Tsundere Boy เมื่อหนุ่มซึนมาหลงรัก ตอนที่ 26
กิ๊งก่อง~
กิ๊งก่อง~
กิ๊งก่อง~
กิ๊งก่อง~
“คร้าบๆมาแล้ว ไม่ต้องกดย้ำก็ได้” ร่างบางๆผิวขาวค่อนไปทางเกือบซีดกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปเปิดประตูบ้าน ในใจก็คิดว่าต้องเป็นคนที่คาดไว้ไม่มีผิดแน่
“พี่กิ๊ฟท์ น้ำบอกแล้วไงครับ ว่าห้ามกดย้ำๆแบบนี้ เดี๋ยวเก็บตังค์เลยนะ” ใบหน้าหวานแยกเขี้ยวใส่ชายหนุ่มตรงหน้า
“เก็บเงินก็ได้ แต่ขอพี่มากดทั้งวันเลยได้มั้ย” พี่ชายข้างบ้านยิ้มกว้างกลับมาให้ หลังจากส่งโปรเจคท์เสร็จแล้ว ก็รู้สึกคิดถึงน้องชายหน้าหวานข้างบ้านยิ่งนัก จึงแล่นมาหาเพราะความคิดถึง
“ไม่ได้ว่ะ เผอิญฉันจองคิวมา ’กด’ ก่อนนาย” พี่ข้างบ้านยังมองหน้าน้องไม่หายคิดถึง ก็ต้องมาเจอไอ้ตัวมารขัดขวางเกาะหนึบอยู่กับใบหน้าหวานๆนั้นอีกแล้ว
“อ๊ะ เขื่อน ไปห่างๆเลยนะ พี่กิ๊ฟท์ เข้ามาสิครับ” น้ำดันเจ้าตัวโตที่มาเกาะนัวเนียด้านหลังออกห่าง และเชิญคนรู้จักเข้าบ้านมา
“พี่กิ๊ฟท์ว่างแล้วเหรอครับ ช่วงนี้” น้ำเชื้อเชิญให้พี่กิ๊ฟท์นั่งที่โซฟาโดยไม่สนใจเขื่อนที่ทำท่าทางกระฟัดกระเฟียด
“อืม พอมีเวลาก็เลยมาคุยกับน้ำบ้างไง น้ำสบายดีมั้ย” พอเห็นว่าน้ำไม่สนใจเขื่อนก็ได้ใจ พี่ชายลงนั่งข้างๆและถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ
“ก็ดีครับ น้ำกำลังฟิตซ้อมเพื่อเตรียมตัวไปแข่งอีก”
“อืม ดีแล้วละ ได้ทำสิ่งที่ชอบนี่นะ แล้วดูแลมือดีหรือเปล่า”
“ครับ น้ำทาครีมบำรุงและนวดน้ำมันเป็นประจำแหละครับ” น้ำสาธยายและยกมือทั้งสองข้างให้พี่กิ๊ฟท์ดู
“อืม ดีแล้วละ เป็นนักเปียโนต้องดูแลมือให้ดีนะ” พี่กี๊ฟท์พูดโดยไม่ได้คิดอะไร แต่คนบางคนที่ทำท่านั่งจ้องโทรทัศน์นิ่งๆกลับสะอึกเพราะคำพูดนั้นขึ้นมาแทน
‘นักเปียโนต้องดูแลมือให้ดี’
‘นักเปียโนต้องดูแลมือให้ดี’
‘นักเปียโนต้องดูแลมือให้ดี’
‘ตายห่าละ ลืมคิดเรื่องนั้นไปซะฉิบ ที่ผ่านมาจับไอ้ซีดขึงเป็นประจำ ลืมคิดไปว่ามันมุ่งมั่นจะเป็นนักเปียโนนี่หว่า’ ใบหน้าคมดูเรียบเฉย แต่ในใจกลับร้อนรนจนนั่งไม่ติด
“หือ? มีอะไรเหรอครับ” น้ำหันมาถามคนที่เดินมานั่งข้างๆ
“อยากนั่งตรงนี้ มีปัญหาเรอะ” ใบหน้าคมนั้นพูดกลับห้วนๆ ขืนบอกไปว่ามานั่งข้างๆเพื่อกันท่าคงโดนเจ้าซีดนี่หัวเราะใส่
“ครับๆ ไม่มีปัญหาหรอก” ผิดคาดที่ร่างบางนั้นไม่โกรธ กลับยิ้มหวานมาให้และหันไปคุยกับไอ้คนข้างบ้านต่อ นั่นยิ่งทำให้เขื่อนรู้สึกผิดเข้าไปอีก
“แล้วพี่จะไปเชียร์น้ำแข่งละกันนะ เอ้อ พี่เอานี่มาฝากน้ำ” พี่กิ๊ฟท์หยิบของบางอย่างออกมาจากถุงกระดาษใบสวย
“อะไรครับนี่” น้ำรับกระปุกลวดลายดอกไม้มาพิจารณา
“ครีมบำรุงมือน่ะ ของ L’Occitane เอาไว้ใช้นะ”
“ขอบคุณนะครับพี่กิ๊ฟท์”
“อืม ไม่เป็นไรหรอก น้ำเป็นเหมือนน้องพี่คนนึง พี่ก็ต้องดูแลให้ดี ไม่ทิ้งขว้างหรอก” เขื่อนรู้สึกว่าตามันกระตุกอยากเตะคนที่เอาแต่แขวะ แต่เพราะไม่อยากให้น้ำหงุดหงิด จึงต้องทนไว้ก่อน
“งั้นพี่กลับละนะ เอาไว้วันหลังที่น้ำอยู่คนเดียว พี่จะมาใหม่ละกันนะ” พี่กิ๊ฟท์ยิ้มและลุกเดินออกไปโดยไม่มีน้ำตามไปส่ง เพราะต้องล็อกคอเขื่อนเอาไว้ไม่ให้ลุกตามไปกระทืบ
“ปล่อยสิน้ำ ขออัดหน้าไอ้รุ่นพี่ส้นตีนสักทีเถอะ เป็นแค่คนข้างบ้านจะอะไรนักหนาวะ”
“พี่กิ๊ฟท์เขาก็หยอกเขื่อนเล่นนั่นแหละ อย่าโมโหสิ” เขื่อนชะงักมองใบหน้ายิ้มๆของน้ำ พอมานึกดู เจ้าซีดนี่มันเป็นพวกเก็บอาการเก่ง มีอะไรก็เงียบ ทำไมถึงใจเย็นได้แบบนี้นะ
จุ๊บ
“นิ่งๆแบบนี้แหละดี หล่อจะตาย อย่าขี้โมโหสิครับ” ขโมยจูบไปแล้วก็มากระซิบเสียงหวานข้างหู เดี๋ยวนี้น้ำทำแบบนี้เป็นแล้วหรือนี่
“เบื่อฉันมั้ย?” เขื่อนถามนิ่งๆ รับรู้ได้ว่าตัวเองนั้นโวยวายงี่เง่าขนาดไหน
“ไม่นี่ มีอะไรหรือเปล่าครับ” เขื่อนจ้องลึกเข้าไปในตาของน้ำ ภายในนั้นมีแต่ความจริงใจเท่านั้น
“เฮ้อ...ฉันก็แค่สงสัย ว่าทำไมนายถึงทนกับความเอาแต่ใจของฉันมาได้นานขนาดนี้” เขื่อนถอนหายใจยาวและดึงตัวน้ำขึ้นมานั่งตัก
“ผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องอดทนเลยนะครับ” น้ำโอบแขนรอบคอเขื่อนและหันตัวเข้าหากัน ใบหน้าหวานทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะพูดออกมา
“โกหก” เขื่อนทำหน้าไม่เชื่อ
“ฮื้อ พูดจริงก็ว่าโกหก ผมไม่เคยคิดว่าเขื่อนน่ารำคาญจริงๆนะ”
“แล้วเวลาที่ฉันทำรุนแรงล่ะ อย่างที่ชอบมัดข้อมือนายน่ะ” เขื่อนถามเสียงค่อย สายตาจับจ้องใบหน้าเนียนที่เริ่มแดงเรื่อ
“ไม่เจ็บสักหน่อย เขื่อนไม่ได้มัดแรงนี่ครับ” เป็นตามที่คาด น้ำอายทีไรน่ารักทู้กที~
“อือฮึ งั้นเหรอ...” แล้วเขื่อนก็เงียบไป แต่แรงกอดที่เอวของน้ำยังคงกระชับแน่นอยู่ น้ำมองเขื่อนด้วยความสงสัยแล้วก็ถึงบางอ้อ
“นี่อย่าบอกนะ ว่าเขื่อนน้อยใจเรื่องพี่กิ๊ฟท์”
“....” เงียบ แสดงว่าใช่เลย
“เขื่อนจะเอาคนอื่นมาเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติตัวไม่ได้หรอกนะครับ เขื่อนก็คือเขื่อน พี่กิ๊ฟท์ก็คือพี่กิ๊ฟท์”
“แต่ไอ้กิ๊ฟท์นั่นมันก็ดูใจดีนะ ต่างจากฉัน ที่ทั้งเอาแต่ใจ ชอบบังคับ แถมยังขี้โมโห” น้ำไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าเห็นแววสั่นระริกในดวงตาเขื่อน
“แล้วยังไงครับ ผมรักเขื่อนที่เป็นเขื่อน ถ้าเกิดเขื่อนเปลี่ยนมาเป็นสุภาพบุรุษอ่อนโยนใจดี ผมก็ไม่ชอบหรอกนะ ถึงเขื่อนจะชอบซาดิสม์ แต่ก็ไม่เคยทำให้ผมเจ็บจริงๆจังเสียหน่อย” น้ำนึกถึงเวลาที่เขื่อนทำรุนแรง เขาออกจะชอบเสียด้วยซ้ำ ก็เขามันพวกมาโซนี่นะ! คิดแล้วก็อายแฮะ~
“ยังงั้นเหรอ นายชอบแบบรุนแรงสินะ” แววไหววูบในดวงตาหายไป มีเพียงความวิบวับมาแทนที่ กว่าที่น้ำจะรู้ตัวว่าถูกหมาป่าในคราบลูกแกะหลอกเอา ก็ไม่ทันเสียแล้ว
แกร๊ก
“เขื่อน! เจ้าเล่ห์นักนะ” น้ำโวยวายและก้มมองข้อมือตัวเอง กุญแจมือหุ้มขนสัตว์สีชมพูนุ่มนิ่มถูกล็อกแน่นหนาเข้ากับข้อมือ ใบหน้าหล่อที่เศร้าสลดแปรเปลี่ยนเป็นความเจ้าเล่ห์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“อ๊า.....ไอ้เขื่อนบ้า ปล่อยผมนะ” ใบหน้าหวานหวีดร้องโวยวานขณะถูกอุ้มพาดบ่าขึ้นไปชั้นสอง
“อ๊ะๆ พูดไม่เพราะเลยนะจะ เรียกว่าไอ้เขื่อนได้ยังไง ต้องโดนทำโทษนะ ฮ่าๆ” ไม่นานเสียงหวีดร้องก็เงียบหายไป จนเย็นย่ำห้องนอนจึงเปิดออกมอีกครั้ง...
“ทำอะไรครับเขื่อน” เสียงน้ำงัวเงียถาม ที่นอนยวบลงเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีคนมานั่งข้างๆ
“....” ไม่มีเสียงตอบ มีเพียงสัมผัสเย็นๆที่มือทั้งสองข้างและแรงเคล้นคลึงเบาๆ
“สบายจังเลยเขื่อน” น้ำหลับตาพริ้ม แรงบีบนวดที่มือช่างนุ่มนวล ผสมกับกลิ่นน้ำมันหอมยิ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
“ชอบมั้ยกลิ่นนี้” เขื่อนโน้มไปกระซิบถามข้างหู น้ำมันหอมกลิ่นนี้เขาซื้อมาฝากน้ำนานแล้ว แต่ไม่ได้เอามาให้สักทีเพราะลืม
“อือ ชอบครับ” เปลวเทียนอโรมาวูบไหวในห้องที่ปิดม่านจนมืดสนิท เครื่องปรับอากาศทำงานอย่างเงียบๆ อากาศเย็นสบายพาให้อารมณ์ผ่อนคลาย
“ขอบใจนะน้ำ ที่ยอมอยู่ข้างกันตลอดมา” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่น้ำได้ยินก่อนจะผล็อยหลับไปอีกครั้ง
“โหววววววว เขื่อน นี่มันสุดยอดมากเลยครับ” เสียงโหวกเหวกจากในห้องน้ำทำเอาคนที่นอนซุกอยู่ใต้ผ้านวมต้องผงกหัวขึ้นมาดู
“ดูนี่สิเขื่อน มือผมนุ่มมากเลยละ แสดงว่าที่เมื่อคืนเขื่อนนวดมือให้ผมน่ะ ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย” เขื่อนปรือตามองใบหน้าขาวเนียนที่ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดีตรงหน้า
“อืม” เพิ่งตื่นก็ยังมึนๆ เลยพูดน้อยแบบนี้แหละนะ แต่ก็ยังจับมือเรียวนั้นมาพลิกซ้ายพลิกขวาดู มือเรียวที่ดูนุ่มเนียนเพราะได้รับการดูแลอย่างดีมาตลอด แสดงว่าน้ำมันหอมที่แม่ว่าได้ผลดีจริงๆแฮะ สมแล้วที่แพงมหาโหด
“ขอบใจนะเขื่อน” สัมผัสเบาๆที่ข้างแก้มจากใบหน้าหวานที่ยิ้มอย่างดีใจพาให้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วย
“ขอบใจที่ซื้อน้ำมันมาฝากเหรอ” เขื่อนยกแขนขึ้นมานอนค้ำขณะมองน้ำที่ยิ้มร่าเริง
“ไม่ใช่ ขอบคุณที่ดูแลผมอย่างดีต่างหากละ ขอบคุณที่เขื่อนเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด” น้ำยิ้มอีกครั้ง ยิ้มที่ทำให้หัวใจของคนปากแข็งชุ่มชื้นขึ้นมา
“ฉันต้องขอบใจนายมากกว่านะ”
“ทำไมละครับ?”
“หึหึ ไม่ต้องรู้หรอก เจ้าซื่อบื้อ”
“เอ๊า อย่ามาว่าผมนะ เขื่อนห้ามหันหนีสิ มาพูดให้รู้เรื่อง” น้ำออกแรงพลิกให้เขื่อนหันมาหาตัวเอง
“ไม่เอา จะนอนต่อ”
“อะไรกัน นอนอยู่ได้ ตาแก่นี่” น้ำบ่นพึมพำแต่ก็ล้มตัวลงนอนข้างกันและซุกตัวเข้าไปในผ้าห่ม จมูกรั้นซุกลงที่ผิวกายของร่างสูง สูดเอากลิ่นกายที่ตนเองคุ้นเคย สุขใดไหนจะเท่าการได้ใกล้ชิดกับคนรักอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้อีกนะ...
>>>>> TBC
ปล.วันนี้อัพช้า เพราะเมื่อเช้าไม่ได้ไปทำงาน เหมือนจะอาหารเป็นพิษ เพราะไอ้มาม่าดิบซองเดียว