ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0..........................
เรื่องนี้เป็นเพียงนิยายที่แต่งขึ้นมาเองถึงแม้ว่ามันอาจจะตะกุกตะกักไปบ้างก็ขอแรงใจจากเพื่อนด้วยนะค้ะเพื่อ กำลังใจในการคิดบทนิยายในเรื่องต่อไป ทุกเสียงคืือพลังค่ะ
................................................
ทุกๆสิ่งที่คุณมอง ล้วนมีความหมายของมัน
ทุกๆอย่างที่บางคนทำ ล้วนมีจุดประสงค์ที่พึงจะได้
ผมมองดูดอกรักช่อหนึ่งที่อยู่หน้าประตูห้องที่ผมเผลอเหยียบมัน ครั้งแรกที่เห็นผมคิดว่าคงมีคนเก็บแล้วทำหล่นไว้ เลยไม่ได้ให้ความสนใจกับมัน แต่พอวันต่อๆมา ก่อนที่ผมจะออกจากห้องเพื่อไปทำงานทุกครั้ง ผมก็จะเจอกับมันดอกรัก บางวันก็เป็นช่อๆแถมผูกโบว์ติดไว้กับลูกบิดอีก จนผมเริ่มสงสัย ใครกันที่ทำแบบนี้ แต่จะรู้ได้ไงในเมื่อมันมีแค่ดอกไม้ ไม่ได้แนบอะไรมาซักหน่อย จากหนี่งวันเป็นอาทิตย์ จากอาทิตย์จนกลายเป็นเดือนๆ จนผมเริ่มกังวลถึึงแม้ว่ามันอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับผมก็ตาม แต่ความกังวลมันอัดแน่นอยู่ในอกพร้อมทั้งทำถามที่ค้า่งคาใจ
วันนี้ผมต้องรู้ให้ได้จึงต้องเดินไปขอเจ้เจ้าของตึกที่ดูแลตึกอยู่นี่ เจ้แกก็ดูตกใจมากเพราะไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์เเบบนี้มาก่อน เพราะเรื่องความปลอดภัยแล้วคนนอกที่ไม่ได้พักอยู่ ในห้องพักของเจ้แกไม่มีทางที่จะเข้ามากันง่ายๆ มันก็เป็นอย่างทีคิดมีใครบางคนเิดินมาเป็นผู้ชายตัวสูงเดินมาจากทางลิฟ หยุดตรงหน้าห้องที่ผมพักแล้ววางบางอย่างลงหน้าห้อง แล้วเดินจากไป
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งเล็กที่เขาวางไว้เป็นอะไร
"จะทำยังงัยดีล่ะแจ้งตำรวจไหมคุณ"เจ้แกว่าพลางทำสีหน้าเครียด
"ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมแค่อยากรู้ว่า สิ่งนั้นมันมาได้ยังไงแค่นี้ก็พอแล้วล่ะครับ" ผมว่าแต่สายตาก็ยังจับจ้องที่จอภาพที่ยามหยุดไว้ให้เห็นผู้ชายร่างสูงที่เอาดอกรักมาวางไว้
"มันจะดีหรอ"เจ้ถามย้ำเพื่อความมั่นใจ ผมพยักเพื่อความแน่ใจให้กับเจ้ เค้าจึงไม่ถามอะไรมาอีก
เมื่อกลับมาที่ห้องผมล้มตัวนอนบนเตียง หยิบดอกรักที่ปักแจกันไว้ มันมีความหมายอะไรนะเค้าถึงเอามาวางไว้แบบนี้ แต่รู้ๆอยู่ตอนนี้คือ เวลาที่เค้าเอามาวางไว้คือเวลาตีหนึ่งของทุกๆคืนแถมตรงเวลาทุกครั้งด้วยนี่สิ ผมยิ่งคิดหนัก ความกลัวผุดขึ้นในสมอง 'ถ้าเป็นผีล่ะจะทำไง' แต่ก็สะบัดความคิดนี่ไปเสียผีที่ไหนจะหยิบสิ่งที่มนุษย์จับต้องได้กันละ แล้วใครล่ะผู้ชายคนนั้น เค้าเป็นใคร ทำเพื่ออะไร แล้วทำทำไม
