เอามาลงให้แล้วแหมๆ ดูจากรีฯแล้วเรื่องนี้น่าจะ
ใช้หากิน ได้อีกนานเนาะ เอาไว้จะลองพิจารณาคำร้องขอตอนพิเศษ
เพิ่มนะคะ ส่วนใครที่ถามเรื่องหมวดสโอ๋ สุดหล่อ รับรองว่ามีแน่นอนคร่า
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพิมพ์ แต่ยังไม่ไปถึงไหนเลย ฮ่าๆ
สุดท้าย ขอบคุณ ทุก รี ทุก คำแนะนำ และทุกวิว คร่า ตอนพิเศษ ครึ่งหลังจร้า
21.00น ผมกับลูกน้องออกมาตั้งด่านบนถนนที่คาดว่าขบวนการนี้จะผ่าน
“พี่กันมาแล้วพี่ สายแจ้งว่าเป็นรถกระบะสีขาวที่ทำทีเป็นขนผักบังหน้าครับ”
ทันทีที่รถต้องสงสัยขับมาถึงพวกจ่าเวชก็โบกให้จอดทันทีแต่คนมันมีความผิดเรื่องอะไรมันจะจอดล่ะครับรถคันนั้นขับแหกด่านออกไปทำให้ผมและลูกน้องต้องขับตาม
“”ยิงยางรถเลยนะจ่า “ ผมสั่งจ่าเวชทางวิทยุ
ปัง เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับเสียงยางรถระเบิดทำให้รถเสียหลักลงข้างทาง คนขับเห็นท่าไม่ดีเลยฉวยโอกาสหนีไป ผมรีบจอดรถก่อนจะลงไปสำรวจรถทันที
“เจออะไรบ้างจ่า”
“พบทั้งผู้หญิง11คนเด็กชาย6คนเด็กหญิงอีก8คนครับทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรยแต่ตอนนี้ผมให้หมู่สินกับหมูช้างพาไปพักแล้วครับ”
“แต่ว่า”
“มีอะไรเหรอจ่า”
“ในจำนวนนั้นมีผู้หญิงท้องแก่หนึ่งคนครับดูจากสภาพแล้วเธอดูอ่อนแรงมากผมเลยให้ส่งไปโรงพยาบาลแล้วครับ” ผมรีบเคลียร์ที่เกิดเหตุให้เสร็จก่อนจะมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลทันที จิตใจของคนเราทำด้วยอะไรนะขนาดผู้หญิงท้องแก่มันยังคิดจะเอาไปขายอีกเหรอถ้าหากตำรวจไม่ไปเจอเด็กที่เกิดมาก็คงไม่พ้นถูกส่งไปเป็นขอทาน
ผมมาโรงพยาบาลเพื่อนเยี่ยมผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับจ่าเวช พอสอบถามจากหมอถึงได้รูว่าเธอท้องได้8เดือนแล้วและจากการถูกทารุณ ทำให้เธอมีอาการตกเลือดต้องผ่าตัดด่วนเพื่อรักษาชีวิตลูกในท้องไว้
“คุณครับเป็นยังไงบ้าง” ผมเข้าไปถามอาการเธอทันที
“คุณตำรวจคะช่วยลูกฉันด้วย ช่วยเขาด้วยอย่าให้ลูกฉันเป็นอะไรไปนะคะ” เธอร้องไห้พลางอ้อนวอนผม
“ครับผมรับปากแต่คุณต้องยินยอมให้หมอผ่าตัดนะครับ”
“ค่ะ ฉันยินดีขอแค่ลูกฉันรอดก็พอ” เธอบอกผมทั้งน้ำตา
“แต่ถ้าผ่าตัดคุณอาจจะ..”ผมเว้นวรรคเพื่อทำใจเพราะตามข้อมูลของหมอแล้วโอกาสรอดของเธอมีแค่30เปอร์เซ็นต์
“ฉันยินดีค่ะ แค่ให้ลูกฉันรอดก็พอ” ผมมองเธอด้วยความสงสารความรักของแม่มันยิ่งใหญ่เสมอเลยนะครับ
“คุณตำรวจคะ รับปากฉันอย่างหนึ่งได้ไหม”
“อะไรครับ”
