❤❤ PROMISE รักหรือเปล่า ❤❤ [ตอนที่ 21]★ 23/08/19 ★ P: 22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤❤ PROMISE รักหรือเปล่า ❤❤ [ตอนที่ 21]★ 23/08/19 ★ P: 22  (อ่าน 134283 ครั้ง)

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46




** วันนี้อัพสองตอนนะคะ มีตอนที่ 14 อยู่ด้านล่างด้วย (ท้ายๆ ของหน้า) **




ตอนที่ 13
คนสำคัญ

   

“อาทิตย์นี้พี่ขุนยังยุ่งอยู่อีกเหรอ”
   
“อืม” วาริชพยักหน้า เขาเห็นความสงสัยในสายตาของจีรดาแต่อีกฝ่ายไม่พูดมันออกมา
   
“ไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้ว”
   
“ก็ตั้งแต่ไปค้างที่บ้าน”
   
“งั้นเหรอ”
   
“จีมีอะไรหรือเปล่า” ดวงตาของวาริชหรี่ลง จีรดาเป็นคนเก็บอาการไม่ค่อยเก่ง ความรู้สึกจึงมักจะแสดงออกมาทางสีหน้า
   
“เปล่าไม่มีอะไร” เสียงที่ขึ้นสูงและดวงตามีพิรุธทำให้เขายิ่งมั่นใจมากขึ้น
   
“จี”
   
“ก็บอกไปสิว่าวันก่อนเจอเพื่อนฉันที่เรียนคณะเดียวกับพี่ขุน มันบอกเพิ่งสอบย่อยเสร็จ ไม่เห็นปีสี่ยุ่งอะไร”
   
“สิงห์!” ดวงตาของจีรดาเบิกกว้าง เธอเขม่นตาใส่เพื่อน ก่อนหันกลับมามองวาริชด้วยรอยยิ้มแหย
   
“มันอาจไม่มีอะไรก็ได้”
   
“เราเข้าใจ” เขาบอกเพื่อให้เพื่อนสบายใจขึ้น
   
“โปหมายถึงเข้าใจเราหรือเข้าใจพี่ขุน”
   
“เข้าใจทุกคน” เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มบางที่ริมฝีปาก
   
“ไม่กังวลเหรอ”
   
“จะเหลือเหรอ” รอยยิ้มกว้างออกในทันที เขาหัวเราะเบาๆ “กังวลอยู่แล้ว ตอนนี้ในหัวก็คิดไปสารพัดแต่ก็เข้าใจได้ คนหนึ่งไม่ยุ่งก็ใช่ว่าอีกคนจะต้องไม่ยุ่งด้วย”
   
“จริงด้วย” สีหน้าของจีรดาดีขึ้นทันที
   
“ถ้าอยากรู้ก็ไปหาพี่ขุนเลยสิ” สิงหาไม่ชอบอะไรที่ค้างคาใจอยู่แล้วเขาจึงโพล่งออกมา
   
“ไม่ดีมั้ง” เขาสองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็อยากรู้ แต่ใจหนึ่งก็บอกว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ
   
“แล้วก็มานั่งหงอยเป็นหมาถูกทิ้งอยู่แบบนี้เหรอ”
   
“เกินไป” วาริชหัวเราะ เขารู้สึกดีขึ้นเพราะขำเพื่อน
   
“เอางี้ นายก็ซื้อขนมไปฝากพี่ขุนสิ ถ้าพี่เขายุ่งจริงก็เหมือนไปให้กำลังใจ”
   
“แบบนี้ก็เข้าท่านะโป” จีรดาเห็นด้วยกับความคิดของสิงหา
   
“ก็ดีเหมือนกัน”
   

วาริชไปหาภูผาที่คณะพร้อมกับสิงหา เขาไม่ได้ส่งข้อความมาบอกก่อนเพราะอยากไปเซอร์ไพรส์มากกว่า ช่วงนี้ภูผากลับค่ำทุกวันเขามั่นใจว่ายังไงก็ต้องเจอ
   
“อยู่ไหนวะ” สิงหามองไปรอบๆ ช่วยเพื่อนมองหาพี่ชาย
   
“ไม่มี”
   
“อาโป”
   
วาริชหันไปตามเสียงเรียก เห็นรพีกรโบกไม้โบกมือให้ เขาจึงเดินเข้าไปหา
   
“มาหาพี่ขุนเหรอ”
   
“ครับ พี่พีเห็นไหม”
   
“ไม่อยู่ ออกไปกับพี่เทียน พี่ไหมมุก พี่เอวา น่าจะไปห้างมั้ง ได้ยินแว่วๆ ว่าจะไปซื้อของกัน”
   
“เหรอครับ” เสียงที่พูดเบาลง
   
“โปเป็นอะไรหรือเปล่า” รพีกรหรี่ตาลงเมื่อเห็นหน้าซีดๆ ของน้องชาย
   
“เปล่าๆ” วาริชฝืนยิ้ม “ผมซื้อขนมมาฝากเลยเอามาให้ พี่พีทานสิอร่อยนะ” เด็กหนุ่มส่งขนมสองถุงให้ลูกพี่ลูกน้อง
   
“เดี๋ยวพี่เก็บไว้ให้พี่ขุนเอง น่าจะกลับมากันนะเห็นเอารถไปคันเดียว”
   
“ไม่เป็นไรพี่พีทานเถอะ ผมเอามาสองถุงกะว่าถ้าเจอพี่พีจะให้ถุงหนึ่งอยู่แล้ว”
   
“โป ไม่เป็นไรแน่นะ”
   
“จะเป็นอะไรพี่พี ผมเดินตากแดดมาแดดมันร้อน”
   
“แดดร้อนมันต้องหน้าแดงสิ ไม่ใช่หน้าซีดแบบนี้”
   
