5
ฝนตก ยังไม่ชุ่มฉ่ำเท่าเห็นเธอ
[ฮัลโหลดิว พี่กำลังจะโทรหาอยู่พอดี] เสียงเจื้อยแจ้วจากผู้จัดการของผมแทรกมาจากปลายสาย
พอส่งไอ้ปู๊นขึ้นรถ ผมก็รีบโทรหาผู้จัดการเลยครับ บอกตรงๆ ว่าเหตุการณ์ที่เห็นแม่งสะเทือนใจผมมากๆ และมันไม่ได้ทำให้ผมนิ่งนอนใจเลยในกระหว่างที่ผมกำลังขับรถกลับคอนโด
เชี่ยเอ๊ย น้องจะเป็นยังไงบ้างวะ
“ผมมีเรื่องอยากจะแจ้งหน่อยครับ คือว่า...”
แต่ยังไม่ทันพูดจบอีกฝ่ายก็สวนมาซะแล้ว [เออ... เคสของคุณกำพลแคนเซิ่ลแล้วนะจ๊ะ]
ฮะ!? ผมถึงกับอ้าปากค้างเลยครับ
“ว่าไงนะครับพี่?”
[เหมือนผู้ว่าจ้างของเราจะบอกว่าไม่ต้องทำงานนี้แล้วจ้ะ]
“ได้ยังไงครับ”
[อืม... เหมือนกับว่าผู้ว่าจ้างกับลูกนี้หาทางออกกับเรื่องนี้ได้แล้วล่ะ]
เชี่ยแล้วไง โว้ยยยย
“พี่ครับ ผมอยากจะให้เราฟ้องร้องคุณกำพลนี่หน่อย จะพอเป็นไปได้มั้ยครับ”
[เอ๋? เหลวไหลน่า เราจะทำแบบนั้นได้ยังไงกันกันจ๊ะ]
“ก็มัน!!!” ห่าเอ๊ย ใส่อารมณ์มากไปหน่อย มือที่บีบพวงมาลัยปวดไปหมดเลย
[เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะดิว]
“เปล่าหรอกครับ” ผมถอนหายใจ แต่คิดไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องบอกเรื่องนี้ “แค่ผมเห็นว่าผู้ว่าจ้างของเราทำร้ายร่างกายลูกหนีี้”
[จริงเหรอจ๊ะ!?]
เห็นมั้ย ตกใจเหมือนกันแหละน่า “จริงครับ เห็นกับตาเลย”
[แต่พี่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องของเราหรอกนะ ยิ่งผู้ว่าจ้างแคนเซิ่ลงานแบบนี้ พี่ว่าดิวอย่าเข้าไปยุ่งจะดีกว่า]
“เราทำอะไรไม่ได้เลยเหรอครับ”
[พี่เสียใจด้วยจ้ะ คงไม่ได้จริงๆ] เสียงพี่อิมดูหนักอกหนักใจ [แต่ถึงยังไงดิวก็จะยังได้ค่าเสียเวลานะจ๊ะ ถ้าผู้ว่าจ้างจ่ายมาเมื่อไหร่พี่จะรีบให้ดิวเลย]
เหอะ เวลานี้ผมไม่ได้ต้องการเงินแล้วครับ “พี่หนูอิมพอจะทราบมั้ยครับที่ผู้ว่าจ้างบอกว่าหาทางออกกับเรื่องนี้ได้แล้ว เป็นเพราะน้องจ่ายเงินคืนหรือว่ายังไง”
[อันนั้นพี่ไม่รู้หรอกจ้ะ]
โว้ยยยย แม่งหงุดหงิดอีกแล้ว “เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับ”
[ดิว... พี่จะพูดด้วยความหวังดีนะจ๊ะ พี่ก็คิดว่าเรื่องนี้มันทะแม่งๆ แต่ดิวอย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลยจะดีกว่า ยังไงเขาก็เคยเป็นคู่รักกันนะ]
คู่รักอะไรวะ บีบหน้าน้องจนแก้มจะระเบิดแบบนั้น ครั้งก่อนก็ล่อซะหน้าเลือดซิบ
“ขอบคุณมากครับพี่หนูอิม แค่นี้ก่อนนะครับ”
หลังจากที่ผมกดวางสาย มือของผมก็ชั่งใจอยู่นานว่าจะเอายังไงต่อดี ผมส่งข้อความกลับไปหาปีใหม่หลายทีแล้วแต่ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับเลย
เพราะงั้นผมจึงกลั้นใจกดโทรออกไปที่เบอร์ของน้อง
“หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
“อะไรวะ!” ผมโยนโทรศัพท์ทิ้งด้วยความเดือดดาล ฮึ่มมม ไม่เคยโมโหเท่านี้มาก่อนในชีวิตเลย ผมไม่โอเคกับการทำร้ายร่างกายมากๆ ไม่มีใครสมควรที่โดนแบบนั้น
หรือว่าผมควรจะเดินหน้าจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง?
ปีใหม่ น้องจะรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่ากำลังปั่นหัวพี่ แถมยังทำให้ใจพี่ป่วนไปหมดอีกตะหาก!
*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*
“หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
“…”
ผมยืนนิ่งจ้องชื่อ ‘น้องปีใหม่’ บนหน้าจอพร้อมความรู้สึกที่ถาโถม...
ผมเป็นห่วงน้องจังเลยครับ ตั้งแต่วันนั้นผมยังติดต่อน้องไม่ได้เลย แวบไปแอบดูหน้าตึกสินกำก็ไม่เห็น เพื่อนๆ บ้างก็บอกว่ากลับไปแล้ว บ้างก็บอกว่าไม่มา บ้าเอ๊ยยย ป่านนี้ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง โดนถลกหนังมาแปะฝาบ้านหรือยังวะ หรือโดนขังลืมปู้ยี่ปู้ยำโดยลูกน้องไอ้กำพลจนสลบแล้วหรือเปล่า เนี่ย ผมก็คิดไปเรื่อย ฟุ้งซ่านแบบคนดูหนังมากไปหน่อย ใครมีลูกมีหลานอย่าให้ลูกดูทีวีอ่านมังงะเยอะนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นคนวิกลจริตแบบผมเอาได้
ฮึ่มมม อย่าให้เจอตัวนะปีใหม่ พี่จะจับตี ขังลืมในห้องไม่ต้องออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันเลยคอยดู
โอ๊ย แล้วกูเป็นอะไรกับเขาวะถึงต้องรู้สึกมากขนาดนี้เนี่ย
นี่ก็คืออีกเรื่องที่ผมสับสนครับ ผมกำลังไม่แน่ใจว่า... ตัวเองชอบน้องไปแล้วหรือเปล่า (ชอบแบบจริงจัง) นั่นยิ่งแย่ไปใหญ่ อุตส่าห์นานๆ ทีจะปิ๊งใครสักคน ทำไมต้องมาพรากรักไปจากอกด้วยวะบักห่ากำพลเอ๊ย
“ไอ้สัดดิว มึงจะเล่นมั้ยเนี่ย!!
เสียงไอ้เอิร์ลทำให้ผมได้สติกลับมาที่ปัจจุบัน ตอนนี้ผมอยู่ที่สนามบาสในมหาลัยครับ หนุ่มๆ ทันตะมักจะมานัดดวลกันที่นี่เป็นประจำ ผมกำลังฟุ้งซ่านอยู่พอดีก็เลยตามพวกไอ้เอิร์ลไอ้ทิมมันมาด้วย หวังว่ากีฬาจะช่วยให้ลืมเรื่องเครียดไปได้บ้าง
ผมเก็บโทรศัพท์แล้วตามลงไปในสนาม มา! กูพร้อมแล้ว
“รับ!” ผู้เล่นทีมเดียวกันคนหนึ่งตะโกนลั่นก่อนจะส่งลูกบาสให้ผม ผมเลี้ยงมันอย่างดีเหมือนเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน และเมื่อเห็นตะกร้า ผมก็ตั้งท่าจะชู้ตทันที
แต่ทว่า...
ฟิ้ว~ “ไอ้เหี้ย ลอยไปดาวอังคารแล้วสัด!” ไอ้เอิร์ลมองตามลูกบาสที่กระเด้งกระดอนไปไกลเพราะผมโยนไม่เข้า “วันนี้เป็นอะไรของมึงฮะ เหม่อแม่งอยู่นั่นอะ ไปเก็บมา!”
เออ ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นอะไร แต่ได้ทีละตะโกนใส่หน้ากูจังนะ ไม่ได้แข่งระดับชาติโว้ยยย จริงจังอะไรขนาดโน้นนน
ผมถอนหายใจก่อนจะวิ่งไปเก็บลูกบาสที่สุดท้ายมันกลิ้งไปแน่นิ่งอยู่ใกล้ๆ ม้านั่งซึ่งมีสาวๆ กระโปรงสอบนั่งคุยกันคิกคัก อูย... ลุกหน่อยได้มั้ยเอ่ย ไม่กล้าก้มลงไปหยิบ แฮะๆ
“นี่ค่ะ” ผู้หญิงหน้าม้าผมสีน้ำตาลยิ้มหวานในขณะที่มือก็ยื่นลูกบาสมาให้
“ขอบคุณนะครับ” แหม่ สวยแล้วยังใจดีอีก อยากแนะนำให้เพื่อนรู้จักจัง
ผมกำลังจะหมุนตัวกลับสนามอยู่แล้วเชียว แต่ตาดันมองไปเห็นความผิดปกติที่อยู่ด้านหลังไม่ใกล้ไม่ไกลสาวๆ ซะได้
ชายชุดดำประมาณสามสี่คนเดินห้อมล้อมใครสักคนอยู่ คนในวงนั้นขาวจั๊วชนิดที่เห็นร้อนรุ่มหายใจฮืดฮาด ด้วยความขี้เสือก ผมจึงพยายามชะโงกเพื่อให้เห็นว่าไอ้คนที่อยู่ในวงคือใคร และเป็นจังหวะเดียวกับที่ชายชุดดำคนนึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูจนเกิดช่องว่างเล็กๆ ขึ้นมาให้มองทะลุไปด้านในได้พอดี ดวงตาที่โปนๆ ที่คุ้นเคยก็ทักทายผมอย่างจัง
น้องปีใหม่... “เก็บลูกเหี้ยอะไรนานจังวะ” ไอ้เอิร์ลวิ่งตามมายืนจี้อยู่ด้านหลัง
แต่ผมชักไม่อยากเล่นแล้วครับ รู้สึกว่ามีบางอย่างสำคัญกว่า
“มึงเอาไป” ผมโยนลูกบาสให้เพื่อนที่ทำหน้าเอ๋อแดก แล้วรีบวิ่งไปยังกลุ่มคนที่ผมให้ความสนใจอยู่ทันที ถ้าจากการคาดคะเนที่ไม่ผิดพลาด มันต้องพาน้องไปขึ้นรถสีดำมันที่จอดอยู่ไม่ไกลนั้นแน่ๆ
คิดเรอะว่าจะเร็วกว่ากู!