เหลือบมองนาฬิกาตอนนี้ก็สี่ทุ่มได้เเล้วตอนเย็นที่ไปคุยกับเจ้ก็ใช้เวลามากอยู่ เลยลืมออกไปหาซื้อข้าวกินเลย รู้สึกหิวเเล้วสิในตู้เน็นก็ไม่ได้ซื้อของกินมาเก็บไว้มีแต่น้ำหลากหลายที่ซื้อมาไว้แค่นั้น
ออกไปหาอะไรกินหน่อยดีกว่า แต่พอเปิดประตูก็เจอกับผู้ชายบางคนยืนอยู่หน้าห้อง ผู้ชายตัวสูงร่างสมส่วน ใบหน้าที่คมเข้มคงเป็นที่ชื่นชอบของหญิงสาวทั่วไปที่ได้พบเห็น สายตาผมก็ไปสะดุดบางอย่างที่มือแต่ทว่าเค้าชักมือกลับไปก่อนที่จะได้เห็น
"มีอะไรหรือเปล่าครับ" ผมถามไปเมื่อเห็นเค้าไม่มีท่าทีจะพูดอะไร
"อ่อ คือ สงสัยผมคงจะมาเคาะห้องผิดนะครับ"เค้าว่าอย่างงั้นเอามือเกาหัวนิดหน่อย แต่มันก็ทำให้ผมสงสัยเล็กน้อยเหมือนกันถ้าเป็นคนตึกนี้จะเคาะห้องผิดได้ไง
"คุณเป็นคนนอกหรอครับ" ยิงคำถามไปแล้วดูปติกิริยาว่าคนนั้นจะตอบมาแบบใหน
"ครับ พอดีมาหาเพื่อน"
"แล้วเค้าปล่อยให้คุณขึ้นมาเองได้ไง" พอยิงคำถามนี่ไปเจ้าตัวกลับเงียบอ้ำอึ้ง เหมือนใช้ความคิด
แต่ไม่ทันที่จะได้คำตอบดีสายเรียกเข้าโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น เลยต้องละสายตาจากคนข้างหน้าเข้ามาคุยในห้อง
"ว่าไง" ผมรับสายเมื่อรู้ว่าใครโทรมา
"ต้นหรอ เนี่ยวันนี้จะขอมาค้างด้วยหน่อยได้ไหม" เสียงของเพื่อนสนิทของผมที่ชื่อเอ็กเองครับ
"ได้สิ ต้นมีเรื่องอะไรอยากจะเล่าให้ฟังอยู่พอดี"
ผมเลยไม่ต้องลงไปหาซื้อข้าวก็เพราะ เอ็กจะซื้อขึ้นมาให้ อย่างน้อยคืนนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องบุคคลปริศนาแล้วล่ะนะ นึกขึ้นได้เลยแอบมองดูข้างนอกแต่ไม่พบใครแล้ว ประมาณครึ่งชม. กมีเสียงเคาะประตูผมมองทางรูเล็กๆเห็นเอ็กยื่นยิ้มหน้าบานอยู่เลยโล่งใจ เปิดประตูให้เข้ามา
"ว่าไงต้นหิวมากเปล่านี่รีบมาแล้วนะ" มันว่าพลางชูถุกข้าวที่ซื้อมาให้ดู
"หิวจนลำไส้ขดจนผิดรูปละ"ผมว่าประชด
"มะมากินข้าวกัน"เอ็กว่าชวนกินข้าว แล้วก็เอาจานออกมาหาให้ทานเรียบร้อย ผู้อ่านอย่าสงสัยนะครับว่าทำไมอ็กถึงเข้ามาได้ง่ายๆทั้งๆที่ผมบอกเองว่าคนนอกเค้าไม่อนุญาติให้เข้าน่ะ ก็เพราะว่ามันให้การ์ดสำรองกับเอ็กไว้น่ะสิ
"แล้วเป็นไงถึงมา ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะมาค้าง"ผมถามในขณะที่ทานข้าวไปด้วย เอ็กทำหน้างอทันที
