ดวงใจจ้าวมังกร
Act.6 รุกคืบหน้า
...เสียงฝีเท้าหนัก ๆ คุ้นหูที่กำลังเดินเข้ามาภายในห้อง ทำให้ครีอุสเงยหน้าจากกองเอกสารที่ตนกำลังตรวจสอบอยู่ พลางยิ้มน้อย ๆ ให้กับคนที่เดินยิ้มอารมณ์ดีกลับเข้ามา
“ยิ้มแบบนี้ แสดงว่าเรียบร้อยแล้วสินะขอรับ”
คนสนิทจ้าวมังกรเอ่ยกระเซ้า แต่คนฟังกลับยักไหล่ก่อนจะเดินตรงมานั่งที่โต๊ะทำงานของตน
“ใครว่า”
“หือ?”
ครีอุสเหลือบตามองคนพูดอย่างแปลกใจ แต่ก็เห็นดราโกแย้มยิ้มกลับมาอย่างเจ้าเล่ห์
“เด็กนั่นใช้วิธีรุกซึ่ง ๆ หน้าไม่ได้หรอก ต้องค่อย ๆ ตะล่อมให้เคยชินกับสัมผัสของข้าเสียก่อน ...แล้วพอถึงตอนนั้น จะขอทำอะไรที่มากกว่าเดิม ก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป”
คนฟังเลิกคิ้วนิด ๆ แล้วจึงถามกลับไป
“ปกติท่านไม่เคยทำอะไรให้ยุ่งยากถึงเพียงนี้มาก่อนนี่ขอรับ”
ดราโกหัวเราะเบา ๆ ในลำคอกับคำพูดนั้นของคนสนิท แต่ก็ยังคงตอบกลับไปตามตรง
“ช่วยไม่ได้ ก็คนนี้น่าสนใจจริง ๆ นี่นะ”
“ท่านพูดจริง?”
ครีอุสถามกลับด้วยความสงสัย เพราะเมื่อตอนที่ดราโกบอกว่าสนใจน้ำฟ้า เขายังคิดว่าบางทีราชามังกรอาจจะไม่เอาจริงเอาจังอย่างที่ปากบอกนักก็เป็นได้
“แล้วใครว่าข้าล้อเล่นเล่า”
ดราโกบอกพร้อมกับเหล่ตามองคนถามอย่างไม่สบอารมณ์ขึ้นมานิด ๆ แต่พอพูดถึงน้ำฟ้า เจ้าตัวก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นยิ้มแย้มผิดจากเดิม
“ข้าสนใจเด็กคนนั้นจริง ๆ และไม่ได้สนเพียงแค่ร่างกาย ...แต่ข้าต้องการไปถึงหัวใจดื้อดึงดวงนั้นด้วย”
“ตกหลุมรัก?”
ครีอุสเลิกคิ้วถาม
“หือ? นั่นสินะ อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้”
ดราโกตอบง่าย ๆ ทำเอาคนฟังขมวดคิ้วยุ่ง
“ทั้งที่เปลี่ยนคู่ควงแทบไม่เว้นแต่ละเดือนนี่นะขอรับ”
“คนเรามันก็เปลี่ยนกันได้ เมื่อก่อนข้ายังไม่เจอเขา แต่ตอนนี้เจอแล้วนี่”
คำตอบพร้อมกับสีหน้าที่แสดงว่ากำลังตกอยู่ในห้วงรัก ทำให้คนสนิทของราชามังกรต้องถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงเปรยขึ้นยิ้ม ๆ
“ก็ขออวยพรให้อยู่ด้วยกันยืดยาวสักนิดแล้วกันขอรับ”
คำอวยพรที่แสนจะทะแม่งหู ทำให้ดราโกย้อนถามกลับอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“หมายความว่ายังไง?”
