจหมด เรียกทำไม” ร่างโปร่งหน้าเหวอชักสีหน้าใส่มาวินก่อนใช้มือผลักไหล่อีกฝ่ายแรงๆให้กระเถิบออกไป
“ขอหน่อยดิ”
"อะไรวะ?” แพทขมวดคิ้วจนพันกันอย่างไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของอีกคนสักเท่าไหร่
“ขอ...” ริมฝีปากหนายังคงพ่นคำพูดประหลาดออกไปตามที่สมองสั่งการออกมาโดยไม่ได้มีการกลั่นกรองเลยแม้แต่น้อย
“จะเอาอะไรวะ รีโมทหรอ?” ร่างโปร่งเลิกคิ้วถาม ดวงตาคมเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความสงสัยพลางยื่นรีโมทให้อีกคนแบบงงๆ
มาวินจ้องมองรีโมทในมือที่ยื่นอยู่ตรงหน้าก่อนจะเหลือบตาคมดุขึ้นสบกับอีกคน ก่อนมือหนาจะใช้เรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดกระชากทั้งรีโมททั้งคนถือให้นอนราบลงกับเตียงก่อนจะขึ้นคร่อมร่างโปร่งให้อยู่ภายใต้การควบคุม
“
ขอทีดิ…”
“หา?” แพทหน้าเหวออย่างตกใจ มือขาวปล่อยรีโมททั้งผลักทั้งดันไหล่ของอีกคนให้ถอยออกไป
“อะไรของมึงเนี่ย!” เสียงสบถกร่นด่าของชายหนุ่มที่ตกอยู่ภายใต้กรงแขนของมาวินก่อนหมัดแน่นๆจะต่อยเข้าที่คางของคนด้านบนจังๆจนหน้าหัน รสเค็มปร่ากับกลิ่นคาวในปากของมาวินนั้นบ่งบอกว่ามีเลือดออก ลิ้นหนากลั้วที่มุมปากบรรเทาความเจ็บ
แต่สายตาคมกริบกลับจ้องกลับมาที่ใบหน้าสวยและพูดย้ำอีกครั้ง
“ให้กู”
แพทส่ายหัวดิก เขารู้สึกทั้งงง และอึ้งไปหมดกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น นี่มันจริงหรือความฝันกันแน่
“วินมึงเมาหรือสมองเสื่อมกันแน่ นี่กูนะ กูเป็นเพื่อนมึง กูเป็นผู้ชาย!” ร่างโปร่งพูดรัวจนลิ้นพันกัน มือสองข้างตอนนี้ดันอยู่ที่แผงอกของร่างด้านบนอย่างประหม่าแถมสายตาคมของมาวินยังไม่ละจากหน้าของเขาไปไหน
ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆก้มลงมาใกล้แพทขึ้นเรื่อยๆจนชายหนุ่มหลับตาปี๋ ที่หัวใจของเขากระตุกเต้นถี่รัวยิ่งกว่ารัวกลองไม่ใช่เพราะความเขิน แต่ว่าแพทกำลังจะช๊อคต่างหาก
‘ฉิบหายเอ๊ย!’ ปั่ก!“โอ๊ย!”
มาวินร้องเสียงหลงเมื่อความเจ็บปวดแล่นปราดขึ้นมาจากบางส่วนที่ขายาวของแพทสะบัดเตะเข้าอย่างไม่ต้องกะระยะโดยอัตโนมัติ
“เพื่อนเวร! ไอ้วินมึง!” ร่างโปร่งตะโกนเสียงดัง ก่อนจะใช้ขาถีบยันอีกคนออกไปจากตัว พร้อมกระโดดคร่อม รัวหมัดใส่ชายโครงของอีกฝ่ายยกใหญ่ มือขาวคว้าคอเสื้อยืดของอีกคน แถมท้ายด้วยการใช้ฝ่ามือตบกระโหลกไปเต็มแรงจนดังผัวะอีกหนึ่งที ก่อนร่างโปร่งจะยืนขึ้นบนเตียง
มาวินยกมือขึ้นกุมหัว ก่อนจะสะบัดเบาๆไล่ความมึนพลางพึมพำอย่างไม่พอใจ ในขณะที่อีกคนที่ยืนอยู่บนเตียงยกยิ้มอย่างถูกใจที่ปราบคนเมาสติแตกอยู่หมัด ก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ท้ายทอยของมาวินเพื่อเชิดใบหน้าคมขึ้นสบตา
“อดอยากที่ไหนมา สติแตกหรือไง!!” แพทว่าพลางใช้มือเขย่าหัวอีกคนอย่างเอาเรื่อง
มาวินยังคงจ้องกลับไม่ได้ละสายตาเช่นเดียวกัน
“ตอบกูสิวะ!!” ร่างโปร่งถามย้ำอีกรอบ มือข้างที่เหลือยันหัวเข่าข้างหนึ่งไว้ เพราะกำลังยืนอยู่บนเตียงจึงทรงตัวได้ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่
