ตอนที่6 มึงเป็นแฟนกันแบบไหน คบ4ปี ไม่เคยเสียบ แก๊งหนังสั้นกินข้าวเสร็จก็ขอตัวกลับไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้พวกพี่แกจะตามผมไปที่มหาลัยด้วยไม่รู้จะขยันไปถึงไหน ผมเอารถตู้ที่บ้านไว้ให้พวกพี่แกหนึ่งคัน เผื่อว่าจะได้ไปไหนมาไหนได้สะดวกโดยที่ไม่ต้องรอผมฝ่ายเดียว ผมนอนที่บ้านปลาทูตามเคย อยากหาเวลาหวานๆอยู่ด้วย หลังจากนี้จะเป็นงานรับน้อง7วันสุดโหดที่ใครๆก็เล่าลือกัน รุ่นพี่อย่างพวกผมอาจไม่มีเวลาพักหรือถ้ามีก็น้อยมาก ผมตกลงกับไอ้ภีมไว้ว่าจะไปนอนที่หอในเพื่อช่วยงานสภานักศึกษา สมาชิกหนึ่งในสภาก็คืออิง ไอ้ภีมมันกลัวว่าอิงจะเหนื่อยเกินไปเลยอยากอยู่ช่วย โดยเอาตำแหน่งงานของเดือนคณะมาอ้าง แต่เหตุผลจริงๆใครๆก็รู้ ผมไม่อยากแซวมันเท่าไหร่ เพราะไอ้สองชอบกัดมันตลอดเวลา ว่ามัน เป็นคนเอาเพื่อนเอาฝูง จริงๆงานรับน้องผมไม่ได้มีบทบาทมากนักหรอกครับ ช่วยได้นิดหน่อยก็ถือว่าแบ่งเบางานเพื่อนแล้ว แต่เวลาที่ผมจะอ้อนตีนก็จะหายไปอีกหลายวัน คืนนี้ขอตรงๆเลยล่ะกัน น้ำก็อาบเสร็จแล้ว ตัวหอมมากด้วย บรรยากาศก็ดี๊ดี
“ทำไรอยู่ ปลาทู๊วววววว”
“อ่านหนังสือ ตุลย์น่าจะรู้นะ”
“รู้ครับ แต่ทูช่วย ตุลย์ก่อนได้มั้ย”
“ช่วยอะไร”
“ทูไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ น๊าปลาทู ไหว้ ล่ะช่วยหน่อย” ผมยกมือไหว้แฟนเพื่อขอความร่วมมือ ไม่ฮานะครับทำจริงๆ ไหว้แบบขอร้องเลย
พูดจบผมยื่นหน้าไปจูบปลาทูจนหนังสือหลุดจากมือ แล้วมันก็หยุดสนใจหนังสือของมัน จับตัวผมนอนราบลงกับเตียงนุ่มๆใช้หมอนรองหัวให้อยู่ในท่าที่สบายมากที่สุด ทูเริ่มจูบทั้งแต่ปลายเท้า ไล่ขึ้น หน้าแข่ง ขาอ่อน ดึงผ้าเช็ดตัวออก ผมตั้งใจไม่ใส่อะไรเลยสักชิ้น นอกจากผ้าขนหนู เป็นการเตรียมพร้อมจะเสียตัว วันนี้ขอรองอีกครั้ง ขอดีๆแล้วกัน ส่วนผลจะออกมาเป็นแบบไหน ผมทำใจได้แล้ว น้องชายของผมลุกตั้งชันเพราะถูกลิ้นเย็นๆของทูเล้าโลม จังหวะคงที่ไม่ได้รีบร้อน ผ่อนหนักผ่อนเบาเป็นสเต็ป จากป๊อปช้าๆเปลี่ยนเป็นจังหวะร็อกให้เร็วขึ้น ผมทั้งเสียวทั้งฟินขนลุกชันทุกส่วน พยายามอดกลั้นไม่ให้ถึงจุดออกัสซัม อยากให้เป็นแบบนี้สักชั่วโมง เสียงคาง เสียงหืดหอบ ออกจากผมเบาๆเพื่อส่งถึงแฟน บอกถึงความพอใจที่มี แขนสองข้างกอดคอปลาทูไว้แน่น แต่ไม่นานนักน้องชายของผมมันก็ฝืนไม่ไหว น้ำพุ้งออกจากตัวผม เข้าปากทูเต็มๆ เจ้าตัวไม่ได้อิดออดที่จะกลืนมันลงไป คืนนี้ผมสบายตัวมาก สบายกว่าผ่านมือตัวเองเยอะ
