“อะไรนะฮะ ย้ายโรงเรียน ตอนกลางเทอมนี้นะฮะ”
“ใช่จ้ะ”
“ทำไมฮะ”
“พ่อกับแม่จะต้องไปทำงานที่ต่างประเทศเรื่องธุรกิจหลายเดือนและจะกลับมาก็ตอนที่ลูกเรียนจบแล้ว เราเลยคิดว่าจะฝากให้ลูกเข้าไปเรียนในโรงเรียนที่คุณอาเพื่อนของคุณพ่อเค้าเป็นเจ้าของอยู่ พ่อกับแม่จะได้สบายใจเวลาที่ไม่อยู่ดูแลลูกไงค่ะ”
“แต่ว่าอีกสามเดือนผมก็จะจบมอ6แล้วนะฮะ”
“เรื่องนั้นพ่อกับแม่คุยกันแล้วเพราะว่าโรงเรียนที่จะส่งหนูไปอยู่เป็นเครือข่ายเดียวกับมหาวิทยาลัยที่ลูกอยากจะเข้าไปเรียนพอดี แม่ว่าอาจจะเป็นเรื่องง่ายก็ได้ที่ลูกจะเข้าที่นั้นนะ”
“แล้วจะย้ายวันไหนฮะ”
“อาทิตหน้าแล้วกัน”
“ผมยังไงก็ได้ฮะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะฮะ”
“พ่อกับแม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกนะ”
“ฮะ” ก็อย่างที่ได้อ่านกันนะฮะผมถูกคุณแม่เรียกมาที่บริษัท ผมคงลืมแนะนำตัว สวัสดีฮะผมชื่อต้นรักเรียกต้นเฉยๆก็ได้ครอบครัวผมทำธุรกิจสายการบินของประเทศนี้แต่ผมไม่เคยบอกใครว่าครอบครัวงานอะไรบอกแต่ว่าคุณพ่อเป็นนักเขียนเพราะท่านชอบที่จะเขียนเป็นงานอดิเรก ที่โรงเรียนของผมผมไม่เคยมีเพื่อนหรอกเพราะว่าผมไม่ค่อยสุงสิงกับใครหลายคนว่าผมว่าหยิ่งแต่ความจริงแล้วผมไม่ค่อยไว้ใจใครหรอกตอนเด็กผมเคยถูกเพื่อนหลอกใช้เพื่อหวังผลประโยชน์จากตัวผม มันเป็นอดีตที่ผมไม่เคยลืมจนกลายเป็นความทรงจำที่ฝังใจแก้ไม่หาย
เวลาหนึ่งอาทิตผ่านไปอย่างรวดเร็วตอนนี้ผมก็มายืนอยู่ที่หน้าโรงเรียนชายล้วนชื่อดังเพราะค่าเทอมแพงแสนแพงเลยทำให้ผมคิดว่าเด็กทุกคนที่เรียนอยู่ที่นี่ต้องเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะ แต่ถึงยังไงผมก็ไม่เคยวางใจเรื่องนั้นอยู่แล้ว คนเรามันมองกันยาก
ตอนนี้เป็นเวลาเช้าเลยยังไม่มีใครมาโรงเรียนกันมากนัก ผมเดินขึ้นไปทางตึกที่ทางคุณอาหรือผู้อำนวยการบอก ผมเดินไปเรื่อยๆ อากาศที่สดใสกว่าโรงเรียนเก่ามากผมรู้สึกว่าชีวิตหลังจากนี้อีกหลายเดือนผมคงจะมีความสุขมากกว่าเดิมนะ ผมเดินไปวางกระเป๋าที่โต๊ะหน้าห้องคาดว่าน่าจะเป็นโต๊ะของอาจารย์มากกว่า เหตุผลหรอคุณคงเจอเหตุการณ์ที่ว่านักเรียนใหม่เข้ามาในห้องแล้วเลือกที่นั่งผิดที่เจอคนไม่ดีรังแก มันคงไม่เป็นแบบนั้นเพราะผมวางมันไว้ที่โต๊ะอาจารย์แทน หลังจากนั้นผมดูเวลาแล้วก็คงอีกหลายนาทีกว่าจะเข้ามาเรียนกันผมเลยถือโอกาสไปห้องน้ำเตรียมความพร้อมให้ร่างกายดีกว่า