“กูไม่ได้อดอยาก” เสียงแหบทุ้มตอบ มือหนาของมาวินยกขึ้นจับแขนข้างที่ช้อนท้ายทอยของเขาไว้ ก่อนออกแรงกระชากให้คนที่ยืนทรงตัวไม่อยู่ โซเซนั่งทับลงมาบนตักแบบหันหน้าเข้าหากัน
“เฮ้ย!” แพทที่จู่ๆก็ตกเป็นเป้านิ่งทำอะไรไม่ถูก ปล่อยมือผละจากท้ายทอยของอีกคนไปวางบนบ่าหนาทันทีพร้อมทำท่าจะยันตัวขึ้นเพราะดูเหมือนว่าเขาเองจะนั่นแหละที่ตกอยู่ในความควบคุมของมาวินไปโดยปริยายแล้ว แต่คนด้านล่างกลับใช้แขนข้างหนึ่งรวบเอวของเขารั้งเข้ามาให้แนบชิดกันยิ่งขึ้นอีก
“แค่อยากได้มึง”
ใบหน้าทั้งสองคนห่างกันไม่ถึงคืบหรือเรียกว่าใกล้กันจนจมูกเกือบชนกันแล้วจะง่ายกว่า แพทเบิกตาโตเบือนหน้าหนี ทั้งผลัก ทั้งชกไหล่อีกคน แต่ยิ่งพยายามวงแขนแกร่งก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น อึดอัดไปหมดจนเกือบหายใจไม่ออก
ผู้ชายร่างโปร่งซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ผอมแห้งอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิงทั่วไปอย่างแพท แต่เอวบางๆที่คอดกิ่วของเขากลับดูเล็กบอบบางไปเลยไปเลยเมื่ออยู่ในวงแขนของมาวิน อยากจะโทษตัวเองที่กินยังไงก็ไม่อ้วนขึ้นมาก็ตอนนี้แหละ
“มาวิน!!” แพทเรียกซ้ำเสียงดังหวังเรียกสติอีกคนที่ยังใช้คงสายตาคมดุจ้องหน้าเขานิ่งเสียจนต้องเบือนหน้าไปมาซ้ายทีขวาทีเพื่อหลบหลีกอย่างเอาเป็นเอาตาย
“นี่มึงเมาไม่รู้เรื่องแล้ว!” ทั้งมือ ทั้งแขน ทั้งขาที่ดิ้นขลุกขลักพยายามอย่างเต็มที่ให้หลุดจากพันธนาการชวนสยองนี้ก็มันเล่นแนบชิดร่างกายแกร่งของอีกคนไปเสียทั้งตัว คิ้วเรียวขมวดมุ่นจนเป็นปม แถมการออกแรงมากๆในเวลานี้ทำเอาเหงื่อซึมเกาะพราวที่ใบหน้าของเขาเต็มไปหมด
“รู้เรื่อง” มาวินพึมพำเบาๆเหมือนพูดกับตัวเอง พลางกระชับวงแขนยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนที่พยายามเบือนหนีก่อนจะกระซิบเข้าที่ใบหู
“รู้ว่ามึงน่ารัก”
แพทอ้าปากเหวอ ก่อนจะยิ่งชักสีหน้ามากขึ้นอีก เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกยังไงดีกับคำพูดของอีกฝ่าย
“บ้าหรือไง กูเป็นผู้ชาย กูคงจะดีใจที่มึงชมหรอก!” ชายหนุ่มตะคอกกลับอย่างสุดทน มือขาวยันเข้าที่หน้าผากของมาวินเต็มแรงก่อนจะตบที่ปลายคางซ้ำรอยเดิมที่เขาเพิ่งประเคนหมัดไปเมื่อกี้
คนถูกตบไม่ได้ร้องโอดโอยและไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากยังคงตวัดสายตากลับมามองสบตาแพทนิ่งๆก่อนที่ริมฝีปากหนาจะยิ้มปรายที่มุมปากอย่างกวนอารมณ์
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อมือหนาข้างหนึ่งที่โอบเอวเลื่อนขึ้นมาโอบที่ไหล่ของแพทรั้งร่างกายให้แนบชิดกันยิ่งขึ้น ก่อนริมฝีปากกวนๆนั้นจะฉวยนาบลงมาบนริมฝีปากบางของแพทเอาดื้อๆ นัยน์ตาคมเบิกกว้างด้วยความตกใจมือขาวทั้งผลัก ทั้งดันร่างหนาให้ออกห่าง
ท้ายทอยของแพทถูกกดเพื่อเชยใบหน้าให้รับสัมผัสจากเขาอย่างแนบแน่นถนัดยิ่งขึ้นไปอีก ความร้อนที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มละมุนลิ้นจนเกือบจะเผลอปล่อยอารมณ์ให้เตลิดไป สุดท้ายคนที่ดิ้นขลุกขลักก็ไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน มือบางเกี่ยวเกาะไว้บนเสื้อยืดของอีกคนที่ถูกขยำจนยับยู่ยี่
‘ไม่โว้ย!’ อึก แฮ่ก..