“ช่วยเสร็จแล้ว ทูอ่านหนังสือต่อนะ” ทูลุกนั่งเอาหลังพิงกับหัวเตียงอีกครั้ง แล้วหยิบหนังสือขึ้นมาใหม่ หึๆๆ ไม่ได้หมายความว่าแค่นี้สักหน่อยปลาทู กูจะบ้าตาย ขอให้ช่วยก็ช่วยจริงๆ
“เยอะกว่านี้ไม่ได้หรอทู” มีความตื้ออย่างต่อเนื่อง
“เยอะแล้วนะตุลย์”
“โอเคๆ ว่าแต่ทู ไม่เอาหรอ”
“ไม่ ขอบคุณ”
“งั้น ทูเช็ดปากหน่อย มันเปื้อน” ทูยกมือมาเช็ดน้ำสีขาวที่มุมปากของตัวเองออก ผมได้แต่นอนเฝ้าทูอ่านหนังสืออยู่ข้างๆและเผลอหลับไป ทูน่าจะอ่านหนังสือดึกมากเพื่อรอไอ้สองกลับบ้าน ตั้งแต่เด็กจนโตความเป็นห่วงน้องชายไม่เคยลดลงเลย
เช้าวันนี้เป็นวันแรกของการรับน้องที่มหาลัย ผมกับทูเดินลงมาจากห้องแต่เช้า แม่ทำขนมปังทาแยมหลายแผ่นใส่จานวางไว้ให้ที่โต๊ะในครัว พร้อมกลับกระดาษโน้ตเล็กๆที่เขียนไว้ว่า “แม่เข้าในเมืองกลับตอนเย็น” ทูชงกาแฟมาให้ผม ของตัวเองเป็นโกโก้ เสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งกระแทกกับบันได ตึก ตึก ตึก มาจากชั้นสองของบ้าน
“ทูขอโกโก้แก้วนึ่ง”ไอ้สองร้องบอก พี่ชายตัวเอง
“เมื่อคืนมึงไปไหนมาไอ้สอง”
“ไปเที่ยวกับน้องข้าวปุ้น คนนี้แจ่ม เดี๋ยวกูพามาให้รู้จัก”
“กูก็เห็นมึงบอกแจ่มทุกคนแหละสัส ได้แล้ว แม่งก็ทิ้ง มึงคบให้ถึงสามเดือนก่อนแล้วค่อยพามา กูขี้เกียจจำ”
“แล้วสองกลับบ้านตีไหน พี่ไม่ได้ยินเสียงรถเลย” ทูถามน้องชายพร้อมยื่นแก้วโกโก้ให้
“บอกแล้วไงทู ไม่ต้องรอ พาเด็กไปเที่ยว” ไอ้สองตอบ แล้วยักคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง เกลียดหน้ากวนส้นตีนมันชิบหายแต่ต้องเงียบไว้ให้พี่น้องเคลียร์กันเอง
“ถ้าเป็นเรื่องพี่จะบอกแม่” ทำหน้าดุใส่ไอ้สอง โหดก็เป็นแหะ นึกว่าจะโหดกับกูคนเดียว
หลังจากอาหารเช้า ผม ทู แล้วก็ไอ้สองนั่งรถไปมหาลัยด้วยกัน พอมาถึงมหาลัยเราสามคนก็แยกย้ายเข้าคณะของตัวเอง วันนี้ใต้ตึกวิทยาศาสตร์และหลายๆคณะ จนถึงใต้ตึกเรียนรวม70ปี มีเพื่อนๆสภานักศึกษาเตรียมตัวต้อนรับนักศึกษาใหม่เข้าหอ หรือที่เราเรียกว่า งานรับน้องเข้าหอ เป็นการบอกว่างานรับน้องวันแรกได้เริ่มขึ้นแล้ว ทั่วมหาลัยประดับด้วยซุ้มดอกไม้ ธงเขียวขาวเหลือง ปักเป็นทางยาวตั้งแต่ทางเข้าประตูด้านหน้ามหาลัย จนถึงประตูวิเวก