ภายในห้องเรียนหลังจากที่ต้นเดินออกไปหลายนาทีนักเรียนต่างพากันทยอยเข้ามานั่งในที่ของตนจนเมื่อ3หนุ่มที่หลายคนยกย่องว่าเป็นคุณชายเดินเข้ามาบรรยากาศภายในห้องกลับเปลี่ยนเป็นเงียบเหมือนไม่มีใครนั่ง มันเป็นแบบนี้เสมอก็ใครจะกล้าทำตัวไม่มีมารยาทกัน
“เอาล่ะ นักเรียนวันนี้เราจะมีเพื่อนใหม่ย้ายเข้ามานะ เป็นคนที่ครูก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน ว่าแต่กระเป๋าใครเนี่ย”
“ขอโทษนะฮะ พอดีผมไม่รู้ว่าที่ตรงไหนว่างเลยฝากไว้ที่โต๊ะอาจารย์ก่อน”
“เธอเป็นใคร ที่นี่โรงเรียนชายล้วนนะเธอเข้ามาได้ยังไง”
“เออ คือว่า ผมเป็นผู้ชายนะฮะ”
“จริงหรอก็หน้าตาเธอเหมือนผู้หญิงขนาดนี้”
“เฮ้อ ผมชื่อต้นรักนะฮะเรียกว่าต้นก็ได้ ผมจะย้ายเข้ามาอยู่ในห้องนี้ตั้งแต่วันนี้จนจบ ฝากตัวด้วยนะครับ”
“อ่าวนายเองหรอที่บอกว่ามาใหม่ เอายังไงดี ที่ตรงไหนว่างบ้าง” ครืด
“ข้างหน้าผมว่างครับ”เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นทางข้างหลังห้องจะว่าไปก็แปลกคนอื่นเค้านั่งกันเป็นคู้แต่สามคนนั้นกลับนั่งรวมแล้วดูที่ที่ว่างนั่นสิอยู่ตรงกลางนายพวกนั้นด้วย
“อ่าวเคตรงนั้นที่นายไม่ใช่หรอ”
“ที่ผมอยู่ตรงนี้”พูดเสร็จก็ชี้มือไปที่เก้าอี้ข้างหลัง
“งั้น ต้นรักก็ไปนั่งตรงนั้นก็ได้นะ คนที่เลื่อนที่นั่งให้เค้าชื่อเค คนผมส้มชื่อพีส่วนคนผมดำชื่อเอ็น ที่เหลือก็ทำความรู้จักกันเองนะ วันนี้ครูไปก่อนนะพอดีคาบแรกท่านผู้อำนวยการเรียกประชุม”
“แล้วคาบแรกไม่มีคนสอนหรอครับอาจารย์”เสียงใครบางคนดังขึ้นแต่ผมไม่ได้ฟังการสนทนาใดๆเพราะตอนนี้ผมกำลังเดินไปที่เก้าอี้ตัวนั้น ผมรู้สึกไม่ดีกับสายตาของ3คนนั้นที่มองมาเลย แต่ช่างมันเถอะผมอยู่ของผมเงียบๆดีกว่า
หลังจากที่ผมจัดของเสร็จก็เตรียมที่จะฟุบหน้าลง เป็นแบบนี้เสมอเวลาที่ไม่มีใครมาสอน
“นาย”เสียงที่ที่ดังขึ้นจากทางด้านขวาเรียกให้ผมหันไปมอง นายคนนี้ผมส้มชื่ออะไรนะ ลืมแหะ
“ว่า”ผมหันกลับไปตอบแบบเรียบๆ
“น่ารักอ่ะ มีแฟนยัง”ผมหวังว่าหมอนี่คงไม่ใช่พวกนั้นหรอกนะ