"มาไม่ได้หรอไง" พูดน้ำเสียงแบบน้อยใจสุดๆ
"มาได้สิแค่เเปลกใจ" เอ็กทำหน้าคอตกเข้าไปอีก มันก็จริงที่ผมว่าเพราะนานๆครั้งเอ็กจะมาค้างกับผมเพราะตอนนี้เอ็กก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเเล้วถ้าวันไหนที่แฟนไม่อยู่เอ็กถึงจะมาค้างแต่ก็อีกแหละนานๆ กว่าจะมาที
แต่เอ็กก็ไม่ได้ว่าอะไรอีกผมก็ไม่ได้ถามให้เพื่อนต้องเครียดอีกถ้ายังไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด ถ้าอยากพูดเดี๋ยวเขาก็พูดมาเองเเหละ พอเราทานข้าวเสร็จผมกับเอ็กก็แยกกันไปอาบน้ำผมให้เอ็กอาบก่อนส่วนผมก็เก็บจานล้าง แล้วผลัดกันอาบเมื่อเอ็กอาบเสร็จแล้วผมก็ไปอาบบ้างพออกมาเอ็ก็นั่งดูทีวีอยู่ก่อนเเล้ว เลยไปนั่งข้างๆจะได้ดูบ้าง
"แล้วที่ว่ามีเรื่องจะบอกอ่ะเรื่องอะไร" เอ็กถามขึ้นมาที่จริงผมลืมไปแล้วหล่ะว่าจะบอก แต่เอ็กถามขึ้นมาเลยบอกสิ่งที่ผมพบออกไปจนหมด
"ทำไมไม่เเจ้งตำรวจ" "ทำไมถึงอยู่เฉย" "ไม่กลัวพวกโรคจิตหรอ" ที่คือคำถามที่เอ็กยิงมาจนผมตอบคำถามแทบไม่ทัน
"ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไร" ผมว่าไปงั้น
"จะรอให้มีก่อนหรือไง"เอ็กทำสีหน้าดุผม ผมเองก็กลัวไม่น้อยเหมือนกันถึงเรื่องนี้
"ถ้างั้นเดี๋ยวเราพิศูจน์ให้ว่าคนนั้นมีจุดประสงค์อะไร" แล้วเอ็กก็ยิ้มที่มุมปากเหมือนฉุกคิดอะไรบางอย่างได้
"ทำไงล่ะ" ผมเห็นอะไรบางอย่างที่ประกายเเววออกมาจากดวงตาเอ็กอย่างน่าหวาดกลัว
ผมเเละเอ็กนั่งรอเวลาภายในห้องมืดๆที่เงียบสนิททำเหมือนว่าคนในห้องหลับหมดเเล้ว ผมยกนาฬิกาเรืิ่องแสงยนหัวเตียงมามองดู ใกล้จะถึงเวลาที่บุคคลลึกลับนั่นมาเเล้วเอ็กลุกขึ้นเเล้วไปยืนจ้องมองที่รูเล็กนั่นๆอยู่อย่างงั้นผมก็นั่งมองดูเอ็กว่าเอ็กจะทำอะไรต่อ ซักพักเอ็กรีบบิดประตูเข้ามาเเล้วกระชากคนหน้าห้องแล้วจับทุ่มอย่างแรง จนทำให้คนที่โดนทุ่ม จุกจนลุกไม่ได้
ผมรีบวิ่งไปดูทันที หลักฐานที่อยูาในมือบ่งบอกว่าคนนี้เเน่ๆ คนที่นอนอยู่คงตกใจเหมือนกันรีบลุกพยายามจะหนี แต่คงไม่พ้นเอ็กหรอก เพราะเอ็กบ้าพลังมากสามารถจับคนที่ตัวใหญ่กว่าแล้วล๊อกไว้ได้
"โอ๊ย!!"เสียงร้องที่เปล่งออกมาจากู้ชายคนนั้นด้วยความเจ็บ ผมกลัวจะมีเรื่องกลัวคนข้างห้องจะตื่นด้วยเลยเรียกเอ็กให้เอาคนนั้นเข้ามาในห้อง
ผมเปิดไฟพิจารณาคนที่นั่งอยู่คนๆนั้นยังก้มหน้าไม่มองสบตาผม แต่ผู้พิพากษาเอ็กหรือจะปล่อยให้คนนั้นก้มหน้า ไม่อธิบายการกระทำที่เขาทำลงไป
"บอกมาแกเป็นใคร มีจุดหมายอะไร" เอ็กเริ่มคำถามทำให้ผมขำกับสิ่งที่มันถามคนๆนั้นมันเหมือนกับหนังฝรั่งที่ผมดูตอนที่นักโทษถูกพิพากษา แต่คนตรงหน้าไม่ยอมตอบ ผมเห็นหน้าไม่ชัดเลยก้มลงไปดูหน้า รู้สึกว่าหน้าคุ้นๆ นะ
ผู้ชายคนนี้ใครๆในบริษัทผมต้องรู้จักเพราะเรื่องรูปร่างหน้าตาและบุคคลิก ที่สมกับตำแหน่งแล้ว ยังทำให้สาวหลายคนต่างหมายปอง ผมถึงกับผง่ะถอยออกมาด้วยความตกใจ
"เป็นไรไปต้น" เอ็กถามเพราะตกใจกับท่าทีของผมเหมือนกัน คนข้างหน้าค่อยๆเงยหน้าขึ้นเมื่อรู่ว่าผมคงรู้แล้วว่าเค้าเป็นใคร
"บะ บอส" ผมไม่อยากจะเชื่อประธานบริษัทอย่างคุณ ดินจะทำอะไรแบบนี้
"รู้จักหรอ"เอ็กถามในความงงงวย ผมพยักหน้าเล็กน้อยพอเป็นพิธี เพื่อให้รู้ว่ารู้จัก เอ็กเลยปล่อยให้ผมเคลียกับคนตรงหน้า แล้วแอบมองอยู่ห่าง
"ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ล่ะ"ผมเริ่มถามเมื่อรู้ว่าคนข้างหน้าไม่ยอมพูดอะไรก่อนแน่
"ผม...."แล้วเค้าก็มองไปที่เอ็ก ความหมายในสายตาที่มองไปคงหมายถึงไม่อยากให้เอ็กได้ฟัง เอ็กทำท่าขัดใจเล็กน้อยก่อนจะออกไปที่ระเบียง
จากนั้นผมเลยเริ่มการสนทนาต่อ
"ตกลงคุณจะบอกได้ยัง"ผมถามอีกครั้ง คนตรงหน้ามองดอกรักที่ถืออยู่ในมือก่อนจะยื่นให้
"อะไร"ผมถามในความแปลกใจ
"แทนคำที่อยากจะพูด" เค้าว่าแล้วหันไปมองทางอื่น
"ดอกรักเนี่ยนะ" ผมรู้สึกแปลกใจมากที่บอสตัวเองจะทำอะไรแบบนี้ พอเห็นหน้าไม่เคยนึกโกรธ แต่กลับรู้สึกดีใจที่รู็้ว่าคนๆนี้ทำแบบนี้ ทั้งมี่เมื่อก่อนคิดว่าตัีวเองคงจะไม่ได้สมหวังในความรักเเบบนี้เเล้ว แต่คนๆนี่กลับทำให้ผมรู้สึกหัวใจพองตัวอีกขึ้นมา
"ผมไม่รู้ความหมายของมันหรอกคุณช่วยอธิบายทีสิ"ผมว่าแล้วนั่งลงข้างหน้าแล้วมองหน้าเค้นความจริง
"ก็ดอกรัก... รักน่ะ" คนตรงหน้าทำหน้าเขินอาย หรือผมคิดไปเองก็ไม่รู้สิ ในใจคิดเข้าข้างหัวเอง แต่ก็ต้องยั้งไว้ก่อนเหมือนกัน
"แล้วมันเกี๋ยวกับที่ทำแบบนี้ยังไง" ผมยังทำว่าตัวเองน่ะโง่นักหนาคน เบื้องหน้าทำท่าทีขัดใจก่อนจะลูกขึ้นตัวสูงๆที่สูงเลยหัวผมไปทำให้ผมต้องเงยมองหน้าตาม
"ก็รัก ไงผมแอบรักคุณแต่ไม่กล้าบอก ก็แค่นั้น" แค่คำนี้คำเดียวแหละที่อยากฟังความคิดของเราตรงกันแต่เพราะโดยตำแหน่งเจ้านายลูกน้อง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงได้
บอสของผมทำท่าฮึดฮัดเหมือนไม่สบอารมณ์ทั้งๆที่ตัวเองพูดออกไปแล้วผมเองยังคงทำเหมือนไม่รู้อะไรอีก แกล้งแหย่แค่นี้ก็พอแล้วลาะมั้ง
"ผมเองก็รักคุณ" เสียงของผมเหมือนดั่งระฆังของโบสถ์ที่ก้องกังวาลเพื่อเปิดทางให้ความรักที่แอบรักมานาน อาจจะได้ดำเนินต่อไปเมื่อโอกาศมาอยู่ต่อหน้าขนาดนี้เรื่องอะไรจะปล่อยให้หลุดลอยไป
บอสทำหน้าตาตื่นตกใจแล้วยิ้มหน้าบานสวมกอดผมอย่างแนบแน่น ผมอยากรู้จริงๆว่าคนๆนี้เตรียมใจมากับคำตอบที่ผมจะให้หรือเปล่าถ้าซักวันผมรู้ความจริง ถ้าผมตอบไม่รับรักที่มอบให้คนตรงหน้าจะทำหน้ายังไงนะ
ก๊อก ก๊อก เสียงเรียกที่ทำลายบรรยากาศอย่างแรงเพื่อดึงสติคนทั้งสองให้เข้าที่ เหมือนเราจะลืมบุคคลที่สามที่อยู่ตรงระเบียง
"เคลียเสร็จแล้วใช่มะงั้นเค้ากลับก่อนนะ" เอ็กว่างั้นแล้วยิ้มให้ผม
ผมพยักหน้าเล็กน้อยไม่ตอบคำถามใดๆเอ็กก็เดินออกจากห้องไป เหลือเพียงผู้ชายสองคนที่กำลังกอดกันอย่างกลมเกลียวบอสมองหน้าผมด้วยสายตาที่มองเเล้วดูสยิวในใจชอบกล ริมฝีปากค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เต็มที่ ผมไม่รู้จะทำไงเลยหลับตา เพราะไม่เคยจูบกับผู้ชายด้วยกัน สัมผัสได้ถึงริ้มฝีปากอีกคนที่บรรจงจูบที่ปากอย่างแผ่วเบา ผมเผยอปากเล็กน้อยเพื่อบ่งบอกว่าพร้อมเเล้วกับการรับรสสัมผัสนี้ คนร่างสูงก็ไม่รอช้างับที่ปากเเล้วใช้ลิ้นดันเข้ามาเพื่อขวักไขว่หาความหวานภายในปาก ความรู้สึกเหมือนได้กินขนมหวานที่ตนชอบก็ไม่ปาน ผมรู้สึกหมดแรงเข่าอ่อนขึ้นมาเลยหงายนหลังไปที่เตียง คนตัวโตล้มทับผมแต่มันไม่ได้หนักแต่อย่างไปผมสัมผัสอะไรบา่งอย่างเเข็งๆในกางเกง หันไปมองคนตรงหน้าอย่างตกใจ บอสทำหน้ายิ้มเมื่อผมรู้สึกอย่างที่จริงๆ
"เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน"ผมปรามเมื่อบอสพยายามเข้าซุกไซร้ที่คอ เมื่ออารมณ์คนเบื้องหน้าเริ่มคลุก็ยากที่จะเอาลงได้ แต่ผมคิดว่ามันยังเร็วไปหรือเปล่า
"ขอเถอะนะต้น ผมรอวันนี้มานานใฝ่ฝันมานาน" บอสทำเสียงอ่อนเสียงหวานจนผมเริ่มใจอ่อนเพราะน้ำเสียงที่ทำให้ใจผมเต้นแรงนี้กระเจิดกระเจิง
"อืม...อ๊ะ"เสียงร้องที่หลุดออกมาจากปากผม ทุกครั้งที่ปากลงมาบรรจบที่ร่างกายเหมือนถูกไฟฟ้าสถิต ช๊อตไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย เสื้อผ้าที่เคยได้สวมใส่เเบบสบายๆตอนนี้ กลับไม่มีอยู่ที่ร่างกายเเล้ว ผมไม่รู้จะทำยังไงเพราะไม่เคยทำเเบบนี้มาก่อน ได้แต่ตามอารมณ์ของคนข้างบนไปเท่านั้น ความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างล่วงล้ำเข้ามาในช่องแคบ
"อ๊า.. บอส เจ็บ" ผมร้องด้วยความเจ็บเหมือนตรงนั้นมันจะฉีกขาดออกมทำให้ผมถอยที่จะหนี
"อย่ะ...อย่าเกร็งนะคนดี อืม" แล้วก็ประกบจูบผมอีกครั้งใช้ลิ้นกระหวัดในปากทำให้ผมเคลิ้มพอรู้ว่าผมเริ่มอ่อนเเรงขืน
เค้าก็ดันส่วนนั้นเข้ามาทันที
"อ๊า~" เสียงร้องที่ออกจากปากด้วยความเจ็บแต่เมื่อมันมาอยู่ข้างในแล้วผมรู้สึกผ่อนคลายกว่าเดิมมาก แต่พอเค้าเริ่มขยับ ความเสียวแปล๊บๆแปลกๆที่ท้องน้อยทุกครั้งที่บอสกระหน่ำเข้าเเละออกทุกครั้งที่ผ่อนหนักเบา ความเสียวซ่านในตัวยากที่จะบรรยาย
"อา..ต้น" เสียงของบอสเร่งจังหวะเมื่อรู้สึกถึงเวลาใกล้เต็มทีผมเองก็เช่นกันความรู้สึกที่เหมือนกำลังจะพรั่งพรูออกมา ในที่สุดก็ถึงที่ บอสกระตุกตัวผมรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่เข้าสู่ร่างกาย ถึงแม้ว่าบทเพลงรักยังผ่านไปแล้วรอบหนึ่งแต่บอสก็ยังไม่พอ เพราะเจ้านั่นมันไม่ยอมหดลงซักทีบอสมองหน้าผมแล้วยิ้มให้ จนผมเขิน สงสัยคืนนี้คงอียาวนานแน่ๆเลย
...........
ผมตื่นเช้าด้วยความเหนื่อยล้าเเสงสว่างที่ลอดเข้ามามันรู้สึกแยงตาจนต้องเอาผ้าห่มาคลุมไว้แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อนึกถึงใครอีกคนที่นอนอยู่ข้างๆ
"ตื่นแล้วหรอ"เสียงทุ่มที่ตัวเองได้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเอ่ยถามผมรู้สึกอายๆ เลยพยักหน้ารับ
"วันนี้พี่ให้หยุด แต่เดี๋ยวพี่จะไปทำเรื่องยกเลิกสัญญาเช่าห้องนะ"คนตรงหน้าว่าผมแปลกใจมากกับคำพูดหลังๆ
"ยกเลิกอะไร"ผมถามเพื่อย้ำให้แน่ใจอีกครั้ง
"ย้ายไปอยู่กับพี่" ตอนนี้เค้าเปลี่ยนตัวเองว่าผมเป็นพี่ไปซะแล้ว
"ทำไม" ผมถามทั้งๆที่ในใจรู้สึกดีใจพิกล
"ก็..คนรักกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ" หัวใจของผมตอนแทบเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว
"มันจะดีหรอ สิ่งที่คุณตัดสินใจไปหน่ะ" ผมว่าแล้วงุดหน้าซบไปที่ไหล่กว้าง
"เรียกพี่สิ เรียกพี่ใหญ่"บอสว่าชื่อเล่นจริงๆของเขาเพื่อให้ผมเรียก
"ครับพี่ใหญ่" คนตรงหน้ายิ้มกว้างอีกครั้ง
"พีี่ตัดสินใจเเล้ว แต่ถ้าต้นไม่เเน่ใจในความรักของเรา เวลาก็จะเป็นเรื่องพิสูจน์เอง"
ว่าแล้วพี่ใหญ่ก็ก้มหน้าลงจูบที่หน้าผากผมอีกครั้ง ผมรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นรัวของผมเเละเขาถึงมันจะเต้นถี่สักเพียงไหน แต่ความรู้สึกของผมเหมือนกับว่ามันเต้นไปพร้อมๆกัน....
...
END