เราแบ่งหน้าที่ออกเป็นสองกลุ่มอย่างชัดเจน กลุ่มแรกคอยรับน้องๆปี1ที่มหาลัย ผม ไอ้ภีม ไอ้สน ไอ้ต้อง และเพื่อนสาขาอื่นๆ เราอาสาเป็นพี่เลี้ยงขับรถไปรับน้องปี1 ที่สถานีอาเขต มาส่งน้องๆให้ถึงหอใน เพื่อเก็บข้าวของเครื่องใช้ให้เรียบร้อยรอขั้นตอนต่อไป ที่หอในครึกครื้นสนุกสนานเต็มไปด้วย รุ่นพี่รุ่นน้องขนข้าวของกันแบบชุลมุน กฎของเด็กปี1ที่นี่ต้องอยู่หอในกันทุกคน ผมและเพื่อนๆทุกคนก็เคยอยู่มาแล้วกันทั้งนั้น ได้รู้จักเพื่อนต่างสาขาเยอะขึ้น นอนรวมกันช่วยเหลือกันแบบเอื้อเฟื้อ เสียดายอย่างเดียว ตอนปี1ผมกับทูไม่ได้นอนห้องเดียวกัน แต่ก็ชั่งเถอะมันผ่านมาแล้ว หลังจากลงทะเบียนเข้าหอเสร็จสิ้น ตอนนี้น้องๆเตรียมตัวเข้าประถมนิเทศที่หอประชุมใหญ่ และแยกปฐมนิเทศย่อยตามแต่ล่ะคณะเพื่อทำความรู้จักอาจารย์ภาคและพบปะพี่สาขา ไอ้ภีมเลยแยกตัวไปทำหน้าที่เดือนคณะวิทยาศาสตร์กับน้องปี1 งานพิธีการในหอประชุมจะเป็นหน้าที่ของสโมสรนักศึกษา ผมกับอิงและเพื่อนคนอื่นพอมีเวลาได้นั่งพักนิดหน่อย ก่อนที่จะถึงงานเลี้ยงขันโตกช่วงเย็น
พวกพี่กัสก็เดินไปเดินมาในมหาลัยตามติดชีวิตซุปตาร์อย่างผมไม่ห่าง พี่แกเอาแต่ถ่ายรูป อัดคลิป ผมทุกอริยะบท รวมไปถึงบรรยากาศรอบๆคณะ ผมทำกิจกรรมพี่แกก็นั่งรอ ผมว่างพี่แกก็ถ่ายรูป ผมเริ่มอยากรู้แล้วว่าพวกพี่แกจะทำหนังออกมาแนวไหนกันแน่ ระหว่างรอกิจกรรมในช่วงเย็น ผมเลยชวนอิงและพี่ๆมานั่งที่ร้านนมชมพูใกล้ๆตึกเพื่อที่จะแนะนำ อิงให้พี่ๆแกรู้จักอย่างเป็นทางการ
“อิง นี่พี่กัส พี่ชิน พี่เชน พี่เขาจะทำหนังสั้นเรื่องของเรากับทู ที่เคยเล่าให้ฟังอ่ะจำได้ป่าว”
“สวัสดีค่ะพี่ๆ หนูชื่ออิงค่ะ อ่าว!!ภีมทางนี้” อิงโบกมือร้องเรียกไอ้ภีมที่กำลังเดินมา
“ส่วนนี้ไอ้ภีมเพื่อนสนิทของทูครับพี่” ผมแนะนำไอ้ภีม พร้อมกับสังเกตแววตาจากพี่ชิน ที่มองเพื่อนผมแบบหวานเยิ้ม
“สวัสดีครับพี่” ไอ้ภีมทักทาย
“หน้าที่มึงเสร็จแล้วหรอไอ้ภีม”
“กูหนีมาว่ะ พิธีการเยอะ เดี๋ยวกูเข้าไปใหม่”