“ ถ้าฉันเป็นอะไรไปอย่าส่งลูกฉันไปสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ไหม ฉันไม่อยากให้ลูกกลายเป็นเด็กกำพร้าคุณตำรวจช่วยดูแลลูกฉันได้ไหมฉันอยู่ตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนถึงแกจะเกิดมาเพราะความผิดพลาดแต่ฉันก็อยากให้แกมีชีวิตที่ดีนะคะ ฉันไหว้ล่ะค่ะ” เธอพูดพลางยกมือขึ้นไหว้ผม เธอคนนี้เป็นแม่ที่รักลูกมากจริงๆถึงผมจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหนแต่เธอทำให้ผมรู้ว่า แม่ให้ลูกได้ทุกอย่างแม้แต่ชีวิตของตัวเอง
“ครับผมรับปาก ผมจะดูแลเขาให้เอง”
“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มก่อนที่บุรุษพยาบาลจะเข็นเข้าห้องผ่าตัดไป
3 ชั่วโมงผ่านไป
พยาบาลก็เข็นรถที่มีเด็กชายหญิงสองคนอออกมา ผมรีบเดินไปดูทันทีเด็กน้อยนอนหลับปุ๋ยในรถเข็นทำให้ผมนึกเอ็นดู ความผูกพันที่ไม่รู้มาจากไหนไหลทะลักเข้ามา มันอบอุ่น อ่อนโยนเหมือนเด็กสองคนนี้มาเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปในชีวิตผม
“แล้วแม่เด็กล่ะครับ”
“เธอเสียชีวิตทันทีที่คลอดค่ะ” พยาบาลบอกก่อนจะเดินออกไป
ผมกลับมาบ้านด้วยอารมณ์ที่ไม่ปกติจะบอกว่าหดหู่ก็ไม่ใช่ดีใจก็ไม่เชิง สงสัยผมคงสับสนมากไปมั้งครับคนข้างๆถึงสังเกตได้
“เครียดเรื่องคดีเหรอกัน คิ้วขมวดหมดแล้ว”
“เซ้นส์ถ้ากันจะรับลูกบุญธรรมเซ้นส์จะว่าอะไรไหม”
“ทำไมถึงอยากรับล่ะครับ”
ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้เซ้นส์ทั้งหมดเพื่อให้เขาช่วยตัดสินใจว่าผมควรทำยังไงต่อไปดี เซ้นส์กอดผมแน่นก่อนจะตะโกนอย่างดีใจ
“ในที่สุดเราก็มีลูกแล้วนะกัน” เซ้นส์พูดพลางยิ้มกว้าง
“อือ กันดีใจนะที่เซ้นส์ไม่รังเกียจ”
“รังเกียจทำไมเล่า เด็กน่ะเขาคือผู้บริสุทธิ์นะ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เราไปเยี่ยมลูกกันดีกว่านะครับ”
1เดือนต่อมาผมกับเซ้นส์ก็รับเด็กสองคนมาอยู่ที่บ้านก่อนจะจัดการขอรับเป็นลูกบุญธรรมโดยที่เซ้นส์รับเด็กชายและผมรับเด็กผู้หญิงแล้วเพื้อความไม่สับสนเราสองคนเลยตกลงกันว่าจะให้ลูกเรียกผมว่าพ่อแล้วก็เรียกเซ้นส์ว่าป๊า ป๊าซ้นส์ดูท่าทางจะเห่อมากเพราะยอมลงทุนสร้างสนามเด็กเล่นไว้ในบ้านเลยล่ะครับไอ้ผมก็ได้แต่หัวเราะในความบ้าของสามี ลูกเพิ่งเดือนเดียวจะมีปัญญาไปเล่นไหมล่ะนั่น แต่ถ้าคุณคิดว่าเซ้นส์เห่อลูกแล้วคุณต้องไปดูท่านผู้การกับคุณแม่ผมครับ หึหึ มารับขวัญหลานตั้งแต่ไก่โห่ แถมซื้อของเล่นมาเพียบยังกะเหมาโรงงานมา ผมล่ะอยากจะตะโกนบอกทุกคนไปดังๆจังเลยครับว่าลูกผมเพิ่งเดือนเดียวนะครับ เดือนเดียว
“แกเป็นอะไรไอ้กัน นั่งยิ้มอยู่คนเดียวท่าจะบ้า” ท่านผู้การครับ จะเลิกกัดลูกตัวเองได้รึยังครับท่าน
“เปล่านิพ่อก็คนมันมีความสุขนิ”