“เขาเป็นถึงเจ้าชายรัชทายาทแห่งฮาร์โมเนียนะขอรับ ทางนั้นก็ต้องมารับคนของเขาคืน”
ครีอุสบอกออกไปตามตรง ซึ่งเขาก็พอจะเดาคำตอบได้คร่าว ๆ อยู่แล้วล่ะว่านายเหนือหัวของเขาจะตอบกลับมาว่าอย่างไร
“ข้าไม่ให้เสียอย่าง ใครหน้าไหนมันจะกล้ามาพาเขาไป!”
ดราโกยืนกรานหนักแน่นปฏิเสธอย่างที่ครีอุสคาดเดาไว้ไม่มีผิด
“แล้วถ้าเด็กคนนั้นขอร้องล่ะขอรับ”
“ข้าไม่อนุญาตแน่ ... ไม่สิ ถ้าไม่ทำให้เขาพบกับคนของฮาร์โมเนีย มีหรือเด็กนั่นจะอยากกลับไป ยิ่งรู้ว่ากลับไปแล้วต้องเป็นชนวนสู้รบกับเรื่องชิงบัลลังก์ด้วยแล้วแบบนั้น”
“แล้วถ้าเขาอยากกลับไปยังมิติเดิมที่จากมาเล่าขอรับ ท่านจะทำเช่นไร”
องค์รักษ์คนสนิทตั้งคำถามต่อ ในสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ในอนาคตอันใกล้นี้
“...เด็กนั่นไม่มีทางรู้หรอกว่า จ้าวมังกรอย่างข้าสามารถข้ามมิติต่าง ๆ ได้เป็นอิสระ แค่ข้าบอกว่าการแปรปรวนของมิติยากที่จะคาดเดา เด็กนั่นจะคาดหวังอะไรได้... ถ้าไม่มีใครแถวนี้ไปบอกให้เขารู้ล่ะนะ”
ท้ายประโยคราชามังกรปรายสายตาดุ ๆ มองครีอุสนิ่ง ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วก้มหัวโค้งให้
“ถ้าเป็นความปรารถนาของท่าน ข้าเองจะขัดอะไรได้ ข้าก็แค่เตือนด้วยความหวังดีเท่านั้น”
ดราโกมองตอบอีกฝ่าย แล้วใบหน้าเคร่งขรึมจึงพลันเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มตามมา
“ข้าเข้าใจ”
จากนั้นราชามังกรจึงหันไปให้ความสนใจกับเอกสารตรงหน้าต่อ เห็นเช่นนั้นครีอุสจึงลอบถอนหายใจเบา ๆ แล้วทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือด้านการงานกับอีกฝ่ายเช่นเดิมดังที่เคยปฏิบัติมาทุกเมื่อเชื่อวัน
อีกด้านหนึ่งของปราสาทมังกร หลังจากถูกอีกฝ่ายปรนเปรอมอบความสุขให้ตนซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำฟ้าก็ถูกพาตัวมาไว้ที่บนเตียงใหญ่ ร่างเล็กเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยรอยฝากรักที่จ้าวมังกรมอบไว้เต็มไปหมด โดยที่เจ้าของร่างบัดนี้กำลังนอนเหม่อลอย ด้วยความอ่อนเพลียอยู่เป็นนาน และพอตั้งสติได้เจ้าตัวก็มีใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างลืมตัว
“บ้าที่สุด นี่เราใจง่ายถึงขนาดนี้เลยหรือ...”
น้ำฟ้าต่อว่าตัวเองที่เผลอคิดไปว่าแค่การเล้าโลมยังทำให้เขารู้สึกดีขนาดนี้ หากได้ลองร่วมรักกับราชามังกรจริง ๆ จะรู้สึกดีสักเพียงใดกันแน่
“ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหนแท้ ๆ”
เมื่อหวนคิดถึงว่าตนจะต้องกลับบ้าน กลับดินแดนที่เคยอยู่ เพราะป่านนี้ครูสมศรีและทุกคนคงเป็นห่วงเขาแย่แล้ว เด็กหนุ่มก็มีสีหน้าเศร้าขึ้นมา
น้ำฟ้าลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปยังระเบียงนอกห้องนอนของราชามังกร ยืนเหม่อเช่นนั้นสักพัก จนรู้สึกหนาวแล้วจามออกมาเบา ๆ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อมีอ้อมกอดอันอบอุ่นของใครบางคนมาจากทางเบื้องหลัง
“เด็กไม่ดี ...นี่เจ้ากล้ามาโชว์ร่างกายเปลือยเปล่า ในที่โล่งแจ้งเช่นนี้ เจ้าไม่เกรงว่าจะมีมังกรบ้ากามตนใดแอบลอบมองเจ้าบ้างรึ!”