“น้องภีม น่ารักไม่แพ้น้องทูเลย พี่ชื่อชินนะครับ ” พี่ชินยื่นมือไปจับมือไอ้ภีม ผมคาดไม่ผิดจริงๆ พี่ชินต้องมีหยอดแน่ๆ
“มึงเลิกหม้อสักทีสัส นั่งครับน้องไม่ต้องไปสนใจคนเชี่ยๆอย่างไอ้เวรนี้ สั่งอะไรกินก่อน พี่จ่ายให้ ” พี่กัส หันไปด่าสกัดไว้ ยังไม่ทันเอ่ยปากสัมภาษณ์ เสียงเตือนในโทรศัพท์ก็ดังไม่หยุดไลน์ ไลน์ ไลน์ !!!! ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นชื่อกลุ่มแช๊ตที่ผมไม่น่าอยู่ในนั้นได้
ตุ๊ดน้อยจากดอยตุงไม่ใส่ถุงไม่ให้เย มินนี่เมียตุลย์: ผัวขาอยู่ไหนเด่วเมียไปหา ตอนนี้เมียอยู่ ตึกเรียนรวม
แม็กกี้: อีดอกยังไม่เลิกมโนอีก
น้องสายรุ้ง: 5555555 ง่าว นัก อ้ายตุลย์เป๋นผัวทูละ ตั๋วลืมได๋จะได
มินนี่เมียตุลย์: สติ๊กเกอร์รูปบราวไฟลุกท่วมตัว
1October: กูอยู่ร้านนมชมพู ตามมา กูเลี้ยง
นับตั้งแต่ที่รวมแก๊งกับพวกงานผมเลยเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งดอกปีบ มีนัดเจอกันบ้างในมหาลัยแต่คณะที่พวกนางเรียนอยู่ห่างจากคณะผมมาก เห็นแบบนี้พวกนางสอบติด วิศวะ กับประมง นะครับ พวกนางเลยไม่ค่อยมีเวลาสังสรรค์กับเพื่อนๆอ้างเรียนหนักตลอด ถ้าจะหวังให้พวกนางปั่นจักรยานจากคณะมาหาเพื่อนอย่าง ผม ทู ไอ้ภีม ไอ้สอง และอิง ล่ะก็ ยิ่งไม่มีทาง เพราะพวกนางกลัวน่องปูด อยากเจอต้องปั่นไปหาพวกนางเอง แต่วันนี้งานรับน้องพวกนางไม่พลาดผู้ชายเยอะเลยยอมมา เป็นโอกาสอันดีที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง
“พวกมึง นี่ พี่กัสพี่ชินพี่เชน” ผมต้องแนะนำอีกรอบ
“หนูมินนี่ หนูแม็กกี้ และหนูสายรุ้ง เราทั้งสามแก๊งดอกปีบ หนีบได้ไม่เสียตังค์ ค่ะพี่” ยกมือไหว้สวยงามพร้อมกัน
“สวัสดีครับน้องๆ ยินดีที่รู้จัก ได้ยินแต่ไอ้ตุลย์พูดถึง วันนี้เจอตัวเป็นๆสักที พี่ขอความช่วยเหลือหน่อยนะครับ” พี่กัสพูด ทุกนางทำท่าแปลกใจ เพราะผมยังไม่ได้เล่าเรื่องหนังสั้นให้พวกนางฟัง
“อ่อ คืองี้ กูลืมเล่า พวกพี่สามคนนี้เป็นผู้กำกับหนังสั้น จะเอาเรื่องกูกับทูไปทำหนัง เลยจะขอข้อมูลจากพวกมึงหน่อย”
“อ่าว…นี่มึงจะได้เป็นนางเอกหนังหรออีตุลย์”มินนี่ถาม
“นางเอกพ่องมึงสิ”
“แล้วพวกพี่จะให้เราช่วยอะไรคะ” อิงถาม