“พี่พีคิดไรเนี่ย ฮ่าๆ ผมไม่เป็นไรจริงๆ ขนมมันต้องทานร้อนๆ ถึงจะอร่อย พี่พีเอาไปแบ่งกับเพื่อนเลย”
   
“ทำไมเราพูดถึงขนม พี่ไม่ได้พูดถึงขนม”
   
รพีกรเห็นคนตรงหน้าเม้มริมฝีปากเข้าหากัน
   
“พี่ขุนบอกโปว่าพักนี้ยุ่งเรื่องเรียนไม่ค่อยว่างไปเจอน่ะพี่พี” สิงหาอดรนทนไม่ไหวจึงพูดออกไป “พอมาเห็นแบบนี้เลยคิดมาก”
   
“อาโป” รพีกรเรียกชื่อน้องชายตัวเอง
   
“คิดมากอะไรกันผมไม่ได้คิด ถึงจะบอกว่ายุ่งมันก็ต้องมีเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างอยู่แล้ว”
   
“โป” รพีกรลงเสียงหนัก เขาไม่อยากเห็นน้องชายพยายามปิดบังความเศร้า
   
“เราชอบพี่ขุนใช่ไหม”
   
“พี่พี!” ดวงตาของวาริชเบิกกว้าง “พี่พีรู้ได้ยังไง”
   
“ก็ไม่แน่ใจนักหรอก เพิ่งแน่ใจตอนนี้”
   
“ก็ตามนั้นแหละพี่พี” วาริชไม่ได้คิดจะปิดบังอยู่แล้ว เขาแค่ตกใจเท่านั้น
   
“เอาเถอะ เราก็อย่าคิดอะไรมาก แค่ออกไปกับเพื่อนมันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย”
   
“อื้อ” แม้จะพยายามเข้าใจแต่เสียงของเด็กหนุ่มก็ยังเศร้าอยู่ดี
   
“เดี๋ยวพี่บอกพี่ขุนให้ว่าเรามาหา”
   
“ไม่ต้องๆ เอาไว้ผมนัดพี่ขุนใหม่ก็ได้”
   
“เอาอย่างนั้นเหรอ”
   
“ครับ”
   
“ก็ได้”
   
“ผมกลับแล้วนะพี่พี”
   
“อืม” รพีกรวางมือบนศีรษะน้องชาย เขย่าเบาๆ ก่อนปล่อยออก เขามองตามหลังทั้งคู่ด้วยสายตาครุ่นคิด

• • • • •

“พี่ขุน อาโปเอาขนมมาฝาก” ถุงขนมวางลงบนโต๊ะตรงหน้าภูผา รพีกรรอจนอีกฝ่ายกลับมาถึงคณะจึงเดินไปหา
   
“อาโปมาเหรอ”
   
“ใช่แต่กลับไปแล้ว ดูเศร้าๆ ชอบกล ผมไม่เคยเห็นอาโปเป็นแบบนี้เลย”

“มานานหรือยัง”

“เกือบสองชั่วโมง ป่านนี้น่าจะกลับหอแล้วมั้ง”

รพีกรลอบสังเกตอาการของพี่ชาย ความร้อนรนฉายชัดในดวงตา

“ผมก็กำลังจะกลับเหมือนกันแต่พี่ขุนมาพอดี ไปล่ะ”

“ขอบใจมากพี”
   
“ไม่เป็นไรครับ” รพีกรยกยิ้มมุมปาก เขารู้สึกได้ว่ามีม่านบางๆ กางกั้นระหว่างคนทั้งคู่ และเขาคงไม่ใช่คนที่สามารถช่วยได้ แต่ไม่มีปัญหา เขารู้ว่าใครจะจัดการได้ดี

“ขุนจะไปไหน!” เอวารีบเรียกอีกฝ่ายเอาไว้เมื่อร่างสูงลุกพรวดพราดขึ้นยืน
   
“ผมกลับก่อน”
   
“แต่งานยัง..”
   
“เทียนฝากด้วยนะ”
   
“อืม ไปเถอะ”
   
ร่างสูงก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของเธอ
   
“เกิดอะไรขึ้น” เอาวาหันไปมองเทียนเพื่อขอคำตอบ
   
“ทำงานๆ ไหนบอกว่าอยากได้คะแนนพิเศษไม่ใช่เหรอ”
   
“ขุนยังไม่อยู่เลย”
   
“ถึงขุนไม่ได้คะแนนพิเศษก็ติดท๊อปอยู่แล้วอย่าห่วงเลย” เทียนทำเป็นไม่เข้าใจเสีย เขารู้ว่าเอวาคิดอย่างไรกับขุน และรู้ว่าขุนคิดอย่างไร แต่ไม่ใช่เรื่องของเขาที่จะพูดออกไป
   
• • • • •

“พี่ขุน! มาได้ยังไงครับ”
   
หลังจากเขาส่งข้อความไปหาบอกว่ารออยู่ด้านล่างหอพัก วาริชก็รีบลงมาทันที
   
“มาหาเพื่อนกินขนม” ภูผายกถุงขนมให้ดู มันคือขนมที่เขาคว้าติดมือมาด้วย
   
“โธ่ ผมบอกพี่พีแล้วว่าไม่ต้องบอก”
   
“แล้วทำไมต้องปิดพี่”
   
“ไม่มีอะไรครับ” ใบหน้าคนพูดหงอยไปทันตา ภูผามองด้วยสายตาอ่อนโยน
   
“มีตรงไหนให้พี่นั่งได้บ้าง”
   
“ตรงโน้นก็ได้ครับ” วาริชชี้มือไปที่ม้านั่งหินอ่อนใต้ต้นไม้
   
“นำไปสิ”
   
“ครับ”

   
“อร่อย” ภูผาเอ่ยชมเมื่อทานขนมที่อีกฝ่ายซื้อไปฝาก
   
“ถ้าทานร้อนๆ จะอร่อยกว่านี้” วาริชรีบอวด
   
“ขอบใจมาก”
   