น้ำฟ้าเม้มปากแน่น เขายอมรับว่าเขาเผลอลืมตัวเดินแก้ผ้ามายืนรับลมเล่นก็จริง แต่เพราะทั้งห้องไม่มีใคร และที่สำคัญ เขาไม่คิดว่าในอาณาจักรมังกรนี้ จะมีใครบ้ากามเท่าผู้ชายที่ยืนกอดเขาคนนี้อีกแล้ว
“ถ้าจะมีใครมองก็ช่างเขา เพราะแค่มองก็คงไม่ได้สึกหรออะไร”
น้ำฟ้าตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นเรียบเฉย แต่นั่นกลับทำให้คนฟังหงุดหงิดแล้วกอดร่างเล็กแน่นเข้าไปอีก
“ถึงมองก็ไม่ได้! เจ้าเป็นคนรักของข้า ข้าไม่มีวันให้ใครได้มาเห็นร่างเปลือยเปล่าของเจ้า ไม่ให้ใครได้ยินเสียงร้องครางอ่อนหวานเร้าอารมณ์ของเจ้า ไม่ยอมให้ใครได้เห็นใบหน้ากระตุ้นอารมณ์ของเจ้ายามที่เจ้าใกล้ถึงที่สุด ...”
“พอได้แล้ว!”
น้ำฟ้าหันมาตะโกนห้ามด้วยใบหน้าแดงก่ำ แต่คนหน้าด้านหน้าทนก็ยังคงเป็นเช่นเดิม แถมพอน้ำฟ้าหันหน้ากลับมา มังกรหนุ่มก็ก้มลงจูบที่ปากเชิด ๆ นั้น อย่างหากำไรอีกด้วย
“คนฉวยโอกาส!”
น้ำฟ้าบ่นพร้อมกับกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ ที่มักถูกคนตรงหน้าเอาเปรียบตนเสมอ
“ข้าจะไม่ทำแบบนี้แน่ หากข้าไม่สนใจคนผู้นั้น”
ดราโกกระซิบแล้วช้อนร่างของน้ำฟ้าขึ้นอุ้มแนบอก โดยที่คนถูกอุ้มอุทานเบา ๆ อย่างตกใจ
“ลมเริ่มแรงแล้ว เดี๋ยวจะเป็นหวัด กลับเข้าห้องกันเถอะ”
“ดะ...เดี๋ยวก่อน”
น้ำฟ้าแย้ง เพราะคำชวนกลับเข้าห้องของอีกฝ่าย มันแฝงไปด้วยน้ำเสียงกระเส่าและสายตาหยาดเยิ้ม ชนิดที่มองแล้วชวนให้เกิดสังหรณ์ไม่ดีพิกล
“มีอะไรหรือ?”
ดราโกแกล้งถาม มองสีหน้ากระอักกระอ่วนของเด็กหนุ่มก็พอจะรู้หรอกว่าเจ้าตัวกังวลอะไร
“...ผมคือว่า ...รู้สึกเหนียวตัว อยากอาบน้ำน่ะครับ”
“อืม อย่างนั้นหรือ?”
