บทนำ
“เร็วๆ เดี๋ยวไม่ทัน”
“ไม่เห็นต้องรีบเลย”
“รีบสิ เดี๋ยวได้เห็นคนหล่อนิดเดียว”
วาริชยกยิ้มมุมปาก เมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างจิรดาและสิงหา เพื่อนใหม่ในรั้วมหาลัยของเขา หลังจากผ่านการรับน้องอย่างแสนสาหัส นี่เป็นสัปดาห์แรกที่พวกเขาเริ่มใช้ชีวิตนักศึกษาอย่างเป็นทางการ
“คนเยอะขนาดนี้เลยเหรอวะ” สิงหาหันกลับมามองหน้าเพื่อน เมื่อเห็นปริมาณผู้ชมในสนามบาสที่มากจนล้น
“แข่งระหว่างคณะก็แบบนี้” วาริชตอบเพื่อนขณะที่สายตามองตรงไปยังกลางสนาม รอยยิ้มของเขาค่อยๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก
“นั่นก็ใช่ แต่แมทนี้เค้าเรียกแมทวิชวล เห็นหน้านักกีฬาแต่ละคนไหมล่ะ”
“ก็หล่อดี” สิงหาพยักหน้าด้วยสายตาไม่สนใจใยดี ผู้ชายที่ไหนจะมองผู้ชายด้วยกัน ที่เขาอยากรู้มากกว่าก็คือ..
“จีบ้าผู้ชายด้วยเหรอ”
“บ้าอะไรเล่า เราได้ยินสาวๆ คุยกันเลยอยากมาดูว่าหล่อจริงหรือเปล่า ไม่ได้อะไรขนาดนั้น”
“ก็คิดอยู่ว่าหน้าจีไม่ให้ แล้วนี่จะนั่งตรงไหน”
“นั่นสิ ที่นั่งแทบไม่เหลือ เราบอกแล้วว่าให้รีบๆ มา” จิรดามองขึ้นไปบนอัฒจรรย์ที่เต็มไปด้วยผู้ชม เพื่อหาที่นั่งสำหรับคนสามคน
“อาโป”
เสียงทุ้มที่ดังขึ้นเรียกสายตาสามคู่ให้หันกลับไปมอง ร่างสูงในชุดกีฬายืนเด่นอยู่ด้านหลัง วาริชยิ้มขำเมื่อเห็นดวงตาเบิกกว้างของจิรดา ก่อนจะยิ้มตอบคนตรงหน้า
“มาดูด้วยเหรอเรา”
“ผมอยากได้เหรียญ เอามาให้ได้นะ”
“หึ นี่เพิ่งแข่งนัดแรกแรก พี่จะเอาเหรียญที่ไหนมาให้เรา” รอยยิ้มอบอุ่นปรากฎบนใบหน้าที่คุ้นตา
“ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะเอาวันนี้” วาริชส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้คนถาม
“พี่จะพยายามนะ” คนพูดหัวเราะเบาๆ “พี่ต้องไปรวมตัวแล้ว”
“อืม สู้ๆ นะผมจะรอเหรียญ”
“หึๆ ทราบแล้วครับ”
วาริชมองตามร่างสูงจนอีกฝ่ายไปรวมตัวกับโค้ชและนักกีฬาคนอื่นๆ ที่เก้าอี้ข้างสนาม จึงหันกลับมามองเพื่อน
“ยังไง”
สายตาอยากรู้อยากเห็นของจิรดาทำให้เขานึกอยากแกล้งเพื่อน จึงยักไหล่โดยไม่ยอมตอบคำถาม
“ไปหาที่นั่งได้แล้ว”
“ได้” นิ้วชี้ถูกยกขึ้นมาตรงหน้า “เดี๋ยวนั่งก่อนค่อยซักก็ได้ ยังไงก็ไม่รอดแน่”
“เดินได้แล้ว” วาริชลุนหลังเพื่อนให้ออกเดิน หลังจากยุ่งกับการรับน้องอยู่เป็นเดือนในที่สุดก็ถึงเวลาของเขาเสียที
“โปรู้จักพี่ขุนเหรอ ไม่ใช่สิเห็นอยู่ว่ารู้จักกัน เอาใหม่ โปสนิทกับพี่ขุนเหรอ” ดูเหมือนจิรดาจะรักษาคำพูดได้เป็นอย่างดี พอก้นแตะพื้นคำถามแรกก็มาทันที
“จีรู้จักพี่ขุนด้วยเหรอ” วาริชถามกลับด้วยคำถามเดียวกัน
“รู้จักสิ เข้ามาอาทิตย์แรกก็รู้จักแล้ว พี่ขุนชื่อภูผา เรียนอยู่ปีสี่ เป็นนักกีฬาบาสของมหา’ลัย เป็นหน้าตาของคณะบริหารฯ รูปหล่อ หุ่นดี แถมเค้าว่ากันว่าบ้านพี่ขุนรวยมากกกด้วย” จิรดาลากเสียงยาวเพื่อให้รู้ว่ารวยมากแค่ไหน
“งั้นเหรอ” วาริชซ่อนยิ้มในหน้า อดนึกภาพพี่ชายร่างสูงเก้งก้างในอดีตไม่ได้
พี่ขุนหรือภูผาเป็นพี่ชายที่เติบโตมาด้วยกันที่สวนดอกไม้พัดพารัดชา สวนที่พ่อของเขาเป็นเจ้าของ พี่ขุนเป็นลูกคนงานในสวน แต่เพราะพ่อแม่ไม่อยากเก็บลูกเอาไว้ อาพนาผู้จัดการสวนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของพ่อจึงรับพี่ขุนมาเลี้ยงดูแทน
จากประวัติข้างต้นพี่ขุนห่างไกลจากคำว่ารวยที่จิรดาพูดถึงมาก แต่ทุกอย่างย่อมมีจุดพลิกผัน อาพนาพบรักกับอาคีย์ ลูกชายคนเดียวของเจ้าของบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับเอเชีย พี่ขุนจึงกลายเป็นหลานของประธานบริษัท และเป็นทายาทที่ถูกกำหนดให้ขึ้นบริหารงานต่ออีกด้วย
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องเดียวที่พลิกผัน เพราะหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบในอนาคต ทำให้พี่ขุนตัดสินใจเข้าเรียนในคณะบริหารฯ แทนการเข้าเรียนในคณะเกษตรฯ ที่ชื่นชอบ ขณะที่เขาได้เข้าเรียนตามความตั้งใจ แต่ไม่ว่าประวัติพี่ขุนจะเป็นอย่างไร ไม่จำเป็นที่ใครจะต้องรู้ ในเมื่อตอนนี้พี่ขุนเป็นทุกอย่างตามที่จิรดาพูดแล้ว
“ตกลงสนิทหรือเปล่า”
“สนิท สนิทกัน โตมาด้วยกัน จะเรียกว่าพี่ชายก็ได้”
“ที่สวนดอกไม้เหรอ”
“ใช่” วาริชพยักหน้า เขาเคยเล่าเรื่องที่บ้านให้จิรดากับสิงหาฟังบ้างแล้ว
“ญาติ?”