ผมจัดการพุ่งเข้าไปประชิดตัวคนที่กำลังตามตัวอยู่ทันที “ปีใหม่!”
“เฮ้ย!” น้องดูประหลาดใจมากที่ผมโผล่มาตรงนี้ แถมยังอึ้งกิมกี่ซ้ำสองเมื่อเห็นผมกล้าจับข้อมือแล้วพยายามจะลากออกมาจากวง
“มึงเป็นใคร!?” ไอ้ชุดดำคนนึงจับคอเสื้อผมไว้ทันที อั่กกก ไอ้สัดเจ็บ
“อย่าเสือก” ไม่รู้เหมือนกันว่าผมเอาความเกรี้ยวกราดมาจากไหน แต่เวลานี้คิดได้อย่างเดียวครับ ต้องช่วยน้อง!
“พี่ดิว”
“มากับพี่”
อย่ามาทำเสียงอ่อนเสียงหวานดิวะ เหอะ ถ้าไม่ได้คุยกันให้รู้เรื่องในวันนี้ อย่าเรียกกูว่าไอ้ดิวเซ้นต์เซย่า
“กูถามว่ามึงเป็นใคร!”
ไอ้เหี้ยนี่ก็เขย่าคอกูจัง หัวจะหลุดกลิ้งลงไปกับพื้นแล้วสัด “กูจะคุยกับน้อง”
“มึงมีสิทธิ์อะไรวะ!”
“ทำไม น้องเป็นของมึงอ๋อสัด” ผมพูดอย่างตั้งใจกวนตีน เล่นเอาอีกฝ่ายงงในความกล้า “เรื่องนี้เกี่ยวกับกูและน้อง ว่างมากก็ไปตามปกป้องไอ้แก่เจ้านายพวกมึงโน่น!”
“ก็นี่แหละเจ้านาย...”
“พอ!” ยังไม่ทันได้ซัดกันน้องปีใหม่ก็ยกมือห้ามทัพซะแล้ว ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าตอนที่น้องตะโกน น้องหลุดสีหน้าที่โคตรน่ากลัวออกมาด้วย “พี่ดิวจะพูดกับผมใช่มั้ยครับ”
“…” ผมมองหน้าน้องกับไอ้พวกชุดดำสลับไปมาอย่างเฝ้าระวังท่าที “อืม”
หมับ! นะ...น้องจับมือ “มากับผม”
“…”
แฮ่ก แฮ่ก ไม่อยากเชื่อเลยว่าการสัมผัสตัวน้องจะทำให้ผมใจเย็นขนาดนี้ อยากให้ผู้นำรัสเซียกับอเมริกาได้ลองจับดูบ้าง เผื่อจะได้เลิกทิ้งระเบิดใส่ประเทศชาวบ้านสักที
ผมทำหน้าเหยอๆ ใส่พวกชุดดำตอนที่น้องลากออกไป เหอะ ทำไม่ได้อย่างกูล่ะสิ
“พี่ดิว!” น้องพูดออกมาตอนที่พาผมเข้ามาอยู่ในซอกตึกเล็กๆ ที่มันสามารถทะลุไปตึกสินกำได้ “ทำอะไรของพี่เนี่ย!”
ผมกอดอก “ไม่ต้องมาดุ หนูต่างหากที่ทำผิด”
“ฮะ!?”
“วันนั้นบ้าหรือเปล่าที่ขึ้นรถไปกับมัน” ผมยกมือจับแก้มคนตรงหน้า มองไปยังจุดแดงๆ ที่มุมปาก เฮอะ แผลยังไม่หายสนิทเลย “ดูดิ มันทำเจ็บขนาดนี้ยังจะสุงสิงกับมันอีกทำไม”
“พี่ดิว!”
“พี่ถาม!!”
สัดเอ๊ย กูไม่ได้อยากจะตะโกนเลยนะ แต่น้องแม่งดื้อไม่ยอมตอบผมสักที
ปีใหม่พยายามหลบหน้า ผมเลยประคองไว้ไม่ให้หนี “อย่าเลี่ยงคำถามพี่ ตอบมา”
“พี่ไม่เข้าใจหรอก”
“…”
“ผมไม่อยากทำให้พี่ลำบากใจ”
“พี่ไม่ได้ลำบากใจเลย พี่เป็นห่วง พี่อยากช่วย”
เกิดประกายในตาเด็กน้อยตรงหน้าผมครู่นึง แต่สุดท้ายก็กลับไปขมวดคิ้วอยู่ดี “พี่จะมีปัญหาเอานะ”
“ใจคอน้องรู้บ้างหรือเปล่าว่าพี่รู้สึกยังไง”
“ผมรู้ครับ” น้องพยักหน้า “แต่พี่จะเป็นห่วงเพราะอะไรล่ะ?”
“…”
“ในฐานะไหนกันล่ะ?”
โอ้โห คำถามน้องเล่นเอาผมนิ่งไปเลย
นั่นสิวะ...
เอาไงดี เอาไงดีวะ! น้องทำท่าจะเดินหนีแล้วนั่นน่ะ!
ช่างแม่ง! ถ้าไม่สารภาพตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้พูดตอนไหนแล้ว
“พี่ชอบเรา” กึก! นั่นไง น้องแม่งถึงกับหยุดเดินหมุนตัวมามองเลย “พี่ว่ายังไงนะ?”
ผมเดินเข้าไปใกล้ “พี่ชอบปีใหม่”
ทั้งๆ ที่ผมย้ำอีกครั้งแท้ๆ แต่น้องกลับเสือกทำหน้าจะร้องไห้ “พี่รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา”
“รู้” ผมพยักหน้า “ถึงกล้าพูดออกมานี่ไง”
“…”
“ยังรักมันอยู่ใช่มั้ย” เสียงผมเบาคล้ายกับกระซิบ “ไอ้สัดกำพลอะ”
“…”
“ออกมามั้ย มาอยู่กับพี่ ให้พี่ดูแลรับรองว่าดีกว่าไอ้แก่นั่นล้านเท่า”
เออ พูดอวดเข้าไว้ ถือว่าเป็นช่วงโปรโมชั่นเสนอการขาย
แต่ว่าน้องกลับมองผมนิ่งๆ
“ผมไม่ได้ชอบพี่” !!!
ซะ...ซะ เซ เลยกู
“พี่ออกไปจากชีวิตผมซะเถอะ”
แหนะ มีไล่กูด้วย!!
“ปีใหม่...”
“พี่ไม่เหมาะกับโลกของผมหรอก”
ทำไมวะ ทำไมกัน?
คนตัวเล็กกว่าเอามือปาดน้ำตา เฮอะ เย็นชากับเขาแต่เป็นฝ่ายร้องไห้แทนนี่นะ?
“ติดหนี้มันอยู่ใช่มั้ย...” “ฮะ!?” ปีใหม่ตกใจกับคำถามของผม
“เพราะยังไม่คืนเงินมัน เลยยังต้องอยู่กับมันใช่มั้ย” ผมหลุดความลับของตัวเองออกไปจนได้
พอกันทีกับงานบ้าๆ ครั้งนี้
ผมเลือกน้อง ปีใหม่เบิกตากว้าง “พี่ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน”
“พี่โดนจ้างมาทวงหนี้ของปีใหม่ ที่ติดเขาไว้แสนห้า” ผมคิดอยู่นานว่าจะพูดประโยคต่อไปดีมั้ย... แต่เอาวะ! เสียเป็นแสนแขนไม่ได้จับของแท้ “ถ้าพี่จ่ายให้ล่ะ?”
“…”
“ถ้าพี่เอาเงินแสนไปวางตรงหน้าไอ้สัดนั่น น้องจะมากับพี่มั้ย?”
“พี่ไม่น่าทำแบบนี้เลย...”
“…”
“พี่อย่ามายุ่งกับเรื่องนี้จะดีกว่า” “งั้นพูดอีกครั้งสิว่าเราไม่ได้ชอบพี่” ผมตะโกนไล่หลังปีใหม่ที่ตั้งท่าจะเดินหนีอีกรอบ “แล้วพี่จะเดินออกไปจากชีวิตปีใหม่เลย”
คนที่ยืนอยู่หันมาโชว์เสี้ยวหน้า ดวงตามีความชั่งใจเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
อ๋อ สงสัยต้องให้กระตุ้น “ครั้งนี้ขอให้มองตาพี่แล้วพูดดังๆ”
“…”
“แค่ครั้งเดียว พี่จะไป”
ไม่เคยคิดเลยแฮะว่าชีวิตนี้จะมีสถานการณ์น้ำเน้าาาาน้ำเน่ากับเขาด้วย เหอะ เชื่อเขาเลยว่ะ
ทั้งๆ ที่ผมจี้ขนาดนี้ ปีใหม่กลับยืนนิ่งตัวสั่นเทิ้มเพราะแรงสะอื้น
“ออกไปจากชีวิตผมซะ” “…”
“พี่ไม่มีทางเข้าใจเรื่องนี้หรอก!” พูดจบปีใหม่ก็หมุนตัวเดินจากไป ปล่อยให้ผมมองหลังเล็กๆ นั้นหายไปกับมุมตึก
หึ...
‘ออกไปจากชีวิตผมซะ’ งั้นเรอะ?
โธ่น้อง ตอบอะไรไม่ตรงคำถามเอาซะเล้ย โจทย์ของพี่คือ ‘งั้นพูดอีกครั้งสิว่าเราไม่ได้ชอบพี่’ ต่างหาก!
ซึ่งนั่นหมายความว่าน้องไม่ได้ปฏิเสธผม ผมยังมีสิทธิ์ที่จะช่วงชิงน้องให้กลับมาอยู่ในอ้อมอกได้สินะ แล้วมาดูกันไอ้แก่แหง่กจอมโหด กับหนุ่มทันตะหน้ามนแต่รักจริงอย่าผมใครจะได้ตัวน้องไปครอง
ปีใหม่ ยังไงน้องก็หนีพี่ไม่พ้นแน่นอน
*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*
แหมะ! “ใครวะ” ไอ้เอิร์ลชะโงกเข้ามาดูเมื่อเห็นผมโยนรูปถ่ายของไอ้กำพลที่ได้แอบถ่ายไว้ตรงหน้า “พ่อมึงเหรอ?”
