รอบทที่61นะครับ แบบว่า...
อ่ะ...
บทที่ 54
ชนินทร์ลืมตาตื่น...ร่างของเขานอนสบายมีคนห่มผ้าให้อยู่บนเตียง
รุ่งเช้า...เงียบสงัด ชนินทร์ลืมตาโพลงสักพักก่อนจะลุกขึ้นจัดกระเป๋า เตรียมพร้อมสำหรับความตั้งใจเมื่อคืน
ไป...ก่อนที่เขาจะกลับมายื้อไว้ให้เจ็บปวด
เสียงฝีเท้าของร่างสูงเดินเข้าใกล้ ชนินทร์ยิ่งเร่งมือ
“อรุณสวัสดิ์ครับ...”
กลิ่นไข่ดาวหอมฟุ้งไปทั่ว หากเป็นที่บ้าน...คงไม่มีอะไรดียิ่งกว่าการต้อนรับเช้าวันใหม่เยี่ยงนี้
“ชนินทร์...คุณ คุณจะไปไหน?”
ชนินทร์ไม่ตอบ ของชิ้นสุดท้ายลงไปในกระเป๋า ฝาปิดลงพร้อมกับถูกยกลงมาลากล้อบนพื้น
“เดี๋ยวซิชนินทร์!”
ร่างบางเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจ ทว่าถูกคนตัวสูงรั้งแขนไว้มั่น
“อย่ามายุ่งกับผม ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“แต่ว่า คุณจะไปไหน...ผมไม่ให้คุณไป ผมไม่ให้คุณไปไหนทั้งนั้น...ได้โปรด อยู่กับผม...”
“จะไปไหนก็ไม่ใช่เรื่องของคุณเลย ปล่อยผม คุณไม่มีสิทธิมากักขังผมอีกต่อไปแล้ว”
เมฆินรีบคุกเข่านั่งลงกับพื้น เกาะขาชนินทร์ไว้ เงยหน้ามองขึ้นมาด้วยแววตาเอ่อคลอ
“ผมขอร้อง...ได้โปรด ผมต้องการคุณ ผม...มีเรื่องจะขอร้องคุณ…”
ชนินทร์ขมวดคิ้ว
“เรื่องจะขอร้อง?”
“เมื่อวาน...ผมเพิ่งได้รับจดหมายจากที่ไร่...อาการของคุณแม่ผมท่านทรุดหนักลงมาก...”
“คุณป้า...น่ะหรือ?”
“ครับ ผมไม่รู้ว่าท่านเป็นอะไร...ไม่ยอมกิน ไม่ยอมนอน ไม่ยอมตอบสนองกับใคร...แต่คุณเชื่อมั้ยว่าท่านเรียกหาแต่คุณ ท่านเอาแต่เอ่ยชื่อคุณมาตลอด...”
ชนินทร์ฟังแล้วนิ่งอึ้ง อุทานน้ำเสียงเบาหวิว
“คุณป้า...”
“...ชนินทร์ กลับบ้านกับผมได้มั้ย?”
ร่างสูงเอื้อมมือมาจับ...ส่งแววตาเว้าวอน วูบแรกชนินทร์มีท่าทีโอนอ่อนลง
“แต่...เรื่องอะไรล่ะ นั่นมันแม่คุณ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เพราะคุณเป็นต้นเหตุทั้งนั้น!”
ชนินทร์เดินหนี แต่เมฆินตามติดๆ
“ผมรู้ครับ ว่าผมมันแย่ ผมมันเลวมากแค่ไหน แต่ตอนนี้ผมไม่ใช่คนเดิมแล้ว ผมอยากให้คุณมองผมใหม่...ผมอยากให้เราสองคนเริ่มต้นกันดีๆอีกสักครั้ง”
ชนินทร์มองด้วยหางตา
“มองคุณใหม่งั้นเหรอ?”
“...งั้น แค่คุณยังสงสารผู้หญิงแก่ๆที่ใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวังไปตามลำพัง แค่เพียงน้อยนิดเท่านั้น...ผมก็จะถือว่าชาตินี้คุณเป็นหนี้บุญคุณผมมากเหลือเกิน...”
“ไม่ต้องยึดถืออะไรหรอก เพราะเรื่องของคุณทุกวันนี้ผมก็แค่ทำไปเหมือนชดใช้กรรม”
ชนินทร์พูดปลงๆ แต่น้ำเสียงประชดประชัน เมฆินแอบยิ้ม...เดินตามตื้อต่อไป
“อย่าประชดอย่างนั้นซิครับ...สรุปว่า คุณยินดีช่วยเรื่องคุณแม่?”
ชนินทร์ทำเป็นไม่สนใจ ไม่ตอบ
“คุณชนินทร์ ตอบผมหน่อยเถอะ...นะครับ นะครับ...”
สวมกอดเบาๆจากทางด้านหลัง หวังจะได้แนบกาย...ทว่าเจ้าของร่างเล็กดิ้นหลุดมาแหวเสียก่อน
“นี่! คุณอย่าทำรุ่มร่ามนะ บอกแล้วไงว่าผมไม่ชอบ ยิ่งเป็นคุณ ผมยิ่งรังเกียจ!”
“แต่คุณคงไม่รังเกียจแม่ผมใช่มั้ยครับ?”
