::: ONE SHOT :::
เขาบอกว่าเขารักผม
แกร๊ง แกร๊ง
เสียงโซ่กระทบกันดังตามจังหวะการก้าวเดิน ก่อนที่เสียงจะหยุดลงตอนที่ผมไปหยุดยืนหน้าประตู และพยายามเขย่งเท้าเพื่อมองตาแมวบนประตู
“…”
หายไปไหนกันนะ?
ผมมองทางเดินว่างเปล่าข้างนอกด้วยความรู้สึกวูบโหวง
ผมคิดถึงเขาจัง
ผมกุมอกตัวเองที่อยู่ดีๆ ก็เจ็บแปลบขึ้นมาจนผมต้องครางหนักๆ ออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวด ทั้งๆ ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเจ็บปวดเพราะอะไร
รู้แค่ว่ามันเจ็บมากๆ
เจ็บจนเหมือนกับว่ามันเคยถูกทำให้แหลกสลาย
กินเวลาไปพักหนึ่งกว่าที่ผมจะควบคุมอาการตัวเองได้ ผมเดินลากเท้าไปยังห้องครัว เพื่อเปิดหาอะไรกินในตู้เย็นก่อนที่จะพบว่านอกจากน้ำเปล่าแล้วก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย
แย่จัง
ผมเบะปาก รู้สึกเหมือนจะร้องไห้เพราะปกติแล้วในตู้เย็นจะมีของที่ผมชอบเสมอ ซึ่งคนที่เตรียมให้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเขา
น้ำเปล่าก็น้ำเปล่า สงสัยออกไปซื้อของมาทำให้ผมกินล่ะมั้ง
ผมคิดปลอบใจตัวเองและเทน้ำใส่แก้วที่ซื้อมาใช้คู่กับเขา
“…”
ไม่มีน้ำ
ผมมองขวดเปล่าในมือตัวเองด้วยความรู้สึกงุนงงนิดๆ เพราะงงว่าทำไมถึงมีขวดน้ำเปล่าๆ ในตู้เย็น แล้วจะใส่ไว้ทำไม?
ผมทิ้งมันลงถังขยะก่อนที่จะไปเปิดตู้เย็นเพื่อเอาขวดใหม่มาเติม และพบว่าอีกสี่ห้าขวดในตู้เย็นก็เป็นขวดเปล่าเหมือนกัน ไม่มีขวดไหนมีน้ำเลยแม้แต่นิดเดียว
“…”
แกล้งกันรึเปล่า? ต้องแกล้งกันแน่ๆ เลยถึงได้ทำแบบนี้
ผมพยายามหาคำตอบให้ตัวเอง ซึ่งมันก็เป็นคำตอบที่ผมยอมรับได้ แต่ผมขมวดคิ้วมุ่นไม่พอใจนัก เพราะถ้าเป็นการแกล้งจริงนี้ก็ออกจะแรงไปหน่อย
ผมคอแห้งมากๆ เลย เหมือนไม่ได้กินน้ำมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว
ผมจ้องก๊อกน้ำอ่างล้างจานอยู่นาน ในที่สุดผมก็พ่ายแพ้ให้กับสัญชาตญาณของร่างกาย ยอมกินน้ำประปารสชาติแปลกๆ ที่ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่ากินได้จริงรึเปล่า แต่ผมก็เผลอกินไปหลายแก้ว เพราะนอกจากผมจะหิวน้ำแล้วผมยังหิวข้าวมากๆ ด้วย
อยากให้เขารีบกลับมาไวๆ จัง
ผมเผลอมองไปทางประตูอย่างอดไม่ได้
ผมคิดถึงเขาชะมัดเลย
งั้นไปอาบน้ำรอเขาดีกว่า เขาชอบผมเวลาตัวผมหอมด้วยกลิ่นสบู่ที่เขาซื้อมา
ผมเดินลากเท้าไปยังห้องน้ำ และเผลอหยุดชะงักหน้ากระจกบานใหญ่ที่ตั้งไว้ข้างประตู
“…?”
ใครกัน
ผมกระพริบตาปริบมองคนในกระจกที่มีร่องรอยบาดแผลน่ากลัวบนร่าง ทั้งรอยช้ำม่วงเต็มไปหมดบริเวณช่วงเอว ตามหน้าอกมีรอยฟันอย่างเห็นชัด แต่ที่เด่นชัดที่สุดเห็นจะเป็นต้นคอที่เป็นรอยมือสีแดงก่ำคล้ายกับต้องการจะบีบให้เจ้าของร่างตายกันไปข้าง
ผมผงะถอยกลับเผลอแตะต้นคอตัวเอง ก่อนจะหลุดเสียงออกร้องออกมา
เจ็บ…
คนๆ นี้คือผมแน่เหรอ?