ป้าบ! “โอ๊ย หัวกู!”
“ตลกละสัด”
“อูยยยย” หน้าจืดๆ ของมันทำเหยเก “ก็เห็นแก่แหง่กขนาดนี้”
มึงจะทักคนแก่ทุกคนว่าเป็นพ่อกูไม่ได้นะไอ้ห่า “กูอยากให้มึงใช้ความสามารถในการเสือกให้หน่อย”
“…”
“แบบที่มึงชอบหาว้าปสาวๆ ตามเฟสบุ้ค”
“นั่นมันสาวๆ สวยๆ มั้ยสัด” ไอ้เอิร์ลหยิบรูปขึ้นมาพิจารณา มีการทำหน้าตาสะอิดสะเอียนอีกตะหาก “แล้วไอ้แก่นี่ก็ห่างไกลคำว่าสวยๆ ซะด้วย”
“มึงมีอะไรกับคนนี้วะดิว” ไอ้ทิมเข้ามานั่งร่วมวง มันหยิบรูปไปพิจารณาซึ่งสุดท้ายก็ทำหน้าเหยเกไม่แพ้กัน “พ่อมึงเรอะ”
“…” สัดเอ๊ย เลิกตลกแดกกันซักที “ช่วยหน่อยไอ้เอิร์ล ถือว่ากูขอร้องก็ได้”
ไอ้เอิร์ลหรี่ตาดูท่าทีผมด้วยความสงสัย “บอกมาก่อนว่าไอ้นี่สำคัญยังไง”
“…”
“นั่นสิไอ้ดิว อยู่ๆ มึงคงไม่อยากลุกขึ้นมาตามหาว้าปคนแบบนี้หรอก” ไอ้ทิมเค้นเช่นกัน “สำคัญยังไงวะ?”
เฮ้อ ถ้าผมไม่พูดก็คงไม่เลิกเค้นใช่มั้ยวะ ก็ได้! “มันเป็นเสี่ยของน้องปีใหม่”
ขวับ! ไอ้สองตัวนั้นสะบัดหน้ามองกัน
ไม่ได้อยากจะให้พวกมันมองน้องในแง่เสียๆ เลยนะ แต่ช่วยไม่ได้ เสือกเค้นกันเอง
“อย่างนั้นก็แสดงว่า...” ไอ้เอิร์ลชี้นิ้ว
ไอ้ทิมก็ตามเออออ
“มันเป็นศัตรูหัวใจของมึง!” ไอ้ห่า ผมล่ะโคตรเกลียดจังหวะรับส่ง
“ฮะ!?”
“ใช่มั้ยล่ะ” ไอ้เอิร์ลลุกพรวด ยืนค้ำผมที่นั่งอยู่บนโซฟา “มันจะกำลังจะแย่งน้องไปจากมึงใช่มั้ย”
“…”
“และมึงก็ทนเห็นน้องอยู่กับคนแก่ๆ แบบนี้ไม่ได้ เพราะมึงรักน้องเต็มหัวใจ!”
“อ่า…” ชิบหาย เชื่อมโยงเก่งสัด “ปะ... ประมาณนั้น”
“นั่นไงไอ้เอิร์ล! กูบอกแล้วว่าเพื่อนเรามันกำลังจะมีเมีย!”
ดีใจกันออกนอกหน้าจังนะพวกมึง แต่ต้องเปลี่ยนเรื่องก่อนครับ มันโห่ร้องดีใจกันอย่างนี้แล้วแม่งเขิน
“แล้วมึงอยากให้กูเปิดว้าปไอ้แก่นี่ทำไมวะ”
“กูติดต่อปีใหม่ไม่ได้ ก็เลยคิดว่าถ้ารู้ว่าไอ้นี่คือใครจะได้ตามตัวน้องเจอ เผื่อสองคนนั้นจะอยู่ด้วยกัน” ผมหันไปตอบไอ้เอิร์ล แต่อีกฝ่ายหัวใส่ซะงั้น
“มึงนี่มันทำอะไรให้ยากจริงจริงๆ” มันว่า “กูมีวิธีที่ดีกว่านั้น”
แล้วมันก็ลุกพรวดวิ่งกลับไปห้องนอนก่อนจะกลับมาพร้อมคอมพิวเตอร์ในเวลาอันรวดเร็วประหนึ่งเดอะ แฟลช
“เอาเบอร์น้องมา”
“บ้าเรอะ! กูไม่ให้” เบอร์น้อง ผมต้องมีคนเดียวสิครับ หวงงงง
“เร็วๆ ไอ้ดิว จะให้กูตามหาน้องให้มั้ยฮะ”
“ตามหาด้วยเบอร์โทรเนี่ยนะ!?”