เสียงหอบหายใจแผ่วๆดังขึ้นทันทีที่ริมฝีปากบางถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ปากอิ่มช้ำบวมเจ่อด้วยสัมผัสแรกที่ได้รับ อีกครั้งที่พวงแก้มใสขึ้นสีชมพูเรื่อๆจากความร้อนที่เริ่มก่อตัวขึ้นภายในร่างกายและการขาดอากาศหายใจ
“ไอ้เวร” แพทยกมือขึ้นถูริมฝีปากแรงๆก่อนสบถเบาๆ ตามด้วยการกร่นด่าพลางสาปแช่งในใจอีกเป็นพรวน ร่างโปร่งไม่วายดิ้นขลุกขลักทำท่าจะลุกขึ้นอีกให้ได้
‘ดุจริง’ มาวินยกยิ้มกวนอีกครั้ง ก่อนแผ่นหลังของแพทจะถูกกดราบลงบนเตียงนอนนุ่มตามด้วยเขาที่ตามทาบทับทันที
มือหนายังไม่ปล่อยให้ร่างโปร่งได้หายใจถนัดยังคงกอดรั้งไว้ เอาแพทขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจ
‘สนุกอะไรนักหนาวะ’
“ชอบก็บอกมาเถอะ”
“ไม่ชอบ!”
มาวินไม่ได้ตอบอะไรอีก หน้าตาของแพทนั้นบอกชัดเจนว่าคงไม่ชอบจริงๆ ทำไงได้ล่ะ...
“ก็กูชอบ”
ใบหน้าคมซุกลงบนลำคอขาวไล้ไปทั่วแผ่นอกบางราวกับต้องการตามหาจุดกำเนิดกลิ่นหอมหวาน ก่อนจะซุกหัวไปมาจนอีกคนจั๊กกะจี้
“เล่นอะไรของมึง?” กร่นด่าในลำคอทั้งๆที่รู้สึกอยากจะหัวเราะขึ้นมานิดหน่อยแล้ว แต่มันก็ยังรู้สึกแปลกๆกับการที่จะต้องมาเล่นอะไรแบบนี้กับเพื่อนตัวเอง แถมอีกฝ่ายยังเป็นผู้ชายโตเต็มตัวกันทั้งคู่ขนาดนี้ไม่ใช่เด็กๆ
จมูกโด่งถูไถไปมาแถวๆชายโครงของอีกคน จนคนด้านใต้หัวเราะร่วนก่อนจะดิ้นพล่านไปมาหวังให้หลุดออกจากอ้อมกอด แพทขนลุกเกรียวกราวอย่างไม่มีสาเหตุ
“วิน... ปล่อยสิ” ดูท่าแล้วจะไม่ดี ไม่ดีแน่ๆ ไม่ว่าจะแพ้แรงอีกฝ่ายหรืออะไรก็ตาม
มาวินยังคงซุกหัวลุ่นๆไปทั่วทั้งที่อีกคนยังมีเสื้อผ้าทุกชิ้นอยู่ครบถ้วน สงสัยจริงว่าเสื้อแพทหอมนักหรือไง
“ปล่อย... แล้วจะพาไปเลี้ยงเหล้า” ข้อเสนอที่หนึ่ง จมูดโด่งซุกลงตรงเอวบางลมหายใจร้อนที่ร่างโปร่งสัมผัสได้ผ่านเนื้อผ้านิ่ม ข้อมือขาวพยายามผลักดันหัวโตๆออก
“โธ่เว้ย! มาวิน กูเลี้ยงข้าวมึงทั้งเดือนก็ได้” ข้อเสนอที่สอง เสื้อยืดสีเทาถูกร่นขึ้นมาเล็กน้อยเผยให้เห็นวีเชพชัดเจน ที่เอวเล็ก ผิวเนื้อเนียนต้องอากาศภายนอกที่เย็นเฉียบ ก่อนคนด้านบนจะประทับริมฝีปากอุ่นลงไปเบาๆเล่นเอาร่างโปร่งสะดุ้งเฮือก