“ก็ผมอยากให้พี่ขุนทานของอร่อยๆ จะได้หายเหนื่อย..” เหมือนคนพูดจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงเงียบเสียงลง
   
“อาโปรู้ไหมว่าอาทิตย์หน้าจะมีงานวิชาการ ช่วงนี้อาจารย์ถึงไม่เน้นเรื่องเรียนมากเท่าไหร่”
   
“รู้ครับ”
   
“ในฐานะนักศึกษาปีสี่ที่ต้องลุ้นเกรดจบ” ภูผายกยิ้มมุมปาก “เราพยายามจะช่วยงานอาจารย์ให้มากที่สุด เผื่อจะได้คะแนนพิเศษมาช่วยบ้าง”
   
“งั้นที่พี่ขุนบอกว่ายุ่งๆ ก็ยุ่งเรื่องงานนี้เหรอครับ”
   
“ใช่” ภูผาพยักหน้า เขาเห็นดวงตาของวาริชสว่างขึ้น ใบหน้าหงอยๆ สดชื่นขึ้นมาทันตา
   
“ค่อยยังชั่ว” สีหน้าโล่งอกของคนพูดทำให้หัวใจของเขากระตุก
   
“ผมนึกว่าพี่ขุนจะทิ้งกันซะแล้วครับ” 
   
“ถ้าพี่หายไปเราเสียใจขนาดนั้นเลยเหรอ”
   
“แน่สิครับ พี่ขุนเป็นคนสำคัญสำหรับผมนะ ไม่มีทางทำหายเด็ดขาด”
   
“อาโป”
   
“เชื่อใจผมได้เลย”
   
ภูผาสบสายตากับดวงตาเป็นประกายของอีกฝ่าย เขาเห็นความรัก ความศรัทธาและความมุ่งมั่นอยู่ในนั้น
   
“อาโปก็สำคัญสำหรับพี่ รู้ใช่ไหม”
   
“รู้ครับ น่ารักอย่างผมจะไม่รักได้ยังไง”
   
“หึๆ”
   
“พี่ขุน”
   
“หือ?”
   
“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่ดีใจที่เห็นพี่ขุนมาเท่านั้นเอง”
   
ดวงตาที่มองมาสุกใส รอยยิ้มที่ส่งมาให้ทำให้ภูผาอดยิ้มตามไม่ได้ เขาเหมือนเห็นภาพเด็กชายอาโปซ้อนทับขึ้นมา เด็กชายที่เป็นแก้วตาดวงใจของเขา
   
“พี่สัญญา”
   
“สัญญาอะไรครับ” คนพูดเอียงคอมอง คิ้วขมวดเข้าหากัน
   
“สัญญาว่าพี่จะทำให้ดีที่สุดเพื่อทุกคน”
   
“ผมเชื่อพี่ขุนครับ”
   
“อืม”
   
“แต่ว่า...” ดวงตาของวาริชฉายแววเจ้าเล่ห์ เจ้าตัวยกยิ้มมุมปาก
   
“แต่ว่าอะไร” ภูผาอดขำสีหน้าของเด็กแสบไม่ได้
   
“แต่ว่าถ้าจะให้ดี พี่ขุนแค่ทำให้ตัวเองมีความสุขก็พอครับ แค่นั้นก็ดีที่สุดสำหรับทุกคนแล้ว”
   
“อาโป”
   
“ผมมั่นใจครับว่าคุณปู่กร ลุงพนา อาคีย์ ก็คงคิดแบบผม”
   
“ขอบใจมาก”
   
“พี่ขุนจะทำแบบนั้นใช่ไหมครับ”
   
“....”
   
“พี่ขุน?”
   
“อืม”
   
“เห็นไหมครับ” รอยยิ้มของวาริชกว้างขึ้นทันที ดวงตาของเด็กหนุ่มเป็นประกาย
   
“เห็นอะไร”
   
“ก็แค่พี่ขุนตอบรับผมก็มีความสุขมากแล้ว”
   
“หึๆ” ภูผาอดไม่ได้จริงๆ เขาวางมือลงบนศีรษะเล็ก ความอบอุ่นแล่นผ่านฝ่ามือ
   
“พี่เชื่อแล้ว”
   
“แล้วนี่พี่ขุนไม่กลับไปทำงานแล้วใช่ไหมครับ”
   
“ไม่”
   
“งั้นไปหาอะไรกินกัน ผมหิวจะแย่แล้ว”
   
“หือ?” ภูผาขมวดคิ้ว “เย็นป่านนี้แล้วเรายังไม่ได้กินอะไรอีกเหรอ”
   
“โอ๊ะ!” วาริชทำตาโตเมื่อถูกจับได้ ก่อนส่งยิ้มประจบประแจงมาให้
   
“ก็รอพี่ขุนมาเลี้ยงนี่ไง”
   
“หึๆ”
   
“ไปเร็วครับ ตอนนี้ผมหิวจนกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว”
   
ภูผาลุกขึ้นยืนตาม เขาหัวเราะคำพูดของอีกฝ่าย “จะกินช้างก็ตามใจแค่ไม่กินพี่ก็พอแล้ว”
   
“ใครว่าล่ะ”
   
“อะไรนะ”
   
“เปล๊า~ อาหารญี่ปุ่นนะครับ” แขนเล็กกว่าสอดเข้ามากอดแขนของเขา ภูผาหลุบสายตาลงมองด้วยรอยยิ้ม บอกตัวเองว่าเขาจะลองหาทางอีกสักครั้งเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน โดยเฉพาะกับหัวใจของเขาเอง

:::: ♥ TBC ♥::::
สปอย**
.
.
.
ตอนหน้ามาฟังเหตุผลของพี่ขุนกันค่ะ ใบ้ว่า...ยังไม่มีใครทายถูกเลย ><