“เออน่า เงียบปากแล้วบอกเบอร์กูมาสักที”
อะไรของมันวะ
ถึงจะงงๆ ปนระแวง แต่สุดท้ายผมก็บอกเบอร์น้องจนครบสิบหลักจนได้ ไอ้เอิร์ลก็กรอกข้อมูลยุกยิกอะไรไม่รู้บนหน้าจอ เหมือนเป็นโปรแกรมอะไรสักอย่างที่ผมไม่เคยเห็น
“ไอ้ทิม ตะกี้มึงจดทันปะ”
“จด” คนโดนถามโชว์กระดาษในมือ
“ดีมาก เป็นงานสุดๆ”
“ไอ้พวกเหี้ย!” เห็นมั้ยครับว่าพวกมันร้ายขนาดไหน! โว้ยยย แน่จริงมึงโทรเลย ขนาดกูยังโทรไม่ติด พวกมึงอย่าคิดจะหวัง!
“ชู่ว เงียบปากแล้วก็ดูซะ”
ไอ้เอิร์ลหันคอมมาทางผม ตอนนี้หน้าจอมันกำลังโชว์แถบสีแดงๆ เหมือนกำลังดาวน์โหลดเกม มันเริ่มจากสิบเปอร์เซ็นต์แล้วก็ค่อยๆ กระดึ๊บๆ ไปเรื่อยๆ เป็นสิบยี่สิบ
อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว!! “นี่มึงสืบที่อยู่กับจากเบอร์น้องเรอะไอ้เอิร์ล!”
“ยินดีต้อนรับสู่ศรรตวรรษที่ยี่สิบสองจ้า”
“แบบนี้ไม่ผิดกฏหมายเหรอวะ”
“หุบปาก แล้วอยู่เงียบๆ”
เอ๊า ด่าอีกละ กูแค่อยากรู้ ยังไม่อยากติดคุกโว้ยยยยย
“มึงดีใจมั้ยวะที่มีเพื่อนช่วยให้มึงสมหวังกับเมียถึงขนาดนี้” ไอ้ทิมตบบ่าปุๆ
“เมียห่าอะไร” เลิกใช้คำนี้สักทีสิวะ แม่งเขินนน “อย่าไปพูดต่อหน้าน้องนะสัด เดี๋ยวเขาจะเสียหายเอา”
“ไม่เป็นวันนี้ก็ต้องเป็นสักวันนึงอยู่ดีปะวะ” แม่งหันมาแซวต่อ “หรือมึงไม่อยากได้”
“อยาก”
“ตอบแทบไม่คิดแบบนี้ยังมีหน้าจะมาแถไอ้ควาย”
“อยากแต่ค่อยๆ เป็นค่อยไปสิวะ ใครกันมันจะปุบปับเดทกับใครแล้วเรียกว่าเมียเลยแบบไอ้เอิร์ลอะ”
“อ้าวสัด ลามมาถึงกูละไง” คนถูกพาดพิงตบหัวผมดังป้าบ “อย่าไปจี้เขาเลยไอ้ทิม เขาเป็นผู้ชายสายอบอุ่น เขามีวิธีของเขา”
“เออ กูก็ว่างั้น ไอ้ดิวมึงรู้มะ ถ้ากูเป็นน้องนะ มีคนพลิกแผ่นดินตามหาแบบนี้แม่งรักตายเลย”
จริงเหรอวะ...
งั้นก็ขอให้รักจริงๆ แล้วกัน อิอิ
“เจอแล้ว!” ผมกับไอ้ทิมสะดุ้งโหยง ไอ้เอิร์ลแม่งตื่นเต้นกว่าผมอีกมั้ง แม่งตบมือฉาดใหญ่ใช้นิ้วชี้หน้าจออย่างโคตรกระตือรือร้น “อยู่แถวอโศก”
“อ้าว...” ผมย่นคิ้ว “แถวนี้อะดิ”
“น้องแม่งอยู่ใกล้เรากว่าที่คิด”
“ใกล้กู!” ผมสวนไอ้ทิมอย่างไว มาใกล้ลงใกล้เรา เดี๋ยวถีบไปโน่น “อยู่ตรงไหนวะไอ้เอิร์ล”
“กำลังเคลื่อนที่” นิ้วของไอ้เพื่อนรักชี้ไปพร้อมๆ กับจุดสีแดงที่เคลื่อนไปตามทางในแผนที่ “หยุดแล้ว!”
“…”
“XXอิซากายะ (บาร์ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มพร้อมกับแกล้มอร่อยๆ สไตล์ญี่ปุ่น) ใกล้ๆ คอนโดเรานี่เอง!”
เออว่ะ น้องอยู่ใกล้ผมมากกว่าที่คิดจริงๆ ด้วย
“น้องคงไปกินข้าวกับเพื่อนมั้ง...” ปากผมพูดออกไป
“มึงไม่คิดจะไปหาน้องหน่อยเหรอ” ไอ้ทิมเหล่มอง
“…”
นั่นดิ ไปดีมั้ยวะ... อยู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้อง ผมแม่งโดนไล่เหมือนหมูเหมือนหมาว่าอย่าไปยุ่งกับชีวิตของเขาอีก
แต่ใจมันเรียกร้องง่ะ
“แค่น้องปลอดภัยกูก็โอเคแล้ว”
“โอ้โหพระเอกสัด” เกลียดสีหน้าเหม็นขี้ของไอ้เอิร์ลจริงๆ “มึงแน่ใจได้ไงว่านี่ที่กระพริบอยู่นี่คือน้องปีใหม่”
“อ้าว...” ผมย่นคิ้วสงสัยใส่จุดแดงๆ บนหน้าจอ “ก็ไหนมึงบอกว่าสืบจากเบอร์น้อง”
“เบอร์น้องน่ะใช่... แต่มึงไม่คิดบ้างเหรอว่าน้องอาจจะโดนทำร้าย ตกอยู่ในอันตราย โดนยึดโทรศัพท์ไรเงี้ย”
“บ้าน่า...” ไอ้เอิร์ลมันดูหนังมากไปปะวะ
แต่ไอ้คนพูดทำเป็นยักไหล่ “ไม่รู้นะกูแค่เดาสิ่งที่อาจเป็นไปได้ บางทีน้องกำลังตกอยู่ในอันตรายจริงๆ ไม่แน่อาจจะโดนขย้ำ”
“…”
“โดนกัด”
“…”
“โดนกระชาก”
“…”
“หรือไม่ก็กำลังโดนลากแรงๆ เจ็บปวดถึงขนาดตะโกนว่า ‘พี่ดิวครับช่วยผมด้วยยย’”
โอเค บิ้วขนาดนี้กูลุกก็ได้จ้า “กูจะไป”
“ต้องงี้ดิวะ!” ไอ้ทิมตบเข่าฉาดใหญ่อย่างกับเชียร์มวย
“เออให้มันใจๆ หน่อย” ไอ้เอิร์ลเงยขึ้นมาจากคอม “กูอุตส่าห์ช่วยขนาดนี้มึงจะมาป๊อดไม่ได้นะโว้ย”
“เอาใจช่วยกูด้วยแล้วกัน” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะจัดแต่งทรงผมและเสื้อผ้าตัวให้เรียบร้อย
เอาล่ะไอ้หนู เรามาดูกันดีกว่าว่าหนูอยู่กับใคร ถ้าอยู่กับเพื่อนก็แล้วไป แต่ถ้าอยู่กับไอ้กำพลอะไรนั่น แล้วมันจะลวนลามหรือทำร้ายร่างกายหนูอีก พี่ไม่รับรองความปลอดภัยของมันนะครับ
แล้วจะรู้ว่าเห็นโอตะแบบนี้ก็เอาจริงเป็นเหมือนกัน!*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*
XXอิซากายะ เสียงพูดคุยอึกทึกครึกโครมทักทายผมทันทีตั้งแต่เปิดประตูเข้าไป ผมโคตรชอบบรรยากาศแบบนี้เลย มันญี่ปุ้นนนนญี่ปุ่น ซึ่งมันคือวัฒธรรมที่ผมชอบเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสั่งเบียร์ลูกผู้ชายหรือนาเบะหม้อไฟ ผมต้องตามหาปีใหม่ต่างหากเล่า!
ยังไม่มีเด็กเสิร์ฟคนไหนเห็นผม เวลาเลิกงานคนก็เยอะแบบนี้แหละ เพราะฉะนั้นมันเลยเป็นโอกาสที่จะให้แวบเข้ามาซ่อนตัวในห้องครัว
อยู่ไหนวะ... กวาดสายตามองตามโต๊ะต่างๆ จากตรงนี้แม่งก็ยังไม่เห็นหน้าใสๆ ตาโปนๆ ตามเอกลักษณ์น้องปีใหม่เลย หรือไอ้เอิร์ลมันหลอกผมวะ เวรละไง
“นี่แก!” สัด! หลบได้ไม่ถึงสองวิก็โดนจับได้ซะแล้วเหรอวะ เส็งเคร็ง!
ผมค่อยๆ หันไปยิ้มแห้งๆ ให้กับเจ้าของเสียง แล้วพบว่ามันคือคุณลุงหัวล้านใส่แว่นในชุดยูคาตะที่กำลังเท้าเอวยืนมองผมอย่างเดือดดาล
ชิบหายแล้ววว โดนจับจนได้
“เด็กใหม่นี่มันใช้ไม่ได้เลย”
หะ…ฮะ!?
“คือว่า...”
ผมยังไม่ทันอ้ำอึ้งได้จบอีกฝ่ายก็สวนทันควัน “ไปหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่!”
“…”
“แล้วเอาของพวกนี้ไปเสิร์ฟที่ห้องวีไอพีหนึ่งด้วย!” คุณลุงชี้ไปที่ถอดอาหารที่วางอยู่ใกล้ๆ “เร็วสิ ชักช้าทำไม! เดี๋ยวท่านประธานกำพลก็อาละวาดหรอก!”
ผมนี่หูผึ่งทันทีเลย อ้าวนี่มันชื่ออริทางหัวใจของผมนี่หว่า หวังว่าจะเป็นกำพลเดียวกันนะ
ผมเลยไม่รอช้า หยิบผ้ากันเปื้อนที่ใครไม่รู้แขวนทิ้งไว้ขึ้นมาใส่ พอเดินผ่านกระจก โอ้โห มาดผมแม่งให้มาก เหมือนพ่อครัวหล่อๆ ผู้ทำอาหารอร่อยจนผู้คนหลังไหลแบบการ์ตูนเรื่องยอดนักปรุงโซมะ
“เร็วๆ สิ!”
“คร้าบๆ” ลุงนี่ก็เร่งผมจัง สงสารลูกน้องลุงเลย เจอเจ้านายดุแบบนี้
ผมหิ้วถาดอาหารออกมาจากครัวแล้วก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้
ไอ้ห้องวีไอพีหนึ่งมันอยู่ตรงไหนวะ ชิบหายละไง
“นายๆ” ผมตัดสินใจเรียกเด็กเสิร์ฟหน้าติ๋มๆ ที่เดินผ่าน “รู้มั้ยว่าห้องวีไอพีหนึ่งอยู่ไหน”
เด็กเสิร์ฟหนุ่มมองผมหัวจรดเท้า... เวรละ โดนจับได้แหง เส็งเคร็งเอ๊ยยย
แต่ทว่าเด็กหนุ่มกลับมองด้วยแววตาเหยียด “เด็กใหม่สินะ...”
อ้าว... “ครับ”
“เฮอะ” แหนะ ยังเหยียดกูไม่เลิก เดี๋ยวปั๊ดทุ่มด้วยแซลม่อนซาชิมิ
แล้วขอสงสัยอีกอย่างนะ คือคนร้านนี้มันจับพิรุตผมไม่ได้กันเลยหรือยังไง ไม่สงสัยกันหน่อยเรอะ! แม่งเอ๊ย สงสัยมาดผมแม่งเหมาะกับเด็กเสิร์ฟจริงๆ
“…”
“อยู่ชั้นสอง...” ผมมองตามนิ้ว ซึ่งชี้ไปยังช่องกำแพงเล็กๆ ใกล้ห้องน้ำ
“ไม่เห็นมีบันไดเลย” ผมว่า
“ผลักกำแพงออกไปแล้วจะเจอ” คนตรงหน้าผมเหยียดมุมปาก “ดูท่าจะไปไม่รอดแล้วละมั้ง”
ยืนตรงนี้คงจะโดนกัดไม่เลิก งั้นไปดีกว่า “ขอบคุณนะครับ”
ผมหิ้วถาดอาหารเดินหนีเด็กเสิร์ฟยอดนักเหยียดไปยังช่องกำแพงที่ว่า เอ... มันต้องเปิดยังไงวะเนี่ย ลองเอามือผลักไปมั่วๆ ก่อนแล้วกัน
แปะ แปะ... แอดดดด เฮ้ยยย นี่มันทางลับ ซีเครสเอ็นทรานด์!! เดี๋ยว...แล้วกูจะตื่นเต้นทำไม ไม่ได้เล่นทูม ไรเดอร์อยู่ไอ้ห่า
พอช่องกำแพงถูกผลักเข้าไป ผมก็เห็นบัดไดที่ทอดยาวไปสู่ชั้นสอง... ทำไมมันมืดจังวะ แถมยังวังเวงชิบหาย ไอ้ห่านั่นมันหลอกผมหรือเปล่าเนี่ย
“$DW($@_!($!”
เฮ้ย... ด้านบนนั้นมีเสียงคุยกันวะ ดูเหมือนจะไม่ใช่ภาษาไทยซะด้วย... แต่ฟังดูแล้วแม่งคุ้นๆ เหมือนเคยผ่านหูผ่านตาที่ไหน
จากการที่เสพมังงะแอนิเมะ รวมถึงหนังทุกประเภท... ขอฟันธงว่ามันคือ ภาษาญี่ปุ่น!
เอ...จากโหวงเฮ้งไอ้กำพลแล้วดูแม่งไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ เป็นไปไม่ได้เด็กขาดว่ามันจะพูดภาษาญี่ปุ่นได้ สงสัยเสียงคงดังมาจากห้องอื่นละมั้ง แถวนี้คนญี่ปุ่นเยอะ อาจจะนัดกันมารวมตัวสังสรรค์หลังเลิกงาน
พอเดินขึ้นบันไดมาชั้นบนสุด ผมก็เห็นแสงสว่างที่ส่องมาจากห้องๆ เดียวท่ามกลางความมืดมิดของห้องอื่นๆ ที่ไม่ได้เปิดใช้ แปลว่า... เสียงดังออกมาจากห้องนี้ล้วนๆ
ชิบหาย ผมเริ่มกลัวจริงๆ แล้วครับ
งั้นแผนเราตามนี้นะ เราจะเอาอาหารเข้าไปเสิร์ฟ ถ้าไม่ใช่กำพลเดียวกับที่ผมเข้าใจ เราจะค่อยๆ ย่องออกมา โยนผ้ากันเปื้อนและเผ่นแนบออกจากร้าน แล้วค่อยไปตบหัวไอ้เอิร์ลทีหลัง โทษฐานที่แม่งมั่วพามาให้ผมลำบาก
โอเค นิ่งไว้ไอ้ดิว สร้างคาแรคเตอร์เด็กเสิร์ฟให้แนบเนียนหน่อย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก หลังจากที่ผมเคาะไปไม่นาน ประตูแบบญี่ปุ่นก็ถูกเลื่อนออกทำให้ได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังกระหึ่มขึ้นกว่าเดิม และตอนนั้นเองที่ตาผมมองไปเห็นคนที่นั่งหัวโต๊ะเต็มๆ ตา
ไอ้กำพลจริงด้วย!
ฮะ...เฮ้ย และที่สำคัญ ข้างๆ กันนั้นคือน้องปีใหม่!!
[อ่านต่อด้านล่าง]