ผมมองตัวเองในกระจกอีกรอบอย่างไม่แน่ใจนัก เพราะตัวผมเองนั้นปกติจะค่อนข้างดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้มีสภาพดูดีแทบจะตลอดเวลา ไม่มีทางเลยที่ผมจะปล่อยตัวเองให้เน่าแบบนี้ นอกเสียจากว่าผมจะป่วย
ผมหัวเราะหึและเดินเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ใส่ใจคนในกระจกอีก
ไอ้คนผมกระเซิงกระเซิงแผลเต็มตัวเหมือนโดนซ้อมนี้คงไม่ใช่ผมหรอก แล้วอีกอย่างใครจะซ้อมผม เขาเหรอ? ไม่มีทาง เขารักผมจะตาย
ผมเข้าไปในอ่างอาบน้ำและเปิดน้ำอุ่นใส่
เขาชอบผมตอนตัวผมหอมๆ ฉะนั้นผมก็จะอาบน้ำรอเขา ตอนที่เขาเจอผม เขาจะได้ดีใจ
ผมเผลอหลุดยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงสีหน้าดีใจของเขา ก่อนที่จะหลุดร้องเสียงร้องซี้ดออกมาตอนที่น้ำในอ่างเริ่มสูงขึ้นมาปริ่มระดับเอวของผม
แสบจัง
ผมก้มมองขาตัวเองก่อนที่จะพบว่ามันมีรอยคล้ายถูกของมีคมบาดแถมบางแผลก็ยังไม่หายสนิท มีเลือดไหลซึมออกมาเจือจางกับน้ำจนย้อมให้น้ำเป็นสีแดงจางๆ
เกิดอะไรขึ้นกับผมกัน..
ผมมองร่างกายตัวเองอย่างไม่เข้าใจนัก
มีโจรเข้ามาขโมยของแล้วทำร้ายผมเหรอ?
ใช่ ต้องเป็นโจรแน่ๆ ที่ทำกับผมขนาดนี้ แล้วเขาก็เป็นที่ช่วยผมออกจากการโจรพวกนั้น ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ เพราะเขารักผมที่สุด
ผมคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา
คือโลกทั้งใบของเขาที่เขาไม่สามารถหาจากใครได้อีก
“..ฮึก”
ทั้งๆ ที่มันเป็นแบบนั้นทำไมผมถึงรู้สึกเจ็บขนาดนี้ล่ะ
“..ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรย์ก็กลับมาแล้ว ไม่เป็นไร”
ผมปลอบประโลมตัวเองที่อยู่ๆ ก็ตัวสั่นขึ้นมาอีกครั้ง รู้สึกหวาดผวาดและพยายามดึงตรวนที่ข้อเท้าข้างซ้ายตัวเองออกอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อสิ่งที่ซุกซ่อนไว้ใต้สติอันพร่ามัวแจ่มชัดขึ้นมา
หนี.. ต้องหนี
ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงคิดแบบนั้น
แต่ร่างกายของผมก็ดิ้นรนตามคำสั่งของมัน
“แต่ถ้าเราหนี ใครจะรักเรย์ล่ะ”
ผมกระซิบกับตัวเองหากแต่มือผมก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะหาทางปลดตรวนออกจากข้อเท้าอันบอบช้ำ
หนี.. มีโอกาสก็หนีซะ
ต่อให้ต้องตายนายก็ต้องทำ
เสียงกระซิบในหัวพยายามเกลี้ยกล่อมผม ราวกับว่าการอยู่ในห้องของเรย์อีกเพียงหนึ่งวินาทีจะทำให้ผมตายได้ ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนเสนอตัวเองที่จะมาอยู่กับเรย์ด้วยซ้ำ
เรย์..
อาจารย์คนโปรดของผม
มนุษย์คนแรกและคนเดียวที่หลงรักผมที่เป็นเพียงเด็กขายตัวอย่างหัวปักหัวปำ
ไม่รังเกียจที่ตัวตนของผมนั้นสกปรกและไร้หัวนอนปลายเท้า เป็นเพียงมนุษย์สถานะรองในสังคมอันกว้างใหญ่ที่ไม่มีใครให้ความสำคัญหรือสนใจ
มีเพียงเรย์เท่านั้นที่ได้ยินเสียงผมร้องไห้
มีเพียงเรย์เท่านั้นที่ได้เห็นตอนผมมีความสุข
ไม่ ผมจะไม่หนี ผมอยากอยู่กับเรย์!
ผมเถียงกับเสียงและความพยายามในหัวที่ยังดึงดันให้ผมหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ ทั้งๆ ที่มันคือรังรักของผมกับเรย์ด้วยซ้ำ ทุกเช้าเราจะมีเซ็กส์กันก่อนที่ผมจะเป็นคนไปทำอาหารและรอแต่งตัวให้เรย์ที่อาบน้ำเสร็จ
ผมเขย่งสุดปลายเท้าเพื่อจูบเขาทุกครั้งก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน
เขารักผม
รักผมที่บางครั้งแม้แต่ตัวผมยังทนความไร้ค่าของตัวเองไม่ได้
ชีวิตของผมจะมีค่าได้ก็ต่อเมื่อมีเรย์เท่านั้น
ผมไม่อยากไป!
“!!!”
ผมเกือบจะร้องออกมาตอนที่เห็นน้ำที่ปริ่มจนล้นออกจากอ่างนั้นถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน
แผล แผลตรงไหนอีก
ผมสะอื้นฮักเพราะเมื่อมองแขนตัวเองถึงเห็นรอยกรีดยาวและแผลที่เปิดออก
เลือดสีแดงสดแบบเดียวที่เรย์ชอบก็ไหลบ่าออกมา
“ฮึก”
เจ็บ.. มันเจ็บมากจริงๆ
หนีสิ ถ้าหนีจากมันได้นายก็จะไม่เจ็บอีก
ชั่วขณะหนึ่งผมเกือบจะคล้อยตามเสียงในหัว อยากที่จะหลีกหนีจากความเจ็บปวดนี้ แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่มีทางสามารถปลดตรวนออกจากข้อเท้าด้วยมือเปล่า แม้แต่จะฆ่าตัวตายผมยังไม่กล้าด้วยซ้ำ
ของพรรค์นั้นอาศัยความกล้ามากเกินกว่าที่คนขี้ขลาดอย่างผมจะทำได้
ครั้งเดียว... ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้านายทำสำเร็จนายจะไม่ทรมานอีก
ปีศาจนี่ไม่มีปัญญาตามนายไปถึงนรกแน่!
“วิน”
ตัวของผมชาวาบตอนได้ที่ยินเสียงคุ้นเคย
ชั่ววินาทีนั้นที่จิตสำนึกและความรู้สึกของผมขัดแย้งกันอย่างรุนแรง
สู้กับมันเดี๋ยวนี้!!! วิน!!!!
ไม่ ผมสู้กับเรย์ไม่ได้ สู้ไม่ได้ สู้ไม่ได้จริงๆ
“อาบน้ำรอผมเหรอ”
ผมเงยหน้ามองเจ้าของเสียงนุ่มนวลและยิ้มจนตาหยีเมื่อเห็นหน้าเขา
เห็นได้ไหมล่ะ วิน นายไม่มีทางหาใครที่ดีกว่าเรย์ในชีวิตได้หรอก
คนที่ทั้งหล่อและโปรไฟล์ดีขนาดนี้
“ครับ”
ผมผงกหัวรับและช้อนตามองเขาอย่างที่เขาชอบ
“ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วยจนถึงเช้านะ พอดีช่วงนี้ที่บ้านสงสัยผมน่ะ”
เรย์ทำหน้ายุ่งคล้ายกับรู้สึกผิด
“แต่เรย์ก็มาหาผมแล้วนี่”
ผมพยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้นด้วยการพูดด้วยน้ำเสียงสดใส
โง่ ไอ้โง่ แกมันโง่ วิน
ผมไม่สนใจเสียงในหัวและขยับตัวขึ้นรับจูบหวานๆ ที่เรย์มอบให้ผม
จะว่าผมว่าอะไรก็ช่างเถอะ
ขอแค่ตอนนี้เรย์ ‘รัก’ ผมก็พอ
----------
ไม่ค่อยได้เขียนแนวนี้เลย เลยอยากลองเขียนดูค่ะ
#เขาบอกว่าเขารักผม