“น้องๆรู้เรื่องอะไรก็เล่าได้เลยครับ”พี่เชนพูดพร้อมกับถ่ายรูปเพื่อนผมไว้ทุกคน
“โห่ พี่เรื่องมันสองคนนี่ เยอะมาก พี่เอาเรื่องไหนก่อนล่ะ จริงๆพี่ต้องถามไอ้สองนะ มันอยู่บ้านเดียวกัน มันต้องรู้เรื่องบนเตียงมากกว่าพวกผม”ไอ้ภีมพูด
“พี่ยังไม่เจอไอ้สองเลย ไว้ทีหลัง แล้วน้องๆรู้มั้ยทูกับตุลย์ได้เสียเป็นผัวเมียกัน ครั้งแรกเมื่อไหร่ ยังไง ที่ไหน ใครรุก ใครรับ”พี่กัสถาม“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”ทุกคนขำแรงจนน้ำตาเล็ด ไม่ไว้หน้ากูเลยเพื่อนเชี่ย
“ถามแบบนี้เลยหรอพี่” หน้าผมรู้สึกร้อนฉ่า ไม่อายที่โดนถามแบบนี้ แต่อายเพราะยังไม่เคยได้ทูต่างหาก ใช่ครับ เขียนไม่ผิดผมยังไม่เคยได้ปลาทูสักครั้ง ความลับของผมถูกเปิดเผยกับคนอื่นก็วันนี้ อุตส่าห์เก็บมาตั้งสี่ปี ไม่นึกว่าจะอยู่ในคำถามของพี่กัสด้วย
“มันสองคนยังไม่เคยได้กันเลยพี่ พวกผมเล่าไม่ได้หรอกเรื่องนี้” เพ่งงงงงงง!!!!! แก้วหลุดกระทบจานรอง กาแฟก็พุ่งออกจากปากพี่กัส ทุกอย่างเป็นภาพสโลโมชั่น พี่ชิน พี่เชนถึงกับอ้างปากหว๋อไปตามๆกัน เมื่อได้ยินคำตอบจากจากไอ้ภีม
“เชี่ย นี่มึงเป็นแฟนกันแบบไหน คบ4ปี มึงยังไม่เคยเสียบกันอีกหรอ หรือตกลงกันยังไม่ได้ว่า ใครจะผัวใครจะเมีย”พี่ชินถาม“เปล่าพี่ ไม่ใช่เรื่องนั้น ไม่เคยเสียบก็จริงแต่อย่างอื่นทำนะพี่” ผมตอบแบบก้มๆหน้า เพื่อนสนิทของผมรู้ดีว่าไม่เคยได้กันอย่างเป็นทางการ พวกมันทุกคนก็คอยลุ้นและเอาใจช่วยทุกวัน ตั้งแต่เมื่อ4ปีก่อนจนตอนนี้ พวกมันขี้เกียจถามผมแล้ว ก็ทูมันไม่ยอมให้ผมจะทำไงได้
“อะไรที่มึงหมายถึงอย่างอื่นว่ะไอ้ตุลย์ อาทิตย์ก่อนกูยังเอาอุปกรณ์ตัวช่วยให้มึงอยู่เลยสัส” อิงใช้ฝ่ามือฟาดเข้าที่หลังไอ้ภีม ดัง ปั๊ก หลังจากที่ไอ้ภีมพูดจบ
“รามกนะภีม”
“มันเป็นเรื่องจริงง่ะ อิงก็รู้นิ ไอ้ตุลย์ไม่เสร็จด้วยมือตัวเองก็ได้จากกระป๋องคลายอารมณ์ที่ผมเอาให้นี้แหละ” ไอ้ห่าภีมพูดอะไร ไม่กลัวกูอายสักนิด เอาเข้าไป เผากูเข้าไป
“อีตุลย์ กูบอกให้มึงวางยาพธู มึงก็ไม่ทำแล้วเมื่อไหร่มึงจะได้เยกัน เป็นกูทนไม่ได้หรอก มึงมันโง่อีตุลย์ กลัวเมียขึ้นสมอง” มินนี่พูด นิ้วชี้จิ้มที่กลางหน้าผากผมอีกต่างหาก
“มึง ไม่จับกดเลยว่ะ ใช้กำลังเลยดิห่า เดี๋ยวมันก็ยอมมึงเอง” พี่เชนแนะนำวิธีให้ผม ผมทำแล้ว ไม่ได้ผล“เคยครั้งนึ่งพี่ โดนถีบตกเตียง ถึงกับแขนหักเข้าเฝือกตั้งสองเดือน”ผมยกแขนข้างซ้ายขึ้นโชว์พวกพี่ๆ
“ไอ้โง่เอ่ย”
“แล้วมากสุดที่พวกมึงสำเร็จความไคร่ให้กัน แบบไหนว่ะ”พี่กัสถาม“ต้องตอบด้วยหรอพี่ อืม…คือ.. ก็ออรัลไงพี่ นี่มากสุดล่ะ ส่วนมากก็ด้วยมือตัวเองกับอุปกรณ์เสริมที่ไอ้ภีมเอามาให้นั้นแหละพี่”ผมตอบ
“เชี่ย มึงกับน้องทูอยู่กันได้ไง แค่ชักว่าวมันจะมันส์อะไรสัส กูสอนให้เอาป่าว” พี่ชินพูดไปจิ๊ปากไป แบบเสียอารมณ์ “พอๆพี่ ถามเรื่องอื่นก่อนได้ป่ะ” ผมพูดปัดเพื่อให้เปลี่ยนหัวข้อเรื่อง
“งั้นเรื่องเซอร์ไพรส์พวกมึงมีบ้างป่ะล่ะ ทำอะไรหวานๆให้กันมีมั้ย กูจะได้ตั้งอัดวีดีโอ”พี่เชนถาม....
....
....
“มีค่ะพี่ เรื่องนี้เพื่อนทุกคนอยู่ในเหตุการณ์ค่ะ ตอนนั้นทูอยากทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ตุลย์” อิงทำท่าตั้งอกตั้งใจเล่าอย่างเต็มที่
“อ่อ ใช่ พวกเราจำได้ สงสารพธูมากเรื่องนี้ ฮ่าๆๆๆๆ” แก๊งสาวๆพูดพร้อมกัน
วันนั้นเป็นวันที่1ตุลาคมค่ะ ในฐานะที่อิงเป็นหัวหน้าห้อง เรามีข้อตกลงว่า เราจะเซอร์ไพรส์วันเกินเพื่อนในชั้นทุกๆคน เราเลยร่วมมือกับทู ทำเซอร์ไพรส์ในครั้งนั้น โดยเขียนข้อความอวยพรวันเกิดลงบนกระดาษโพสอิทหลากสีไปติดไว้จนทั่วโต๊ะเรียนของตุลย์ จากนั้นให้ทูถือลูกโป่งที่มีข้อความว่า happy birth day 1October พวกเรารอตุลย์ออกไปพักเที่ยง โดยมีสองเป็นคนถ่วงเวลาให้เพื่อนเตรียมการให้เสร็จ ลูกโป่งถูกเตรียม พุกระดาษก็ถือในมือกันทุกคน ทั้งหมดนี่ทูเป็นคนคิดและเตรียมงาน เพราะปกติแล้วทูไม่เคยเอาใจหรือหวานออกนอกหน้านอกตา มีแต่ตุลย์ที่แสดงออกต่อหน้าเพื่อนได้โดยไม่อาย พอตุลย์เดินเข้ามาในห้องพร้อมสอง เสียงเพลงวันเกินก็ดังกระหึ่ม เสียงพุกระดาษ ดัง ปั้ง ปั้ง ปั้ง เศษกระดาษลอยฟุ้งทั่วห้อง เพลงจบทูก็เดินถือลูกโป่ง เข้าไปใกล้ตุลย์ แล้วพูดว่า สุขสรรค์วันเกิด นายหนึ่งตุลา แต่ตุลย์ไม่ดีใจหรือเซอร์ไพรส์แม้แต่น้อย ยืนเอามือเกาหัวแบบสงสัย ยิ้มแหยๆ แล้วพูดขึ้นว่า
“วันเกิดใครว่ะ”
“มึงไง ไอ้หนึ่งตุลา จำวันเกิดตัวเองไม่ได้หรอสัส”ภีมตอบ