“ชิ แล้วนี่หลานฉันอยู่ไหนเนี่ยไปพามาหน่อยสิ”
“นั่นสิตากันแม่อยากเห็นหน้าหลานแล้วนะ”
“อยู่ข้างบนกับเซ้นส์น่ะครับ รายนั้นห่างลูกได้ที่ไหน”
“เอ๋ มีใครนินทาป๊าป่าวเนี่ย” คนที่เดินลงบันไดมาพร้อมกับอุ้มเด็กสองคนไว้ในมือ ทำให้ผมต้องรีบวิ่งเข้าไปรับลูกทันที
“เซ้นส์บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ไห้อุ้มพร้อมกันถ้าเกิดลูกตกจะทำยังไง”
“ตากันอย่าไปว่าตาเซ้นส์สิลูก เอาหลานมาให้พ่อกับแม่นี่มา” แม่ผมหันมาดุ ก่อนจะกวักมือเรียก
“ชื่ออะไรกันบ้างเนี่ย ไหนมาให้ย่าอุ้มสิลูก”
“ผู้ชายชื่อน้องซัน ส่วนผู้หญิงชื่อน้องซายน์ครับแม่ ” เป็นเซ้นส์ที่ตอบแทนผมเพราะชื่อนี้เขาคิดเองครับ
“เหรอลูก น่าเกลียดน่าชังจังเลยหลานย่า” แม่อุ้มน้องซายน์ก่อนจะเล่นกับหลานไปเรื่อยส่วนท่านผู้การที่อุ้มน้องซันไปก่อนหน้านั้นยังพยายามให้ลูกผมเล่นเอ็ม16ที่ซื้อมาให้ได้
“พ่อ น้องซันเพิ่งเดือนเดียวนะจะเล่นได้ยังไง”
“ฉันรู้หรอกน่าแต่แค่ให้หลานฉันคุ้นเคยไว้ ต่อไปจะได้จับถนัดๆ” เชื่อเขาเลย นี่ท่านผู้การอยากให้หลานเป็นอะไรครับเนี่ยถึงให้เล่นเอ็ม16ตั้งแต่เดือนนึง
“เฮ้อ ไม่เคยคิดเลยนะว่าแกจะมีหลานให้ฉันไอ้กัน”
“ผมขอโทษนะครับพ่อ”
“แกจะมาขอโทษอะไรอีก ความสุขของคนที่เป็นพ่อเป็นแม่น่ะ แค่เห็นลูกยิ้มได้ก็พอแล้ว”
“ผมรักพ่อนะครับ”
เมื่อก่อนผมอาจจะไม่เคยรู้ซึ้งถึงความรักที่พ่อมีให้เท่าไหร่แต่พอผมมีน้องซันกับน้องซายส์เข้ามาในชีวิตมันทำให้ผมรู้สึกว่าคนที่เป็นพ่อเป็นแม่รักลูกมากแค่ไหน ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสองคนนี้จะทำให้ผมรักพ่อกับแม่มากขึ้นเป็นกองเลยล่ะครับ
พ่อกับแม่กลับไปหลังจากที่ทานกลางวันเสร็จ พร้อมกับทิ้งภูเขาของเล่นไว้ให้สองแฝด เหนื่อยผมอีกซิเนี่ย
“กัน” เสียงกระซิบคุ้นหูพร้อมกับอ้อมกอดที่สวมกอดจากด้านหลังคงไม่บอกก็รู้ว่าเป็นสามีสุดหื่นของผมแน่นอน
“ครับ”
“ขอบคุณนะ”
“หือ”
“ขอบคุณที่กันทำให้เซ้นส์มีวันนี้ ขอบคุณที่รักเซ้นส์ แล้วก็ขอบคุณที่ทำให้เซ้นส์มีน้องซันกับน้องซายน์นะครับ”
“ครับ” ผมตอบพลางมองไปบนเปลที่สองแฝดกำลังนอนกลางวันอยู่ ความอบอุ่น แบบนี้สินะที่เรียกว่า “ครอบครัว” ผมไม่เคยคิดว่าชีวิตผมจะมีวันนี้ได้ วันที่ตำรวจที่ใช้ชีวิตเสี่ยงกระสุนไปวันๆแบบผมจะต้องมานั่งชงนม ซักผ้าอ้อม ต้องทำงานบ้านสารพัด ต้องมาทำหน้าที่ “แม่”และ “เมีย” แต่ถึงจะมีภาระเพิ่มมากแค่ไหนแต่ทุกวันนี้ผมยังยิ้มได้เพราะเมื่อไหร่ที่ผมกลับบ้านผมจะเจอครอบครัวของผมอยู่เคียงข้างเสมอ แม้จะเหนื่อยแค่ไหนขอแค่มีเซ้นส์กับลูกแบบนี้ตลอดไปผมก็มีความสุขที่สุดแล้วครับ
แปะรูป น่ารักๆ ซะหน่อย