“นายเป็นเกย์หรอ”
“ป่าว แต่พอเห็นนายแล้วอยากเป็นทันทีเลย”
“ห้ะ”หมอนี่ถ้าจะบ้าผมไม่สนใจที่จะตอบคำถามแต่เปลี่ยนเป็นหันหน้าไปอีกทางทันทีกลายเป็นว่าผมหันมาเจอนายที่ผมดำ แต่ผมก็จำชื่อไม่ได้หรอกนะ หมอนี่นั่งมองหน้าผมอยู่ดูท่าคงอยากจะถามอะไรสักอย่าง ดูแล้วคงเป็นเรื่องนี้สินะ
“ผมใช้เส้นเข้ามา ไม่ต้องสงสัยหรอกฮะ”สีหน้าของหมอนั่นดูตกใจนิดๆที่ผมพูดแบบนั้นไป
“นายรู้ด้วยว่าฉันคิดอะไร”
“แววตานายมันบอกแบบนั้น”
“อืม”
“นายเก่งนะที่ทำให้เอ็นพูดด้วยได้”
“ผมไม่เข้าใจ”ผมหันกลับไปมองข้างหลัง หลังจากที่ฟังจบ
“ก็หมอนี่มันยากกว่าที่จะพูดกับใครนอกจากพวกเราดูท่านายอาจจะเข้าตามันละนะ”
“คุณพูดอะไรผมไม่เข้าใจ”
“นายนี่นะ ว่าแต่ชื่อต้นรักหรอ”
“ฮะ”
“ฉันชื่อเคนั่นเพื่อนสนิทฉันชื่อพีกับเอ็น”นายคนที่ชื่อเคชี้ไปทางนายผมส้มแล้วบอกว่าชื่อพี อ๋อ นึกออกแล้วส่วนผมดำชื่อเอ็น
“อืม”
“ครอบครัวนายทำงานอะไร”
“อยากรู้ทำไม”ว่าแล้ว ทำไมคนเราต้องรู้พื้นฐานครอบครัวกันด้วยนะ
“บอกไม่ได้หรอไง”พีแย้งทันทีที่ผมพูดจบ
“พ่อเป็นนักเขียน”
“นายคิดว่าพวกเราไม่รู้หรอ งั้นมานี่เลยอยากโกหกดีนัก”
“พวกคุณจะทำอะไร แล้วผมไปโกหกตอนไหนกัน”
“พี เอ็น เอาตัวไปที่ห้องชมรม แบบนี้ต้องคุยกันยาว”
“เฮอะ”เสียงจากเอ็น ผมคิดว่าเค้านายจะห้ามกลายเป็นเข้ามาลากแขนผมก่อนใครเลย
“ปล่อยนะ จะพาผมไปไหน”แล้วผมก็เป็นอิสระ ใช่ที่ไหนถ้ามันเป็นแบบนั้นจะดีมาก ตอนนี้ผมถูกลากออกมาจากห้องแล้วไปที่ตึกข้างๆก่อนที่จะเข้ามายืนอยู่ในห้องๆหนึ่งที่ดูหรูหรามากห้องหนึ่ง แกร็ก เสียงล็อคห้องทำเอาผมสะดุ้งหลุดออกจากความคิดทันที
“มานั่งนี่ก่อน พวกเรามีเรื่องจะคุยกับนาย”เคบอกกับผมก่อนทีจะเดินนำไปนั่งที่โซฟาสีเลือดหมู ส่วนพีเดินไปที่มุมหนังสือพร้อมกับเอ็นที่เดินไปเปิดคอมพิวเตอร์ที่อยู่มุมห้อง
“นายจะคุยอะไร”มองดูแล้วคนพวกนี้แปลก พวกเค้ารู้อะไรกันแน่นะ
“ฉันขอถามอีกรอบ ครอบครัวนายทำงานอะไร”
“ก็บอกไปแล้วไงว่า พ่อเป็นนักเขียน”
“นักเขียนหรอ ไม่ใช่เจ้าของสายการบินหรอกหรอ”
“อึก พะพวกนายพูดเรื่องอะไร”บ้าน่าเราไม่เคยบอกใครมาก่อน”
“ครอบครัวฉันทำงานธุรกิจส่งออก ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลานายคิดว่าฉันต้องรู้จักการเดินทางโดยเครื่องบินมากรึเปล่า”เคบอกพร้อมกับมองหน้าผม
“ครอบครัวฉันเป็นเจ้าของห้างทองที่แม่ของนายชอบเข้าไปซื้อบ่อยๆแถมแม่นายยังเป็นลูกค้าวีไอพี คิดว่าฉันจะจำไม่ได้หรอ”พีบอกผมหลังจากเดินกลับมาจากมุมหนังสือพร้อมกับวางหนังสือลงบนโต๊ะ หน้าปกเล่มนั้นคือ “การเค้นคำตอบด้วยวิธีของฆาตกร” เฮือก น่ากลัว
“พ่อฉันเป็นเพื่อนกับพ่อนาย”หรือว่า ลุงชินไม่นะ
“เออ คือ คือว่า”ผมพยายามหาทางออกให้กับตัวเอง ฟุบ
“บอกมาดีกว่าก่อนที่ฉันจะใช้ปากฉันเปิดปากนาย”ใบหน้าของพีเลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ ไม่เอานะแบบนี้มันไม่ตลกแล้ว
“โอเค ยอมแล้ว ออกไปไกลๆนะ”พียอมที่จะถอยออกไปก่อนที่จะมองมาไม่เว้น “ฉันเคยโดนหลอกใช้งานจากเพื่อนเลยไม่อยากบอกใครว่าครอบครัวทำงานอะไร แต่ความจริงพ่อฉันเป็นนักเขียนจริงๆนะ”
“ก็แค่นี้”ทั้งสามคนพูดออกมาพร้อมกัน
“งั้นผมกับห้องก่อนนะ”ผมกำลังจะลุกขึ้นเดินไปที่ประตูแต่กลับโดนใครบางคนฉุดให้นั่งลงอีกทีแต่มันไม่ใช่ที่โซฟาแต่กลับเป็นตักของพี “เฮ้ย”
“ใครบอกว่าหมดธุระแล้ว”
“ปล่อยนะ ทำบ้าอะไร มันจะเกินไปแล้วนะ นายเป็นใครกล้าดียังไงมาทำแบบนี้”
“เวลานายตกใจก็ยังน่ารักอยู่ดีนะ”
“พี หยุดเล่นได้แล้ว”
“นายอิจฉาก็บอกมาเถอะเคไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ส่วนนายเอ็นไม่ต้องจ้องมากก็ได้รู้ว่าหวง”
“หึ”เสียงหัวเราะของเอ็นลอยมาเบาๆ ทำเอาหลอนเลย
“แล้วมีเรื่องอะไรจะพูดอีก”หลังจากที่ผมลงมานั่งแบบปกติแล้วก็เริ่มถามอีกรอบ
“เราอยากให้นายเลิกแทนตัวเองว่าผมแต่เปลี่ยนเป็นต้นแทนได้ไหม”
“เหตุผลล่ะ”
“ไม่มี”
“แล้วก็อยากให้นายเรียกชื่อพวกเราแล้วก็คิดว่าพวกเราไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นคนสำคัญได้ไหม”
“คนสำคัญ”
“ใช่”ทั้งสามคนตอบออกมาทันที
“คนสำคัญยังไง”
“พวกเรา ชอบนาย”
“ห้ะ”ชอบผม
“ฉันชอบนายตั้งแต่เห็นนายครั้งแรกที่สนามบินตอนที่ฉันกำลังจะขึ้นเครื่องแล้วายก็เข้าไปหาแม่นายพอดีตอนนั้นคุณแม่ฉันกำลังคุยธุระกับแม่นายฉันเลยเจอนาย”เคบอก
“ฉันชอบตอนที่เห็นรูปนายที่คุณแม่บอกว่าอยากให้ฉันเจอนายเพราะนายเป็นเด็กน่ารักแม่ฉันเคยเจอนายที่ร้านทองตอนที่นายมากับแม่นาย”พีพูดหลังจากที่ยอมห่างจากผม
“ฉันเคยไปบ้านนายตอนเด็ก ตอนนั้นนายคงไม่สนใจหรอกเพราะนายเอาแต่อ่านหนังสือไม่มองมาที่ฉันที่ยืนอยู่ใกล้ๆนาย หลังจากนั้นฉันก็ลืมนายไม่ได้เลย”
“พวกนาย”ผมอึ้งกับการถูกสารภาพรักแบบฟ้าแลบ ผมว่าแล้วว่าโรงเรียนนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงอนาคตผม แล้วมันก็เป็นจริง เพราะตอนนี้ผมมีคนมาบอกรักถึงสามคนแต่ติดที่ว่าทั้งสามคนเป็นผู้ชายเหมือนผมนี่สิ
“ตอนทำหน้าเอ๋อ ก็น่ารักนะ”
“ฉันไม่เคยรู้จักพวกนายมาก่อน ฉันคงตอบตกลงใครไม่ได้หรอก”
“ใครบอกให้เลือก เราแค่บอกนายเพราะเราตกลงกันแล้วว่าเราจะคบกับนายทั้งหมด แล้วก็เรามีเวลาจะศึกษากันทั้งชีวิต”
“อะไรนะ นี่พวกนายคิดอะไรกันอยู่” ผมอยากจะบ้าตายนอกจากจะให้คบกับผู้ชายแล้วยังจะให้คบหลายคนพร้อมกันอีก
“นายไม่ต้องห่วงเรื่องครอบครัวนะ พวกเราจัดการแล้ว”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น”
“แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องในโรงเรียนนะ เราจัดการหมดแล้ว”ถึงว่าหลายคนมองแปลกๆ
“แต่ว่า”
“พวกเราจัดการทุกอย่างแล้วนายไม่ต้องกังวล”
“โอเค อยากทำอะไรก็ทำไปเลย”
“ให้พวกเราทำได้จริงอ่ะ”
“เออ”ผมไม่รู้จะพูดยังไงดีเล่นจัดการกันหมดแบบนี้ ฟอด ฟอด จุ๊บ
“ทะทำบ้าอะไรกัน”อยู่ดีๆเคกับพีก็เข้ามาหอมแก้มผมส่วนเอ็นกลับเดินเข้ามาจุ๊บปากผม
“เฮ้ย ไอ้เอ็นมึงมากไปล่ะ เห็นเงียบๆเร็วนะมึง”
“จะยากอะไรนายก็ทำสิ”เคพูดก่อนที่จะจุ๊บผมตามด้วยพี หมดกันชีวิตผม นอกจากจะไม่เคยมีแฟนแล้วยังจะมาโดนผู้ชายด้วยกันขโมยจูบอีกสามครั้งติด
“พวกนาย”อาย คำเดียวเลยครับตอนนี้
หลังจากนั้นพวกเราก็ใช้ชีวิตกันตามปกติแต่ไม่ปกติตรงที่เรากลายเป็นที่รู้จักไปทั่ว ครอบครัวของพวกเราต่างไม่มีใครห้ามเพราะทุกคนทราบเรื่องนี้มาตั้งนานแล้วโดยมีแค่ผมที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ความรักของพวกเราอาจจะมีทะเลาะกันบ้างแต่เราก็ช่วยกันแก้ปัญหาให้ผ่านไปด้วยดี ต้นรักต้นนี้มีสารอาหารชั้นดีอย่าเคพีเอ็น คอยดูแลให้มันเจริญเติบโตไปได้ตลอด เหมือนหัวใจของพวกเราที่มีความรักมาเติมเต็มให้กันอยู่เสมอ ขอบคุณนะคุณชายทั้งสาม