ชนินทร์เม้มปาก สีหน้าสุขุมเยือกเย็นอย่างกำลังใช้ความคิด
“ถ้าเป็นเรื่องคุณแม่ของคุณ...ผมคง...เต็มใจช่วย”
เมฆินเผลอฉีกยิ้มกว้างออกมา
“แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณป้าล้วนๆเลยนะ! ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลยสักนิด…ช่วยกรุณาแยกแยะให้ถูกต้องด้วย”
ว่าแล้วก็หันหลังกลับไป เมฆินแอบกำมือกลางอากาศดีใจ...ในที่สุด เขาก็หาทางให้ชนินทร์กลับไปอยู่ร่วมชีวิตกับเขายังที่ครั้งเก่าเคยมีความทรงจำร่วมกัน...ได้สักที
แม้มันจะเป็นการโกหกบริสุทธิ์เล็กๆน้อยๆก็ตามเถอะ...
“แล้วคราวนี้ คุณอย่าเกิดอาการบ้าคลั่งกีดกันแม่ตัวเองอีกล่ะ ผมไม่ช่วยแน่หากคุณทำบ้าๆแบบนั้น!”
ชนินทร์บอกลาปู่ลั่นและย่าสาย กราบขอบพระคุณที่ท่านทั้งสองให้ความเมตตาเอื้อเฟื้อแบ่งปันที่ซุกหัวนอนมาตลอดสามสี่เดือนที่ผ่านมา
พอถึงคิวทัตเทพ เด็กหนุ่มไม่ได้กล่าวคำร่ำลา เพียงแต่เดินเข้ามากอดเฉยๆ
ร่างสูงที่ยืนถือกระเป๋ารอกระแอมไอเบาๆ กระนั้นทัตเทพก็ยังไม่ยอมปล่อย จนเมฆินเริ่มตาเขียว ชนินทร์จึงได้ฤกษ์มานั่งอยู่ในรถข้างๆเมฆิน
รถแล่นกลับสู่หนทางมุ่งตรงสู่ไร่กิ่งกาญมณี ชนินทร์ไม่ปริปากพูดอะไรกับสารถีสักคำ คงเป็นเพราะความทรงจำต่างๆที่หวนกลับคืน ก่อให้เกิดความปันปวนมวลในท้องของชนินทร์จนเขาเริ่มรู้สึกเพลียผิดปกติ
ทางที่ใกล้ขึ้นเริ่มกระตุ้นเตือนความทรงจำ ชนินทร์นึกอยากย้อนเวลากลับไปก่อนที่เขาจะตกปากรับผิดชอบไอ้คำขอร้องบ้าๆนี่...
หลุมพรางที่เขาถูกความน่าสงสารล่อลวง และจิตใจที่อ่อนแอต่อความทุกข์ของคนอื่น…ทำให้ชนินทร์ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากอีกครั้ง!
เมฆินเห็นชนินทร์หน้าซีดเผือด
“คุณชนินทร์?...เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
เอื้อมมือไปแตะหน้าผาก ร่างบางกลับสะดุ้ง ปัดป้องออกทันที
แววตาระแวงทำให้เมฆินยิ่งรู้สึกผิด...
“ผมขอโทษครับ...”
มองตรงขับรถไปข้างหน้าอย่างเดียว...ส่วนชนินทร์พยายามสงบสติอารมณ์ กระทั่งรถแล่นเข้าสู่ทางเข้าช่วงสุดท้าย รถแล่นผ่านเรือนเล็กหลังเดิม...ชนินทร์แอบซ่อนม่านน้ำตาไว้ไม่ให้เมฆินเห็น...
รถจอดสนิทก็ตรงหลังเรือนใหญ่...มีแต่ความเงียบสงัด เมฆินก้าวช้าๆลงมาจากรถเพื่อวนมารับชนินทร์
“ถึงแล้วครับ...”
ชนินทร์ก้าวลงมายืน เข่าอ่อนไปหมด...บัดนี้...ต่อหน้าคือสถานที่ในความทรงจำอัน...เลวร้าย ชนินทร์ยืนน้ำตาคลอเบ้า ในที่สุดก็กลั้นไว้ไม่อยู่อีกต่อไป เมฆินเห็นได้แต่กำมือแน่น
“ชนินทร์...ผม...”
“คุณพาผมกลับมาอีกทำไม?...คุณคิดจะแก้แค้นผมอีกใช่มั้ย? เพราะคุณยังไม่พอใจ อยากจะทรมานอะไรผมอีกใช่มั้ย?!”
น้ำตาไหลพรั่งพรู เมฆินเตรียมใจไว้แล้ว ใจส่วนลึกอยากจะดึงร่างเข้ามากอดปลอบใจจะขาด
“ผมเปล่านะ ผมไม่ได้ต้องการจะทำแบบนั้นเลย”
“แล้วคุณทำไม...?” ชนินทร์พูดเหมือนคนสับสน ก่อนจะทรุดตัวลงกับพื้นปล่อยโฮ “รู้มั้ยสิ่งที่คุณทำ...มันเจ็บปวดมากเหลือเกิน...เกินกว่าที่จะอภัยให้ได้...ทำไมคุณต้องร้ายกาจกับผมถึงขนาดนั้น...ผมเจ็บ”
“ชนินทร์...คุณหยุดร้องไห้เถอะ ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว...ผมจะไม่มีวันทำร้ายให้คุณเสียใจหรือเสียความรู้สึกอะไรอีก ผมสัญญา”
รีบประคองคนไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาจากพื้น คนงานคงได้ยินเสียงวุ่นวายเลยออกมาดู เมฆินให้คนงานสองคนช่วยพยุงชนินทร์เข้าห้องพักที่เตรียมไว้ให้...
คงต้องใช้เวลา...อีกจะสักเท่าไรก็ตาม เขายอมทุกอย่างเพื่อให้ชนินทร์มีใจให้เขาบ้าง...แม้เพียงเศษเสี้ยวของหัวใจก็ยังดี...
โปรดติดตาม...นะ