ดราโกพึมพำรับคำ ก่อนจะยิ้มกว้างตามมา
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปอาบน้ำพร้อมกัน ห้องอาบน้ำในห้องนอนนี่ ถึงจะไม่กว้างใหญ่เท่าห้องที่เจ้าเคยใช้ แต่ก็เพียงพอสำหรับเราสองคนที่จะลงไปแช่ในอ่างนั่นด้วยกันอยู่แล้ว”
น้ำฟ้าตาเบิกกว้าง ขืนปล่อยให้ไปแช่น้ำด้วยกัน มันจะไปต่างอะไรกับที่ยอมให้เจ้าตัวพาไปที่เตียงกันเล่า
“ผมว่า ผมอาบคนเดียวจะดีกว่า ...ผมอาบน้ำเร็ว แป๊บเดียวก็เสร็จ”
“อืม...แต่ข้าชอบอาบช้า ๆ แบบล้างเช็ดขัดถู ทุกซอกทุกมุมมากกว่านะ”
ดราโกแย้งพร้อมกับเริ่มทำตัว ‘ซุกซน’ ลวนลามเด็กหนุ่มในอ้อมกอดของตนทีละน้อย
“งะ...งั้นผมไม่อาบแล้วดีกว่า”
น้ำฟ้าบอกเสียงสั่น รู้สึกร้อนวูบวาบทั่วร่างขึ้นมาอย่างประหลาดอีกรอบ
“สายไปแล้ว...เจ้าทำให้ข้า ‘อยาก’ อาบน้ำ ขึ้นมาถึงเพียงนี้แท้ ๆ จู่ ๆ จะมาเปลี่ยนใจ ไม่มีทางเสียล่ะ”
ดราโกกระซิบขู่เสียงทุ้ม แต่ความหมายที่แฝงมากับถ้อยคำนั้นทำให้น้ำฟ้าหน้าแดงหนักมากยิ่งขึ้น และไม่ต้องรอให้เด็กหนุ่มหาเรื่องมาอ้างปฏิเสธ ราชามังกรก็เดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีหายเข้าห้องอาบน้ำไป เพียงไม่นาน เสียงครางหวาน ๆ และเสียงครางทุ้มต่ำของคนที่อยู่ในนั้นก็ดังเล็ดรอดออกมาเป็นระยะ ทำเอาบรรดาสาวรับใช้ที่นำเครื่องแต่งกายมาให้ทั้งคู่เปลี่ยนถึงกับถอนหายใจเบา ๆ แต่ก็ยังคงแอบสบตากัน ลอบยิ้ม พลางออกจากห้องไปทันทีที่งานของตนเสร็จเรียบร้อย เพื่อเตรียมไปจับกลุ่มซุบซิบนินทาถึงคู่รักคนใหม่ของนายเหนือหัวของตน
เหยี่ยวสีขาวบินโฉบลงมายังบริเวณหน้าผาแห่งหนึ่ง และเมื่อใกล้ถึงผืนดิน ร่างนั้นก็กลับกลายเป็นชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาว ฝ่าเท้าแตะลงสู่ผืนดินแผ่วเบา นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้มองไปรอบ ๆ ด้านบริเวณนั้นอย่างพิจารณา ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเบา
“ไม่มีวี่แววมนุษย์หลงเหลือแม้แต่น้อย ...หวังว่าเจ้าชายคงทรงปลอดภัย”
แองเซลพึมพำแผ่วเบา ก่อนจะตัดสินใจผิวปากเป็นทำนองแปลก ๆ ทว่าหลังจากที่ผิวปากไปได้สักพัก วิหคใหญ่น้อยนานาพันธุ์บริเวณนั้นก็บินลงมาเต็มบริเวณเบื้องหน้าที่ชายหนุ่มยืนอยู่
“พวกเจ้ามีตนใดพบเห็นเด็กผู้ชายชาวมนุษย์อายุราว ๆ 15-16 ปี ภายในวันสองวันนี้บ้าง”
หัวหน้าราชองค์รักษ์แห่งฮาร์โมเนียเอ่ยถามบรรดานกน้อยใหญ่เหล่านั้น ด้วยภาษาที่ฟังผิดแผกแปลกไป นกหลายตนหันมาจ้องหน้ากันไปมา แล้วต่างสั่นศีรษะสร้างความผิดหวังให้กับชายหนุ่มยิ่งนัก ทว่านกตัวเล็กสีชมพูตนหนึ่งกลับไม่ได้ทำเช่นตนอื่น มันนิ่งคิด แล้วจึงบอกออกไปในภาษาเดียวกับที่อีกฝ่ายสื่อสารมา
“ถ้าจำไม่ผิดข้าว่าข้าเห็น เมื่อวันสองวันก่อน มังกรดำตัวใหญ่บินผ่านบริเวณรังของข้า แล้วในอุ้งเท้านั่นคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นมนุษย์ แต่ข้ามองเห็นแค่แวบ ๆ ดูไม่รู้หรอกว่าเพศใด อายุเท่าไหร่”
แองเซลเบิกตากว้าง รีบกล่าวขอบคุณนกน้อยตนนั้น และกล่าวขอบคุณบรรดาวิหคทุกตนที่บินลงมาตามเสียงเรียกของเขา แต่พอชายหนุ่มกลับคืนสู่ร่างเหยี่ยวสีขาว นกสีส้มหนึ่งในนั้นก็เอ่ยเตือนขึ้นมาเสียก่อน
“ถ้าเป็นมังกรดำ อย่างที่เจ้านกถิ่นตะวันตกเล่าจริง นั่นอาจจะเป็นถึงราชามังกรแห่งอาณาจักรมังกรก็ได้ เพราะราชามังกรนั่นชอบมาเล่นน้ำตกบุปผาในป่าแห่งนี้ประจำ ซึ่งมังกรตนอื่นไม่ค่อยจะกล้ามา เพราะถือเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตนของจ้าวมังกรของพวกมัน”
พอได้ยินนกสีส้มเอ่ยดังนั้นนกตัวอื่นก็พากันซุบซิบไปมาอื้ออึง
“ราชามังกรตนนั้นน่ะหรือ ที่อารมณ์ร้าย ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยนักสินะ”
“ใช่แล้วล่ะ แถมยังเป็นราชามังกรที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาราชามังกรทุกรุ่นที่ผ่านมาอีก”
“แล้วก็ยังหัวดื้อหัวรั้นไม่ฟังใคร เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่งด้วย”
อีกตนช่วยเสริม ทางด้านแองเซลลอบถอนหายใจกับข่าวที่ได้ยิน แต่ก็ยังคงโค้งศีรษะกับวิหคตนอื่นอย่างสุภาพ
“ขอบคุณพวกเจ้าทุกคนที่เป็นห่วง ข้าจะระวังตนไม่ให้เผลอไปก่อความรำคาญใจกับราชามังกรผู้นั้นแล้วกัน”
บอกแล้วแองเซลก็เอ่ยคำอำลากับวิหคเหล่านั้น ซึ่งพอแองเซลจากไป ต่างฝ่ายก็ต่างแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางเช่นเดียวกัน
--- TBC ----มาแล้วค่าตอนใหม่ นายดราโกของเรายังคงเป็นมังกรที่ดี(?) ลวนลามน้องน้ำฟ้าแต่พองาม แต่หลังจากนี้ก็ไม่แน่ล่ะนะ --... เรื่องนี้คงไม่ใช่นิยายที่ยาวมาก แต่ก็คงไม่สั้นจนเกินไป ช่วงนี้จะพยายามลงให้ต่อเนื่องค่ะ เพราะกลาง ๆ เดือนต้องทำบ้านใหม่ อาจจะหายหน้าไปบ้างล่ะนะคะ ^ ^"
ป.ล. ช่วงนี้เปิดรีปริ้นท์สำหรับคุณตำรวจยอดรักใหม่ค่ะ วันนี้ - 5 มิถุนายน 2554 ใครที่ไม่ทันคราวก่อนแล้วถาม ๆ มา ก็เมล์มาสอบถามเลขที่บัญชีได้นะคะ ที่ novelpat (แอด) gmail.com ค่ะ ใครไม่เคยอ่านลองไปอ่านได้ค่ะ
คุณตำรวจยอดรัก ..
.