┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]  (อ่าน 473190 ครั้ง)

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ไปรับลูกได้แล้วนะ
เด็ก ๆ รอนานแล้ว

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เดือนใหม่อีกครั้ง  อิอิ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
แวะมาเยี่ยม

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ไม่เห็นหน้าค่าตากันหลายงวดแล้วเด้อพี่น้อง

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
คิดถึงเรื่องนี้อ่า อยากอ่าน คนแต่งหายไปเลย

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
คิดถึงงงงงง
#เรารอเธอที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ 55555555
#ปาดน้ำตาแล้วรอต่อไป :hao5:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
รอฉันรอเธออยู่....
ข้ามเดือนข้ามปีก็ยังรอ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
คิดถึงจังเลยยยยยยยยค่า

ออฟไลน์ insunhwen

  • FREEDOM!!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
รอน้าาาา :o12:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ขอให้ทั้คู่เข้มแข็งสำหรับการทดสอบทีีกำลังรออยู่. เอาใจช่วยนัองธัญให้สมหวัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ส่องๆ ปีหน้าจะมาดูอีกครั่งละกัน อิอิ  :call:

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก  ├

งวดที่ 12




ไม่รู้เพราะคำพูดของภูเมศเมื่อเช้าหรือเปล่า จึงได้ทั้งอารมณ์ดีและกระฉับกระเฉงกว่าปกติ หากมีคนมาเห็นว่าตัวเขาซึ่งหน้านิ่งอยู่เป็นนิจกำลังฮัมเพลงอยู่ คงจะต้องประหลาดใจจนพูดไม่ออกแน่นอน

เพิ่งจะใกล้เที่ยงเท่านั้น แต่งานบ้านที่ควรทำก็จัดการจนหมดแล้ว รวมทั้ง ‘งานส่วนตัว’ ก็เช่นกัน

ธัญญ์ปิดอีเมล์ฉบับสุดท้ายลง วางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่วงท่าผ่อนคลาย นัยน์ตาทอดมองผ่านไอแดดไปยังกระถางต้นไม้ทรงสี่เหลี่ยมที่มีแต่ดินแห้ง ๆ อยู่ในนั้น ตั้งใจว่าสักวันอาจลองหาไม้ดอกล้มลุกสักต้นมาปลูก

เงินปันผลช่วงไตรมาสล่าสุดจากที่เคยทยอยลงทุนไว้หลายแห่งล้วนเป็นที่น่าพอใจ แม้เกือบทั้งหมดจะเป็นกิจการขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ด้วยไม่อยากให้ไปสะดุดตาใครบางคนเข้า แต่หุ้นส่วนที่เลือกลงทุนด้วยส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่เขารู้จักและศึกษานิสัยใจคอมาพอสมควรแล้วเกือบทั้งนั้น

เรื่องเลือกใช้คนเขาค่อนข้างมั่นใจอยู่พอตัว แม้มีบางส่วนที่ขาดทุนบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ถือเสียว่าช่วยเหลือคนที่อาจมีประโยชน์ในอนาคต ตีเป็นเงินซื้อใจที่ไม่เสียเปล่านับว่าคุ้มค่า เมื่อมองโดยภาพรวมแล้วก็ยังได้กำไรงามอยู่ดี ที่สำคัญยังไม่ต้องไปออกแรงด้วยตัวเอง สามารถใช้เวลากับคนที่อยากอยู่ด้วยได้ตามชอบใจ

เขารู้ดีว่าคงไม่สบายขนาดนี้ หากไม่ได้มีต้นทุนสูงมาก่อน..

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย

ช่วงเวลาที่อยู่กับธเนศ ใช่ว่าจะเสียเปล่าไปทั้งหมด คิดแล้วออกจะเป็นหนี้รักหนี้แค้นกันอย่างไรพิกล

แต่ไหนแต่ไรมา คนผู้นั้นไม่เคยขี้เหนียวเมื่ออีกฝ่ายเป็นเขา เชื่อว่าหากตอนนี้พวกเขาอยู่ด้วยกันก็คงยังเป็นเช่นเดิม

ไม่ว่าจะเงินทอง ข้าวของ เครื่องใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกจนเกินจำเป็น กระทั่งเครื่องประดับหรูหราที่ไม่รู้จะมีไปทำไม ธัญญ์ก็ได้มาจนเกินพอ

เขาไม่เคยเรียกร้อง แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลจะปล่อยให้สิ่งที่ได้รับต้องสูญเปล่า

เมื่อครั้งยังเด็กกว่านี้ ชายหนุ่มเคยทิ้งขว้างสิ่งที่ได้ด้วยทิฐิของวัยเยาว์ คิดเพียงว่าชังน้ำหน้าเจ้าของ อะไรที่ได้มาล้วนไม่อยากเก็บไว้ให้เจ็บใจ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับคิดได้ภายหลังว่าการกระทำโดยเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งเช่นนั้นเปล่าประโยชน์ ได้รับมาก็ควรหาช่องทางให้มันเพิ่มมูลค่าขึ้น มากพอสำหรับจะใช้ชีวิตดื้อแพ่งใส่อีกฝ่ายได้อย่างไม่ต้องเดือดร้อนปากท้อง นั่นต่างหากจึงเรียกว่าฉลาด ต่อให้บุคลิกภายนอกจะดูเฉื่อยเนือยเพียงใด แต่การทำอะไรโดยปราศจากการใคร่ครวญ...อย่างน้อยก็สักคร่าว ๆ สักรอบอยู่ในหัว ย่อมไม่ใช่นิสัยเขาแน่นอน

เป้าหมายของเขาไม่ใช่เพื่อจะร่ำรวยขึ้นมาได้เทียบเท่าธเนศด้วยวิธีเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หากเปลี่ยนเป็นตั้งเป้าแค่รายได้กินเปล่าสำหรับตัวเอง...หรืออาจจะรวมไปถึงผู้ชายวัยสามสิบกว่า ๆ และเด็กชายอายุเก้าขวบอีกสักคน ก็นับว่าสามารถอยู่ได้อย่างสบายทีเดียว

พอคิดถึงตรงนี้ รอยยิ้มบางเบาค่อยคลี่ตัวอ่อนช้อยอยู่บนริมฝีปาก

ใครรักก่อนก็แพ้ เรื่องแบบนี้รู้ทั้งรู้ แต่ถึงจุดหนึ่งที่เผลอใจไปแล้วก็หมดปัญญาจะเปลี่ยนความรู้สึก แค่นึกว่าจะได้เห็นหน้า ออกไปรับพร้อมภูมิที่โรงเรียนด้วยกัน หรือว่าเย็นนี้และเย็นวันถัด ๆ ไปกลับมาแล้วจะทำอะไรให้กินดี เท่านั้นก็เผลอยิ้มออกมาอย่างห้ามลำบาก

คนคนนั้นมีอะไรดีกันนะ

ตอนตัดสินใจฉกกระเป๋าสตางค์ภูเมศเพื่อสร้างเรื่องเข้าหาครั้งแรก ไม่ยักรู้ตัวว่าจะทำให้ชอบได้ขนาดนี้

ต่อให้ยังไม่อยากยอมรับอย่างจริงจัง หาข้ออ้างกับตัวเองไปเรื่อยเปื่อยว่าอาจเป็นแค่ความประทับใจแรกพบ แค่เคยช่วยเขาไว้หนึ่งครั้ง เรื่องเล็กน้อยออกปานนั้น แต่ความรู้สึกว่าได้รับการปกป้องในลักษณะที่แตกต่างจากธเนศ—หากจะพอเรียกว่าที่ผ่านมาคือการปกป้องในอีกรูปแบบหนึ่ง—ก็อาจเป็นเหตุผลโง่ ๆ เพียงพอสำหรับการตกหลุมรักใครสักคน

เขามักน้อยแค่ถ้าได้อยู่ด้วยกันไปเรื่อย ๆ แบบนี้ก็คงดี

ความต้องการของเขาเรียบง่ายเท่านั้นเอง

นั่งเอกเขนกที่เดิมได้ครู่ใหญ่ เจ้าแมวส้มถุงทองซึ่งโผล่มานอนซบอยู่ตรงปลายเท้าอยู่นานแล้วกลับชูคอขึ้นมองไปทางหน้าบ้าน การเคลื่อนไหวนั้นทำให้ความคิดเขาชะงักลง หรี่ตามองตามสายตาแมวออกไปยังรถยนต์คุ้นตาที่แล่นเข้ามาจอดหน้ารั้วบ้านเงียบเชียบ

ตรงตำแหน่งที่นั่งคนขับเป็นเงาร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่ง แม้เห็นหน้าไม่ชัดนัก แต่ก็พอเดาได้ว่าคงเป็นภาคี ที่หลังจากเจอกันครั้งสุดท้ายเป็นเดือน ๆ มาแล้วก็เงียบหายไป ส่วนอีกคนซึ่งนั่งโดยสารอยู่ด้านข้างคนขับ..

ชายหนุ่มกลั้นหายใจ แผ่นหลังเหยียดเกร็งขึ้นโดยไม่รู้ตัว พร้อมกับที่โทรศัพท์มือถือของเขามีเสียงเตือนข้อความเข้า ตัวหนังสือวิ่งขึ้นแสดงบนแถบแจ้งเตือนด้านบน ไม่กี่วินาทีก็เพียงพอสำหรับการอ่านข้อความสั้น ๆ จนจบ

‘จะไม่ออกมาเจอหน้ากันหน่อยหรือ?'
 
ทันทีที่เห็นข้อความนั้น รอยยิ้มเบาบางซึ่งจับจองบนริมฝีปากของชายหนุ่มมาพักใหญ่ กลับเปลี่ยนเป็นเฉยเมย เรียวปากเปลี่ยนเป็นเหยียดตรง แววตาสงบนิ่ง ซุกซ่อนอารมณ์ทั้งหมดไว้เป็นอย่างดีเบื้องหลังสีหน้าราวสวมหน้ากาก

ธัญญ์เก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าพลางลุกขึ้นยืน เจ้าเหมียวบิดขี้เกียจเดินหนีไปเลียขนแต่งตัวอยู่อีกทาง ขณะที่เขาก้าวขาออกไปข้างหน้าอย่างไม่เร่งร้อน

ผู้ชายคนนั้นลงจากรถ ยืนนิ่งอยู่ข้างหน้า มองตรงเข้ามาด้วยรอยยิ้มละมุน

เขายังเดินตรงไปช้า ๆ แต่ละย่างก้าวชวนให้นึกถึงสมัยก่อนเมื่อครั้งยังเด็ก ที่ธเนศเคยชวนเขาเล่นซ่อนหาในบ้าน

อีกฝ่ายมักรู้เสมอว่าเขาไปซ่อนอยู่ตรงไหน เพียงแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ เดินผ่านไปอย่างจงใจ สุดท้ายก็ทำทีเป็นยอมจำนนแล้วเรียกเขาออกมาหาเอง คว้าตัวไว้ได้ค่อยลูบหัวลูบหลังอย่างรักใคร่

แม้ตอนนี้อาจจะไม่ต่างกันนัก…แต่ธัญญ์รู้ดีว่ามันไม่ใช่เกมเล่นซ่อนหาแบบเด็ก ๆ อีก


“นึกว่าจะลืมฉันไปเสียแล้ว”

ธัญญ์หยุดยืนตรงหน้าอีกฝ่าย คลี่ยิ้มนุ่มนวลเมื่อได้ยินประโยคทักทายนั้น

“ไม่ลืมหรอกครับ”

ได้ยินดังว่า ท่าทางอีกฝ่ายดูพึงพอใจ ต่อให้เป็นคำพูดจริงหรือเท็จ แต่ธเนศมักชอบใจเวลาเขาทำตัวว่าง่ายอยู่เสมอ

“เด็กดีของฉัน ครั้งนี้ดูเธอเล่นสนุกนานกว่าทุกทีนะ”

เขาไม่ตอบ เหลือบตามองปลายนิ้วฝ่ายนั้นที่ยื่นมาแตะแผ่วเบาบนแก้มตัวเอง พลางพูดเปลี่ยนเรื่องด้วยเสียงเนิบ ๆ “วันนี้ไม่ต้องทำงาน?”

“เลื่อนไปหมดแล้ว”

“อ้อ”

“อยากมาหาน่ะ”

“ดีใจจังครับ”

“โกหก”

พวกเขามองหน้ากันโดยไร้บทสนทนาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนผู้มาเยือนจะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบลงด้วยเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ

“ล้อเล่นน่ะ อึ้งไปเลยหรือ ทำเป็นไม่ชินไปได้”

ธัญญ์เพียงแต่ยิ้มรับ

“พอยิ้มอย่างนี้แล้วยิ่งเหมือนแม่นะ”

“อ้อ” เขาเอ่ยคำเดิม

“แม่ของเธอเป็นคนสวยมาก จำได้ไหม”

“ครับ”

“น่าเสียดายที่อายุสั้น”

“นั่นสินะครับ”

“แต่ก็โชคดี ที่ยังมีเธออยู่”

ธัญญ์ไม่ตอบคำ รอยยิ้มบางเบาค่อยจางลงช้า ๆ ดวงหน้าหล่อเหลาแปรเปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง ราวกับไม่หลงเหลือความรู้สึกใดอีกแล้ว หรือไม่...ความรู้สึกเหล่านั้นก็ซุกซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี

“เมื่อไหร่จะกลับบ้านเราล่ะ”

เขาทำเหมือนไม่ได้ยินคำถามนั้น

“ตอนเธอดื้อนิดหน่อยก็น่ารักดี แต่พอนานเข้า มันทำให้ฉันคิดว่ามีอะไรกันนะที่ทำให้ลูกชายของฉันไม่ยอมกลับบ้านสักที หรือว่าจะมีอย่างอื่นที่กำลังสนใจอยู่?”

“ไม่รู้สิครับ”

ธเนศยิ้ม โคลงศีรษะน้อย ๆ พูดต่อเสียงนุ่ม “แต่เธอจำได้ไหม ตั้งแต่เล็กจนโต ตัวเองไม่เคยสนใจหรือชอบอะไรได้นานสักอย่าง ไม่ว่าจะคน...สัตว์...สิ่งของ...พอเลี้ยงนกมันก็หนีจากกรง เลี้ยงแมวมันก็หายไปจากบ้าน เลี้ยงกระต่ายไม่เท่าไรมันก็ตาย ของเล่นได้มาแป๊บเดียวก็ทำหาย คนที่เคยสนิท...ไม่ช้าเธอก็ตีจาก...”

“...อ้อ..” เขาตอบรับเบา ๆ เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้

“อีกไม่นานเธอก็จะเบื่อทั้งหมดนั่น”

ธัญญ์มองตรงไปยังคู่สนทนา สายตาฝ่ายตรงข้ามที่ทอดกลับนั้นมาอ่อนโยน ทว่ากลับแฝงนัยท้าทายอยู่ในที ด้วยคงรู้ดีถึงความหมายในคำพูดของตัวเอง

เขาไม่ได้เป็นคนที่เริ่มเบื่ออะไรต่อมิอะไรอย่างธเนศกล่าวอ้าง แต่ถูกทำให้รู้ตัวว่า ‘ต้อง’ เบื่อ และกลับไปหาอีกฝ่ายได้แล้วต่างหาก

“แล้วอีกนานเท่าไหร่ เธอถึงจะเบื่อที่นี่กันนะ” ผู้มาเยือนแสร้งทำเป็นพึมพำ กระนั้นก็ยังปรายตามาทางเขาราวกับอยากสื่อความหมายบางอย่าง “สักหนึ่งเดือน สองเดือน หรือสามเดือน?”

“ผมไม่เบื่อที่นี่”

ธเนศเลิกคิ้ว “งั้นหรือ?”

“ผมมีความสุขดี”

“มั่นใจอย่างทุกที สมเป็นเธอจริง ๆ” อีกฝ่ายหัวเราะแผ่วเบา “แต่ดูเธอสิ ครั้งก่อนที่เคยพูดอย่างนี้ ตอนไปสนิทกับเพื่อนเกเรคนหนึ่งเมื่อสมัยเรียนมหา’ลัย แล้วหลังจากนั้นไม่เท่าไร...เธอก็เลิกคบเพื่อนคนนั้น”

“ครับ”

“แล้วคราวนี้ยังกล้าพูดว่าจะไม่เบื่อไปเสียก่อนอีกหรือ?”

ธัญญ์ไม่ตอบ เบือนสายตาไปทางอื่น นิ่งงันอยู่เช่นนั้นอย่างดื้อเงียบ

“เอาเถอะ” ธเนศตัดบทด้วยท่วงท่าสบาย ๆ ราวกับว่าที่มาวันนี้ไม่ได้มีเรื่องสลักสำคัญอะไร เพียงแต่เป็นทางผ่านเท่านั้นจึงแวะทักทาย “ฉันแค่จะมาบอกว่าคิดถึง ถ้าเล่นสนุกพอแล้วก็กลับบ้านเถอะ”

ไม่ได้เล่นสนุก

ถ้อยคำนั้นลอยซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว ทว่าเขาไม่ได้ปริปากออกไป ทำเพียงแต่ยืนฟังอีกฝ่ายเงียบ ๆ

“...ไม่นานเธอก็เบื่ออย่างทุกที กลับบ้านก่อนเรื่องจะบานปลายจนมีคนต้องเดือดร้อนดีกว่า อยู่ด้วยกันมาหลายปี เธอก็น่าจะรู้เรื่องนั้นดีไม่ใช่หรือ”

“...ผมรู้”

“ดีแล้ว” อีกฝ่ายยิ้มกว้าง หยิบไฮเดรนเยียช่อเล็ก ๆ ในกระเป๋ามาใส่มือเขาไว้ กลีบสีน้ำเงินอ่อนทั้งช้ำและบิดเบี้ยว เหี่ยวเฉาลงอย่างรวดเร็วเมื่อถูกเด็ดจากต้น

“ฉันรู้ เธอไม่สนใจดอกไม้ช่อใหญ่เอิกเกริก แต่ดูไฮเดรนเยียเล็ก ๆ ที่เธอชอบสิ กว่ามาจะถึงมือเธอ มันก็เหี่ยวหมดแล้ว กลับมาดูด้วยกันที่บ้านตอนมันยังอยู่บนต้นไม่ดีกว่าหรือ”

ธัญญ์มองแล้วให้รู้สึกกระอักกระอ่วน แต่ใบหน้ายังปราศจากอารมณ์เช่นเดิม

“ฉันรู้ตัวเองเคยทำผิดกับเธอไว้มาก แต่ก็กล้าพูดว่าฉันมีทุกอย่างที่เธอต้องการ หรือถ้ายังขาดเหลืออะไรก็ขอแค่เอ่ยปากบอกเท่านั้น..”

เขาฟังแล้วเพียงแต่พยักหน้าอย่างเลื่อนลอย

“แล้วจะรอนะ เด็กดีของฉัน” ปลายนิ้ววางลงไล้แผ่วเบาบนผิวแก้ม “อีกหนึ่งเดือน...สองเดือน....สามเดือน...เท่าไหร่ดี เธอว่าความอดทนของฉันยาวนานแค่ไหน”

“ก็ยาวอยู่...นี่ครับ?”

“นั่นสิ ฉันอดทนใช้ได้เชียวละ” น้ำเสียงอีกฝ่ายฟังดูพึงใจกับคำตอบ “อย่าให้ความอดทนฉันต้องเสียเปล่าล่ะ”

แวบหนึ่งก่อนพวกเขาจะแยกจากกัน จากหางตาเหลือบเห็นคนที่นั่งรออยู่ในรถมาตลอด

ภาคี...พี่ชายต่างแม่ของเขา...และจะว่าไปก็ต่างพ่อด้วย...แม้ไม่อาจนับเรียกเป็นญาติได้เต็มปาก แต่ก็เป็นที่ยอมรับกันกลาย ๆ ว่าเป็นพี่น้องกึ่งผู้มีบุญคุณต่อกัน

ชั่วขณะหนึ่งที่บังเอิญสบสายตากันในระยะใกล้ สีหน้าลำบากใจของภาคีก็ปรากฏขึ้นชัดเจน

คนคนนั้นนิสัยตรงไปตรงมา จะเก็บอาการไม่เก่งจนแสดงออกบนใบหน้าเช่นนี้นับว่าไม่ใช่เรื่องแปลก

ธัญญ์สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วค่อยผ่อนออกช้า ๆ คลี่ยิ้มบางให้ชายหนุ่มบนรถแวบหนึ่ง บอกเป็นนัยว่าเขาไม่ได้ถือโทษโกรธเคือง รู้ดีว่าเวลาแบบนี้ต้องมาถึงจนได้ในสักวัน แต่อีกฝ่ายกลับหลุบตาลงต่ำอย่างไม่กล้าสู้หน้า

“เจ้าภาคีน่ะหรือ” เสียงพูดทุ้มต่ำกลั้วหัวเราะดึงความสนใจเขากลับมาหยุดที่คู่สนทนาอีกครั้ง หลังจากเห็นว่าเขาดูจะสนใจสารถีจำเป็นในคราวนี้เป็นพิเศษ “ทำงานดีเชียวละ สมกับที่เธอแนะนำส่งเสริมเขามาตลอด”

เขาไม่ได้ถามต่อ ว่า ‘ทำงานดี’ ที่ว่า หมายถึงงานของธุรกิจในเครือ หรืองานอย่างอื่น

“ได้ยินอย่างนี้ก็ดีใจครับ”

ทุกอย่างย่อมมีวันหมดอายุ คนที่ใช้งานได้ก็ต้องมีวันนั้นเช่นกัน

ธัญญ์หันกลับมาสบตาธเนศตรง ๆ อีกครั้ง

นัยน์ตาอีกฝ่ายหรี่ลงน้อย ๆ แทนรอยยิ้ม เครื่องหน้ายังคงดูดีแม้อายุจะล่วงเลยวัยหนุ่มมาไกลโข ริ้วรอยบาง ๆ กลับยิ่งขับให้ใบหน้านั้นดูภูมิฐาน

เขายืนครุ่นคิดอยู่เงียบ ๆ ว่าถ้าทุกสิ่งย่อมมีวันหมดอายุเช่นนั้นแล้ว เมื่อไรตัวเองจึงจะหมดอายุการใช้งานสำหรับคนคนนี้เสียทีนะ






หน้าโรงเรียนดูมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษช่วงใกล้เวลาเลิก ร้านค้ารถเข็นและร้านรวงแถวนั้นคึกคักขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเด็ก ๆ เริ่มทยอยกันออกมาจากประตูรั้วพร้อมเสียงจ้อกแจ้กจอแจ มีทั้งตะโกนโหวกเหวกและหัวเราะร่วนกันเป็นระยะตลอดทางเดินและลานด้านหน้า

“ไหนว่าไม่ชอบเด็ก”

ทันทีที่ถามจบ ภูเมศพลันนึกได้ว่าไม่น่าเลย มองคนบนม้านั่งข้าง ๆ อมยิ้มกับเจ้าตัวเล็กตัวน้อยที่ทยอยเดินไปเล่นไปออกมาหน้าโรงเรียนก็เพลินตาดีอยู่แล้ว ดูท่าจะมีความสุขเวลาเห็นเด็กออกปานนั้น ยังทำปากแข็งไม่เข้าเรื่องอยู่ได้ ดีหน่อยที่แม้ก่อนหน้านี้ชอบยิ้มแฝงนัยน์ตาเศร้าสร้อยอยู่บ้าง พักหลังค่อยดูสดใสขึ้นจนพาคนมองใจเต้นไปด้วย

อย่างคาดไว้ไม่มีผิด พอโดนทักเข้าหน่อย เจ้าของใบหน้าคมคายพลันยืดหลังขึ้นอีกนิด มุมปากซึ่งอมยิ้มสบาย ๆ อยู่เมื่อครู่เหยียดออกเป็นเส้นตรงบางเฉียบ หันมาจ้องเขานิ่งอย่างกับเมื่อครู่เขาพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นละ

“ไม่ชอบ ถูกแล้วนี่ครับ”

“..ก็เห็นนั่งอมยิ้ม” เขาบ่นงุบงิบ ไม่ตั้งใจจะให้อีกฝ่ายได้ยิน แต่ดูเหมือนจะลอยไปถึงหูเข้าจนได้

“ไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”

ภูเมศชะงักไปเล็กน้อย ครู่หนึ่งจากนั้นค่อยเปลี่ยนเป็นยกมุมปากขึ้นอย่างได้ใจ ไหน ๆ ได้ยินแล้ว แถมหน้าตานิ่ง ๆ ช่างดูยียวนน่ามันเขี้ยวจนอดต่อล้อต่อเถียงสักนิดไม่ได้

“ดื้อ ยิ้มก็บอกว่ายิ้ม ไม่เห็นเป็นไรเลย” ชายหนุ่มพึมพำ พลางขยับเข้าไปนั่งใกล้คนข้างกายอีกนิด กระซิบเสียงเบาพอได้ยินแค่สองคนอย่างจงใจ “แล้วเวลาเธอยิ้มก็น่ารักดีไม่ใช่หรือไง”

คนฟังไม่สะทกสะท้าน กลับพูดสวนเสียงเรียบ “คุณพูดอย่างนี้แล้วฟังดูชีกอชะมัดเลย”

“หือ?”

“ขยับเข้ามาใกล้นี่ คิดอะไรลามกกับผมอยู่รึเปล่าครับ”

ความมั่นใจเต็มเปี่ยมตอนแรกของภูเมศพังครืนลงในไม่กี่ประโยคของเจ้าคนหน้านิ่ง ตอนแรกสาบานว่าไม่ได้คิดอกุศลใดเลยจริง ๆ แต่พอโดนทักเข้าที คราวนี้ใครจะไปอดใจไม่คิดได้

“ใส่ร้ายนี่!”

“คิดจริง ๆ ด้วยสินะครับ” พอได้ทีก็ไม่ปล่อยโอกาสหลุดลอยสักนิด “คนทะลึ่ง หน้าแดงหมดเลย”

ที่ชวนให้งุ่นง่านที่สุด คือทั้งหมดนั้นยังอุตส่าห์พูดออกมาได้ด้วยเสียงโมโนโทน ทว่าพาคนฟังร้อนตัวถึงกับต้องยกมือขึ้นจับหน้าตัวเอง

เขาหน้าแดงจริงหรือ ระหว่างที่กำลังลนลานอยู่ในใจ ก็ได้ยินเสียงหลุดหัวเราะ "หึ" ออกมาหนึ่งพยางค์จากตัวต้นเรื่อง

“ล้อเล่นน่ะครับ”

ถึงกับอ้าปากหวอ

“ไม่ต้องห่วง ไม่ได้หน้าแดงอยู่หรอกครับ”

คราวนี้ธัญญ์ยิ้มออกมาน้อย ๆ

เป็นคนประหยัดสีหน้า แต่เลือกเอามาใช้ได้ถูกที่ถูกเวลาเสียจริง

ทั้งที่ไม่เห็นต้องเปลืองแรงขยับกล้ามเนื้อใบหน้ามากนัก แต่กลับดูดีจนละสายตาลำบาก อดคิดไม่ได้ว่าขี้โกงชะมัด เป็นชายหนุ่มที่ดูดีขนาดนี้ แล้วยังติดจะเจ้าเล่ห์อยู่นิดหน่อย สามารถใช้ข้อดีเรื่องรูปลักษณ์ของตัวเองได้อย่างคุ้มค่า

“....แต่ตอนนี้แดงจริงแล้ว...” ธัญญ์ทัก เลิกคิ้วนิดหน่อยอย่างน่ามอง

“..หะ...หา!?”

“เวลาคุณประหม่าแล้วน่ารักจัง”

คราวนี้เชื่อได้เลยว่าต้องแดงอย่างธัญญ์อ้างแน่ เพราะร้อนวาบไปทั้งหน้าเลยทีเดียว ขณะที่อีกฝ่ายก็เอาแต่มองมายิ้ม ๆ

นิสัยอย่างนี้มันชวนหมั่นไส้จนน่าจับผลักลงกับเตียงแล้วฟัดจนกว่าจะแสดงอารมณ์หลากหลายขึ้นหน่อยออกมาให้เห็นบ้างเสียจริง ภูเมศตั้งเป้าไว้ว่าในอนาคตจะค่อย ๆ ทยอยล้วงสีหน้าแต่ละแบบของอีกฝ่ายออกมาให้ได้มากที่สุด

แต่ ณ ปัจจุบัน เขาอยากแก้ต่างให้ตัวเองก่อน ทว่ากลับยังนึกคำพูดไม่ออก

จังหวะนั้นเองที่มีเสียงใสแจ๋วดังมาเข้าหูเหมือนช่วยชีวิตได้ทันท่วงที ก่อนจะขายหน้าให้เด็กอายุอ่อนกว่าเป็นสิบปีไปมากกว่านี้

“พี่ธัญญ์! คุณพ่อครับ!”

มีที่น่าหนักใจอยู่นิดหน่อย คือไอ้ลูกชายซึ่งกำลังวิ่งดุ๊ก ๆ เข้ามาหา ดันเรียกพี่ธัญญ์ก่อนพ่อตัวเองนี่ละ

“สวัสดีครับ!”

ไอ้หนูของเขากระพุ่มมือไหว้เร็ว ๆ พอเป็นพิธี จากนั้นหันขวับกลับไปเจื้อยแจ้วกับคุณพี่เลี้ยง มีเด็กชายอีกคนในชุดนักเรียนประถมเดินเตร่ตามมาข้างหลัง

“มารับด้วยเหรอ” ว่าพลางกระโจนใส่อีกฝ่าย จนพ่อบังเกิดเกล้าได้แต่นั่งมองตาปริบ ๆ “กำลังคิดถึงเลย วันนี้คุณครูพูดถึงเรื่องเดียวกับที่พี่ธัญญ์เคยเอาให้อ่านด้วยแหละ สารานุกรมนั่น...”

“แฮ่ม!”

ภูเมศกระแอมเบา ๆ อย่างเรียกร้องความสนใจ

“แล้วผมตอบได้ด้วย คุณครูชมใหญ่เลย ฮ่า ๆ ๆ”

...แต่เรียกร้องไม่สำเร็จ

“อะแฮ่ม!”

เป็นธัญญ์ที่ช้อนสายตามองก่อนลูกชายเขาจะหันมาแลเสียอีก นัยน์ตาเจ้าตัวหรี่ลงคล้ายจะยิ้มแต่กลั้นไว้ ก้มลงไปทำท่ากระซิบกระซาบกับพร้อมภูมิ แต่จงใจให้ได้ยินมาถึงเขา

“ภูมิ คุณพ่องอนแล้ว”

“เห?”

“ไปโอ๋คุณพ่อหน่อยเร็ว ปล่อยงอนยาวกว่านี้ เขาจะกลายร่างเป็นตาแก่เอาได้นะ”

“คุณพ่องอนอะไรหรือครับ?” ไอ้ตัวเล็กถามเสียงใส ทำหน้าฉงนไปด้วย

“เปล่านี่ลูก”

“เขาปากแข็งน่ะ” ธัญญ์กระซิบข้าง ๆ

“คุณพ่อปากแข็งหรือครับ”

“เปล่า”

“เห็นไหม” คุณพี่เลี้ยงยังคอยบอกบท “เขากำลังจะกลายร่างเป็นตาแก่หัวดื้อ”

พร้อมภูมิหัวเราะคิก

“คุณพ่ออย่าดื้อเลยครับ”

“ไปกอดเขาเร็ว” ว่าพลางรับกระเป๋ามาจากพร้อมภูมิแล้วจับเด็กน้อยหันหลัง ดันเบา ๆ ให้ขยับเข้าหาพ่อ ขณะที่ตัวเองเงยขึ้นมองใบหน้าภูเมศข้ามไหล่ลูกชายเจ้าตัว

เด็กน้อยทำตามอย่างว่าง่าย เดินกางแขนโผเข้าไปกอดพ่อแรง ๆ มีธัญญ์ก้มลงคอยเป็นพรายกระซิบอยู่ด้านหลัง

“บอกด้วยว่าคิดถึง”

เด็กชายหัวเราะชอบใจ ว่าตามเห็นเป็นเรื่องสนุก

“คิดถึงครับ”

ธัญญ์คลี่ยิ้มอ่อนโยน เงยขึ้นสบตากับภูเมศจากด้านหลังพร้อมภูมิ กระซิบต่อเสียงเบา ทว่าชัดถ้อยชัดคำ ขณะที่ยังจับจ้องเขาตาไม่กะพริบ

“...ว่ารักครับ”

ภูเมศถึงกับอ้าปากค้าง

นั่นพูดกับใครกัน?

เรื่องนั้นไม่อาจรู้ได้ รู้แต่หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาวูบหนึ่ง ทั้งหัวใจก็เต้นโครมคราม กว่าจะสงบลงได้ต้องใช้เวลาอีกครู่ใหญ่ ขณะที่พร้อมภูมิดูจะงง ๆ แต่สุดท้ายก็เอ่ยตาม...แบบขยายความขึ้นอีกหน่อย...

“รักคุณพ่อนะครับ”

เขาสูดลมหายใจเฮือก พยายามสงบสติอารมณ์สุดตัว ยื่นมือไปยีผมลูกจนเด็กชายยืนโงนเงน จังหวะที่ไอ้ตัวเล็กมัวหัวเราะคิกคัก ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา เขาเองซึ่งยังสบตากับธัญญ์ก็เอ่ยเบา ๆ ในความกำกวมลักษณะเดียวกับอีกฝ่าย

“รู้แล้ว...รักเหมือนกัน”

ดวงตาสีดำขลับเบิกกว้างขึ้นนิดหน่อย จากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม เพียงแต่คราวนี้เจ้าตัวหลุบตาลงต่ำ กวักมือเรียกหาพร้อมภูมิไปลูบหัวลูบหลัง จากนั้นพาเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย

“มีของไว้รอที่บ้านด้วยละ”

เด็กน้อยตาเป็นประกายวาววับ แปรพักตร์จากคุณพ่อเสียดื้อ ๆ เห็นได้ชัดว่าข่าวใดจากพี่ธัญญ์ มักทำให้เจ้าตัวตื่นเต้นดีใจได้เสมอ “อะไรเหรอ”

“เดี๋ยวกลับไปก็จะเห็น”

“หุ่นใหม่ใช่ไหม!” พร้อมภูมิแทบกระโดด “ที่เราคุยกันวันโน้น”

“ไม่รู้สิ” เขาตอบส่ง ๆ “ต้องรู้จักรอให้เป็นนะรู้ไหม”

ถึงคำตอบไม่มีอะไรบอกใบ้สักนิดอย่างนั้น แต่เด็กชายคิดเองเออเองไปแล้วเรียบร้อย กระโดดเกาะคอพี่เลี้ยงคนโปรดหนึบ ห้อยโหนไปมาเป็นลูกลิง ท่าทางตื่นเต้นตั้งแต่ยังไม่ทันเห็นของ ปากก็ร้องว่า “รักพี่ธัญญ์จังเลย!” แบบไม่ต้องมีใครคอยบอกบท

ภูเมศลอบพ่นลมออกปากเฮือกพร้อมรอยยิ้มอ่อนใจ เป็นเด็กเวลาจะบอกรักใครมันง่ายดายอะไรปานนี้นะ

เขากำลังจะชวนทุกคนขึ้นรถออกจากเขตโรงเรียนแล้ว หากไม่ติดว่ามีเสียงเจื้อยแจ้วอีกเสียงดังขึ้นมาก่อน

“ภูมิ”

พร้อมภูมิชะงัก ปล่อยมือจากธัญญ์ หันกลับไปมองต้นเสียง เรียกให้สายตาผู้ใหญ่อีกสองคนเหลียวมองตาม

เจ้าของเสียงเป็นเด็กในชุดนักเรียนประถม คนเดียวกับที่เดินตามพร้อมภูมิมาแต่แรกนั่นเอง ตัวสูงใหญ่กว่าลูกชายเขาเล็กน้อย สะพายกระเป๋าเป้ไว้ข้างหลัง หน้าตาสดใสตามวัย แต่สายตาดูจริงจังเอาเรื่องอยู่นิดหน่อย ท่าทางคงเป็นอีกหนึ่งคนที่คุณครูต้องปวดหัวคอยจับปูใส่กระด้ง ถ้าเขาจำไม่ผิด น่าจะเป็นเพื่อนหรือรุ่นพี่ลูกชายคนหนึ่งที่ชื่อสตางค์ ตอนนี้กำลังจ้องมาทางพวกเขาทั้งสามเขม็ง

“สวัสดีครับ” เหมือนว่าเพิ่มสบโอกาสเหมาะให้เจ้าตัวยกมือไหว้ แต่ดูท่าทางจงใจทักทายเขาคนเดียว โดยไม่ทักธัญญ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วย เสร็จแล้วหันไปหาพร้อมภูมิอีกครั้ง

“เหมือนไม่ได้เห็นคุณพ่อนายมารับนานแล้วนะ”

“ฮื่อ”

“แล้วนั่นใครอะ” ว่าพลางพยักพเยิดไปทางธัญญ์ “ไม่เคยเห็นเลย”

“พี่ธัญญ์”

“พี่ชายนายหรือ”

“ไม่ใช่ พี่ธัญญ์ที่เคยพูดถึงไง”

“อ๋อ พี่เลี้ยงคนนั้น”

“ใช่ ๆ” พร้อมภูมิพยักหน้ารับรับหงึกหงักพร้อมรอยยิ้มร่า “จริงสิ พี่ตังเคยเห็นแต่คุณพ่อ ยังไม่เคยเจอพี่ธัญญ์นี่นา”

ภูเมศระลึกได้อยู่ในใจ เมื่อเห็นลูกชายเรียกอีกฝ่ายว่า ‘พี่ตัง’ นับว่าความจำเขายังไม่แย่เท่าไรนัก

“แล้วทำไมเขาต้องทำตัวเหมือนเป็นแม่นายเลย”

คนเป็นพ่อกลบเกลื่อนอาการสำลักด้วยการกระแอมค่อกแค่ก ส่วนลูกชายยืนทำหน้าเหวอ

“แม่เหรอ” พร้อมภูมิทวนคำ

“ใช่สิ” กล่าวรับพลางจ้องหน้าธัญญ์ตาไม่กะพริบ ถ้าเดินเข้ามาสำรวจจับหมุนตัวซ้ายขวาพร้อมดมกลิ่นฟุดฟิดไปด้วยได้คงทำไปแล้ว

คนถูกจ้องเพียงแต่ยักไหล่น้อย ๆ อย่างไม่ยี่หระ ดวงหน้าหล่อเหลาไร้อารมณ์ ทั้งท่าทางยังวางเฉยสนิทชนิดห่างไกลความอ่อนโยนของคนเป็นแม่ไปมากนัก หากจะยืนยันเจตนารมณ์ออกมาว่าเกลียดเด็กตอนนี้ ก็นับว่าน่าเชื่อถือใช้ได้

“แม่นายทิ้งไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมผู้ชายคนนี้มาทำตัวเป็นแม่ล่ะ—”

“อย่าพูดแบบนั้นนะ!” คราวนี้พร้อมภูมิโพล่งเสียงดังขึ้นมากลางปล้อง ที่ยิ้มแย้มอยู่เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นหน้ามุ่ยขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณแม่ไม่ได้ทิ้งผมสักหน่อย แล้วพี่ธัญญ์ก็เป็นพี่ธัญญ์ จะมาเป็นแม่ได้ยังไง!”

ทั้งสามคนที่เหลือรับฟังอย่างเงียบ ๆ

ฝ่ายเด็กนั้นได้รับคำตอบในสิ่งที่ถาม แต่ผู้ใหญ่อีกสองคนที่เหลือต่างชะงักไป จากนั้นจมอยู่กับความคิดตัวเองไปครู่ใหญ่

หลังจากได้รับคำตอบในสิ่งที่ยังไม่ได้ถาม..








To be continued...






สวัสดีปีใหม่ค่ะ เอื้อะ!
*ไหว้ย่อ แล้วนอนแผ่ให้เหยียบ*

ก่อนอื่นขออนุญาตอวยพรปีใหม่ (เปลี่ยนเลขปีบนหัวกระทู้แล้วสะเทือนใจเบา ๆ) ขอให้เป็นปีที่สว่างไสว ค้นพบสิ่งดี ๆ จากทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิต แข็งแรงกายใจ มีสติและสตรองทั้งปีค่ะ อาราธนาคุณพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกอวยชัยในปีนี้นะคะ
 :3123: :L2: :กอด1:

อย่างที่สอง กราบขอขมาที่หายไปนานมากกกค่ะ โฮรรร นานจนกลัวใจว่าจะโดนย้ายไปห้องแต่งนิยายไม่จบ จนคนอ่านจะลืมกันหมด (ทุกคนบอกลืมหมดแล้วเฟร่ย!) TwT ไม่รู้จะแก้ตัวเช่นไร คือสองเดือนที่ผ่านมามันเยินมากจริง ๆ ค่ะ ประดังประเดด้วยจิตตกและเหนื่อยจากงาน/เรียนอีกเป็นระยะ อาจเห็นว่ายังมาโผล่มาติ่งในทวิตเตอร์บ่อย ๆ แต่เป็นแบบอู้ทวีตซะมาก ไม่สามารถจัดเวลายาว ๆ มาเขียนนิยายได้เลยค่ะ //น้ำตา...พูดไปก็เหมือนแก้ตัว กระซิก *นอนแผ่ให้เหยียบอีกรอบ*

มีช่วงหนึ่งที่ถึงกับคิดว่าหรือจะดรอปไปก่อนดี เรียนจบแล้วค่อยมาต่อใหม่ แต่ไม่อยากเสียเครดิตตัวเองค่ะ << ยังมีอยู่อีกเหรอ
แต่หลังจากเดือนนี้่น่าจะพอจัดเวลาได้ดีขึ้นบ้างอีกสักระยะ ตอนหน้าจะเข็นมาชดเชยให้โดยเร็วที่สุดค่ะ ฮึบ ๆ

อย่างที่สาม เกี่ยวกับตอนนี้ 
แอบเครียดเนอะ แต่ก็ไม่เครียดมากมั้ง เด็กน้อยเขาก็ใส ๆ ไม่รู้เรื่อง คงจะต้องใช้เวลา(รึเปล่า) ดังนั้นตอนต่อไปจะพยายามรีบมาค่ะ ช่วยรอกันอีกนิดนะคะ  ระหว่างนี้ถ้าลืม ๆ เนื้อเรื่องไปแล้ว อ่านย้อนอีกรอบกันค่ะ 5555
ว่าแต่คุณภูเมศนี่...ไทป์กินพืชเนอะคะ ฮาาา << หัวเราะนี่ชอบนะคะเนี่ย ชอบเสะกินพืช ที่จริงก็ชอบหลายแบบ สรุปชอบผู้ชาย(?) O<-<

รูปช่วงนี้ไม่ค่อยได้วาด เวลาไม่ค่อยอำนวย ดังนั้นขอเอาเป็นนิยายเปล่า ๆ ไปก่อนนะคะ ฮึบ

พูดยาวเลย คิดถึงค่ะ ไม่มีอะไร อยากจะรวบกอดให้หมด ฮาา
ขอบคุณทุกท่านที่ยังเข้ามาอ่านนะคะ รัก TwT ปีนี้ก็ขอฝากตัวฝากใจและฝากหนุ่ม ๆ ไว้เอ็นดูอีกปีค่ะ


ปล. อัพตอนพิเศษสั้น ๆ รับปีใหม่ของเรื่อง รักติดดิน ไว้ด้วยค่ะ เบา ๆ
หากยังจำไอ้ลูกเจี๊ยบกับแม่ไก่ได้ จิ้มไปอ่านเล่นได้นะคะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33427.msg3271985#msg3271985


พบกันงวดหน้าค่า ^o^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-03-2017 21:03:51 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ภูมิยังเด็กต้องใช้เวลา ค่อยๆพูดค่อยๆสอน   :เฮ้อ:

ออฟไลน์ มาโซซายตี้

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-2
พี่ธัญญ์ จะยังไงดีล่ะเนี่ย เบื้องหลังดูน่ากลัว อีตาแก่นั่นดูร้ายมาก

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เดี๋ยวกลับไปอ่านตอนเก่าก่อนนะ :hao3:

ออฟไลน์ ผู้หญิงเอาแต่จัย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หือออออออ น้ำตาจะไหล ในที่สุดพี่ก็มา

แอบสงสัยธเนศนะเนี่น ตกลงเป็นพ่อใช่มั้ยอะ ทำไมดูแสดงออกมากกว่าพ่อลูกจัง มาต่อเร็วๆนะคะ รออยู่เสมอค่ะ

ออฟไลน์ fida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ไอ้เด็กตังนี่ยังไง แก่แดดจริงเชียว  :m16:

น้องภูมิยังเด็กอยู่ค่ะลูก โตขึ้นเดี๋ยวหนูก็จะเข้าใจ

ส่วนธเนศ...เปิดเผยมานิดนึงแล้วว่ามีความสัมพันธ์กับธัญญ์ในแบบพ่อลูก

แต่แม้จะเปิดเผยมาแล้ว กลับกลายเป็นว่ามีปมใหม่เพิ่มมาอีก

คุณภูเมศกับธัญญ์ต้องสู้ต่อไปนะคะ หนทางข้างหน้างยังอีกยาวไกล :n1:

ออฟไลน์ GAZESL

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
ธเนศเป็นใครกันแน่เนี่ย ดูมีลับลมคมใน ร้ายกาจ :katai1:
ใกล้จะเป็นครอบครัวสุขสันต์แล้วนะ แต่ขอตบปากน้องตังทีนึงคะ555 :katai2-1:

มาต่อเร็วๆนะ คิดถึงงงง
 :กอด1:

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ธเนศคือใครกันแน่
เหมือนไม่ใช่พ่อของธัน แบบพ่อแท้ๆอ่ะ
น่าติดตาม
Happy new year 2016ค่ะ

ออฟไลน์ Kio

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
พ่อลูกกันยังไงคะเนี่ย ...
น้องภูมิแค่โกรธมั้งที่ว่าแม่ทิ้ง
แต่นอกจากธัญญ์แล้วก็ไม่มีใครเป็นแม่ให้ได้แล้วนะลูก เพราะป้าไม่ยอมค่ะ ฮื้ออ อ  :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
ปมธเนศนี่ ทำหงุดหงิดมาก ทำไมมาพร้อมกับความทะมึนทุกที
เหมือนมาปรากฎตัวพร้อมกับหมู่เมฆสีดำ
หวังว่าธัญญ์จะจัดการกับธเนศได้
คงไม่มาเป็นอุปสรรคตอนเค้าจะลงเอยกันนะ

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เปิดตอนมาเหมือนคลายปมไปได้ว่าธเนศนั้นคือใคร

กลางตอนนั้นครอบครัวสุขสันต์ มีบอกรักกันด้วย

ท้ายตอนทำเอาเงิบกันเลย

น้องภูมิยังเด็กให้เวลาน้องหน่อยนะ พ่อภูกับธัญญ์ใจเย็นๆนะ :กอด1:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อ่านแล้วมันอุ่น ยิ้มอ่อน ขวยเขิน

พร้อมกับกดดันและหน่วงในอก

ยินดีต้อนรับกลับมานะ

สวัสดีปีใหม่ด้วย ขอให้ชีวิตราบลื่น มีความสุขทุก ๆ วัน
*กอดแน่น ๆ*

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
นตบหัวอิเด็กพี่ตังนี่ให้ฟ่ำ
พูดอะไรไม่มีกาลเทศะ

ออฟไลน์ jimun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น้องธัญญ์กะตาธเนศเป็นพ่อลูกกันหรอ เงแต่พฤติกรรมมันตะแหม่งๆ =_=
อุตส่าห์หวานๆกรุ้มกริ่มมาทั้งตอน มาสะดุดอีตอนเจอเด็กสตางค์นี่แหละ ถามไรไม่ดูเวล่ำเวลา เดี๋ยดีดเลออออ

ว่าแต่น้องธัญญ์คะ จัดการธุรส่วนตัวนี่ ทำไรหรออออ พี่อยากรู้ววว 55555

สวัสดีปีใหม่ด้วยนะจ้ะ คิดถึงๆๆ

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ระแวงคุณตุณธเนศใช้วิธีขี้โกงแยกธัญญ์ออกไป

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
เป็นพ่อจริงๆด้วย!!
แต่่คุณธเนศคงไม่ใช้วิธีกดดันธัญญ์หรอกใช่มั้ย TwT

ออฟไลน์ sujusaranghae

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มาอัพแล้วดีใจจังค่ะ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
สวัสดีปีใหม่ค่าาาาาา

ลืมตอนก่อนหน้า ต้องไปอ่านใหม่อีกรอบ ไม่งั้นต่อไม่ติด 555
ลุงภูกะน้องธัญญ์ก็ดูมีพัฒนาการนะคะ ทำคนอ่านอมยิัมได้บ่อยๆ
แต่สงสัยว่าอีตาธเนศเนี่ย มาจากโลกมืดเหรอ ชื่อนี้โผล่มาทีไร อึมครึมทุกที ชิ

ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
หน่วงตอนรับปีใหม่เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด