ขอโทษที่หายไปนะคะ
แต่รื้อรหัสผ่านมาได้แล้วค่ะ T__T
_____________
C h a p t e r 23
คนเกลียดกัน มักจะมีเรื่องให้สตั๊นต์หนักๆ
ซ่า !!
หยาดน้ำสาดจากฝักบัวปะทะลงเส้นผมของผมจนเปียกชุ่ม ถูกละเลงต่อด้วยแชมพูอย่างไม่คิดจะหยุด เมื่อคืนนี้มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกตื่นมาแล้วขนแขนมันแสตนด์อัพขึ้นมาครับ ก็คือ..
..กูนอนซบไหล่มัน.. ทั้งคืน !
เออ ขอย้ำว่าทั้งคืน !
ไม่รู้ว่าแม่งเกิดเหี้ยอะไรขึ้น ผมเผลอหลับไปตอนไหนทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นยังด่ามันเรื่องแสดงบทกะเทยได้ห่วยแตกอยู่เลย แต่พอตื่นขึ้นอีกทีก็เห็นไอ้ดำนั่งนิ่ง ๆ เดาะลิ้นตั้งใจกวน ตอนแรกก็กำลังจะอ้าปากด่าเลยครับ
สักพักเห็นหัวกูติดแหงกกับไหล่มันอ่ะ !
อ๊ากกก ศักดิ์ศรีหัวของกู ! โดนเสนียดดำติดแน่ ๆ น้องน้ำกรดอยากตาย !
จะมาว่าอะไรก็ไม่ได้เพราะหัวกูนี่แหละที่กระเถิบไปติดไหล่มันเอง ! ผมไม่ใช่พวกที่จะโวยวายร้องว้าย อุ้ยตายอย่างนี้เพราะพอแยกแยะอะไรออกว่าใครเอาหัวไถลวางบนไหล่มัน !
กูแน่ ๆ กูนี่แหละครับ ! ไอ้ดำคงไม่จับหัวผมไปตั้งตระหง่านไว้บนไหล่แน่นอน !
เหมือนช่วงเวลานั้นจะเป็นช่วงเวลาที่ผมอ้าปากค้าง ชี้หน้าไอ้ดำก่อนที่โรงยิมจะเปิดโดยท่านภารโรงเจ้าปัญหา เท่านั้นแหละครับ ผมกระโจนวิ่งออกจากโรงยิม ตรงกลับห้องตนเองเพื่อที่จะสระผมแบบรุนแรงขั้นหนักแทบไม่ทัน !
จะถามว่าทำไมต้องสระผมน่ะหรือ ?
เดี๋ยวขี้ไคลบนไหล่มันมาติดหัวผม !
ปัง ๆ !!
“เร็ว ๆ ดิวะเหี้ย !! กูจะขัดไหล่ !”
เสียงไอ้ดำลอยเข้ามาทำให้ผมกัดฟันกรอด ไอ้เวร ไอ้เหี้ย ไอ้ห่า ! กูกำลังสระผมอยู่นะมึง เอาเสนียดดำออกไปจากหัวกู๊ ! อย่าเร่งดิ ! โฮ พรหมจรรย์เส้นผมอันบอบบางของผม !
“ไปยืมฝอยขัดหม้อที่โรงอาหารก่อนดิ ไป๊ !”
ตอกกลับไปครับ ไม่ ยังไงกูก็ไม่ยอมออกเด็ดขาด !
ได้ยินเสียงมันด่ากลับมาแต่ผมก็ตั้งใจที่จะเมินเฉย กัดฟันกรอดแล้วใช้นิ้วขยี้หัวรุนแรง ฮือ กูขอกระชากเส้นผมแบบถอนรากถอนโคนออกมาได้ไหม แล้วรอให้มันงอกใหม่เนี่ย
สุดท้ายก็ต้องทำใจเปิดน้ำแรงอีกรอบจน ผมหลับตาแน่นก่อนจะปล่อยให้กระแสน้ำชำระล้างร่างกายของตนเองหงุดหงิด
..แต่แปลกดี
ปกติถ้าใคร ๆ เขานอนไหล่คนมันน่าจะตื่นมาปวดคอนี่หว่า แต่ผมนี่ดิ กลับรู้สึกเหมือนหลับสบายราวกับว่าหัวตัวเองทำมุมองศากับไหล่มันได้พอดีเป๊ะ ๆ !
สงสัยคงจะเป็นเรื่องบังเอิญล่ะมั้ง ?
ผมตัดสินใจจัดแจงร่างกายจนเสร็จสรรพ เดินเช็ดหัวออกมาจากห้องน้ำครับ โอเค กูมั่นใจล่ะว่าหัวกูสะอาดเอี่ยมอ่อง ปราศจากร่องรอยไอ้ดำอย่างแน่นอน ! น้องน้ำกรดฟันธง !!
ผมฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่มที่ฝั่งของตนเอง จะว่าไปตั้งแต่อยู่กับไอ้ดำก็คล้าย ๆ ต่างคนต่างอยู่ มีเขตล้ำเส้นแดนอีกต่างหาก
..ไหน ๆ ก็นึกถึงมัน หันไปดูสักแวบดิ๊..
แล้วก็ต้องเลิกคิ้วเมื่อเหลือบมองด้วยหางตากลับไม่เจอชายร่างสูงที่ปกติมักจะนอนอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่อีกฝั่งหนึ่งเสียได้
อะไรวะ ?
คิดแล้วมันก็เกิดอาการสงสัยขึ้นมาครับ เออ แปลกดี แม่งหายไปไหนของมันเนี่ย ?
..
อย่าบอกนะว่าแม่งไปขอยืมฝอยขัดหม้อที่โรงอาหารมาขัดไหล่ตัวเองจริงๆ น่ะ !?
ครืด
เสียงเปิดกระจกทางฝั่งระเบียงทำให้ผมสะดุ้งตัวเบา ๆ หันขวับไปเห็นไอ้ดำสาวเท้าเข้ามากำลังเสียบหูฟังอยู่เสียอย่างนั้น เหมือนมันยังไม่เห็นผม เดินเลยไปพร้อมกับทิ้งตัวลงบนที่นอน
เออ ? ฟังเพลงเรอะ.. ก็ปกติดีสุขของมันนี่หว่า
ผมตัดสินใจหันกลับไปนั่งเช็ดหัวเหมือนเดิม
ประเด็นคือ ตอนแรกกูกะจะไม่สนแล้วนะ.. ไม่สนจริง ๆ ..
..แต่..
“อืม .. อาทิตย์นี้นัยคงยังไม่กลับบ้านนั่นแหละ”
..เหี้ยยยย !!!
ผมอ้าปากค้าง หันขวับ !! ทุกคนได้ยินไหม อ่านเหมือนกัน ฟังไม่ผิดใช่ไหม ! ไอ้ดำในรูปประโยคที่ ‘ไม่มีคำหยาบ’ แม้แต่นิดเดียว เท่านั้นไม่พอ แทนตัวเองว่า ‘นัย’ อีกต่างหาก !
เฮ้ย.. เฮ้ยย ! นี่มันเรื่องเหลือเชื่อที่สุดในโลกแล้ว ! เกิดเชี่ยอะไรขึ้นกันแน่ บอกกูทีเหอะ อย่าปล่อยให้กูสะพรึง !!
ไอ้ดำแม่งยังไม่รู้ตัวว่าผมจ้องอยู่ครับ มันหลับตา พลิกตัวคุยโทรศัพท์ไปอีกทาง แต่ที่น่าสะพรึงไปมากกว่านั้นคือ มันกำลังอมยิ้มหวานที่สุดในโลกอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
“เอาน่า เดี๋ยวก็ได้เจอกับนัยแล้วนะ”
..อึก..
กู..
จะ..
อ้วก..
ใคร ใครแม่งเอาไม้มาทุบหัวไอ้ดำให้กลายเป็นคนพูดจาแบบนี้ด้วยสีหน้าระรื่น บอกกูทีว่าใคร ! หรือเพราะบทกะเทยที่กูสอนไปเมื่อวานมันจะทำให้คนเหี้ยกลายเป็นคนสมองเสื่อม เหี้ยสมองเสื่อมเหรอวะ บอกกูที !
“ฮะๆ นัยไม่ลืมหรอกน่า”
อ๊ากกก กูขนลุก ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหว !
ผมยกมือขึ้นถูแขนตนเองแรง ๆ ไอ้เชี่ย หรือว่าจะเป็นแฟนมันวะ ? ถ้าเป็นจริงล่ะก็แม่งก็เลวสัตว์นรกมากเลยนะ เพราะมันเสือกเอากับคนอื่นไปทั่วเนี่ย !
“เดี๋ยวนัยจะรีบกลับนะ” ไอ้ดำพลิกตัวนอนหงายแทน ส่วนผมกำลังพะอืดพะอม นั่งจ้องอากัปกิริยาของมันถึงกับคลื่นไส้ “อือ.. อย่าทำเสียงน่ารักแบบนี้ดิ เดี๋ยวนัยก็เขินหรอก”
อึก... อ๊าก !!
บอกกูที มึงสมองเสื่อมเพราะบทกะเทยใช่ไหมวะ โอเค ได้ กูจะไม่พยายามขอให้มึงแสดงเป็นกะเทยแล้ว ขอโทษ กูขอโทษษษ !
ถ้ารู้ว่าวันถัดไปมึงจะกลายร่างเป็นไอ้ดำแบ๊ว ๆ แบบนี้กูขอตายดีกว่า อ๊อก ! มึงจะแบ๊วด้วยคำพูดก็ช่วยพาร่างกายตัวเองแบ๊วไปด้วยเหอะ !
ลองคิดดูนะ สูงเหยียบร้อยเก้าสิบห้าเซน ดำ (?) ก็ดำอีก แถมยังพูดจาอย่างนั้น... อ๊อก มันอุบาทว์ !
ผมยกมือขึ้นปิดปาก เหมือนว่าน้ำย่อยตัวเองในกระเพาะน้อย ๆ จะตีคลื่นขึ้นมาจนหยุดไม่อยู่เลยด้วยซ้ำ
แม่ง..
แม่งเอ๊ย
หากแต่ระหว่างที่กำลังพยายามกลั้นความขมที่ไล่จุกตรงลำคอของตน สายตากลับตวัดไปเห็นใบหน้าของคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเตียงเสียก่อน
รอยยิ้มอ่อนโยนที่ปรากฏบนใบหน้าของไอ้ดำทำให้ผมนิ่งงัน
ดวงตาเบิกกว้างกับสิ่งตรงหน้า ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยด้วยซ้ำ ปกติจะเจอแต่มันยิ้มกวนตีน ๆ
แต่ว่านี่มัน
..อ่อนโยน และทะนุถนอม..
ชักเริ่มสงสัยจริง ๆ แล้วสิ ว่าใครกันแน่ที่มันกำลังคุยด้วยอยู่ ตอนแรกเดาว่าเป็นครอบครัว สักพักพอได้ยินเสียงน่ารงน่ารักเหี้ยอะไรนี่แหละ กูว่ามันคงไม่สติแตก ไปชมแม่ตัวเองว่าเสียงน่ารักหรอก
..มีอย่างเดียวก็คือแฟน ?
“..หือ อืม นัยก็คิดถึงเหมือนกัน อยากเจอไว ๆ ไปก่อนนะ”
อึก.. แต่แม่ง
อยู่กับแฟน แล้วเป็นคนละตัวกันเลยเหรอวะ !?
ผมเห็นไอ้ดำกดวางสายไป มันมองมาหาผม ไม่มีสีหน้าตกใจใด ๆ เหมือนจะเป็นเรื่องปกติของชีวิตมัน
ในขณะที่กูกำลังช็อก
เพราะอาศัยอยู่ห้องเดียวกับมันจะครบสามเดือน ยังไม่เคยเห็นท่าทีพิเรนทร์ ๆ แบบนี้มาก่อนเลย
“เออ ไม่ใช้ห้องน้ำแล้วใช่มะ กูไปขัดไหล่ก่อนล่ะ”
มันเอ่ยออกมาพร้อมหยัดตัวขึ้น ..
เออเดี๋ยว
ยัง..
ผมยกมือขึ้นเชิงห้ามปรามไม่ให้ไอ้ดำลุกเข้าห้องน้ำ..
..อาทิตย์นี้นัยคงยังไม่กลับบ้านนั่นแหละ..
..เดี๋ยวก็ได้เจอกับนัยแล้วนะ..
..นัยไม่ลืมหรอกน่า..
..นัยจะรีบกลับนะ..
..อย่าทำเสียงน่ารักแบบนี้ดิ เดี๋ยวนัยก็เขินหรอก..
..นัยก็คิดถึงเหมือนกัน อยากเจอไว ๆ ไปก่อนนะ
เสียงทุ้มต่ำคุ้นเคยที่มักจะเอ่ยปากด่าและเถียงกับผมเป็นประจำที่มักเจอหน้ากันดังขึ้นวนเวียนไปมา ทันใดนั้นเองร่างกายของผมก็เผลอลุกขึ้นอัตโนมัติ เป็นเหตุทำให้ไอ้ดำที่นั่งบนเตียงเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตางุนงงเล็กน้อย
..นัย.. นัย.. นัย..
อี๋..
สักพักแม่งก็นัยอย่างนู้น นัยอย่างนั้น มีการนัยจะเขินด้วย..
บางสิ่งในท้องตนเองถึงกับตีขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งจนเล่นเอาเวียนหัวไปเลยทีเดียว ก่อนที่ผมจะตัดสินใจพูดออกมา
“กู.. ใช้ห้องน้ำ !”
ว่าจบ ก็รีบวิ่งตรงเข้าห้องน้ำพร้อมกระโดดเกาะโถส้วมทันที สัตว์ กูจะมีเมียเป็นโถส้วมแล้วเนี่ย กอดแม่งได้เกือบทุกวัน..
และแล้ว..
“อ้วกกกกกกกกกกกกกก ! ”
..น้องกรดก็จากไปอย่างสงบ..
ออกหมดแล้ว
แม่งออกหมดจริง ๆ สาบานได้เลย
พออาเจียนทุกอย่างออกมาเสร็จ ไอ้ดำก็พูดทันทีเลยว่า ‘กูไม่เข้าห้องน้ำล่ะ’ ครับ กลิ่นอ้วกกูเองนะ นี่มึงมีปัญหากับกลิ่นอ้วกกูใช่ปะ เออได้ ! วันหลังเดี๋ยวจะเอาอ้วกไปป้ายหน้า !
..คิดเองแม่งก็ไม่ทำหรอกครับ กูกลัวเหม็นอ่ะ.. ไม่ใช่กลัวมันเหม็นหรอกนะ ตัวเองนี่แหละเหม็น !
“ห้ามพูดแบบเมื่อเช้าอีกนะสัตว์” เป็นคำแรกของผมหลังจากที่ตนเองอ้วกออกมาเสร็จแล้วและกำลังแต่งตัวเพื่อไปซ้อมละครอีกครั้งหนึ่ง ช่วงนี้คือพวกที่มีหน้าที่ซ้อมละครมักจะได้คาบโดดเรียนได้ ส่วนพวกไม่มีบทต้องนั่งเรียน เฮ้ย ๆ หรือบางทีผมจะคิดถูกที่มาแสดงเป็นกะเทยวะเนี่ย ?
“พูดแบบเมื่อเช้า ? เหี้ยไรวะ” ไอ้ดำทวนพร้อมขมวดคิ้ว อ้าว นี่มึงดำแล้วยังสมองเสื่อมด้วยจริง ๆ สินะ
“แบบที่มึงคุยในโทรศัพท์” ผมเอื้อมมือไปหยิบปึกกระดาษบทละครบนโต๊ะมาทบทวน “ขนลุกสัตว์”
“คิดว่ากูจะพูดกับมึงเรอะ.. อ้อ นั่นเป็นสาเหตุที่มึงอ้วก ?”
“เออ” ส่งเสียงกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “คุยกับแฟนไงวะ แม่งขนลุกเหี้ย ๆ”
บ่นสิครับ น้องกรดบ่น แม่งคุยเหี้ยอะไรจะขนาดนี้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากไอ้ดำมันไม่ใช่การเมินหรืออะไร..
แต่กลับเป็น..
“หึ”
..
การส่งเสียงในลำคอที่กูเกลียดมาก ๆ พร้อมเดินออกไป..
เอ๊ะ แต่เดี๋ยว
นี่มึงไม่ตอบกูเหรอวะ..
..หาเรื่อง ! มันไม่เมินซะที่ไหนกันเล่า ! แบบนี้แหละเรียกว่าเมินชัด ๆ !
ผมกัดฟันกรอด หงุดหงิดเชี่ย ๆ เลย เหมือนถูกเมินยังไงไม่รู้ อะไรวะ ปกติมึงต้องเถียงกูดิ หรือเพราะเมื่อวานไปสอนบทกะเทยให้แล้วมันจะเปลี่ยนนิสัยคนได้จริง ๆ วะ !?
คิดแล้วก็หมั่นไส้ว่ะ
“โหย ถ้าเป็นแฟนมึงจริง ๆ คงโคตรน่าสงสารเลยวะ” ผมพูดจบพลางเลี้ยวเดินลงบันได “แม่ง นอกใจไปเอากับคนอื่น”
เฮ้ยๆ นี่กูหาเรื่องมึงอยู่นะ
“....”
แม่งยังเงียบอยู่ใช่ไหม เออได้
งั้นกูไม่ยอมครับ เออ มึงเงียบ กูจะพูดเอง !!
“นี่นะ ไม่นึกว่าคนเหี้ย ๆ อย่างนี้จะมีในโลกด้วย ที่ว่ามีแฟนแล้วแต่เสือกเปลี่ยนคู่นอนไม่เลือกหน้า” เอ่ยเสียงเรียบโดยไม่ลืมแอบปรายตาไปมองคนข้างกาย เฮ้ย ๆ เห็นแม่งคิ้วกระตุกแล้ว สนุกว่ะ ! โอ๊ยย กูจะเข้าสู่การชิงแชมป์หาเรื่องคนระดับชาติ ! “โธ่ .. ไอ้เกย์...”
“จะด่าคนอื่นว่าเป็นเกย์ มึงก็เคยเป็นเกย์ไม่ใช่รึไงวะ”
..
ฉิบหาย !!
กูเผลอปากพูดอะไรออกไปวะ ผมหน้าซีดเผือดทันทีทันใด ฉิบหายล่ะ.. จะด่ามันเป็นเกย์เหมือนเดิมก็ไม่ได้แล้วอ่ะดิเพราะแม่งรู้ความลับกูแล้ว !
..เอาไงดีวะ..
..คำตอบคือ กูตอกมันกลับไม่ด้ายย !
อารมณ์เหมือนปากหมา ๆ ผมถูกสับสวิตซ์ดับเลยครับ เงิบ เงียบ พูดกลับไม่ถูกอย่างจริงจังเลย
“แล้วช่วงนี้น่ะ เคยเห็นกูนอนกับใครไหมล่ะ ?” เสียงทุ้มของอีกฝ่ายตอกกลับมาเล่นทำให้ผมเงียบกริบ นี่มึงเงียบ ๆ แต่ความจริงรอซุ่มโจมตี แอทแทคกูทีเดียวติดคริติเคิลใช่ไหมวะ
“..บาง— บางทีมึงอาจจะไปเอาคนในห้องน้ำ !”
“มึงก็เห็นว่ากูตัวติดกับมึงเกือบตลอดเวลาแล้วนะ เอามึงง่ายกว่าไหม”
..เออ จริงของมัน ช่วงนี้ผมกับมันตัวติดกันเกือบตลอดเวลานี่หว่า เอาผมน่าจะง่ายสุด..
เอาผม..
..เอา..
“เอาพ่อมึง !” ผมตะโกนด่าทันที นี่มันตอกกูนี่หว่า ไอ้เหี้ย มึงแค้นเชี่ยไรกับกูวะ ไอ้สัตว์เอ๊ย !
อีกคนเลิกคิ้วเล็กน้อย
“เดี๋ยวนี้เปลี่ยนรสนิยมเอาพ่อกูสินะ”
ไอ้ห่ารากกก !!
อ๊ากกก รู้สึกเหมือนถูกปั่นหัว หัวหมุน อยากจะกระโดดเข้าไปถีบหน้ามันอย่างไงก็ไม่รู้ !
“พ่อมึงตาย !”
“พ่อกูทำงานอยู่” คือ.. คือกูชอบเห็นหน้ามึงหงุดหงิดครับ แต่ไม่ชอบเห็นหน้าตัวเองหงุดหงิด อยากกระโดดตกจากบันไดตอนนี้จริง ๆ
บอกกูทีว่าบทกะเทยไม่ได้ช่วยให้มันทำตัวน่าขนลุกขึ้น
แต่เสือกทำให้มันกวนตีนกูกว่าเดิม !!
หรือปกติแม่งกวนอยู่แล้ววะ ?
ดีแค่ไหนแล้วที่ผมไม่ยอมหันไปต่อยหน้ามันให้ตกบันไดหัวแตก พอคิดอย่างนั้นไอ้เรื่องที่แม่งบอกว่าดีแต่ใช้ความรุนแรงก็ตอกเข้ามาในหัวทำให้ตนไม่อยากที่จะทำเชี่ยอะไรเลย พอทำแล้วมันต้องดูถูกกูแน่ ๆ สัตว์ ! โอ๊ยย น้องกรดจะไม่ยอมให้คำดูถูกพวกนั้นมากระเทือนจิตใจอันบอบบาง !
และผมก็แทบจะร้องไห้ด้วยความดีใจ เพราะเมื่อลงมาชั้นล่างสุดเจอไอ้เชี่ยนิวกับไอ้จินพอดี !
“ไอ้นิว !” ร้องลั่นเลยสิครับงานนี้ เจ้าของชื่อสะดุ้งน้อย ๆ ทำหน้าตกใจใส่
“อ้าว เฮ้ย มึงมาได้ไง.. หือ มากับไอ้นัยเหรอวะ ?” ช่วงนี้เหมือนพวกเราสี่คนจะสนิทขึ้นแปลก ๆ แหะ ชายผิวคล้ำพยักหน้าเบา ๆ แทนในขณะที่ผมทำหน้าไม่สนใจ
“ฮือ.. กูคิดถึงมึงมากเลย คิดถึงสุด ๆ อ่ะ”
“อ่อ..”
“เดี๋ยวนิว มึงกับกูยังคุยกันไม่จบ แล้วก็ไอ้เชี่ยกรด ห้ามกอดสัตว์นิว” เสียงนี้ดังมาจากเชี่ยจินที่ทำให้ผมถึงกับสตั๊นต์ หันขวับมองอีกฝ่ายอย่างงุนงง อะไรวะ กูกอดไอ้นิวแล้วมันผิดตรงไหนวะ
“เชี่ย กูกอดประจำของกูอ่ะ”
“ไม่ได้ เพราะงี้ไงมึงเลยโดนคนหมั่นไส้บ่อย ๆ”
“เหี้ยไรวะ ?”
“คนชอบเชี่ยนิวเยอะเป็นโขยงเลยด้วยซ้ำ แถมมึงเสือกสนิทสุด ๆ กับมันอีก เลยโดนหมั่นไส้ไง สัตว์” ตกลงกูอยู่ชายล้วนหรือหญิงล้วนกันแน่ มีการมาหมั่นไส้ด้วย
ว่าแต่ เรื่องคนชอบเชี่ยนิวเยอะนี่มันจริงเรอะ ?
พอหันไปหาเพื่อนซี้ก็เล่นเอาเงียบกริบเมื่อมันยิ้มแห้ง ๆ แทน
“เออ ก็ประมาณนั้น”
“แล้วก็ไอ้นิว กูกับมึงคุยต้องกันก่อน” ไอ้จินพูดพร้อมกับจับแขนนิวเอาไว้ขณะที่เพื่อนตัวเล็กผมยังคงพยายามทำท่าสะบัดออก
“ขอเสือกหน่อย เรื่องไรวะ ?” ไม่ได้การล่ะ ผมเป็นตัวเอกนะ มีความสามารถพิเศษคือการเสือกได้ทั้งเรื่องครับ ก๊ากกกกกก ..
ถึง.. กูจะดูไม่รู้อะไรที่สุดในเรื่องก็เหอะ !
“เนี่ย มึงดูดิ แม่งจะไปแดกหมูกระทะกับเพื่อนเก่าแล้วเสือกไม่ยอมพากูไปด้วย” เอ่อคือ เสียงเชี่ยจินทำผมแทบสตั๊นต์ มันดูน้อยอกน้อยใจแปลก ๆ ยังไงไม่รู้
นิวชักสีหน้า หันมองชายร่างสูงกว่า
“เอ้า ก็กูจะไปเจอเพื่อนกูอ่ะ มึงเกี่ยวไรด้วยวะ”
“เกี่ยวดิ เรื่องของมึงก็คือเรื่องของกูนั่นแหละ”
“...”
เหมือนไอ้นิวจะนิ่งไปประมาณสามวินาทีเต็มๆ ครับ.. ก่อนที่สายตาหงุดหงิดของมันจะแปรเปลี่ยนเปล่งประกายวิบวับทันที พร้อมรอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าหวานที่เล่นทำเอาผมเงิบแดก มันเคยยิ้มกว้างขนาดนี้ซะทีไหนกันเล่า !
“งั้นอยากไปก็มาด้วยกันเลยนะ”
ไอ้เหี้ย ! ไหนตอนแรกบอกไม่ ๆ พอแม่งพูดคำหวาน ๆ นิดเดียว มึงยอมแล้วเหรอวะ
ผมอ้าปากค้าง นิวเนี่ยดิหน้าระรื่นไปแล้ว
เอ๊ะ แต่เดี๋ยว..
ขอเรียงลำดับเหตุการณ์ก่อน
ถ้าไอ้เชี่ยนิวไปกับจิน ตอนกลับก็น่าจะกลับสองต่อสอง
เดี๋ยว.. สองต่อสอง = โอกาสเสียเอกราชสูง
เท่านั้นแหละ ผมรีบโพล่งออกมาทันที สปิริตความเป็นเพื่อนถึงกับทะลุเป้า
“กูไปด้วย !”
“หา ? มึงจะไปหาพ่อมึงเหรอกรด” เป็นเสียงจินครับ ไอ้สัตว์ ! กูรู้นะว่ามึงคิดเหี้ยไรอยู่ อย่า ๆ ไอ้นิวมันเพื่อนกูเลยนะเว้ย
“ไม่ ! กูจะไปรักษาเอกราชเพื่อนกู ถ้าอยู่ ๆ ตอนกลับมึงฉุดไอ้นิวแล้วจับกดขึ้นมาทำไงวะ !!” เห็นไหม กูรักเพื่อน รักมาก เดี๋ยวจะยอมพลีตัวถวายกายไปแดกหมูกระทะด้วยเพื่อช่วยปกป้องประตูหลังเพื่อนยังไงล่ะ !
แต่เหมือนเชี่ยนิวจะขมวดคิ้ว
“เหี้ยไรวะ”
“ถ้าอยู่ ๆ ไอ้จินหื่นแล้วอยากปล้ำมึงทำไงวะ ! กูกำลังปกป้องเพื่อนอยู่นะเว้ย” พูดจบก็หันไปโวย ในขณะที่คนถูกพาดพิงหน้าบูดไปซะแล้ว
“อะไร กูก็แค่อยากสวีตกับนิวบ้าง มึงไปไกล ๆ ตีนกูเลยกรด” ว่าแล้วก็โบกมือไล่อีก ส่วนผมกระโดดไปเกาะเอวไอ้นิวทันทีเลยครับ ตัวเล็ก ๆ อย่างนี้ระวังโดนอุ้มนะมึง
“เชี่ยไรวะ” เอ่อ มึงมีบทนาน ๆ ทีก็ประหยัดบทพูดเหลือเกินนะ ก่อนหน้านี้เหี้ยไรวะ ตอนนี้เสือกเปลี่ยนเป็นเชี่ยไรวะซะงั้น
“ไม่ ๆ กูจะอยู่กับไอ้นิว ไปแดกที่ไหนก็แดกด้วยกัน เนอะมึง” ไอ้เพื่อนตัวเตี้ยของผมกรอกตาไปมาอย่างปลง ๆ มันคงรู้ว่าถ้าผมปักหลักแล้วเปลี่ยนอะไรไม่ได้อย่างแน่นอน !
“เฮ้อ.. ตามใจมึงเหอะ..”
นั่นไง ปลงแล้วจริงๆ ด้วย !
“เหี้ย ! งั้น— งั้นไอ้เชี่ยนัย มึงต้องไปด้วย ! ”
หะ ?
ผมหันขวับทันที ไอ้จินชี้ไปยันชายที่ยืนเงียบ ๆ ดำ ๆ กลมกลืนตัวไปกับมุมมืดจนผมลืมไปแล้วว่ามันเป็นพระเอกของเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน อีกฝ่ายขมวดคิ้วแน่น
“ไปไหนวะ ? ”
“แดกหมูกระทะ”
“ไม่”
แม่งพูดจบก็ก้มลงกดไอโฟนต่ออีก อ้าว มีโทรศัพท์ดี ๆ แล้วอวดนะมึง กูขอให้โดน‘จารย์ยึดเหอะ เพี้ยง กฎหอเขาก็บอกอยู่ว่าห้ามใช้โทรศัพท์ มึงแม่งเหี้ยฉิบหาย
“ทำไมวะ กูจะสวีตกับนิวอ่ะมึง กูจะสวีตกับนิว !” ไอ้จินงอแงด้วยท่าทีไม่เข้ากับขนาดตัวแม้แต่น้อย ผมเห็นนิวยิ้ม ๆ อยู่ครับ เออ แปลกดี เป็นกูนี่รำคาญสัตว์ ๆ อ่ะ “ไอ้เชี่ย ! มึงเลิกกดโทรศัพท์แล้วมองกูหน่อยดิวะ”
วันนี้เชี่ยจินได้บทพูดเยอะจริง ๆ ไม่ไหว ๆ สงสัยวันนี้ค่าตัวมันลดลง เข้าใจหน่อย
“ไรอีก ?”
“เดี๋ยวกูเลี้ยงมื้อหนึ่งเลยมึง ! ขอเหอะ ไปกับกูหน่อย เสร็จแล้วช่วยกัดกับเชี่ยกรดบ่อย ๆ ด้วยนะ มันจะได้ไม่ต้องมาขัดกูสวีตกับนิว ! ”
เฮ้ย ! กูนี่สะดุ้งเลย
ผมหันขวับ แม่งอะไรของมันวะ ให้กูกัดกับมันก็เหนื่อยนะครับ นี่คนนะ ไม่ใช่หมา !
“เหี้ยไรมึงเนี่ย !! ไอ้นิว มึงเป็นเจ้าของงาน ไม่ให้ไอ้ดำไปใช่ปะ !”
เพื่อนสนิทผมทำหน้าปลงใส่อีก
“ใครอยากไปแม่งก็มาเหอะ กูบรรลุล่ะ”
ไอ้ห่าเหววววววว !! บรรลุบ้านป้ามึงดิ !
ผมหันขวับมองไอ้ดำที่กำลังยกมือขึ้นยีหัวตัวเองไปมาพร้อมส่งสายตาเรียบนิ่งไป.. ก่อนจะปฏิเสธทันที..
..
ซะทีไหน
“ฟรีเหรอ ? เออ เดี๋ยวกูไปดิ”
ไอ้สเลดเป็ด !!
อ๊าก อย่าเห็นแก่กินได้ไหมวะมึง กูอยากจะบ้าตาย ผมเห็นไอ้จินกระโดดตัวลอยเลยด้วยซ้ำ ฮือ.. สงสารกูเหอะ สงสารกูหน่อย !
“ว่าแต่จินต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวกูกับกรดแล้วก็นัยต้องไปซ้อมละครนะ” เสียงหวานร้องเตือนขึ้นทำเอาไอ้เชี่ยจินถึงกับสะดุ้งเฮือกเหมือนเพิ่งนึกได้
“เออ งั้นกูไปก่อน.. ว่าแต่ ไอ้นัย วันนี้มึงดูเงียบ ๆ วะ ทำเหี้ยไรอยู่วะ ? ” ผู้ถูกถามผงะเล็กน้อยพร้อมละสายตาออกจากโทรศัพท์ “เฮ้ย ๆ กลายเป็นคุณหนู สาวน้อยที่นั่งจิ้มโทรศัพท์เหรอวะ”
จะว่าไป ถ้าพูดถึงเรื่องโทรศัพท์ก็ต้องมีเสริมครับ
น้องกรดคนนี้ไม่ยอมให้มันจบอยู่ที่จิ้มไอโฟนแน่นอน
“ใช่ แถมเมื่อเช้าแม่งพูดอะไรน่าขนลุกจนกูอ้วกเลยล่ะ”
“มึงก็เปรียบเทียบเกินไป” ไอ้นิวขำเบา ๆ อะไรวะ นี่มึงไม่คิดว่ากูอ้วกจริงบ้างเหรอ เชี่ย ! กูขนลุกจนอ้วกจริง ๆ นะ หมดไส้หมดพุงแล้วเนี่ย
คนถูกถามทำหน้าเอื่อยเฉื่อย
“กูคุยกับพี่สาวกูอยู่” ว่าแล้วมันก็บิดกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ขณะที่ผมถึงกับสตั๊นต์..
เดี๋ยวนะ พี่สาวเหรอ ? เฮ้ย ๆ
“ใช่คนที่มึงจะซื้อตุ๊กตาฮัสกี้ให้ใช่ปะ ?” ความทรงจำในอดีตเหมือนถูกปลุกขึ้นมาแถมจำได้ลาง ๆ ว่าไอ้ตุ๊กตาฮัสกี้นั่นยังตั้งอยู่ในห้องอยู่เลยครับ แถมไอ้ดำยังเสือกพยักหน้าตอบอีก
ถ้าเป็นพี่สาว .. คงเป็นพี่สาวที่สนิทกันมากแหง ๆ ซื้อตุ๊กตาฮัสกี้ตัวหลักพันให้เนี่ย..
ได้เพียงแค่คิดในใจ ขณะที่เชี่ยจินเบิกตากว้าง
“นี่มึงซื้อตุ๊กตาฮัสกี้ให้พี่เขาเลยเหรอวะ ?” ทั้งผมกับนิวก็ถึงกับขมวดคิ้ว จะตกใจอะไรนักหนาวะ แค่ซื้อของให้พี่สาวเองนะ
“อืม” เด็กหนุ่มร่างสูงสุดพยักหน้าเบา ๆ “ทำไม ?”
ไอ้จินทำหน้าฮึดฮัด
“แล้วเมื่อเช้ามึงคุยกับพี่เขา แบบเหมือนเดิมปะ ?” เดี๋ยว เหมือนเดิมอะไรวะ ผมชักเริ่มงงแล้ว ส่วนไอ้ดำก็เสือกพยักหน้าตอบกลับไปอีกต่างหาก “ไอ้..นี่ มึงนี่มันเหี้ยจริง ๆ”
เอ๊ะ เดี๋ยว อันนี้ประโยคผมพูดบ่อย ๆ
ว่าแต่ ทำไมเชี่ยจินต้องหงุดหงิดขนาดนั้นด้วยวะ หรือเรื่องที่แม่งเป็นกิ๊กไอ้ดำคือความจริง ? แต่เชี่ยนิวก็อยู่ตรงนี้ ท่าทางจะไม่ใช่หรอกมั้ง
“เครียดไรวะจิน ?”
เสียงของไอ้นิวดังขึ้นมา ผมพยักหน้าเออออกับมันไปด้วย
“กูทำทุกอย่างเหมือนเดิมกับที่กูเคยทำกับพี่เขา.. แล้วจะทำไม ?” น้ำเสียงทุ้มต่ำนั่นเหมือนเปลี่ยนไปเล็กน้อยราวกับถูกขัดใจ ทำให้ผมถึงกับผงะไป
ชายร่างสูงผิวกร้านแดดไม่ได้จ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์อีกต่อไป เพียงแต่เปลี่ยนเป็นเผชิญหน้ากับจินทีกำลังจ้องตาเขม็ง
ก่อนที่มันจะพูดประโยคถัดไป..
“ถ้ามึงทำทุกอย่างเหมือนที่เคยทำกับพี่เขา.. แล้วเมื่อไหร่มึงจะตัดใจจากพี่สาวแท้ ๆ ของมึงได้สักทีวะ ไอ้นัย !?”
..ที่ทำให้หัวใจของผมเหมือนหยุดเต้นไปชั่วขณะทันที..