  Darin ♥ FANPAGE
Twitter : primdarin







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2019 20:36:11 โดย darin »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
แค่พี่กับน้อง กลับมาคุยเล่นกันเหมือนเดิมก็ชื่นใจแล้ว

ออฟไลน์ SuPeRDonGDanG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขุนรู้ใจตัวเองแล้ว ก็รู้ใจน้องเร็วๆนะ พียังมองออกเลย  :mew1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ใกล้อีกนิด :katai2-1:

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ทั้งอาโปและพี่ขุนยังยึกยักสงวนท่าทีอยู่อย่างนี้นะ สงสัยจริงๆ

ดิฉันว่าทั้งสองคนเหมือนจะเปิดใจกันหลายครั้งแล้ว แต่พอมีคำว่า "เป็นคนสำคัญ" โผล่ขึ้นมา ก็เลยสามารถตีความไปได้หลายทาง คืออาโปก็เข้าใจว่าพี่ขุนคิดกับตนแค่น้องที่สำคัญที่สุด ส่วนพี่ขุนก็เข้าใจว่าอาโปคิดกับตนแค่เป็นพี่ชายที่สำคัญที่สุด ก็เลยจึงก้าวผ่านคำว่าพี่น้องที่รักกันอย่างพี่น้องและสำคัญอย่างพี่น้อง...ไปไม่ได้สักที เหมือนติดอยู่ในทางแยก จะก้าวขาไปทางไหนก็ไม่ได้ ส่วนคนอ่านก็รู้สึกหน่วงเป็นที่สุด ไม่รู้จะยิ้มหรือจะเศร้าดี มันหม่นๆ นะคะ หลายครั้งมากๆ เลยที่ทั้งสองคนเหมือนจะบอกความในใจจริงๆ แล้ว หรือแสดงความในใจจริงๆ ออกมา แต่ก็หยุดไว้แค่นั้น แล้วเสไปอีกทาง เหมือนทั้งสองคนไม่พร้อมจะเปิดเผยออกมา ซึ่งเราไม่รู้ว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองคนเป็นแบบนั้น ก็เลยปวดตับอยู่อย่างนี้ละค่ะ

ยังไงก็อยากจะเชียร์ให้ทั้งสองคนก้าวออกมาจากตรงนั้นเสียทีนะคะ ขอบคุณคุณดารินสำหรับอัปเดตนี้ค่ะ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao4: พี่ขุนหลบหน้าน้องทำไมกันนนน

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อาโปน่ารักมากเลย TT

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
 :katai2-1: มาต่อเร็วๆนะ
อยากให้ทั้งสองคนสารภาพกันเร็วๆจัง

ออฟไลน์ fewmeemoi

  • Heal the world
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ที่มันไม่ชัดเจนมาตลอด

น่าจะเพราะคำว่า “พี่น้อง”


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ somberness

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
เพราะความเจียมตัวของพี่ขุนรึเปล่า  :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ MezoSone9

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
น่ารัก ต้องรักกัน ..

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พี่ขุนคิดไรอยากรู้ อาโปอย่าหงอยน้าาา

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
สำหรับพี่ขุน อาโปสำคัญอันดับหนึ่งเสมอ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
อ่างั้นเราไม่ทายละ  :laugh: เป็นกำลังใจให้อย่างเดียวพอ  :กอด1:

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46




** วันนี้อัพให้สองตอนนะคะ ใครยังไม่ได้อ่านตอนที่ 13 ย้อนอ่านก่อนค่า **



ตอนที่ 14
ทางออก

   
ภูผาชะงักเท้า มองใครบางคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วยสายตาประหลาดใจ ก่อนริมฝีปากจะยกยิ้มกว้าง
   
“อาคีย์! ไม่เห็นบอกเลยครับว่าจะมา ผมจะได้ไปรับ”
   
“นานๆ อาก็อยากทำเซอร์ไพรส์ลูกชายบ้าง” คีตกานต์ส่งยิ้มให้ลูกชาย ภูผานั่งลงบนโซฟา ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
   
“แต่อามีเซอร์ไพรส์มากกว่านี้อีกนะ”
   
“มีอีกเหรอครับ” ภูผาหัวเราะ มองดวงตาวาวๆ ของผู้เป็นอา
   
“มีสิ อาถึงมานั่งรอขุนอยู่นี่ไงจะได้ประหลาดใจ” คีตกานต์ลุกขึ้นยืน เขาเดินตรงไปยังบันไดขึ้นสู่ชั้นบนของบ้าน ก่อนเลี้ยวไปยังห้องนั่งเล่น
   
“ขุนเข้าไปสิ”
   
“ครับ” ภูผาเปิดประตู ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าใครอยู่ในห้อง

“พ่อ อาสาริน อาเพ!”
   
ภูผารีบยกมือขึ้นไหว้ทุกคนเมื่อหายจากอาการตกตะลึง
   
“เกิดอะไรขึ้นครับ” วูบแรกเขารู้สึกกังวล แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเพทายก็พออุ่นใจขึ้นมา
   
“เรื่องนี้ต้องถามพี” สารินชี้ไปยังคนที่นั่งหลบุมมอยู่ ภูผาเบนสายตาไปมองรพีกร
   
“พี มีอะไรหรือเปล่า?”
   
“ก่อนอื่นผมขอแก้ตัวก่อนนะพี่ขุน ผมโทรหาอาคีย์แค่คนเดียว ไม่คิดเหมือนกันครับว่าจะมาครบทุกคน” รพีกรหัวเราะแห้ง เขาไมได้ตั้งใจทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย แค่จะโทรไปปรึกษาในสิ่งที่เขาเห็นกับคีตกานต์เท่านั้น
   
“โทรหาอาคีย์? เรื่องอะไร”
   
“คือ..” รพีกรเอารอยยิ้มเข้าสู่ ก่อนโบ้ยไปยังคีตกานต์ “ให้อาคีย์เป็นคนพูดดีกว่าครับ”
   
“ขุนนั่งลงก่อนจะได้คุยกัน” คีตกานต์บอกลูกชาย ตัวเขาเองก็เดินไปนั่งลงข้างพนา
   
“ใครจะเริ่มก่อนดีครับ” คีตกานต์มองไปรอบๆ หลังจากภูผาลงนั่งเรียบร้อยแล้ว
   
“พี่เอง” สารินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงของผู้ใหญ่ที่น่าเกรงขาม
   
“อามีเรื่องอยากถามขุน สัญญากับอาได้ไหมว่าขุนจะตอบความจริง”
   
“ได้ครับ” ชายหนุ่มยังจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่เขาก็พร้อมจะสัญญากับสาริน
   
“ขุนชอบอาโปหรือเปล่า”
   
“อาสาริน!”
   
“พีคิดว่าขุนอาจชอบอาโปมันจริงไหม”
   
“ผม..” ภูผาไม่เคยโกหกผู้ใหญ่เขาจึงคิดหนัก สุดท้ายก็เลือกที่จะตอบออกไปตามความจริง

“ครับ ผมชอบอาโปครับ”
   
“ชอบแบบไหน ขุนชอบอาโปแบบคนรักหรือแบบพี่น้อง”
   
“ผมขอโทษครับ” ภูผายกมือไหว้สาริน ศีรษะค้อมลงต่ำ 
   
“อาไม่ได้ให้ขุนขอโทษ อาถามว่าขุนชอบน้องแบบไหน”
   
“ผม..” ภูผาหลุบสายตาลงต่ำ ก่อนเงยขึ้นประสานสายตากับผู้เป็นอา “ผมชอบอาโปแบบคนรักครับ”
   
“เรื่องจริงสินะ อาขอบใจที่ขุนยอมรับตามตรง สิ่งที่อาจะพูดต่อไปนี้อาไม่ได้พูดในฐานะพ่อของอาโป แต่อาจะพูดในฐานะอาของขุน”
   
“ครับ”
   
“ขุนคิดจะบอกน้องไหม”
   
“ไม่ครับ”
   
“อาก็คิดอยู่แล้ว เห็นพีบอกว่าขุนพยายามจะออกห่างน้อง”
   
“ผม..”
   
“มีเหตุผลไหม”
   
“มีครับ”
   
พนามองลูกชายด้วยสายตาค้นคว้า เมื่อคำตอบที่ได้รับเป็นคำสั้นๆ โดยไม่ยอมบอกเหตุผล เขาก็เริ่มมองเห็นอะไรลางๆ
   
“เรื่องนี้เกี่ยวกับพ่อกับอาสารินด้วยใช่ไหม ขุนถึงบอกเหตุผลไม่ได้”
   
“พ่อ” ภูผาหันไปมองผู้ที่เป็นยิ่งกว่าผู้ให้กำเนิดของเขา
   
“ผมขอโทษครับ”
   
“ไม่ใช่เพราะคิดไปเองว่าอาจะไม่เห็นด้วยใช่ไหม คิดว่าอาจะมองว่ามันไม่ถูกต้องเหรอ ถ้าอาคิดแบบนั้นอาคงไม่รักอาเพ พ่อพนาของขุนก็คงไม่รักอาคีย์” สารินพุ่งประเด็นไปเรื่องการยอมรับ
   
“เปล่าครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้น”
   
“หรือขุนติดเรื่องความเหมาะสม” คีตกานต์เข้ามามีส่วนร่วมด้วยความร้อนใจ “อาเคยบอกขุนแล้วไม่ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของขุนจะเป็นใคร แต่ขุนเป็นลูกที่แท้จริงของอา ของพี่พนา ขุนไม่มีอะไรด้อยกว่าคนอื่นเลย”
   
“ตัดเรื่องนั้นไปเถอะคีย์” สารินขัดคีตกานต์ทันที “ถ้าขุนคิดแบบนั้นอาจะถือว่าขุนดูถูกอา ว่าอาเห็นเงินสำคัญกว่าหลานอย่างขุน”
   
“ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยครับอาสาริน” ภูผารีบตอบ เขาไม่อยากให้สารินเข้าใจผิด
   
“ที่ขุนไม่ยอมพูดเพราะคิดว่าทุกคนจะไม่เห็นด้วยใช่ไหม” พนามองลูกชาย เขาเป็นคนเลี้ยงขุนมาตั้งแต่เกิด เขามั่นใจว่าเขารู้จักลูกชายดีพอ ขุนมีนิสัยส่วนคล้ายกับเขามากโดยเฉพาะการประมาณตัว
   
“ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไรพ่ออยากให้ขุนพูดออกมา เราเป็นครอบครัวไม่ใช่เหรอ ทุกปัญหาเราจะแก้ด้วยกัน”
   
ภูผาสบตากับบิดา ความรักรู้สึกหนักในอกราวกับได้รับการแบ่งเบา

“พูดมาเถอะพ่อรอฟังอยู่”

“ครับพ่อ” ภูผาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาเรียบเรียงความคิดในหัวออกมาเป็นคำพูด

“ที่ผมไม่คิดจะบอกน้องหรือแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา ไม่ใช่เพราะผมคิดว่าตัวเองไม่คู่ควร ไม่ใช่เพราะผมกังวลว่าอาสารินกับอาเพจะไม่ยอมรับ แต่เป็นเพราะว่าผมไม่เห็นหนทางระหว่างผมกับอาโปครับ”
   
“ไม่เห็นหนทาง?” เพทายทวนคำ “ขุนกลัวว่าน้องจะไม่คิดกับขุนแบบนั้นใช่ไหม กลัวว่าต้องแตกหักกันไป”
   
“ไม่ใช่ครับอาเพ อาจจะฟังเข้าข้างตัวเองไปสักนิด แต่ผมคิดว่าอาโปก็ชอบผมเหมือนกัน เพียงแต่อาสารินมีอาโปคนเดียว อาคีย์เองก็มีผมแค่คนเดียว”
   
“โธ่อาก็นึกว่าเรื่องอะไร อาไม่สนใจหรอกว่าขุนจะมีทายาทให้อาไหม อาสารินก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกัน”
   
“อาคีย์พูดถูกแล้ว” สารินพยักหน้า เพื่อยืนยันคำพูดของคีตกานต์
   
“ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องทายาทครับ แต่เพราะอาสารินมีอาโปคนเดียว ต่อไปอาโปก็ต้องอยู่ช่วยงานแบ่งเบาภาระอาสาริน อาเพ ที่สวนพัดพารัดชา อาคีย์มีผมแค่คนเดียวเหมือนกัน ผมเองก็ต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลบริษัทแทนอาคีย์”
   
“เรื่องนั้นไม่เห็นยากเลย” คีตกานต์ถอนใจโล่งอก
   
“ผมรู้ครับว่าอาคีย์ต้องพูดแบบนี้ พ่อก็คงเหมือนกัน คงบอกให้ผมทำงานอยู่ที่สวนกับอาโป แต่ถ้าเป็นแบบนั้นอาคีย์ก็ต้องลงมาดูแลบริษัทเองเพราะคุณปู่ไม่มีใครแล้ว ผมไม่อยากให้พ่อต้องแยกกันอยู่กับอาคีย์ หรือถ้าพ่อตัดสินใจมาอยู่กรุงเทพฯ ผมก็รู้ว่าพ่อจะไม่มีความสุข พ่อไม่ชอบเมือง ไม่ชอบธุรกิจ พ่อให้ชีวิตผม ทำเพื่อผมมามาก ผมปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ครับ” ภูผาหยุดหายใจก่อนพูดต่อ

“ผมรู้ว่าอาสารินกับอาเพก็คงเหมือนกัน คงบอกผมว่าไม่เป็นไร ให้อาโปมาอยู่กับผมที่นี่ก็ได้ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นอาสารินจะไม่มีใครแบ่งเบาภาระเลย ไม่มีใครสานต่องานที่อาสารินสร้างมากับมือ ไม่มีลูกชายคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ ดังนั้นถ้าเพียงแค่ผมไม่เริ่ม ถ้าผมหักห้ามใจตัวเองได้ สักวันอาโปก็ก้าวต่อไป ได้เจอคนดีๆ ที่จะอยู่ด้วยกัน ช่วยกันดูแลพัดพารัดชาได้ การตัดใจอาจจะยากแต่ผมเชื่อว่าอาโปจะทำได้ครับ”

“โธ่” คีตกานต์กับเพทายได้แต่อุทานออกมา
   
สารินมองหลานชายด้วยสายตาชื่นชม จะมีเด็กหนุ่มสักกี่คนที่จะเลือกเสียสละความสุขของตัวเองเพื่อคนอื่น ขณะนี้พนามองลูกชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความภาคภูมิใจ
   
“เรื่องของผู้ใหญ่ควรให้ผู้ใหญ่ตัดสิน พ่อกับอาคีย์จะคุยกันเองว่าเราจะทำยังไง ขุนมีหน้าที่ตัดสินใจชีวิตของตัวเองก็พอ”
   
“พ่อ”
   
รพีกรที่นั่งฟังการสนทนาอยู่เงียบๆ คลี่ยิ้มออกกว้าง เขาตัดสินใจพูดแทรกขึ้นมา
   
“ไม่เห็นจะยากเลยครับ เรื่องแค่นี้สบายมาก”
   
ทุกสายตาหันมาจับจ้องชายหนุ่มเป็นตาเดียวกัน

“พีหมายความว่ายังไง” สารินถามหลานชาย
   
“ง่ายๆ เลยครับอา ตระกูลเราถึงจะแยกกันทำงานแต่ก็เกือบเหมือนกงสี ผมเองไม่ชอบงานบริหารอยู่แล้ว ชอบงานในสวนมากกว่า ผมก็แค่แลกกงานกับอาโป ให้อาโปอยู่ช่วยพ่อผมกับอาริสาที่กรุงเทพฯ ส่วนผมก็ไปช่วยอาสารินอยู่ที่โน่น รับรองว่าผมจะช่วยงานกับดูแลอาสารินกับอาเพอย่างดีเลย ส่วนพ่อกับแม่ผมมีลูกสองคน เรื่องดูแลยามแก่เฒ่าไม่ต้องห่วงครับ แค่นี้ก็ลงตัวแล้ว”
   
รพีกรยังยิ้มกว้างขณะที่ทุกคนในห้องกำลังนั่งอึ้ง ก่อนที่สารินจะหัวเราะออกมา
   
“ว่าไงขุนแบบนี้ใช้ได้ไหม แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”
   
“อย่าพูดแบบนั้นสิครับ” เพทายยกมือขึ้นแตะแขนสามี
   
“ทำไมเหรอเพ”
   
“เหมือนเราบังคับยกลูกให้ขุนเลยน่ะสิครับ”
   
“พี่ลืมคิดเรื่องนั้นไป” สารินหัวเราะออกมา “งั้นเอาเป็นว่าเรื่องผู้ใหญ่ไม่มีอะไรติดขัดแล้ว อาคิดว่าพี่ชายอาก็คงไม่มีปัญหาเหมือนกัน”
   
“พ่อกับแม่ไม่มีปัญหาแน่นอนครับอาสาริน” รพีกรตอบได้อย่างมั่นใจ เพราะเขาเคยเปรยๆ ว่าอยากไปชวนงานอยู่ที่สวนพัดพารัดชามากกว่า ก็ไม่มีใครขัดข้องอะไร
   
“ก็ตามนั้น จริงๆ แล้วที่อาอยากบอกก็คือ ขุนไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องของผู้ใหญ่มากังวลอีกแล้ว ส่วนเรื่องของอาโป ถ้าขุนชอบน้องจริงและน้องเองก็รักขุนจริง อากับอาเพก็ไม่มีปัญหาอะไร เราเต็มใจต้อนรับขุนเข้ามาเป็นลูกชายเสมอ หรือถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คิด อาก็ยังต้อนรับขุนในฐานะหลานชายอยู่ดี”
   
“ขอบคุณมากครับอาสาริน อาเพ”
   
ภูผายกมือขึ้นไหว้ด้วยความนอบน้อม เพทายส่งยิ้มอ่อนโยนให้หลานชายที่เขาเองก็มีส่วนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก
   
“ส่วนอากับพ่ออยู่ข้างขุนอยู่แล้ว อะไรที่เป็นความสุขของขุนก็เหมือนความสุขของเรา ใช่ไหมครับ” คีตกานต์หันไปยิ้มให้สามี
   
“ใช่” พนาพยักหน้า “และพ่อจะมีความสุขยิ่งไปกว่านี้ถ้าขุนจะไม่ทำแบบนี้กับตัวเองอีก พ่อเป็นพ่อของขุน ต่อให้ขุนโตแค่ไหนพ่อก็ยังเป็นพ่อ ไม่มีพ่อคนไหนอยากให้ลูกชายเสียสละเพื่อตัวเอง”
   
“พ่อครับ”
   
“ทำตามที่หัวใจขุนอยากทำเถอะ แค่นี้พ่อก็ภูมิใจในตัวขุนมากแล้ว”
   
“ขอบคุณครับพ่อ”
   
ภูผานั่งลงกับพื้น กราบไปที่เท้าของพนา หัวใจของเขาเต็มตื้น
   
“โล่งอกไปที แบบนี้ต้องฉลองกันหน่อย” คีตกานต์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงรื่นเริง

“เพคืนนี้ค้างด้วยกันที่นี่สิ พรุ่งนี้ค่อยไปค้างบ้านคุณลุงคุณป้า” คีตกานต์หมายถึงพ่อแม่ของเพทาย
   
“เอาสิ” เพทายตอบรับเพื่อนรัก
   
“ถ้าอย่างนั้นให้ผมไปรับอาโปมาด้วยดีไหมครับ” รพีกรเสนอตัว “แต่จะให้บอกว่าอะไรดี”
   
“บอกว่าอากับอาสารินตัดสินใจลงมาพร้อมอาคีย์เลย อามีเกริ่นไว้แล้วว่าอาทิตย์นี้จะลงมาเยี่ยมที่บ้าน”
   
“โอเคครับ”
   
“เดี๋ยวพี่ไปรับเอง” ภูผาบอกรพีกร
   
“เอางั้นก็ได้ครับ”
   
“ขอบใจมากนะพี”
   
“เรื่องเล็กน้อยพี่ขุน ผมอยากไปอยู่ที่โน่นอยู่แล้ว”
   
“เรื่องที่พีตัดสินใจบอกอาคีย์ด้วย”
   
“แค่ไม่ด่าผมก็พอครับ” รพีกรยิ้มกว้าง ภูผาหัวเราะออกมา เขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาขอบคุณ
   
“ขอบใจ”
   
“ยินดีครับพี่ขุน”

   
รพีกรยืนมองรถของภูผาแล่นออกไปจากบ้านผ่านทางหน้าต่างห้องนั่งเล่น เขาหันกลับมามองคีตกานต์ที่ยืนอยู่ด้วยกัน
   
“ผมสงสัยอย่างหนึ่งกับอาคีย์”
   
“อะไรเหรอ”
   
“ไม่บอกพี่ขุนไปเลยละครับว่าใจตรงกัน ว่าอาโปคุยกับอาคีย์กับอาเพแล้วเรื่องนี้”
   
“หึๆ”
   
“หรือเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องของเด็กครับ”
   
“เรื่องนั้นก็ด้วย แต่ที่สำคัญก็คือ...” คีตกานต์ยกยิ้ม ดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์
   
“คืออะไรครับ”
   
“ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดก็คือตอนจีบกันน่ะสิ อาเลยไม่อยากให้ทั้งสองคนพลาดตรงนั้นไป”
   
“จริงด้วยครับ” รพีกรพยักหน้าแต่เพียงครู่เดียวเขาก็ชะงัก
   
“อาคีย์ครับ”
   
“หือ?”
   
“แน่ใจเหรอครับว่าพี่ขุนจีบเป็น”
   
“พีคิดว่าขุนจะเป็นคนจีบเหรอ”
   
“หา~”
   
“อาล้อเล่น” คีตกานต์หัวเราะเสียงดัง “ความรักมันมีอานุภาพกว่าที่พีคิดนะ เชื่ออาเถอะว่าขุนทำได้”
   
“ผมก็หวังแบบนั้นครับ จะได้สมหวังกันสักที”
   
“ส่วนพีก็ค่อยไปมีแฟนที่เชียงใหม่นะ”
   
“ทำไมละครับ”
   
“อาขี้เกียจขึ้นมาทำงานที่กรุงเทพฯ เผื่อแฟนพีไม่ให้ไป”
   
“อาคีย์” รพีกรหัวเราะเสียงดัง เขารู้ว่าคีตกานต์แซวเล่น แต่คิดอีกทีแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน

• • • • •

“มาแล้วครับ” เสียงร่าเริงดังมาก่อนตัว ภูผายกยิ้มมุมปากมองร่างที่วิ่งเข้ามาหา
   
“ค่อยๆ เดินก็ได้”
   
“ก็ผมดีใจนี่ครับ อยากเจอพ่อกับอาเพเร็วๆ”
   
“งั้นก็ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มเปิดประตูรถให้วาริชขึ้นนั่ง ก่อนเดินอ้อมหน้ารถไปยังฝั่งคนขับ
   

“ทำไมวันนี้พี่ขุนดูอารมณ์ดีจังครับ”
   
“หือ? พี่เหรอ”
   
“ครับ”
   
“ทำไมโปคิดแบบนั้น”
   
“ก็วันนี้พี่ขุนดูไม่เคร่งขรึมเหมือนทุกวัน บางครั้งพี่ขุนเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่”
   
“หึๆ”
   
ถึงแม้เขาไม่ได้พูด ถึงแม้มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมา แต่คนที่ผูกพันกันมาเกือบทั้งชีวิตก็ยังมองออก
   
“พี่โล่งใจน่ะ”
   
“งานเสร็จแล้วเหรอครับ” ดวงตาคนพูดเบิกกว้าง น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ
   
“อื้อ”
   
“เย่~ แบบนี้พี่ขุนก็มีเวลาว่างให้ผมแล้วใช่ไหมครับ”
   
“ใช่”
   
“เป็นข่าวดีที่สุดในโลกเลย” มือทั้งสองข้างกางออกกว้าง คนพูดยิ้มจนตาหยี
   
“ดีกว่าอาสารินกับอาเพมากรุงเทพฯ อีกเหรอ”
   
“น้อยกว่าสิครับ แต่ผมก็รักพี่ขุนนะ” รอยยิ้มที่ส่งมาประจบประแจง
   
ภูผาหัวเราะออกมา สมองของเขาปลอดโปร่ง หัวใจเต้นเต็มจังหวะ และสายตาไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป
   
“อาโป” เสียงเรียกทุ้มนุ่ม
   
“ครับ” ดวงตาที่มองมาสดใส รอยยิ้มระบายทั่วใบหน้า
   
“พี่ก็รักอาโปนะ”
   
“อีกทีได้ไหมครับ” คนพูดชูนิ้วชี้ขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
   
“หือ?”
   
“ผมจะบันทึกเสียงเอาไว้”

คนตัวเล็กกว่าวุ่นวายกับการหยิบโทรศัพท์ออกมา จัดการเปิดแอปพลิเคชันบันทึกเสียง มองมาด้วยดวงตาเป็นประกาย
   
“ผมจะกดละนะครับ หนึ่ง สอง สาม”
   
“วันนี้อากาศดี”
   
“พี่ขุน~”


:::: ♥ TBC ♥::::
  Darin ♥ FANPAGE
Twitter : primdarin






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
รอพี่ขุนเฉลยความในใจเลยดีกว่า น่าจะทายไม่ถูก   :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fewmeemoi

  • Heal the world
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ตะโกนลั่นห้องว่า “Yeah”
ตอนนี้ต้องถือธูปแพเทียนแพ
หมอบคลานไปกราบรพีกรเลยนะ 5555

โล่งใจ จะได้เห็นขุนอีกโหมดนึงแล้วล่ะสิ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
โล่งเลย :เฮ้อ: เราดีใจด้วยนะพี่ขุนความกังวลหมดไปแล้วต้องขอบคุณรพีกรณ์จริง ๆ นั่นแหละ  :pig4: และอีกอย่างนับถือความคิดของพี่ขุนจริง ๆ เก่งมากเลย  o13
ป.ล. อาโปของเราน่ารักทุกวันเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ somberness

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
เซอร์ไพรส์มากกอัพสองตอน
ขุนคิดเยอะคิดมากและคิดการณ์ไกลจริงๆ
อาๆยังคงอบอุ่นเสมอ อาโปก็น่ารักเหมือนเดิม
ส่วนพี่พีก็คือฮีโร่ตัวแปรสำคัญเลยนะเนี่ยย  o13 o13

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
พี่ขุนนี่สมเป็นขูนของโปจริงๆ อยากได้แบบพี่ขุนสักคน หาได้ที่ไหน

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เย้ๆๆ คุณคนเขียนใจดีอัพสองตอนเลยยย ขยันมากค่ะะ ชื่นชมมม ขอบคุณค่าาา
ขุนความคิดดูโตมาก ในที่สุดก็จะได้เปิดเผยความในใจสักทีนะะะ อาโปน่ารักกกก อ้อนน่าดู

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

พี   นายเยี่ยมมาก

ออฟไลน์ Nuismail

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 o13 คือดีย์ ~~ ผู้ชายแบบพี่ขุนไม่ควรมีคนเดียวนะคะ
รักพี่ขุน ชอบแบบนี้ แต่ไม่ได้ เพราะพี่ขุนเป็นขอโป

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
ต้องขอบคุณรพีกรเลยนะที่เป็นสื่อให้พี่ขุนได้เคลียร์ตัวเอง รพีกรมาทำงานที่เชียงใหม่แหละดีแล้ว มาเป็นแฟนกับป้านะจ๊ะ

ดิฉันว่าด้วยความที่ขุนเห็นว่าตัวเองไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ เลยอยากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง พอมาได้รับความรัก ความเชื่อใจจากครอบครัวนี้ เลยอยากจะทำตัวให้ดี และตอบแทนความรักนั้นกลับไป จึงคิดจะเลือกทางนี้มากกว่าอาโป ซึ่งความจริงแล้วก็เจ็บปวดเหมือนกันแหละที่จะไม่ได้ลงเอยกับน้อง เลือกจะยอมเสียสละเอง เฮ้อ...ช่างเป็นคนที่น่าเอ็นดูอะไรอย่างนี้

แต่ตอนนี้ก็เคลียร์แล้ว ดังนั้นคิดว่าจะต้องชัดเจนขึ้นมากกว่าเดิมอีกแน่ๆ ทั้งพี่ขุนและอาโปด้วย รออ่านตอนหวานๆ เลยค่ะ
ขอบคุณคุณดารินสำหรับอัปเดตครั้งที่สองในวันเดียวนะคะ ขยันและน่ารักมากๆ ค่ะ

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด