(ต่อจากด้านบนค่ะ)พี่เขาเดินมาโยกหัวของผมก่อนจะคว้าถุงกับข้าวเดินเข้าไปในส่วนของครัว เป็นครัวที่ไม่ใหญ่เท่าไหร่ มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นเอาไว้ แต่อุปกรณ์ในครัวนี่ผมก็ชอบมาก ถูกใจทุกอย่าง ถามว่าคุ้มใหม่ คุ้มนะ ผมว่าราคาที่ผมได้ถึงจะไม่น้อย แต่มันก็ถือว่าถูกถ้าเทียบกับ ทำเล ขนาดห้องและเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างที่ผมได้มา แม้จะมีจุดที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ได้แย่มากเท่าไหร่ เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
“ซื้อมาเยอะจัง” ผมบอกเมื่อกับข้าวทุกอย่างวางอยู่ตรงหน้าแล้ว ผมกับพี่ฉลามต่างคนต่างก็กินไม่ได้คุยอะไรกัน คงจะหิวพอกัน กินอิ่ม เก็บล้างเสร็จถึงได้มานั่งเล่นกันที่โซฟามุมโปรดของผมเหมือนเดิม
“ห้องสวยดีนะ” พี่ฉลามชม
“อืม กลอนชอบ จริงๆก็เกรงใจพี่นุ๊กเหมือนกันที่ไม่ได้ซื้อที่โน้น” ผมบอก
“ไม่เกี่ยวเลย คอนโดนั้นพี่นุ๊กขายขาดหมดแล้ว แค่ดูแลส่วนกลางให้อยู่ บริการหลังการขายดีเยี่ยม”
“กลอนมาซื้อที่นี่ มันเดินทางสะดวกดี”
“งี้ก็อดแอบมองบ้านตรงข้ามแล้วสิ” พี่ฉลามพูดจบผมก็ถลึงตาใส่
“พี่ต่างหาก ระวังมองไปเจอบุ้งกับไอ้เด่นจู๋จี๋กันจะเป็นตาแดงเอาเหอะ” ผมรีบสวนกลับ
“ย้ายมาก็ไม่คิดจะบอกกันเลย พี่เป็นคนอื่นไปแล้วใช่ไหม” คราวนี้น้ำเสียงไม่ได้กวน แต่ออกแนวตัดพ้อจริงจัง ผมรู้สึกผิดนะเมื่อได้ยิน
“กลอนขอโทษนะครับ” ผมบอก ไม่มีอะไรจะแก้ตัว สำหรับพี่ฉลาม คนที่ผมคิดว่ารู้ในทุกสิ่งที่ผมทำ มันไม่มีประโยชน์ที่จะแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น
“ไม่อยากยกโทษให้เลย ใจร้ายว่ะ”
“กลอนรู้ว่าพี่รู้ ว่ากลอนคิดยังไง” ผมพูดจบพี่ฉลามก็ถอนหายใจเบาๆ
“แล้วกลอนเคยรู้บ้างไหมว่าพี่คิดยังไง” พออีกฝ่ายย้อนถามมา ผมก็พูดไม่ออก
“พี่ให้กลอนเลือกไปกับมัน เพราะไม่อยากให้กลอนรู้สึกติดค้าง แล้วทำไมตอนนี้ที่กลอนไม่มีใครแล้ว กลอนถึงเลือกที่จะไม่บอกพี่ ที่สำคัญ มันทำร้ายกลอน ทำไมไม่บอกพี่สักคำ” พี่ฉลามดูจะโกรธผมจริงๆ เมื่อกี้ยังอารมณ์ดีอยู่เลย ผมเลยไม่กล้าเถียงอะไร
“กลอนเลือกเขา ถึงเวลาที่กลอนไม่สามารถไปต่อได้ กลอนก็ไม่อยากเอาเปรียบพี่ ไม่อยากให้พี่รู้สึกว่าเพราะกลอนไม่เหลือใครแล้วถึงกลับมา ไม่อยากเอาเรื่องแย่ๆของกลอนมากวนใจพี่อีก”
“แปลว่าอยู่เองได้คนเดียวใช่ไหม สองเดือนที่ผ่านมา ไม่มีพี่กลอนก็มีความสุขดีใช่รึเปล่า” พี่ฉลามถามผม ผมไม่ได้ตอบ นั่งก้มหน้าน้ำตาจะไหล พี่เขาไม่เคยทำเสียงดุผมจริงจังขนาดนี้เลยตั้งแต่รู้จักกับมา มันดูซีเรียสจนผมใจเสีย
พอผมไม่ตอบ ก็ได้ยินเสียงพี่เขาถอนหายใจ สักพักพี่เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องผมไปเลย ผมน้ำตาตกทันที อยากจะลุกไปดึงเขา แต่ทำได้แต่คิด ผมสับสน ผมไม่รู้ว่าถ้าผมตัดสินใจทำไปแล้ว อนาคตผมจะต้องเสียใจอีกไหม มันจะมีอะไรผิดพลาดอีกไหม คิดบ้าบออยู่ในหัว นั่งก้มหน้าร้องไห้อยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า ผมกำลังจะเสียพี่ฉลามไปแล้วจริงๆเหรอ
แกร๊ก...
ผมได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา ไม่อยากเงยหน้าขึ้นมามอง กลัวจะไม่ใช่พี่ฉลาม กลัวจะผิดหวัง หวังว่าขอให้เป็นเขาที่เปลี่ยนใจกลับมา แล้วผมจะไม่ปล่อยพี่เขาไปอีก จนกระทั่งคนที่เดินเข้ามายืนตรงหน้าของผม เอามือวางบนหัวแล้วยีเส้นผมของผม
“พี่เดินออกไปยังไม่คิดจะรั้งเลย เฮ้อ จะใจร้ายกับพี่อีกนานแค่ไหนวะกลอน อยากเห็นพี่ร้องไห้เหรอ ถามจริง จะได้ร้องให้ดู” พอพี่ฉลามพูดจบผมก็โผกอดเอวพี่เขาเลย ร้องไห้เหมือนเด็กๆ
“อย่าไปนะครับ อย่ามีใครได้ไหมครับ กลอนขอโทษ กลอนไม่อยากให้พี่มีใครเลย พี่จะรู้สึกแย่ไหมที่กลอนไม่ได้เลือกพี่ในวันนั้นแล้วมาขอพี่แบบนี้ แล้วเรารักกันได้ใช่ไหม พี่จะไม่ทิ้งกลอนไปไหนอีกใช่ไหม พ่อกับแม่ของพี่จะยอมรับเราได้จริงๆใช่ไหมครับ เราจะทำให้ใครผิดหวังรึเปล่า เราจะไม่เลิกกัน ไม่โกรธเกลียด ไม่ผิดหวังในกันและกันใช่ไหมครับ” ผมพูดไปร้องไห้ไป พร่างพรูออกมาหมดราวกับว่าถ้าไม่ได้พูดผมคงไม่มีโอกาสได้พูดแล้ว
“หึหึ คิดอะไรเยอะขนาดนี้กลอน...” น้ำเสียงพี่ฉลามดูจะกึ่งขำกึ่งสงสารผม
“ก็กลอนกลัว”
“กลอนยังรักพี่ไหม..”
“รัก กลอนรักพี่ ไม่เคยไม่รักเลย”
“แค่นี้ก็พอแล้ว คิดแค่นี้ก็พอ”
“อื้อ..กลอนรักพี่” ผมพยักหน้าแล้วกอดเอวพี่เขาแน่นเลย
ร้องไห้จนหนำใจแล้วก็ขอตัวไปล้างหน้าล้างตา พอเดินออกมาอีกทีรู้สึกเขินๆเหมือนกัน เขินที่ทำตัวไร้สาระแล้วก็มานั่งร้องไห้เอง ยิ่งเห็นสายตาของพี่ฉลามที่มองมาผมยิ่งประหม่า ไม่คุ้นชินเสียทีกับสายตานี้ สายตาที่ทำให้หวั่นไหวได้ตลอด
“พี่เลิกกับพี่หมอแล้วเหรอ” ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพี่ฉลาม พี่เขายกมือขึ้นมาลูบๆที่ตาผม ตอนนี้มันบวมตุ่ยเลย
“ไม่ได้คบกัน”
“อ้าว ไหนว่าคุย”
“ก็คุย แล้วต้องคบเหรอ”
“จะไปรู้ได้ไง”
“ไม่เคยมองผู้ชายคนอื่นแล้วรู้สึกอยากเอามาเป็นแฟนหรอกนะ เกิดมาก็มีคนเดียวที่รู้สึกแบบนั้นได้ เล่นคุณไสยใส่เปล่าไม่รู้”
“บ้า มาตกหลุมเองจะมาโทษได้ไง” ผมคว้าแขนพี่ฉลามมากอด ผมทำแบบนี้ได้แล้วใช่ไหม
“กลอนถามจริงๆ พี่ไม่ได้ปี๊งใครบ้างเลยเหรอ” ผมถามพี่เขา
“มันก็มี แต่ก็ไม่ได้อยากสานต่ออะไร”
“เพราะกลอนเหรอ” ผมถามเพราะอยากรู้จริงๆ
“เออดิ ไม่เคยจะรู้ตัวเลย”
“ก็นึกว่ารักคนอื่นไปแล้ว นึกว่าพี่ลืมกลอนแล้ว”
“ใจฉันมีแต่เธอ มีแต่เธอคนเดียว นอกจากเธอไม่เหลียวแลใคร” พี่ฉลามร้องเป็นเพลงออกมาทำให้ผมขำอีก ทำไมรู้สึกว่าแพรวพราวขึ้นนะ
“อันที่จริงพี่ก็เป็นคนหนักแน่นรักเดียวใจเดียวดีเนอะ กลอนโชคดีจัง” ผมพูดแล้วก็เอาหน้าไปซุกๆกับแขนพี่ฉลาม ได้ยินเสียงพี่เขาหัวเราะก่อนจะจับผมมาให้มองหน้าเขา
“ก็เพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่าตัวเองเป็นคนแบบนั้น พี่ก็เคยอยากตัดใจนะ แต่มันทำไม่ได้ อดเป็นห่วงไม่ได้เลย คุยกับใครสักพักก็เบื่อ สงสัยชาติที่แล้วติดค้างเราเอาไว้เยอะมั๊ง ผมยอมแล้วครับท่านเจ้ากรรมนายเวร” พี่ฉลามพูดแล้วยกมือไหว้ผม ผมตกใจรีบจับมือพี่เขาลงแล้วตีที่แขนพี่เขาเบาๆพร้อมกับหัวเราะเพราะตลกท่าทาง
“ไหนว่าไม่เชื่อเรื่องชาติภพไง”
“เชื่อก็ตอนเจอเอ็งนี่แหละ” พี่เขาจิ้มหน้าผากผม ผมขำ คราวนี้พี่เขาดึงผมไปกอด
“เราเดินทางมาไกลจริงๆนะกว่าจะมาถึงวันนี้ จำได้ไหมที่กลอนเคยถามว่าเมื่อไหร่จะเป็นวันของเรา เป็นวันนี้ดีไหม” ผมฟังแล้วอยากจะร้องไห้อีกแล้ว นึกย้อนไป กว่าจะมาถึงวันนี้ ตัวผมเองก็ผ่านเรื่องราวมาเยอะจริงๆ
“ดีครับ เป็นวันนี้เลย แต่กลอนน่าจะรู้เร็วกว่านี้ กลอนจะได้ไม่ออกมาซื้อคอนโดไกลบ้านพี่”
“แสดงว่าคิดจะหนีพี่จริงๆใช่ไหม”
“ไม่ได้หนีนะ แค่หลบมาทำใจต่างหาก”
“ยังไงก็หลบพี่ไม่พ้นหรอก”
“ทำไมอะ มั่นใจจังนะ”
“ก็นี่ห้องพี่เองแหละ”
“ห๊ะ” ผมตกใจ ดันตัวเองออกมาจากอ้อมกอด เห็นพี่ฉลามยิ้มแฉ่งใส่ผมเลย
“เพื่อนมันเอามาจำนองแล้วปล่อยหลุด แต่ยังไม่ทันได้โอน พี่แอบให้พี่เหิรเอาไปให้กลอนดูก่อนเพราะเห็นพี่นุ๊กบอกกลอนหาซื้อห้อง เห็นกลอนชอบห้องนี้ก็โล่งใจ ลูกไก่ในกำมือแล้ว หึหึ อ่อ..เดี๋ยวเงินดาวน์ที่ได้มาจะคืนให้นะ ส่วนไฟแนนซ์ที่พี่นุ๊กจัดมาให้ เดี๋ยวพี่จัดการต่อเอง ไม่ต้องส่งแล้ว
“ไม่เอาครับ กลอนอยากซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงกลอนเอง แต่ทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย”
“ก็ที่นี่มันดี จะให้เปล่าๆเดี๋ยวก็ไม่เอาอีก จะให้เป็นค่าสินสอดก็กลัวแห้ว ใจแข็งชิบเลย จะช้ากว่านี้เดี๋ยวโดนคาบไปแดกอีก พี่เหิรบอกมีนายแบบมาจีบด้วยไม่ใช่เหรอ”
“กลอนไม่ใช่กระดูกนะจะได้โดนคาบ แล้วกลอนก็ไม่อยากรักใครแล้ว ขี้เกียจเจ็บบ่อยๆ”
“เอาน่า คราวนี้ไม่เจ็บแล้ว เอาหัวไอ้บุ้งเป็นประกันเลย” พี่ฉลามดึงผมไปกอดอีก นึกขำและนึกเคืองที่ทุกคนร่วมหัวกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ดี ขอแค่สุดท้ายแล้วผมจะได้อยู่กับพี่ฉลามได้นานที่สุดก็พอ
“กลอนไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เหมือนฝันเลย”
“หรือจะฝันอยู่” พี่ฉลามถาม ผมเงยหน้ามองพี่เขา ก่อนจะขยับตัวไปจุ๊บๆปากพี่เขาเบาๆ
“ไม่ได้ฝัน” ผมบอกแล้วหัวเราะ
“อาจจะฝันลึก”
“งั้นเดี๋ยวปลุกแรงๆนะ” ผมบอก พี่เขายักคิ้วให้
“ให้ไว ให้ไว” พี่เขาบอกจบผมก็เลยจัดการปลุกพี่เขาเลยครับ จะได้รู้กันไปว่าไม่ใช่ความฝันอีกแล้ว
....
...
..
..”คนเราถ้าคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกัน”..
มันก็คงจะจริงตามนั้น ผมเองก็ไม่ได้คิดจริงๆนะ ว่าสุดท้ายแล้วคนที่อยู่กับจนถึงทุกวันนี้ก็เป็นคนที่ผมคิดว่าเราไม่สามารถจะมาบรรจบกันได้อีก ผมคิดว่าผมกับพี่ฉลามอาจจะเป็นได้แค่เส้นขนาน เพราะในตอนนั้นเราคิดว่าแค่ความรักอย่างเดียวมันไม่พอจะให้คนสองคนครองคู่กันได้ เพราะรอบๆตัวเรายังมีเรื่องให้เราต้องใส่ใจ ต้องแคร์ ต้องเลือก แต่ในที่สุด เรื่องของผมกับพี่ฉลามทำให้ผมได้เปลี่ยนความคิด ความรักของเราทำให้เรามาถึงทุกวันนี้
ความรักทำให้เราเป็นห่วงเป็นใยกันเสมอไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะไหนต่อกัน มันยังคงเสมอต้นเสมอปลายเสมอ
ความรักทำให้เราเข้าใจกันแม้ในวันที่ไม่มีใครเข้าใจเรา เรายังคงยอมรับการตัดสินใจของกันและกันและอยู่กับมันด้วยความเข้าใจ
ความรักทำให้มองข้ามความผิดพลาดและพร้อมจะให้อภัย พร้อมจะยอมรับความผิดพลาดและให้โอกาสกันได้ ซื่อสัตย์ต่อกันไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน
ความรักทำให้เราเลือกที่จะกระทำต่ออีกฝ่ายด้วยการให้เกียรติครอบครัวของกันและกันและก็ให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วย
ความรักทำให้เรารู้ว่าการรอคอยเป็นแค่บททดสอบเพื่อรอเวลาที่เหมาะสมของมัน
ถ้าผมกับพี่ฉลามไม่มีคำว่า..ความรัก..ให้กัน สิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นได้ในระยะเวลาที่เราต้องห่างกัน และมันคงจะไม่มีวันนี้
ขอบคุณนะครับที่อ่านไดอารี่ของผมมาจนถึงบรรทัดนี้ เรื่องราวของผมมันอาจจะไม่ได้สวยงามทุกบทตอนของชีวิต แต่มันคือบทเรียนที่ผมน้อมรับมันด้วยความยินดี เพราะมันทำให้ผมเข้มแข็งและอ่อนแอในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันทำให้ผมรู้ค่าของความรัก
ผมเป็นชายรักชาย ความรักแบบที่คนส่วนใหญ่บอกว่ามันไม่จีรังเพราะผิดธรรมชาติ ความรักที่มักจะลงเอยด้วยความเจ็บปวด ผมอยากบอกว่า อย่าไปโทษความรักครับ ความรักไม่ได้เลือกว่าเพศไหนจะได้ครอบครองมันนานที่สุด ทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเราเองไม่ว่าจะเป็นเพศไหน เราเลือกได้ที่จะให้ตัวเองมีความสุขหรือเจ็บ ในขณะเดียวกันเราก็เลือกได้ที่จะรักษาเยียวยาและมองหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง เราทั้งนั้นที่ทำให้มันอยู่หรือจากไป
ผมขออวยพรให้คุณได้เจอความรักที่ดีและรักษามันเอาไว้ให้ได้ เพราะกว่าเราจะเจอมันหรือกว่ามันจะหาเราเจอ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ผมเองก็จะรักษาความรักครั้งนี้ให้ดีที่สุดและหวังว่ามันจะเป็นบันทึกรักบทสุดท้ายของผมที่ผมจะเขียนมัน
..กลอน..(ของพี่ฉลามคนเดียว)
“พี่ฉลาม กลอนเพิ่งเห็น พี่มาเขียนในวงเล็บต่อทำไมอะ”
“หึหึ ไม่ได้เหรอ ใจร้ายวะคนเรา”
************** จบบริบูรณ์*****************
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกันมาถึงบทสุดท้ายนี้ ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันไม่ปล่อยให้เดี่ยวดาย 55
และก็ขอบคุณที่ร่วมกันเอาใจช่วยให้กลอนได้พบกับรักที่สมหวัง กลอนสมหวังแล้วค่ะ แล้วก็หวังว่าท่านผู้อ่านทุกคนจะได้เจอคนที่ใช่และสมหวังในความรักเช่นกลอนนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ผู้แต่งด้วย ถ้ามีโอกาสได้มีผลงานมาให้อ่านอีก อย่าลืมกันนะคะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ รักท่านผู้อ่านทุกท่าน **ปล.คำผิดจะตามมาแก้นะคะ แต่ถ้าไม่ได้แก้เตือนได้นะคะ