“ใช่กูชื่อ หนึ่งตุลา แต่กูไม่ได้เกิดวันนี้” นั้นคือคำตอบจากตุลย์ แผนนี้พวกเราช่วยกันเก็บมาทั้งหลายวัน แต่ตุลย์กับบอกไม่ใช่วันเกิดตัวเองเล่นเอาพวกเราเงิบไปตามๆกันเลยค่ะพี่ แต่ที่เงิบมากสุดก็ทูนี่แหละค่ะยืนนิ่งไม่พูดอะไรเลยค่ะ เพราะทูมั่นใจมากว่าคือวันเกิดตุลย์
“ฮ่าๆๆๆๆ เชี่ย กูขำ มึงไม่ได้เกิด วันที่1ตุลา แล้วมึงชื่อนี้ทำส้นตีนอะไร” พี่กัสถาม“1ตุลาเป็นวันเกิดแม่ผม ชื่อไอ้ธันวา ก็เป็นวันเกิดของพ่อ ส่วนไอ้เมษ ชื่อมันมาจากวันแต่งงานของพ่อกับแม่ แปลกหรอพี่”
“มึงยังกล้าถามกูอีกหรอสัส พ่อแม่มึง เข้าใจตั้งชื่อเนอะ แล้วทูทำไงต่อน้องอิง เออแดกเลยสิท่า” อิงเล่าต่อเลยนะค่ะ ในตอนที่ทูกำลังยืนนิ่งอยู่ ตุลย์เองต่างหากที่เข้าไปกอดปลอบใจทูให้หายเสียใจและเสียหน้าสองคนนี้น่ารักมาก ในสายตาเพื่อนร่วมห้องนับตั้งแต่ก่อนคบ กันจนเป็นแฟนกัน เขาสองคนดูแลกันดีมากค่ะ จนบางครั้งก็แอบอิจฉาทูที่มีแฟนเอาใจเก่งอย่างตุลย์ ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็แล้วแต่ตุลย์ยอมทูเสมอ รวมถึงครั้งนี้ก็เหมือนกัน ตุลย์เองยังคงปลอบใจไม่ให้ทูเสียความตั้งใจที่ทำเซอร์ไพรส์
“ขอบใจนะปลาทู ตุลย์เกิดเดือน มีนา มันผ่านมาแล้วขอโทษที่ไม่ได้บอก แต่วันนี้เป็นวันเกิดแม่เราเอง ไปเลี้ยงฉลองด้วยกันนะ ทุกคนเลยนะไปบ้านกู วันนี้กูเลี้ยงเอง” ตุลย์ชวนเพื่อนๆทุกคน
นั้นคือสิ่งที่ตุลย์พูดกับทูในวันนั้น อิงจำได้ทุกคำ จากนั้นเราก็ยกขบวนไปบ้านตุลย์หลังเลิกเรียนทั้งห้องเพื่อไปเบริท์เดย์แม่ตุลย์ นี้แหละค่ะความน่ารักของตุลย์ที่มีต่อทู นั้นคือเซอร์ไพรส์แรกและเซอร์ไพรส์ที่เดียวที่ทูทำให้ตุลย์
“ขอบคุณน้องอิงที่เล่าให้เราฟัง สงสารไอ้ทูฮ่าๆๆ แล้วสาวๆมีอะไรจะเล่าให้พวกพี่ฟังป่าวครับ”พี่กัสถามแก๊งสาวๆ“มีสิพี่เรื่อง มันสองผัวเมีย นี่เยอะมากหนูเล่าเอง ในฐานะเมียเก่ามัน” มินนี่ตอบ
หลายๆเรื่องที่อีตุลย์มันแพ้พธู แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่อีตุลย์ชนะเมียมันบ้าง เรื่องนี้หนูจำได้ พวกมันสองคนชอบเล่นงัดข้อกันเพื่อขอในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ถ้าใครแพ้ต้องทำตามคนชนะ ขอได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องบนเตียง
"วันหนึ่งมันสองคนเริ่มงัดข้อกันบนโต๊ะ เพื่อนๆเชียร์ฝั่งอีตุลย์เพราะอยากเห็นมันชนะเมียมันบ้าง มีแต่ไอ้สองที่เชียร์พี่มันคนเดียว งัดข้อกันนานพอสมควร จนอีตุลย์ชนะเป็นครั้งแรก แต่หนูว่านะพี่ ที่อีตุลย์แพ้ตลอดๆ เพราะมันยอมเมียมันมากกว่า และสิ่งที่มันขอในครั้งนั้นคือ ขอให้ทูเจาะหูข้างเดียวกับมัน ทูนี่ทำหน้าง้อยแดกเลยตอนที่รู้คำขอของผัว ส่วนอีตุลย์ก็ยิ้มซะใจที่เอาชนะเมียได้ อีตุลย์เล่นเอาตะปูเข็มอันเล็กๆทายาหม่องแล้วจับแทง ฉึก ทีเดียวเข้าไปที่ติ่งหูของพธูแบบไม่ปราณีปราสัย ทูโกรธผัวมากวันนั้น ไอ้สองยังช่วยพี่มันไม่ได้ เลยแกล้งเดินหนีออกนอกห้องเพราะทนเห็นพี่เจ็บไม่ ทูสั่งห้ามผัวไปนอนบ้านเป็นอาทิตย์ มันสองคนเลยได้เจาะหูข้างเดียวกัน ใส่ต่างหูคู่เดียวกันด้วย เห็นแล้วหมั่นไส้”
“ไอ้ตุลย์ มึงก็มีดีของมึงนี่หว่า” พี่กัสชมผม“แน่นอนสิพี่ ผมทั้งอด ทั้งทน ขนาดนี้ ไม่รักได้ไงจริงมั้ย” ผมยิ้มแบบผู้ชนะอย่างภาคภูมิใจ
“กูอยากรู้ว่าแล้วเมื่อไหร่ ทูมันจะยอมตกเป็นของมึงสักทีว่ะ” พี่กัสยิงคำถามต่ออีก และมันก็เป็นคำถามที่ผมอยากรู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ ที่ทูจะได้เป็นของผมแบบสมบูรณ์สักที ผมรอมันมาสี่ปีแล้ว ยังไม่ทีท่าว่าจะยอม เหี่ยวแห้งมานาน แต่ไม่กล้าถามทูเหมือนกัน กลัวทูหาว่าผมเร่งรัด คำว่าค่อยเป็นค่อยไปของผมมันยาวนานเกินไปหรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ก็สี่ปีแล้วผมควรเร่งปลาทูดีไหม
“ผมก็ไม่รู้” น้ำเสียงที่ตอบพี่กัสดูหมดหวัง จนเพื่อนทุกคนต้องยื่นมาแตะบ่าผมเบาๆเพื่อให้กำลังใจ ผมรู้ว่าทุกคนอยากให้ผมสมหวังโดยเร็ว จะได้ไม่ต้องมาคอยลุ้นไปกับผมทุกๆครั้งไป
“แล้วถ้ามึงต้องรอเป็น10ปี มึงยังจะรอมันมั้ย” พี่เชนถาม คำถามที่แทงใจดำผมที่สุดวันนี้ ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องรอนานเท่าไหร่ ผมไม่มีคำตอบให้กับคำถามพี่เชน “ผมว่าทูก็รักผมนะพี่ ทูต้องยอมผมสักวันแหละหน่า” ผมตอบเฉิงบวกเพื่อให้กำลังใจตัวเอง
“พอๆเลิกดราม่า วันนี้งานรับน้องพวกมึงเสร็จกี่โมงกูจะพาไปเลี้ยงในเมืองโอเคป่าวทุกคนเลย”พี่กัสเอ่ยชวน..........................:TT:............................