“เดี๋ยวกูแนะนำสาวๆให้ก็ได้นะ ปล่อยเหอะ” แพทออกถีบขาแรงหวังดันร่างกายตัวเองให้หลุดจากกรงมนุษย์เป็น ครั้งสุดท้ายแต่ก็ไม่สำเร็จ
อกบางกระเพื่อมหอบหายใจหนักๆเพราะความเหนื่อยและต้องอึดอัดในอ้อมแขนแกร่งของมาวินมานานสองนาน เหงื่อเม็ดเล็กๆยิ่งเริ่มผุดขึ้นที่ไรผมและร่างกายมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างโปร่งผงกหัวขึ้นมองอีกคนที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นมาจากท้องของเขาเช่นกัน ก่อนใบหน้าคมจะเคลื่อนเข้ามาใกล้จนหน้าแทบจะติดกัน
“ไม่เอา”
ได้ใจความที่สุด
แพทกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ตาคมไหวระริกไม่รู้ว่าจะกลัวมันทำไมก็เพื่อนกันแท้ๆ
แต่ตอนนี้สัญชาตญาณมันบอกให้เขารู้สึกว่าทุกอย่างมันกำลังจะแย่สุดๆ สองสายตาที่สบประสานกัน
ไม่รู้ว่าต้องการจะสื่ออะไรถึงกันกันแน่ มาวินยังคงจ้องหน้าแพทอย่างไม่ละสายตาไปไหน
“หน้ากูมีอะไรติดอยู่หรือไง” แพทเบือนหน้าไปอีกทางยอมแพ้ต่อนัยน์ตาดุอีกคู่จนได้
ความร้อนเริ่มจับตัวกันบนพวงแก้มใสอย่างจริงจัง
‘แดกกูเลยไหม?’ ใบหน้าของมาวินเคลื่อนเข้าใกล้ใบหูขาวก่อนกระซิบเบาๆอย่างไม่ต้องการคำตอบ
“เขิน?”
“ไม่ได้เขิน” ริมฝีปากบางขมุบขมิบเหมือนกร่นด่าให้พอมีเสียงลอดไรฟันออกมา
“งั้นมองหน้ากันหน่อยสิ เพื่อนกันไม่เห็นต้องอาย” มาวินก้มหน้าแนบชิด
จมูกโด่งละไปใบตามโครงหน้าสวยเบาๆ ก่อนจะสบตากับอีกคนที่ยอมหันหน้ากลับมาสบตาอย่างกลัวเสียฟอร์ม
“เลิกเล่นบ้าๆสักที มึงจะแกล้งกูอีกนานไหม?” ใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ แค่เพียงปลายจมูกขวางกั้น
“ล้อเล่นมากไปแล้ว กูไม่ตลกนะ… ” แววตาคู่นั้นสั่นไหว ชักจะยอมแพ้แล้วจริงๆ
“ไม่ตลก แล้วก็ไม่ได้ล้อเล่นด้วย”
ชั่ววินาทีก่อนที่ริมฝีปากหนาจะจูบหนักลงบนแก้ม เสียงแหบทุ้มกระซิบเบาๆแนบชิดใบหูบาง
มันเป็นคำพูดที่เร่งเร้าให้เลือดลมแข่งกันสูบฉีดขึ้นมาบนใบหน้าสวยจนขึ้นสีจัด
“เพราะกูจะเอาจริงๆ”
- TBC - สวัสดีค่า ทุกคนฝากเรื่องสั้นแนวเพื่อนสนิทไว้ในอ้อมใจ 1 เรื่องค่ะ
ฉากเอ็นซีต้นเรื่องไม่ถึงปลายทางก็ไม่นับเป็นเอ็นซีเนอะ 5555
เรื่องนี้แปลงมาจากฟิคคู่ที่เรือล่มสลายไปแล้วค่ะ
ถึงจะเป็นต้นฉบับก็คงมีคนเคยอ่านน้อยมาก หุหุ
เรื่องนี้ 2 ตอนจบค่า ไม่ต้องลุ้นนาน