“เปล่า พ่อเป็นเพื่อนสนิทกัน”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” ดูเหมือนจิรดาจะได้คำตอบที่พอใจแล้ว จึงเลิกสนใจเขาหันไปสนใจการแข่งขันกลางสนามแทน
วาริชมองการเคลื่อนไหวของร่างสูง ระยะเวลาสามปีที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันทำให้ผู้ชายที่เขาคุ้นเคยเปลี่ยนไปมาก ไม่ใช่นิสัย แต่เป็นรูปร่าง หน้าตาและบุคลิก จากเด็กชายสูงเก้งก้าง พูดน้อย กลายเป็นผู้ชายเท่แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
“โป” จู่ๆ จิรดาก็หันมามองหน้าเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย
“อะไร”
“พี่ขุนมีแฟนหรือยัง”
“คิดว่าจะรอดมาถึงป่านนี้เหรอวะ” สิงหาดักคอจิรดา เขาไม่คิดว่าคนที่ถูกพูดถึงจะยังโสด
“ก็เผื่อฟลุ้คเพิ่งเลิกกันงี้”
“ก็เป็นไปได้ แต่คนต่อแถวคงยาวเป็นหางว่าว ไอ้เรื่องหล่อไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ารวยมากอย่างที่จีบอก เป็นฉัน ฉันก็ต่อแถว”
“สิงห์! สิงห์ชอบผู้ชายเหรอ” ตาคนถามโตเป็นไข่ห่าน
“คิดได้ไงวะ ฉันหมายถึงถ้าฉันเป็นผู้หญิง”
“ฮ่าๆ ก็ลองถามดู ว่าแต่ตกลงพี่ขุนโสดหรือเปล่าเผื่อเราจะยื่นใบสมัคร” จิรดายักคิ้ว เธอพูดเล่นมากกว่าคิดจริงจัง
“มี” วาริชพยักหน้า ละสายตาจากกลางสนามหันมาสบตากับเพื่อน
“ว้า~ ไม่รอดจริงๆ ด้วย แฟนพี่ขุนต้องสวยมากแน่เลยใช่ไหม ถ้าให้เราทายต้องเป็นดาวคณะแน่เลย”
“เปล่า” เขาส่ายศีรษะช้าๆ
“เพื่อนเรียนเอ้า”
“ไม่ใช่”
“รุ่นน้อง”
“เปล่า”
“งั้นใครเหรอ”
“จีจ้องตาใครอยู่ล่ะ”
“จ้องตา? หา~” วาริชยิ้มขำเมื่อเห็นดวงตาเบิกโตของเพื่อน แม้แต่สิงหายังหันมาจ้องเขาเขม็ง
“โปเหรอ! หมายถึงโปเหรอ”
“เก่งมาก”
“ก็ไหนบอกว่าเป็นพี่ชาย”
ริมฝีปากของวาริชค่อยๆ ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาเป็นประกาย
“เมื่อก่อนเป็นพี่ชาย แต่ต่อไปจะเป็นแฟน” “พ่อ ขูนจองโปแล้ว”
“ครับ?!!”
“ขูนจองโป”
“พี่ยังไม่ได้จองเลย”
“จองฉิ ขูนม่ายล้ากโปเหลอ”
“อีกแล้วเหรอ”
“ล้ากเป่า”
“รักสิ ทำไมจะไม่รัก”
“จองเป่า”
“ไม่จอง”
“ล้ากกานต้องจองฉิ”
“เฮ้อ จองก็จอง”
แน่ล่ะว่ามันเป็นเพียงคำพูดของเด็กๆ คุยกัน แต่ในเมื่อเด็กคนนี้ไม่เคยลืม พี่ขุนก็ช่วยรักษาสัญญาด้วยนะครับ เพราะผมโตพอที่จะทวงมันได้แล้ว
:::: ♥ TBC ♥::::
**บทนำยังไม่มีอะไรมากนะคะ คนเขียนขอย้อนความหลังนิดหนึ่ง คนที่ไม่ได้อ่านภาคแรกจะได้เข้าใจค่ะ
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin